ถ้าพูดถึงสมาร์ทโฟนที่คุ้มค่าแล้วแน่นอนว่า 2 ค่ายนี้ก็ถือว่าเป็นตัวเลือกสำหรับใครหลายๆคนครับ ทางค่าย vivo realme นั้นก็มีสมาร์ทโฟนที่เรทราคาใกล้ๆกันมากพอสมควร และหลายๆคนอาจจะตัดสินใจว่ามีงบ 6,000 บาทถ้วนๆจะเอารุ่นไหนดีระหว่าง 2 ตัวนี้ครับ แน่นอนว่าการเทียบเราอ้างอิงจากเรทราคาเป็นหลัก เอาแบบภาษาคนทั่วไปเลยว่า ถ้ามีงบเท่านี้จะเอารุ่นไหนดี จึงได้นำรุ่น vivo y91 และ realme 3 มาเทียบให้ดูกันชัดๆในรอบนี้ ซึ่งต้องบอกว่าหลังๆ ตลาดในเรทราคา 6,000 นั้นสู้กันสนุกมากขึ้นเรื่อยๆและมีตัวเลือกหลากหลายอยู่ที่ว่าเราจะเน้นอะไร แต่ใน 2 รุ่นนี้นั้นจะเป็นยังไงมาดูรีวิวกันเลย

realme และ vivo นั้นทั้ง 2 รุ่นนี้มีราคาที่ใกล้เคียงกันมากๆ คือ 5,999 บาทสำหรับ Vivo และ 5,990 บาทสำหรับ realme ถือว่าใกล้กันมาก แต่แน่นอนคู่นี้เกิดมาห่างกันมากๆคือ realme 3 นั้นพึ่งเปิดตัวไปไม่นานเลยได้อะไรที่สดใหม่กว่า ในส่วนของ vivo นั้นอาจจะมานานแล้วซึ่งในตอนนี้ทางค่าย vivo ก็ยังไม่มีตัวใหม่ออกมา เราเลยขอเทียบในเรทราคาที่ใกล้เคียงกันมากที่สุดก่อน และมาดูว่ามันมีอะไรที่แตกต่างกันบ้าง ในแง่การออกแบบต่างๆใกล้กันมากๆ หน้าจอแบบติ่งหยดน้ำ กล้องหลัง 13 ล้านพิกเซล + 2 ล้านพิกเซล เท่ากันเลยสำหรับจับระยะ รวมถึงดีไซน์การเล่นสีต่างๆใกล้เคียงกันครับ เรื่องของสเปคก็ไม่ได้หนีกันมากในแง่ของค่าย CPU ที่มาพร้อม MTK แต่ความแรงอาจจะแตกต่างกันมากพอสมควรเลย ส่วนในการใช้งานนั้นจะแตกต่างกันมากแค่ไหนต้องลองใช้งานกันครับ

SPEC

ในแง่ของสเปคทั้ง 2 รุ่นถือว่าใกล้เคียงกันมากๆ ทั้งความจุ สเปคกล้องหลัง ขนาดหน้าจอ รวมถึงใช้ CPU MTK เหมือนกันด้วยแม้จะเป็นคนละรุ่น ส่วนการรองรับ Wifi อะไรทั้งหลายนั้นก็เหมือนกัน ส่วนในเรื่องของแรมนั้น realme ให้ RAM มาที่ 4GB ซึ่งจะแตกต่าง กับฝั่งของ Vivo ให้แรมมาแค่ 3 GB แต่ในด้านความจุนั้นเท่ากันที่ 64 GB EMMC 5.1 ทั้งคู่เลย กล้องหลังให้มาด้วยกัน 2 ตัว ที่ความละเอียดเท่ากัน รวมถึง กล้องตัวที่ 2 ก็เป็นกล้องวัดระยะเหมือนกัน แต่แตกต่างกันในเรื่องรูรับแสงโดยทาง realme นั้นมีให้มากว้างกว่าที่ F1.8 ส่วนของ Vivo F2.2 ครับ กล้องหน้านั้นมีความละเอียดขนาด 8 MP ที่ F1.8 สำหรับ Vivo ส่วนของ realme นั้นให้มาที่ 13 MP ที่ F2.0 ครับ แตกต่างกันทั้งรูรับแสงและความละเอียดกันทีเดียวเลย ส่วนเรื่องอื่นๆ เช่นการสแกนนิ้ว ช่องหูฟังทั้งหลายนั้น มีมาให้เหมือนกันรวมถึงรองรับ Wifi 2.4 Ghz เหมือนกันครับ และไม่รองรับ 5Ghz ด้วยเช่นกัน ส่วนในเรื่องของระบบ Android นั้นก็แตกต่างครับ realme มาพร้อมรุ่นล่าสุดเลย Android 9 แต่ของ Vivo ยังคงเป็น 8.1 อยู่นั้นเอง ความจุแบตก็แตกต่างกันประมาณ 200mAh เป็นพอร์ท Micro USB ทั้งคู่สำหรับชาร์จไฟเข้า โดยรวมแล้วถือว่าสเปคใกล้กันมากๆครับ

PRICE

  • realme 3 RAM 4 GB STORAGE 64 GB – DYNAMIC BLACK / RADIANT BLUE   
  • ราคา 5,990 บาท  
  • VIVO Y95  RAM 3 GB STORAGE 64 GB – OCEAN BLUE / STARRY BLACK 
  • ราคา  5,999 บาท

DESIGN

การออกแบบดีไซน์แตกต่างกันค่อนช้างชัด ไม่ว่าจะเป็นการใช้โทนสีการเล่นสี หรือจะเป็นความโค้ง ความรับมือเวลาถือพวกนี้ครับ เมื่อสัมผัสแล้วแตกต่างกันชัดเจนไม่ได้เหมือนไปซะทีเดียว ตัวทางด้าน Vivo จะทำออกมาโค้งรับมือได้ดีกว่า ดูบางเบากว่าเวลาจับถือ รวมถึงการไล่เฉดสีที่ค่อนข้างสวยและแตกต่างโดดเด่นมาก พร้อมมีการเล่นสีจุดๆด้วยครับสะท้อนแสงสวยงาม ส่วนของ realme ยังเป็นฝาหลังแบบเรียบๆ สีเดียวแต่เล่นเลเยอร์สะท้อนแสงนิดหน่อย ด้านหลังเรียบๆไม่โค้งรับมือเท่าไรนัก และมีสแกนนิ้วมาให้ด้วยกันทั้งคู่ครับ ขนาดรวมๆไม่ต่างกันมากนักแต่ Vivo ทำออกมาแอบดูสวยและบางกว่า

หน้าจอทั้ง 2 รุ่นนี้มีความคมชัดขนาดพอๆกันครับที่ 6.22 HD+ พร้อมติ่งแบบหยดน้ำเหมือนกันไม่สามารถปิดติ่งได้นะครับสำหรับในทั้ง 2 รุ่นนี้ดีไซน์ใกล้กันมากๆเลย รวมถึงขนาดตัวเครื่องก็ใกล้เคียงกันไม่ได้หนีกันไปมากครับ

เรามาดูขอบด้านบนส่วนหน้าจอกันครับ ในส่วนบนนี้คือเป็นติ่งแบบหยดน้ำ ทั้งคู่ และ ไม่สามารถปิดติ่งได้ทั้งคู่นะครับ ติ่งหน้าจอนั้นมีความโค้งอะไรแบบเดียวกันเป๊ะๆน่าจะไม่ได้หนีกันเลยในเรื่องนี้ แต่ที่แตกต่างกันชัดๆคือรูลำโพงครับของทาง Vivo นั้นจะเปิดช่องรูลำโพงไว้ยาวกว่า และดูใหญ่กว่าครับแต่ใช้งานจริงๆก็ไม่เจอจุดที่แตกต่างกันเท่าไรนักเวลาใช้งานสนทนาพวกนี้ ขอบความหนาก็พอๆกันครับทั้งขอบบนและขอบล่าง

ในตัวขอบล่างมีองศาที่คล้ายๆกันอยู่บ้าง ในเรื่องของมุมขอบโค้งพวกนี้และใช้งานได้ค่อนข้างดีครับไม่ได้หนาเกินไป มีขนาดเท่ากันเลยแหละ ส่วนตัวปุ่มนั้นเป็นปุ่มบนจอทั้งหมดและสามารถสลับตำแหน่ง เปลี่ยนแปลงได้ และสามารถใช้งานเต็มจอแบบไม่มีปุ่มได้เช่นกัน จะเห็นของ realme นั้นมีความหนากว่าเล็กน้อยครับตรงพื้นที่สีดำ

ในด้านล่างของตัวเครื่องทั้ง 2 รุ่นนั้น พอร์ตต่างๆก็ให้มาครบ ตำแหน่งการวางคล้ายกันทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น ช่องหูฟัง 3.5มม. รูไมค์ ช่องเสียบชาร์จแบบ Micro-USB รวมถึงลำโพงหลักด้วยครับ ตัววัสดุเงาเหมือนกันแต่จะเห็นความโค้งอย่างที่บอกกันไปครับว่า Vivo จะโค้งรับได้ดีกว่า และดูเหมือนจะบางกว่านิดหน่อย

เรามาต่อในมุมด้านซ้ายกันบ้างครับ จะเป็นส่วนของช่องใส่ซิมเป็นหลักของทั้ง 2 รุ่น แต่ในฝั่ง realme นั้นจะมีปุ่ม เพิ่ม-ลดเสียงอยู่ด้วย ส่วนทางด้าน Vivo นั้นจะไม่มีนะครับ อันนี้ก็แล้วแต่คนถนัดเลยครับว่าชอบแบบไหนมากกว่ากัน

ในด้านขวาของตัวเครื่องนั้น ทางด้าน Vivo เป็นส่วนของของปุ่ม Power – เพิ่ม-ลดเสียง และใช้วัสดุแบบเงาครับ ส่วนทางด้านของ realme นั้นเป็นส่วนของปุ่ม Power เพียงอย่างเดียวเพราะปุ่มที่เหลือได้ถูกย้ายไปอีกฝั่งทั้งหมด

ส่วนขอบด้านบนนั้นทั้งคู่ ไม่มีรูไมค์มาให้ แต่ถ้ารุ่น 2 Pro แต่ก่อนจะมีมาให้ 1 รูนะครับ ตัวกล้องความนูนออกมาด้วยเล็กน้อย แต่ความโค้งมนนั้นก็แตกต่างกันแต่ถือว่าทาง realme 3 นั้นดีกว่ารุ่นก่อนตรงที่ตัดฝาหลังตรงๆ ทำให้จับถนัดมือมากกว่าเดิมครับ

โดยรวมในด้านของฝาหลังนั้น การดีไซน์ก็ยังถือว่าใกล้เคียงกันอีกครับ ทั้งการไล่สีและแนวคิดของการออกแบบถ้าจำกันได้ทาง realme 3 ก็มีฝาหลังแบบ Vivo เป๊ะๆ ถือว่าเหมือนกันมากๆ แต่ก็มีจุดแตกต่างกันที่การวางโลโก้ที่ต่างกันชัดเจน รวมถึงกล้องหลัง สแกนนิ้วคนละรูปทรง และ ตรงโมดูลกล้องก็แตกต่างกันด้วยนะ ส่วนวัสดุก็เป็นแบบคล้ายๆกันครับ ไม่ใช่กระจก จากที่ลองก็ถือว่าเป็นรอยขนแมวค่อนข้างง่าย แต่ของ realme 3 จะเห็นชัดกว่าเล็กน้อย

ตัวกล้องหลังนั้นมาพร้อมกล้องหลังคู่เหมือนกัน ตัวที่ 2 เป็นกล้องวัดระยะเหมือนกันครับ แตกต่างกันที่รูรับแสงเป็นหลักเพราะของ vivo F2.2 แต่ทาง realme F1.8 นั้นเอง ส่วนตัวกล้องของ realme นั้นจะเห็นวงแหวนส้มๆนั้นเรียกว่า realme ring เป็นการออกแบบเล็กๆน้อยๆที่ใส่เข้ามาในรุ่นใหม่ และน่าจะเห็นในอีกหลายๆรุ่นที่ออกมา

PERFORMANCE

ประสิทธิภาพของทั้ง 2 รุ่นเมื่อดูจากสเปค ก็น่าจะพอเดากันได้ว่ามันอาจจะแตกต่างกันเยอะและแน่นอนว่าผลทดสอบก็ออกมาไม่เหนือกว่าที่คิดเท่าไร คือทางด้าน Vivo นั้นทำไปได้ 75,846 คะแนน ในการใช้  MTK P22 แต่ของ  realme  นั้นทำไปได้ 133,585 เรียกได้ว่าแตกต่างกันแบบชัดเจนครับ ในการใช้ MTK P60 ทำคะแนนหนีไปได้เยอะ ส่วนเรื่องของความจำยังเป็น EMMC 5.1 ทั้งคู่ในการบันทึกเก็บข้อมูลต่างๆ คะแนนดูใกล้กันมากๆ และเรื่องการหันมาใช้ MTK ทั้งคู่อันนี้ต้องบอกว่ามีความแรงที่ดีไม่ค่อยต่างกับ Snapdragon แต่ที่หลายๆคนห่วงอาจจะเป็นเรื่องของ GPU ที่ใช้ในการเล่นเกมอะไรต่างๆจะดีขึ้นขนาดไหนต้องทดสอบในด้านเกมส์กันต่อไป แต่ CPU ไม่ต้องกังวล และในด้านเซนเซอร์นั้นมีอะไรให้มาเหมือนกันทั้งหมด รวมถึงรองรับ Winevine L3 เท่านั้นสำหรับดู Netflix HD

SOFTWARE UI

ด้านซ้าย Vivo และ ด้านขวา realme : ทางด้านของระบบ Vivo Android 8.1 และ realme Android 9 ครับ หน้าตาแน่นอนว่าแตกต่างกันค่อนข้างชัดเจนทางด้าน realme นั้นมาพร้อม Colour OS 6.0 และ ทาง Vivo นั้นใช้ Funtouch 4.5 realme ครั้งนี้มี Appdrawer มาให้แล้วส่วนของ Vivo นั้นยังไม่มีนะครับ ตัวนาฬิกาที่โชว์นั้นแตกต่างกันไป การจัดวางตัวเลขต่างๆ ส่วนธีมรวมๆโทนสีก็สดใสค่อนข้างสว่างส่วนการแจ้งเตือนต่างๆก็เด้งดี เตือนได้ดีทั้งคู่ในหลายๆแอพส่วนหน้าล็อคนั้นก็มีการแบ่งหมวดหมู่เป็นปกติของระบบ สามารถลากลงมาเพื่อดูเพิ่มเติมได้ รวมถึงสามารถปัดเคลียร์หัวข้อต่างๆได้

ด้านซ้าย Vivo และ ด้านขวา realme หน้าตาเมนูนั้นก็แตกต่างกันไม่มาก แต่มีการแยกโซนให้ดูง่ายเหมือนกันครับ เสียที่ของ Vivo นั้นกดหาการตั้งค่าไม่ได้ในหน้าตั้งค่าหลักครับ ในหน้าการตั้งค่าแบบเร่งด่วนนั้นจะแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ของทาง Vivo  นั้นจะปัดจากด้านล่าง และมีแอพที่ใช้บ่อยๆ การตั้งเสียง ความสว่าง และ ตั้งค่าแบบด่วนให้ใช้งานกัน ส่วนของ realme นั้นลากจากด้านบน ปกติปรับแสงและตั้งค่าด่วนครับหน้าตาจะแตกต่างกับรุ่นก่อนหน้าแบบชัดเจนเปลี่ยนมาเป็นสี่เหลี่ยมและปรับหน้าตาใหม่ทั้งหมดเลยถือว่าสวยงามขึ้นและใช้งานได้ง่ายขึ้นครับในการตั้งค่าแบบด่วน

ด้านซ้าย Vivo และ ด้านขวา realme หน้าตาการตั้งค่าการใช้งานอื่นๆพวกฟีเจอร์เสริม โคลนแอพ โหมดเกม แบ่งหน้าจอ ล็อคแอพ อะไรพวกนี้นั้นมีมาให้คล้ายๆกันในการใช้งานครับ ส่วน การปรับแต่งเสียงนั้นหน้าตาของทาง Vivo จะมีการเลือกปรับได้มากกว่าทั้งเสียงแบบทิศทางต่างๆและตัวหูฟังรวมถึง EQ แต่ในด้านของ realme นั้นปรับแต่งในเรื่องของ EQ ได้เหมือนกันครับแต่ไม่มี Effect และปรับย่านเสียงแถบต่างๆนั้นได้น้อยกว่าของ  Vivo ครับผม

ด้านซ้าย Vivo และ ด้านขวา realme คียบอร์ดที่มากับเครื่องนั้นทาง Vivo จะเป็นคีย์บอร์ดอีกแบบนะครับถ้าใครใช้ Vivo ก็น่าจะคุ้นเคยกันดี แต่ทาง realme จะเป็นคียบอร์ดของ Google ครับอันนี้ก็แล้วแต่ความชอบเลยครับว่าจะถนัดอันไหนอะไรมากกว่า แต่แน่นอนว่าพวกนี้สามารถโหลดเพิ่มได้ถ้าเราไม่ถนัด ยังไงก็สามารถปรับเปลี่ยนได้ไม่ต้องห่วงครับ ส่วนตัวปุ่มการนำทางทั้งหมดนั้นมีมาให้เหมือนกัน สามารถสลับตำแหน่งได้ สามารถใช้งานแบบเต็มจอได้ แต่  Vivo สามารถปรับแต่งตัวไอคอนได้ครับว่าจะชอบหน้าตาแบบไหน และของ realme Android 9 จะมีแบบใหม่มา 2 แบบ คือเหลือ 2 ปุ่มนั้นเองครับ

SPEEDTEST

SCREEN

ในส่วนของหน้าจอทั้ง 2 รุ่น เป็นแบบ HD+ เท่ากัน และมีขนาด 6.22 นิ้ว ทางด้านการออกแบบก็ไม่ต่างกัน เมื่อลองใช้งานจริงๆ เทียบกันตรงๆจะเห็นว่ามันมีอะไรที่ต่างนิดหน่อย ในเรื่องของสีสัน ความสว่างก็แตกต่างกันชัดเจนรวมถึงมุมมองด้วย จริงๆถ้าไม่เทียบกันมันก็ไม่ได้หนีกันมากเลยนะในเรื่องของความสว่างหรือสี แต่ถ้าเทียบกันแล้วจะเห็นชัดเจนเลย สีของ Realme ทำได้กว้างกว่า เก็บได้ครบกว่า และมีความสว่างมากกว่าแบบชัดเจนครับ สีจะเข้มและสดกว่าด้วย ซึ่งฝั่งของทาง Vivo นั้นจะตุ่นๆหน่อยไม่ค่อยสดนัก และใช้งานกลางแจ้งอาจจะยากกว่านิดนึง ส่วนทางด้านของมุมมองของตัวจอนั้นเรียกได้ว่าเมื่อมองในระดับเอียงแบบภาพจอ Vivo นั้นจะดรอปลงแบบชัดเจนในมุมเดียวกันระยะเดียวกันครับ ความสว่างหายไปพอสมควร และเรื่องของสีก็ดรอปลงไปด้วยครับ น่าเสียดายมากๆในจุดนี้ เรื่องจอทั้งสเปคและในการใช้งานจริงอาจจะต้องยอมให้  realme เค้าไปครับ แต่ดีที่เวลาซูมนั้น Vivo ก็จะไม่ได้ไปกินถึงตัวติ่งของจอ

SOUND

ในเรื่องของตัวเสียงนั้นเมื่อมาเทียบกันตรงๆแบบนี้ 2 ยี่ห้อนี้ก็ยังคงให้อะไรที่มาแนวเดียวกันคล้ายๆกับตอนที่แอดมินเทียบในรุ่นเล็กกว่า คือฝั่งของ  Vivo กำลังขับมาน้อยกว่านิดหน่อย เสียงเบสบางกว่า เสียงร้องชัดกว่า ส่วนของ realme นั้นเสียงมามากกว่า ที่ระดับเสียงเดียวกัน เสียงเบส มาดีแน่นกว่า และ นุ่มกว่า โดยรวมเวทีเสียงใกล้ๆกัน เช่นฟังเพลงที่แยกดนตรีเยอะๆนั้น realme จะได้ยินมากกว่านิดเดียวครับ เป็นอะไรที่ค่อนข้างสูสี และตัวปรับเสียงนั้นมีมาให้ทั้งคู่  แต่ Vivo นั้นสามารถปรับได้มากกว่านิดหน่อย รวมถึงเลือกหูฟังของทางค่ายได้ หน้าตาการปรับจริง หรือฟีเจอร์ให้ทาง Vivo นั้นทำได้ดีกว่าในจุดนี้ เพราะปรับได้ถี่มากกก ส่วนของ realme ปรับได้ 3 ย่านหลักๆเท่านั้นครับ

SPEAKER

ทางด้านลำโพงในทั้ง 2 รุ่นมาพร้อมลำโพง 1 ตัวเหมือนกันครับ แต่แตกต่างกันในเรื่องของความดังเล็กน้อยเรื่องคุณภาพเสียงจริงๆไม่ได้แตกต่างกันชัดเจนนะครับ เสียงออกมาในโทนที่คล้ายๆกัน เสียงออกแหลมจัดและไม่ค่อยมีเบสเท่าไรครับ ส่วนในเรื่องความดังอันนี้จะค่อนข้างแตกต่างกันเพราะของ realme 3 นั้นเหมือนจะทำได้ดังชัดเจนกว่าในระดับปรับเสียงสุดทั้งคู่ ก็ถือว่ามีประโยชน์ในแง่ของเสียงเรียกเข้าหรือเวลาไปอยู่กลางแจ้งนั้นเองทำให้ได้ยินชัดเจนกว่า

GAMING

เรื่องของการเล่นเกมส์เเน่นอนว่าถ้าเรามองถึงสเปค realme 3 จะได้เปรียบสำหรับใครที่ดูรุ่นนี้ไว้เเล้วเน้นเล่นเกมจริงๆ เเนะนำในรุ่น realme 3 เลยครับ ไม่ว่าจะเรื่องของการเปิดภาพกราฟฟิกที่ได้สูงกว่า รวมไปถึง FPS ของเกมต่างๆก็สามารถทำได้ลื่นไหลกว่า vivo y91 เอาเป็นว่าลองดูในคลิปวีดีโอที่ผมนำมาฝากดีกว่าครับบ

GPS

การทดสอบการจับ GPS ในทั้ง 2 รุ่นนี้ จากที่ทดสอบทำได้ใกล้ๆกันครับ อาจจะไม่ได้จับแม่นยำหรือไวมากนัก ในการนำทาง ทั้งใต้ทางด่วน หรือ ลงอุโมงค์จริงๆไม่เจออาการรวนอะไรนะ เมื่อจับเวลาและลองใช้งานจริงๆ Vivo นั้นจะช้ากว่าแบบชัดเจน และ บางทีจะอัพเดทช้ากว่า realme แบบรู้สึกได้เลย และเมื่อใช้แอพทดสอบนั้นความไวในการจับนั้น realme ทำได้ไวกว่า 1 วิโดยประมาณครับมาขึ้นเร็วกว่า และจับได้ใกล้ๆกันต่างกันประมาณ 4-5 ดวงครับทาง realme เจอทั้งหมด 43  และจับได้ 19 ส่วนของ  Vivo นั้นเจอทั้งหมด 29 และจับได้  15 ดวงครับ ซึ่งไม่หนีกันมาก แต่การใช้ระยะเวลาจับนั้นจะแตกต่างกัน

CAMERA

กล้องหลังของทั้งคู่มาในสเปคที่ใกล้เคียงกันมากเลย คือมาพร้อมกับความละเอียด 13 ล้านพิกเซล ในกล้องตัวหลัก แตกต่างกันตรงที่ รูรับแสง ซึ่งของทาง realme มาพร้อม f1.8 ส่วนของ vivo มาพร้อม f2.2 แต่ทั้งคู่มาพร้อมกับ กล้องหลังตัวที่ 2 ที่รองรับการจับระยะที่ 2 ล้านพิกเซลเท่ากันครับ ส่วนคุณภาพ ฟีเจอร์โดยรวมนั้นแน่นอนว่า realme 3 ออกมาใหม่กว่า ทำให้หลายๆอย่าง รวมถึงมีโหมดกลางคืนที่เป็นฟีเจอร์ที่ฆ่าหลายๆแบรนด์เลยในเรทราคานี้ เพราะคุณภาพมันโหดมาก แต่ถ้ามองในการถ่ายทั่วไป การโฟกัส ระยะมุมกล้องความกว้างนั้น ทาง realme 3 จะนำและทำได้ดีกว่าแบบชัดเจน ทั้งเรื่องการจับโฟกัส การทำละลายหลัง รวมถึงมุมกว้างของตัวกล้อง แน่นอนว่ามันออกมาใหม่กว่า แต่ของ vivo ก็ไม่ได้แย่เท่าไรนะ ภาพ Portrait บางทีตัดขอบเนียนตากว่าด้วยครับ แม้จะออกมานานแล้ว แต่ก็มีบางจุดที่ทำได้ดีเหมือนกัน เช่นการปรับโฟกัสทีหลัง หรือปรับระยะการเบลอที่มีมาให้สะดวกต่อการใช้งานพวกนี้ครับ เรามาลองดูภาพถ่ายเปรียบเทียบกันเลยดีกว่า

CROP 

PORTRAIT 

NIGHTSCENE 

SELFIES

กล้องหน้าเป็นอีกจุดที่แตกต่างกันครับ ของ vivo เหมือนจะได้เปรียบกว่าตรงที่มาพร้อมรูรับแสง f1.8 เลยแหละ ในความละเอียด 8 ล้านพิกเซล แต่ของ realme 3 นั้นให้มาที่ f2.2 ในความละเอียดมากกว่าถึง 13 ล้านพิกเซล แต่ต้องบอกก่อนครับว่าไม่มี autofocus ทั้งคู่เลยนะ แน่นอนครับว่าในเรทราคานี้เป็นเรื่องปกติ ส่วนคุณภาพจากที่ได้ลองเอาเรื่อง สกินโทน หรือ โทนสีผิวในแง่ของความแม่นยำและสวยงามนั้นเรื่องนี้ทาง vivo ยังคงไว้ใจได้มากๆ แม้จะมีความละเอียดน้อยกว่าแต่โทนสี ความสว่างต่างๆนั้นทำได้ดีกว่าแบบชัดเจน และในเรื่องรูรับแสงกว้างกว่าก็ช่วยในจุดนี้ได้ครับ เป็นแบรนด์ที่กล้องหน้าคือจุดเด่นจริงๆ ส่วนของ realme นั้นสีอาจจะดูมืดๆหน่อยและโทนอาจจะไม่สวยเท่าไรครับ แต่ในเรื่องการละลายหลังของกล้องหน้านั้นทำได้ดีไม่แตกต่างกันครับ มีมาให้เหมือนกันทั้งคู่เลย

VIDEO

การถ่ายวีดีโอในทั้ง 2 รุ่นรองรับสูงสุดที่ FULLHD 1080P 30FPS เท่ากันครับ ต่อมาพูดถึงเรื่องของระบบกันสั่น และเสียงกันดีกว่า ในการทดสอบถือมือเดียวเดินไปทั้งคุู่นะครับ จากที่ทดสอบนั้นในทั้ง 2 รุ่นกันสั่นไม่ได้แตกต่างกันมากเท่าไรเลยครับ ซึ่งน่าแปลกใจเพราะว่าทาง realme 2 pro เคยทำได้นิ่งมากๆและก็มี 4K ด้วยครับ หรืออาจจะต้องรอรุ่น 3 pro กันอีกทีก็เป็นได้ ส่วนเรามาว่าคู่นี้กันต่อเลยครับ จริงๆแล้วก็ไม่ต่างกันในเรื่องการกันสั่นค่อนข้างสั่นไหวพอสมควรครับ ลองถือมือเดียวทั้งคู่ แต่จะต่างกันมากๆในเรื่องการอัดเสียง และ ความสว่างเวลากลางคืนที่ขึ้นอยู่กับรูรับแสงของแต่ละค่าย และ ตัว skintone ของกล้องต่างๆด้วย ในกล้องหลัง realme จะทำได้ดีกว่า สว่างกว่าและสีค่อนข้างดีกว่าครับ แต่จะมีแสงวูบวาบบ้างเล็กน้อย ส่วนของ กล้องหน้า vivo ทำได้ดีกว่าทั้งเรื่องของโทนสีผิว ความสว่างของใบหน้าเวลาถ่ายและการเฉลี่ยแสงได้ดีกว่าครับ ยิ่งถ้ากลางคืนจะเห็นชัดว่า vivo นั้นหน้าสว่างกว่า realme ด้วยรูรับแสงที่กว้างกว่า

realme 3 VS VIVO Y91

สำหรับคู่นี้ทั้ง VIVO / realme ก็อยู่ในเรทที่เทียบได้สูสีที่สุดในทั้ง 2 แบรนด์ แต่ก็มีจุดดีเด่นแตกต่างกันแบบคนละด้านเลย แต่เอาจริงๆต้องบอกว่ามือถือแต่ละแบรนด์เค้าก็มีจุดดีเด่นของเค้าไม่มีรุ่นไหนที่ตอบโจทย์ความต้องการได้ทุกคนแน่นอนครับ เราทำเทียบเพื่อจุดประสงค์ว่าจะให้คนที่กำลังดูและเน้นเรื่องไหน เค้าจะเหมาะกับรุ่นไหนมากกว่ากันนั้นเอง แอดมินจะไม่ชี้นำว่า อันนี้ดีสุด ต้องซื้อรุ่นนี้อะไรแบบนั้นนะ แต่จะนำข้อเท็จจริงของแต่ละรุ่นว่ารุ่นนี้เด่นอะไร รุ่นนี้ด้อยยังไงและไปตัดสินใจกันเองครับ แอดมินไม่สามารถตัดสินใจแทนทุกคนได้แน่นอน ได้แต่นำเสนอข้อเท็จจริงและสรุปจากประสบการณ์การใช้งานให้อ่านกันครับ เรามาดูข้อสรุปนิดหน่อยกันครับว่ารุ่นไหนเด่นอะไร และ มีจุดไหนที่ทำได้ใกล้กัน

realme 3

ข้อดี

  • หน้าจอ สว่างกว่า สีดีกว่า
  • ลำโพงทำได้ดี มีมิติ เสียงดังและชัดเจน
  • เสียงผ่านหูฟังทำได้นุ่ม กำลังขับดี
  • MTK P60 ทำคะแนนได้ดีเอาเรื่อง
  • กล้องหลังคุณภาพทำได้ดี มีโหมดกลางคืนที่โหดมาก
  • การเล่นเกมต่างๆนั้นทำได้ดีลื่นไหล
  • ได้ Android 9.0 ตัวล่าสุด พร้อม หน้าตา OS 6.0

ข้อสังเกต

  • ไม่มีหูฟังแถมมาในกล่อง
  • วัสดุฝาหลังเป็นรอยค่อนข้างง่าย
  • กล้องหน้า ให้รูรับแสงมาที่ F2.0
  • กล้องหน้าโทนสียังไม่ได้ดีเท่าไร

VIVO Y91

ข้อดี

  • ตัวเครื่องการออกแบบ สีสวยงาม และดูบาง
  • แบตให้มากกว่า ใช้งานได้นานกว่า
  • มีหูฟังแถมมาในกล่อง
  • ปรับแต่งเสียงได้เยอะในด้าน EQ
  • ปรับแต่งธีมได้หลากหลาย
  • กล้องหน้าให้โทนสีที่ดีกว่า

ข้อสังเกต

  • หน้าจอ ไม่สว่างเท่าไรและมุมมองน้อย
  • กล้องหลังยังไม่ค่อยดีเท่าไรนัก โฟกัสช้า
  • ลำโพงแบน เสียงไม่ดีเท่าไร
  • MTK P22 ทำคะแนนได้ไม่มากนัก

พอๆกันทั้ง 2 รุ่น 

  • ไม่รองรับ Netflix HD /DRM L1
  • Sensor ต่างๆมีมาให้เหมือนกัน
  • ยังคงมี รูหูฟัง 3.5 มม. ให้ทั้ง 2 รุ่น
  • ดีไซน์หน้าจอ ขนาดต่างๆทำได้ใกล้เคียงกันมาก
  • มีเคสแถม ฟิล์มแถม ในกล่องติดมาให้เรียบร้อย
  • ไม่สามารถปิดติ่งได้ทั้งคู่
  • ไม่รองรับ Wifi 5 Ghz

สำหรับรีวิวเปรียบเทียบนี้ผมก็ต้องขอตัวลาไปก่อนสำหรับรีวิวรุ่นต่อไปนั้นจะเป็นรุ่นอะไรอย่าลืมติดตามกันนะครับ ถูกใจฝากกดไลค์กดแชร์ด้วยนะครับ  มีข้อผิดพลาดประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ 
ฝากไลค์เพจ FACEBOOK เราด้วยนะครับ >>>>>>>>>  TECHHANGOUT

เข้าร่วมกลุ่ม TECHHANGOUT พูดคุยแลกเปลี่ยน ข้อมูล คุยกันเองชิลๆได้เลยที่ — Facebook  Techhangout พูดคุย Smartphone gadget 

By Nineztr

Comments กันได้เลย !

Comments

0 Shares