เปิดตัวออกมาเป็นที่เรียบร้อยแล้วกับ ASUS VIVOBOOK Slate 13 OLED แน่นอนว่ารุ่นนี้นั้นโดดเด่นไปในเรื่องของการออกแบบดีไซน์ที่สามารถถอดหน้าจอได้ตัวแรกของโลกที่เป็น OLED และมาพร้อมปากกา และได้ทำการพัฒนาประสิทธิภาพการใช้งานในการทำงานมาอย่างจัดเต็ม  มีเคสแม่เหล็กที่สามารถพับขาได้ถึง 170 องศา ทำให้เราใช้งานได้อย่างหลากหลายรูปแบบ อีกทั้งยังมาพร้อมปากกา ASUS Pen 2.0 รุ่นใหม่มาให้ใช้งานอีกด้วย ทำให้เราได้ลองเล่น และใช้งานได้แบบจุใจ ที่พิเศษไปกว่านั้นคือหัวปากกานั้นมีปลายหัวปากกามาให้เปลี่ยนใช้งานถึง 4 รูปแบบ เพื่อให้เลือกใช้งานได้อย่างเหมาะสม แบตเตอรี่ที่อัดแน่นอึดทนนาน แบตเตอรี่ให้มาอยู่ที่ 50WHrs ชาร์จด้วย USB type-C สามารถใช้งานได้แบบยาวๆเลย แบตให้มาแบบจุกๆแต่น้ำหนักตัวเครื่องนั้นเบาบางมากๆ มีน้ำหนักเพียง 0.78 กก. เท่านั้น เรียกได้ว่าบางเบามากๆ เน้นไปทางการพกพาจริงๆ สามารถนำไปใช้งานนอกสถานที่ได้แบบสบายๆ

มาพร้อมกับหน้าจอ OLED ขนาด 13.3 นิ้ว FHD (1920 x 1080) อัตราส่วน 16:9 รองรับ รองรับ touch screen และมาพร้อมปากกา stylus ASUS Pen 2.0 ช่วงครอบคุมสี DCI-P3 color gamut 100% HDR True Black 500 แสดงสีดำได้ดำสนิทมากๆ PANTONE Validated ในรุ่นนี้หน้าจอมันวาวแบบ Glossy ให้ความพรีเมียมสุดๆ มีฟีเจอร์ SGS Eye Care Display ที่จะช่วยถนอนสายตาผู้ใช้งานอีกด้วย มาพร้อมชิปประมวลผล Intel® Pentium® Silver N6000 1.1 GHz ให้ประสบการณ์การใช้งานอย่างมีประสิทธิภาพ มีพอร์ตเชื่อมต่อมาให้รองรับอุปกรณ์อย่างหลากหลายครบครัน ต้องบอกว่ารุ่นนี้สามาถใช้งานพื้นฐานได้แบบจัดเต็ม ด้วยราคาและสเปกที่ให้มาเรียกได้ว่าน่าสนใจมากๆ

วัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ก็ดูดีพรีเมียม แข็งแรงทนทานมากๆ สัมผัสแล้วหน้าใช้งานสุดๆ กล้องที่ให้มานั้นจะเป็นกล่องกระดาษที่ห่อหุ้มสินค้ามาแบบเซฟสุดๆ อีกทั้งยังดีต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วยนะ น่าประทับใจมากๆ และยังให้ซองหนังมาให้ใช้งานควบคู่กันไปอีกด้วย ในเรื่องของการแยกชิ้นส่วนของตัวนี้นั้นสามารถทำได้ง่ายสะดวก รวมไปถึงการประกอบติดกันก็เช่นเดียวกัน เพราะมีแถบแม่เหล็กมาให้ดูดเชื่อมต่อกันแบบไร้รอยต่อ อีกทั้งสามารถถอดคีย์บอร์ดออกและใช้งานในรูปแบบของ Tablet ได้ด้วย ซึ่งตอบโจทย์มากๆต่อการใช้งาน ครบจบในเครื่องเดียวกับ ASUS VIVOBOOK Slate 13 OLED

UNBOX

  • ตัวเครื่องหน้าจอ ASUS Vivobook 13 Slate OLED
  • คีย์บอร์ดพร้อมแถบแม่เหล็ก
  • เคสตั้งหน้าจอแบบแม่เหล็ก
  • ปากกา Stylus ASUS Pen 2.0 พร้อมกับหัวเปลี่ยน
  • Adapter สายชาร์จ 65W
  • กระเป๋า
  • คู่มือ

DESIGN

งานออกแบบดีไซน์ในรุ่นนี้พิเศษมากๆ โดดเด่นกว่ารุ่นก่อนๆอย่างชัดเจน ด้วยดีไซน์ที่สามารถถอดจอได้รุ่นแรกของโลกที่เป็นจอ OLED และมีขนาดและน้ำหนักที่บางเบามากๆ ตอบสนองต่อการพกพาได้ดีเลย ด้วยดีไซน์ที่แปลกใหม่ถอดจอได้นั้นแน่นอนว่ามาพร้อมกับเคสขาตั้งที่สามารถกางได้ถึง 170 องศาเลย ทำให้สามารถใช้งานได้อย่างหลากหลายรูปแบบเลย มาพร้อมกับหน้าจอ OLED ขนาด 13.3 นิ้ว FHD (1920 x 1080) อัตราส่วน 16:9 รองรับ รองรับ touch screen และมาพร้อมปากกา stylus ASUS Pen 2.0 รุ่นใหม่ล่าสุดที่มีปลายหัวมาให้เลือกเปลี่ยนใช้งานถึง 4 รูปแบบตามความเหมาะสม มอบประสบการณ์ที่ดีในการทำงานและคุณภาพของชิ้นงานที่ทำก็ดีร่วมกันไปด้วย หน้าจอในรุ่นนี้จะมาในรูปแบบหน้าจอแบบ มันวาว Glossy ให้ความพรีเมียมภาพสีสวยและสบายตาด้วยฟีเจอร์ SGS Eye Care Display ที่จะช่วยถนอมสายตาของเรา เรียกได้ว่าการออกแบบดีไซน์และน้ำหนักในรุ่นนี้ทำออกมาได้ดีต้องยกนิ้วให้เลย

จะเห็นได้ว่าหน้าจอและคีย์บอร์ดจะมีความบางมากๆ ขอบหน้าจอก็มีความบางลงกว่ารุ่นก่อนๆ ให้เนื้อสัมผัสที่เป็นเนื้อด้าน ทำให้ป้องกันเรื่องลายนิ้วมือได้ดีสุดๆ ในเรื่องนี้ทางค่ายก็ยังคงมาตรฐานได้ดีเหมือนเดิมเลย จากที่รู้กันดีว่าตัวนี้สามารถใช้งานแบบถอดหน้าจอได้ ทำให้ด้านหลังตัวนี้มาพร้อมกับแถบแม่เหล็กที่จะช่วยประกบติดกับเคสขาตั้งที่มีมาให้ เป็นอีกตัวช่วยที่ดีมากๆในการใช้งานเลย  การดีไซน์นั้นเก๋และเก็บรายละเอียดข้อต่อต่างๆ ทำได้เนียน ละเอียดสุดๆ ประหนึ่งว่าเป็นชิ้นเดียวกัน บริเวณรอบๆตัวเครื่องก็จะเป็นปุ่มสั่งงานต่างๆทั่วไป พร้อมรูเชื่อมต่อที่มีมาให้เรียงกันอย่างสวยงาม ทางค่ายยังคงความเรียบหรูแต่ดูล้ำสมัยเช่นเดิม ส่วนตัวชอบมากๆประทับใจเอาเรื่องเลย

ในส่วนของเคสขาตั้งที่มีมาให้นั้นวัสดุที่ใช้ทำก็ดูแข็งแรงมาก สามารถรองรับน้ำหนักของตัวเครื่องได้เป็นอย่างดี และสามารถกางขาตั้งได้มากถึง 170 องศาเลย ทำให้เราสามารถวางตั้งใช้งานได้ตามความถนัดของเราได้เลย

ปากกาที่ให้มาในรุ่นนี้จะเป็น ASUS Pen 2.0 รุ่นใหม่ล่าสุดที่มาพร้อมกับปลายหัวปากกาถึง 4 รูปแบบมาให้ด้วยภายในกล่อง ตัวปากกานั้นสามารถใช้งานได้ดี ตอบสนองได้ไวตามมือของเรา อีกทั้งยังมีช่องใส่ปากกาด้วย ทำให้เมื่อเราไม่ได้ใช้งานยังสามารถสอดเก็บไว้บริเวณข้างจอเครื่องอย่างเป็นระเบียบ และเมื่อต้องการที่จะใช้ก็สามารถหยิบจับขึ้นมาใช้อย่างสะดวก ป้องกันการสูญหายได้ดีด้วยนะ

ทางด้านหน้านั้นให้มา 13.3 นิ้ว เป็นขนาดที่ใหญ่กำลังพอดีเหมาะสมในการใช้งาน จะเห็นได้เลยว่ามีขอบจอที่บางมากๆ ใช้งานหน้าจอได้แบบจุใจเต็มตาสุดๆ และขอบจอด้านบนนั้นจะเป็นในส่วนของกล้อง webcam 5.0MP ที่ซ่อนอยู่ตรงกลางของขอบหน้าจอ

ทางด้านหลังจะเป็นเนื้อดำด้านป้องกันเรื่องรอยนิ้วมือได้ดี บริเวณด้านบนของด้านหลังนั้นจะเป็นดีไซน์สลักไว้เป็นอักษรสีเหลืองให้ดูมีลูกเล่น น่าสนใจและถัดไปในส่วนของกล้องหลัก ที่ให้ความละเอียดมาสูงถึง 13.0MP ถ่ายแบบได้แบบสวยคมกริบเลย และที่ขาดไม่ได้เลยคือด้านล่างขวาจะสลักชื่อ ASUS Vivobook มาให้ ในส่วนของเคสขาตั้งถ้าสังเกตดีๆจะเห็นได้ว่ามีรูช่องว่างไว้สำหรับให้เรายังคงใช้งานกล้องได้อยู่ขณะใส่เคสขาตั้ง

SPEC

  • หน้าจอ OLED ขนาด 13.3 นิ้ว FHD (1920 x 1080), อัตราส่วน 16:9, รองรับการสัมผัสหน้าจอ และรองรับปากกา stylus, DCI-P3 color gamut 100%, HDR True Black 500, PANTONE Validated, หน้าจอมันวาว Glossy, SGS Eye Care Display
  • Intel® Pentium® Silver N6000 1.1 GHz
  • การ์ดจอ Intel® UHD Graphics
  • Windows 11 Home
  • RAM LPDDR4X 8GB (ใส่เพิ่มไม่ได้),
  • SSD M.2 NVMe™ PCIe® 3.0  256GB
  • พอร์ตการเชื่อมต่อ USB 3.2 Gen 2 Type-C x 2 / ช่องเสียบหูฟัง 3.5mm x 1
    / ช่องเสียบ MicroSD card
  • คีย์บอร์ดระยะกดปุ่ม 1.4 มิลลิเมตร
  •  กล้อง webcam 5.0MP , กล้องหลัก 13.0MP
  • ลำโพง stereo 4-way, ไมโครโฟน, รองรับ Cortana
  • Wi-Fi 6(802.11ax) + Bluetooth 5.2 (Dual band) 2*2
  • ขนาดตัวเครื่อง: 30.99 x 19.00 x 0.79 ~ 0.79 ซม./30.99 x 19.00 x 0.82 ~ 0.80 ซม.; น้ำหนักตัวเครื่อง: 0.78 กก.
  • แบตเตอรี่ 50WHrs ชาร์จด้วย USB type-C, AC Adapter 65W

PERFORMANCE

ตัวใหม่นี้มาพร้อมกับการใช้งาน Intel® Pentium® Silver N6000 1.1 GHz และการ์ดจอ Intel® UHD Graphics มาพร้อมกับ RAM LPDDR4X 8GB แบบใส่เพิ่มไม่ได้ ในตัวนี้ใช้งาน Windows 11 Home ถือว่าสเปกในการใช้งานนั้นทำได้ดี เร็วแรงต่อการทำงาน ประสิทธิภาพต่างๆโอเคลงตัวเลย การประมวลผลสามารถทำได้ดีในระดับนึง พื้นที่ในการใช้งานสามารถใช้งานได้แบบเหลือๆเลย เรนเดอร์งานไฟล์ใหญ่ๆได้สบาย ไม่เอ๋อไม่ค้างอะไร

PC MARK 

ในเรื่องของคะแนน PC MARK นั้นตัวนี้คะแนนอยู่ในระดับกลางๆ ไม่สูงไม่ต่ำจนเกินไป ในส่วนของ CPU ตัวนี้จะใช้งานตัวการ์ดจอเป็นตัว Intel® UHD Graphics จากการทดสอบคะแนนประสิทธิภาพขั้นพื้นฐาน โดยคะแนน PC MARK ทำคะแนนอยู่ที่ 2720 คะแนน ภาพรวมคะแนนก็ยังพอรับได้ เพียงพอต่อการใช้งาน Microsoft การแต่งรูป การตัดต่อวิดีโอ หรือการใช้งานอื่นๆสามารถรองรับการใช้งานได้ดี แต่จะไม่โหดเท่าพวกเกมมิ่งเพราะเจ้าตัวนี้จะเน้นๆไปในเรื่องการใช้งานทำงาน วาดภาพออกแบบเป็นส่วนใหญ่ ส่วนตัวแล้วถือว่าโอเคเลยนะ

CINEBENCH CRYSTALDISK

ในส่วนคะแนนที่วัด CPU คะแนนทำไปได้อยู่ที่ 331 คะแนนทำได้ดีในตัว R15 และในคะแนนของตัว R20 ที่โหดกว่าเดิมนั้นทำไปได้ 757 คะแนน ถือว่าโดยรวมนั้นคะแนนทำออกมาได้ดีในระดับนึงเลยนะ ในแง่การประมวลผลของ CPU ยังคงทำได้ดีเหมือนรุ่นก่อนๆ และส่วนคะแนนการอ่านทำไปได้  2490 คะแนน ส่วนการเขียนทำไปได้ที่ 976 คะแนน จากทดสอบการอ่านการเขียนนั้นถือว่าแรงใช้ได้เลย สามารถตอบสนองการอ่านเขียนได้อย่างรวดเร็ว ใช้งานแบบชิวๆสบายๆ

SCREEN

ตัวนี้มาพร้อมกับหน้าจอ OLED ขนาด 13.3 นิ้ว (2560 x 1600) อัตราส่วนหน้าจออยู่ที่ 16:9 รองรับการสัมผัสหน้าจอและรองรับปากกา stylus ASUS Pen 2.0 มีช่วงครอบคลุมสี DCI-P3 color gamut 100% ให้การแสดงสีสันของหน้าจอเป็นอย่างดี สีสวย คมชัด แม่นยำสุดๆ HDR True Black 500 สามารถแสดงสีดำได้อย่างดำสนิท และแสดงสีสันได้ถึง 1.07 พันล้านสี นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ SGS Eye Care Display ที่จะช่วยป้องกันแสงสีฟ้าที่จะทำร้ายดวงตาของเราได้ด้วย ช่วยถนอมดวงตาเราได้เป็นอย่างดี ในรุ่นนี้จะเป็นหน้าจอแบบ Glossy ให้ความรู้สึกหรูหราสุดๆ การออกแบบดีไซน์หน้าจอนั้นทำได้ดี มีขอบหน้าจอที่เล็ก สามารถใช้งานได้อย่างเต็มพื้นที่เลย จากการได้ลองใช้งานนั้นสามารถแสดงสีสันได้ดีจริงๆ และการสู้แสงต้องยกนิ้วให้ สามารถใช้งานการแจ้งนอกสถานที่ได้แบบสบายๆเลย วัสดุหน้าจอแข็งแรงทนทาน มีน้ำหนักที่เราสามารถพกพาได้สะดวก และที่พิเศษสุดๆคือรุ่นนี้สามารถถอดหน้าจอแยกออกมาใช้งานในรูปแบบของ Tablet ได้ด้วย ซึ่งทำให้เราสามารถใช้งานหน้าจอได้หลากหลายรูปแบบตามความเหมาะสมเลย

KEYBOARD 

เรื่องของคีย์บอร์ดเมื่อพูดว่าเป็นค่าย ASUS แล้วละก็หายห่วงเลย เพราะการวางระยะห่างในส่วนของคีย์บอร์ดนั้นแน่นอนว่ายังคงทำได้ดีมากๆ เหมือนกับคอมพิวเตอร์ทั่วไปของ vivobook การวางระยะองศาสามารถพิมพ์ได้แบบไม่เมื่อยมือ การกดก็เด้งสู้นิ้วได้ดี ใช้งานพิมพ์ได้ง่ายสะดวก ระยะยุบตัวของคีย์บอร์ดอยู่ที่ 1.4 มม. ในเรื่องของตัวอักษรนั้นจะใช้เป็นสีขาวที่ตัดกับสีพื้นของเครื่องที่เป็นสีดำ ทำให้ตัวอักษรนั้นโดดเด่นอย่างชัดเจน ตัวปุ่ม Power จะอยู่บริเวณขอบข้างบนของหน้าจอ สะดวกต่อการใช้งาน เปิด-ปิดเครื่อง ในส่วนของคีย์บอร์ดนี้ไม่มีปัญหาอะไรเลย ใช้งานได้สบายๆยาวๆ

อีกทั้งความพิเศษอยู่ที่คีย์บอร์ดสามารถถอดแยกชิ้นจากหน้าจอได้ และสามารถประกอบติดกันเพื่อใช้งานได้แบบง่ายๆด้วยแถบแม่เหล็กที่มีมาให้เลย น้ำหนักของตัวคีย์บอร์ดนั้นมีความบางและเบามากๆ สามารถพกพาไปด้วยได้สะดวก ใส่ไปกับซองหนังที่ทางค่ายแถมมาให้แบบสบายๆเลย ทำให้การนำออกไปใช้งานนอกสถานที่นั้นทำได้ง่ายสะดวกต่อผู้ใช้งานสุดๆ

ASUS PEN 2.0

ในรุ่นนี้จะมาพร้อมกับปากกาสไตลัส ASUS Pen 2.0 ระดับแรงกดของปากกาอยู่ที่ 4096 ระดับ อีกทั้งยังมีหัวปากกามาให้เลือกเปลี่ยนทั้งหมด 4 ขนาดด้วยกันเลย สามารถเลือกใช้งานตามความเหมาะสมได้ในส่วนนี้ถือว่าน่าสนใจสุดๆ และตัวปากกาในรุ่นนี้ยังสามารถใช้งานฟีเจอร์ต่างๆได้เพียงกดปุ่มสั่งงานที่มีมาให้เพียงครั้งเดียวเท่านั้น สะดวกสบายต่อการใช้งานสุดๆ ในส่วนของการชาร์จนั้นปากกา ASUS Pen 2.0 นั้นรูชาร์จจะอยู่บริเวณด้านบนของปากกาให้ทำการดึงบริเวณหัวปากกาขึ้นก็จะเจอ ในรุ่นนี้จะชาร์จผ่าน USB-C สามารถชาร์จได้อย่างรวดเร็วและสามารถใช้งานได้ยาวๆ เพียงพอต่อการใช้งานตลอดทั้งวันอย่างแน่นอน

จากการทดลองใช้งานจริงนั้น ตัวปากกาสามารถตอบสนองต่อการสัมผัสได้เป็นอย่างดี วาดเขียนได้อย่างลื่นไหลสุดๆ จากที่ลองได้วาดรูปแล้วนั้นเส้นที่ขีดก็สามารถไหลลื่นตามมืออย่างรวดเร็ว ไม่มีค้างไม่มีสะดุดเลย มีปลายหัวมาให้เลือกใช้อย่างหลากหลาย ทำให้การออกแบบนั้นดูดีมีประสิทธิภาพมากขึ้น ภาพรวมชอบมากๆ การตอบสนองดีเกินที่คาดไว้ น้ำหนักปากกาเบา จับถนัดมือมากๆ ไม่ว่าจะทำกิจกรรมไหนๆก็ทำได้อย่างลงตัว

SPEAKER 

ทางด้านของเสียงแน่นอนว่าเสียงที่ได้ต้องผ่านมาตรฐานของแบรนด์อยู่แล้ว และเสียงตัวนี้จะเน้นไปในเรื่องของความดังเป็นส่วนใหญ่ ให้เสียงที่ดังชัดเจน เสียงแน่น มิติเสียงในรุ่นนี้นั้นจะอยู่ระดับกลางๆ เบสเบาๆไม่ได้เด่นหรือหนักมากเท่าไหร่ แต่ต้องยอมรับในเรื่องของทิศทางเสียงเลยตัวนี้ทำออกมาได้ดีเลยมากๆ ด้วยขนาดและความบางเบาของเครื่องแล้วได้เสียงที่มีคุณภาพขนาดนี้ต้องบอกว่าโอเคเลยนะ คุ้มค่าคุ้มราคาพอสมควรเลยแหละ รองรับการใช้งานทำกิจกรรมต่างๆดูหนัง ฟังเพลงได้สบายๆ

CAMERA

กล้องของรุ่นนี้ต้องบอกว่าปังมาก เป็นกล้อง Webcam ที่เลนส์หลักให้ความละเอียดมาสูงถึง 13.0MP ทำให้ภาพที่ออกมานั้นมีคุณภาพที่โหดมาก ภาพสวยคมชัด เหมือนใช้สมาร์ตโฟนดีๆถ่ายเลยแหละ ซึ่งเป็นจุดเด่นที่ดีกว่ารุ่นอื่นๆมากๆในส่วนนี้ ถ่ายภาพได้แบบระดับเทพ และในกล้องหน้านั้นก้ไม่แพ้กัน ให้ความละเอียดมาอยู่ที่ 5MP โดยส่วนตัวชอบมากๆ ไม่ได้มีปัญหาอะไรในเรื่องของกล้องเลย และเราก็ได้เอาตัวอย่างของรูปภาพที่ถ่ายโดยเจ้าตัวนี้มาให้ดูเป็นแนวทางด้วย มาดูกันว่าจะถูกใจใครในระดับไหน แต่โดยรวมแล้วโอเคเลยนะ สวยครบจบในเครื่องเดียว

CONNECTOR 

ในส่วนของพอร์ตเชื่อมต่อตัวนี้มีมาให้เลือกใช้งานแบบครบครันสุดๆ ออกแบบเรียงกันบริเวณของหน้าจอแบบเป็นระเบียบสุดๆ โดยจะมีมาให้ได้ใช้งานเป็น USB 3.2 Gen 2 Type-C x 2 ช่องเสียบหูฟังแบบ 3.5mm x 1 พร้อมช่องเสียบ MicroSD card ส่วนในด้านของการชาร์จรุ่นนี้ให้แบตเตอรี่มาสูงถึง 50WHrs รองรับการชาร์จด้วย USB type-C มาพร้อม Adapter 65W ถือว่าการใช้งานในเรื่องของการเชื่อมต่อทางค่ายยังคงให้มาแบบครบครันพร้อมใช้งานได้ตามความต้องการเลย

ASUS VIVOBOOK SLATE 13 OLED 

” เน้นพกพา ดีไซน์แปลกใหม่สำหรับ ASUS รองรับการทำงาน วาดเขียน พิมพ์นอกสถานที่ “

สำหรับเจ้าตัวนี้การออกแบบดีไซน์ออกมาได้แบบแปลกใหม่ น่าสนใจ สวยหรูดูแพง ฉีกออกมาจากรุ่นก่อนๆ เพราะเจ้าตัวนี้สามารถถอดแยกชิ้นออกจากกันได้และประกอบเข้าหากันได้ง่ายเช่นกัน เพราะมีแถบแม่เหล็กมาให้เราใช้งานประกอบ แถมมีน้ำหนักที่เบามากๆ สามารถพกพาไปใช้งานนอกสถานที่ได้อย่างสะดวกสบายเลย ทางด้านสเปกเองก็จัดเต็มสุดๆ ตัวปากกาที่แถมมาให้สามารถใช้งานได้เป็นอย่างดี ตอบสนองลื่นไหล มีหัวเปลี่ยนมาให้เลือกใช้งานถึง 4 รูปแบบ อีกทั้งจอภาพให้สีสันที่สดใส คมชัด หน้าจอใหญ่จุใจใช้งานได้แบบเต็มตา หน้าจอรองรับการใช้งานได้ดี ลื่นไหลตามการสัมผัส จากการทดลองใช้งานจริงถือว่าโอเคเลยนะ ถอดใช้งานในรูปแบบของ Tablet ได้หน้าจอกำลังพอดีมือ มีเคสขาตั้งมาให้ใช้วาง ตามกิจกรรมดูหนัง ฟังเพลง วาดรูปได้เป็นอย่างดีเลย ตัวคีย์บอร์ดที่ให้มานั้นก็มีน้ำหนักเบา ระยะปุ่มกดทำได้เหมาะสมเหมือนรุ่นทั่วๆไปไม่มีปัญหาใดๆเลย  โดยภาพรวมรุ่นนี้น่าสนใจมากๆในสายทำงานนอกสถานที่หรือนักเรียนนักศึกษา เพราะตอบโจทย์ต่อการใช้งานมากๆแถมสามารถใช้งานได้หลากหลายรูปแบบอีกด้วย

ข้อดี

  • งานออกแบบแปลกตากว่า VIVOBOOK รุ่นอื่นๆ
  • ดีไซน์ความสวยงาม และ งานประกอบคุณภาพทำได้ดี
  • ปากกา ASUS รุ่นใหม่รองรับการวาดเขียน และ ตอบสนองได้ดี
  • ลำโพงทำได้ดี รองรับ Dolby Atmos ดังใช้ได้
  • ขาตั้งทำงานได้ทั้ง แนวตั้ง และ แนวนอน อิสระต่อการใช้งาน
  • มาพร้อมกล้องหน้า และ หลัง รองรับการใช้งานสบาย
  • หน้าจอสัมผัสรองรับกับ Windows 11 ได้ดีขึ้นกว่าแต่ก่อน
  • ขนาดหน้าจอกำลังดีแต่การพกพาทั่วไป ในแง่ Tablet
  • คีย์บอร์ด และ Touchpad ใช้งานได้ดี ระยะกด และตำแหน่ง

ข้อสังเกต

  • ตัวขาตั้งต้องติดเคสแยก ทำให้หนักและใช้งานบางจังหวะไม่ถนัดเท่าไร
  • สเปกเป็น Pentium เน้นใช้งานพกพามากกว่า
  • ตัวปากกาต้องใส่ที่ติดปากกาแยกไม่สามารถแปะบนเครื่องได้

สำหรับรีวิวนี้ผมก็ต้องขอตัวลาไปก่อนสำหรับรุ่นอื่นๆก็ติดตามกันได้เลย ถูกใจฝากกดไลค์กดแชร์ด้วยนะครับ  มีข้อผิดพลาดประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ  เพื่อนๆสนใจอยากให้พวกผมรีวิวรุ่นไหนสามารถ Inbox มาบอกเราได้เลยนะ
ฝากไลค์เพจ FACEBOOK เราด้วยนะครับ >>>>>>>>>  TECHHANGOUT

เข้าร่วมกลุ่ม TECHHANGOUT พูดคุยแลกเปลี่ยน ข้อมูล คุยกันเองชิลๆได้เลยที่ — Facebook  Techhangout พูดคุย Smartphone gadget 

Comments กันได้เลย !

Comments

0 Shares