ROG เปิดตัวหูฟังสายเกมมิ่งแบบไร้สายมาอีก 1 รุ่นครั้งนี้มาพร้อมกับการรองรับที่หลากหลายมากๆแน่นอนว่ามันไม่ได้ใช้ Bluetooth แต่จะใช้งานตัว Adaptor  ที่รองรับกับ USB-C นั้นเองการเชื่อมแบบนี้แน่นอนว่ามันดีกว่าในแง่ของความเสถียรและแม่นยำครับ ส่วนทางด้านหูฟังถือว่าออกมามีจุดเด่นๆที่น่าสนใจเยอะทั้งเรื่องของการใช้งาน ดีไซน์ และการรองรับเสียงคุณภาพสูงแบบ Hi-res Audio เลยทีเดียวอีกทั้งยังเด่นเรื่องของ AI ในการตัดเสียงรบกวนเวลาเล่นเกม ทั้งเสียงลม เสียงคียบอร์ดและรวมถึงเสียงอื่นๆที่ไม่ใช่เสียงเราโดยที่ยังคงคุณภาพเสียงได้ดี ส่วนเรื่อของน้ำหนักก็ถือว่ากลางๆกำลังดีครับ มาพร้อมกับงานออกแบบที่เรียบๆไม่ได้หวือหวามากนัดสวมใส่ได้สบายๆ

ROG STRIX GO 2.4 เปิดตัวมาด้วยจุดเด่นหลายๆอย่างทั้งเรื่องของดีไซน์ สเปค รวมถึงการรองรับ ทั้งหลากหลายโปรแกรม Discord ต่างๆที่เป็นที่รู้จักกันดีรวมถึงการรองรับระบบเสียง Hi-res Audio ด้วย การเชื่อมต่อรองรับ Low-latency 2.4 GHz wireless เชื่อมต่อผ่านพอร์ต USB-C adapter ที่รองรับอุปกรณ์ที่หลากหลายไม่ว่าจะเป็น Nintendo Switch ในโหมด handheld, PC, Mac,PS4 รวมไปถึง Xbox One ผ่านพอร์ต 3.5 mm ได้อีกด้วย ตัวหูฟัง ออกแบบมาให้มีขนาดที่เล็ก น้ำหนักเบา สำหรับระบบ AI noise-cancelling microphone ระบบตัดเสียงรบกวนภายนอก เวลาคุยเล่นเกมได้ดี  ยังมาพร้อมกับ Fast charging ที่ใช้เวลาเพียง 15 นาทีก็สามารถใช้งานได้ยาวนานถึง 3 ชัวโมงและใช้งานต่อเนื่องสูงสุดถึง 25 ชัวโมงต่อการชาร์จเต็ม 1 ครั้ง รวมถึงตัว ไดร์เวอร์ขนาด 40 mm ASUS Essence drivers ส่งมอบรายละเอียดเสียงที่ดีเยี่ยมและเบสที่หนักแน่น ทางด้านราคานั้น ในรุ่นนี้มาพร้อมกับราคา 4,990 บาทครับถือว่าโอเคเมื่อเทียบกับ สเปคและการรองรับของมัน 

UNBOX

สำหรับตัวกล่องนั้นจะเห็นว่ามีของมาให้เยอะแยะเอาเรื่องเลยทั้งตัวสายชาร์จ สาย 3.5 ค่อนข้างครบพร้อมใช้งานแถมยังมีกล่องและตัวแปลงมาให้เรียบร้อยครับสำหรับทาง ROG STRIX GO รุ่นนี้ไม่ต้องไปซื้ออะไรเพิ่มเติมเลย

  • ตัวหูฟัง ROG STRIX GO 2.4
  • กล่องใส่หูฟัง ROG
  • สาย USB-A ไป USB-C
  • Adaptor Wireless 2.4 USB-C
  • Adaptor แปลงหัว USB-A ไป USB-C
  • สายเสียงสำหรับเสียบ 3.5มม.
  • ตัวไมค์สำหรับตัดในหูฟัง สามารถถอดออกได้ เป็นพอร์ตแยกกับรู 3.5
  • คู่มือ

ตัวสาย และ พวก Adaptor นั้นถือว่างานดีเป็นสายถักอะไรดูแข็งแรงรวมถึงตัว Adaptor ก็ดูดีสวยครับผมแน่นอนว่ามีการคิดอะไรมาให้เรียบร้อยมีตัวแปลงครบ และในกล่องมีที่ใส่สายมาให้ช่องอะไรอย่างดีเลย รวมถึงการพกพาพับเก็บทำได้ง่ายและคล้ายกับหูฟังทั่วไปทำให้พกพาได้ง่ายและบางมากขึ้น กล่องบุนุ่มและเป็น Hard case แข็งแรง

DESIGN

งานออกแบบในรุ่นนี้ต้องบอกว่าน่าสนใจเพราะมันแตกต่างกับ ROG รุ่นอื่นๆทั้งในเรื่องของวัสดุงานออกแบบทั้งหมดมันเหมือนจะเป็นหูฟังที่ออกไปในทาง Lifestyle มากขึ้นเยอะครับดีไซน์ดูเรียบๆและการใช้งานวัสดุที่ค่อนข้าพรีเมี่ยมากขึ้นใส่สบายมากขึ้น ไม่ได้มีลวดลายออกแบบอะไรเยอะมากเน้นความเรียบและผิวด้านๆเข้ามาแทน รวมถึงมีกล่องพกพาและมีขนาดในการพับอะไรได้ง่ายขึ้นครับถือว่าตอบโจทย์มากกว่าเดิมในเรื่องของการใช้งานทั่วไปได้

ในส่วนของหูฟังรูปทรงมันเป็นแบบ Overear ปกติครับสามารถครอบใบหูทั้งหมดได้และไม่ได้มีขนาดใหญ่เกินไปดีไซน์ในด้านนอกนั้นจะเป็นวัสดุผิวด้านยางหนืดนิดหน่อย พร้อมโลโก้ ROG และ ฟอนต์เขียนแบบเนียนๆพิมพ์แบบ 3 มิติลึกลงไปมีการเล่นฟองน้ำบุนุ่มอะไรดูหนาในส่วนของแกนด้านบนและมีเล่นโครเมี่ยมตัดทำให้มีความหรูนิดๆ ส่วนของฟองน้ำด้านในหนานุ่มอย่างมากพร้อมกับมีโลโก้ ROG ในส่วนของข้างใน Earpad ด้วยครับ ตัว Earpad รองรับอิสระในการใช้งาน หมุนอะไรได้หลากหลายและสามารถรองรับการใช้งานได้หลากหลายทรงของศรีษะได้ดี

ตัวฟองน้ำตรงในส่วนของ EarPad นั้นมีความหนาลึกกำลังดีครับ ตัวหนังนั้นเป็นหนังเทียมแต่เก็บงานอะไรได้ดีมีความนุ่มไม่อึดอัดเลยแม้แต่น้อย ส่วนในเรื่องของระยะรูปทรงครอบใบหูได้ทั้งหมด ไม่ได้บีบหรือกดใบหูครับ ความลึกนั้นก็ทำได้ดีคือไม่โดนใบหูแม้จะครอบไปทั้งหมดในเรื่องนี้ถือว่ารับได้สบาย ส่วนฟองน้ำข้างบนมีความหนานุ่มเช่นกัน แต่การใช้วัสดุแบบนี้อาจจะไม่ค่อยทนสักเท่าไรถ้าหากเป็นคนผมสั้น(สกินเฮด)เพราะผมที่สั้นอาจจะไปทำให้หนังเสียได้ง่ายครับ คงต้องระวังกันนิดหน่อย

แบรนด์นี้ถือว่าเป็นแบรนด์ที่ใส่ใจในเรื่องของความละเอียดในหลายๆอย่างได้ดี คือในหลายๆจุดดูใส่ใจในการออกแบบครับ ส่วนด้านก้านข้างบนมีการพิมพ์โลโก้มาอย่างดีสวยงามเขียนชื่อเต็มของทางแบรนด์ ส่วนในข้อพับต่างๆนั้นถือว่าทำได้แข็งแรงมีบอกเขียนซ้ายขวา และมีโลโก้ ASUS ซ่อนเนียนๆในส่วนนี้ ส่วนวัสดุนั้นเป็นพลาสติกด้านเป็นหลักจะออกสีเทาด้านๆนะครับไม่ได้ดำสนิท ส่วนงานประกอบความแข็งแรงอะไรนั้นถือว่าใช้งานได้ดีเท่าที่ลอง

ทางด้านพอร์ตเชื่อมต่อนั้นต้องบอกว่าให้มาครบในด้านขวานั้นจะเป็น USB-C ในการชาร์จไฟเข้า พร้อมไฟสถานะ แต่น่าเสียดายว่าพอร์ตนี้มันไม่สามารถรับส่งเสียงได้ ตอนแรกคิดว่าจะเสียบและชาร์จไฟทำงานไปได้ด้วยครับแต่ไม่ได้นะ ส่วนในเรื่องของการชาร์จรองรับชาร์จไวด้วย ในอีกฝั่งนั้นจะเป็นรู 3.5 มม. และ ไฟสถานะ รวมถึงสวิทช์สลับ ไร้สาย กับ แบบสาย และ สวิทช์สำหรับกดเล่นเพลง หยุดเพลง รวมถึงการปรับเสียงขึ้นลง และกด Mute ได้โดยการกดลงไปครับ ส่วนรูไมค์นั้นจะมีแยกไปต่างหากสำหรับเสียบไมค์ที่ให้มาครับรองรับการตัดเสียงไปได้ในตัวเลย

ในภาพคือตัวไมค์ที่แถมมาให้เป็นก้านสีดำมีความยาวพอประมาณไม่สามารถยืดหดอะไรได้ครับ และไม่สามารถพับเก็บได้ต้องถอดออกมาเท่านั้นเลย และตัวไมค์นั้นจะเป็นแจ็ค 3.5 ที่มีหัวทรงเฉพาะของมันครับวัสดุอะไรงอได้ปกติ

SPEC

  • การเชื่อมต่อ USB (wireless 2.4GHz) และ 3.5 mm(1/8”) connector Audio/mic combo
  • แพลตฟอร์ม / PC / MAC / Mobile device / PlayStation® 4 / Nintendo Switch
  • หูฟัง ไดร์เวอร์ Driver diameter : 40 mm Driver material : Neodymium magnet
  • ความต้านทาน 32 Ohm
  • Frequency Response (headphones) 3.5mm: 10 ~ 40000 Hz Wireless: 20 ~ 20000 Hz
  • Noise Cancellation AI Noise Cancellation
  • ไวร์เลส เทคโนโลยี RF 2.4GHz
  • ระยะเวลาที่ใช้งาน Listen time (per charge) : Up to 25 Hours
  • ชนิดของแบตเตอรี่ Lithium Polymer
  • Microphone Pick-up Pattern Microphone boom: Bi-directional
  • Hidden Microphone: Omni-directional
  • Microphone boom: 100 ~ 8000 Hz
  • Hidden Microphone: 100 ~ 8000 Hz
  • Sensitivity Microphone boom: Sensitivity : -54 dB
  • สาย USB-C charging cable: 1m; และ 3.5 mm audio cable: 1.2 m
  • น้ำหนัก 290 g
  • อุปกรณ์เสริม
    Carrying case
    Charging cable
    Detachable microphone
    Quick start guide
    3.5mm cable
    USB-C to USB 2.0 (Type-A) adapter

SOUND

ในเรื่องของเสียงตัวนี้อย่างที่แจ้งไปคือรองรับได้ค่อนข้างอิสระครับทั้งเรื่องของการใช้ไร้สาย และแบบมีสาย รองรับกับทั้ง โทรศัพท์มือถือ USB-C และรวมไปถึงคอมพิวเตอร์ที่มีพอร์ต USB-C และ ใช้งานกับ Nintendo Switch ได้ด้วยนั้นเองครับแน่นอนว่าค่อนข้างอิสระมากๆ และยังรองรับการใช้งานแบบสายได้ผ่านรู 3.5 มม. นั้นเองถือว่าเป็นรุ่นที่ออกแบบมารองรับได้เยอะมากแม้จะไม่ได้ใช้งาน Bluetooth ก็ตามแต่ที่ให้มาก็รองรับได้มากเพียงพอแล้วในเรื่องของเสียงหูฟังตัวนี้ทำออกมาตอบโจทย์ในเรื่องของการฟังเพลงเสียงดีๆได้ และ ยังรองรับการเล่นเกมได้ดีเช่นกันทั้งเรื่องของมิติเสียง ความไวในการตอบสนองทั้งเรื่องของไมค์และเสียงในการเล่นเกมที่ไม่มีหน่วงเลยด้วยครับ

เสียงในเรื่องของการใช้งานแบบไร้สายนั้นจะไม่รองรับเสียงแบบ Hires Audio นะครับจะต้องใช้งานแบบสายเท่านั้นเราเลยมารีวิวเสียงในส่วนของการใช้งานแบบไร้สายกันก่อนเพราะน่าจะอิสระและมีโอกาสใช้งานกันมากที่สุดครับ ในเรื่องของเสียงแบบไร้สายนั้นก็ไม่ได้ครอปจากสายอะไรเยอะเมื่อเทียบกับหูฟังไร้สายด้วยกันถือว่าตัวนี้เรื่องของเสียงนั้นทำได้ดี รวมถึงอายุแบตที่ใช้งานได้ยาวนานครับ จากที่ได้ทดสอบมาเรื่องของการฟังเพลงกันก่อนเลย เรื่องของเสียง ระยะเสียงนั้นถือว่าไกลกว่าหูฟังไร้สายตัวอื่นๆ เพราะแอดมินทดสอบโดยเดินลงมาชั้นล่าง ถือว่าเสียงมันยังตามมาเลย ถ้าเป็นค่ายอื่น บอกเลยว่าเริ่มขาดตั้งแต่บันไดแล้วแต่รุ่นนี้รองรับได้ดีมากและไกลสุดๆ 20 เมตร จากทาง ด้านสเปคครับ ส่วนเรื่องของเสียงนั้นเสียงเพลงเท่าที่ฟังจะเด่นๆในเรื่องของเสียงย่านต่ำเป็นหลัก ไดรเวอร์ Asus Essence ขนาด 40 มิลลิเมตร พร้อมกับดีไซน์ airtight chamber เสียงนั้นจะไปทางนุ่มๆ เบสมาดีสนุก กระแทกแบบกำลังดีครับไม่ได้บวมหรือกลบย่านอื่น และยังรักษาเสียงใสได้ดี ส่วนรายละเอียดชิ้นดนตรีนั้นยังกลางๆครับ เวทีเสียงมาดีกว่าที่คิดแม้จะเป็นแบบไร้สายถือว่าเสียงในภาพรวมนั้น ฟังสนุก เสียงรายละเอียดใส่ชัดเจน และเบสมาแบบกำลังดี แต่ถ้าใช้เล่นเกมแล้วข้อดีของความใสคือเราจะได้ยินเสียงเพื่อนชัดเจนครับ และ เสียงระเบิดยิงปืนจะสนุกมากๆ อันนี้คือทำได้ดี ส่วนตัวไมค์นั้นตัดเสียงได้ทั้งหมด ทั้งเรื่องของเสียงลม เสียงแอร์ เสียงกดแป้นพิมพ์ ทำให้ได้ยินแต่เสียงคนเล่นเกมจริงๆแต่ด้วยการตัดเสียงอาจจะทำให้มีเสียงเพี้ยนไปจากปกติแบบนิดเดียวครับ  แต่ที่ชอบคือเสียงเวลาเล่นเกม นั้นแยกซ้ายขวาหน้าหลังได้ชัดเจนดีครับ ได้ยินเสียงเดินมาดีมากๆและเสียงรอบทิศทางตอบสนองได้ดี

มาที่เสียงแบบสายกันบ้าง ในการเสียบสายเราจะได้ใช้งานเสียงแบบเต็มที่ ที่สุดของมันเพราะสามารถ Output ได้เต็มที่และรองรับเสียง Hi-res ครับเพราะในรุ่นนี้จะรองรับแค่ตอนเสียบสายเท่านั้น ทั้งนี้เสียงที่ฟัง รวมถึงตัวเครื่องเล่นก็ต้องรองรับถึงจะได้ทดสอบจริงจังเต็มที่ครับแน่นอนว่าทางผมมีพวกนี้จึงขอทดสอบในการฟังเพลงเป็นหลักนะครับ ในเรื่องของเสียงลองไฟล์ MQA และเน้นเรื่องเสียงที่มีรายละเอียด เวทีเสียงกว้างๆ แน่นอนว่าที่เจอเลยคือ เสียงมันใสเคลียร์มากกว่าเดิมไปอีกขั้นครับ เสียงคนร้อง ชิ้นดนตรีชัดเป๊ะ และไม่ได้แหลมจัดคือยังมีความนุ่มนวลอยู่ ส่วนเวทีเสียงนั้นต้องบอกว่าดีขึ้นกว่าแบบไร้สายชัดเจนครับ แนวเสียงยังคงเอกลักษณ์คล้ายเดิม เบสมากำลังดี ไม่กลบย่านอื่นๆเสียงใส ฟังสนุก แต่แบบสายเราจะได้ เวทีเสียงดีขึ้นเยอะ เสียงใสชัดกว่าเดิม และเบสยังคงสนุก มากำลังดี ส่วนถ้าเอาไปเล่นเกมนั้นไม่ได้แตกต่างกับแบบไร้สายมากนักครับ แต่จะเจอข้อเสียเพราะระบบตัดเสียงไม่ทำงานในด้านของไมค์ถ้าเราใช้งานแบบสายนั้นเอง ก็เล่นเกมไปแบบไร้สาย เน้นฟังเพลงเทพๆมาแบบใช้สาย แยกกันชัดเจน

FEELING 

ในแง่ของการใช้งานนั้นรูปทรงและน้ำหนัก นั้นในภาพรวมถือว่าทำออกมาได้ดีครับส่วนตัวไม่เจอปัญหาหรือความอึดอัดในการใส่หูฟังตัวนี้แน่นอนว่าขนาดและน้ำหนักกำลังดีแต่ก็ต้องเข้าใจกันว่าสำหรับหูฟังไร้สายนั้นจะมีข้อจำกัดที่น้ำหนักนั้นจะต้องมีแบตในตัวเลยทำให้หนักกว่าหูฟังสายทั่วไปแต่ก็ไม่ได้หนักจนปวดคอสำหรับรุ่นนี้ใช้งานได้ค่อนข้างโอเคใส่ได้นานพอสมควรครับสำหรับการเล่นเกมในห้อง และสภาพอากาศแบบเปิดแอร์ก็ไม่ร้อนหรืออึดอัดแม้ใส่นานๆ

ส่วนการควบคุมแบบไร้สายนั้นจะสามารถเพิ่มเสียงและยังรองรับการกด Mute เสียงได้เมื่อกดปุ่มมันจะมีเสียงบอกว่า Microphone off / On ครับเพราะว่ารุ่นนี้จะไม่ได้มีไฟสถานะเลยใส่เสียงในจุดนี้มาให้นั้นเอง ส่วนตัวไมค์นั้นรองรับได้กำลังดีแต่น่าเสียดายว่าตัวไมค์นั้นไม่สามารถพับเก็บหรือยืดหดอะไรได้ ถ้าจะถอดก็ถือถอดแจ็คออกมาเลยครับ ก็เป็นจุดที่ยังแปลกๆอยู่ ส่วนตัวไมค์นั้นเสียงทำได้ดีโอเคและตำแหน่งใช้งานได้ดีครับตามภาพเลย ในภาพรวมนั้นการใส่หูฟังไม่เจอปัญหา บีบหรือกดหัวแม้จะใส่นานๆครับและตัวฟองน้ำถ้าห้องแอร์ถือว่าสบายไม่ร้อน แต่ถ้าเดินทางข้างนอกในสภาพอากาศประเทศไทยจะอบร้อนได้ง่ายครับ ด้วยทรงและการเก็บครบใบหูทั้งหมดแต่โดยรวมถือว่าใช้ได้

MIC

ในเรื่องของไมค์นั้นทดสอบโดยการเล่นเกม ในไลฟ์นี้ครับผมจะเป็นเสียงแอดมินณาย ไม่ใช่แอดมินแม็กแน่นอนว่าเสียงในการทดสอบนั้นจะเปิดเสียงปกติ มีพัดลมจ่อ และรวมถึงมีเสียงจากแป้นพิมพ์ พัดลมคอมพิวเตอร์แทรกเข้ามาเยอะมากถ้าใช้หูฟังปกติ แต่ตัวนี้บอกเลยว่าตัดเสียงได้เงียบจัด และ เสียงคนพูดที่บ้านรอบๆเราก็จะไม่ได้ยินเลยครับ ด้วยเทคโนโลยี AI ของมันทำให้จับเสียงที่ไม่ใช่เสียงของเราเอาออกไปให้หมด เหลือแค่เสียงคนพูดเลยทำให้เสียงนั้นอาจจะติดโทนแหลมมากขึ้นนิดหน่อยแต่แลกกับเสียงที่เงียบกว่าเดิมแบบชัดเจนก็ถือว่าดีกว่าเดิมเยอะมากๆครับ

ROG STRIX GO 2.4

” ROG ทำหูฟังออกมาโจทย์ได้ครอบคลุมที่สุด เล่นเกม ฟังเพลง Hi-res ตัวเดียวจบ “

เรียกได้ว่าตัวเดียวจบของจริงครับในรุ่นนี้มันทำออกมาได้ดีอย่างมากตอบโจทย์ครบ ครบในที่นี้คือในการรองรับทั้ง มือถือ คอมพิวเตอร์ Nintendo Switch หรือแม้แต่คอมพิวเตอร์ และครบในเรื่องของการฟังเพลง Hi-res และ แบบไร้สายในการเล่นเกม ครบในแง่ของการคุยเล่นเกมแบบตัดเสียงได้คือตัวเดียวจบไม่ต้องพกพาเยอะ และรูปทรงดีไซน์การพกพามันทำให้เราสามารถใส่ไปข้างนอกได้ดีแบบไม่เขิน ไม่ใหญ่เกินไปครับ เอาไปฟังเพลงนอกบ้านได้ชิลๆครับ และ กลับมาบ้านเอามาใส่เล่นเกมได้ต่อไมค์ใช้งานได้เลย อยู่ข้างนอกก็ถอดไมค์ฟังเพลง อันนี้ต้องยอมรับว่าเป็นหูฟังที่ชอบมากๆตัวนึงและตัวเดียวจบของจริงครับ จะมีแค่ไม่รองรับ Bluetooth อาจจะยากนิดนึงครับในการใช้งาน และ ตัวไมค์ต้องถอดมาเสียบไม่ได้มีพับซ่อนในตัวเลยแอบลำบากนิดนึงครับในรุ่นนี้ แต่ส่วนอื่นๆนั้นถือว่าผ่าน

ข้อดี

  • ระบบเสียงดีมากๆดีกว่าหูฟังเกมมิ่งทั่วไปเยอะมากเลย
  • รองรับเสียง Hi-res ได้ดีในแง่ของการฟังเพลงคุณภาพสูง
  • เวทีเสียง มิติเสียง ฟังสนุก ฟังง่าย เล่นเกมก็รองรับได้ดี เสียงใส ชัด
  • วัสดุงานออกแบบ ใช้งานทั่วไปได้ดี ไม่เกมมิ่งมากเกินไป
  • ตัวไมค์ตัดเสียงได้เทพอย่างมาก ถือว่าดีมากในจุดนี้
  • วัสดุตัวหนัง EarPad ทำได้นุ่มใส่สบาย
  • รองรับการใช้งานได้อิสระอย่างมากทั้ง คอม มือถือ nintendo และอีกมากมาย

ข้อสังเกต

  • ไม่มี Bluetooth ในการใช้งาน
  • ควบคุมเสียงเพลงตัวปุ่มยังไม่แน่นเท่าไร
  • ใส่นานๆถ้าสภาพอากาศปกติจะระบายได้ยากหน่อย

สำหรับรีวิวนี้ผมก็ต้องขอตัวลาไปก่อนสำหรับรุ่นอื่นๆก็ติดตามกันได้เลย ถูกใจฝากกดไลค์กดแชร์ด้วยนะครับ  มีข้อผิดพลาดประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ  เพื่อนๆสนใจอยากให้พวกผมรีวิวรุ่นไหนสามารถ Inbox มาบอกเราได้เลยนะ
ฝากไลค์เพจ FACEBOOK เราด้วยนะครับ >>>>>>>>>  TECHHANGOUT

เข้าร่วมกลุ่ม TECHHANGOUT พูดคุยแลกเปลี่ยน ข้อมูล คุยกันเองชิลๆได้เลยที่ — Facebook  Techhangout พูดคุย Smartphone gadget 

Review By Nineztr

Comments กันได้เลย !

Comments

0 Shares