POCO นั้นถือว่าเป็นแบรนด์ที่ค่อนข้างรู้จักกันดีตั้งแต่รุ่นแรกๆที่เปิดตัว และมีสเปกต่อราคาที่คุ้มค่าอย่างมากจนต่อเนื่องมาเรื่อยๆจนถึงรุ่น X3 NFC รุ่นล่าสุดที่มาพร้อมกับสเปกที่จัดเต็มในเรทราคาที่ดีเช่นเดิมอีกทั้งยังใส่ในเรื่องของ สเปกกล้องที่เน้นๆ64MP รวมถึงงานออกแบบวัสดุที่ดูดีขึ้นเยอะ ในแง่ของ CPU ยังใส่ Snapdragon 732G ให้มาด้วยอีก ทั้งยังมาพร้อมกับ การชาร์จไว 33W ถือว่าดูดีในการใช้งานของมือถือเรทประมาณนี้และแถมที่ชาร์จมาให้ในกล่อง ทางด้านงานออกแบบทาง POCO เองพยายามฉีกงานออกแบบไม่ให้เหมือนค่ายอื่น หรือมีการเปลี่ยนแปลงจากเดิมเยอะขึ้น ถือว่าแปลกใหม่และไม่เหมือนใครไม่อิงงานออกแบบคนอื่น และกล้าที่จะออกแบบมากขึ้นถือว่าเป็นจุดที่ดี อีกทั้งในไทยก็เปิดตัวได้ไวและนำเข้ามาขายตามจากเมืองนอกมาติดๆทำให้ ผู้ใช้งานได้สัมผัสได้ไวกว่าที่คิด

Poco X3 NFC รุ่นใหม่ที่เป็นสมาร์ทโฟนรุ่นกลางที่มาพร้อมหน้าจอ 6.67 นิ้วที่มีรีเฟรชเรทสูงสุด 120Hz และความถี่การตอบสนอง 240Hz ส่วนภายในตัวเครื่องจะใช้ชิปประมวลผล Snapdragon 732G ที่มาพร้อม RAM 6GB และมีระบบระบายความร้อนแบบ liquid cooling 1.0 Plus อีกทั้งยังมีท่อนำความร้อนและแผ่นแกรไฟต์คู่ ที่ลดอุณหภูมิลงได้ถึง 6 องศาเซลเซียส กล้องหลังของ Poco X3 NFC มาพร้อมกล้องหลัง 4 ตัวประกอบด้วย กล้องตัวหลัก 64MP ที่ใช้เซนเซอร์ Sony IMX686 + กล้องมุมกว้าง 8MP + กล้องมาโคร 2MP + กล้องสำหรับถ่าย Portrait 2MP ส่วนกล้องหน้ามีความละเอียด 20MP ตัวเครื่องจะมาพร้อมเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่อยู่ด้านข้างตัวเครื่อง และมาพร้อมแบตเตอรี่ความจุ 5,160mAh ซึ่งรองรับชาร์จเร็ว 33W ที่สามารถชาร์จแบตได้ 62% ในเวลา 30 นาทีและชาร์จแบตได้ 100% ในเวลา 65 นาที ซึ่งถือว่าค่อนข้างน่าสนใจอย่างมากเลยทีเดียว และมาในเรทราคาที่จับต้องได้ง่าย.  POCO X3 NFC เปิดตัวในไทยมาที่ 6,999 บาท พร้อมกับสี น้ำเงินและสีดำ ในสเปค RAM 6 GB STORAGE  64 GB  และ 7,999 บาท RAM 6GB STORAGE 128GB

UNBOX

  • ตัวเครื่อง POCO X3 NFC
  • เคสใส TPU
  • หัวชาร์จ 33W
  • สาย USB-C
  • คู่มือ และ ที่จิ้มซิม
  • ฟิล์มกันรอยติดมาให้แล้วบนหน้าจอ

หัวชาร์จแบบ 33W พร้อมใช้งานและสามารถรองรับได้ทันทีใช้งานได้สูงสุดของรุ่นนี้ พร้อมกับสาย USB-C ถือว่าแรงสุดที่รองรับได้ไม่ต้องไปหาซื้ออะไรเพิ่มเติมสำหรับทาง POCO X3 NFC รุ่นนี้ให้มาพร้อมใช้งาน แต่เป็นหัวกลม 2 ขา อาจจะเสียบได้ไม่แน่นหรือใช้งานไม่แน่นเท่า ขาแบน 2 เท่าไรนักเท่าที่ทดสอบกันมาถ้าไปใช้งานนอกสถานที่

ตัวเคสนั้นทำออกมาได้กระชับ และมีความหนาเหมือนกับรุ่นก่อนหน้าครั้งนี้เหมือนจะทำวัสดุออกมาได้ดีกว่าเดิมนิดนึงครับตัวเคสเป็นสีใสปกติ ตัวขอบกินเข้ามาบนหน้าจอ มีความหนาสูงเท่ากันกับหน้าจออาจจะไม่ปกป้องเท่าไร ทำให้เวลาวางหรืออะไรนั้นไม่ได้ปกป้องเท่าที่ควรทั้งหน้าและหลัง ส่วนวัสดุหนากำลังดี และมี จุกปิดพอร์ตมาให้ สำหรับช่องชาร์จ USB-C ถือว่าปกป้องได้ระดับนึง แต่ตัวป้องกันหน้าจอและเลนส์กล้องนั้นจะไม่มีขอบพิเศษมาให้ คือจะปกป้องหน้าจอ หรือ เลนส์กล้องไม่ได้เลยนั้นเอง คือมันจะออกแบบมาเวลาวางคว่ำได้ไม่โดนเลนส์แต่ไม่ได้สูงออกมาเยอะมากเท่าไรนัก ที่จริงน่าจะมีขอบหนาขึ้นมากว่านี้ในการใช้งานน่าจะช่วยได้มากกว่านี้พอสมควร

ตัวเคสนั้นอาจจะไม่สามารถปกป้องหน้าจอได้เวลาวางคว่ำได้เท่าไรนัก ตัวขอบเคสมันไม่ได้มีความนูนสูงอะไรขึ้นมาแบบเยอะอะไร แต่ยังดีที่ตามมุมเหมือนจะหนาขึ้นมานิดหน่อย มีการนูนขึ้นรอบๆและทำมุมพิเศษทั้ง 4 มุมครับ ส่วนด้านหลังตรงกล้องนั้นมีนูนขึ้นมาตามความนูนของโมดูลกล้องแต่ก็ไม่ปกป้องเลนส์กล้องหลังได้ดีเท่าที่ควร เวลาวางคว่ำพื้นผิวเรียบๆก็พอกันได้ แต่ถ้าใช้งานติดฟิล์มอะไรเข้าไปก็จะนูนมาป้องกันไม่ได้ แต่ก็พอใช้งานชั่วคราวได้

DESIGN

งานออกแบบถือว่ามีความแตกต่างจากคู่แข่งตัวอื่นๆรวมถึงแตกต่างกับรุ่น 2พอสมควรแม้จะยังคงอิงดีไซน์กล้องมีเส้นสายวงกลม แต่การเปลี่ยนการวางกล้องอะไรนั้นเปลี่ยนแปลงชัดเจน มีความกล้าออกแบบมากขึ้นไม่ตามคู่แข่งแบบค่ายอื่นๆอันนี้ขอชมครับ วัสดุงานออกแบบดูดีพอสมควรแต่มีความหนานิดหน่อย กล้องหลังแอบนูนอยู่บ้าง ฝาหลังโลโก้เด่นสวยงามเล่นกับแสงสีได้ดีพอประมาณแม้จะเป็นพลาสติกก็ตาม รวมถึงมีความหนา9.4mm.และหนัก 215g ส่วนความแน่นความเนียนในงานประกอบถือว่าพัฒนาดีขึ้นมาเรื่อยๆ สำหรับแบรนด์นี้แม้จะเป็นวัสดุพลาสติกก็ตาม

หน้าจอ LCD ขนาด 6.67 นิ้ว (1080 × 2400 พิกเซล) Full HD+ อัตราส่วน 20:9 ที่มีรีเฟรชเรท 120Hz, HDR10, ใช้กระจก Gorilla Glass 5 พร้อมกับติดฟิล์มกันรอยมาพร้อมใช้งาน ดีไซน์ขอบหนาตามระดับราคานี้

ขอบเครื่องด้านล่างนั้นจะเห็นว่ามีความหนามากกว่าส่วนอื่นๆนิดหน่อย ส่วนทางด้านการควบคุมนั้นสามารถใช้งานทั้งแบบเต็มจอ และ แบบปุ่มในภาพได้ จะเห็นว่าตัวหน้าจอนั้นจะมีฟิล์มติดมาให้อยู่เป็นพลาสติกปกติ

ขอบเครื่องด้านบน ทำได้ค่อนข้างบางมาก พร้อมกับหน้าจอแบบเจาะรู พร้อมกล้องหน้า 20MP และ แทรกลำโพงอยู่ตามขอบ รวมถึง จะเห็นสถานะไฟแจ้งเตือนแทรกอยู่ ไฟ LED ขาว และ ตรงเซนเซอร์อะไรก็แทรกไว้ทั้งหมดเลย

ขอบเครื่องด้านบนอันนี้ถือว่าน่าสนใจ เพราะให้มาทั้งเรื่องของไมค์ตัดเสียง และไมค์อีกตัวสำหรับการเก็บเสียง รวมถึงรองรับการใช้งาน IR หรือการสั่งงานเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ใช้งานได้จริงมากๆระบบนี้ค่ายนี้ยังคงใส่เข้ามาให้ด้วยเช่นกัน

ในด้านล่างเราจะเห็นลำโพงหลักตัวแรกในด้านซ้ายสุดพร้อมกับ ไมค์อัดเสียง และ รู USB-C รวมถึงรู 3.5มม.ก็ยังใส่เข้ามาให้ไม่ได้ตัดออกไปไหน หรือว่าค่อนข้างดีเลยทีเดียวและเป็นรุ่นที่มาพร้อมกับลำโพงคู่ด้วยนะในเรทราคานี้

ขอบเครื่องทางด้านขวานั้นจะเป็น ปุ่มเพิ่ม-ลดเสียง และมาพร้อมกับ ปุ่ม POWER พร้อมการรองรับสแกนนิ้วไปในตัวครับ ปุ่มนั้นจะสามารถกดลงไปได้เป็นปุ่มปกติ และสแกนนิ้วได้แบบสัมผัส ตัวเครื่องมีความหนาอยู่ระดับนึงเลยนะ

ขอบเครื่องด้านซ้ายนั้นจะเป็นที่อยู่ของถาดซิมแบบ Hybrid Slot พร้อมกับรองรับการเพิ่ม Micro-SD แน่นอนว่าถาดซิมนั้นมียางซีลกันน้ำมาให้ด้วยสำหรับการป้องกันน้ำกระเด็นพวกนี้รองรับ IP Rating  53 กันน้ำกระเด็นได้

ทางด้านกล้องหลังนั้นดีไซน์เหมือนจะพยายามทำให้กลม แต่ก็ยังไม่กลมซะทีเดียวเพราะเดี๋ยวจะเหมือนกับค่ายอื่นเลยทำให้มีการเปลี่ยนแปลงดีไซน์ไม่ให้กลมมากนัก ตัวกล้องเลนส์หลักวางตรงกลางพร้อมอีก 3 ตัวล้อมรอบครับแอบแปลกๆนิดหน่อยแต่มองนานๆก็น่าจะชินกัน มาพร้อมกับ  กล้องหลัง AI 4 ตัวความละเอียด 64 ล้านพิกเซล ถ่ายวิดีโอความละเอียด 4K ได้ถึง 30 เฟรมต่อวินาทีเลนส์หลัก ความละเอียด 64 ล้านพิกเซล ขนาด 6μm ซุปเปอร์พิกเซลแบบ 4-in-1 เลนส์อัลตร้าไวด์ (ultra-wide) ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล มุมมอง 119 องศา เลนส์มาโคร (Macro) ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล เลนส์ depth ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล ค่อนข้างครบในการถ่าย

ทางด้านฝาหลังมีการเล่นลวดลายสวยงามตรงกลางคล้ายๆกับมีพื้นผิวพิเศษแต่จริงๆนั้นจะเป็นซ่อนลายอยู่ข้างในพร้อมกับโลโก้เด่นๆ POCO แนวนอนค่อนข้างชอบการใช้โทนสีและออกแบบพอสมควร คือแตกต่างกับมือถือในเรทนี้ของคู่แข่งมากๆ และแม้จะเป็นพลาสติกแต่ก็ออกแบบเงาสวย และสะท้อนได้ดีพอสมควรเลยเล่นกับแสงสวยงาม พร้อมกับการออกแบบวงกลมตรงกล้องก็ทำให้ดูสมกับขนาดของตัวเครื่องอยู่เหมือนกันและขอบก็โค้งรับมือได้ดี

SPEC

  • หน้าจอ LCD ขนาด 6.67 นิ้ว (1080 × 2400 พิกเซล) Full HD+ อัตราส่วน 20:9 ที่มีรีเฟรชเรท 120Hz, HDR10, ใช้กระจก Gorilla Glass 5
  • ชิปเซต Snapdragon 732G 8nm ที่มาพร้อมการ์ดจอ Adreno 618
  • RAM LPDDR4X 6GB + storage (UFS 2.1) 64GB / 128GB
  • Android 10 ที่ครอบด้วย MIUI 12
  • ซิมคู่แบบ (nano + nano / microSD)
  • กล้องหลัง 64MP (f/1.89) ที่ใช้เซนเซอร์ Sony IMX682, LED Flash + กล้องหลังมุมกว้าง 119° 13MP (f/2.2) + กล้องตรวจจับความลึก 2MP + กล้องมาโครขนาด 4cm 2MP (f/2.4)
  • กล้องหน้า 20MP (f/2.2)
  • ปุ่มสแกนนิ้วด้านข้าง, เซนเซอร์อินฟราเรด
  • รูแจ็ค 3.5mm, ลำโพง Stereo
  • ตัวเครื่องกันละอองน้ำ (มาตรฐาน IP53)
  • ขนาดตัวเครื่อง: 165.3×76.8×9.4mm; น้ำหนัก: 215กรัม
  • รองรับ Dual 4G VoLTE, Wi-Fi 802.11 ac (2.4GHz + 5GHz), VoWiFi, Bluetooth 5, GPS/GLONASS/Beidou, NFC, ใช้พอร์ต USB Type-C
  • แบตเตอรี่ความจุ 5,160 mAh ที่รองรับชาร์จเร็ว 33W

SCREEN

ทางด้านหน้าจอนั้นในรุ่นนี้มาพร้อมกับการออกแบบหน้าจอแบบเจาะรู มาในขนาด 6.67 นิ้ว. ความละเอียด FHD+ (2400 x 1080 พิกเซล) อัตราส่วน 20:9 ใช้งานหน้าจอแบบเจาะรูตรงกลาง ใช้กระจก GORILLA GLASS 5 พร้อมความสว่างสูงสุด 450 Nits รองรับ HDR 10 รวมถึง NTSC 84% ครับ ส่วนทางด้าน CONTRAST 1500:1 แน่นอนว่าเรื่องหน้าจอนั้นการแสดงผลอะไรทำได้สวย และสู้แสงกำลังดีอาจจะไม่ได้โหดมากนักแต่ก็พอใช้ได้ครับ แต่ถ้าเจอแสงโหดๆอาจจะไม่สุดเท่าไรและใช้งานไม่เด่นนักแอบเสียดายอยู่นะ แสงสีหน้าจอสวยมีมิติ ใช้กระจกดี ขอบบางสวยงามและในรุ่นนี้มีการปรับใช้งาน 120Hz ทำให้ใช้งานค่อนข้างลื่นไหลพอสมควรเลยทีเดียว

ในแง่ของการใช้งานหน้าจอ 120Hz ถือว่ารองรับได้สบายๆในการใช้งานทั้งเรื่องของการเลื่อนดูภาพต่างๆหรือจะเป็นการทำงานทั่วไป และเล่นเกมแต่ก็ต้องมีเกมที่ออกมารองรับนั้นจะเหมาะกว่าพอสมควรเลยแหละแต่ก็สามารถปรับได้ว่าจะเอา 60 หรือ 120 ครับในเรื่องของการกินไฟนั้นไม่ได้มีผลแบบชัดเจนอะไรนักปรับ 120ไว้ก็จะดีกว่านั้นเองเท่าที่ทดสอบนั้นไม่ได้แตกต่างกันชัดมากนัก แต่ความรู้สึกเวลาใช้งานนั้นแตกต่างกันชัดเจนเปิดไว้ย่อมดีกว่า แต่บางทีก็แอบเสียดายว่าถ้าเป็นจอ 60 AMOLED ก็จะได้แสงสีเด่นขึ้น สู้แสงได้มากก็ต้องยอมแลกเปลี่ยนกันไปครับ

ANTUTU

คะแนน Antutu นั้นในรุ่นนี้ใช้งาน Snapdragon 732G ตัวแรงเอาเรื่องเมื่อเทียบกับราคาของมัน ในรุ่นนี้มาพร้อมกับ RAM 6GB ความจุขนาด 128GB ส่วนคะแนนจากที่ทดสอบนั้นทำไปได้ที่ 279K ก็ถือว่าเป็นมือถือในเรทราคาต่ำกว่าหมื่นที่เน้นเรื่องสเปกความคุ้มค่าได้ดีมากๆอีกรุ่น ทั้งการใช้งานและเล่นเกม เลยทำให้มันเป็นตัวเลือกสำหรับสายเกมได้ดีและในการใช้งานด้านอื่นๆ CPU ค่ายนี้ก็รองรับการใช้งานได้อิสระไม่ต้องกังวลเลยแหละครับสบายๆ

ANDROBENCH

ในด้านของหน่วยความจำตัวนี้ใช้งาน UFS 2.1 ครับถือว่าน่าสนใจเลย อาจจะไม่ได้เป็นตัวสเปกแรงมากแต่เทียบราคาของมันก็ดีกว่า EMMC แน่นอน ในการอ่านเขียนจะทำไปได้ที่ 496 และ เขียน 176 ครับ ในการใช้งานทั่วไปก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร ดีกว่ารุ่นก่อนๆและเทียบเท่ากับมือถือในเรทราคาหมื่นต้นๆของบางค่ายได้เลย

CAMERA 

ในด้านกล้องหลังนั้นถือว่าจัดเต็มเอาเรื่องพอสมควร ทั้งในแง่ของสเปกและจำนวนกล้อง เป็นเลนส์หลักที่ใช้งาน 64MP (f/1.89) ที่ใช้เซนเซอร์ Sony IMX682, LED Flash + กล้องหลังมุมกว้าง 119° 13MP (f/2.2) + กล้องตรวจจับความลึก 2MP + กล้องมาโครขนาด 4cm 2MP (f/2.4) และมาพร้อมกับ กล้องหน้า 20MP (f/2.2) ถือว่าในแง่ของสเปกนั้นถือว่าเหลือๆในการใช้งานพร้อมกับมีทั้งเรื่องของโหมดเยอะแยะมากทั้งการถ่าย ละลายหลัง การถ่ายกลางคืนต่างๆรวมถึงการใช้งานถ่าย วีดีโอที่มีโหมดเข้ามาเยอะแยะมากขึ้น หรือจะเป็นการปรับแต่งหลังถ่ายด้วยเช่นกันสำหรับทาง POCO X3 NFC รุ่นนี้ถือว่ารองรับได้สบายๆไม่มีปัญหา ส่วนคุณภาพนั้นถือว่าใช้งานได้ดีเลยทีเดียว ทั้งในแง่ของเลนส์หลักและเลนส์มุมกว้าง โหมดกลางคืนถือว่าทำได้ดีรองรับการใช้งานได้ดีถ่ายง่ายและสวย แต่เลนส์มุมกว้างไม่รองรับการถ่ายโหมดกลางคืน ถ้ามองในเรทนี้ก็ถือว่าไม่ได้น่าเกลียด ส่วนการละลายหลังยังคงมีความแปลกๆนิดหน่อยในแง่ของระยะ แต่ถ่ายทั่วไป และกลางคืนถือว่าโอเคเลยทีเดียว ส่วนเลนส์หลักสามารถถ่ายได้ง่าย โฟกัสไว แต่สียังมีแปลกๆนิดหน่อยในสภาพแสงยากๆ

POCO X3 NFC

ตัวคุ้มค่าในชื่อ POCO อีกครั้งในครั้งนี้มาพร้อมกับการทำราคาที่จับต้องได้ง่าย แต่มาในสเปกที่จัดเต็มพอสมควรทั้งเรื่องของ Snapdragon 732G อีกทั้งมาด้วยหน้าจอแบบเจาะรูให้ค่ารีเฟรชเรทที่ 120Hz และมาพร้อมกับลำโพงคู่ที่เสียงดังใช้ได้เลยทีเดียว และยังมีการออกแบบที่แปลกตาแปลกใหม่กว่าคู่แข่งที่จะไปแนวทางเดียวกันหมดแต่รุ่นนี้กล้าที่จะแตกต่างครับถือว่าดีมากๆ ส่วนทางด้านกล้องก็ไม่ใช่เล่นๆถ่ายสวยถ่ายง่ายพอสมควรสำหรับกล้องหลัง แต่ทางด้านกล้องหน้าอาจจะยังไม่ถูกใจสายถ่ายกล้องหน้ามากนัก เมื่อเทียบคู่แข่งยังไม่ได้เด่นเท่าที่ควรสำหรับตัวนี้ ส่วนตัวระบบ หน้าตาการใช้งานเป็นที่คุ้นเคยกันดีสำหรับระบบ MIUI และเป็นรุ่นล่าสุด MIUI 12 for POCO based on Android 10 ถือว่าใช้งานยาวๆครับ และให้การชาร์จไว 33W เต็มภายใน 65นาทีถือว่าเอาเรื่อง แต่ทั้งนี้ในการใช้งานจริง ซักระยะนึงรวมถึงการทดสอบแบบจัดเต็มทั้ง แบต กล้องถ่ายรูปนั้นจะเป็นยังไงรอติดตามรีวิวได้เร็วๆนี้ครับ

สำหรับพรีวิวนี้ผมก็ต้องขอตัวลาไปก่อนสำหรับรุ่นอื่นๆก็ติดตามกันได้เลย ถูกใจฝากกดไลค์กดแชร์ด้วยนะครับ  มีข้อผิดพลาดประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ  เพื่อนๆสนใจอยากให้พวกผมรีวิวรุ่นไหนสามารถ Inbox มาบอกเราได้เลยนะ
ฝากไลค์เพจ FACEBOOK เราด้วยนะครับ >>>>>>>>>  TECHHANGOUT

เข้าร่วมกลุ่ม TECHHANGOUT พูดคุยแลกเปลี่ยน ข้อมูล คุยกันเองชิลๆได้เลยที่ — Facebook  Techhangout พูดคุย Smartphone gadget 

Preview by Nineztr 

Comments กันได้เลย !

Comments

0 Shares