เปรียบเทียบในอาทิตย์นี้ขอหยิบ Realme 2 Pro กันอีกครั้งและมาเทียบกับ Vivo ที่เรียกได้ว่ากระแสอะไรต่างๆนั้นก็มาดีพอๆกันเลยแหละในช่วงเปิดตัวทั้ง 2 รุ่นนี้มีอะไรหลายๆอย่างคล้ายกันทั้งหน้าจอ สเปคอะไรพวกนี้สูสีในเรทราคาพอๆกันครับ อย่างที่บอกไปว่าแอดมินไม่ได้เลือกรุ่นที่ CPU เท่ากันแต่ราคาโดดไปเยอะอะไรพวกนั้น โดยจะอิงเหมือนเดิมครับว่า ถ้าเรามีงบ 6 พันเราจะซื้อรุ่นไหนที่เราพอเอื้อมถึง และเอามาเทียบได้ครับ เพราะน่าจะตรงจุดความต้องการของคนใช้งานมากกว่า เพราะมือถือนั้นมีอะไรมากกว่าแค่ CPU ครับผม ในครั้งนี้จึงเป็นการเทียบกันระหว่าง REALME 2 PRO และ ทางด้านของ VIVO Y95 ครับจะเป็นยังไง การใช้งาน กล้องต่างๆเราไปชมกัน

ในคู่นี้นั้นมีอะไรหลายๆอย่างใกล้ๆกันทั้งดีไซน์หน้าจอ ตัวติ่งหยดน้ำ ขอบความหนา สแกนนิ้วต่างๆรวมถึงกล้องหลังคู่อะไรก็มาค่อนข้างครบเลยแหละ รวมถึงความจำต่างๆนั้นมาให้พอๆกันเลย แต่จะแตกต่างกันหลักๆคงเป็น CPU และ การออกแบบฝาหลังครับทางด้านของ Vivo Y95 มีการไล่สีสวยงามทันสมัย ส่วนของ Realme นั้นจะเรียบๆปกติครับเล่นกับแสงเป็นเส้นๆก็สวยไปอีกแบบ ในทางด้านราคานั้นไม่ได้หนีกันมาก ครับทางด้าน Vivo Y95 มีการปรับราคาลงมา 6,999 บาทไทย ส่วนของ Realme 2 Pro นั้นราคา 6,590 บาทครับไม่นับช่วงโปรที่เหลือ 5,990 นะ

SPEC

สเปคของทั้ง 2 รุ่นนี้มีอะไรหลายๆอย่างมาให้คล้ายกัน แต่ก็มีบางจุดที่ยังคงแตกต่างกันอยู่ครับที่เหมือนกันหลักๆนั้นคงหนีไม่พ้น RAM 4GB / STORAGE 64 GB เท่ากันและใช้ Emmc 5.1 ทั้งคู่ หรือจะเป็นกล้องหลัง 2 ตัวเหมือนกันในด้าน Vivo มาพร้อมกล้องหลัง 13+2 MP F2.2 แต่ของ Realme นั้นมาเป็น 16+2 MP F1.7 ส่วนของกล้องหน้า มี 1 ตัวทั้งคู่แต่ความละเอียดแตกต่างกันครับทาง Vivo 20Mp และ Realme 16 MP ในด้านอื่นๆทั้งตัว เซนเซอร์ พอร์ตต่างๆมีมาให้เหมือนกัน แต่จะแตกต่างกันในด้านของ CPU Realme Snap 660  แต่ Vivo มาในตระกูล 432 จุดแตกต่างกันหลักๆ และยังมีเรื่องของการรองรับ Wifi ที่ Vivo ได้แค่ 2.4 GHz  เท่านั้นครับ ส่วนของ Realme รองรับได้ถึง 5 Ghz ส่วนในด้าน ความจุแบตนั้นแตกต่างกันพอสมควร Vivo ให้มามากกว่าที่ 4030  mAh แต่ Realme มีแค่ 3500 mAh ครับผม ทางด้านสีก็มีแตกต่างกันชัดเจน แล้วแต่ชอบเลยครับ

PRICE

  • REALME 2 PRO RAM 4 GB STORAGE 64 GB – BLACK SEA / ICE LAKE  ราคา 6,590 บาท  [ 5990 ราคาโปรบางช่วง ]
  • VIVO Y95  RAM 4 GB STORAGE 64 GB – BLACK-BLUE / RED-BLUE ราคา  6,999 บาท [ 7,499 ราคาเดิมตอนที่แอดมินซื้อ ]

DESIGN

การออกแบบแตกต่างกันค่อนช้างชัดไม่ว่าจะเป็นการใช้โทนสีการเล่นสี หรือจะเป็นความโค้ง ความรับมือเวลาถือพวกนี้ครับเมื่อสัมผัสแล้วแตกต่างกันชัดเจนไม่ได้เหมือนไปซะทีเดียว ตัวทางด้าน Vivo จะทำออกมาโค้งรับมือได้ดีกว่า ดูบางเบากว่าเวลาจับถือ รวมถึงการไล่สีที่ค่อนข้างสวยและแตกต่างโดดเด่นมากพร้อมมีการเล่นสีจุดๆด้วยครับสะท้อนแสงสวยงาม ส่วนของ Realme ยังเป็นฝาหลังแบบเรียบๆ สีเดียวเล่นเลเยอร์สะท้อนแสงนิดหน่อย ด้านหลังเรียบๆไม่โค้งรับมือเท่าไรนัก แต่มีสแกนนิ้วมาให้ทั้งคู่ครับ ขนาดรวมๆไม่ต่างกันมากนักแต่ Vivo ทำออกมาแอบดูสวยและบางกว่า

หน้าจอ ทั้ง2รุ่นนี้มีความคมชัดแตกต่างกันแต่ขนาดนั้นพอๆกันครับที่ 6.3 FullHD+ พร้อมติ่งแบบหยดน้ำ และในด้านของ  Vivo นั้นเป็นขนาด 6.22 HD+ ครับติ่งหยดน้ำเหมือนกันไม่สามารถปิดติ่งได้นะครับสำหรับในทั้ง 2 รุ่นนี้ดีไซน์ใกล้กันมากๆเลย

ขอบด้านบนส่วนหน้าจอกันครับในส่วนนี้คือเป็นหน้าที่เป็นรอยบากแบบหยดน้ำ ทั้งคู่ และ ไม่สามารถปิดติดได้ทั้งคู่นะครับ ติ่งหน้าจอนั้นมีความโค้งอะไรแบบเดียวกันเป๊ะๆน่าจะไม่ได้หนีกันเลยในเรื่องนี้ แต่ที่แตกต่างกันชัดๆคือรูลำโพงครับของทาง Vivo นั้นจะเปิดช่องรูลำโพงไว้ยาวกว่า และดูใหญ่กว่าครับแต่ใช้งานจริงๆก็ไม่เจอจุดที่แตกต่างกันเท่าไรนักเวลาใช้งานสนทนาพวกนี้ ขอบความหนาอะไรพอๆกันครับทั้งขอบข้างและบนหน้าจอ

ในตัวขอบล่างมีองศาอะไรใกล้เคียงกันในเรื่องของมุมขอบโค้งพวกนี้และใช้งานได้ค่อนข้างดีครับไม่ได้หนาเกินไป มีขนาดเท่ากันเลยแหละ ส่วนตัวปุ่มนั้นเป็นปุ่มบนจอทั้งหมดและสามารถสลับตำแหน่ง เปลี่ยนอะไรได้ ใช้งานเต็มจอแบบไม่มีปุ่มได้เช่นกัน

ในด้านล่างของตัวเครื่องทั้ง 2 รุ่นนั้น พอร์ตอะไรมาครบตำแหน่งคล้ายกันทั้งหมดไม่ว่าจะเป็น รูหูฟัง 3.5มม. รูไมค์ ช่องชาร์จแบบ Micro-USB รวมถึงลำโพงหลักด้วยครับ ตัววัสดุเงาเหมือนกันแต่จะเห็นความโค้งอย่างที่บอกกันไปครับว่า Vivo จะโค้งรับได้ดีกว่า และดูเหมือนจะบางกว่านิดหน่อย ส่วนของด้านบนตัวขอบของทั้งคู่นั้นทาง Realme จะมีรูไมค์เข้ามา 1 ตัว แต่ของทาง Vivo นั้นไม่มีในส่วนนี้ครับ และตัวกล้องความนูนออกมาด้วยเครื่องที่โค้งมากกว่า บางกว่าเลยอาจจะทำให้กล้องนั้นต้องนูนออกมามากกว่าปกติครับหรือเทียบกับรุ่น 2 Pro จะเห็นว่ามันนูนออกมาเยอะกว่าค่อนข้างชัดนั้นเองครับ 

ในด้านขวาของตัวเครื่องนั้น ทางด้าน Vivo เป็นที่อยู่ของปุ่ม Power – เพิ่ม-ลดเสียง และใช้วัสดุแบบเงาครับ ส่วนทางด้านของ Realme นั้นเป็นที่อยู่ของปุ่ม Power เพียงอย่างเดียวเพราะปุ่มที่เหลือได้ถูกย้ายไปอีกฝั่งทั้งหมด

ในด้านขอบซ้ายกันบ้างครับจะเป็นที่อยู่ของภาพซิมเป็นหลักของทั้ง 2 แต่ทางด้าน Realme นั้นจะเป็นปุ่ม เพิ่ม-ลดเสียง ครับ ส่วนทางด้าน Vivo นั้นไม่มีปุ่มอื่นๆอยู่ในด้านนี้ อันนี้ก็แล้วแต่คนถนัดเลยครับว่าชอบแบบไหนมากกว่ากัน

ทางด้านถาดซิมของทั้ง 2 รุ่นเป็นแบบ Triple Slot ทั้ง 2 ตัวเหมือนกันครับสามารถใส่ซิมได้ 2 ซิมและรองรับการเพิ่ม Micro-SD Card เข้ามาพร้อมกันไม่ต้องเลือกอย่างใดอย่างนึงซึ่งหลายๆรุ่นก็มาใช้แบบนี้กันหมดแล้ว สามารถใช้ 2 ซิม และเพิ่มความจุได้อีกสำหรับใส่พวกรูปถ่ายอะไรพวกนี้ได้ครับถ้ากลัว 64GB นั้นไม่พอ

ตัวกล้องหลังนั้นมาพร้อมกล้องหลังคู่เหมือนกัน ตัวที่ 2เป็นกล้องวัดระยะเหมือนกันครับแตกต่างกันที่รูรับแสงหลัก และ ความละเอียดเท่านั้น การวางก็คนละแนวกันแนวตั้งกับแนวนอนครับผม มีไฟแฟลชและ สแนนิ้วมาให้เหมือนกันแค่รูปทรงนั้นแตกต่าง

โดยรวมในด้านของฝาหลังนั้น การดีไซน์ ออกแบบแตกต่างกันชัดเจนในเรื่องของ การใช้โทนสี เล่นกับสี รวมถึงความโค้งของฝาหลังและตำแหน่ง โลโก้ สแกนนิ้ว การวางกล้องก็แอบแตกต่างกันเล็กน้อยครับ แอบชอบการไล่สีมากกว่ามันสวยงามจริงๆเลย

PERFORMANCE

ประสิทธิภาพของทั้ง 2 รุ่นเมื่อดูสเปคน่าจะพอเดากันได้ว่ามันอาจจะแตกต่างกันเยอะครับและแน่นอนว่าผลทดสอบก็ออกมาไม่เหนือกว่าที่คิดเท่าไรคือทางด้าน Vivo นั้นทำไปได้ 80789 คะแนน ในการใช้ SNAP 439 แต่ของ  Realme  นั้นทำไปได้ 132983 เรียกได้ว่าแตกต่างกันแบบชัดเจนครับเยอะมากเลยในการใช้ Snap 660 ทำคะแนนหนีไปได้เยอะครับ ส่วนเรื่องของความจำยังเป็น EMMC 5.1 ทั้งคู่ครับในการบันทึกเก็บข้อมูลอะไรพวกนี้

SOFTWARE UI

ทางด้านของระบบ Software นั้นจะเป็น Android 8.1 กันครับ แต่หน้าตาอะไรต่างๆก็เรียกได้ว่าแตกต่างกันค่อนข้างชัดเจนทางด้าน Realme นั้นมาพร้อม Colour OS 5.2 และ ทาง Vivo นั้นใช้ Funtouch 4.5 ครับหน้าตาการใช้งานก็แตกต่างกันแต่ไม่มี Appdrawer ทั้งคู่นะครับจะแตกต่างกันที่ตัวนาฬิกาที่จะโชว์แตกต่างกันไปการจัดวางตัวเลขต่างๆครับ ส่วนธีมรวมๆโทนสีก็สดใสค่อนข้างสว่างๆครับ

หน้าตาเมนูนั้นก็แตกต่างกันไม่มาก แต่มีการแยกโซนอะไรให้ดูง่ายเหมือนกันครับผม เสียที่ของ Vivo นั้นกดหาการตั้งค่าไม่ได้ในหน้าตั้งค่าหลักครับ ในหน้าการตั้งค่าแบบเร่งด่วนนั้นจะแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ของทาง Vivo  นั้นจะปัดจากด้านล่าง และมีแอพที่ใช้บ่อยๆ การตั้งเสียง ความสว่าง และ ตั้งค่าแบบด่วนให้ใช้งานกัน ส่วนของ Realme นั้นลากจากด้านบนปกติปรับแสงและตั้งค่าด่วนครับ

หน้าตาการตั้งค่าการใช้งานอะไรพวกฟีเจอร์เสริม โคลนแอพ โหมดเกม แบ่งหน้าจอ ล็อคแอพ อะไรพวกนี้นั้นมีมาให้คล้ายๆกันในการใช้งานครับผม ส่วน การปรับแต่งเสียงนั้นหน้าตาของทาง Vivo จะมีการเลือกปรับได้มากกว่าทั้งเสียงแบบทิศทางต่างๆและตัวหูฟังรวมถึง EQ แต่ในด้านของ Realme นั้นปรับแต่งในเรื่องของ EQ ได้เหมือนกันครับแต่ไม่มี Effect และปรับย่านเสียงแถบต่างๆนั้นได้น้อยกว่าของ  Vivo ครับผม

คียบอร์ดที่มากับเครื่องนั้นทาง Vivo จะเป็นคีย์บอร์ดอีกแบบนะครับถ้าใครใช้ Vivo ก็น่าจะคุ้นเคยกันดี แต่ทาง Realme จะเป็นคียบอร์ดของ Google ครับอันนี้ก็แล้วแต่ความชอบเลยครับว่าจะถนัดอันไหนอะไรมากกว่า แต่แน่นอนว่าพวกนี้ก็โหลดได้ถ้าเราไม่ถนัดยังไงก็สามารถปรับเปลี่ยนได้ไม่ต้องห่วงครับ ส่วนตัวปุ่มการนำทางทั้งหมดนั้นมีมาให้เหมือนกัน สามารถสลับตำแหน่งได้ สามารถใช้งานแบบเต็มจอได้ แต่  Vivo สามารถปรับแต่งตัวไอคอนได้ครับว่าจะชอบหน้าตาแบบไหน

SPEEDTEST

SCREEN

ในส่วนของหน้าจอของทั้ง 2 รุ่นแตกต่างกันที่ความละเอียดเลยอย่างแรกที่ชัดครับ Vivo Y95 นั้นมาพร้อมกับหน้าจอความละเอียด   HD+ เท่านั้น และมีขนาด 6.22 นิ้ว ส่วนทางด้าน Realme 2 Pro มามากกว่าที่ FULLHD+ และขนาดหน้าจอ 6.3 นิ้วครับ ทางด้านการออกแบบอะไรไม่ต่างกัน ต่างกันที่ความละเอียดกันหลักๆ แต่เมื่อในการใช้งานจริงๆเทียบกันตรงๆจะเห็นว่ามันมีอะไรที่แตกต่างมากกว่าแค่ความละเอียดครับ ในเรื่องของสีสัน ความสว่างก็แตกต่างกันชัดเจนรวมถึงมุมมองด้วย จริงๆถ้าไม่เทียบกันมันก็ไม่ได้หนีกันมากเลยนะในเรื่องของความสว่างหรือสี แต่ถ้าเทียบกันแล้วจะเห็นชัดเจนเลย สีของ Realme ทำได้กว้างกว่า เก็บได้ครบกว่า และยังมีความสว่างมากกว่าแบบชัดเจนครับผม สีจะเข้มและสดกว่าด้วย ซึ่งของทาง Vivo นั้นจะตุ่นๆหน่อยครับ และใช้งานกลางแจ้งอาจจะยากกว่านิดนึง

ส่วนทางด้านของมุมมองของตัวจอนั้นเรียกได้ว่าเมื่อมองในระดับเอียงแบบที่กล้องถ่ายได้นะครับภาพจอง Vivo นั้นจะดรอปลงแบบชัดเจนในมุมเดียวกันระยะเดียวกันครับ ความสว่างหายไปพอสมควรและเรื่องขอวสีก็ดรอปลงไปด้วยครับ น่าเสียดายมากๆในจุดนี้ เรื่องจอทั้งสเปคและในการใช้งานจริงอาจจะต้องยอมให้  Realme เค้าไปครับ แต่ดีที่เวลาซูมนั้น Vivo ก็จะไม่ได้ไปกินถึงตัวรอยบากของจอครับ

SOUND

ในเรื่องของตัวเสียงนั้นเมื่อมาเทียบกันตรงๆแบบนี้ 2 ยี่ห้อยังคงให้อะไรที่มาแนวเดียวกันคล้ายๆกับตอนที่แอดมินเทียบในรุ่นเล็กกว่าคือทางของ  Vivo กำลังขับมาน้อยกว่านิดหน่อย เสียงเบสบางกว่า เสียงร้องชัดกว่า Realme เสียงมามากกว่า ในระดับเสียงเดียวกัน เสียงเบสมาดีแน่นกว่า และ นุ่มกว่าโดยรวม เวทีเสียงใกล้ๆกัน เช่นฟังเพลงที่แยกดนตรีเยอะๆนั้น Realme จะได้ยินมากกว่านิดเดียวครับ เป็นอะไรที่ค่อนข้างสูสี และตัวปรับเสียงนั้นมีมาให้ทั้ง คู่ของ Vivo นั้นสามารถปรับได้มากกว่านิดหน่อย รวมถึงเลือกหูฟังของทางค่ายได้ หน้าตาการปรับจริง หรือฟีเจอร์ให้ทาง Vivo นั้นทำได้ดีกว่าในจุดนี้ เพราะปรับได้ถี่มากกก ส่วนของ Realme ปรับได้ 3 ย่านหลักๆเท่านั้นครับ

SPEAKER

ตัวลำโพงในทั้ง 2 รุ่นนี้นั้นมีความแตกต่างกันชัดเจนเลยแหละถ้าใครได้ลองฟังในคลิปแล้วจะค่อนข้างชัดเจนครับว่าตัวไหนมาดีกว่ากัน จริงๆทาง  Realme เป็นอีกค่ายที่ทำลำโพงมาได้ดีนะ มีที่สูสีก็เป็น Asus ซึ่งเมื่อเอา Realme มาเทียบกับทาง Vivo นั้นก็ต้องบอกว่าทาง Realme ทำได้ดีมากๆในเรื่องของ มิติเสียง ความแน่น ความกังวาล ความดังนั้นทำได้ดีกว่าทั้งหมดเลย สังเกตง่ายๆเสียงเบสมาดีกว่า Vivo ชัดเจนในการยิงปืนในเกม การดูหนังอะไรพวกนี้ค่อนข้างชัดครับ ของทาง Vivo นั้น จะไปทางโทนแหลมสูง และแบนๆแห้งๆนั้นเองครับ ก็ลองฟังกันดูว่าในคลิปกับที่บอกไปคิดแบบเดียวกันไหมนะ

GAMING

สำหรับการเล่นเกมส์หากดูจากสเปคแล้วในรุ่น Realme 2 Pro อาจจะได้เปรียบเรื่องสเปค เเต่จริงๆเเล้วก็ถือว่าทำออกมาได้ดีทั้งสองรุ่น Realme 2 Pro สามารถปรับภาพกราฟฟิกเกมส์ต่างๆได้สูงกว่า Vivo Y95 ส่วน Vivo Y95 สามารถเปิดภาพกราฟฟิกได้ต่ำกว่า Realme 2 Pro เเต่เรื่องของ Fps ที่ได้ ทั้งสองรุ่นก็ถือว่าทำออกมาได้ดีตามสเปค เเต่หากจะเอาคุ้มค่าจริงๆยังไงก็คงต้องยกให้ Realme 2 Pro เอาเป็นว่าไปดูกันในคลิปทดสอบเกมส์ที่ผมทำไว้เอาเองดีกว่านะครับ

GPS

การทดสอบการจับ GPS ในทั้ง 2 รุ่นนี้เอาจริงๆถือว่าไว้ใจได้พอสมควรครับในการใช้งานจริงๆทั้ง REALME / VIVO นั้นนำทางได้นิ่งและไวพอสมควร ในการนำทางทั้งใต้ทางด่วน หรือ ลงอุโมงค์ไม่เจออาการรวนอะไรครับ และความไวในการอัพเดนหันซ้ายขวาอะไรทำได้ดีพอๆกันเลยแหละ เมื่อใช้แอพทดสอบนั้นความไวในการจับนั้น Realme ทำได้ไวกว่า 1 วิโดยประมาณครับมาขึ้นเร็วกว่า จับได้ใกล้ๆกันต่างกันประมาณ 5 ดวงครับทาง Realme เจอทั้งหมด 38  และจับได้ 25 ส่วนของ  Vivo นั้นเจอทั้งหมด 43 และจับได้  20 จริงๆถือว่าไม่หนีกันมากครับในการนำทางใครกำลังมองๆเรื่องนี้ก็ไว้ใจได้เลยทั้ง 2 รุ่นครับ

CAMERA

ในเรื่องของกล้องหลังนั้นมีกล้องมาคล้ายๆกันที่ 2 กล้องหลัก และเป็นตัวจับระยะ 1 ตัวแค่นั้นครับ ความละเอียดและรูรับแสงก็แตกต่างกันอยู่นะ ในตัว Realme นั้นมาพร้อมกับกล้อง  16 MP F1.7 + 2 MP แต่ในด้าน Vivo มาพร้อมกับกล้อง 13 MP F2.2 + 2MP ครับแน่นอนว่าที่แตกต่างกันชัดๆเลยคือรูรับแสง ของทาง Vivo แคบกว่าพอสมควรจะทำให้กลางคืนนั้นเก็บได้มืดกว่าและอาจจะทำให้เสียรายละเอียดมากกว่าในการที่จะทำให้ภาพสว่างเท่าๆกับของจริงครับ เรามาดูกันว่าระบบจะจัดการได้ดีแค่ไหนกันครับ กล้องทั้ง 2 รองรับการถ่ายหน้าชัดหลังเบลอทั้งคู่ แต่ Vivo  ปรับโฟกัสอะไรทีหลังได้ แต่ของ Realme ปรับไม่ได้ถ่ายเสร็จคือจบ ! นะครับ

ส่วนความเห็นแอดมินจากที่ได้ลองนั้นต้องบอกว่า Realme ทำออกมาได้ดีกว่าในเกือบทุกสภาพแสง ทั้งย้อนแสง กลางคืน กลางวันครับ รายละเอียด ความแม่นยำของสีพวกนี้ทำได้ดีเลยแหละ ส่วนความไวอะไรพวกนี้พอๆกันครับในการเปิดกล้อง ชัตเตอร์พวกนี้ ภาพรายละเอียดเวลาซูมนั้น Realme จะทำได้ดีกว่าแบบเห็นชัดเจน และโทนสีจะตรงมากกว่าครับของทาง Vivo จะชอบติดเหลือง เท่าที่เจอในหลายๆตัว

PORTRAIT 

CROP

ในการละลายหลังนั้นจะเห็นชัดว่าของ Vivo จะเสียรายละเอียดแบบชัดเจนในตอนกลางคืนเพราะ รูรับแสงแคบกว่าทำให้ถ่ายกลางคืนลำบากกว่าครับ ส่วนระยะอะไรพวกนี้ทำได้สวยพอๆกันเลยถ้าเวลาแสงมาก ซึ่งมุมของ Vivo จะครอปเข้าไปเล็กน้อย ของ Realme จะกว้างกว่า แต่ก็จับระยะได้ดี หลอดไม่หายไปไหนครับในการถ่ายแบบนี้ และเวลาครอปภาพมาให้ดูนั้นจะค่อนข้างชัดเจนว่า รายละเอียดของ Vivo หายไปพอสมควร

SELFIES

ในการถ่ายกล้องหน้านั้น ทั้ง 2แบรนด์นี้ถือว่าขึ้นชื่อพอสมควรครับกล้องหน้าถ่ายอะไรก็สวย ถ่ายคนไม่สวยให้สวยได้ ! และทางสเปคที่ให้มาก็จัดเต็มมากๆโดยเฉพาะของ Vivo ที่จัดเต็มมามากถึง 20MP ส่วนของ Realme นั้นมาให้ที่ 16MP ครับ รองรับการถ่ายหน้าชัดหลังเบลอทั้งคู่ และมีหน้าเนียนอะไรมาให้ครบครับทั้ง 2 รุ่น มุมกว้างอะไรทำได้ดีพอๆกันเลย รวมถึงตัวคุณภาพก็ไม่หนีกันมากเท่าไร หน้าเนียนทำได้ฉลากทั้งคู่ไม่เวอร์เกินไป ไม่หลอกตาเกินไปครับ ค่อนข้างสูสีเลยแหละ ต่างกันแค่ความแม่นยำของตัวสีโทนสีผิว โดยรวมที่ Vivo จะอมเหลือง Realme จะติดแดง ครับ

VIDEO

การถ่ายวีดีโอตัวนี้จะสามารถถ่ายได้ FullHD ได้ทั้งคู่แต่ของทาง Realme นั้นยังสามารถถ่าย 4K ได้ด้วย ขณะที่ทาง Vivo นั้นไม่สามารถถ่ายได้ครับ ส่วนเรื่องของคุณภาพอะไรต่างๆนั้นก็ไม่ได้หนีกันมากในความละเอียดแบบเดียวกัน ในด้านของการกันสั่นนั้นใกล้ๆกันครับในแบบ FullHD แต่ของทาง  Realme จะนิ่งกว่านิดหน่อยเวลาขยับพวกนี้เดินต่างๆ ส่วนเรื่องของการอัดเสียงนั้นก็อาจจะฟังยากนิดนึงเพราะใส่หน้ากากนะครับ แต่ก็พอแยกกันได้ว่าทาง Realme ตัดเสียงได้ดีกว่าแต่มันดีจนบางทีเสียงพูดของเรานั้นแอบเพี้ยนๆไป ส่วนของ Vivo นั้นเสียงรอบข้างจะเข้ามาเยอะแต่เสียงคนก็ธรรมชาติกว่านิดหน่อยครับผม ส่วนเรื่องของสีโทนสีใกล้ๆกันแต่ Vivo จะอมเหลืองนิดๆครับ

REALME 2 PRO VS Y95 

สำหรับคู่นี้นั้นทาง VIVO / REALME อาจจะไม่ได้ราคาใกล้เคียงกันแบบเป๊ะๆแต่ก็อยู่ในเรทที่เทียบได้สูสีที่สุดในทั้ง 2 แบรนด์ แต่ก็มีจุดดีเด่นแตกต่างกันแบบคนละด้านเลย แต่เอาจริงๆต้องบอกว่ามือถือแต่ละแบรนด์เค้าก็มีจุดดีเด่นของเค้าไม่มีรุ่นไหนที่ตอบโจทย์ความต้องการได้ทุกคนแน่นอนครับเราทำเทียบเพื่อจุดประสงค์ว่าจะให้คนที่กำลังดูและเน้นเรื่องไหน เค้าจะเหมาะกับรุ่นไหนมากกว่ากันนั้นเอง แอดมินจะไม่ชี้นำว่า อันนี้ดีสุด ต้องซื้อรุ่นนี้อะไรแบบนั้นนะ แต่จะนำข้อเท็จจริงของแต่ละรุ่นว่ารุ่นนี้เด่นอะไร รุ่นนี้ด้อยยังไงและไปตัดสินใจกันเองครับ แอดมินไม่สามารถตัดสินใจแทนทุกคนได้แน่นอน ได้แต่นำเสนอข้อเท็จจริงและสรุปจากประสบการณ์การใช้งานให้อ่านกันครับ เรามาดูข้อสรุปนิดหน่อยกันครับว่ารุ่นไหนเด่นอะไร และ มีจุดไหนที่ทำได้ใกล้กัน

REALME 2 PRO

ข้อดี

  • หน้าจอ ความละเอียด  FullHD+ และ สว่างกว่า สีดีกว่า
  • ลำโพงทำได้ดีมิติ ดังและชัดเจน
  • เสียงผ่านหูฟังทำได้นุ่ม กำลังขับดี
  • รองรับ Wifi 5Ghz
  • Snap 660 ทำคะแนนทิ้งห่าง
  • กล้องหลังคุณภาพทำได้ดี และแม่นยำ
  • การเล่นเกมต่างๆนั้นทำได้ดีลื่นไหล
  • ถ่าย 4K ได้

ข้อสังเกต

  • ไม่มีหูฟังแถมมาในกล่อง
  • แบตให้มาน้อยกว่า
  • การออกแบบสีสันยังไม่โดดเด่นเท่าไร
  • ตัวเครื่องจับถือดูหนากว่า

VIVO Y95 

ข้อดี

  • ตัวเครื่องการออกแบบ สีสวยงาม และดูบาง
  • แบตมาให้มากกว่าใช้งานได้นานกว่า
  • มีหูฟังแถมมาในกล่อง
  • ปรับแต่งเสียงได้เยอะในด้าน EQ
  • ปรับแต่งธีมได้หลากหลาย
  • กล้องหน้าได้ความละเอียด 20MP

ข้อสังเกต

  • ไม่รองรับ Wifi 2.4 Ghz
  • หน้าจอยังแค่  HD+ ไม่สว่างเท่าไรและมุมมองน้อย
  • กล้องหลังยังไม่ค่อยดีเท่าไรนัก
  • ลำโพงแบน เสียงไม่ดีเท่าไร
  • Snap 439 ไม่แรงเท่าไร

พอๆกันทั้ง 2 รุ่น 

  • ไม่รองรับ Netflix HD /DRM L1
  • Sensor ต่างๆมีมาให้เหมือนกัน
  • ยังคงมี รูหูฟัง 3.5 มม. ให้ทั้ง 2 รุ่น
  • ดีไซน์หน้าจอ ขนาดต่างๆทำได้ใกล้เคียงกันมาก
  • มีเคสแถมฟิลม์แถมในกล่องติดมาให้เรียบร้อย
  • ไม่สามารถปิดติ่งได้ทั้งคู่
  • RAM / STORAGE เท่ากัน
  • GPS ทำได้ดีพอๆกัน
  • กล้องหน้าทำได้ดีสูสี

สำหรับรีวิวเปรียบเทียบนี้ผมก็ต้องขอตัวลาไปก่อนสำหรับรีวิวรุ่นต่อไปนั้นจะเป็นรุ่นอะไรอย่าลืมติดตามกันนะครับ ถูกใจฝากกดไลค์กดแชร์ด้วยนะครับ  มีข้อผิดพลาดประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ 
ฝากไลค์เพจ FACEBOOK เราด้วยนะครับ >>>>>>>>>  TECHHANGOUT

เข้าร่วมกลุ่ม TECHHANGOUT พูดคุยแลกเปลี่ยน ข้อมูล คุยกันเองชิลๆได้เลยที่ — Facebook  Techhangout พูดคุย Smartphone gadget 

By Nineztr

Comments กันได้เลย !

Comments

0 Shares