หูฟังสำหรับสายเกมมีตัวเลือกเยอะนะถ้าเมื่อมามองดูกันแล้วมีทั้งในเรทราคาไม่กี่ร้อยจนถึงเป็นหมื่นก็มี แน่นอนว่าแต่ละคนก็เลือกใช้งานกันแล้วแต่งบที่ตัวเองมีได้เลยครับ บางคนไม่จริงจังมากก็อาจจะใช้ไม่กี่พัน แต่ถ้าเอาไปแคสเกมใช้งานบ่อยๆเลือกที่มันมีคุณภาพหรือใช้งานได้นานๆนั้นก็น่าจะดีคุ้มที่จะลงทุนครับ และอีกประเด็นที่หลายๆคนนั้นเลือกใช้งานกันก็น่าจะเป็นเรื่องของความสวยงามของตัวหูฟังทั้งเรื่องการออกแบบ สีสันไฟ RGB ทั้งหลายครับ สำหรับครั้งนี้เราจะมาลองกับหูฟังสายเกม ที่มีไฟสวยมากๆสวยกว่ารุ่นอื่นๆในบรรดาหูฟังทั้งหมด และ ยังมาพร้อมคุณภาพเสียงที่จัดเต็มด้วย ESS Sabre Quad DAC และ รองรับไฟล์ Hires อีกด้วยครับ เริ่มไม่แน่ใจว่ามันหูฟังสายเกมจริงๆไหมจัดเต็มขนาดนี้ เรามาดูกันเลยว่าหูฟังสายเกมตัวเทพอันนี้จะ ทำได้ดีแค่ไหน เสียงโหดขนาดไหนกัน

ROG Delta ตัวนี้เปิดตัวมาด้วยจุดเด่นหลากหลายทั้งเรื่องของการมีชิพเสียง ESS-Sabre QuadDAC ที่หลายๆคนน่าจะรู้จักกันดี สำหรับใครที่สายฟังเพลงครับขึ้นชื่อเลยแหละชิพตัวนี้ และรองรับไฟล์คุณภาพสูงแบบ HI-RES อีกด้วยครับ เป็นยิ่งกว่าหูฟังสายเกมจริงๆรวมถึงการออกแบบที่แตกต่างและไฟ RGB ที่เยอะสวยงามมีหลากหลาย Effect เยอะมากครับ และยังเป็นพอร์ตแบบ Type-C ใช้งานได้หลากหลายทั้งมือถือและ PC รุ่นใหม่ๆได้สะดวกมาก

สำหรับราคาของตัว ROG DELTA นั้นเปิดมาที่ราคา 6,990 บาท หาซื้อได้ตามร้าน หรือออนไลน์ต่างๆนะครับ

UNBOX

ตัวกล่อง ROG Delta นั้นมีมาในธีมสีดำแดงเช่นเดิมครับโทนสีประจำของทาง ROG อุปกรณ์ต่างๆมีมาให้ค่อนข้างครบและมีแผ่นปิดอะไรดูดีเลยแหละก่อนจะเปิดมาเจอหูฟัง  ตัวอุปกรณ์นั้นมีการแถมฟองน้ำหูฟังแบบผ้ามาให้ด้วย

  • หูฟัง ROG DELTA + ฝาครอบหูวัสดุแบบหนังแท้
  • Type-C แปลงเป็น USB-A สำหรับเสียบคอมพิวเตอร์
  • ตัวไมค์สำหรับเสียบหูฟัง
  • คู่มือ ใบรับประกัน
  • ฟองน้ำรองหูแบบผ้า Hybrid

ตัวฟองน้ำหูฟังที่ให้มาเป็นตัวเลือกเป็นวัสดุแบบผ้าระบายอากาศได้ดี เผื่อใครที่ไม่ชอบแบบหนังที่ติดมากับหูฟังครับ วัสดุอะไรถือว่าทำได้ดีเลยนะ ผ้าเป็นรูๆระบายได้ดีและมีความนิ่มกระชับในการใช้งานได้ดีแต่อาจจะดูเรื่องความสะอาดกันหน่อยหลังจากการใช้งาน การเปลี่ยนนั้นก็ทำได้ไม่ยากครับสามารถงัดขอบผ้าออกมารอบๆได้และเปลี่ยนได้เลย

DESIGN 

การออกแบบตั้งแต่แรกเห็นต้องบอกเลยว่ามันโดดเด่นคือด้วยรูปทรงของตัวหูฟังเป็นคล้ายๆ 3เหลี่ยมและยังมีไฟ RGB ตรงโลโก้รวมถึงรอบๆทำให้มันสวยสุดๆไปเลยและยังไล่สีได้เนียนตาอีกด้วยวัสดุงานประกอบอะไรทำได้ดีแน่นและใช้โทนสีดำตัดกับสีเทาได้สวยครับ วัสดุหนังก็เก็บงานได้ดี งานประกอบโดยรวมคือทำได้ดีมากๆ น้ำหนักก็กำลังดี ด้วยขนาดที่ไม่ใหญ่เทอะทะและไม่เล็กเกินไปทำให้มันใส่ได้สบายไม่หนักหัวหรือเกะกะอะไร ใส่ได้ทุกคนทั้ง ช ญ

การออกแบบเมื่อมองด้านข้างๆจะเห็นทรงที่ชัดเจนที่ออกแบบอิงตามใบหูของเราวัสดุด้านทั้งชิ้นที่ออกสีเทาๆโทนอุ่นๆสวยงามจัดกับโทนสีดำได้ดีครับข้อต่อจุดเชื่อมต่างๆนั้นเป็นโลหะทั้งหมดเคลือบสีได้สวยแต่ใช้ไปนานๆก็อาจจะต้องระวังสีเวลาโดนเหงื่ออะไรพวกนี้รักษากันหลังใช้งานครับ ข้างในซ้ายขวามีบอก ข้างชัดเจนและตัวยึดอะไรเป็นเหล็กทั้งหมดก็ถือว่าค่อนข้างแข็งแรงระดับนึง ตัวก้านอะไรให้อิสระในการใช้งานยืดหยุ่นได้ดี และไม่แข็งจนเกินไปครับ

ตัวฟองน้ำอย่างที่แจ้งไปว่าทาง ROG จะให้มาทั้งหมด 2 ชุดคือแบบหนังแท้ที่จะตื้นกว่า และแบบผ้าที่มีความลึกมากกว่าครับอันนี้แล้วแต่คนชอบเลยว่าจะชอบแบบไหนใส่สบายทั้งคู่แต่แบบผ้านั้นจะใส่และไม่ร้อนรวมถึงมีความลึกมากกว่าทำให้ไม่โดนใบหูเวลาใช้งานครับสำหรับบางท่าน มีความนิ่มทั้งคู่แต่แบบหนังจะนิ่มกว่านิดนึงครับ ส่วนด้านบนหูฟังน่าจะเป็นช่องลมสำหรับระบายทั้ง 2 ฝั่ง และน่าจะช่วยเรื่องความร้อนได้ซึ่งในส่วนนี้จะเป็นพลาสติกด้านครับ

ในแถบด้านล่างนั้นของตัวหูฟังก็จะเป็นตัวสำหรับ เปิดปิดตัวไฟ RGB  ได้ง่ายๆ และจะเห็นตัวสำหรับปรับเสียงได้ครับ และหลายคนอาจจะสงสัยว่าไม่มีปุ่ม Muted นั้นก็เราสามารถใช้งานโดยการกดลงไปได้เลยในแถบที่เราปรับเสียงครับ เมื่อทำการ Muted แล้วไฟแดงจะขึ้นตรงปลายไมค์และทำให้เรารู้ว่าเสียงนั้นปิดอยู่ครับ แถบหนังด้านบนนั้นมีความหนาพอสมควรไม่กดหัวและมีความหนานุ่มระดับนึงครับ ด้านบนมีโลโก้ชื่อเต็มของ ROG เป็นการปั๊มลงไปค่อนข้างชัด

ในด้านของตัวไฟ RGB ตัวนี้น่าจะสวยอันดับต้นๆของบรรดาหูฟังแล้ว ซึ่งรองรับสีมากถึง  16.8 ล้านสี และ 6 โหมด สำหรับเปลี่ยน Effect สีซึ่งปรับได้ในคอมครับ และยังรองรับกับ  ASUS Aura Sync เพื่อให้เหล่าเกมเมอร์สามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ต่างๆของ ASUS ที่รองรับ ASUS Aura Sync ได้เช่นกัน ถ้ามี เมาส์ คียบอร์ดพวกนี้ครับ  สีที่มันได้ออกมาค่อนข้างสว่างและไหลลื่นเนียนตาดวงไฟไล่สีได้เนียนและไม่กระตุก+ไม่เห็นหลอดไฟจุดๆด้วยครับ

SPEC

  • Connector USB / USB-C
  • Driver  Driver diameter : 50 mm   Driver material : Neodymium magnet
  • Hi-fi ESS 9218 Quad DAC
  • RGB lighting
  • Microphone  Uni-directional
  • Impedance -32 Ohm
  • Frequency Response (headphones)  -20 ~ 40000 Hz
  • Microphone   Pick-up Pattern  -Microphone boom:  -Uni-directional
  • Frequency Response  -Microphone boom:  -100 ~ 10000 Hz
  • Sensitivity  -Microphone boom:  -Sensitivity : -40 dB
  • Cable  -USB-C cable: 1.5M;  -USB 2.0 cable: 1M
  • Weight  -387 g

SOFTWARE

Software ในการปรับอันนี้เราใช้ตัวที่ชื่อ Armoury II นะครับซึ่งก็รองรับการปรับหลากหลายรุ่นหลายอุปกรณ์ซึ่งจะเป็นคนละตัวกับ AuraSync นะครับ อันนี้จะเป็นการปรับแยกแต่ละชิ้นกันเลยครับ ในหน้าแรกก็จะเป็นการปรับที่ค่อนข้างละเอียดมากๆเยอะแยะมากมายเลยแหละทั้ง การ Output Playback Device ว่าจะที่  Bits Hz และ ในส่วนขวานั้นจะเป็นการปรับแต่งเสียง มีโหมดสำเร็จรูปมาให้เยอะมาก และสามารถปรับเสียงรอบทิศทางอะไรได้ รวมถึงปรับ EQ ด้วยครับ และปรับ เบส เสียงใส อะไรมาครบ และยัง ลบ Noise เสียงไมค์ รวมถึงแต่งเสียงไมค์ได้อีกด้วยครับ

ส่วนทางด้านอื่นๆในการปรับแต่งหน้าต่อไปก็จะเป็นพวกปรับแต่งไฟที่มี 6 แบบ แล้วแต่ละแบบก็สามารถปรับสีได้เยอะมากๆรวมถึงความสว่าง ความไวอะไรพวกนี้ครับ ความเข้มของสีก็ทำได้ หน้าอื่นๆก็จะเป็นการ Sync กันกับระบบเช่นพวกเมาส์ คียบอร์ด ไฟก็จะไล่ตามลำดับไปได้เลยครับ ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่ Sync ได้มีไฟได้ 3 แบบครับทั้งหมด

AURA SYNC

Aura Sync ก็สามารถทำให้ตัวระบบของเราทั้งหมดนั้นจะเป็นการเล่นไฟไปตางอุปกรณ์ไล่สีกันไปถ้ายิ่งเรามีหลายๆชิ้นก็จะทำให้การเล่นแสงสีได้สวยงามมากขึ้นครับ เช่น Wave มันก็จะไล่เป็นคลื่นเริ่มจากอะไรก็ได้เราสามารถตั้งได้หมดเลย เป็นอีกอย่างที่ถ้าใครมี AURA Sync เยอะๆแล้วมีหูฟังตัวนี้น่าจะใช้งานเชื่อมกันได้สวยและลงตัวมากๆครับ

FEELING 

ในเรื่องของการสวมใส่ตัวนี้ออกแบบมาไม่ใหญ่ไม่เล็กเกินไปสามารถสวมใส่ได้ทั้งหนุ่มๆและสาวๆ ไม่ได้ใหญ่เทอะทะเกินไปอันนี้อาจจะทำให้หลายๆคนมองตัวนี้ได้หลากหลายมากขึ้น แต่ในเรื่องของรูปทรงที่เป็นคล้ายๆ 3 เหลี่ยมอะไรแบบนี้ทำให้อาจจะไม่เหมาะสำหรับบางคนก็เป็นได้ครับอันนี้ต้องไปลองกันอีกที ส่วนในเรื่องการบีบหัวอะไรไหมนั้นตัวนี้มีการออกแบบมาค่อนข้างยืดหยุ่น และ มีฟองน้ำนุ่มและมีความหนาพอสมควรโดยทั้งด้านบนแกนที่รองรับส่วนหัวและไม่ให้มันกดลงมาเจ็บหัวเกินไปครับ ส่วนในเรื่องฟองน้ำในบริเวณหูนั้นทำได้นุ่มนิ่มมากๆถ้าเป็นแบบหนัง แต่ก็มีระยะติ้นพอสมควร 1.9มม ทำให้หลายคนนั้นใบหูอาจจะไปชนส่วนด้านในได้ แต่ถ้าเปลี่ยนเป็นแบบผ้านั้นจะมีความหนาขึ้นมาและทำให้ไม่ชนใบหู รวมถึงกระชับมากขึ้น และแบบผ้านั้นจะไม่ค่อนร้อนเท่าแบบหนังครับ อันนี้ก็ต้องแล้วแต่คนชอบเลยในด้านการใส่สบาย และ การปรับเปลี่ยนยืดขาเอียงต่างๆนั้นก็รองรับได้ดี กางได้ยืดหยุ่นไม่บีบหัวและไม่ดัน ถือว่าทำได้ดีนะครับในแง่ของการใส่สบายและการรองรับใส่กันหลายๆคนโอเคเลยไม่ปวดหูไม่กดเกินไปใส่นานๆสบาย

ส่วนในด้านของคุณภาพเสียงนั้น โดยรวมกันก่อนเลยคือเสียงที่ได้ในเรื่องของการ เล่นเกมต่างๆนั้นจัดเต็มทำได้ดี มิติเสียงมาเต็ม และ ระบบรองทิศทางทำได้ดีมากๆแยกหน้าหลัง ซ้าขวาชัดเจน รวมถึงกำลังขับมาดีมากๆน่าจะด้วย Quad DAC ครับ ส่วนเรื่องของเสียงย่านความถี่ต่ำนั้นค่อนข้างเบาไปหน่อย ซึ่งเสียงในด้านอื่นๆ เช่นเสียงกลางต่ำอะไรแบบนี้ก็อาจจะไม่ได้มาเยอะมากเท่าไรครับ ส่วนถ้าเรามาลองฟังเสียงกลาง เสียงเปิดได้ดี โปร่ง ใส แต่ตัวเสียงคนเสียงพูดหรือเสียงในย่านนี้จะไม่ชัดเจนเท่าไรครับ ซึ่งเมื่อลองฟังกันดีๆไม่แน่ใจว่าทำไมเวทีเสียงมันดูไม่กว้างเท่าไร เวลาเจออะไรเยอะๆเสียงแอบไม่สามารถแยกได้ชัดเจนเท่าไรครับ แต่ถ้าเราเน้นสายเกม เสียงทั้งหลายก็ตอบโจทย์ได้ดีครับ ในเรื่อง เสียงรอบทิศทาง เสียงแน่นพวกเสียงระเบิด เสียงปืนอะไรแบบนี้ มาแบบดีและก็ไม่บวมครับ ส่วนถ้าใครจะเอามาฟังเพลง Hi-Res อะไรกันบ้างมันจะเป็นยังไง จริงๆจากที่ใช้งานฟังมาซักพัก ต้องบอกว่ามันอาจจะยังไม่เหมาะเท่าไรเลยแม้จะได้ ชิพเสียงที่ดีและระบบ Quad DAC แต่ก็จะเน้นไปทางด้านเล่นเกมมากๆกว่า เอามาฟังเพลง เวทีเสียงไม่ได้กว้าง เสียงเบสลงไม่ลึกเท่าไร  และอาจจะทำให้ฟังได้ไม่ดีเท่าไรถ้าใครจะเอามาฟังเพลงแบบครึ่งๆกับเล่นเกม แบบที่หวังว่าตัวเดียวครอบคลุมอาจจะไม่เหมาะครับ ตัวนี้จะค่อนข้างเอนไปทางสายเกมมากกว่าเยอะเลยแหละ

ROG DELTA 

“เป็นหูฟังสำหรับสายเกม ที่มีดีไซน์โดดเด่น และ สเปคจัดเต็ม ทำได้ดีสุดๆตามราคา “

สำหรับรอบนี้ถือว่าเป็นหูฟังจากทาง ROG ที่ชอบด้านการออกแบบมากๆยิ่งมีไฟเยอะๆแบบนี้ชอบเลยแหละ ไฟก็ทำได้เนียนตาและสวยงามมากๆครับ สว่างและโดดเด่น รวมถึงด้านสเปคที่จัดเต็ม ESS Sabre และรองรับเสียงคุณภาพแบบ HiRes สำหรับในแง่การเล่นเกม เสียงในเกมมันไม่มีที่ติเลยครับเสียงรอบทิศทางทำได้ดี และ เสียงหนักแน่น มิติมาครบมากๆ แต่แม้ไดรเวอร์จะใหญ่บางทีรู้สึกเวทีเสียงมันไม่ได้กว้างเลย แอบแคบไปหน่อยก็มีแค่เรื่องนี้เท่านั้นที่เจอๆและถ้าใครมองสเปคแล้สอาจจะเอามาใช้ฟังเพลงบ้าง จริงๆสายฟังเพลงน่าจะไม่เหมาะเสียงเอามาลองฟังเพลงเทพๆหรือเพลงทั่วไปเวทีเสียงไม่ค่อยกว้างเท่าไรและเสียงคนร้องอะไรไม่ได้เด่นมากนักครับ แต่ถ้าในแง่สายเกมมันลงตัวมากๆเลยแหละอย่างที่บอกไป ส่วนเรื่องไมค์เสียงนุ่มทำได้ดี ตัดเสียงได้ดีครับในการใช้งาน  การใส่สบายอะไรไม่มีปัญหาเลย ก็ต้องดูกันแล้วหละว่า ในราคานี้เรามีงบถึงไหมและถ้าถึงคู่แข่งมีอะไรบ้าง แต่เอาจริงๆถ้าที่ลองมาตัวนี้มันก็อยู่ในอันดับต้นๆในเรทนี้ทั้งคุณภาพเสียงที่ได้ ความสวยงามที่ให้มา ถือว่าน่าเล่นมากๆในบรรดาเรทราคานี้

ข้อดี

  • มาพร้อม USB-C
  • การออกแบบ ดีไซน์ ตัวไฟ สวยงามลงตัวมากๆ
  • ระบบเสียงทำได้ดีแรงขับดี ESS + รองรับ Hi-Res
  • ฟองน้ำใส่สบายทั้ง 2 แบบ แต่แบบหนังแบนไปนิดนึง
  • มาพร้อมสาย USB-C to USB-A
  • ไมค์เสียงทำได้ดี และสามารถถอดออกได้
  • ปุ่มเปิดปิดไฟ ทำได้ดี ไม่ต้องใช้ Software ให้ยุ่งยาก
  • เสียงรอบทิศทางทำได้ดีมากๆ ในการเล่นเกม

ข้อสังเกต

  • สายที่เชื่อมหูฟังไม่สามารถถอดออกได้
  • ตัวทรงหูฟังอาจจะไม่เหมาะสำหรับบางคน
  • แม้จะเป็นชิพเสียง ESS แต่ฟังเพลงก็ไม่ได้เหมาะมากนัก
  • มีอุ่นๆตรงขอบด้านนอกนิดนึง

สำหรับรีวิวนี้ผมก็ต้องขอตัวลาไปก่อนสำหรับรุ่นอื่นๆก็ติดตามกันได้เลย ถูกใจฝากกดไลค์กดแชร์ด้วยนะครับ  มีข้อผิดพลาดประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ  เพื่อนๆสนใจอยากให้พวกผมรีวิวรุ่นไหนสามารถ Inbox มาบอกเราได้เลยนะ
ฝากไลค์เพจ FACEBOOK เราด้วยนะครับ >>>>>>>>>  TECHHANGOUT

เข้าร่วมกลุ่ม TECHHANGOUT พูดคุยแลกเปลี่ยน ข้อมูล คุยกันเองชิลๆได้เลยที่ — Facebook  Techhangout พูดคุย Smartphone gadget 

Review By Nineztr

Comments กันได้เลย !

Comments

0 Shares