HUAWEI ช่วงนี้กำลังคึกเป็นพิเศษ เปิดตัวกันอย่างต่อเนื่องและครั้งนี้มาถึงคิว Huawei MatePad 11 ที่มาพร้อมกับหน้าจอ 10.95 นิ้ว เข้ามาเสริมตลาดระหว่าง Matepad Pro 12.6 และ MatePad Pro 10.8 ก่อนหน้านี้ ซึ่งรุ่นนี้จะไม่ได้ใช้งานชื่อ Pro แต่ก็มีความน่าสนใจอะไรหลายๆอย่างรวมถึงการรองรับ ปากกา คีย์บอร์ด เหมือนรุ่นพี่แถมยังทำราคาได้ถูกกว่า และได้หน้าจอที่มีความลื่นไหลมากกว่าถึง 120Hz ด้วยนั้นเองและได้ความละเอียดเท่ากับตัว 10.8 ส่วนทางด้านการใช้งานต่างๆยังคงจัดเต็มใช้งาน Snapdragon 865 พร้อมกับ ลำโพง 4 ตัวจัดเต็ม บนล่าง Harman/Kardon อีกทั้งยังคงใส่ฟีเจอร์การทำงานร่วมกันทั้งหมดเหมือนกับรุ่นพี่เป๊ะๆ ไม่ว่าจะเป็นการเชื่อมต่อหน้าจอ โยนไฟล์ต่างๆทำได้ง่ายมากๆ และใครที่ใช้งานกับ Huawei Smartphone – Notebook ตัวนี้ออกมาตอบโจทย์แน่นอน ส่วนในไทยนั้นจะเปิดตัวเร็วๆนี้แล้วนะ ทางเราเลยขอมาพรีวิว แกะกล่องกันคร่าวๆว่าจะมีอะไรบ้างครับ

MatePad 11 ที่พึ่งเปิดตัวไปนั้นมาพร้อมหน้าจอ LCD ขนาด 10.95 นิ้ว WQXGA ซึ่งจะสูงก่อนจะไป 4K และมากกว่า FHD นะครับ ที่มีรีเฟรชเรท 120Hz และรองรับการใช้งานปากกา M-Pencil stylus นอกจากนี้ตัวหน้าจอยังรองรับแรงกดได้ถึง 4,096 ระดับและมีดีเลย์เพียง 2ms เท่านั้น ภายในตัวเครื่องใช้ชิปประมวลผล Snapdragon 865 และระบบปฏิบัติการ HarmonyOS 2 ที่มาพร้อม widgets, โฟลเดอร์ และกล่องข้อมูล โดยใช้บริการ Super Service Widgets นอกจากนั้นตัวแท็บเล็ตสามารถเชื่อมต่อกับเมาส์และคีย์บอร์ดเพื่อเพิ่มความสะดวกในการทำงานต่าง ๆ เช่น การตัดต่อวีดีโอด้วย เจ้า MatePad 11 มาพร้อมกล้องหลังความละเอียด 13MP ที่มีระบบ autofocus และมีกล้องหน้าความละเอียด 8MP อีกทั้งตัวเครื่องยังมาพร้อมลำโพง 4 ตัวและมีแบตเตอรี่ 7,250 mAh รองรับการชาร์จเร็ว 22.5W แต่ไม่รองรับการแชร์แบตให้กับเครื่องอื่นได้นะครับ แน่นอนว่าด้วยรุ่นนี้จะเน้นราคาทำได้ดีกว่า และไม่ใช่รุ่นPro นั้นเอง แต่การรองรับปากกา คีย์บอร์ดอะไรนั้นจัดเต็มไม่ต่างกันเลยครับ

UNBOX

ตัว Huawei MatePad 11 นั้นจะมีโปรที่ซื้อพร้อมกับ คีย์บอร์ด และ ปากกาได้ด้วยเช่นกัน มาพร้อมกับ 3 กล่องแยกกันต่างหากเลยนั้นเองเหมือนกับรุ่นก่อนๆ แน่นอนว่าปากกาจะใช้งานร่วมกับตัวอื่นๆได้เพราะว่าเป็นตัวเดียวกัน แต่เคส Smart Magnetic Keyboard เองนั้นจะเป็นของใครของมันด้วยขนาดที่แตกต่างกันส่วนอุปกรณ์ให้มาครบ

  • ตัวเครื่อง HUAWEI MATEPAD 11
  • ที่ชาร์จ HUAWEI 22.5W
  • สาย USB-A ไป USB-C
  • คู่มือการใช้งาน ที่จิ้มซิม
  • ปากกา Huawei M-Pencil 2
  • หัวปากกาสำรอง 2 ชิ้น
  • เคสคีย์บอร์ด Huawei Smart Magnetic Keyboard

DESIGN

งานออกแบบเองนั้นไม่ได้หนีจากรุ่น 10.8 เท่าไรทั้งด้านหน้าและด้านหลังแต่รุ่นนี้จะเห็นว่าขอบหน้าจอจะใหญ่กว่าและไม่มีกล้องหน้าเจาะรูเสริมเข้ามานั้นเอง แต่ทางด้านฝาหลังงานออกแบบตัวเลนส์กล้องอะไรนั้นเรียกได้ว่าใกล้เคียงกันอย่างมาก ตัวนี้จะมาในขนาด 11 นิ้ว ขนาดหน้าจอ 10.95 นิ้วนั้นเองจะใหญ่กว่ารุ่นนั้น 10.8 เล็กน้อยแต่การพกพาไม่ได้หนีกันมากนักครับ รวมถึงมาพร้อมกับ เคส Huawei Smart Magnetic Keyboard เช่นเดิม และ ปากกาซึ่งยังคงมีการออกแบบ ดีไซน์แบบเดียวกับรุ่น Pro และบอกเลยว่าทำให้รุ่นนี้ใช้งานได้เทียบเท่าตัวพี่เลยทีเดียว

ทางด้านหน้าจอตัวนี้สวยและเต็มขอบไม่มีกล้องหน้าเจาะรูมาเกะกะ สามารถจับถือได้อยู่ไม่ได้บางมากเกินไปสามารถซ่อนเซนเซอร์ กล้องหน้าได้แบบเนียนๆและบางมาพร้อมกับ หน้าจอแสดงผล จอโค้ง 2.5D ขนาด 10.95 นิ้ว (2560 x 1600) WQXGA, อัตราส่วน 16:10, รีเฟรชเรท 120Hz

ขอบด้านบนนั้นเราจะเห็นว่ามีกล้องหน้าใส่เข้ามาให้ด้วยเช่นกันในสเปกความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.0 เหมือนจะได้ตัวเดียวกับรุ่น MatePad Pro 12.6 มาเลยนั้นเองครับ  และปากกาวางแปะไว้ขอบขวาชาร์จไฟได้ทันที

ส่วนขอบด้านล่างนั้นบางเท่ากันในด้านบนเลยทีเดียวเรียกได้ว่าสวยงาม ส่วนการควบคุมนั้นรองรับแบบ Gesture เช่นกันใช้งานได้ง่ายและเข้ากับขนาดหน้าจอได้ดี ส่วนตัวแอปเองนั้นมีการออกแบบ Dock ใหม่ชิดขอบมากขึ้น

ขอบเครื่องทางด้านซ้ายนั้นจะมาพร้อมกับช่องใส่ถาดซิมที่รองรับการ เพิ่มความจุ MicroSD ไม่รองรับการใส่ซิม นั้นเอง จะเห็นว่าขอบตัวเครื่องนั้นเป็นสีดำเหมือนกับฝาหลังและมีความบางระดับนึงและหน้าจอเรียบๆใช้งานได้ง่าย

ทางด้านล่างนั้นเราจะเห็นว่ามีลำโพงแน่นๆทั้ง 2 ฝั่ง และแทรกลำโพง 4 ตัวไว้รอบเครื่องครับ พอร์ตเชื่อมต่อนั้นจะเป็น USB-C รองรับได้สบายๆ

ส่วนทางด้านขวานั้นเราจะเห็นว่ามีปุ่ม เพิ่ม-ลด เสียงให้ใช้งานพร้อมกับ ไมค์ 3 ตัวครับรองรับการใช้งานได้สบายส่วนกล้องนั้นจะนูนขึ้นมาเล็กน้อยครับ ตัวขอบเครื่องเรียบๆทั้งหมดและหน้าจอเรียบเช่นกัน เครื่องจะมีความบางพอสมควร

ส่วนขอบเครื่องด้านบนเองนั้นเราจะเห็นว่า ลำโพงใส่เข้ามาให้ทั้ง 2 ฝั่งขนาดใหญ่สมมาตรกันและออกจริงทั้งหมด และปุ่ม Power เปิด ปิดเครื่อง นั้นจะมีการเล่นสีแดงไว้ด้านบนตัวเครื่องตำแหน่งอะไรใช้งานได้ง่ายตรงมุมพอดีครับ

ฝาหลังมาพร้อมกับสีดำด้าน หรือ ชื่อจะมาพร้อมกับ Matte Grey หรือ สีเทาด้านนั้นเองโทนสีจะค่อนข้างเข้มและแอบติดรอยนิ้วมือคราบมันได้ง่ายเหมือนกัน ฝาหลังไม่ได้มีการเล่นลวดลายสีสันอะไรเท่าไรนักเน้นการใช้งานมากกว่า

ส่วนกล้องหลังนั้นให้มาตัวเดียววางแนวตั้ง พร้อมกับ 13MP auto focus (f/1.8)  อาจจะไม่ได้เน้นอะไรมากนักในกล้องหลัง แต่คุณภาพก็ถือว่าใช้งานได้สบายๆแล้วเพราะว่า Tablet จริงๆนั้นเรื่องกล้องอาจจะไม่ได้เป็นจุดหลักเท่าไร แต่รุ่นนี้มีการใส่ไมค์เข้ามาให้ทั้งหมด 4 ตัว และ 1 ในนั้นเองจะอยู่ตรงบริเวณกล้องหลังด้วยเช่นกันครับ

HUAWEI Smart Magnetic Keyboard

ทางด้านคีย์บอร์ดที่ให้มานั้นจะเป็นการออกแบบที่จะเรียบไปกับตัวเครื่อง ดีไซน์ถือว่าดูสวยและหรูพอสมควรตัวเคสแบบนี้นั้นจะไม่ได้เน้นการปกป้องอะไรมากนักอยู่แล้ว แต่จะได้เรื่องของการพับใช้งาน การปกป้องหน้าจอ และที่สำคัญคือ คีย์บอร์ดที่เสริมเข้ามานั้นเอง และถ้าเรื่องของเวลาตก กระแทกอะไรนั้นอาจจะไม่ได้ช่วยปกป้องอะไรได้เยอะครับ ส่วนเรื่องของน้ำหนักเมื่อใส่ใช้งานเคสนั้นเราจะเห็นได้ว่าไม่ได้หนักมากแต่ก็แอบหนักกว่าเครื่องปกติเหมือนกันครับ แต่ต้องบอกกันก่อนว่ารุ่นที่ขายในไทยเองนั้น จะมีการพิมพ์ภาษาไทยมาให้บนแป้นนะครับ แต่ตัวรีวิวนั้นจะเป็น Eng

วัสดุตัวเคสเองนั้นถือว่าทำได้ดีในเรื่องของความแข็งแรงการใช้งานทั่วไปรวมถึงสีค่อนข้างเรียบร้อยและทนทานต่อการสัมผัสหรือว่าเลอะได้ดี สามารถเช็ดออกได้ง่ายเวลาพกพาหรือว่าวางใช้งานต่างๆ ตัวปรับระดับต่างๆก็รองรับได้ 2 ระดับครับ รวมถึงการเชื่อมต่อ หรือว่า ยึดติดนั้นเป็นแบบแม่เหล็กทั้งหมดไม่ต้องมีพอร์ตเชื่อมอะไรกับตัวเครื่องแม้แต่น้อยถือว่าสะดวกมากๆ และการติดเคสก็แค่แปะเข้าไปในด้านหลังเท่านั้นมีความแน่นกำลังดีและไม่ขยับเลยครับ ส่วนตรงกล้องอะไรนั้นปกป้องได้ดีระดับนึงเวลาวางคว่ำต่างๆ และตัวปากกาเองนั้นจะแปะขอบเครื่องได้เลยครับ

คีย์บอร์ดจริงๆนั้นถือว่าระยะการวางแป้นพิมพ์หรือว่าระยะกดแอบทำได้ดีกว่าที่คิดเลยนะ ทำให้การใช้งานนั้นจะไปคล้ายๆกับพวก Ultrabook แบบบางๆได้เลยแหละแต่แค่ไม่มีไฟเท่านั้น ส่วนปุ่มจริงๆนั้นจะมีภาษาไทยมาให้นะครับในตัวขายจริง และมีแถมสำหรับคนที่ซื้อช่วงแรกๆด้วยเช่นกันมาพร้อมกับปุ่มครบๆไม่ว่าจะเป็น ปรับเสียง แสงหน้าจอ หรือว่า ถ่ายหน้าจอต่างๆด้วยเช่นกัน ส่วนตัวเป็นเคสคีย์บอร์ดที่ดีมากๆตัวนึงในบรรดา Tablet ด้วยกันด้วยนะตัวนี้

SPEC

  • หน้าจอโค้ง 2.5D ขนาด 10.95 นิ้ว (2560 x 1600) WQXGA, อัตราส่วน 16:10, รีเฟรชเรท 120Hz
  • ชิปประมวลผล Snapdragon 865 7nm ที่ใช้การ์ดจอ Adreno 650
  • RAM LPDDR4x 6GB
  • ความจำภายใน 64GB/128GB/256GB, ที่สามารถใส่ microSD card เพิ่มได้ถึง 1TB
  • HarmonyOS 2.0
  • กล้องหลัง 13MP auto focus (f/1.8) + แฟลช LED flash
  • กล้องหน้า 8MP (f/2.0)
  • ขนาดตัวเครื่อง: 253.8 x 165.3×7.25มม.; น้ำหนัก: 485 กรัม
  • ลำโพง 4 ตัว, Sound Effect HUAWEI Histen 7.0 
  • Sound By Harman/Kardon
  • ไมโครโฟน 4 ตัว
  • รองรับเครือข่าย Wi-Fi 802.11 ac (2.4GHz + 5GHz), Bluetooth 5.1 LE, GPS / GLONASS / BeiDou / GALILEO / QZSS
  • ไม่รองรับการใส่ซิม 
  • USB Type-C USB 3.0
  • แบตเตอรี่ 7,250mAh ที่รองรับการชาร์จ 22.5W

SCREEN

มาพร้อมหน้าจอ LCD ขนาด 10.95 นิ้ว WQXGA ซึ่งจะสูงก่อนจะไป 4K และมากกว่า FHD นะครับผม ที่มีรีเฟรชเรท 120Hz และรองรับการใช้งานปากกา M-Pencil stylus นอกจากนี้ตัวหน้าจอยังรองรับแรงกดได้ถึง 4,096 ระดับและมีดีเลย์เพียง 2ms เท่านั้น ซึ่งต้องบอกว่าหน้าจะจะได้ขนาดใหญ่แทรกกลางระหว่างรุ่น Pro 12.6  และ 10.8 นั้นเอง แน่นอนว่าอีกจุดเด่นที่แตกต่างกันคือมาพร้อมกับ รีเฟรชเรทที่สูงกว่าทั้ง 2 ตัวคือ 120Hz และความละเอียดนั้นจะเท่ากับตัว Pro 10.8 นั้นเองถือว่าเป็นหน้าจอที่ทำออกมาได้ดีมากๆตัวนึง แม้จะเป็น IPS LCD ก็ตามถือว่ายังคงตอบสนองต่อการใช้งานได้ดี ทั้งสัมผัสติดนิ้ว แสดงผลได้ลื่นไหลส่งผลเวลาวาดภาพใช้งานปากกาได้ดี อีกทั้งในเรื่องของ คุณภาพหน้าจอสู้แสงได้สบายๆแม้จะเป็น IPS LCD ก็ตามและสามารถปรับเรื่องของ Hz ได้ระหว่าง 60Hzกับ120Hz ส่วนตัวเท่าที่ลองเห็นได้ชัดว่ามันลื่นไหลเวลาสัมผัสใช้งานมากกว่ารุ่นพี่และความคมชัดก็สบาย

ANTUTU

ทางด้าน ANTUTU รุ่นนี้ถือว่าคะแนนดีเอาเรื่อง มาใช้งานค่าย Snapdragon 865 พร้อมกับ 1 x Cortex-A77 Based 2.84 GHz + 3 x Cortex-A77 Based 2.4 GHz + 4  x Cortex-A55 Based 1.8 GHz และใช้งาน GPU Adreno 650, 587 MHz ถือว่าคะแนนแรงเอาเรื่อง และ ทำงานร่วมกันกับ RAM 6 GB ได้สบาย สามารถขับหน้าจอ 120Hz  ได้ไม่มีปัญหา ทำคะแนนการทดสอบ Antutu ไปได้ 629803 ถือว่าห่างกับรุ่นพี่ 7หมื่นคะแนนได้ ตามระดับเรทราคาของมัน แต่ถ้ามองทั่วไปก็ถือว่าเหลือๆในการทำงาน วาดภาพหรือแต่งภาพแล้ว

ANDROBENCH 

หน่วยความจุแน่นอนว่ามาพร้อมกับ UFS3.0 สามารถอ่านเขียนไปได้มากถึง 1630 MB/s และเขียนไปได้ 715MB/s ถือว่าสูงมากๆครับ ทำให้ในการใช้งานทั่วไป การบันทึกข้อมูล เรนเดอร์ แต่งภาพ วาดภาพหรือแม้แต่การเรียกแอพต่างๆนั้นสบายไม่มีปัญหา และสามารถเข้าดูรูปภาพจะไม่ต้องมารอโหลดอะไรแม้จะเก็บข้อมูลเยอะมากๆก็ตาม ถือว่ารองรับได้สบายๆครับ รวมถึงสามารถเพิ่มในเรื่องของความจุ MicroSD เสริมเข้ามาได้อีกแล้วแต่เลือก

HUAWEI MATEPAD 11 

HUAWEI เดินหน้าลุยตลาด Tablet อย่างต่อเนื่องล่าสุดได้ส่ง MatePad 11 เข้ามาเสริมในตลาด Tablet เป็นรุ่นที่ 3 ในช่วงนี้ต่อจาก MatePad Pro 12.6 และ 10.8 ถือว่าเติมเต็มทุกช่วงราคา และสเปกเลยทีเดียวทั้งนี้รุ่นนี้แม้จะไม่ได้เป็น Pro แต่ประสิทธิภาพ การใช้งาน งานออกแบบรวมถึง อุปกรณ์เสริมเองนั้นไม่ได้น้อยหน้ารุ่นพี่ ไม่ว่าจะเป็นปากกา M-Pencil 2 และ Smart Magnetic Keyboard นั้นเอง อีกทั้งยังมีหน้าจอ 120Hz ที่เทพกว่า และใช้งาน Snapdragon 865 ค่ายมังกรที่หลายๆคนชื่นชอบนั้ันเอง อีกทั้งงานออกแบบถือว่าใกล้เคียงและสวยไม่ต่างกัน พร้อมกับระบบ HARMONY OS ด้วยเช่นกันครับ ทำให้มันเป็นรุ่นที่น่าสนใจสำหรับคนเริ่มใช้งาน และเน้นปากกา คีย์บอร์ด และใช้งานร่วมกันกับบรรดา Huawei Device ทั้งหลายได้อย่างลงตัวเลยนั้นเองทำให้น่าสนใจตัวนึงเลยส่วนทางด้าน ราคา โปรโมชัน รวมถึงทางด้าน รีวิวเต็มเองนั้นรอติดตามวันเปิดตัว ปลายเดือนนี้ในประเทศไทยอีกทีนะ

สำหรับพรีวิวนี้ผมก็ต้องขอตัวลาไปก่อนสำหรับรุ่นอื่นๆก็ติดตามกันได้เลย ถูกใจฝากกดไลค์กดแชร์ด้วยนะครับ  มีข้อผิดพลาดประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ  เพื่อนๆสนใจอยากให้พวกผมรีวิวรุ่นไหนสามารถ Inbox มาบอกเราได้เลยนะ
ฝากไลค์เพจ FACEBOOK เราด้วยนะครับ >>>>>>>>>  TECHHANGOUT

เข้าร่วมกลุ่ม TECHHANGOUT พูดคุยแลกเปลี่ยน ข้อมูล คุยกันเองชิลๆได้เลยที่ — Facebook  Techhangout พูดคุย Smartphone gadget 

Preview by Nineztr 

Comments กันได้เลย !

Comments

0 Shares