SkullCandy นั้น อ่านว่า สกัลแคนดี้ หลายๆคนชอบอ่านกันผิดแน่นอนสำหรับแบรนด์นี้ จริงๆตัวแบรนด์นี้นั้นค่อนข้างเป็นแบรนด์ ยอดนิยมจากสหรัฐอเมริกาก่อตั้งกันตอน 2003 ครับแนวคิดจากหูฟังที่ต้องเข้ากับ Lifestyle ด้วย ทั้งดีไซน์ และการใช้งานเป็นแบรนด์ที่ค่อนข้างเติบโตเรื่อยๆและมีขายทั่วโลกกันแล้วแน่นอนว่า แบรนด์รูปหัวกะโหลกนั้นหลายๆคนรู้จักกันดีครับ หูฟังที่ทางค่ายนี้ทำออกมานั้นมีมากมายหลากหลายเยอะมาก ตอบโจทย์ทุกกลุ่มลูกค้าก็ว่าได้ทั้ง หูฟังทั่วไป หูแบบ TrueWireless รวมถึง Headphone ครับ ในครั้งนี้เรามาอยู่กับทาง Skullcandy Crusher ANC รุ่นเทพสุดพร้อมกับ ระบบตัดเสียง รวมถึงฟีเจอร์เสียงเบสเด่นๆ และการใช้งาน 20 ชั่วโมงเลยครับ

 SKULLCANDY CRUSHER ANC เป็นหูฟัง Over-Ear รุ่นเรือธงประจำค่ายก็ว่าได้เรียกได้ว่าหลายๆฟีเจอร์จัดเต็มครับ ในรุ่นนี้มาพร้อมกับ  Driver 2 ชุด ตอบสนองคลื่นความถี่เสียง 20Hz -20kHz และ Haptic Bass Driver ที่ตอบสนองย่านความถี่ต่าเบสลงลึกระดับ 10Hz และมีระบบที่จะจำลอง SubWoofer ได้ด้วยคือมันจะสั่นตอบสนองได้ดีมากๆเหมือนเบสกระแทกมาเลยนั้นเองครับเรียกว่า Sensory Bass สามารถปรับระดับได้ว่าจะเอาเบสเยอะหรือน้อย แล้วแต่ความชอบของแต่ละท่านได้เลย และยังใส่ Active Noise Cancellation (ANC) ตัดเสียงรบกวน และมี ระบบค้นหาหูฟังได้ด้วยครับ ผ่านตัว Tile App และปรับแต่งเสียงได้ในเรื่องของการชาร์จนั้นรองรับ Rapid Charge ชาร์จไว ใช้ต่อเนื่องได้นานกว่า 20 ชั่วโมง ผ่าน USB-C และ มีไมค์ รวมถึงปุ่มควบคุมในตัว ใช้งานง่าย แน่นอนว่า ใช้งาน BT 5.0 และ รองรับ Ambient Mode สำหรับเวลาคุยกับคนอื่นได้ครับ แล้วระบบตัดเสียงนั้นจะไม่ทำงาน ถือว่าเป็นรุ่นที่ใส่ฟีเจอร์อะไรมาเยอะและเน้นเรื่องเสียงมากพอสมควรครับ

SKULLCANDY CRUSHER ANC นั้นเปิดราคามาที่ 13,900 บาท มาพร้อม สี Moab Red แดงเข้ม และ Fearless Black ดำเข้ม รับประกัน 2 ปี

วางจำหน่ายที่
shop.mentagram.com
www.central.co.th
www.powerbuy.co.th
www.JD.co.th
www.His.in.th
mercular.com
topvalue.com
www.digital2home.com 

ช็อป Skullcandy (Crusher ANC) ได้ที่: 

UNBOX

ตัวกล่องมีขนาดใหญ่พอสมควรครับมาในโทนสีดำพร้มอกับบอกชื่อรุ่นอะไรเรียบร้อยและรวมถึงฟีเจอร์ด้วยเช่นกัน ตัวกล่องแพ็คเกจต่างๆดูดีครับมีกล่องย่อยข้างในรวมถึงมีฝาปิดอะไรดูดีพอสมควรปกติแบรนด์จากฝั่งอเมริกาจะไม่ได้เน้นเรื่องกล่องอะไรมากแต่หลังๆนั้นได้มีความใส่ใจในจุดนี้เยอะขึ้นครับทำให้ความรู้สึกของผู้ใช้ทำได้ดีเลยแหละ เมื่อเปิดมาจะเจอกล่องใส่หูฟังเลยพร้อมกับหูฟังที่ใส่ข้างในมาให้ครับ อุปกรณ์นั้นมีมาให้พอสมควรเพียงพอต่อการใช้งาน

  • ตัวหูฟัง Skullcandy Crusher ANC
  • ตัวสาย USB-A ไปยัง USB-C
  • ตัวสาย 3.5มม. AUX
  • คู่มือ
  • ตัวกล่องใส่หูฟัง

ตัวสายที่ให้มาก็ถือว่าเพียงพอครับสำหรับใครที่ยังชอบแบบสายดั้งเดิมก็สามารถใช้งานได้ เวลาไปเที่ยวหรือใช้งานกับเครื่องเล่นอื่นๆ และแน่นอนว่าสามารถพกพาไปในกล่องได้มีที่เก็บสายเรียบร้อยครับ ตัวเคสนั้นต้องบอกว่าขนาดกำลังพกพาได้ง่ายมีความบางพอสมควรครับและตัวหูฟังก็พับเก็บได้แบบที่คุ้นเคยกันดี มีผ้าบุนุ่มข้างในมาให้เรียบร้อย ในแง่ของความแข็งตัวเคสกล่องของมันปกป้องได้ดีครับ ในตัวหูฟังเวลาพกพาก็สามารถถือได้สบายๆแข็งแรงเอาเรื่องสามารถถือเปล่าๆได้เลย

DESIGN

งานออกแบบดีไซน์ของค่ายนี้ต้องบอกว่ามีเอกลักษณ์อยู่ในหลายๆรุ่นครับและในตัวนี้ก็ยังคงเน้นในเรื่องของความเรียบๆแต่มีดีไซน์ที่เหลี่ยมสันอยู่บ้างในส่วนของก้านต่างๆขอบคมสวยงามและโลโก้กระโหลกครับ แน่นอนว่าแบรนด์นี้เท่าที่ดูๆงานออกแบบมานั้นไม่ค่อยเน้นโชว์ชื่อรุ่นหรือโลโก้เด่นซักเท่าไรครับ โดยในรุ่นนี้ยังไม่มีเขียนโลโก้หรือรุ่นชัดๆเลยมีแค่เขียน ANC เท่านั้นแบบบางๆจางๆเลยมองยากพอสมควร ส่วนวัสดุนั้นเป็นแบบดำด้านพลาสติกจริงๆค่อนข้างเป็นรอยได้พอสมควรครับเวลาวางหรือใช้งานอาจจะต้องระวังกันนิดนึง ส่วนงานประกอบอะไรแน่นดี และน้ำหนักที่มันใช้งานพลาสติกเลยค่อนข้างเบา และใส่สบายเลยแหละ ตัวฟองน้ำค่อนข้างนุ่มเลยทีเดียวครับ

รูปทรงของหูฟังด้วยความที่มันเป็นสีดำด้านและมีขนาดใหญ่พอสมควรอาจจะต้องไปลองใส่กันก่อนครับว่าใส่แล้วเหมาะไหมทั้งการออกแบบ ขนาดของมันแน่นอนว่าสาวๆตัวเล็กๆอาจจะไม่ค่อยเหมาะเท่าไรและด้วยความที่มันเป็นสีดำเรียบๆอาจจะไม่ได้เน้นในแง่ของดีไซน์หวือหวามากนัก แต่ถ้าสีแดงนั้นจะค่อนข้างแตกต่างกันเลยอันนี้อยู่ที่ชอบเลยครับ ตัวหูฟังสามารถขยายได้เลื่อนได้สูงสุดตามภาพครับ เป็นก้านสามารถขยายได้เลยแต่แอบล็อคไม่แน่นเท่าไรครับเท่าที่ลองใช้งานดู ส่วนก้านในภาพรวมนั้นให้อิสระได้ดีไม่ได้ดันหรือกดมากและไม่ได้บีบหัวอันนี้รองรับได้สบายๆครับ

ด้านนอกนั้นจะเป็นพื้นผิวแบบด้าน และมีตัดขอบนิดหน่อยครับรวมถึงจะเห็นช่องไมค์สำหรับตัดเสียงทั้ง 2 ข้าง ส่วนรูปทรงของตัวครอบหูนั้นสามารถเก็บใบหูได้ทั้งหมดเวลาใช้งานครับ และมีขนาดกำลังดีรองรับหลายๆใบหูได้ด้วยรูปทรงของมันเป็นวงรีปกติครับ ส่วนความลึกของฟองน้ำก็มีระยะดีครับไม่ได้ทับหรือโดนใบหูเวลาใส่ถือว่าทำได้ดีเพราะเจอในหลายๆแบรนด์นั้นมันตื้นเลยทำให้ชนกับใบหูข้างใน จริงๆค่อนข้างชอบรูปทรงของมันอาจจะดูธรรมดาแต่ใส่สบาย

ทางด้านฟองน้ำและหลังตัวนี้มีความนุ่มและใส่สบายครับตัวหนังนั้นอาจจะไม่ได้ใช้งานหนังแท้เลยทำให้มีความร้อนสะสมได้ถ้าใช้งานในสภาพอากาศปกติครับ แต่ถ้านับในเรื่องของความนุ่มถือว่าอยู่ในระดับที่น่าพอใจ และมีความลึกรองรับได้ดี ส่วนทางด้านก้านด้านบนนั้นจะเป็นหนังเช่นกันแต่จะมีความนุ่มมากกว่าตรงใบหูเหมือนจะเป็นหนังคนละชนิดแต่ก็ทำได้ดีครับรองรับใส่ได้สบาย ในเรื่องของการใส่ใช้งานนานๆตัวนี้ถือว่าใส่สบายพอสมควรเลยนะ อันนี้ไม่ได้ติดขัดอะไรครับหูฟังตัวไหนใส่นานๆสบายถือว่าตอบโจทย์อย่างมาก และการดูแลรักษาก็สำคัญเมื่อใช้เสร็จสำหรับพวกหนังที่บนก้านและตรงที่ครอบหูครับ เพราะถ้าใช้งานไปนานๆอาจจะมีเสื่อมกันไปตามสภาพได้

ปุ่มควบคุมในรุ่นนี้ถือว่าเป็นรุ่นที่ออกแบบปุ่มมาแบบชัดเจน ใหญ่สะใจกดติดได้ง่ายครับทางด้านซ้ายก่อนเลยในภาพแรกจะเป็นปุ่มเปิดปิด ที่เป็นขีดๆและที่เห็นเป็นแถบเลื่อนๆนั้นจะเป็นการปรับระดับเบสหรือระบบสั่นที่ปรับได้ว่าจะเอาเบสกระแทกๆเน้นๆหรือเบาๆครับ และไปสถานะของแบตต่างๆ มาที่อีกฝั่งนั้นจะเป็นปุ่ม เพิ่ม ลดเสียง และ กดเล่นเพลงหยุดเพลง รวมถึงรับสายต่างๆ และทางด้าน ช่องรู 3.5 มม. ยังคงมีอยู่ และ USB-C สำหรับชาร์จไฟเข้าครับ และสำหรับการเปิดปิด ANC นั้นสามารถเอาฝ่ามือแตะค้างไว้ที่ฝั่งซ้ายของหูฟังเพื่อเปิดโหมดรับเสียงเวลาคนพูดได้

SPEC

  • Headphone Type: Bluetooth® Over-Ear
  • Connection Type: Bluetooth® 5.0
  • Impedance: 32 Ohms ±15%
  • Driver Diameter: 40mm
  • THD: <1%@1K
  • Sound Pressure Level: 105 dB @ 1 KHz
  • Frequency Response: 20Hz – 20KHz
  • Weight: 308.66g
  • ระบบตัดเสียง ANC
  • รองรับ Ambient Mode
  • Haptic Feedback – Sensory Bass สั่นตามเสียงเบส
  • ราคา 13,900 บาท
  • พร้อม 2 สี Moab Red แดงเข้ม และ Fearless Black ดำเข้ม

SOUND

ทางด้านเสียงนั้นต้องบอกว่าแบรนด์นี้ยังคงมีเอกลักษณ์ของมันเลยคือความเด่นในเสียงเบสแน่นอนว่าแม้จะรุ่นอื่นๆที่ไม่ได้มี Sensory Bass ก็ตามเสียงในแนวของแบรนด์นี้จะเน้นฟังสนุก เบสแน่นพอสมควรครับและในรุ่นนี้ก็ยังคงเอกลักษณ์ได้ดีแน่นอนว่าแม้จะเน้นในเรื่องของเสียงย่านต่ำเบสก็ตามแต่คุณภาพในย่านอื่นๆก็ไม่ได้โดนกลบไปหรือบวมไปหมดครับถือว่าจัดการได้ดีเลย แต่ถ้าจะเอาไปฟังเสียงแบบสายเพลงคลาสสิคแน่นอนว่าคงไม่ได้มองแบรนด์นี้แต่แรกครับ ด้วยความที่เสียงมันเน้นจูนไปเหมาะสำหรับฟังทั่วไปสนุกๆเลยจะรองรับแนวเพลงแบบนั้นได้ดีกว่า  ตัว
Sensory Bass ซึ่งให้เสียงเบสที่หนักแน่นสั่นไปทั้งตัว โดยสามารถปรับระดับได้ตามชอบโดยเลื่อนที่แถบเลื่อนด้านซ้ายของหูฟังครับมันจะทำงานเหมือนมี Sub woofer อยู่ในหัวเราคือจะใช้งานระบบสั่น Haptic สั่นจำลองนั้นเองมันเลยสั่นสะใจมากครับ แต่ต้องบอกว่าถ้าปรับเสียงดังสุดและเบสเยอะมันจะเริ่มนัวๆไปหน่อยครับต้องปรับแบบพอดีๆ

เสียงในภาพรวมอย่างที่บอกไปคือยังคงเด่นเสียงเบสแรงนุ่มนวลแต่ไม่ได้ไปกลบย่านอื่นครับแต่ไปสุดเรื่องนี้มากจริงๆถ้าใครชอบแน่นๆจัดได้เลย ส่วนเสียงกลางเนื้อเสียงต่างๆนั้นอิ่มกำลังดี และที่ชอบคือเสียงร้องยังคงชัดครับและเสียงแหลมเด่นแต่แอบจัดไปอยู่เหมือนกันในบางช่วงบาดหูนิดหน่อยแต่ไม่ได้น่าเกลียด เวทีเสียงนั้นจัดได้ว่าใหญ่ดีแยกชิ้นเสียงดีครับผมไม่เจอทับมั่วกันเลยแม้แต่น้อย คือต้องบอกว่าชอบที่มันเด่นในเรื่องของเบสแต่ก็ไม่ได้ไปกลบย่านอื่นเลย ถ้าใครชอบเสียงแนวฟังเพลงสนุก EDM-POP-ROCK ตัวนี้ตอบโจทย์สะใจและยิ่งหลงรักเบสแน่นๆ สะใจสุดๆตัวนี้คงหาตัวอื่นเทียบได้ยากครับ แต่ถ้าเอามาฟังเพลงแนวชิลๆ รายละเอียดจัดๆ ใสๆอาจจะไม่เหมาะเลยนั้นเองก็ต้องดูว่าความชื่นชอบของแต่ละคนจะเน้นแบบไหนครับ ส่วนทางด้านระบบตัดเสียง ANC นั้นต้องบอกว่ายังไม่ได้เด่นเท่าไรครับในเรื่องของความเงียบในการใช้งานแบบใส่ทดสอบยังไม่ได้เปิดเพลงครับเสียงมันน่าจะเงียบมากกว่านี้ ในแง่ของการตัดเสียง ลมเสียงคนพูดต่างๆ ด้วยขนาดของมัน มันเลยไม่ได้ต่างกันแบบรุ่นอื่นๆที่ไม่ได้มี ANC เท่าไร

FEATURE 

ตัวนี้จะมีแอปที่สามารถปรับแต่งเสียงได้สามารถไปโหลดกันได้ในชื่อ Skullcandy ครับแต่แน่นอนว่าตัวแอปมันยังไม่ได้มีอะไรเยอะเท่าไรแต่ที่เด่นๆคือการปรับเสียงในแต่ละ Profile แต่ละคนครับสามารถเข้าไปเพื่อวัดความถี่ของการรับเสียงแต่ละคนได้ว่าจะเป็นแนวไหนที่เหมาะกับเรา ซึ่งมันจะส่งคลื่นเสียงแต่ละความถี่มาและให้เรากดว่าได้ยินไหมแยกกันซ้ายขวาครับและเมื่อได้มันก็จะสรุปออกมาว่าหูของเรานั้นเหมาะแบบไหนนั้นเอง

ส่วนอีกตัวคือค้นหาหูฟังอันนี้ขอบ่นหน่อยว่าน่าจะรวมฟีเจอร์นี้มาให้ในตัวแอปของแบรนด์เลยมากกว่าไม่งั้นจะต้องมาโหลด 2 แอปถ้าจะใช้งานครับค่อนข้างเปลืองไปหน่อย ตัวฟีเจอร์นี้นั้นจะเป็นแอปที่หลายๆคนน่าจะรู้จักกันคือมันจะสามารถค้นหาได้ว่าหูฟังหรือสินค้าอยู่ตรงไหน มีการจับคู่หลายๆแบรนด์ครับ และในหูฟังตัวนี้ก็รองรับสามารถกดค้นหาและตัวหูฟังจะส่งเสียงให้ได้ยินว่าอยู่ตรงไหนนั้นเอง แต่ต้องอยู่ในระยะการเชื่อมต่อด้วยนะครับ เช่นลืมไว้ในบ้านแบบนั้นแต่ถ้าไปนอกสถานที่บอกเลยว่าอาจจะไม่ได้ครับเพราะเสียงมันก็ดังเท่าที่หูฟังจะส่งออกมาได้นั้นเอง แต่ถ้าเราลืมไว้ไกลๆมันก็จะสามารถแทรคได้แบบ Find My Phone เลยครับ ระบุตำแหน่งผ่าน GPS ใน App และ สามารถสื่อสารกับ Tile Bluetooth Tracker ตัวอื่นๆ ได้ทำงานเป็นเครือข่าย ถือว่าเป็นรุ่นเดียวที่ทำได้ของแบรนด์

  • การควบคุม กด ปุ่มบนสุด กด 1 ครั้ง เพื่อเพิ่มเสียง // กดค้าง 3 วิ เพื่อเปลี่ยนเพลงต่อไป
  • ปุ่มตรงกลาง กด 1 ครั้งเพื่อเล่นหรือหยุดเล่น // รับสายหรือวางสาย
    กดค้าง 5 – 8 วิ เพื่อเข้าโหมดจับคู่ // (ไฟสถานะเปลี่ยนเป็นสีน้ำเงินสลับแดง)
    กด 2 ครั้งเร็วๆ เพื่อเรียก Assistant // กดค้าง 2 วิเพื่อตัดสาย
  • ปุ่มล่างสุดฝั่งขวา กด 1 ครั้ง เพื่อลดเสียง // กดค้าง 3 วิ เพื่อย้อนไปต้นเพลงหรือเพลงก่อนหน้า

FEELING

ความสบายจากการสวมใส่หูฟังต้องบอกว่าเนื่องจากมันใช้งานวัสดุพลาสติกเป็นหลักข้อดีของมันเลยคือน้ำหนักที่ยังไงก็เบากว่าวัสดุแบบอื่นครับและให้ตัวได้ค่อนข้างดีเลยทำให้มันใส่สบายไม่ได้กดหรือบีบหัวอะไรเท่าไรและด้วยขนาดและฟองน้ำในภาพรวมเลยทำให้มันใส่ได้ทั้งวันเรื่อยๆครับแต่จะมีเรื่องความร้อนสะสมอยู่บ้างตรง Earcup หรือที่ครอบหูนั้นเอง เป็นปกติของพวกหูฟังแบบ OverEar นั้นเองแน่นอนว่าตัวที่ครอบหูนั้นรองรับได้ดีทั้งเรื่องของความลึกและและขนาดของมันไม่ได้ชนใบหูข้างในแต่อย่างใด รวมถึงความกว้างของมันก็สามารถเก็บใบหูได้ทั้งหมดเลยนั้นเอง และมาดูในความนุ่มของตัวฟองน้ำในส่วนของครอบหูนั้นทำได้ดีเช่นกันครับคือมันอาจจะไม่ได้นุ่มแบบหนังแท้หรือตัวอื่นๆที่ราคาสูงกว่านี้แต่ถ้ามองในเรทราคาใกล้ๆกันนั้นถือว่าไม่ได้หนีกันมากตัวนี้ใส่สบายไม่อึดอัดครับผม

แล้วในเรื่องของก้านการบีบหัวอะไรต่างๆนั้นตัวนี้เท่าที่ลองมาใส่นานๆยังไม่เจออาการนั้นครับอาจจจะเป็นข้อดีที่มันสามารถให้ตัวได้ดีและไม่ได้บีบรัดเกินไปทำให้ใส่ได้สบายนะ แต่ต้องย้ำทุกครั้งเลยว่าพวกหูฟังมันต้องไปลองจริงๆกันทุกคนครับเพราะทรงแต่ละคนนั้นไม่เหมือนกันแน่ๆละบางคนอาจจะไม่เหมาะอะไรพวกนี้แนะนำให้ไปลองตามร้านตัวแทนจำหน่ายกันอีกทีนะครับเพื่อความสบายใจก่อนซื้อ แต่รุ่นนี่เท่าที่แอดมินได้ลองก็ใส่สบายไม่เจอปัญหาอะไร

SKULLCANDY CRUSHER ANC 

” หูฟัง เน้นเบสแน่นสะใจปรับระดับได้ พร้อมระบบตัดเสียงรบกวน ใช้งานง่ายใส่สบาย “

เป็นหูฟังเน้นเบสที่ออกมาตอบโจทย์สายนี้แน่นอนครับ รุ่นนี้เด่นตรงที่มันสามารถปรับระดับเบสจำลองได้ว่าจะเอาเยอะหรือน้อย สั่นแรงแบบหน้าสั่นหรือสั่นแบบพอดีๆ หรือจะปิดก็ทำได้ดีครับแน่นอนว่า สะใจจริงๆ ส่วนทางด้านการใช้งานอื่นๆทั้งเรื่องแบตก็อึดพอสมควร และ การรองรับทั้ง ANC ชาร์จไว รวมถึง ฟีเจอร์การปรับแต่งเสียงและหาหูฟังก็ใช้งานได้ดีครับแน่นอนว่า เป็นหูฟังที่ตอบโจทย์ในการใช้งานทั่วไปได้ดี ฟังเพลงสนุกๆ เบสแน่นกระแทกๆดีครับ แต่ถ้าใครชอบเน้นรายละเอียดอาจจะไม่ได้เหมาะเท่าไรนัก ส่วนทางด้านวัสดุนั้นยังรู้สึกว่าน่าจะทำได้ดีกว่านี้นิดหน่อยในเรทราคานี้ครับ เป็นพลาสติกอาจจะดูธรรมดาหรือมันเรียบๆไปนิดหน่อยในการใช้งานและอาจจะมีรอยได้ง่ายนั้นเอง

ข้อดี

  • เบสเป็นเอกลักษณ์ ยังคงเด่นเช่นเดิม
  • เสียงจะเน้นไปทางฟังสนุก Pop Rock ฟังง่าย เบสแน่น
  • ใส่สบาย และปุ่มต่างๆใช้งานง่าย
  • มีแอปสำหรับปรับแต่งเสียงได้
  • มาพร้อม Bluetooth 5.0
  • มี Ambient Mode ให้ใช้งาน
  • มี Haptic Feedback Bass Sensory สั่นสะใจมาก
  • Tile Technology สามารถหาหูฟังได้ว่าวางไว้ที่ไหน
  • มีระบบปรับเสียงในแต่ละคน ส่งคลื่นความถี่มาเช็คการรับรู้ของเสียง

ข้อสังเกต

  • ANC ยังไม่ได้เงียบเท่าที่ควร
  • เสียงค่อนข้างเฉพาะทางมากๆ
  • แอป ต้องลงถึง 2 ตัว ถ้าจะเอาค้นหาด้วย Tile

สำหรับรีวิวนี้ผมก็ต้องขอตัวลาไปก่อนสำหรับรุ่นอื่นๆก็ติดตามกันได้เลย ถูกใจฝากกดไลค์กดแชร์ด้วยนะครับ  มีข้อผิดพลาดประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ  เพื่อนๆสนใจอยากให้พวกผมรีวิวรุ่นไหนสามารถ Inbox มาบอกเราได้เลยนะ

ฝากไลค์เพจ FACEBOOK เราด้วยนะครับ >>>>>>>>>  TECHHANGOUT

เข้าร่วมกลุ่ม TECHHANGOUT พูดคุยแลกเปลี่ยน ข้อมูล คุยกันเองชิลๆได้เลยที่ — Facebook  Techhangout พูดคุย Smartphone gadget 

Review by Nineztr 

Comments กันได้เลย !

Comments

0 Shares