การกลับมาของ ROG ในครั้งนี้ มาพร้อมกับโน้ตบุ๊กสุดโหด ที่มาพร้อมกับประสิทธิภาพการใช้งานที่เร็วแรงสุดๆ ในรุ่น ROG Flow X13 โน้ตบุ๊ก 2 in 1 ดีไซน์บางเบาสวยงามหรูหรา วัสดุอุปกรณ์ก็แข็งแรงทนทาน ในด้านของการดีไซน์ของค่ายนี้ยังคงทำออกมาได้น่าประทับใจเช่นเดิมเลย อีกทั้งยังสามารถรองรับทุกการใช้งานได้อย่างลื่นไหลลงตัว มอบประสิทธิภาพการใช้งานที่เหนือระดับ ถือว่าเป็นอีกหนึ่งรุ่นที่น่าสนใจมากๆในตอนนี้ ทางด้านของสเปกการใช้งานที่ให้มารวมไปถึงพอร์ตเชื่อมต่อต่างๆที่มีมาให้อย่างครบครันแล้วนั้น เทียบกับราคาถือว่ากำลังเหมาะสมเลยนะ เป็นราคาที่คุ้มค่าแก่ประโยชน์ที่ได้รับจริงๆ

ROG Flow X13 นั้นมาพร้อมกับ Processor AMD Ryzen 9 6900HS มีแกนประมวลผล 8 Cores/16 Threads และบูสต์ความเร็วได้สูงสุดราว 4.9 GHz  กับ กราฟิกการ์ด NVIDIA GeForce RTX 3050Ti  GDDR6 4GB ใช้งาน RAM 16GB 6400 MHz (8GB*2 LPDDR5 on board) และ storage 1TB PCIe 4.0 NVMe M.2 SSD พร้อมกับหน้าจอที่รองรับการเล่นเกม ใช้งานได้ดีที่ ขนาด 13.4″ FHD+ 120Hz ยังมาพร้อมกับเทคโนโลยี Dolby Vision HDR ที่ช่วยลดการฉีกขาดของภาพอย่าง Adaptive-Sync หน้าจอรองรับการสัมผัสและยังใช้งานคู่ไปกับ ASUS Pen SA201H ได้ด้วย พร้อมกับการรับประกันแบบ ASUS Exclusive Care 3 ปีเต็ม บริการหลังการขายถึงบ้าน และยังมี Perfect Warranty ประกันอุบัติเหตุให้ 1 ปีแรก ถือว่าเป็นสเปกที่เพียงพอต่อการใช้งาน

ทางด้านราคานั้น ROG Flow X13 เปิดราคาอยู่ที่ 59,990 บาท 

UNBOX

  • ตัวเครื่อง ROG FLOW 13
  • Adaptor + ชาร์จไฟ
  • ปากกา
  • คู่มือการใช้งาน
  • กระเป๋าใส่ตัวเครื่อง

DESIGN

งานออกแบบยังคงมาในรูปแบบที่เรียบหรู แต่ดูมีอะไรอยู่เช่นเดิม มาพร้อมกับการดีไซน์ที่มีความบางเป็นพิเศษ ช่วยให้เราสามารถพกพาไปไหนมาไหนได้อย่างสะดวกสบายเลยแหละ นอกจากนี้เจ้าตัวนี้ยังสามารถกางได้มากถึง 360 องศาเลย รองรับการใช้งานได้แบบหลากหลายรูปแบบของจริง วัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ก็พรีเมียม แข็งแรงทนทาน มีน้ำหนักที่เบากว่ารุ่นก่อนๆ นำไปใช้งานนอกสถานที่ได้สบายๆเลยแหละ

ดีไซน์ด้านหลังและด้านหน้านั้นไม่ได้แตกต่างไปจากรุ่นอื่นๆมากนัก ยังคงทำออกมาได้คล้ายเดิมอยู่เพียงแต่จะดูทันสมัยมากยิ่งขึ้น การใช้เส้นลวดลายเข้ามาใส่เพิ่มเติม การประกอบตัวเครื่องมีความเนียน ใส่ใจทุกรายละเอียดทุกจุดจริงๆ วัสดุเป็นแบบด้านที่มาพร้อมกับสีเทา ป้องกันลายนิ้วมือได้เป็นอย่างดี

ฝาหลังในรุ่นนี้จะไม่มีโลโก้ค่ายอยู่ตรงกลางเครื่องเหมือนรุ่นก่อนๆ จะนำมาใส่ตรงมุมล่างซ้ายของฝาหลังแทน เพิ่มความเรียบหรูแปลกตาไปอีกแบบ พร้อมสลักไว้ว่าเหมาะสำหรับเกมเมอร์อีกด้วย แน่นอนเลยว่าสำหรับสายเกมเมอร์นั้นพลาดไม่ได้แล้ว รวมไปถึงข้อต่อต่างๆก็ทำได้ดี ไม่ต้องห่วงว่ากางเยอะจะหักหรือไม่ เพราะทางค่ายได้ออกแบบมาให้กางได้แบบ360เลย ไม่ต้องกังวลแต่อย่างไร

ฐานตัวเครื่องนั้นจะเป็นในส่วนของช่องระบายความร้อนที่ใส่มาให้แบบจัดเต็มเช่นเดิม พร้อมกับลำโพงของตัวเครื่องนั้นเอง พื้นผิวกับช่องระบายอากาศนั้นสามารถออกแบบมาให้เรียบเนียนตามากๆ ลงตัวกลืนไปกับลวดลายของตัวเครื่องสุดๆ การระบายความร้อนก็ถือว่าทำได้ดีมากๆ มาในส่วนด้านล่างก็จะเป็นในส่วนของลำโพงในรุ่นนี้แน่นอนว่าให้เสียงกระจายรอบทิศทางไม่มีผิดหวังเช่นเดิม

ขอบหน้าจอมีความบางในระดับนึงเลย สามารถใช้งานหน้าจอได้อย่างเต็มพื้นที่จริงๆ มีการเจาะรูบริเวณขอบจอด้านบนเอาไว้ใส่กล้องหน้าด้วย การตกแต่งภายในยังคงทำได้ดีเช่นเดิม หน้าจอมันวาวแบบ Glossy พร้อมกับคีย์บอร์ดสีคล้ายๆกับตัวเครื่อง ทำให้ดูสมูทเข้ากันได้อย่างลงตัวจริงๆ อีกทั้งขอบหน้าจอด้านล่างนั้นมีการสลัก ROG FLOW ไว้เท่ๆด้วย

SPEC

  • CPU: AMD Ryzen 9 6900HS
  •  Memory: 16GB 6400 MHz (8GB*2 LPDDR5 on board)
  • Graphics: NVIDIA GeForce® RTX3050Ti GDDR6 4GB
  • Storage: 1TB PCIe 4.0 NVMe M.2 SSD
  • Display: 13.4″ IPS FHD+ (1920×1200)120Hz Adaptive-Sync, 500nits, sRGB 100%, glossy display, Pantone Validated, Dolby Vision HDR, Support stylus
  • Keyboard: Backlit Chiclet Keyboard
  • Webcam: 720P HD Camera
  • OS: Windows 11 Home + Microsoft office Home and Student 2021
  • Battery: 62WHrs, Support PD Charge (Type C 100W)
  • Weight: 1.30 Kg
  • Warranty: 3 year on site service + 1 year Perfect warranty

PERFORMANCE

ประสิทธิภาพในรุ่นนี้ต้องบอกเลยว่าจัดเต็มสุดๆกับ CPU ตัวใหม่ที่ได้ใช้งาน AMD Ryzen 9 6900HS มีแกนประมวลผล 8 Cores/16 Threads และบูสต์ได้สูงสุดราว 4.9GHz  กับ กราฟิกการ์ด NVIDIA GeForce RTX 3050Ti GDDR6 4GB ที่รู้กันดีอยู่แล้วว่าการใช้งานนั้นโหดมากจริงๆ ทำการได้ดีในระดับสูงๆเลย ใช้งานได้อย่างไหลลื่น RAM ให้มาอยู่ที่ 16GB พร้อมกับ Storage 1TB PCIe 4.0 NVMe M.2 SSD สเปกการใช้งานในด้านนี้ค่อนข้างจัดเต็มในระดับนึงเลย รองรับการใช้งานต่างๆได้อย่างลงตัวเลยทีเดียว ไม่ว่าจะสายไหนก็ใช้งานได้อย่างตอบโจทย์

PC MARK

คะแนนไปได้ค่อนข้างสูงมากๆ ในรุ่นนี้ทำไปได้สูงถึง 9,420 คะแนน เป็นคะแนนในระดับที่สูงมากๆ ค่อนข้างทำคะแนนได้มากกว่ารุ่นก่อนหน้าแบบเห็นได้ชัดเจนเลย ตอบโจทย์ทำงานทั่วไปแทบจะทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น Word ตัดต่อ เรนเดอร์ 3 มิติ งานเขียนงานวาดแปลนบ้าน ออกแบบกราฟิก ก็ยังคงสามารถรองรับการใช้งานได้อย่างสบายๆ ไม่มีปัญหาอะไรน่ากังวลเลย และแน่นอนว่าการทดสอบนั้นเป็นอุณหภูมิปกติเช่นเดิมไม่ได้เปิดแอร์แต่อย่างใด แล้วได้คะแนนในระดับนี้มาถือว่าสุดยอดมากๆ ลงตัวกับทุกสายงาน อีกทั้งในเรื่องของความร้อนก็ยังคุมได้ดีขณะทำการทดสอบ

3D MARK

ในส่วนของการทดสอบคะแนน 3D Mark นั้นยังคงทำคะแนนเรียกได้ว่าสูงพอตัวเลยแหละ โดยคะแนนตัว TIMESPY EXTREAM ที่จะเน้นไปเจาะกลุ่มคอมพิวเตอร์ระดับท็อประดับเกมมิ่ง สามารถทำคะแนนได้ไป 5,695 คะแนน ถือว่าคะแนนดีเอาเรื่อง ตามมาด้วยคะแนนในตัว FIRE STRIKE EXTREAM สามารถทำคะแนนไปได้อยู่ที่ 14,556 คะแนน เป็นคะแนนที่สูงขึ้นกว่ารุ่นก่อนๆอย่างเห็นได้ชัดเลย และสุดท้ายทดสอบตัว FIRE STRIKE ULTRA สามารถทำคะแนนไปได้อยู่ที่ 7,946 คะแนน เรียกได้ว่าจะมีอะไรคุ้มค่าไปกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว สเปกการใช้งานโหดจัดเต็ม รองรับการใช้งานหนักๆเล่นเกมหนักๆได้อย่างสบายเลยแหละ

CINEBENCH R15 R20 – CRYSTALDISK

R15 ที่เน้นในเรื่องของพลังชิปประมวลผล คะแนนก็อยู่ในระดับสูงเลยแหละ ในส่วนของ R15 นั้นสามารถทำคะแนนไปได้ 2237 cb/ 144.33 FPS รองรับการประมวลผลแบบหนักหน่วงได้แบบสบาย ตามมาด้วยในตัวของ R20 นั้นที่ทำการประมวลผลหนักหน่วงกว่าเดิม สามารถทำคะแนนไปได้สูงถึง 5256 PTS เรียกได้ว่าหนักแค่ไหนก็เอาเจ้าตัวนี้ไม่ลงจริงๆ ยังคงทำคะแนนออกมาได้สูงแบบไม่มีอะไรน่าห่วงเช่นเดิม และในส่วนตัว SSD M.2 นั้นทำการอ่านเขียนไป 3622 MB/s และ 2896 MB/s เป็นคะแนนที่ดีมากๆ การอ่านเขียนรวดเร็วตอบสนองได้เป็นอย่างดี ต้องยอมรับเลยว่าเป็นอีกรุ่นที่โหดเกินราคาจริงๆทุกคน

SCREEN

หน้าจอในรุ่นนี่ให้มาขนาดใหญ่กำลังพอดีเลยขนาดอยู่ที่ 13.4″  หน้าจอแบบ IPS ความละเอียดระดับ FHD+ (1920×1200) ค่ารีเฟรชเรทอยู่ที่ 120Hz Adaptive-Sync มีการรองรับแสดงสีสันได้กว้างสูงสุดถึง sRGB 100% ให้สีสันที่สดใส สวยคมชัดมากๆ รวมไปถึงยังได้รองรับค่ามาตราฐาน Pantone Validated อีกด้วย ยังไม่เพียงเท่านั้น ยังใส่เทคโนโลยี Dolby Vision HDR ที่ช่วยลดการฉีดขาดของภาพมาให้เราใช้งานกันด้วย ถือว่าสเปกหน้าจอทำออกมาได้ดีมากๆเลยแหละ หน้าจอในรุ่นนี้ยังคงรองรับการ TouchScreen รวมถึงใช้งานร่วมกับปากกา ASUS Pen SA201H รับแรงกดได้ถึง 4,096 ระดับ เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่เอื้อให้เราสามารถใช้งานได้อย่างสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น สำหรับสายออกแบบ สายกราฟิกน่าจะถูกใจ ทางด้านของการสู้แสงนั้น ตัวนี้สามารถแสดงความสว่างได้สูงถึง 500nits เป็นค่าความสว่างระดับกลางๆ สามารถใช้งานนอกสถานที่ได้แบบไม่มีปัญหาเลย ยังคงเก็บรายละเอียดได้เป็นอย่างดีเช่นเดิม ไม่ว่าจะทำงาน ดูหนังเล่นเกม ก็สามารถทำได้แบบจัดหนักจัดเต็มกันเลยทีเดียว

KEYBOARD

คีย์บอร์ดในรุ่นนี้มาพร้อมกับสีในโทนสีดำ ที่จะออกไปในทางที่เข้มกว่าสีของตัวเครื่อง ตัดกับสีของตัวอักษรที่มีสีขาว ทำให้สามารถมองเห็นตัวอักษรได้อย่างชัดเจน ใช้งานง่าย การวางระยะต่างๆก็ยังคงทำได้ดี ไม่มีอะไรน่าห่วง การจัดวางสวยเป็นระเบียบ เหมือนคีย์บอร์ดทั่วๆไปเลย การสัมผัสต่างๆนั้นก็จะคล้ายๆเดิม สำหรับใครที่เป็นสาวกอยู่แล้วก็คงจะชินมือไปเองเลยไม่ต้องปรับอะไรมาก แต่น่าเสียดายตรงที่ในรุ่นนี้ไม่มีการใส่ NumberPad เข้ามาให้ใช้งาน แต่ก็ไม่ได้เป็นปัญหาอะไรในการเล่นเกมหรือทำงาน ยังคงทำหน้าที่ได้ดีเช่นเดิม ปุ่มกดเด้งสู้นิ้วมือได้ดี กดใช้งานง่าย ตัวเครื่องกางได้เยอะถึง 360 องศา ทำให้เราสามารถใช้งานคีย์บอร์ดได้อย่างหลากหลายรูปแบบเลย

TOUCHPAD

ทางด้านของ TouchPad ในรุ่นนี้นั้นมีขนาดกำลังพอดีกับตัวเครื่องรวมถึงกับพอดีมือขณะใช้งานด้วย ไม่เล็กไม่ใหญ่จนเกินไป รวมถึงพื้นผิววัสดุนั้นรองรับได้ดีลื่นและติดนิ้ว ตอบสนองตามนิ้วได้ดีไม่อืดไม่ช้า น้ำหนักความลึกขณะกดใช้งานนั้นมีความลึกกำลังพอดี จากการได้ลองใช้งานจริงๆแล้วแอดรู้สึกชอบมาก สามารถลากใช้งานได้อย่างลื่นไหล ใช้งาน 5 นิ้วบน TouchPad ได้อย่างสบายๆ การใช้งานในส่วนนี้ถือว่าทำได้ดีเช่นเดิม

SPEAKER 

ทางด้านลำโพงในรุ่นนี้ให้มาด้วยกันทั้งหมด 2 ตัว พร้อมกับเทคโนโลยีระบบเสียงการรองรับ DOLBY ATMOS ทำให้ได้เสียงที่นุ่มเพราะลื่นไหลลงตัว เสียงที่ออกมาดูมีมิติ สมจริง เสียงออกรอบทิศทาง พร้อมการตัดเสียงรบกวนทำให้เสียงนั้นมีคุณภาพมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะทำกิจกรรมไหนๆ ดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกม ก็สามารถใช้งานได้อย่างเต็มที่ เพิ่มอรรถรสในการใช้งานไปในตัว ลักษณะของเสียงนั้นมีความดัง แน่น เบสหนักๆ ภาพรวมในด้านนี้ก็ทำได้ดีในระดับนึง  อาจจะยังไม่เด่นอะไรมากนัก แต่ก็สามารถใช้งานได้แบบไม่ติดขัดปัญหาอะไรเลย

CONNECTOR

ทางด้านของพอร์ตเชื่อมต่อในรุ่นนี้นั้นทางค่ายให้มาอย่างครบจบในเครื่องเดียวเลย มาพร้อมกับ 1x ROG XG Mobile Interface มาให้ใช้งาน ตามมาด้วย 1x USB 3.2 Gen 2 Type-A , 2x USB 3.2 Gen 2 Type-C ที่รองรับจอแสดงผล / รองรับเทคโนโลยีการชาร์จเร็ว (power delivery) รวมถึง 1x HDMI 2.0b และช่องสุดท้ายจะเป็นช่อง 3.5mm Combo Audio Jack ที่ทางค่ายยังคงใส่มาให้ใช้งานอยู่ กับในบางรุ่นนั้นไม่มีมาให้ใช้แล้วนั้นเอง โดยรวมแล้วทางด้านของพอร์ตการเชื่อมต่อไม่มีปัญหาใดๆที่น่าเป็นห่วงเลย ให้มาครบจบจริงๆ เรียงกันอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย รองรับทุกการใช้งาน

XG MOBILE

ความพิเศษของรุ่นนี้นั้นมาพร้อมกับ XG Mobile หรือที่เรียกกันว่าการ์ดต่อแยก ที่ใส่มาไว้ให้ในตัว ทำงานเป็น 2 in 1 ไว้สำหรับเวลาที่เราต้องการใช้งานแบบจัดเต็ม สามารถเชื่อมต่อได้อย่างสะดวกสบาย เป็นตัวช่วยเสริมที่ให้ได้ประสิทธิภาพการใช้งานตามที่เราต้องการ โดยการ์ดจอแยกมีมาให้เลือกด้วยกันทั้งหมด 2 สเปก ได้แก่

  • รุ่น GC32L ใช้การ์ดจอ AMD Radeon RX 5850M XT 12GB GDDR6 up to 165W
  • รุ่น GC31S ใช้การ์ดจอ NVIDIA GeForce RTX 3080 laptop GPU with ROG Boost up to 1810MHz at 150W 16GB GDDR6

โดยทั้ง 2 รุ่นนั้นสามารถเชื่อมต่อง่ายๆผ่าน ROG XG Mobile interface และ USB TYPE-C combo port ซึ่งแปลว่าสามารถใช้งานร่วมกันกับ ROG FLOW X13 และ ROG FLOW Z13 นั้นเอง เป็นความพิเศษที่หายากมากๆสำหรับโน้ตบุ๊กในปัจจุบันนี้ ไม่ซื้ออดใจไหวหรอทุกคน

WORKING 

การเล่นเกมและในการทำงานนั้นแน่นอนว่าตัวนี้ก็ถือว่าพัฒนามาดีขึ้น สำหรับ AMD RYZEN ตัวใหม่ที่ทางค่ายได้ใส่มาให้ บอกเลยว่าถ้าสายทำงาน สายเรนเดอร์หรือจะสายงานตัดต่อออกแบบ กราฟิก งานภาพ 3 มิติ สร้างบ้าน ขึ้นโมเดล ทำงานหลายโปรแกรม  หรือสายงานไหนๆ ก็ไม่มีใครเอาตัวนี้ลงเลย ทางค่ายใช้ AMD RYZEN ตัวใหม่ที่สเปกโหดๆ มาช่วยจัดการการทำงานให้รวดเร็วมีประสิทธิภาพมากขึ้น การประมวลผลต่างๆรวดเร็วทันใจ และใช้งาน RAM 16GB 1TB SSD ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพเข้าไปให้อีก การอ่านเขียนโปรแกรมต่างๆของค่ายนี้ทำได้ดีและเรนเดอร์ไวมาก เรียกได้ว่าไม่เพียงแต่เอื้อต่อสายเกมมิ่งเพียงอย่างเดียว แต่ยังคงรองรับการใช้งานทำได้อย่างแบบน่าประทับใจอีกด้วย

PREMIRE PRO  

มาในส่วนของงานเรนเดอร์กันบ้าง ในรุ่นนี้จะเรนเดอร์งานได้อย่างรวดเร็วมากๆ เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนสามารถทำได้เร็วกว่าเดิมแบบครึ่งต่อครึ่งเลยนะ ในงานเรนเดอร์นี้ก็เปรียบเสมือนเครื่องยืนยันอีกเสียงว่าตัวเครื่องมีความเร็วแรงแค่ไหน สามารถนำมาทดสอบเปรียบเทียบกับรุ่นก่อนๆเพื่อวัดผลก็ได้ แน่นอนว่าเจ้าตัวนี้สามารถเรนเดอร์งานได้แบบสบายๆ ไฟล์เล็กหรือไฟล์ใหญ่ก็เอาอยู่

GAMING 

การใช้งานการ์ดจอ RTX 3050TI อย่างที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าสเปกนั้นโหดแค่ไหน รองรับการใช้งานอย่างมีประสิทธิภาพมากแค่ไหน  จากที่ได้ทดลองในสภาพอากาศที่ไม่ได้เปิดพัดลม ไม่ได้เปิดแอร์ ซึ่งทำให้ได้อุณหภูมิจริงๆ ทำการทดสอบในหลายๆเกมตั้งแต่กราฟิกที่ไม่ได้มีอะไรมากนัก ไปยังเกมที่มีกราฟิกโหดๆ ซึ่งทางเราก็ได้เปิดภาพแบบสูงสุด รวมถึงเปิด Monitor FPS /Temp ไว้ตลอดเลยเล่นต่อเนื่องยาวๆไม่มีหยุดในแต่ละเกม ก็สามารถทำได้แบบไม่มีปัญหาเลยนะ ในส่วนของปุ่มกดใช้งานต่างๆก็ใช้งานง่าย เล่นเกมได้อย่างเพลิดเพลินเลยแหละ ตัวเครื่องไม่ร้อนง่ายเหมือนโน้ตบุ๊กเกมมิ่งทั่วไป จากที่ใช้งานมายาวๆระบบระบายความร้อนสามารถทำงานได้ดีจริงๆ

ROG FLOW X13 

 ”  ROG FLOW X13 ดีไซน์โดดเด่น บางเบา กางได้ถึง 360 องศา พร้อมประสิทธิภาพการใช้งานที่โหดกว่าเดิม “

ภาพรวมการทำงานของรุ่นนี้คือดีมากๆ ทั้งในเรื่องของการออกแบบดีไซน์ที่ดูสวยหรู น่าใช้ มีน้ำหนักเบาบางพกพาไปไหนมาไหนได้อย่างสะดวกสบาย ดีไซน์มาให้กางได้มากถึง 360 องศาแบบไม่ต้องกลัวหักเลย รองรับการใช้งานได้แบบชิลๆ สเปกการใช้งานก็โหดพอตัวเลย ในด้านของการทำงานนั้นค่อนข้างตอบโจทย์กับทุกสายงาน การทำงานรวดเร็วทันใจ รวมไปถึงสายเกมมิ่งก็ต้องหลงรัก เพราะจะใช้งานอย่างหนักหน่วงแค่ไหนก็ยังคงทำงานได้อย่างไวอยู่ดี คะแนนการทดสอบ CPU ต่างๆก็ได้คะแนนออกมาในระดับสูง สเปกหน้าจอก็จัดเต็ม ได้ความละเอียด ความแม่นยำของสี รวมไปถึงความลื่นไหลในการใช้งานด้วย ในรุ่นนี้ยังคงมีการรองรับการใช้งานร่วมกับปากกาอีกด้วย เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่ทำให้สามารถใช้งานได้ง่ายขึ้นกว่าเดิม พอร์ตการเชื่อมต่อก็ครบครัน เมื่อเทียบกับราคาแล้วสเปกที่ได้มาแบบจัดเต็มแล้วนั้น คุ้มค่าคุ้มราคาสุดๆ

ข้อดี

  • ดีไซน์สวยงาม วัสดุแข็งแรงทนทาน
  • สเปกทำได้ดีให้ประสิทธิภาพมาอย่างจัดเต็มในด้านของการใช้งาน
  • หน้าจอใหญ่ คมชัด แม่นยำตามมาตราฐานของสี
  • รองรับปากกา
  • รองรับ SSD M.2 เพิ่มได้ + RAM ได้อีก 1 แถว
  • พอร์ตเชื่อมต่อครับพร้อมใช้งาน
  • มีกล้องหน้า Webcam มาให้ใช้งาน
  • แบตเตอรี่ขนาดใหญ่จุใจ รองรับการใช้งานยาวๆตลอดทั้งวัน
  • 3 year Onsite service + 1 year Perfect warranty

ข้อสังเกต

  • ไม่มี Numpad มาให้ใช้งาน

สำหรับรีวิวนี้ผมก็ต้องขอตัวลาไปก่อนสำหรับรุ่นอื่นๆก็ติดตามกันได้เลย ถูกใจฝากกดไลค์กดแชร์ด้วยนะครับ  มีข้อผิดพลาดประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ  เพื่อนๆสนใจอยากให้พวกผมรีวิวรุ่นไหนสามารถ Inbox มาบอกเราได้เลยนะ
ฝากไลค์เพจ FACEBOOK เราด้วยนะครับ >>>>>>>>>  TECHHANGOUT

เข้าร่วมกลุ่ม TECHHANGOUT พูดคุยแลกเปลี่ยน ข้อมูล คุยกันเองชิลๆได้เลยที่ — Facebook  Techhangout พูดคุย Smartphone gadget 

Comments กันได้เลย !

Comments

0 Shares