realme ได้เปิดตัวหูฟัง Buds Air 2 ซึ่งเป็นหูฟัง TWS อย่างที่ได้สัญญาไว้ โดยมันมาพร้อมระบบตัดเสียงรบกวน (Active Noise Cancellation) และโหมด Transparency สำหรับฟังเสียงรอบตัวผู้ใช้งาน รวมทั้งใช้ชิบ realme R2 ที่รองรับ Bluetooth 5.2

ภายในตัวหูฟังมาพร้อมไดร์ฟเวอร์ Hi-Fi Diamond-class ขนาด 10มม. ที่มีฟีเจอร์ Bass Boost+ ที่จูนโดย The Chainsmokers

ตัวหูฟังจะมีให้เลือกในสีดำ-น้ำเงิน และสีขาว-เงิน แบบ two-tone และมาพร้อมโหมดดีเลย์ต่ำ 88ms ส่วนแบตเตอรี่นั้นสามารถใช้งานติดต่อกันได้ถึง 25 ชั่วโมง (รวมเคส) และตัวหูฟังใช้งานได้นานสุด 5 ชั่วโมง สำหรับแบตเตอรี่รองรับชาร์จไวที่ชาร์จเพียง 10 นาทีก็สามารถใช้งานได้ถึง 120 นาที แต่กลับไม่รองรับชาร์จไร้สายเหมือนกับในรุ่นแรก

สเปคของ realme Buds Air 2

  • ดีไซน์แบบ Two-tone, น้ำหนัก 4.1 กรัม, มาพร้อมซิลิโคนนุ่มบริเวณตัวหูฟัง
  • ไดร์ฟเวอร์ Hi-Fi Diamond-class ขนาด 10mm ที่มาพร้อม Bass Boost+
  • Bluetooth 5.2, AAC audio codec, Open-up Auto Connection & Google Fast Pair
  • ระบบตรวจจับการสวมใส่, รองรับการสัมผัสเพื่อใช้งานฟีเจอร์ต่าง ๆ หรือเรียกใช้ AI ผู้ช่วย
  • ชิบ R2 ที่ถูกปรับแต่ง และรองรับ Bluetooth 5.2
  • ไมโครโฟนคู่ที่รองรับระบบตัดเสียงรบกวน (active noise cancellation) ที่ตัดเสียงรบกวนสูงสุด 25dB
  • โหมด Transparency ที่ช่วยให้ผู้ใช้งานฟังเสียงสภาพแวดล้อมรอบตัวได้ด้วยการสัมผัสหนึ่งครั้ง โดยที่ไม่ต้องถอดหูฟัง
  • ไมโครโฟนคู่ The dual microphones form a powerful noise reduction system supported by the ENC algorithm, which significantly reduces surrounding noise during a call
  • โหมดเล่นเกมดีเลย์ต่ำ 88ms
  • แอพ realme Link สามารถปรับแต่งฟังก์ชั่นการเปิด-ปิดระบบตัดเสียงรบกวน, สลับไปใช้ bass boost+, อัพเดทซอร์ฟแวร์ ฯลฯ
  • กันน้ำมาตรฐาน IPX5
  • ขนาดตัวเครื่อง: 60.3x57x24มม. (ตัวเคส); น้ำหนัก: 34.5กรัม (ตัวเคส), 4.1กรัม (หูฟังหนึ่งข้าง)
  • ใช้งานได้ 5 ชั่วโมง โดยไม่เปิด ANC, แบตเตอรี่ความจุ 400mAh ทำให้ใช้งานได้รวม 25 ชั่วโมงโดยไม่เปิด ANC, 22.5 ชั่วโมงเมื่อเปิด ANC, การชาร์จเพียง 10 นาที ทำให้ใช้งานได้ 2 ชั่วโมง (แบตของทั้งหูฟัง + เคส)

เจ้า realme Buds Air 2 จะมีให้เลือกในสีดำ (Closer Black) และสีขาว (Closer White) โดยมีราคาอยู่ที่ 3,299 รูปี (ประมาณ1,400บาท) ซึ่งจะวางขายที่ประเทศอินเดียในวันที่ 2 มีนาคมนี้

SOURCE

Comments กันได้เลย !

Comments

0 Shares