Black Shark ได้เปิดตัวเกมมิ่งสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ทั้ง Black Shark 3 และ 3 Pro ที่ประเทศจีนอย่างที่เคยโดยรุ่นธรรมดาจะมีหน้าจอขนาด 6.67 นิ้วความละเอียด FHD+ จะมีรีเฟรชเรท 90Hz และความถี่การตอบสนองหน้าจอ 270Hz ซึ่งถือว่ามากที่สุดในโลก ณ ปัจจุบัน โดยมันจะมีดีเลย์การตอบสนองเพียง 0.028 วินาทีเท่านั้น อีกทั้งยังรองรับการตอบสนองน้ำหนักการกดหน้าจออีกด้วย ใช้เป็นชิปเซต Snapdragon 865 ที่มาพร้อม Ram LPDDR5 12GB แต่ตัว RAM 8 จะเป็น LPDDR4 นะครับ และมีระบบระบายความร้อนแบบ liquid cooling ประกบแหล่งที่ผลิตความร้อนเป็นลักษณะคล้ายกับแซนด์วิช ทำให้อัตราการกระจายความร้อนถึง 2 เท่าและระบายความร้อนเพิ่มขึ้น 50% เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนด้วย ถือว่าเป็นรุ่นที่เปิดตัวมาสำหรับสายเกมจัดๆและรองรับการใช้งานที่ดีขึ้นพร้อม Hi-res Audio ด้วยครับผม เราเลยมาลองพรีวิวกันก่อนว่าจะใช้งานเป็นยังไงกันบ้างสำหรับ Blackshark 3 ตระกูลนี้เราไม่เคยพลาดแน่นอนครับ

นอกจากนี้มันยังมีเทคโนโลยี BlackShark GameEngine และ SolarCore ที่ช่วยเร่งความเร็วในการโหลดของเกม อีกทั้งยังทำให้มันทำงานได้ลื่นไหลขึ้นโดยใช้พลังงานที่น้อยที่สุดด้วย กล้องหลังของมันจะมีด้วยกัน 3 ตัวประกอบด้วยเลนส์ 64MP + เลนส์กว้าง 120° 13MP + เลนส์ตรวจจับความลึก 5MP และกล้องหน้ามีความละเอียด 20MP นอกจากนั้นมันตัวกล้องยังรองรับการถ่ายภาพไฟล์ RAW Super Night mode ได้ แบตเตอรี่ของ Black Shark 3 จะมีความจุ 4,720mAh ที่ชาร์จเร็ว 65W ที่สามารถชาร์จแบต 50% ได้ในเวลา 15นาทีและใช้เวลา 38 นาทีในการชาร์จแบต 100% นอกจากนี้มันยังรองรับการชาร์จโดยใช้แท่นแม่เหล็กที่ความเร็ว 18W 
Xiaomi Blackshark 3
ในไทยยังไม่ได้เข้ามาแบบเป็นทางการครับ เราจึงต้องพึ่งเครื่องหิ้วกันไปก่อน โดยทางร้าน TREE MOBILE นั้นเองที่เราชอบไปกันประจำ -Ram8, 128GB เป็นสีดำแบบในภาพ ราคา 17,900 บาท
TREE MOBILE MBK  ชี้เป้า เป็นร้านประจำของทีมงานเองไปซื้อเครื่องหิ้วครับ แอดแนะนำเลย ไว้ใจได้ ชี้เป้าให้เเล้วนะ เห็นถามกันมาหลายคน เพราะทางเราไม่มีขายนะ อันนี้ก็ให้เค้ามาส่งได้เลยครับไม่ต้องไปร้านนะครับในช่วงนี้ที่อาจจะเสี่ยงๆ มีบริการส่งก็สบายใจได้เลย ตอนที่รีวิวราคายังเป็น 17,000 บาทนะครับ

UNBOX

สำหรับตัวกล่องนั้นยังคงเป็นการออกแบบธีมสีดำแบบเดิมพร้อมขนาดกล่องที่ไม่ได้ต่างจากรุ่น 2 มากนักครับแน่นอนว่าอุปกรณ์ที่ให้มาก็ยังคงให้มาเพียงพอต่อการใช้งานแต่พวกมือถือXiaomi อะไรแนวๆนี้จะไม่ค่อยมีหูฟังให้เท่าไรนักกครับ ส่วนตัวเคส ฟิล์มอะไรมีติดเครื่องมาให้เรียบร้อยกันเลยแหละ พร้อมที่ชาร์จให้มา 30W แต่รับได้ 65W นะตัวเครื่องแต่ต้องไปหาซื้อกันครับ แต่รอบนี้ไม่เห็นมีให้ สติกเกอร์อะไรแถมมาให้แล้วนะครับ และ รู 3.5 กลับมาแล้ว

  • มือถือ BLACKSHARK 3
  • เคสใส TPU สีเทาดำ
  • สาย USB-C ไป USB-A
  • ที่ชาร์จ Adaptor 30W
  • คู่มือ ที่จิ้มซิม

เคสนั้นจะเป็นเคสที่ทำให้เรารู้สึกเหมือนมือถือทั่วไปมากขึ้นสำหรับใช้งานในชีวิตประจำวันได้สบายครับแต่ฝาหลังนั้นจะมีการเปิดช่องไว้เยอะมาก แต่ก็ไม่ใช่เคสแบบพลาสติกแข็งแบบรุ่นแรกๆครับ ไม่แน่ใจว่าเปิดข้างหลังเพื่อนที่จะเสียบจอยควบคุมอะไรไหมกับพอร์ตข้างล่างครับ แน่นอนว่าส่วนการปกป้องนั้นค่อนข้างทำได้ดีมากทั้งหน้าและหลัง มีการเว้นส่วนลำโพงไว้บ้างนิดหน่อย ตรงบนขอบบนและขอบล่าง และมีความสูงขึ้นปกป้องได้ดีและหนามากๆ ถือว่าทำได้ดี

จะเห็นความหนาของตัวเคสและการออกแบบของมันครับ ปกป้องด้านหลังได้ดีมากๆ ด้านหลังนั้นจะเว้าในส่วนของกล้องลงไปทั้งหมดและเปิดพื้นที่เยอะมากอาจจะเพื่อการรองรับอุปกรณ์เสริมก็เป็นได้ หรือช่วยระบายความร้อนได้ดีส่วนด้านหน้าก็มีการเสริมมุมเครื่องให้มีความหนาขึ้นเวลาตกกระแทก และมีนูนปกป้องหน้าจอนิดหน่อยด้วยเช่นกัน

DESIGN

งานออกแบบในรุ่นนี้ต้องบอกว่ามันอิงจากรุ่นก่อนๆมาและพัฒนาขึ้นเยอะพอสมควรเลยครับแน่นอนว่ามันลงตัวขึ้นเยอะและชอบการวางกล้อง และดีไซน์มันดูดีและไม่เหมือนใครจริงๆมีเอกลักษณ์ของตัวเองและการใช้วัสดุดำเงาผสมกับพลสติกยังเป็นดีไซน์แนวทางที่คุ้นเคยดีแต่ไม่ชัวร์ว่าอุปกรณ์เสริมจะใช้งานได้ไหมกับรุ่นก่อนแต่ก็ไม่น่าได้ครับเท่าที่ลองๆดู ส่วนงานประกอบอะไรดูดีเนียนขึ้นและขอบต่างๆสวยสีโอเคขึ้นครับ และในด้านหน้ายังคงมีลำโพงคู่ จอไม่มีติ่งและมีพื้นที่วางนิ้วอยู่บ้างชอบที่ยังวางลำโพงไว้ด้านหน้าครับ และน้ำหนักขนาดกำลังดีไม่หนาหนักเกินไปด้วย

ทางด้านหน้าจอ มาในขนาด 6.67 นิ้วไม่มีติ่งหน้าจอ และ ยังมีขอบเครื่องอยู่ทั้งบนและล่าง  (2400 × 1080 นิ้ว) Full HD+ อัตราส่วน 20:9 ที่มีรีเฟรชเรท 90Hz ทัช 270Hz , 394PPI, HDR 10+, 105% DCI – P3 color gamut, ความสว่าง 500 nits, เทคโนโลยี MEMC ที่เพิ่มความลื่นไหลให้หน้าจอด้วยเช่นกันครับ

ขอบด้านล่างอันนี้น่าตกใจคือทำได้บางมากแม้จะมีลำโพงอยู่ในส่วนของด้านหน้าอะครับอันนี้คือน่าสนใจมากๆเลยยังมีลำโพงและขอบบางครับถือว่าเป็นจุดที่ดีเพราะหลายๆคนยังคงชอบลำโพงแบบนี้ และปุ่มควบคุมมีให้เหมือนเดิม หรือใช้งานเต็มหน้าจอได้ครับ ตัวกระจกหน้าจอเรียบๆไม่โค้งนะครับ

ขอบด้านบนแอบหนากว่านิดหน่อยเพราะต้องมีกล้องหน้า ลำโพง และเซนเซอร์ต่างๆเลยทำให้มีขนาดนิดหน่อยครับ และยังคงขอบไว้ให้สายเกมไว้ใช้งานมันถนัดกว่าแบบไร้ขอบเยอะเลยนะ และจะเห็นว่าลำโพงช่องข้างบนเล็กกว่านิดๆ

ด้านขวานั้นจะเป็นที่อยู่ของ ไมค์ ปุ่ม Power และ ปุ่มเลื่อนสำหรับเข้า Shark Space ครับในส่วนล่างเครื่องหรือมุมซ้ายของภาพ และจะเห็นขอบเครื่องเป็นโลหะทั้งหมดและและเส้นเสาสัญญาณทั้ง 2 จุดครับผม ตัดขอบสวยงามเลย

ในด้านซ้าย จะเป็นปุ่มเพิ่ม ลดเสียงครับพร้อมกับถาดซิม 2 ซิมรองรับใช้งานได้ Nanosim และ มีซีลยางกันน้ำด้วยส่วนปุ่มอื่นๆไม่มีครับในด้านนี้ แต่ถ้าตัว Pro จะมีปุ่ม L R สำหรับการเล่นเกมมาให้ด้วยครับ

ในส่วนของขอบเครื่องด้านล่างนั้นจะเป็น USB-C พร้อมกับรูไมค์ รวมถึงช่องลำโพงเป็นแนวยาวตามขอบเครื่องครับ

ทางด้านบนมันมีรู 3.5 มม. กลับมาแล้วครับพร้อมใช้งานและและตัวรับสัญญาณอีก 2 จุดด้านบนคือจัดเต็มมาก ส่วนรูไมค์ตัดเสียงอะไรนั้น จะไปอยู่ข้างๆแทนนะครับ และตรงกล้องหลัง ถือว่าให้ไมค์มาเยอะพอสมควรเลยแหละ

ฝาหลังนั้นถือว่าสวยนะเพราะมีการออกแบบของตัวเองไม่เหมือนใคร สมมาตรดีและกล้องหลังวางได้ลงตัวกว่ารุ่น 2 เยอะเลยครับ สีดำเลยทำให้มันดูดีเรียบๆสวยงามและลงตัว ยังคงมีไฟด้านหลัง RGB ปรับแต่งได้ 3 จุดหลักๆครับแต่ไม่มีไฟขอบเครื่องแล้วอันนี้น่าเสียดาย ส่วนตรงข้างล่างจะเป็นพอร์ตเชื่อมต่ออุปกรณ์เสริมและที่ชาร์จต่างๆเสริมฝาหลังโค้งลงเล็กน้อยทำให้จับถนัดมือและเป็นกระจกทั้งหมดแล้วจากที่รุ่นก่อนๆจะเป็นอลูมิเนียมเป็นหลักครับ

กล้องหลัง 3 ตัววางมุมทแยงกัน 3 ตำแหน่งพร้อมไมค์อัดเสียงและไฟแฟลช รวมถึงมีไฟ RGB ขีดๆเล็กแทรกเข้ามาให้เข้ากับสายเกมนิดหน่อย กล้องหลังนั้นมาพร้อมกับ  กล้องหลัง 64MP (f/1.8), แฟลช LED, เลนส์ Ultra wide 120° 13MP (f/2.25), เลนส์สำหรับถ่าย portrait 5MP (f/2.2) คุณภาพเท่าที่ลองนั้นใช้งานได้ดีเลยแหละ

SPEC

  • Black Shark 3 – หน้าจอขนาด 6.67 นิ้ว (2400 × 1080 นิ้ว) Full HD+ อัตราส่วน 20:9 ที่มีรีเฟรชเรท 90Hz, 394PPI, HDR 10+, 105% DCI – P3 color gamut, ความสว่าง 500 nits, เทคโนโลยี MEMC ที่เพิ่มความลื่นไหลให้หน้าจอ
  • ชิปเซต Snapdragon 865 7nm ที่ใช้การ์ดจอ Adreno 650
  • RAM LPDDR5 8GB  พร้อม storage (UFS 3.0) 128GB / 256GB
  • Android 10
  • ซิมคู่ (nano + nano)
  • กล้องหลัง 64MP (f/1.8), แฟลช LED, เลนส์ Ultrawide 120° 13MP (f/2.25), เลนส์สำหรับถ่าย portrait 5MP (f/2.2)
  • กล้องหน้า 20MP (f/2.2)
  • เซนเซอร์สแกนนิ้วใต้หน้าจอ
  • รูแจ็ค 3.5mm, ลำโพงคู่ 1217 super linear speakers
  • ขนาดตัวเครื่อง Black Shark 3 : 168.72×77.33x 10.42mm; น้ำหนัก: 222g
  • 5G SA / NSA, Dual 4G VoLTE, WiFi 802.11ax (2×2 MU-MIMO ), Bluetooth 5, GPS/GLONASS/Beidou, USB Type-C
  • Black Shark 3 – แบตเตอรี่ 4,720mAh ที่ชาร์จเร็ว 65W

SCREEN 90HZ

หน้าจอนั้นเป็นการปรับแต่งที่ดีที่สุดของการสัมผัสใช้งานหน้าจอแล้วคือมาพร้อมกับ หน้าจอขนาด 6.67 นิ้ว (2400 × 1080 นิ้ว) Full HD+ อัตราส่วน 20:9 ที่มีรีเฟรชเรท 90Hz, 394PPI, HDR 10+, 105% DCI – P3 color gamut, ความสว่าง 500 nits, เทคโนโลยี MEMC ที่เพิ่มความลื่นไหลให้หน้าจอ แน่นอนว่าการสัมผัสหน้าจอ ความถี่การตอบสนองหน้าจอ 270Hz ซึ่งต้องบอกว่าเป็นความถี่การตอบสนองที่ลื่นไหลและไวติดนิ้วมากที่สุดตอนนี้ครับ แน่นอนว่าจากที่ได้ลองสัมผัสมันทำได้ดีจริงๆนะเมื่อใช้งานเลื่อนไปมายังรู้สึกเลยว่ามันติดนิ้วอย่างมากครับอันนี้ชอบมากและทำได้ดีสู้ iOS ได้เลยแหละแต่ทั้งนี้ต้องขึ้นกับระบบและเกมในแต่ละเกมอีกทีว่าจะให้ความรู้สึกเท่าไหม ส่วนทางด้านคุณภาพหน้าจอความสวยงามคมชัดทำได้ดีครับในรุ่นนี้จะเป็นแค่ FHD เลยอาจจะไม่ได้ว้าวมาก เพราะตัว Pro นั้นจะได้จอ QHD 10BIT ซึ่งน่าจะว้าวเลยแหละสำหรับตัวนั้น แต่ทาง Blackshark 3 ก็ไม่เลวครับจอสวยสู้แสงได้ดี และมีความลื่นไหลในการใช้งานไม่แพ้กัน และมิติของตัวภาพสวยงามและโทนสีอะไรโอเคมากๆ

ANTUTU

การทดสอบนั้นจากที่ทดสอบกันมา Snapdragon 865 รุ่นใหม่ล่าสุดที่รองรับ 5G และพัฒนาในด้านของ GPU ด้วยเช่นกัน มาพร้อม Ram LPDDR4 8GB และมีระบบระบายความร้อนแบบ liquid cooling ถือว่าจัดหนักจัดเต็มมากๆ โดยทดสอบทำคะแนนไปได้ที่ 558478 คะแนนถือว่าเร็วแรงเอาเรื่องเลยครับและความร้อนจัดการได้ดีพอสมควรเลยหลังจากการทดสอบนั้นสูงสุดแค่ 35 องศาเท่านั้นและ ใช้งานเล่นเกมอะไรรู้เลยว่ามันติดนิ้วและไวมากๆ

ANDROBENCH 

แน่นอนว่ารุ่นที่แล้วใช้งาน UFS 3.0 ในรุ่นนี้ก็ได้นำมาใช้และยังอยู่ในเรทราคาที่จับต้องได้ง่ายเลยแหละ ในด้านการใช้ UFS 3.0 ทำให้การเข้าแอป การลงแอป รวมถึงการดูรูปต่างๆนั้นไวมากๆและเปิดปิดดูอะไรต่างๆทำได้ไวกว่าเดิม ทำความเร็วในการอ่านทะลุ 1,600 MB/s ถ้าเอาเข้าใจง่ายๆคือเหมือนคอมพิวเตอร์ที่ใช้ HDD VS SSD นั้นเองครับและตัว UFS 3.0 นั้นจะเหมือน SSD นั้นเองถ้าเทียบให้เข้าใจง่ายๆ ส่วนหน่วยความจำแบบนี้ก็เจอกันในเรือธง เช่น Oneplus 7T Pro และ รวมถึงพวก S20 พวกนี้ก็หันมาใช้งานกันแล้วถือว่าเป็นมาตรฐานของเรือธงกันแล้ว

LIGHTING 

ตัวไฟที่หลังเครื่องนั้นในครั้งนี้เหมือนจะไม่ได้มีไฟตรงขอบข้างเครื่องแบบรุ่น 2 Pro แล้ว แอบเสียดายเหมือนกันครับไฟเลยมีแค่ตรงโลโก้ข้างหลังกับขีดๆบนล่างเท่านั้น แต่ทางด้านของ Effect ไฟนั้นต้องบอกว่าปรับได้เยอะเช่นเดิมและเหมือนจะใช้งานง่ายและสวยกว่าเดิมด้วยนะครับ มีทั้งแบบ Random Flash Breathe Steady ด้วยและมีปรับทิศทางของไฟ สี ไล่โทนสีบนล่าง ความเร็วได้ รวมถึง เปิดตามเพลง โทรเข้าออกอะไรยังปรับได้เยอะมาก และติดได้ตลอดเวลา ทั้งหน้าจอเปิด หรือ ปิด ปรับแต่งการใช้งานได้ทั้งหมดเลยถือว่าเป็นค่ายที่ปรับได้อิสระที่สุดเลยครับ

CAMERA

กล้องหลังนั้นก็ใส้เข้ามา 3 ตัวครับจัดเต็มขึ้นมาพร้อมกล้องมุมกว้างแล้วในครั้งนี้ มุมกว้างสูงสุด 120 องศา กล้องหลังของมันจะมีด้วยกัน 3 ตัวประกอบด้วยเลนส์ 64MP + เลนส์กว้าง 120° 13MP + เลนส์ตรวจจับความลึก 5MP และกล้องหน้ามีความละเอียด 20MP นอกจากนั้นมันตัวกล้องยังรองรับการถ่ายภาพไฟล์ RAW Super Night mode และยังมีโหมดละลายหลัง Portrait อะไรมาให้เช่นเดิมและมีโหมดกลางคืนรู้สึกว่าทำได้ดีอยู่นะ กดถ่ายได้ไวสวยและโฟกัสไวพอสมควรเลยในกล้องหลังและกล้องหน้าในครั้งนี้  กล้องหน้า 20MP (f/2.2) รูรับแสงกลางคืนอาจจะแคบนิดหน่อยครับ แต่กลางวันก็คมชัดใช้ได้หน้าเนียนไม่หลอกเกินไปและมี Portrait เช่นเดิมเลย จากที่ลองกล้องทำได้น่าประทับใจขึ้นโทนสีและการ HDR ทำได้ดีพอสมควรครับแต่กล้องมุมกว้างกลางคืนอาจจะไม่เทพมากนักและไม่มีโหมดกลางคืนใช้งานในกล้องมุมกว้างครับผม และทางด้านการซูมทำได้แค่ 5X เท่านั้นด้วย

BLACKSHARK 3 

ตัวคุ้มสายเกมยังคงจัดเต็มทั้งเรื่องของสเปคการใช้งานและมาในราคาที่คุ้มค่ากว่าเดิมเยอะเลยแหละ กล้องหลังจัดเต็มขึ้น หน้าจอดีขึ้นเทพขึ้น การระบายความร้อน ความแรงดีขึ้นรวมถึงการใช้งานแบตต่างๆ และงานออกแบบมีความลงตัว สมมาตรมากว่าเดิมและดูแปลกตาแต่ลงตัวครับ แต่ตอนนี้ยังคงเป็นรอมจีนอยู่นะครับยังไม่มีรอง Global แต่รองรับภาษาไทยได้ ทั้งการอ่าน พิมพ์ต่างๆแต่จะไม่มี Menu ภาษาไทยครับ ส่วนในการใช้งานอื่นๆต้องรอใช้งานจริงจังรีวิวเต็มอีกทีนะ แต่ที่ขอชมตอนนี้ก่อนเลยคือเรื่องของหน้าจอ ที่ความรู้สึกดีมากๆและกล้องหลังที่ดีกว่าที่คิดไว้นะ และงานประกอบอะไรพวกนี้เนียนขึ้นพอสมควรครับ ส่วนการเล่นเกม การถ่ายวีดีโอ ภาพรวมอื่นๆรอติดตามเร็วๆนี้

TREE MOBILE MBK  ชี้เป้า  TREEMOBILE เป็นร้านประจำของทีมงานเองไปซื้อเครื่องหิ้วครับ แอดแนะนำเลย ไว้ใจได้ ชี้เป้าให้เเล้วนะ เห็นถามกันมาหลายคน เพราะทางเราไม่มีขายนะ อันนี้ก็ให้เค้าจัดส่งได้เลยครับไม่ต้องไปถึงร้านนะครับ ช่วงนี้ที่อาจจะเสี่ยงๆ  มีบริการส่งก็สบายใจได้เลย ตอนที่รีวิวราคายังเป็น 17,000 บาทนะครับ

สำหรับพรีวิวนี้ผมก็ต้องขอตัวลาไปก่อนสำหรับรุ่นอื่นๆก็ติดตามกันได้เลย ถูกใจฝากกดไลค์กดแชร์ด้วยนะครับ  มีข้อผิดพลาดประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ  เพื่อนๆสนใจอยากให้พวกผมรีวิวรุ่นไหนสามารถ Inbox มาบอกเราได้เลยนะ
ฝากไลค์เพจ FACEBOOK เราด้วยนะครับ >>>>>>>>>  TECHHANGOUT

เข้าร่วมกลุ่ม TECHHANGOUT พูดคุยแลกเปลี่ยน ข้อมูล คุยกันเองชิลๆได้เลยที่ — Facebook  Techhangout พูดคุย Smartphone gadget 

Preview by Nineztr 

Comments กันได้เลย !

Comments

0 Shares