ROG Zephyrus เป็นตระกูลที่ต้องบอกว่าตัวเทพเลยสำหรับ ROG และชอบทำ Gaming Notebook แรงๆแต่เบามาในหลายๆรุ่นที่ออกมาจะพยายามยัดเทคโนโลยีใหม่ๆมาเสมอครับ ทั้งระบบพัดลม การยกตัวเครื่องทำให้การระบายความร้อนดีขึ้นและ เครื่องบาง เบากว่าเดิมไปในทุกๆรุ่นนั้นเอง ในวันนี้เราจะมาลองรุ่นล่าสุดจากทาง ROG คือรุ่น Zephyrus S ครับรุ่นนี้มาจุดเด่นมากมายและได้ชื่อว่าเป็น Gaming Notebook ที่บางเบาที่สุดในโลก และใช้จอ Full HD IPS Refresh Rate 144 Hz + Respond Time 3 ms ตัวแรกของโลกด้วยนั้นเองครับ !

ZEPHYRUS S เปิดตัวในประเทศไทยกันมาแล้ว หลังจากที่แอดมินได้ไปลองที่ไต้หวัน บอกเลยว่าติดใจมาตั้งแต่ที่นู้นแล้วและรอที่จะเข้ามาขายเร็วๆ ตัวนี้มาพร้อมหน้าจอ 15.6 นิ้ว Full HD IPS Refresh Rate 144 Hz + Respond Time 3 ms 100% ของมาตรฐานสีแบบ sRGB  ที่ระดับความบางเพียง 14.95 ~ 15.75 มม. ทำให้ Zephyrus S นั้นบางกว่า Zephyrus รุ่นแรก (GX501) ถึงกว่า 12% เลยทีเดียวในเรื่อง CPU นั้นมา intel Core i7-8750H และ การ์ดจอ GTX 1060 6 GB GDDR5 พร้อมด้วย 512 GB SSD M.2 PCI-E NVMe  และ RAM 16 GB ครับ สเปคถือว่าเอาเรื่องเลยแหละ และด้วยความบางแบบนั้นทำให้มันน่าสนใจมากๆเลยทีเดียว

ASUS ROG ZEPHYRUS S GX531GM INTEL CORE I7-8750H + GEFORCE GTX1060 6 GB GDDR5 นั้น เปิดราคามาที่ 64,900 บาทไทยครับผม พร้อมด้วยประกัน 2 ปี ครับผม 

UNBOX

กล่องของทาง ROG Zephyrus S นั้นจะเป็นกล่องใหญ่และข้างในมี 2 กล่องย่อยอีกรอบนะครับ กล่องย่อยแรกคือกล่องใส่ สายชาร์จ Adaptor แนวยาวๆสีดำทำออกมาดูดีดูแพงมาก ส่วนอีกกล่องนั้นเป็นกล่องใส่คอมพิวเตอร์ต่างๆพวกคู่มือ สติกเกอร์นั้นเองอย่างที่เห็นในภาพที่มีโลโก้สีแดงนั้นเองครับ ส่วนอุปกรณ์ก็ให้มาครบและโทนสีดำทั้งหมด

  • ตัว ROG Zephyrus S
  • Adaptor ROG
  • คู่มือการใช้งาน
  • สติกเกอร์ ROG
  • และที่คล้อง ROG วัสดุเหล็ก และ โลโก้สีแดงบนผ้า

DESIGN

การออกแบบของรุ่นนี้ ยังคงเอกลักษณ์ของ Zephyrus ได้สวยงามทั้งความบาง เบา และ ฝาหลังแบบ 2 วัสดุเฉียงพร้อมกับโลโก้ ROG วัสดุเป็นแบบด้าน ผสมกับฝาหลังแบบปัดลายสวยงามมมากๆ งานเนี้ยบทั้งตัวเครื่องครับฝาหลังตัดขอบเหลี่ยมสวยงาม ตัวเครื่องจะเหลี่ยมทั้งเครื่องดุดันและวัสดุสัมผัสดีเพราะทำจาก อลูมิเนี่ยม และ แม็กนีเซียม  และส่วนฐานด้านหลังจะเป็นอีก 1 ชิ้นครับ การออกแบบเรียบดูดีและสวยงามไม่ผิดหวังเลย  ต่อยอดรุ่นเดิมได้ดีมาก
เมื่อเปิดฝาขึ้นมาแล้วนั้นจะเจอกันหน้าจอที่ขอบบางขึ้นดูสวยงามากขึ้น และ ตำทั้งคียบอร์ดและ Touchpad วางอยู่ในส่วนแถบล่างสุดของตัวคอมพิวเตอร์โดยส่วนบนทิ้งเป็นส่วนการ์ดจอและการระบายความร้อน แต่ก็ยังมีโลโก้และเส้นสายรูระบายอากาศที่เห็นเป็นเส้นเฉียงๆระหว่าง โลโก้ ROG ถือว่าทำได้สวยงามและเข้ากับสายเกมเมอร์อย่างมาก

เมื่อเปิดฝาแล้วมามองด้านหลังนั้นถ้าเจอแสงบางมุมจะทำให้มันสวยงามไปยิ่งกว่าเดิมการใช้สีในโทนเข้มหรือเรียกว่า  Armor Titanium นั้นทำออกมาได้ดูดีจริงๆและเป็น Gaming Notebook ที่ดีไซน์เรียบแต่ดูดุดันอันดับต้นๆเลยครับ ตัวโลโกนั้นเมื่อเจอแสงแบบนี้จะเป็นสีโครมเมี่ยมแต่ถ้าเปิดคอมพิวเตอร์แล้วนั้นจะมีไฟออกมาด้วยนะครับ

ตัวทางด้านโลโก้ ROG ในส่วนของฝาหลังนั้นถ้ามองบางมุมอาจจะไม่ค่อยเห็นว่ามันมีไฟเท่าไร แต่ถ้าเราใช้งานเวลากลางคืนหรือไม่เจอแสงกระทบมากนักกจะเห็นไฟสีแดงส่องฝ่านแผ่นอลูมิเนียมที่ทำการเจาะรูไว้ตรงบริเวณโลโก้ซึ่งทั้งฝาหลังและการเจาะรูนั้นขึ้นรูปเป็นชิ้นเดียวกันทั้งหมดในการขึ้นรูปแบบ CNC-milling ทั้งเครื่องเลยแข็งแรงสุดๆ

ฐานตัวเครื่องนั้นเป็นอีก 1 จุดเด่นที่น่าสนใจเลยครับ แท่นยางรองเครื่องมาถึง 6 จุดด้วยกันและมีการยกตัวเครื่องให้สูงขึ้นมาจากพื้นนิดหน่อย และจะเห็นรูระบายกาศค่อนข้างเยอะครับขอบด้านข้างทั้ง 2 แต่ถ้าใครยังกลัวเรื่องความร้อนนั้นไม่ต้องห่วงเลย ตัวนี้มาพร้อมกับระบบยกตัวเครื่องให้มีช่องว่างให้ลมเข้าแบบภาพที่ 2 และยังมีไฟ RGB ด้วยนะ ซึ่งตรงที่ยกขึ้นนั้นจะเป็นพัดลมทั้ง 2 ข้าง โดยจะช่วยระบายได้ดีขึ้นเพราะขยายช่องลมมากกว่าเดิมถึง 5มม. และไหลเวียนได้ดีขึ้นมาก ใบพัดก็มีจัดเต็มถึง  83 ใบพัด ทำงานแบบ 12V และมีระบบกักฝุ่นเข้าตัวเครื่องอีกด้วยครับ

ทางด้านคียบอร์ดนั้นมาพร้อมกับปุ่มเต็มรูปแบบและวางไว้สุดขอบเครื่องอาจจะดูแปลกตาไม่ค่อยมีที่วางมือเท่าไรครับผมแต่ก็ใช้งานปรับตัวได้ไม่ยาก ส่วน Touchpad นั้นไปอยู่มุมขวา พร้อมกับสามารถกด Numpad โดยเป็นแบบสัมผัสนั้นเอง สารมารถเปิดปิดได้ ตัวปุ่มเปิดปิดบนขวาสุดมาพร้อมไฟสีแดงและอยู่โดดเดี่ยวในบริเวณนั้นไม่มีปุ่มอื่นๆ

ตัวขอบหน้าจอส่วนล่างยังมีความหนาพอสมควรเป็นปกติครับ และเขียนชื่อเต็ม ROG ไว้ด้วย พร้อมกับไฟสถานะทั้ง 3 จุดตรงกลางส่วนฐาน พร้อมกับ การเล่นลวดลายที่ดูใส่ใจในการออกแบบหลายๆจุดครับ แม้จะเป็นส่วนแถบเล็กๆนั้นก็ยังมีการคิดอะไรมาให้เข้ากับการออกแบบทั้งหมด และเห็นรูๆนั้นทั้ง 2 ข้างคือลำโพงยิงตรงๆมาสู่คนที่นั่งอยู่นั้นเอง

ตัวขอบเครื่องทั้งหมดนั้น เป็นการเล่นกับสีทองแดง Plasma Copper ตัดขอบมุมได้สวยงามและเงาทำให้โดดเด่นออกมาจากทั้งเครื่องสีดำด้านและเข้ากับความเหลี่ยมสันของตัวเครื่องมากๆ แอบหรูๆคล้ายพวก Zenbook pro เลย

มาส่องจุดเด่นของมันกันอีกชัดๆ และขาจอที่มีความแข็งแรงในรูปทรงบานพับแบบกรรไกร กางสุดได้แค่นั้นนะครับ และเมื่อเราเปิดจอ ตัวขานั้นก็จะทำหน้าที่ยกตัวเครื่องให้สูงขึ้น แบบที่เห็นในภาพที่มีไฟลอดออกมานั้นเอง และช่องสี่เหลี่ยมๆนั้นคือรูระบายอากาศของพัดลมที่จะทำหน้าที่เอาลมออกมาทั้งด้านข้าง และ ด้านหลังเลยครับ ชอบการยกตัวเครื่องของแบรนด์นี้จริงๆนะ คือมันยกแล้วได้ประโยชน์ ทั้งการพิมพ์ง่ายขึ้นในพวก Zenbook และ ระบายความร้อนดีขึ้นในตัวนี้

หน้าจอนั้นเป็นหน้าจอ 15.6 นิ้วแต่ยัดบีบลงมาให้อยู่ในขนาดตัวเครื่องประมาณ 14 นิ้วกว่าๆ เพราะขอบจอบางมากๆทั้ง 2 ด้าน และขอบบนที่บางขึ้นทำให้ขนาด ความใหญ่นั้นลดลงแบบชัดเจนครับ แต่กล้องหน้าอะไรก็ยังอยู่ส่วนบนไม่ได้เอาลงมาไว้หรือตัดออกไปไหนครับ หน้าจอเป็นหน้าจอแบบด้านเหมาะสำหรับสายเกมค่อนข้างมากเลยแหละ

ZEPHYRUS S GX531 นั้นจะมีความบางอยู่ที่ 14.95 มิลลิเมตรเท่านั้นเมื่อเราปิดฝา แต่ถ้าเราเปิดฝาจะเห็นจากภาพด้านบนเลยว่ามันทำหน้าที่ยกยังไงมีช่องขนาดไหนและสูงขึ้นประมาณไหนครับบอกเลยว่ามันช่วยได้มากๆจริงอ้อและสำหรับความแข็งแรงบางคนกลัวว่า ฝามันเปิดๆแล้วมีช่องแบบนี้มันแข็งแรงไหมนั้น รุ่นนี้ยังผ่านมาตรฐานทางการทหาร MIL-STD-810G ที่รองรับการสั่นสะเทือน แรงกระแทกบอกเลยว่าไม่ต้องกลัวครับ ทนทั้งความร้อน เย็น กระแทกได้สบายเลยแหละ เป็นรุ่นที่เบา บางแต่ได้ GTX 1060 I7 เล่นเกมสะบายสเปคแรงต้องขอบคุณเทคโนโลยีสมัยนี้ที่จับ สเปคโหดแบบนี้มาใส่ความบาง เบา แข็งแรง และระบายความร้อนได้ดีแบบนี้ครับ

SPEC  GX531GM (Zephyrus S)

  • Windows 10 Home
  • Intel® Core™ i7-8750H
  • NVIDIA® GeForce® GTX 1060
  • 6GB GDDR5 VRAM
  • 16GB DDR4 2666MHz SDRAM  Up to 24 GB (8 GB on board memory + 8GB DDR4 2666)
  • M.2 NVMe PCIE 3.0 x4 512GB SSD
  • หน้าจอ 15.6-inch Full HD (1920×1080) IPS-level panel, 144Hz, 3ms, 100% sRGB
  • Backlit chiclet keyboard พร้อม Aura Sync  4 zones RGB backlight mode
  • ลำโพง 2 ตัว  2W speakers + Smart AMP technology
  • Array Microphone
  • Armoury Crate
  • XSplit Gamecaster (Free)
  • พอร์ทเชื่อมต่อ  1 x USB3.1 Gen2 Type-C with DisplayPort™ 1.2 and Power Delivery
  • 1x USB3.1 Gen 1 Type-C // 1x USB3.1 Gen2 Type-A // 2x USB 2.0 Type-A
  • 1x HDMI 2.0 // 1x 3.5mm headphone and microphone combo jack // 1x Kensington lock
  • 180W Power Adaptor
  • Intel® 802.11ac (2×2) Gigabit Wi-Fi
  • Bluetooth 5.0
  • ขนาด และ น้ำหนัก 360 (W) x 268 (D) x 14.95~15.75 (H) mm  2.1 KG

PERFORMANCE

สำหรับทางด้านของ ASUS ROG ZEPHYRUS S GX531 มาพร้อมกับ CPU Intel Core i7-8750H  มีความเร็ว 2.20 GHz และเร่งไปได้สุดๆ 4.10 GHz มาพร้อมกับ 6 Core 12 Threads ซึ่งรุ่นนี้เป็นรุ่นที่มีหลายๆตัวเอามาใช้กันเยอะมากจริงๆ มันดีและก็แรงแน่นอนว่าหลายๆรุ่นเลยเอามาใช้กัน และทำงานร่วมกัน GTX 1060 อีกด้วยทำให้มันแรงไปอีกในการใช้งานทั่วไปรวมถึงสายเกมจัดหนักครับ ตัวเครื่องยังมาพร้อมกับ RAM 8GB DDR4 แบบ 2 แถว รวมเป็น 16GB และ SSD 512GB M.2 NVMe บอกเลยว่า แรงเกินหน้าเกินตาไปแล้ว

PCMark 10 ในตัวคะแนนการทดสอบนั้นได้มากถึง 4,770 คะแนน จริงๆพวกระดับราคานี้การใช้งานทั่วไปทำงานคงไม่ต้องกังวลตอบโจทย์ทำงาน ทั่วไปแทบจะทุกรูปแบบครับ ไม่ต้องห่วงเลยแหละ ตั้งแต่ Word ไปยังตัดต่อ 4K รองรับได้สบายด้วยความแรงทั้ง CPU -GPU ที่รองรับกันอย่างดีและระบายความร้อนได้ดีด้วย จากการทดสอบเสร็จแล้วนั้น ความร้อนตัวเครื่องวัดได้ที่ CPU – 61  GPU 53 องศาครับผมสภาพ ไม่มีแอร์ และ ไม่มีพัดลมเปิดช่วย

3D MARK นั้น ทำคะแนนเรียกได้ว่าสูงมากกก รวมถึงการทดสอบทั้ง 3 แบบนะครับคะแนนทำได้ดีเลยแหละ ตัว TIMESPY ที่เน้นไปเจาะกลุ่มคอมพิวเตอร์ระดับท็อป เกมมิ่ง ทำคะแนนได้แตะ 4พันเลยทีเดียว และ ทดสอบอื่นๆที่รองลงมานั้น แตะ หมื่นต้นๆ และ Sky Driver พุ่งไปถึงเกือบ 3 หมื่น การประมวลผลในด้าน  3D Mark สบายๆ ส่วนในเรื่องความร้อน แอดมินทดสอบต่อเนื่อง 3 แบบและวัดความร้อนนั้นประมาณ CPU 70 และ GPU 64 ไม่มีแอร์ และ ไม่มีพัดลมเปิดช่วยครับผม ถือว่าจัดการได้ดีอยู่ และ พัดลมนั้นทำงานสูงสุดเลยครับระบายได้ค่อนข้างดี

ตัวนี้มี Intel UHD Graphics 630 มาให้ด้วยแต่เหมือนจะไม่ได้ใช้ตัวนั้นครับปิดใช้งานไปเลยและ ใช้เป็นสตัว NVIDIA GeForce GTX 1060 แทนทั้งหมดโดยจริงๆคือมันแรงมากกกก และการใช้งาน GPU ตัวนี้มันทำให้ความลื่นไหลที่ประมวลผลออกมาทำได้ดี และ ตอบสนองจอ 144HZ ได้แบบลื่นไหลดันเกมให้สูงๆได้แบบสมราคาเลย 

CINEBENCH R15 นั้น ที่เน้นในเรื่องของพลังชิปประมวลผล คะแนนก็อยู่ในระดับสูงมากกก แตะหลัก 1000 และ FPS 86.36 เลยทีเดียวแน่นอนว่าจากการทดสอบมันน่าประทับใจอย่างมาก ประมวลผลหนักๆได้แบบสบาย และยิ่งไปกว่านั้นคือ วัดความร้อนนั้นประมาณ CPU 63 และ GPU 56  ไม่มีแอร์ และ ไม่มีพัดลมเปิดช่วยครับผม ถือว่าดีกว่าที่คิดจริงๆเรื่องความร้อนครับ และใช้งานได้ไวกว่าเดิมไปอีกด้วย SSD 512GB แบบ M.2 NVMe  ที่บอกเลยว่าทำได้โคตรไว แบบเปิดแล้วมาเลย โยนไฟล์ไวๆ ทำงานเล่นเกมสบาย การอ่านที่ 3433MB/s และเขียนที่ 1863MB/s

SCREEN

ในรุ่นนี้นั้นมาพร้อมกับหน้าจอขอบบางทั้งขอบข้างและด้านบนอีกทั้งยังมีการใส่กล้องมาให้ในด้านบนด้วยนั้นเอง หน้าจอในรุ่นนี้มีขนาด 15.6 นิ้ว IPS Full HD 1920×1080 พิกเซล และเป็นจอแบบ พื้นผิวจอแบบด้าน Anti-Glare แต่ด้วยขอบบางของมันทำให้ตัวเครื่องมันนั้นมีขนาดแค่คอมพิวเตอร์ 14 นิ้วทั่วไปได้เลย และตัวคุณภาพจอนั้นต้องบอกว่าเป็นสายเกมแต่คุณภาพไม่ได้ด้อยเลย จอนั้นทำงานตัดต่อแต่งภาพและเล่นเกมได้สบาย และด้วยตัวจอนั้นมาพร้อมกับ 144Hz และ Response Time 3ms (G2G) บอกเลยว่าสาย FPS ภาพนั้นสมูทและลื่นไหลมากๆเวลาแพนกล้อง หันซ้ายขวาไวๆนั้นช่วยได้เยอะมากครับ ไม่เจออาการสะดุดและให้ประสบการณ์ดีกว่า 60Hz เยอะ !

หน้าจอด้วยความที่มันเป็นแบบ IPS ทำให้มันรองรับการทำงานแบบต้องการความแม่นยำได้อย่างดีครับ ความเพี้ยนของสี เวลาเอียงๆหรือใช้งานในมุมต่างๆแทบจะไม่แตกต่างเลยรวมถึงคุณภาพของตัวมิติสี แน่นอนว่าตัวสีอาจจะไม่ได้เทพมากเหมือนพวกสายตระกูลทำงานแต่ก็ถือว่าดีอันดับต้นๆของสายเกมเลยแหละทำงานได้แน่ๆ และความสว่างของจอภาพนั้นมาดีมากๆทำงานเล่นเกมถ้าเจอแสงกลางวันหรือแสงเยอะๆก็ยังมองเห็นจอได้ค่อนข้างชัดและสวยงามครับ

KEYBOARD

ตีวการวางตำแหน่งนั้นต้องบอกว่าค่อนข้างแปลกตาและแปลกกว่ารุ่นอื่นๆมากจากการย้ายมาลงไว้ด้านล่างสุดของตัวคอมพิวเตอร์นั้นเองที่ย้ายแบบนี้ไม่ได้แค่เท่หรือแปลกๆแต่อย่างเดียวแต่ยังมาพร้อมกับการออกแบบที่คิดไว้แล้วเพื่อที่จะช่วยระบายความร้อนให้ทางการ์ดจอ ระบบภายในให้มันเต็มที่มากที่สุดครับผมจะเห็นพวกช่องรูดูดลมระบายความร้อนแทรกอยู่ตามลวดลายไว้ค่อนข้างเยอะมาก แป้นพิมพ์นั้นมาพร้อมกับไฟ ASUS AURA RGB 4 โซนปรับแต่งได้เยอะและปรับแต่งตามเสียงเพลงได้ด้วย ผ่านทาง ROG Armory Crate และ แอบมีการเล่น ขอบใส WASD สาย FPS น่าจะชอบใจกันครับ ปุ่มทั้งหมดวางตำแหน่งได้ดี แต่ขาก Numpad จริงๆไปเป็นแบบสัมผัสรวมกับ Touchpad ในขวามือสุดนั้นเองครับอันนี้ก็เป็นเพราะเพื่อนที่จำกัดแต่ก็แก้ปัญหาได้ค่อนข้างดีครับ

หลังจากการใช้งานตัวปุ่มทั้งหมดต้องบอกว่าระยะห่างของแต่ละปุ่มนั้นไม่มีอะไรติดขัดหรือขัดใจอะไรเท่าไรนักมีแค่ปุ่ม F1-F4 ที่มีระยะห่างออกจาก F5 เลยไม่แน่ใจว่าจะเว้นไว้ในการใช้งานแบบไหนนะครับถ้ากดแบบไม่มองอาจจะปรับตัวกันนิดนึง ส่วนปุ่มอื่นๆไม่มีปัญหา และตัว Numpad ก็มีแบบสัมผัสมาให้ใช้งานแอบลำบากไปนิดถ้าต้องใช้ งานข้างนอกเวลาไม่พกเมาส์ไปนั้นเอง ส่วนระยะการกด น้ำหนักปุ่มคียบอร์ดนั้นทำได้ดีครับกดเล่นเกมสนุก พิมพ์รีวิวสบาย

TOUCHPAD+NUMPAD

ตัวนี้แหละเป็นจุดที่แปลกใหม่สำหรับใครหลายๆคนที่มาใช้รุ่นนี้ครั้งแรกอาจจะต้องปรับตัวกันครับแต่ถ้าใครใช้ Zephyrus มาก่อนก็อาจจะไม่ต้องปรับตัวอะไรมาก เป็นดีไซน์แยกออกมาครับ ปุ่มคลิกนั้นแยกซายขวาชัดเจนความนุ่ม ระยะการกดนั้นทำได้ดีอันนี้ชอบมากๆครับเพราะรุ่นหลังๆชอบทำให้มันแบนๆและกดไม่ดีเท่าไรในหลายๆตัว และอีก 1 ความสามารถมันคือมันเป็น Numpad ได้เลยจากการกดปุ่มข้างซ้ายของโลโก้ ROG ครับ ต้องบอกว่าเป็นแนวคิดที่ฉลาดที่ไม่ตัดมันออกไปและคนที่ใช้งานบ่อยๆก็ยังได้ประโยชน์ในการกดตัวเลขต่างๆครับ สัมผัสได้ไวแม่น แต่ถ้ามีสั่นตอบสนองหน่อยจะลงตัวเลยแหละคล้ายๆพวก Taptic Engine พวกนั้นถ้ารุ่นหน้าขอใส่มาด้วยจะครบเลย

ตัวขนาดเนื่องจากเครื่องเล็กลง ขนาดก็เล็กลงไปด้วยครับการใช้งานก็ค่อนข้างพอดีต่อ 3 นิ้วอย่างมากเวลาใช้งาน อาจจะรู้สึกอึดอัดไปหน่อยถ้าใครใช้ทำงานนอกบ้านและต้องใช้ Touchpad ตลอดครับ สัมผัสอะไรเรื่องนี้ทำได้ดีไม่มีปัญหานะ และปุ่มข้างบนนั้นๆจะเป็นปุ่มสลับ Numpad/Touchpad นะครับ และ โลโก้ ROG คือไว้เข้าโปรแกรม Armoury Create นั้นเองสำหรับการปรับแต่ง ทั้งหมดของเครื่องทั้งไฟ ความแรงพัดลมต่างๆครับ การใช้งานปรับตัวไม่ยากครับ แต่ถ้าใช้แรกๆบอกว่าว่ากดตัวเลขจะลั่นบ่อยมากถ้าเปิดไว้และทำงานไปชอบลั่นบ่อยเลยแหละ

SPEAKER

ลำโพงในรุ่นนี้มีการพัฒนามาให้ดีกว่าเดิมและการวางตำแหน่งแบบยิงตรงๆมาสู่ผู้ฟังทำให้เสียงนั้นชัดเจนและดังสะใจเลยครับ ขอบเขตเสียง สเตจนั้นกว้างมากพอสมควรเสียงแหลม เสียงคน เสียงยิงปืนชัดเจนมาก แต่เสียดายตรงที่เสียงเบส เสียงต่ำมันน้อยไปมากจริงๆนะอยากให้มันสะใจกว่านี้ แต่ถ้านับแค่ความดังต้องบอกว่ามันดังมากกก คุณภาพเสียงยังถือว่าดีแต่ไม่ได้สุดเพราะขาดเรื่องเสียงต่ำเบสที่ไม่สะใจเท่าไรในการเล่นเกม แต่ถ้าเทียบกับ Notebook อื่นๆบอกเลยว่าเสียงมันดีกว่าแน่นอนครับสำหรับสายเกมแยกซ้ายขวาชัดเจนมากๆในการเล่นเกมอันนี้ชัดมากๆในการใช้งานจริงๆ

CONNECTOR

มาดูกันที่ความบางงงงของมันบอกเลยว่าทำได้ไงบางมากจริงๆ และ ASUS ROG ZEPHYRUS S นั้นยังให้พอร์ตเชื่อมต่อที่ครบและเพียงพออย่างมากในการใช้งานจริงๆเลยครับด้านหน้านั้นจะเป็นส่วนเรียบๆไม่มีอะไรหรือไฟสถานะอะไรครับมีการเล่นสีของแดงสวยงามและดูความบางของมันบอกเลยว่าบางสมราคาคุยจริงๆนะ

ด้านขวานั้นพอร์ตเชื่อมต่อจะเป็น  USB 3.1 Type-C รองรับการชาร์จเข้า USB Power Delivery และ ช่อง USB 3.1 Type-A จะเห็นรูระบายอากาศสำหรับด้านข้างด้วยครับ

ในส่วนของด้านหลังนั้น จะมีเขียนชื่อรุ่น พร้อมกับ พอร์ต HDMI 1.4 และ ตัวล็อคเครื่องครับผม แอบเห็นรูระบายอากาศอีกแล้วทั้ง ซ้ายและขวาบอกเลยว่าจัดเต็มมากๆสำหรับพัดลมคู่

ด้านซ้ายนั้นเป็น รูระบายอากาศ พร้อมกับช่องชาร์จไฟเข้า รวมถึง Type-C 3.1 อีก 1 ช่อง พร้อมกับ USB 2.0 Type-A จำนวน 2 ช่อง Mic-in/Headphone-out และในส่วนของ มีเชื่อมต่อไร้สาย Bluetooth 5.0 และ Wi-Fi 802.11 ac มาให้ครบครับ แต่พอร์ทนั้นแอบเสียดายไม่มีรองรับ Thunderbolt 3 ที่หลายๆคนชอบหากัน

 Armoury Crate – ROG Game Center 

รอบนี้ใครที่ถามหา  ROG Game Center ต่อจากนี้ต้องเรียกว่า Armoury Crate แล้วนั้นเอซึ่งมีการปรับปรุงทั้งหน้าตา การใช้งานฟีเจอร์ทั้งหลายทำให้ดูดีเรียบๆและใช้งานง่ายมากขึ้นครับ เราสามารถปรับแต่งได้ทั้งหมดเลยไม่ว่าจะเป็นการปรับแต่งไฟ AURA Sync ที่ทั้งตัวคียบอร์ด การแสดงผลต่างๆหรือซิงค์กับตัวอื่นๆนั้นเอง และพวก Profile ก็มีให้ปรับได้ค่อนข้างเยอะครับ หรือจะเป็นการตั้งค่าแอพเกม ที่จะปรับตามแอพที่เราเลือกเปิดไว้ได้ก็เช่นเดียวกันครับ และตัวนี้นั้นยังมี Mobile Dashboard รองรับกับ Android และ iOS ที่สามารถดูจากมือถือเราได้เลยครับผม

เป็นฟีเจอร์ที่พัฒนาเรื่องหน้าตาและใช้งานได้ดีมาก รวมถึงสามารถโหลดแอพอื่นๆเพิ่มเติมได้ค่อนข้างเยอะมากครับและมี XSplit มาให้ด้วยในตัวเลยแหละและแอพอื่นๆเราสามารถโหลดได้ทั้งบอกทิศทางเสียงต่างๆการปรับแต่ง GPU CPU และตัวโปรแกรมก็สามารถปรับความแรงพัดลมได้ด้วย และบอกข้อมูลอุณหภูมิขณะใช้งานได้ด้วยครับ

GAMING PERFORMANCE 

สายเกมเราก็ต้องลองเล่นเกมซักหน่อยครับและแอดมินนั้นทำการทดสอบในสภาพอากาศที่ไม่ได้เปิดพัดลม ไม่ได้เปิดแอร์ ซึ่งทำให้ได้อุณหภูมิจริงๆในการใช้งานเลยแหละครับสภาพอากาศจริงๆซึ่งก็ได้ทำการทดสอบในหลายๆเกมทั้งกราฟฟิคที่ไม่ได้สวยงามมาก ยันไปเกมที่ค่อนข้างกินสเปคโหดๆเลยและทุกเกมที่ทดสอบนั้นแอดมินได้ทำการเปิดแบบสูงสุดที่เกมจะตั้งค่าได้นะครับและเปิด Monitor FPS /Temp ไว้ตลอดเลยเล่นต่อเนื่องยาวๆครับในแต่ละเกม จากกความรู้สึกกันก่อนเลยคือแป้นพิมพ์เล่นได้ง่ายและไม่ร้อนเนื่องจากที่วางมือนั้นวางบนโต๊ะด้วยการออกแบบตัวคียบอร์ดไว้ล่างสุดทำให้เราไม่โดนความร้อนจากตัวเครื่องเลยนั้นเองครับ และปุ่มก็ออกแบบมาได้ดีเล่นเกมไม่มีปัญหา

จากเกมทั้งหมดที่ลองนะครับ เช่น CS-GO  นั้นบอกเลยว่าลื่นสุดๆและ 123 FPS แต่เรื่องความร้อนนั้น GPU 74 CPU 90 โดยประมาณครับ ไม่ได้เปิดแอร์ ไม่มีพัดลมข้างนอกช่วย ถือว่าอยู่ในระดับที่รับได้ครับและดีมากๆเลย มาต่อกันที่เกมที่ กินทรัพยากรมากๆแบบ Monster Hunter แบบภาพเปิดสุดทุกอย่างครับ 44 FPS และ GPU 77 สว่น CPU แอบแตะ 97 อาจจะดูสูงแต่อย่าลืมว่าแอดมินไม่ได้เล่นห้องแอร์และไม่เปิดพัดลมนะครับ มาต่อกันที่ Callofduty BlackOps 4 ตัวล่าสุดที่แถมมากับคนที่ซื้อในช่วงนั้นด้วย ปรับภาพสุดเห้ยอันนี้ลื่นกว่าที่คิดครับ FPS 77 และ GPU 75 CPU 82 ครับผมโดยแต่ละเกมที่ทดสอบนั้นเล่นมานานมากสมควรนะครับ และทางด้านเกมยอดฮิต อย่าง Overwatch นั้น ทำไปได้ 98 และแตะ 100 ขึ้นได้หลายๆช่วงครับ อุณหภูมินั้น GPU 73 CPU 85 ครับผม  โดยรวมแล้วมีการจัดการอุณหภูมิดีมากนะจากที่ทดสอบ สภาพอากาศทั่วไป  เอาง่ายๆคือเทียบกับ ความบางเบาขนาดนี้ในรุ่นอื่นๆสเปคเดียวกันบอกเลยว่าตัวนี้ทำได้ดีมากๆและดีกว่าชัดเจนเลยนะ เสียงพัดลมก็ดังตามปกติครับผม แต่ก็ปรับได้ตามการใช้งานเลย แต่เน้นแรงดัง เพื่อรักษาความร้อนโดยรวมนั้นสมควรที่จะเปิดแรงๆไว้ก่อน

BATTERY 

ตัวแบตเตอรี่นั้นสามารถใช้งานได้ตามปกติพวกสายเกมคือ 2 ชั่วโมงนิดหน่อยครับอันนี้คือแอดมินเปิดไฟสุด ไฟทุกอย่างเปิดหมด เล่นเกมใช้งานแบบจริงจังเลยนะ จะได้ 2 ชั่วโมงโดยประมาณ และในภาพคือใช้งานไปซักพักครับ 78 เปอร์เซนต์ใช้งานได้อีก 1 ชั่วโมงครึ่งก็ถือว่าปกติ ทั่วไปครับไม่ได้ไหลอะไรมาก แต่ถ้าเน้นใช้งานประหยัดแบต เปิดแบบประหยัดแบต จอลดลงมา ปิดไฟคียบอร์ดอะไรให้หมด ใช้ทำงานพิมพ์งาน ไม่ได้เล่นเกมนั้นอาจจะได้เห็น 3-3.30 ชั่วโมงได้อยู่ครับ ก็ถือว่าดีกว่าที่คิดไว้นะ แต่การพกพาก็ง่ายเพราะมันเบาและใครกลัวลืมที่ชาร์จไม่ต้องห่วง เพราะมัน รองรับ USB Power Delivery ด้านขวาเท่านั้น จึงทำให้มันใช้สายที่เราชาร์จมือถือ เอามาเสียบชาร์จไฟเข้าตัว ROG ZEPHYRUS S  ได้สบายๆ !! เช่นชาร์จไฟเข้าจากทาง Powerbank ได้เลย และ ชาร์จไวเข้า มือถือได้อีกด้วยที่รองรับ PD นั้นเองพวก iPhone – HTC – Pixel และแบรนด์อื่นๆได้สบายเลยแหละ

ROG ZEPHYRUS S 

” ความเบาบาง กับความแรง มันไปด้วยกันได้แล้วในสมัยนี้ ! “

เป็นรุ่นที่ต้องบอกเลยว่า เบาแค่ 2.1 Kg และบางมากๆ 1.4 ซม.เองเท่านั้นพกพาง่ายสบายและความแรงระดับ GTX 1060 Intel I7 ถ้าเป็นยุคสมัยก่อนอาจจะบอกว่าไม่มีทางเป็นไปได้แน่ๆความแรง+เบาเข้าด้วยกันและระบบระบายความร้อนนั้นทำได้ดีกว่าที่คิดไว้มาก 2 พัดลมระบายได้เร็วและแรงเลยแหละ หน้าจอก็สวยงามลื่นไหลไปกับ 144Hz 3Ms ครับ รวมถึงลำโพงแบบยิงตรงเข้าสู่คนนั่ง สมราคา 64,990  ซึ่งวัสดุความทนทานและสวยงามก็ไปด้วยกันได้วัสดุ อลูมิเนียม + แม็กนีเซียมก็ทำได้ลงตัวแถมยังได้เกรดทหารอีกด้วยครับ ซึ่งมันลงตัวในหลายๆด้านเลยแหละ แต่ถ้ามีข้อที่แอดขัดใจจริงๆคือ ลำโพงที่แอดมินเน้นๆคือแอบขาดเบสไปพอสมควรไม่สะใจเท่าไร และ พอร์ตเชื่อมต่อแบบ USB 2.0 มันไม่ควรใส่มาแล้วนะและมาถึง 2 พอร์ตเลยและการวางแบบชิดกันไปหน่อยครับ รวมถึงขาด Thunderbolt 3 ที่คนชอบถามหากันแต่จริงๆถ้าเราไม่ใช้ eGPU ก็ไม่ค่อยมีผลเท่าไรนะครับในจุดนี้

ข้อดี

  • ตัวเครื่อง งานประกอบ วัสดุ คือที่สุด สวยงามและเบาแข็งแรง
  • ผ่านการทดสอบ Military Standard  MIL-STD-810G
  • สเปคจัดเต็มครบ  Core i7-8750H + GeForce GTX 1060 +16GB + SSD 512GB
  • ขอบหน้าจอบาง + หน้าจอลื่นๆ 144HZ 3ms IPS LCD
  • การยกตัวเครื่องเพื่อระบายความร้อน คือแนวคิดที่ดีมาก
  • ไฟ Aura Sync RGB บนคียบอร์ด และ ใต้เครื่องสวยงามปรับได้เยอะ
  • การออกแบบตัวเครื่องเล็กลงพกพาง่าย
  • ความร้อนจัดการได้ดีมากและพัดลมแรง+ดักฝุ่นได้
  • มี Windows 10 มาให้เลย
  • ประกัน 2 ปี เครมทาง 7-11 ได้เลย
  • ลำโพงยิงตรงเข้าคนนั่ง เสียงดังสะใจแยกซ้ายขวาชัด

ข้อสังเกต

  • ยังไม่มีพอร์ต Thuderbolt 3
  • ลำโพงแอบขาดเสียงเบสไปนิดหน่อย
  • Touchpad /Numpad อาจจะต้องปรับตัวกันพอสมควร
  • พอร์ต USB A 2.0 ไม่น่าใส่มาให้แล้วนะ

สำหรับรีวิวนี้ผมก็ต้องขอตัวลาไปก่อนสำหรับรีวิวรุ่นต่อไปนั้นจะเป็นรุ่นอะไรอย่าลืมติดตามกันนะครับ ถูกใจฝากกดไลค์กดแชร์ด้วยนะครับ  มีข้อผิดพลาดประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ  เพื่อนๆสนใจอยากให้พวกผมรีวิวรุ่นไหนสามารถ Inbox มาบอกเราได้เลยนะ
ฝากไลค์เพจ FACEBOOK เราด้วยนะครับ >>>>>>>>>  TECHHANGOUT

เข้าร่วมกลุ่ม TECHHANGOUT พูดคุยแลกเปลี่ยน ข้อมูล คุยกันเองชิลๆได้เลยที่ — Facebook  Techhangout พูดคุย Smartphone gadget 

Review By Nineztr

Comments กันได้เลย !

Comments

0 Shares