Gaming Notebook จากค่ายนี้ก็พอคุ้นๆกันอยู่หลายตัวค่อนข้างน่าสนใจคือมีราคาไม่แรงและสเปคที่ใช้งานได้ดีรวมถึงหน้าจอที่รองรับการกางได้ค่อนข้างกว้างมากๆ เป็นไม่กี่ค่ายที่ทำได้กว้างขนาดนี้แน่นอนว่าปกติเรานั้นจะไม่ค่อยเห็นสายเกมที่ต้องใช้การกางระดับนี้เท่าไรครับแต่ในรุ่นนี้เองก็รองรับได้เผื่อการใช้งานที่หลากหลายขึ้น สำหรับตัว Ideapad L340 นั้นก็ได้เปิดตัวมาเช่นกันในธีมสีดำฟ้า และใช้งาน intel gen9 และ GTX 1650 สำหรับในเรื่องของการออกแบบก็จะเน้นในการออกแบบที่เรียบๆอาจจะไม่ได้ดูเหมือนสายเกมมากเท่าไรนัก หรืออาจจะช่วยในการใช้งานทั่วไปได้แบบไม่ใช้สายเกมเกินไป และในราคาที่จับต้องได้ง่ายขึ้นครับและในรุ่นนี้ใช้งาน SSD แล้วทำให้การใช้งานรวมๆนั้นถือว่าน่าสนใจขึ้น และรวดเร็วขึ้นพอสมควรในเรทราคา ไม่ถึง2หมื่นกำลังดีไม่แพงเกินไปด้วยครับ

L340 15IRH สเปครุ่นนี้มาพร้อมกับ Core i Gen 9  Core i5-9300H พร้อมด้วยการ์ด NVIDIA GeForce GTX 1650 4GB DDR5 และแน่นอนว่าในรุ่นนี้ได้ติดตั้ง SSDM.2 SSD (PCIe/NVMe) มาให้ความจุมากถึง 512GB ดีกว่ารุ่นที่ให้ HDD มาเยอะเลยครับ และในส่วนของหน้าจอนั้นยังมาพร้อมกับหน้าจอ 15.6 นิ้ว iPS FHD ด้วยและรองรับองศาการกางที่มากกว่ารุ่นทั่วไป และ ฟีเจอร์ม่านกล้องที่จะช่วยปิดเลนส์กล้องเพื่อรักษาความเป็นส่วนตัวอีกด้วยนั้นเอง และในด้านของลำโพงนั้นก็มาพร้อมกับลำโพงที่รองรับเทคโนโลยีเสียง Dolby Audio ทำให้เสียงนั้นมีมิติและมีคุณภาพที่มากกว่าเดิม ส่วนในเรื่องของการเชื่อมต่อรุ่นนี้ให้ Bluetooth 5.0 และ Intel Wireless-AC 9560 2×2 AC ถือว่าดีทีเดียวครับ และตัวคีย์บอร์ดรุ่นนี้ยังให้ไฟ Blacklit มาให้ด้วยเป็นโทนสีฟ้าครับไม่สามารถปรับสีได้แต่สามารถลดแสงได้ 3 ระดับปกติ และรุ่นนี้ยังดีที่ได้ Numpad แบบเต็มรูปแบบมาให้ด้วย

LENOVO IDEAPAD L340-15IRH-(BLACK) ตัวที่รีวิวนั้นมีราคาที่ 19,990 บาท มาพร้อมกับ i5 Gen9 + GTX 1650 + SSD 512GB + RAM 8GB ครับ แต่สเปคอื่นๆก็มีให้เลือกมากมายและปรับแต่งเองได้ด้วยครับสำหรับค่ายนี้ 

UNBOX

ตัวกล่องนั้นมาในธีมสีดำพร้อมโลโก้เรียบๆครับ และ อุปกรณ์ในกล่องนั้นมีมาให้ทั่วไปครับ คือตัวคู่มือ และ ที่ชาร์จแบบ 135W พร้อมกับสาย Adaptor ปกติครับ และ พวกซองอะไรนิดหน่อยครับสำหรับในกล่อง เป็นปกติของเรื่องเรทราคาประมาณนี้ของในกล่องเลยไม่ได้มีอะไรเยอะครับ

DESIGN

ในด้านการออกแบบตัวเครื่องมาในโทนสีดำฟ้าทั้งหมด การใช้วัสดุงานประกอบอะไรดูแข็งแรงดีครับแต่มีความรู้สึกพลาสติกในส่วนที่วางแขนอะไรมากไปนิดนึงแต่ก็ได้น้ำหนักที่เบามาแทนครับ ส่วนฝาหลังนั้นก็เป็นลายปัดลายอลูมิเนียมสวยงามพร้อมกับเคลือบเงามาให้ด้วยข้อดีคือรักษาง่ายไม่ติดรอยมันของมือ แต่ก็อาจจะไม่ได้เท่เท่ากับแบบ ด้านๆของบางรุ่นส่วนข้อต่ออะไรต่างๆนั้นดูแข็งแรง และรองรับการใช้งานทั่วไปได้แน่นอนว่าค่ายนี้นั้นทำเรื่องของหน้าจอพับแบบกางวางราบได้ในหลายๆรุ่นเรื่องความแข็งแรงต่างๆนั้นไว้ใจได้ครับ ความหนานั้นยังแอบหนาอยู่เมื่อเทียบกับสมัยนี้ แต่ถ้ามองมันเป็นคอมพิวเตอร์สายเกมนั้นอาจจะพอเข้าใจได้ว่าทั้งเรื่องของระบายความร้อน อะไรต่างๆนั้นทำให้มันต้องมีความหนาที่มากกว่าคอมพิวเตอร์ทั่วไปอยู่พอสมควรและการใส่การ์ดจอ heat sink เข้ามาด้วยนั้นเอง

รูปทรงถือว่าเรียบๆและก็ยังมีความหนาอยู่พอสมควรครับ บอดี้เป็นพลาสติกหลักๆเลยทำให้อาจจะดูไม่แน่นหนาเท่าไรนัก และรอยต่อของแต่ละส่วนก็เห็นเป็นปกติในส่วนของฝาหลังต่างๆแต่พวกวัสดุข้างในก็ยังทำได้ดีผิวสัมผัสดีแต่แอบขัดใจตรงทัชแพดที่ดูไม่ได้แน่นหนาเท่าไรนักและวัสดุแตกต่างกับบริเวณรอบๆ การกางฝาอะไรนั้นทำได้กว้างและรองรับองศาได้กว้างพอสมควร เวลาจับเปิดนั้นดูแข็งแรงสามารถจับมุมเครื่องด้านใดด้านนึงเปิดได้เลย

ในส่วนของช่องระบายความร้อนยังคงอยู่ในตำแหน่งประจำของหลายๆตัวคือตรงด้านหลังนั้นเองส่วนนี้จะเป็นช่องระบายความร้อนหลักๆของตัวเครื่องมีการเล่นสีฟ้าสวยงามจะเห็นว่าช่องแต่ละส่วนนั้นไม่เท่ากันโดยส่วนที่เปิดกว้างกว่านั้นจะเป็นส่วนที่ระบายหลักๆจากทางพัดลมหลักครับ โดยในรุ่นนี้ มีพัดลมมาให้ 2 ตัวมีขนาดเล็กและใหญ่ครับอยู่ในด้านมุมขวาขอบเครื่อง การวางแบบนี้อาจจะทำให้ระบายได้ไม่ทั่วถึงเท่าไรต้องรอดูการใช้งานจริงกันอีกที และเมื่อแกะข้างในดูแล้ว Heat sink นั้นมีแค่ 2 เส้นเท่านั้นทำให้เรื่องการระบายความร้อนนั้นน่าเป็นห่วงพอสมควรเลย ข้อต่อของรุ่นนี้สามารถเปิดฝาพับได้ในข้างเดียวโดยไม่โยกเยก ส่วนเรื่องของวัสดุฝาด้านในนั้นก็ทำได้สวยและดูดีกว่าคู่แข่งอยู่พอสมควรแต่เครื่องความแน่นอาจจะพอเข้าใจได้ในเรทราคาช่วงนี้ครับ แต่รวมๆนั้นแข็งแรงไว้ใจได้อยู่

ฐานของเครื่องนั้นเป็นพลาสติกด้านเรียบๆไม่มีลวดลายอะไร ยางรองเครื่องมีมาให้ 3 จุดหลักๆเป็นแถบยาวในด้านหลัง และ 2 จุดในด้านหน้าส่วนช่องระบายในส่วนข้างล่างนั้นมีเป็นแถบยาวๆสำหรับดูดลมเข้าและปล่อยข้างหลังแค่นั้นครับ แต่ก็ยังมีการเล่นสีฟ้ามาให้ตรงแผงข้างในเล็กน้อยถือว่าดูไม่เรียบจนเกินไปแต่เป็นส่วนข้างล่างอาจจะไม่ค่อยเห็นเท่าไรครับ และจะเห็นตัวพัดลมค่อนข้างชัดเจนในส่วนของฝั่งซ้ายในภาพเป็น 2 ตัวหลักๆในการระบายลมร้อน

ในส่วนของด้านในก็ใช้งานวัสดุการเล่นลวดลายเหมือนกับฝาหลังทั้งหมดครับมีความสวยงามและใช้งานได้ดีในแง่ของป้องกันรอยนิ้วมืออะไรต่างๆ ส่วนปุ่มเปิดปิด นั้นอยู่ในโซนเดียวกันกับ แป้นพิมพ์ทั้งหมดครับ และในส่วนของฝาด้านหน้านั้นจะเป็นว่าเป็นวัสดุที่ปัดลายสวยงามและเก็บขอบต่างๆได้ดี แต่ก็ยังพอเห็นรอยต่อของวัสดุที่แตกต่างกันอยู่บ้างเล็กน้อยเมื่อดูข้างๆและโลโก้ Lenovo ยังคงออกแบบไว้มุมเครื่องและเป็นสีฟ้าแต่ไม่ได้มีไฟอะไรในส่วนนี้ครับ

ขอบหน้าจอนั้นไม่ได้บางมากทั้งขอบบนและข้างๆยังมีความหนาอยู่พอสมควร ส่วนขอบหน้าจอข้างบนนั้นจะมียางรองแนวยางของเครื่องและที่น่าสนใจคือส่วนของกล้องหน้านั้นจะเห็นว่ามีแถบเลื่อนอยู่ ตรงนี้คือฟีเจอร์ที่จะเป็นเหมือนม่านมาปิดเลนส์ของตัวกล้องเพื่อความเป็นส่วนตัวที่มากกว่าเดิมครับ เพราะบางคนอาจจะกังวลเผลอเปิดกล้องเวลาสตรีมหรืออะไรแบบนี้สำหรับสายเกมหรือใช้งานทั่วไปอะไรแบบนี้ก็ถือว่าเป็นแนวคิดที่ดีครับ ส่วนข้อบานพับของรุ่นนี้สามารถกางได้เยอะมากและคงเป็นไม่กี่รุ่นที่ทำได้แน่ๆที่จะกางได้แบนราบแบบนี้ในสายพวก Gaming อิสระและมีความแข็งแรงพอสมควรครับ ก็ยืดหยุ่นในการใช้งานทั่วไปได้ดีมากๆและสามารถเอามาทำงานอะไรได้คลอบคลุมพอสมควร

SPEC

  • Intel Core i5-9300H (2.40 GHz, 8 MB L3 Cache, up to 4.10 GHz)
  • NVIDIA GeForce GTX 1650 (4GB GDDR5)
  • RAM 8GB DDR4
  • SSD 512GB M.2 SSD (PCIe/NVMe)
  • 15.6″ FHD (1920 x 1080), IPS, antiglare, 250 nits, 45% color gamut
  • 2x 1.5W speakers with Dolby® Audio®
  • 2 x USB 3.1 (Gen. 1)
  • USB-C
  • Headphone / mic combo
  • HDMI 2.0
  • RJ45
  • 2.2kg
  • Up to 9 hours*, with Rapid Charge technology

PERFORMANCE

ตัวนี้มาพร้อมกับชิปประมวลผล Intel Core i Gen 9 อย่าง Intel Core i5-9300H โดยจะเป็นรุ่นยอดนิยมประจำช่วงครึ่งปีหลังของ 2019 มีความเร็วในการประมวลผลอยู่ที่ 2.40 GHz สูงสุดถึง 4.10 GHz เป็นซีพียูแบบ 4 Core 8 Threads  และมาพร้อมกับการ์ดจอติดตัวกับ UHD 630 และเสริมด้วยการ์ดจอแยก GTX 1650 4GB DDR5 และมาพร้อมกับ RAM 8GB DDR4 รวมถึงให้  SSD 512GB มาเพียงพอต่อการใช้งานทั่วไปได้สบายๆ

PC MARK เป็นการทดสอบที่เน้นไปทางด้านการใช้งานทั่วไป ทำงานหลักๆเน้นไปที่ CPU ทำงานหลักๆครับซึ่งจากการทดสอบจริงๆ i5 GEN9 9300H ตัวนี้หลังจากที่ทดสอบบอกเลยว่าแรงสมราคาตระกูล Gen9 เลยนะแม้จะไม่ได้แรงโหดอะไรมากนักแต่ถ้ามองในแง่ใช้ทำงานทั่วๆไปทำคะแนน  3911 ความร้อนที่ทดสอบสูงสุดที่ 95 สำหรับ CPU และ  GPU 70  ในห้องปกติ

3DMARK นั้นเป็นการทดสอบในด้านคะแนน 3 มิติทั้งหลาย เน้นการประมวลผลการเล่นเกม เรนเดอร์เป็นหลักในพวกการ์ดจอคะแนนในหลายๆส่วนนั้นทำได้ดีสมกับการ์ดจอแยกของ GTX 1650 (4GB GDDR5) ที่ขับออกมาในคะแนนหลายๆส่วนได้ดีกว่าที่คิดไว้ ทั้ง 4 การทดสอบครับ ความร้อนที่ทดสอบสูงสุดต่อเนื่อง 3 ทดสอบที่ 94 สำหรับ CPU และ  GPU 82  ในห้องปกติไม่มีแอร์ครับ

CINEBENCH R15-R20 นั้นเป็นการทดสอบการเรนเดอร์  CPU ล้วนๆแล้วและตัวใหม่ 20 นั้นทำงานหนักกว่าเดิมหลายเท่ามากๆ คือเป็นรุ่นใหม่ที่ทดสอบโหดกว่าเดิม Workload จัดหนักกว่าเดิมเยอะครับทำคะแนนไปได้สมราคาคุย คือ 1294 CB ครับในตัว Cinbench R20 ส่วนตัว R15 ตัวเก่านั้นทดสอบแล้วได้ที่ 67 Fps / 627 CB และตัวความร้อนหลังทดสอบตัวนี้ได้ที่ 90 CPU GPU 83 ส่วนตัว SSD 512GB นั้นทำได้ดีมากๆเลยใการอ่านเขียนระดับ แตะ 3000 ครับทำไปได้ 2849 ในการเขียน และ 2738 ในการอ่านครับ 

SCREEN

หน้าจอในรุ่นนี้มาพร้อมกับหน้าจอแบบ 15.6 นิ้ว IPS FULLHD 60HZ เป็นหน้าจอแบบจอด้านนะครับจากที่ลองนั้นมุมมองของมันทำได้ระดับกลางๆรวมถึงตัวสีก็ไม่ได้แม่นเท่าไรครับตัวสีหน้าจอนั้นเมื่อได้ลองใช้งานแล้วสีอาจจะไม่ได้ดีเท่าไร สำหรับใครที่จะเอาไปทำตกแต่งภาพ หรือทำสายงานกราฟิก แต่ถ้าในส่วนของการเล่นเกมนั้นตัวนี้ก็รองรับได้ไม่มีปัญหาครับ แต่ถ้าดูกันในแง่ของการสู้แสงความสว่างตัวนี้ก็อาจจะสู้ได้ยากนิดหน่อยแม้จะปรับสุดแล้วครับแม้จะเป็นจอด้านก็จริงแต่ก็ยังมองเห็นได้ยากเมื่อใช้งานมีแสงรบกวนเข้ามาเยอะๆ และในแง่ของการออกแบบนั้นยังมีความหนาของขอบหน้าจออยู่พอสมควรเมื่อเทียบกับตัวอื่นๆในยุคนี้ที่เริ่มจะทำขอบบางขึ้นกันเรื่อยๆแม้จะในเรทราคานี้ครับ

หน้าจอเมื่อมองจากมุมมองด้านข้างจะเห็นได้แบบชัดเจนเลยว่าความแม่นยำของสีจากเดิมที่อาจจะไม่ได้ดีมากนัก และเมื่อมองแบบนี้สีสันความสว่างก็จะดรอปลงไปอีกครับ แน่นอนว่าหน้าจอตัวนี้ต้องบอกกกันตรงๆว่าอาจจะไม่ได้เด่นมากนักเน้นใช้งานทั่วไปได้ แต่ถ้าทำงานจริงจังอาจจะต้องหาจอเสริมเข้ามาช่วยด้วยครับทั้งเรื่องความสว่าง มุมมองและความแม่นยำของตัวสี แต่ถ้าเราแค่ใช้งานทั่วไปไม่ได้ซีเรียสอะไรเรื่องความแม่นยำมากนักก็ไม่ต้องเป็นห่วงสำหรับรุ่นนี้ครับ ใช้งานทั่วไปได้สบายๆ ดูหนังเล่นเกม เขียนงานพิมพ์งานแบบนี้ได้อยู่ จอด้านก็ช่วยไว้ได้ระดับนึงในการทำงานข้างนอก

KEYBOARD

ตัวคีย์บอร์ดนั้นต้องบอกว่าคุ้นเคยกันดีในตระกูล Ideapad ทั้งเรื่องของการออกแบบและรูปทรงของตัวปุ่มนั้นเป็นสีดำและตัวอักษรสีฟ้าทั้งหมดในขอบด้านบนตัวตรง และขอบด้านล่างโค้งครับส่วนความโค้งก็รองรับนิ้วมือได้ดี เป็นแบบ 4 แถวขนาด Full Size และมี Numpad ในด้านขวามาให้ยังไม่ได้ตัดไปไหน ส่วนเรื่องตัวปุ่มนั้นตอบสนองได้เป็นอย่างดีทั้งขนาดแป้นพิมพ์ที่รับกับนิ้วและช่องว่างระหว่างแป้นที่ทำให้มีความแม่นยำในการกด ส่วนตัวปุ่มนั้นก็มีขัดใจตรงลูกศรนิดหน่อยครับ เพราะรุ่นใหม่ๆบางตัวก็ปรับให้ใช้งานง่ายขึ้นโดยส่วนตัวไม่ชอบตัวปุ่ม แบบนี้เท่าไรนักครับค่อนข้างใช้ลำบากไปนิดนึงสำหรับสายเกม และแน่นอนว่าตัวนี้มีไฟมาให้ปรับได้ 2 ระดับโทนสีฟ้าขาวครับ

ตัวปุ่มระยะการกดมีความลึกกำลังดี และที่ชอบคือความโค้งรับกับนิ้วได้ดีกว่าหลายๆตัวที่ได้ลองแน่นอนว่าของตัว Lenovo ก็ยังคงใช้คีย์บอร์ดลักษณะนี้มาหลายๆตัวครับรวมถึงการเว้นระยะห่างหลายๆอย่างก็ทำได้ค่อนข้างลงตัวและไม่ติดปัญหาอะไรในด้านของตัวอักษรนั้นเป็นสีฟ้าอ่อนๆเมื่อเวลาไม่เปิดไฟก็ยังเห็นอยู่ลางๆครับใช้งานได้ในหลายสภาพแสงยังมองเห็นได้ชัดครับไม่ได้มีปัญหาในส่วนนี้ และตัวไฟเมื่อเปิดก็มองเห็นได้ชัดเจนครับและมีไฟรอบๆปุ่ม

TOUCHPAD

สำหรับตัวทัชแน่นอนว่ามีขนาดแอบเล็กไปเหมือนกัน และก็ยังไม่มีการเล่นกับการออกแบบอะไรเลยในตัวทัชแพดไม่มีพวกโครเมี่ยมเงาๆหรือจะเป็นพวกสีสันต่างๆตามขอบครับเป็นแค่วัสดุแบบเดียวกันแต่มีร่องรอยต่อแค่นั้นเลยถือว่าเรียบมากๆยังคงการออกแบบรวมๆได้ดีเลยแหละ ตัวแป้นไม่มีคลิกแยกซ้ายขวาอะไรครับสามารถกดลงไปได้เลย ตัวทัชนั้นรองรับหลายๆนิ้วได้ แต่ไม่ได้สะใจอะไรมากนักเมื่อเทียบกับขนาดตัวเครื่องโดยรวมนั้นเองสามารถรองรับการทำงานหลายๆนิ้วได้ดี ไม่เจออาการเอ๋ออะไรครับ แต่ความรู้สึกว่าเวลาใช้งานเลื่อนนั้นยังแอบแปลกๆไม่ต่อเนื่องเท่าไรนัก ไม่ค่อยลื่นมือเท่าไร ซึ่งไม่แน่ใจว่าอัปเดตแล้วจะช่วยได้ไหมนะครับกับระยะกดนั้นลงลึกมากไปพอสมควรเลย

สามารถวางนิ้วควบคุมทั้ง 4-5 นิ้วได้เป็นอย่างดีในเรื่องของวัสดุนั้นเป็นแบบเดียวกับตัวเครื่องโดยรวมทำให้ค่อนข้างติดนิ้ว เป็นตัว Software ของ Precision ครับแบบเดียวกับรุ่นอื่นๆของค่ายใช้งานได้ดี แต่รู้สึกขนาดที่เล็กไปหน่อยเมื่อเทียบกับ 15.6 นิ้วของตัวเครื่องโดยรวมครับ และความไม่ลื่นไหลเวลาใช้งานเป็นจุดหลักๆที่ขัดใจมากๆในส่วนนี้

SPEAKER

ทางด้านลำโพงในรุ่นนี้ถือว่าเสียงค่อนข้างดีเลยแหละแน่นอนว่าความดัง มิติเสียงและกังวาลนั้น Dolby เข้ามาช่วยได้เยอะจริงๆทำให้เสียงนั้นมีมิติกว่าเดิม และด้วยการวางตัวลำโพงแบบยิงออกมาด้านข้างเลยทำให้เสียงนั้นกระทบและส่งออกมาได้ดีครับ แต่เสียงเบสอะไรนั้นค่อนข้างเบาบางพอสมควรเลยไม่ได้หนักกระแทกอะไรจะเด่นๆในแง่ของมิติเสียงมากกว่าเสียงเพลงพวกนี้ครับ คนพูดอะไรชัด และแยกซ้ายขวาชัดเจน ถือว่าถ้าในเรท 2 หมื่นตัวนี้ทำได้ดี

BATTERY

อายุการใช้งานแบตรุ่นนี้ในสเปคบอกไว้ประมาณ 9 ชั่วโมงแต่พอใช้จริงๆแล้วประมาณ 5-6 ชั่วโมงเท่านั้นในการใช้งานทั่วไปจะเห็นได้ว่าที่ลองใช้นั้นยังไม่ได้เปิด Wifi ก็ขึ้น 6 ชั่วโมงแต่ถ้าทำงานจริงๆนั้นจะได้ 5ชั่วโมงไม่เกินนี้คือใช้งานทั่วไปเลย ต่อ Wifi เขียนเว็บแต่งรูปทั่วไปไม่ได้ใช้งานหนักมากนักถือว่าแบตค่อนข้างไหลพอสมควรครับไม่ได้อึดเท่าไรในการพกพาไปทำงานข้างนอกอาจจะต้องพกตัว Adaptor ออกไปด้วยเพราะแบตนั้นใช้จริงๆจังๆ 4-5 ชั่วโมงเท่านั้นไม่ถึง 9 ชั่วโมงแต่ถ้าเซฟจริงๆคือปิดไฟ ลดแสงอะไรก็พอดันไปได้ 6 ชั่วโมงเป็นต้นครับในการใช้งานทั่วไป

CONNECTOR 

ในส่วนของพอร์ตเชื่อมต่อนั้นจะโดนเทมาอยู่ฝั่งเดียวกันทั้งหมดครับ และมาให้เพียงพอต่อการใช้งานแบบพอดีมากๆครับจริงๆใส่มาอีกฝั่งได้นะจะได้ครอบคลุมได้มากกว่านี้ ในด้านซ้ายนั้นอันแรกจะเป็นช่องไฟเข้าแบบสี่เหลี่ยมครับ และ ยังมีช่อง LAN มาให้อยู่รวมถึง HDMI – USB 3.1 ทั้งหมด 2 ช่อง และ รูไมค์+หูฟัง และ ช่อง USB-C 3.1 . จริงๆถือว่าน้อยไปหน่อยครับคือมันพอดีแบบเป๊ะๆ เสียบเมาส์ หรืออะไรก็เหลือมาให้อีกแค่ 1 ช่องเท่านั้นครับและไม่มี SD-Card อะไรมาให้เลยสำหรับการใช้งานเสียบดูรูปภาพต่างๆ และ ลำโพงมุมเครื่องนั้นเว้าออกมาทำให้มีพื้นที่ในการยิงเสียงออกมาด้านข้างและไม่ได้ยิงลงพื้นเยอะเกินไปครับ

เมื่อมาดูในด้านขวานั้นจะเห็นเลยว่าไม่มีช่องอะไรเลยยกเว้นแค่ Kensington Lock เท่านั้น และมีเส้นสายที่ทำให้ดูบางๆเข้ามานิดหน่อย และลำโพงที่ยิงออกมาด้านข้างครับเรื่องของเสียงนั้นไว้ใจได้เสียงดีกว่าหลายๆตัวในเรทราคานี้แน่นอนว่าอาจจะเป็นเพราะตำแหน่งการวางและระบบเสียงที่รับรองจาก Dolby ด้วยที่ทำให้มันโดดเด่นกว่าหลายตัว

GAMING

จากหลายๆเกมที่แอดมินได้ลองนั้น FPS ทำได้ดี ได้บางเกมรันได้สบาย ทุกเกมที่เอามาให้ดูคือปรับภาพสูงทุกเกมนะครับ ซึ่งตัวนี้ ก็รองรับการใช้งานเล่นเกมอะไรได้ดีพอสมควรลื่นๆเลย และ ด้วยการที่ใช้ i5 9300H + การ์ดจอ GTX1650 ถือว่าแรงใช้ได้เลยครับ เล่นเกมอะไรทั่วไปทำได้ดีมากๆภาพสวย FPS นิ่งพอสมควร แต่ภาพสูงนั้นอาจจะดันไม่ได้โหดมากครับ และในเรื่องระบายความร้อนยังไม่ได้ดีเท่าไรนักแต่ถ้ามองในแง่ของสเปคที่ใช้ SSD นั้นถือว่าทำได้ดีพอสมควรครับดีกว่ารุ่นที่เราเคยลองไปเยอะมากที่ใช้ GTX1050 ถือว่าถ้าสายเกมนั้นมามองตัวนี้จะจบกว่าเยอะเลย ทั้งความลื่นไหลและการรองรับเล่นเกมหลายๆเกมครับ ใครที่เน้นสายเกมเริ่มต้นตัวนี้ตอบโจทย์แน่ๆ

  • Overwatch นั้น ทำไปได้ FPS 70 อุณหภูมินั้น GPU 69 CPU 74 
  • APEX ทำไปได้ FPS 56 อุณหภูมินั้น GPU 74 CPU 77
  • BLACK OPS 4 ทำไปได้ FPS 50 อุณหภูมินั้น GPU 70 CPU 78 
  • PUBG ทำไปได้ FPS 56 อุณหภูมินั้น GPU 77 CPU 72
  • MODERN WARFARE ทำไปได้ FPS 42 อุณหภูมินั้น GPU 73 CPU 69

โดยรวมแล้วมีการจัดการอุณหภูมิดีมากนะจากที่ทดสอบ สภาพอากาศทั่วไป เสียงพัดลมก็ดังตามปกติครับผมแต่รุ่นนี้ไม่ได้เด่นเรื่องของระบายความร้อนเท่าไรครับและพัดลม 2 ตัวคนละขนาดวางติดกันก็อาจจะทำให้ระบายได้ไม่ทั่วถึง

WORKING 

การทำงานรุ่นนี้นั้นรองรับทั่วไปสบายๆในตระกูล Microsoft และนับไปถึงการทำงานของตระกูล Adobe นั้นสบายๆตัดต่อ แต่งภาพระดับเริ่มต้นได้ เรนเดอร์งานอะไรได้ครับแต่ RAM 8GB อาจจะพอดีเกินไปทำให้ใช้งานถ้าเริ่มไปงานหนักๆอาจจะไม่พอเช่นทำงาน เรนเดอร์ ออกแบบ ตัดคลิปพวกนี้จะเริ่มแน่นๆแล้ว แนะนำให้เพิ่มเป็น 16GB จะดีกว่าครับ จะลื่นไหลและไม่หน่วงเลยแต่ถ้าตัว 8GB เรนเดอร์หลายๆตัวหรือหลายเลเยอร์อาจจะมีหน่วงบ้าง บางช่วงครับถ้าเปิดหลายๆโปรแกรม แต่ถ้าทำแค่ Photoshop Lightroom นั้นสบายๆเลยไม่มีปัญหา ส่วนการเรนเดอร์ 3 มิตินั้นทำได้ดีกว่าตัว 1050 มากพอสมควรและความแรงในการทำงานพวกนี้ก็ทำได้ดีด้วยเช่นกันถือว่าในภาพรวมทำงานสบายๆแต่ถ้าจริงจังขึ้นแนะนำว่า 16GB ในส่วนของ RAM จะช่วยได้เยอะเพราะ SSD ก็ไวๆอยู่แล้ว CPU GPU ก็สบายๆครับในภาพรวมของรุ่นนี้

LENOVO L340

” Gaming Notebook ระดับเริ่มต้นใช้งานทั่ว ในราคาไม่แรง SSD + GTX1650 “

ดีไซน์ในรุ่นนี้นั้นยังคงออกแบบให้เรียบๆจนดูไม่ออกว่าเป็นสายเกมเหมาะกับคนทั่วไปที่อยากได้คอมพิวเตอร์สำหรับทำงานแต่สเปคแรงพอสมควรและเล่นเกมได้ดีพอสมควรครับ และทำงานได้ไวด้วย SSD ที่ค่อนข้างดีกว่าตัวที่เราเคยรีวิวไปก่อนหน้านี้ และด้วยหน้าจอที่กางได้กว้างก็รองรับการทำงานได้หลากหลายขึ้นรวมถึงไฟบนคีย์บอร์ด แต่เรื่องของการระบายความร้อนอาจจะไม่ได้ดีเท่าไรนักและในการเล่นเกมแบบหนักๆจริงๆอาจจะลำบากนิดหน่อยครับทั้งเรื่องของความร้อนและปุ่มต่างๆที่ไม่ได้ออกแบบมาสายเกมจริงจัง แต่ก็อย่างว่าคือตามราคาครับไม่ได้เป็นข้อเสียอะไร และเรื่องของหน้าจออาจจะต้องดูกันอีกนิดว่ารับได้ไหมในเรื่องของสีและการสู้แสงความสว่างในการใช้งานจริงๆของแต่ละคนครับเพราะถ้าไม่ได้ออกข้างนอกบ่อยนักหน้าจอก็ไม่มีปัญหาเลยแต่ถ้าเจอแสงเยอะๆอาจจะต้องลำบากกันนิดหน่อย

ข้อดี

  • หน้าจอรองรับการใช้งานค่อนข้างหลากหลาย และ ข้อต่อ มีความแข็งแรงกางได้ 180 องศา
  • ได้ใช้งาน i5 Gen9 และ GTX 1650
  • ตัวเครื่องวัสดุงานออกแบบทำได้ดี ดูสวยและไม่เกมมิ่งมากเกินไป
  • คีย์บอร์ดมาพร้อมไฟ blacklit สีฟ้าสวยงาม และมี Numpad
  • ฟีเจอร์การปิดตัวกล้องรักษาความเป็นส่วนตัวได้ดี
  • USB เป็น 3.1 ทั้งหมดทั้ง USB-A -USB-C
  • ลำโพงมีคุณภาพเสียงที่ดีและมีความดังพอสมควร
  • มาพร้อม Windows10
  • ใช้งาน SSD 512 GB ทำงานได้ไวและลื่นไหลมาก อ่านเขียนไว
  • รองการการอัพเกรด HDD เพิ่มได้
  • สเปคสามารถปรับเปลี่ยนได้พอสมควรแบบอิสระ

ข้อสังเกต

  • หน้าจอไม่ได้ดีเท่าไรแม้จะเป็น IPS
  • มีความร้อนสูงในการใช้งาน
  • แบตใช้งานได้ประมาณ 4-5 ชั่วโมง
  • พอร์ตเชื่อมต่อน่าจะมีมาให้มากกว่านี้ในฝั่งขวา

สำหรับรีวิวนี้ผมก็ต้องขอตัวลาไปก่อนสำหรับรุ่นอื่นๆก็ติดตามกันได้เลย ถูกใจฝากกดไลค์กดแชร์ด้วยนะครับ  มีข้อผิดพลาดประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ  เพื่อนๆสนใจอยากให้พวกผมรีวิวรุ่นไหนสามารถ Inbox มาบอกเราได้เลยนะ

ฝากไลค์เพจ FACEBOOK เราด้วยนะครับ >>>>>>>>>  TECHHANGOUT

เข้าร่วมกลุ่ม TECHHANGOUT พูดคุยแลกเปลี่ยน ข้อมูล คุยกันเองชิลๆได้เลยที่ — Facebook  Techhangout พูดคุย Smartphone gadget 

Review by Nineztr

Comments กันได้เลย !

Comments

0 Shares