แน่นอนว่าถ้าใครจำกันได้เราเคยรีวิว SONY REON POCKET ตัวแรกสุดเลยมาใช้งานกันครับ ตอนนั้นหาของกันยากมาก และ ในไทยเองก็ไม่มีมาขาย และ กระแสตอนนั้นเป็นตัวแรกอะไรหลายๆอย่างยังไม่ลงตัว แต่ตอนนี้มาถึงรุ่นที่ 5 แล้วแน่นอนว่ามีอะไรหลายๆอย่างพัฒนาขึ้น เรามาดูกันครับว่า มันจะช่วยให้หายร้อนได้จริงมากน้อยแค่ไหน กับการใช้งานจริงๆในไทย และเข้าใจกันก่อนว่ามันไม่ใช่แอร์พกพา ที่เป่าลมเย็นๆออกมา มันคือเครื่องทำความเย็น หรือ แผ่นทำความเย็น หรือ ร้อนได้นั้นเองครับ ฟีลแบบ แผ่น Gel เย็นๆมาแปะนั้นแหละ แต่อันนี้ฉลาดกว่า ปรับความแรงได้ อุ่นได้ ร้อนได้ เย็นได้ทั้งหมด แถมใช้งานผ่านแอปบนมือถือได้นั้นเองครับ เพราะมีความคนเข้าใจว่ามันคือแอร์พกพาที่เป่าลมลงเสื้อ จริงๆมันไม่ใช่แบบนั้นนะ แล้วการทำงานมันจะเป็นยังไงไปอ่านรีวิวกันได้เลยครับบ

SONY REON POCKET เองนั้นมีมาถึงรุ่น 5 แน่นอนว่าก็ใช้เวลาพัฒนามาหลากหลายอย่าง ทั้งการออกแบบ การเชื่อมต่อ และ การใช้งานในรุ่นนี้มาพร้อมกับงานออกแบบสีขาวเช่นเดิม และ เป็นแนวคล้องคอแทนครับ จากที่รุ่นแรกต้องใส่เสื้อพิเศษ และ จากนั้นก็พัฒนามาเรื่อยๆนั้นเองซึ่งตัวเครื่องได้รับการออกแบบใหม่ให้มี  เทอร์โมโมดูลที่มีขนาดใหญ่ขึ้น และพัดลมกระจายความร้อนที่ได้รับรับการปรับปรุงโครงสร้างใหม่ จึงเพิ่มประสิทธิภาพในการทำความเย็น ให้การไหลเวียนของอากาศที่ดีขึ้น ส่งผลให้ประสิทธิภาพในการทำความเย็นสูงขึ้นถึง 1.5 เท่า เมื่อเทียบกับรุ่นทั่วไป ทั้งยังสามารถปรับระดับความเย็นได้ถึง 5 ระดับ และใช้งานได้นานขึ้นถึง 1.8 เท่า หรือนานประมาณ 7.5 ชั่วโมง เมื่อปรับความเย็นที่ระดับ 4 นอกจากนี้ REON POCKET 5 ยังทำงานได้เงียบขึ้น โดยลดเสียงรบกวนจากการทำงานได้ถึงหนึ่งในห้าจากเดิมเลย ถือว่าน่าสนใจครับ และในไทยเองก็เปิดราคาพิเศษเครื่องละ 5,499 บาท (ปกติ 5,999 บาท) สำหรับลูกค้า My Sony ตั้งแต่วันที่ 17 พ.ค. 67 – 16 มิ.ย. 67  โดยจะวางจำหน่ายที่โชว์รูมโซนี่สโตร์ ทั้ง 6 สาขา ได้แก่ โซนี่ สโตร์-เซ็นทรัลพระราม 9 โซนี่ สโตร์-พารากอน โซนี่ สโตร์-เอ็มควาเทียร์ โซนี่ สโตร์-เดอะมอลล์บางกะปิ โซนี่ สโตร์-ฟิวเจอร์พาร์ค และโซนี่ สโตร์-เดอะมอลล์บางแค รวมถึงช่องทางออนไลน์ https://store.sony.co.th/products/reon-pocket-5

UNBOX

ตัวกล่องทาง SONY เองยังคงแนวทางไม่ใช้วัสดุพลาสติกในตัวกล่อง อันนี้ก็ขอชื่นชมครับเราจะไม่เจอพลาสติกเลยแม้แต่ชิ้นเดียวในการหุ้ม ห้อ หรือ รัดเป็นกระดาษทั้งหมดส่วนในกล่องเองนั้นมาพร้อมกับสาย USB-C ที่หัวต่อแบบ L ทำให้เสียบใช้งานตอนใส่ได้ และ คู่มือ รวมถึง หัวปล่อยลมระบายอากาศแบบสั้น และ ยาว แล้วแต่การใส่ชุดของเราครับ และ ตัววัดอุณหภูมิ และ ความชื้นแบบพกพา สำหรับการปรับอัตโนมัตทำงานร่วมกับ REON POCKET 5 นั้นเองครับ เราจะหนีบไว้กับเสื้อของเรานั้นแหละครับ ถือว่าน่าสนใจเลย

ซึ่งหัวอันนี้ไม่ใช่เพื่อปล่อยลมเข้าในตัวเสื้อเรา แต่เป็นการปล่อยลมระบายออกจากระบบตัวเครื่องครับ ซึ่งแบบสั้นใช้งานกับเสื้อยืด คอกลมค่างๆ อีกทั้ง ตัวปลายยาวจะเป็นการปล่อยลมออกสำหรับเสื้อเชิ้ต หรือ พวกคอปกต่างๆครับ เพราะถ้าแบบสั้นจะไม่สามารถเอาลมออกได้ ทำให้เครื่องทำงานหนักและลมร้อนจะย้อนกลับเข้าตัวเราทำให้ร้อนได้

DESIGN

งานออกแบบจริงๆตัวเครื่องสวย ขาวเนียน และมีพื้นผิวขีดๆครับ น้ำหนักกำลังกลางๆไม่หนักไม่เบาเกินไป แต่ข้อีคือมีสายคล้องคอมาให้เลย ไม่ต้องใส่เสื้อแบบเจนแรกทำให้มันไม่หน่วงแบบตัวก่อนๆครับ ตัวบอดี้เป็นพลาสติกทั้งหมด แต่อาจจะรักษาความสะอาดยากด้วยความเป็นสีขาวต่างๆ ตัวเครื่องประมาณ 125 มม. × 23 มม. × 137 มม และ น้ำหนัก: ประมาณ 153 กรัม ครับ ด้วยขนาดเมื่อเทียบกับมือก็ถือว่ากลางๆ แต่งานประกอบ วัสดุ ความแน่นของตัวนี้บอกเลยว่าไว้ใจได้กับ SONY ไม่ผิดหวังกับราคานี้ครับ

เมื่อดูด้านหลังเองนั้นเราจะเห็นว่ามีโลโก้ SONY ด้านหลังและแผ่นทำความร้อน ทำความเย็น ซึ่งเป็นวัสดุแบบอลูมิเนียมทำความเย็นพื้นที่ประมาณครึ่งๆของตัวบอดี้ครับ และตัวบอดี้เองนั้นสามารถกันละอองน้ำ กันฝุ่นใช้งานได้ปกติครับ และ จริงๆมันจะซ่อนอยู่ในเสื้อทำให้มันก็สามารถป้องกันตัวบอดี้ได้ประมาณนึงอยุ่แล้ว ส่วนขาจับถอดไม่ได้นะครับ

ด้านขวาเราจะเห็นว่าจะ USB-C ที่สามารถเสียบชาร์จได้ และ ด้วยตัวแบตใช้งานได้ 17 ชั่วโมงและชาร์จประมาณ 2 ชั่วโมงครับจาก 0% รวมถึงมีไฟสถานะ และ เป็นปุ่มกดในตัวเลยมีไฟสถานะ สีส้ม สีฟ้า ครับ ส่วนด้านหลังเราจะเห็นการออกแบบมีพื้นผิว TEXTURE ในตัวทำให้ช่วยเรื่องการเกาะเวลาใช้งานได้หน่อย ไม่เรียบมากเกินไปด้วยเช่นกัน

และตัวนี้คือพระเอกของเราด้วย หน้าตาดูดีใช้ได้ครับ ใช้ถ่านกระดุม และ มีเซนเซอร์วัด อุณหภูมิ และ ความชื้น ซึ่งจะเชื่อมกับมือถือ และ มันจะปรับให้เราเองว่า แผ่นทำความเย็นมันควรจะปรับระดับไหน ร้อนหรือเย็นยังไง ทำให้มันเป็นระบบ FULL AUTO ได้เลย อากาศร้อนปรับให้เย็น อากาศเย็นก็ปรับให้ร้อนได้ครับ ถือว่าดีนะ สะดวกขึ้นเยอะมากครับ และ สามารถดูสถานะผ่านตัว Apple Watch ได้ด้วย

FEELING

ในแง่ของการใช้งานจริงๆผมได้ใช้งานในไทยมาซักพักครับเลยพอบอกได้ว่าฟีลลิ่งมันก็ยังคล้ายๆตัวเดิมนั้นแหละ แต่ดีที่มันไม่ต้องใส่เสื้อ 2 ตัวทำให้ใช้งานได้จริงมากขึ้น ไม่อบไม่เหงื่อท่วมแบบตัวแรกสุด และ การกระจายความเย็นเอาง่ายๆเลย มันไม่มีพัดลมเป่ากระจายเสื้อ การทำงานคือเหมือนเอาแผ่นเจลเย็นมาประคบ ซึ่งข้อดีคือ ช่วงต้นคอนั้นเย็นครับ และ ช่วยเรื่องระบบไหลเวียนเลือดตรงส่วนนั้นทำให้มันไม่หัวร้อนมาก แต่ถ้าถามว่าส่วนอื่นๆมันร้อนไหม ก็ต้องบอกเลยว่าร้อนอยู่เหมือนเดิมครับ แต่ใส่ดีกว่าไม่ใส่ไหมอันนี้ต้องตอบว่าดีกว่า เพราะมันจะรู้สึกว่ามีส่วนเย็นอยู่ในร่างกายบ้าง ไม่ต้องเอาน้ำแข็งอะไรมาแปะและทำความเย็นแบบนี้ก็พอช่วยได้ครับ แต่เหงื่อก็ยังชุ่มอะไรอยู่เหมือนเดิมนั้นแหละ

ถ้าถามว่าเหมาะกับสภาอากาศแบบไหนผมว่า ช่วงหน้าร้อนแบบแห้งๆ หรือ ร้อนแบบไม่ชื้น หรือ ไปเที่ยวต่างประเทศตัวนี้แทน HEATER ได้ดีมากๆครับ แต่พอมาใช้งานในไทยเองด้วยความที่ร้อนชื้นแบบนี้ เหงื่อมันเลยทำให้รู้สึกร้อน แม้ว่าตรงคอเราจะเย็นก็ตามครับ อุณหภูมิร่างกายลดลงได้นิดหน่อยดีกว่าไม่ได้ใส่ไว้ครับอันนี้ก็ถือว่าได้ผลอยู่บ้าง ซึ่งเท่าที่ลองดูอากาศประมาณ 35-36 ตัวเครื่องปล่อยเย็นสุดๆได้ 25 องศาครับ เท่ากับลดความร้อนไป 10 องศาในบอดี้ตัวคนเรา และ เมื่อทำงานร่วมกับเซนเซอร์ก็ปรับตามสภาพอากาศได้ดีมากขึ้น ถือว่ามีอะไรพัฒนาขึ้นหลายๆส่วนในรุ่นนี้ครับผมว่า ใช้งานได้ในบางสภาพอากาศ แต่มันจะไม่ได้เย็นทั่วหลังหรือทั่วบอดี้คนเราขนาดนั้นครับเพราะมันไม่มีพัดลมกระจายความเย็นนั้นเอง

ข้อดีคือการสวมใส่ใช้งานดีกว่ารุ่นก่อนๆเยอะมาก แค่คล้องคอเสียบได้เลย เปลี่ยนเสื้ออะไรได้ง่ายและซ่อนได้เนียนครับ ถือว่าคิดมาได้ดีในเรื่องของการใช้งานแบบนี้นะ ตอนใส่ผมไม่รู้สึกเกะกะอะไรเลย หรือ หน่วงอะไรทั้งนั้นครับแต่ถ้าก้มเยอะๆอาจจะรู้สึกว่า ลมร้อนมันเป่าต้นคอได้อยู่เหมือนกันนะ หรือเวลาแหงนหน้าเยอะๆครับเพราะลมจะเป่าคอพอดี

APP

ตัวแอปเองนั้นเปลี่ยนแปลงหน้าตาขึ้นมีโหมดการใช้งานเยอะขึ้นใช้กับ iOS ได้สบาย และ ใน Apple Watch มีโชว์สถานะ ความร้อน ความชื้นได้ด้วยนะเท่มากครับ ซึ่งตัวแอปเองหลักๆคือจะบอกสถานะ และ ปรับความเย็น ร้อนได้ ปรับพัดลมได้ และ ตั้งค่าโหมดของตัวเองได้ ว่าจะร้อนกี่วินาที เย็นเท่าไร พักเท่าไรครับ และหน้าตาใช้งานได้ง่ายไม่ยุ่งยาก

และนอกเหนือจากการปรับแต่งแล้วผมว่าอันนี้ดีคือ มีการบอกสถานะตัวเครื่องว่า การทำงานมันปกติไหมครับ ลมที่เป่าออกมาโดนบังไหม หรือ แผ่นทำความเย็นทำงานได้ปกติไหมครับ เพราะว่าบางทีเราอาจจะไปบังช่องลม ทำให้เครื่องทำงานหนักก็เป็นไปได้อันนี้ถือว่าดี การเชื่อมต่อผ่านทาง Bluetooth ปกติครับ ไม่ได้เปลืองแบตอะไรมากนัก เพราะมันทำงาน Standalone ได้เลย ไม่ต้องเชื่อมแอปตลอดเวลา เพราะมันคุยกันเองได้ระหว่างตัว REON และ ตัว Tag ที่วัดความร้อนก็ปรับเองได้เลยไม่ต้องเชื่อมมือถือตลอดเวลา

SONY REON POCKET 5

” ทำความเย็นได้จริง ในส่วนที่ใช้งาน แต่สภาพอากาศที่ใช้งานก็มีผลต่อความรู้สึกเช่นกัน “

 ก็เป็นนวัตกรรมที่น่าสนใจ และ ใช้งานได้ในหลายๆสถานที่จริงๆ ด้วยการทำแผ่นทำความเย็นที่สามารถลดความร้อนได้ถึง 10 องศาแบบนี้ และ ช่วยเรื่องเส้นเลือดในจุดรวมต้นคอได้ดีครับ ก็ใส่ดีกว่าไม่ใส่ แถมปรับเองได้ ออโต้คิดเองได้หมด ไม่ต้องเชื่อมมือถือเพื่อปรับอะไรแล้วใส่ไปได้เลย และ พกพาใส่ได้ง่ายไม่ต้องใส่เสื้อ 2 ชั้น ผมว่าเค้าพัฒนาไปเยอะ และ ใช้งานได้จริงมากขึ้น แต่ทั้งนี้ก็ต้องถามตัวเองว่า มีงบประมาณเท่าไร และ มันไม่ใช่แอร์ที่มีพัดลมกระจายความเย็นครับ มันเลยเย็นเป็นจุดๆแทนนั้นแหละ ถ้ารับได้ก็โอเคนะ ในหลายๆที่ได้ใช้งาน ไปต่างประเทศ ห้องแอร์หนาวๆ หรือ ร้อนแบบอากาศแห้งๆหน่อยก็ช่วยได้ ซึ่งถ้าไม่ได้ตากแดดกลางแจ้งผมก็ว่ามันใช้งานได้อยู่ระดับนึงครับ อย่างน้อยก็รู้สึกว่าถ้าผมซื้อมาแบบนี้ได้ใช้งานบ่อยกว่าตัวแรกแน่ๆ แต่ถ้าเค้าพัฒนาต่อได้อีก สามารถมีพัดลมเป่าลงหลังเสื้อมันจะเป็นอะไรที่ลงตัวสุดๆไปเลยครับสำหรับตัวนี้