ต้องบอกเลยว่าในตลาดมือถือสมาร์ตโฟนเรือธงตอนนี้ถือว่ามาแรงมากๆ แข่งขันกันอย่างดุเดือด ทั้งสเปก ดีไซน์การใช้งานและการเปิดราคาของสมาร์ตโฟนนั้นๆที่แตกต่างกันออกไป ถ้าให้พูดถึงเรื่องดีไซน์ที่คล้ายกันและสเปกที่แอบคล้ายกันในตอนนี้ ก็พลาดไม่ได้ระหว่างสองแบรนด์ดังที่มาในมือถือดีไซน์จอพับอย่าง Galaxy Z Flip 3 จาก Samsung ที่ได้ทำการเปิดตัวในปีที่ผ่านมาไปได้สักพัก เรียกว่าได้รับกระแสตอบรับอย่างดีมากๆ และเมื่อนานมานี้ก็มีคู่แข่งจากทางค่าย Huawei ที่ได้ทำการเปิดตัว Huawei P50 Pocket เรือธงดีไซน์จอพับ พร้อมดีไซน์กล้องแปลกใหม่จากทางหัวเว่ย เรียกได้ว่าดีไซน์ทั้งสองรุ่น และ สเปกที่เหมือนกันแบบนี้ เราจะเลือกซื้อรุ่นไหนดี แอดจะมาเปรียบเทียบให้เห็นกันชัดๆว่า แบบไหนที่เหมาะกับการใช้งานอย่างที่เราต้องการ !

Huawei P50 Pocket ตัวเครื่องใช้ชิปประมวลผล Snapdragon 888 4G ที่มาพร้อม RAM 12GB และแบตเตอรี่ 4,000mAh ที่รองรับชาร์จเร็ว 40W  ในส่วนของกล้องหลังมีจำนวน 3 ตัวประกอบด้วยกล้องตัวหลัก 40MP + กล้อง ultra-wide 13MP + กล้อง Ultra Spectrum 32MP รวมทั้งเซนเซอร์ Multi-Spectrum 10-Channel และ Spectrum illuminator และเลเซอร์ AF โดยทาง Huawei ระบุว่ากล้องจะสามารถถ่ายภาพในที่มืดได้ และทำให้ภาพมีชีวิตชีวาและคมชัดขึ้นเมื่อถ่ายด้วยกล้อง Ultra Spectrum นอกจากนั้นกล้อง Ultra Spectrum ยังสามารถตรวจจับการทาครีมกันแดดได้ เพื่อตรวจสอบดูว่ามีบริเวณไหนบนใบหน้าที่ยังไม่ถูกทาด้วยครีมกันแดดหรือไม่ ตัวเครื่องของ P50 Pocket มีบอดี้มันเงา และตัวเครื่องสีขาวที่มีกระจก micro glass และมีดีไซน์เหมือนลายแกะสลักขนาดย่อม นอกจากนั้นยังมีรุ่น P50 Pocket Premium Edition ที่จับมือกับดีไซน์เนอร์แฟชั่นชั้นสูงหรือ Haute Couture อย่าง Iris Van Herpen ในการออกแบบลวดลายของตัวเครื่องและกล่องแพ็กเกจ

Galaxy Z Flip3 มาพร้อมหน้าจอแสดงผลแบบ Dynamic AMOLED ขนาด 6.7นิ้ว ความละเอียด Full HD+ อัตราส่วน 22:9 ที่มีรีเฟรชเรทแบบปรับอัตโนมัติ 120Hz โดยตัวหน้าจอใช้กระจกแบบบาง Ultra-Thin ที่สามารถพับงอได้ และใช้กระจก Gorilla Glass Victus หน้าจอด้านนอกเป็นแบบ Super AMOLED ขนาด 1.9 นิ้วสำหรับแสดงการแจ้งเตือน ข้อความ และใช้ถ่ายรูปด้วยกล้องหน้าโดยไม่ต้องกางตัวสมาร์ตโฟน Z Flip3 ซึ่งตัวหน้าจอมีขนาดใหญ่กว่าในสมาร์ตโฟนก่อนหน้าที่มีขนาดเพียง 1.1 นิ้ว นอกจากนี้หน้าจอดังกล่าวมาพร้อมการใช้งานแบบ hand free ที่มาคู่กับโหมด Flex และฟีเจอร์ที่ทำให้การแสดงผลมีความแตกต่างจากเดิมเมื่อตัว Z Flip3 มีการกางออกแบบยังไม่สุด เช่น การเล่นวิดีโอที่ครึ่งบนของหน้าจอ และมีปุ่มควบคุมความสว่างและปุ่มปรับลำโพงที่ครึ่งล่าง Z Flip3 มาพร้อมกรอบตัวเครื่องทำจากอลูมิเนียมที่ทางบริษัทเคลมว่าแข็งแรงที่สุด รวมทั้งตัวเครื่องยังกันน้ำในมาตรฐาน IPX8 ภายในตัวเครื่องขับเคลื่อนด้วยชิปเซต Snapdragon 888 ที่มาพร้อม RAM 8GB แลใช้ระบบปฏิบัติการ Android 11 ที่ครอบด้วย One UI รวมทั้งมาพร้อมลำโพง stereo ที่อัปเกรดขึ้น และรองรับ Dolby Atmos กล้องหลังของ Z Flip3 มีจำนวน 2 ตัวประกอบด้วย กล้องตัวหลัก 12MP + กล้อง Ultra-wide 12MP ที่เลนส์ของตัวกล้องทำจากกระจก Gorilla Glass DX ส่วนกล้องหน้ามีความละเอียดที่ 10MP ถือว่าภาพรวมนั้นสเปกของเจ้า Z Flip 3 ทำได้น่าสนใจขึ้นเยอะเลย และ ยังคงออกแบบให้ใช้งานได้ง่ายอีกด้วย

DESIGN

เรารู้กันอยู่แล้วว่า การออกแบบตัวเครื่องของสมาร์ตโฟนทั้ง 2 รุ่น คือสมาร์ตโฟนหน้าจอพับได้เหมือนกันทั้งสองรุ่น แต่ก็ยังมีการออกแบบดีไซน์ที่แตกต่างกันออกไปอย่างเห็นได้ชัด ซึ่ง Huawei P50 Pocket ดีไซน์ของรุ่นนี้แน่นอนว่าโดดเด่นมาในเรื่องของการพับปิดได้ ดีไซน์ฝาแบบ 3 มิติเรือธงที่มาพร้อมความสมบูรณ์แบบในคอนเซ็ปต์ Fantasy in your pocket เป็นเหมือนการรวมกันของแฟชั่นกับเทคโนโลยีได้อย่างลงตัวมากๆเลย HUAWEI P50 Pocket ได้ออกแบบบนพื้นฐานของ symbiosis คือการหลอมหลวมเข้าด้วยกัน จึงทำให้ดีไซน์ของรุ่นนี้ดูมีความผสมผสานระหว่างศิลปะแฟชั่นและเทคโนโลยีไปไหนตัว และอีกหนึ่งจุดเด่นในครั้งนี้ของรุ่นนี้ก็คือได้รับการออกแบบกล้องวงแหวนคู่แบบ Dual-Ring Design ให้ทั้งดูสวยงามและใช้งานได้สะดวกไปพร้อมกัน ซึ่งในส่วนของ Galaxy Z Flip3 ถ้านำมาเทียบหรือวางใกล้กัน และมองในมุมเรื่องของดีไซน์ ฝั่งทาง Galaxy Z Flip3 จะมาในงานเรียบง่าย เน้นลูกเล่นสีของตัวเครื่องที่มีให้เลือกซื้อใช้งานหลายเฉดสีเลยทีเดียว ดีไซน์ของเครื่องจะเป็นแบบเดียวกับตลับแป้ง คล้ายกับ Galaxy Z Flip รุ่นแรก รอบตัวเครื่องนั้นใช้บอดี้และการออกแบบเป็นโลหะ ทั้งหมด ถือว่าใช้งานคล่องและบานพับปรับได้หลายระดับ ถือว่าเป็นอีกลูกเล่นที่เด็ดใช้ได้สำหรับมือถือที่เป็นเทรนด์แฟชั่นที่แท้จริง ที่สำคัญ ยังมีกล้องคู่ ด้านหน้าและใช้เป็นกล้องหลัก สามารถกดถ่าย Selfie โดยการกดปุ่ม Power ทั้งหมด 2 ครั้งโดยภาพจะเป็นแบบ 1:1 ทั้งวิดีโอและภาพนิ่ง เลนส์กล้องใช้กระจก Gorilla Glass with DX ตัวใหม่

HUAWEI P50 Pocket ใช้วัสดุที่เป็นนวัตกรรมมากมายในการคิดค้นระบบกลไกบานพับ ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของสมาร์ตโฟนจอพับได้ ไม่ว่าจะเป็นโลหะเหลวที่มีส่วนประกอบหลักจากเซอร์โคเนียม (Zirconium-based liquid metal) และเหล็กแข็งแรงพิเศษ 2,100MPa Ultra-high Strength Steel ซึ่งนอกจากจะได้ความเรียบเนียนไร้รอยต่อแล้ว ยังมีความทนทานสูง ใช้งานจอพับได้อย่างมั่นใจ มีสองสีให้เลือกคือ สีทอง (Premium Gold) และสีขาว (White) สะท้อนความสว่างไสวและเปล่งประกายระยิบระยับสวยงามดุจประกายเพชร โดยเครื่องสี Premium Gold เกิดจากครั้งแรกของความร่วมมือระหว่างหัวเว่ยและ Iris Van Herpen ดีไซเนอร์ชาวดัตช์ชื่อดังที่มีความสามารถด้านการรังสรรค์แฟชั่นให้ออกมามิติจับต้องได้ โดยครั้งนี้มาถ่ายทอดความงามอันเป็นเอกลักษณ์

Galaxy Z Flip 3 การออกแบบในครั้งนี้บอกเลยว่ามีความสวยงาม รู้สึกแข็งแรงและทนทานมากๆ ขนาดจอที่6.7นิ้ว แต่ยังสามารถพกพาได้อย่างสะดวก และด้วยการพับของตัวเครื่อง บอกเลยว่าครั้งนี้ทาง Samsung ทำการบ้านมาได้ดีมากๆ มีวัสดุบริเวณขอบเครื่องรวมไปถึงสันเครื่อง ใช้เป็นอลูมิเนียม ส่วนตัวเครื่องเป็นพลาสติกสามารถกันน้ำ IPX8 ที่ได้รับ ทําให้ Galaxy Z Flip 3 จะเป็นเครื่องพับได้ที่สามารถกันน้ำได้ มี 3 สีให้เลือก Cream, Phantom Black, Green, Lavender, Gray, White, Pink

HUAWEI P50 Pocket มีขนาดใหญ่กว่า Galaxy Z Flip 3 และ หัวเว่ยยัง มีสิทธิบัตรบานพับ ที่ทําให้สามารถพับโทรศัพท์ปิดได้โดยไม่มีช่องว่างตรงกลางเหมือน  Galaxy Z Flip 3 ซึ่งอาจจะทำให้มีสิ่งแปลกปลอมลอดเข้าไปในหน้าจอได้ แต่ความทนทานอาจจะสู้ Galaxy Z Flip 3 ไม่ได้ที่ทนทานกว่าเพราะกันน้ำได้ และการกางที่จะไม่รองรับหลายองศาเท่ากับ Samsung เพราะทาง Huawei เองเหมือนจะมีแรงดีดมากกว่าเวลาเปิดใช้งานนั้นเอง

และก่อนหน้านี้ หัวเว่ยเคยเป็นผู้เล่นในตลาดสมาร์ตโฟนพับได้มาแล้ว กับทั้ง HUAWEI Mate X และ HUAWEI Mate XS และล่าสุดก็ได้มีการกลับมาอีกครั้งของสมาร์ตโฟนหน้าจอพับได้ โดยครั้งนี้ข้อพับ หรือ “Hinge” ของ HUAWEI P50 Pocket นั้นได้รับการออกแบบโดยทีมนักวิจัยและพัฒนาของหัวเว่ย ได้ทำการทดสอบอย่างละเอียดและเลือกใช้วิธี Multi-Dimensional Linkage Lifting Design ในการสร้างข้อพับแบบ All-New Multi-Dimensional Hinge Design ซึ่งวิธีนี้จะลดความกว้างของข้อพับให้เสมอกับความหนาของสมาร์ตโฟนขณะพับ ทำให้การพับสามารถทำได้แบบพอดี และกางได้โดยที่ไม่มีรอยย่นบนหน้าจอ ส่งผลให้ไม่มีช่องว่างระหว่างจอเมื่อพับเครื่อง

SPEC HUAWEI P50 POCKET

  • หน้าจอ OLED ขนาด 6.9 นิ้ว (2,790×1,188พิกเซล) FHD+, รีเฟรชเรท 120Hz, ความถี่การตอบสนอง 300Hz, DCI-P3 colour gamut, สี 1.07 พันล้านสี
  • ชิปประมวลผล Snapdragon 888 4G 5nm ที่ใช้การ์ดจอ Adreno 660
  • RAM 8GB + storage 256GB / RAM 12GB + storage 512GB
  • Android-based EMUI 12 (รุ่นสากล) / HarmonyOS 2 (รุ่นวางขายในจีน)
  • ซิมคู่
  • กล้องหลัง
    • กล้องตัวหลัก 40MP True-Chroma (f/1.8)
    • กล้อง ultra-wide 13MP (f/2.2)
    • กล้อง Ultra Spectrum 32MP (f/1.8)
  • กล้องหน้า 10.7MP (f/2.2)
  • เซนเซอร์สแกนนิ้วด้านข้าง
  • USB Type-C
  • ขนาดตัวเครื่อง: 170 (87.3 เมื่อพับ) ×75.5 ×7.2 (15.2 เมื่อพับ) มิลลิเมตร; น้ำหนัก: 190 กรัม
  • รองรับเครือข่าย Dual 4G VoLTE, Wi-Fi 802.11 ax (2.4GHz and 5GHz), Bluetooth 5.2 LE, GPS (L1 + L5 Dual band), NFC, USB 3.1 Type-C (GEN1)
  • แบตเตอรี่ 4,000mAh ที่รองรับชาร์จเร็ว HUAWEI SuperCharge 40W

SPEC GALAXY Z FILP 3 

  • หน้าจอ Dynamic AMOLED Infinity Flex ขนาด 6.7 นิ้ว FULL HD+ (2640×1080พิกเซล), อัตราส่วน 22:9, รีเฟรชเรทแบบ adaptive 120Hz, 425ppi, ใช้กระจก Gorilla Glass Victus
  • หน้าจอด้านนอก Super AMOLED ขนาด 1.9 นิ้ว (260×512 พิกเซล), 302ppi
  • ชิปประมวลผล Snapdragon 888 5nm
  • RAM LPDDR5 8GB + storage (UFS 3.1) 128GB / 256GB
  • ซิมคู่ (eSIM + Nano SIM)
  • Android 11 ที่ครอบด้วย One UI 3.1
  • กล้องหลัง
    • กล้องตัวหลัก (f/1.8) 12MP Super Speed พิกเซลคู่, ขนาดพิกเซล 1.4μm
    • กล้อง Ultra-wide (f/2.2) 12MP, ขนาดพิกเซล 1.22μm, รองรับ HDR10+, OIS, ซูมแบบ digital ได้ถึง 8x; ถ่ายวิดีโอ 4K ได้ที่ 60fps
    • แฟลช LED
  • กล้องหน้า 10MP (f/2.4)
  • ตัวเครื่องกันน้ำมาตรฐาน IPX8
  • ช่องเสียบหัวฟัง USB Type-C, ลำโพง Stereo, รองรับ Dolby Atmos
  • ขนาดตัวเครื่อง (ขณะพับ) : 72.2×86.4×15.9~17.1มม., (ขณะกาง): 166×72.2×6.9มม.; น้ำหนัก: 183 กรัม
  • รองรับการเชื่อมต่อ 5G SA/NSA sub6 / mmWave, 4G, Wi-Fi 802.11 ax (2.4GHz + 5GHz), Bluetooth 5.1 LE , ANT+, , NFC, GPS
  • USB Type-C
  • แบตเตอรี่ความจุ 3,300mAh ที่รองรับชาร์จเร็ว 15w, รองรับชาร์จไร้สาย Qi 10W, รองรับ reverse charging ไร้สาย 4.5W

PRICE

  • HUAWEI P50 Pocket สีขาว White วางจำหน่ายในประเทศไทยที่ราคา 46,990 บาท ส่วน HUAWEI P50 Pocket Premium Edition สีทอง Premium Gold วางจำหน่ายในราคา 57,990 บาท พร้อมพรีออเดอร์โปรโมชันสุดคุ้ม ระหว่างวันที่ 28 มกราคม 2565 ถึง 11 กุมภาพันธ์ 2565 รับฟรี HUAWEI WATCH 3 Active Edition มูลค่า 12,990 บาท พร้อมฟรีแพ็กเกจอื่นๆจากหัวเว่ยอีกมากมาย
  • ส่วน Galaxy Z Flip 3 5G  วางจำหน่ายในราคา 34,900 บาท (128GB) และ 36,900 บาท (256GB) มาในตัวเลือกทั้งหมด 7 สีจุใจกันไปเลย  ได้แก่  Cream , Phantom Black, Green และ Lavender  และที่พิเศษเฉพาะ Samsung.com นัันก็คือสี Gray , White , Pink

CAMERA

มาถึงเรื่องกล้องกันบ้าง ตรงนี้ HUAWEI P50 Pocket ถือว่าจัดหนักจัดเต็มแบบสุด ๆ มาพร้อมกับกล้องหลัง 3 ตัว ประกอบด้วยเซ็นเซอร์หลักความละเอียด 40MP, กล้อง Ultra-Wide ความละเอียด 13MP และกล้อง Hyperspecturm ความละเอียด 32MP ที่มีโหมด Fluorescent Photography สำหรับถ่ายภาพอย่างเป็นมิติส่วนกล้องของ Galaxy Z Flip 3 ก็ไม่ได้ถือว่าขี้เหร่แต่อย่างใด ให้มาสองตัว เซ็นเซอร์หลักความละเอียด 12MP และกล้อง Ultra-Wide ความละเอียด 12MP ซึ่งสเปกกล้องของ HUAWEI P50 Pocket สูงกว่าอย่างชัดเจน

ระบบฟิลเตอร์สีสุดซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ XD Fusion Pro ช่วยให้ HUAWEI P50 Pocket ให้ประสิทธิภาพการทํางานในแสงน้อยได้ดียิ่งขึ้นโดยในเซตนี้ HUAWEI P50 Pro ถูกมองว่าจะสามารถควบคุมแสงภาพได้ดีกว่า Galaxy Z Flip 3 อย่างมากและสามารถแสดงผลรายละเอียดของภาพได้ดีดว่า ความสามารถในการจับภาพสีอย่างเที่ยงตรงของในรูปนี้ สมาร์ตโฟนกล้องเรือธงของ HUAWEI ให้สีสันที่แม่นยํากว่าเมื่อเทียบกับ Galaxy Z Flip 3 ไฟสีเหลืองอบอุ่นในทั้งสองชุดจะถูกเก็บรักษาไว้อย่างเหมาะสมในภาพที่ถ่ายบน HUAWEI P50 Pocket อย่างไรก็ตาม ภาพจาก Galaxy Z Flip 3มีอุณหภูมิสีที่สูงขึ้นอย่างชัดเจนส่งผลให้เป็นโทนสีน้ําเงินที่ไม่ได้เป็นตัวแทนของรูปลักษณ์ที่แท้จริงของสภาพแวดล้อมที่ถ่าย

จากที่ลองมาในสภาพแสงปกติ ที่มีแสงเพียงพอส่วนตัวชอบสีของทาง Samsung Galaxy Z Flip3 มากกว่าให้แสง และ สีที่มีความเป็นธรรมชาติ สีไม่ได้จัดจ้านเกินไป แต่พอในสภาพแสงที่น้อย ชอบทางฝั่ง Huawei P50Pocket มากกว่าที่สามารถเก็บภาพได้สว่างรายละเอียดยังอยู่ครบ ในที่แสงน้อยได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว ไม่น้อยหน้ากันเลยทีเดียว สำหรับ Huawei P50Pocket ตัวนี้

FLUORENSENCE MODE

พิเศษมากๆสำหรับรุ่น HUAWEI P50 Pocket เรียกได้ว่าเป็นรุ่นแรกเลยนะที่มีฟีเจอร์ Fluorescent Phoograhy มาให้ด้วย ซึ่งในส่วนนี้จะช่วยให้เราถ่ายภาพขณะที่เราอยู่ในที่มืดได้ โดยจะเป็นแสง Blacklight ม่วงๆตามตัวอย่างภาพรีวิวที่เราเอามาให้ดูเลย ฟีเจอร์นี้จะสามารถทำงานได้อยางเต็มที่ในที่มือ ขณะที่เราปิดไฟแล้วลองเปิดใช้งานถ่ายภาพนั้นเราจะเห็นในส่วนที่สายตาปกติเรามองไม่เห็น ในพวกของแบงค์ต่างๆ แอบบอกว่าโหมดนี้ยังช่วยเราเช็กแบงค์ปลอมได้อีกด้วยนะ ทั้งเพิ่มลูกเล่นในการถ่ายภาพแถมเอื้อประโยชน์ให้เราอีกเรียกได้ว่าพิเศษมากๆสำหรับรุ่นนี้เพราะมีมาให้ในรุ่น P50 Pocket เท่านั้น ซึ่งทางฝั่งของ Galaxy Z Flip 3 ไม่มีโหมดนี้เข้ามาให้

BATTERY

แบตเตอรี่ของ HUAWEI P50 Pocket มาพร้อมความจุ 4,000mAh และรองรับการชาร์จแบบสาย 40W ต่างจาก Galaxy Z Flip 3 ที่มีความจุแบตเตอรี่ 3,300 mAh เล็กลง พร้อมรองรับการชาร์จเร็วเพียง 15W ซึ่งถ้ามองเทียบกันใน HUAWEI จะเด่นกว่าในเรื่องความจุที่ใช้งานได้มากกว่า รวมถึงการชาร์จที่ได้ไวกว่าแม้จะเป็นสาย TYPE-C เหมือนกัน รวมถึงถ้ามองในแง่ของการใช้งาน Huawei น่าจะทำแบตได้อึดมากกว่า เพราะไม่ต้องมีการใช้งาน 5G เสริมเข้ามา เลยทำให้ถ้ามองในการใช้งานอึดกว่าแน่นอน และ Samsung เองก็สามารถรองรับการชาร์จไร้สายได้สบายซึ่งจุดนี้ทำให้ Samsung จะได้เปรียบกว่าในแง่ของการชาร์จไร้สาย ซึ่ง Huawei ไม่รองรับนั้นเองครับจุดนี้

PERFORMANCE

ประสิทธิภาพของ Galaxy Z Flip 3 บอกเลยว่าจัดเต็มด้วย ชิปประมวลผล Snapdragon 888 5nm แน่นอนว่าเป็นสิ่งที่ใครหลาย ๆ คนต้องชอบแน่ๆกับการที่ใช้ Snapdragon และมาพร้อมกับ RAM LPDDR5 8 GB รองรับการทำงานหลากหลายอย่างแน่นอน รวมถึงรุ่นนี้สามารถใช้งานได้ 2-3 แอปพร้อมกันได้ทำให้การใส่สเปกแบบจัดเต็มแบบนี้มารองรับได้สบาย พร้อมกับ storage (UFS 3.1) 128 GB / 256 GB และใช้งาน Android 11 ที่ครอบด้วย One UI 3.1 ตัวล่าสุดของค่าย และทางด้าน HUAWEI P50 Pocket ก็ไม่น้อยหน้า ประสิทธิภาพการใช้งานนั้นตัวนี้มาพร้อมชิปเซ็ต Snapdragon 888 4G 5nm ที่ใช้การ์ดจอ Adreno 660 พร้อมความจุ 8GB + 256GB  และ RAM 12GB + 512GB อย่างที่ทราบกันดีว่าค่อนข้างแรงอยู่ทและเครื่องนี้มาพร้อมมาตรฐานกันน้ำ-กันฝุ่นระดับ IP68 ที่ความลึก 5 เมตร ต้องบอกเลยว่าทำกิจกรรมในน้ำได้อย่างหมดกังวล

ทั้งสองใช้พลังงานจากชิปเซ็ต Snapdragon 888 และเมื่อพูดถึงความจุและขนาด RAM Huawei P50 Pocket มี RAM 8/12 GB และที่เก็บข้อมูล 256/512 GB พร้อมพื้นที่เพิ่มเติมสำหรับ microSD ในขณะที่ Samsung Galaxy Z Flip 3 มีเฉพาะใน RAM 8GB และการกำหนดค่าพื้นที่เก็บข้อมูล 128GB หรือ 256GB Galaxy Z Flip 3 ไม่มีที่ว่างสำหรับการ์ด micro SD และอีกสิ่งหนึ่งที่ควรพิจารณาก่อนตัดสินใจซื้อคือประสบการณ์ซอฟต์แวร์ Galaxy Z Flip 3 ใช้งาน Android 11 นอกกรอบพร้อมอัปเกรดเป็น Android 12 แทน

SCREEN

หน้าจอของ HUAWEI P50 Pocket ตัวนี้นั้นมาพร้อมหน้าจอ OLED อัตราการรีเฟรชเฟรมสูงสุดถึง 120 Hz ด้วยขนาดหน้าจอ 6.9 นิ้ว มีความละเอียดสูง 2790×1188 การแสดงผลสี DCI-P3 HDR แสดงผลสีได้ถึง 1070 ล้านสีเลย การตอบสนองของการสัมผัสนั้นค่อนข้างไว ลื่นไหลในระดับนึงเลย และลดแสงสีฟ้าเผื่อถนอมสายตาอีกด้วยนะ ช่วยให้ขณะที่เราเล่นในช่วงเวลากลางคืนหรือในพื้นที่แสงน้อยนั้นจะไม่ทำลายดวงตาของเรา ทางด้านหน้าจอ Galaxy Z Flip3  จะมีหน้าจอมาให้ทั้งหมด 2 หน้าจอ ทางด้านหน้าข้างในเป็นหน้าจอหลักนั้นเองใช้งานหน้าจอ Dynamic AMOLED 2X ขนาด 7.6นิ้ว (2208×1768พิกเซล) HDR10+  QXGA+, อัตราส่วน 22.5:18, 374ppi, รีเฟรชเรทแบบ adaptive 120Hz, ความสว่างสูงสุด 1200nits เคลือบด้วยกระจก Gorilla Glass Victus และมีดีไซน์แบบจอเจาะรู หรือ Infinity-O จอด้านนอก 1.9 นิ้ว Super AMOLED ความละเอียด 512×260 พิกเซล

ซึ่งทั้ง Galaxy Z Flip 3 และ HUAWEI P50 Pocket ต่างมาพร้อมกับหน้าจอแสดงผล AMOLED เหมือนกัน ความละเอียด Full HD+ และรีเฟรชเรท 120Hz เหมือนกัน จะมีต่างกันแค่ในเรื่องของขนาดเท่านั้นที่ฝั่ง P50 Pocket จะให้มาที่ขนาดใหญ่กว่าเล็กน้อยที่ 6.9 นิ้ว ขณะที่ Z Flip 3 ให้มาที่ 6.7 นิ้ว ถ้าใครชอบหน้าจอใหญ่เต็มตาก็อาจจะมองไปที่ HUAWEI P50 Pocket ได้เลยเพราะเต็มตาและเต็มมือมากกว่าชัดเจนเลยทีเดียว

DISTRIBUTED TECHNOLOGY

เทคโนโลยีแบบกระจาย (Distributed Technology) ช่วยให้สามารถทํางานร่วมกันกับฮาร์ดแวร์ในระดับระบบได้ ซึ่งให้ความยืดหยุ่นและการผสานรวมที่มากกว่าระบบนิเวศของ Samsung  เช่น เรายังสามารถเปิดไฟล์ที่บันทึกไว้ใน HUAWEI P50 Pocket ด้วยซอฟต์แวร์พีซีบนแล็ปท็อป HUAWEI ได้ คุณสมบัตินี้ไม่รองรับบนอุปกรณ์ Samsung

GSPACE

G Space ซอฟต์แวร์ที่ได้รับการรับรองจาก Huawei เป็นตัวช่วยในการเข้าในงานบริการต่างๆ ของ Google ไม่ว่าจะเป็น Gmail , Google Map หรือแม้แต่ Play Store ที่จะสามารถโหลดแอปต่างๆ ได้เหมือนทั่วไปเลย ต่อให้ไม่มี GMS แล้วก็ยังสามารถใช้งาน และ บริการต่างๆ ได้เหมือนเดิม ทดแทนการมี GMS ไปได้เลย แต่มันก็จะมีข้อสังเกตอยู่บ้าง เช่น ในตอนเข้าใช้งานแอปอาจจะไม่ได้ทันใจ และ มีโฆษณากั้นก่อนเข้าใช้งานอยู่บ้าง แต่โดยรวมมันก็ทำให้เราสามารถใช้งานได้ดีไม่ต่างกับตอนที่มี GMS เลย

HUAWEI P50 Pocket vs Samsung Galaxy Z Filp 3

” HUAWEI P50 Pocket vs Samsung Galaxy Z Filp 3 ถือว่าน่าสนใจทั้งคู่ ดีไซน์หน้าจอแบบพับได้แปลกใหม่ พร้อมชิปประมวลผลจาก Snapdragon 888 สุดเยี่ยม “

สำหรับทั้ง 2 รุ่นนี้ทั้ง HUAWEIP50 Pocket  / SamsungGalaxy Z Filp 3 ก็อยู่ในเรตที่เทียบได้สูสีที่สุดในทั้ง 2 แบรนด์ แต่ก็มีจุดดีเด่นแตกต่างกันแบบคนละด้านเลย แต่เอาจริงๆต้องบอกว่าแต่ละแบรนด์ที่ทำมือถือออกมาก็มีจุดดีเด่นของเขา ไม่มีรุ่นไหนที่ตอบโจทย์ความต้องการได้ทุกคนแน่นอน เราทำเทียบเพื่อจุดประสงค์ว่าจะให้คนที่กำลังดูและเน้นเรื่องไหน เค้าจะเหมาะกับรุ่นไหนมากกว่ากันนั้นเอง แอดมินจะไม่ชี้นำว่า อันนี้ดีสุด ต้องซื้อรุ่นนี้อะไรแบบนั้นนะ แต่จะนำข้อเท็จจริงของแต่ละรุ่นว่ารุ่นนี้เด่นอะไร รุ่นนี้ด้อยยังไงและไปตัดสินใจกันเอง เอาจริง ๆ ในบางสเปกของแต่ละรุ่นก็ขึ้นอยู่ที่ความชอบ ไลฟ์สไตล์และความจำเป็นในการทำงาน ขึ้นอยู่ว่าสเปกไหนตอบโจทย์ความต้องการของคนใช้มากที่สุด ว่าเน้นไปทางเรื่องไหนมากกว่าเราก็ถูกจะถูกใจในตัวนั้นนั่นเอง แอดมินไม่สามารถตัดสินใจแทนทุกคนได้แน่นอน ได้แต่นำเสนอข้อเท็จจริงและสรุปจากประสบการณ์การใช้งานให้อ่านกัน ว่ามีจุดไหนที่ทำได้ใกล้กัน ทั้งเรื่องของกล้องหน้าหลัง รวมถึง ระบบตัวเครื่องหน้าตา หน้าจอที่แตกต่างกัน

สำหรับรีวิวนี้ก็ต้องขอตัวลาไปก่อนสำหรับรุ่นอื่นๆก็ติดตามกันได้เลย ถูกใจฝากกดไลค์กดแชร์ด้วยนะคถ มีข้อผิดพลาดประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ เพื่อนๆสนใจอยากให้พวกผมรีวิวรุ่นไหนสามารถ Inbox มาบอกเราได้เลยนะ

ฝากไลค์เพจ FACEBOOK เราด้วยนะคะ >>>>>>>>>  TECHHANGOUT

เข้าร่วมกลุ่ม TECHHANGOUT พูดคุยแลกเปลี่ยน ข้อมูล คุยกันเองชิลๆได้เลยที่ — Facebook  Techhangout พูดคุย Smartphone gadget 

Review by Aum

Comments กันได้เลย !

Comments

0 Shares