realme ประเทศไทยได้เปิดตัว realme x50 5G รุ่นล่าสุดซึ่งต้องบอกว่าเป็นรุ่นที่ทำออกมาน่าสนใจอย่างมากเพราะด้วยราคาไม่แพง แต่ได้ใช้งาน 5G ซึ่งในตลาดไทยนั้นในงบนี้ไม่ค่อยจะมีการรองรับ 5G เท่าไรนักทำให้รุ่นนี้นั้นถือว่ามีกระแสดีมากๆครับ ทั้งเรื่องของสเปก การรองรับต่างๆนั้นถือว่าคุ้มค่าพอสมควร มาพร้อมกับหน้าจอ 120Hz ที่มีความลื่นไหลพอสมควรพร้อมกับกล้องหลัง 4 ตัว 48MP และ กล้องหน้า 2 ตัวพร้อมเลนส์จับระยะ ส่วนทางด้านแบตนั้นรองรับการใช้งาน 4,020 mAh และรองรับ 30W DART ด้วยเช่นกันในภาพรวมทำให้มันสเปกนั้นค่อนข้างดีเพียงพอต่อการใช้งานสบายครับ และ การที่ทำราคาออกมาได้ดีนั้นทำให้เป็นการเรียกความคุ้มค่าออกมาอีกครั้งสำหรับแบรนด์นี้ ที่หลังๆอาจจะมีเสียงบ่นกันว่าราคาสูงขึ้น แต่รุ่นนี้ต้องบอกกันตรงๆว่าทำออกมาได้น่าสนใจ  และกระแสในไทยนั้นยอดจองในวันแรกนั้นถือว่าเยอะเลยทีเดียวครับ​ และในส่วนของการใช้งานจริงนั้นจะเป็นอย่างไรมาชมรีวิวกัน

realme X50 5G มาพร้อมกับการใช้งาน Snapdragon 765 5G พร้อมกับ GPU Adreno 620 และมาพร้อมกับ RAM 8GB LPDDR4X พร้อมกับ พื้นที่เก็บข้อมูล 128GB UFS 2.1 ครับ ทางด้านหน้าจอนั้นมาพร้อมกับหน้าจอ Ultra Smooth 120Hz แบบ IPS LCD ความละเอียด FHD+ 2400×1080 ในขนาด 6.57 นิ้วอัตราส่วน 20:9 และ สัดส่วนที่ 90.4% ปรับความสว่างได้สูงสุด 480nits พร้อม Corning Gorilla Glass 5 และมีรีเฟรช เรทที่ 120Hz ครับถือว่าหน้าจอก็จัดเต็มเช่นกัน ทางด้านวัสดุฝาหลังก็เป็นกระจกด้วยครับแบบเดียวกับหน้าจอเลย ส่วนในเรื่องของ กล้องหลังนั้นใช้งาน กล้องหลัง 4 ตัว ตัวหลัก 48 MP รูรับแสงขนาด f/1.8, เลนส์ 6P + Ultra-Wide 8MP รูรับแสงขนาด f/2.3, เลนส์ 5P, มุมมองกว้าง 119 องศา + จับระยะ ความละเอียด 2 MP รูรับแสงขนาด f/2.4 + เลนส์มาโคร 2 MP โฟกัส 4ซม., รูรับแสงขนาด f/2.4, เลนส์ 3P และ ใช้กล้องหน้า ความละเอียด 16 MP เซ็นเซอร์ Sony IMX471 รูรับแสง f/2.0 + เลนส์จับระยะ ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4 ส่วนทางด้าน แบตนั้นมาพร้อมกับ แบตเตอรี่ 4,200 mAh DART 30W ชาร์จไว รวมถึงทางด้านระบบเสียง Hires-Audio และรองรับ Dolby Atmos แต่ลำโพงนั้นเป็นลำโพงเดี่ยวนะครับ แอบเสียดายนิดในส่วนนี้​แต่ถ้ามองเทียบราคาถือว่าทำได้ดีเลยแหละ

สำหรับในไทยนั้น​ realme X50 5G มาพร้อมกับ สี Jungle Green และ Ice Silver พร้อมกับ
ราคา 12,990 บาทครับ​ถือว่าราคาดีทีเดียวครับ​

UNBOX

ตัวกล่องนั้นยังคงมีการออกแบบสีเหลืองเช่นเดิม พร้อมกับตัวเลขทางด้านบนแน่นอนว่ามีเลขพร้อมบอกรุ่น แต่จะไม่ได้มีรูปตัวเครื่องอะไรมาครับ ส่วนทางด้านอุปกรณ์ในกล่องนั้นยังไม่ได้มีอะไรเพิ่ม

  • ตัวเครื่อง realme X50 5G
  • เคสใส TPU
  • คู่มือ ที่จิ้มซิม
  • ที่ชาร์จ 30W
  • สายชาร์จ USB-A ไป USB-C
  • ฟิล์มกันรอยติดมาให้แล้ว

มาที่ตัวเคสถือว่า มีความหนาเหมือนกับรุ่นก่อนหน้า แต่ครั้งนี้เหมือนจะทำวัสดุออกมาได้ดีกว่าเดิมนิดนึง ตัวเคสเป็นสีเทาๆเข้มๆเล็กน้อยใส่แล้วฝาหลังสะท้อนน้อยลงไปแบบชัดเจน แต่ชอบที่มันปกป้องเครื่องได้ดีมากๆทั้งด้านหน้าและด้านหลังครับ ตัวขอบกินเข้ามาบนหน้าจอ และมีความหนาสูงกว่าหน้าจอทำให้วางคว่ำได้สบาย ส่วนฝาหลังนั้นก็คลุมได้หมดครับรวมถึงตัวเลนส์กล้องนั้นก็ทำออกมาปิดได้ดีมีความหนาขึ้นมาปกป้องได้เวลาวางต่างๆใช้งานทั่วไป ตัวเคสนั้นมีความนูนขึ้นมาปกป้องตัวเลนส์ และหน้าจอขึ้นมาอีกครับ และ ทั้ง 4 มุมนั้นในด้านหน้าจะทำความสูงพิเศษขึ้นมาเพื่อที่จะปกป้องหน้าจอให้ดีขึ้นไปอีกเวลาตกหรือวางคว่ำครับ

DESIGN

งานออกแบบนั้นต้องบอกว่าทางค่ายนี้ยังคงไม่คิดจะเปลี่ยนงานออกแบบการวางกล้องดีไซน์ด้านหลังเท่าไรนัก ก็ยังคงขอบ่นในจุดนี้ไปอีกทีเพราะว่าดีไซน์นี้ลากมาตั้งแต่รุ่นแรกๆจนมาถึงตอนนี้ครับแต่เพียงเปลี่ยนการเล่นลวดลายฝาหลังเท่านั้น ส่วนทางด้านวัสดุในรุ่นนี้มาพร้อมกับพลาสติกทั้งหมดครับ แต่งานประกอบ ความหนาแน่นอะไรทำได้ดีเลยทีเดียว น้ำหนักอะไรกำลังดี และ ใช้งานได้ดีครับถือจับถนัดแต่มีความใหญ่พอสมควร หน้าจอเต็มตาใช้งานได้ดี แต่ฝาหลังนั้นใช้งานกระจกสวยงามพอสมควร ไม่ใช่พลาสติกแบบรุ่นอื่นๆอันนี้ถือว่าโอเคในการเล่นแสงต่างๆ

ทางด้านหน้าจอในรุ่นนี้มาพร้อมกับหน้าจอที่เด่นๆเลย มาพร้อมกับ 120Hz และยังเป็นการออกแบบแบบหน้าจอเจาะรู ขอบข้างๆบางพอสมควร และขอบล่างแอบหน้า พร้อมสแกนนิ้วด้านข้าง  สเปกหน้าจอ IPS LCD 6.57 นิ้ว 120Hz ความละเอียด 2400×1080 พิกเซล มีสัดส่วนต่อหน้าจอ 90.5 % และใช้งานกระจก Gorilla Glass 5

หน้าจอเจาะรูมาพร้อมกับกล้องหน้าคู่ 2 ตัวที่มาพร้อมกับเลนส์จับระยะ แบบเดียวกับรุ่นอื่นๆ ครับ เรื่องขนาดอะไรเหมือนกับจะคล้ายกันเลย ส่วนพวกลำโพงฝังไว้ขอบเครื่องทั้งหมดเลย และ กล้องหน้าให้มาที่  16MP Sony IMX471 รูรับแสง f2.0  และ กล้องมุมกว้าง 2MP f2.4 สำหรับการจับระยะต่างๆจะไม่ใช่มุมกว้างนะครับ

ขอบจอด้านล่างนั้นจะเห็นว่าแอบมีความหนาอยู่นิดหน่อยครับ ครับอาจจะด้วยเรทราคาของรุ่นนี้ และ หน้าจอการออกแบบใหม่เลยมีความหนาพอสมควรเลย ส่วนการควบคุมนั้นใช้งานเต็มหน้าจอ หรือ ปุ่มได้ทั้งหมดเหมือนรุ่นอื่นๆ

ในด้านขวานั้นเป็นวัสดุแบบเดียวกับขอบด้านอื่นๆพร้อมกับ งานออกแบบสีเขียวด้านๆเหมือนกันไม่ได้มีลูกเล่นลวดลายตัดขอบอะไร เรียบๆเลยพร้อมกับปุ่ม Power ที่มีสแกนนิ้วในตัวด้วย และเป็นแบบปุ่มกดนะครับ ไม่ใช่สัมผัสเวลาจะเปิดเครื่อง คือเป็นทั้งปุ่ม และ สแกนนิ้วในตัวแบบเดียวกับ X3 Super zoom เลยนั้นเองในส่วนนี้

ขอบเครื่องด้านบนนั้นจะเป็นวัสดุสีเขียวด้านครับ พร้อมกับไมค์ตัดเสียงมาให้ รวมถึงมีเล่นกับการออกแบบนิดหน่อยให้ดูบางและจะเห็นว่ากล้องไม่ได้นูนมาก ตัวเครื่องมีโค้งรับกับมือได้นิดหน่อยเวลาใช้งานครับไม่ได้หนาเกินไปครับ

ส่วนตัวขอบด้านล่างนั้นจะเห็นว่าเป็นลำโพงหลักของเครื่อง พร้อมกับ USB-C และไมค์หลักรูใหญ่ๆรวมถึงถาดซิมก็อยู่ในด้านล่างนี้ด้วยเช่นกัน สามารถใส่ได้ 2 ซิม เพิ่มความจุไม่ได้ แต่จะเห็นมีซีลกันน้ำมาให้ด้วยนะครับรุ่นนี้

ในส่วนของขอบด้านข้างซ้ายนั้นจะเห็นว่าเป็นปุ่ม เพิ่ม ลดเสียง แค่นั้นครับในด้านนี้ แยกกันชัดเจนโทนสีแบบเดียวกันไม่ได้มี ผิวสัมผัสพิเศษอะไรในส่วนนี้ของตัวปุ่ม ส่วนทางด้านระยะการออกแบบรวมถึงเอื้อมมือนั้นใช้งานได้ปกติครับ

ฝาหลังมีการออกแบบลวดลายสวยงามพอสมควร การเล่นแสงสีสวยแน่นอนว่ายังดีที่ใช้งานกระจกแบบ 3D ครับ โดยในรุ่นนี้จะเป็นสี Jungle Green เป็นสีที่ได้จากธรรมชาติครับ สะท้อนแสงสีเหมือนป่าสีเขียวต่างๆ ก็เป็นอีกรุ่นที่อิงการออกแบบจากธรรมชาติครับ แต่ชอบมากๆ คือ ความเขียวของมันดูดีไม่ได้เขียวจัดหรืออ่อนเกินไป และเล่นแสงหลอดไฟได้ดีมากๆในภาพคือสะท้อนสวยงามเลยทีเดียว ส่วนการวางกล้องอะไรก็ยังคงเป็นเหมือนเดิมกับรุ่นอื่นๆ

กล้องหลังในรุ่นนี้มาพร้อมกับกล้องหลังเป็นตัว 48MP เพราะรุ่นนี้จะเป็น X50M ในเมืองนอกนั้นเอง มาพร้อมกับกล้อง 4 ตัว พร้อมการออกแบบ realme ring แบบเดิมบนสุด สเปกกล้องนั้นมาพร้อมกับ  เลนส์หลัก ความละเอียด 48 MP รูรับแสง f/1.8 เลนส์สอง มุมกว้าง 119 องศา ความละเอียด 8 MP และ เลนส์สาม ตรวจจับภาพเชิงลึก ความละเอียด 2 MP เลนส์ที่สี่ มาโคร ความละเอียด 2 MP ครับ ส่วนไฟแฟลชนั้นจะอยู่ข้างๆ โมดูลตัวเลนส์

SPEC

  • Android 10 ครอบทับ realme UI
  • หน้าจอ  IPS LCD ขนาด 6.57 นิ้ว ความละเอียด FullHD+ 120Hz ในอัตราส่วน 20:9 และมีสัดส่วนระหว่างหน้าจอกับตัวเครื่องที่ 90.4% สว่าง 480nits + Corning Gorilla Glass 5
  • Snapdragon 765G 5G
  • Adreno 620
  • RAM  8GB LPDDR4X
  • พื้นที่เก็บข้อมูล 128GB UFS 2.1
  • เซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือด้านข้างตัวเครื่อง
  • กล้องหลัง 4 ตัว  ตัวหลัก 48 MP รูรับแสงขนาด f/1.8, เลนส์ 6P + Ultra-Wide 8MP  รูรับแสงขนาด f/2.3, เลนส์ 5P, มุมมองกว้าง 119 องศา + จับระยะ ความละเอียด 2 MP รูรับแสงขนาด f/2.4 + เลนส์มาโคร 2 MP โฟกัส 4ซม., รูรับแสงขนาด f/2.4, เลนส์ 3P
  • กล้องหน้า ความละเอียด 16 MP เซนเซอร์ Sony IMX471 รูรับแสง f/2.0 + เลนส์จับระยะ ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4
  • ไม่มีรูหูฟัง 3.5 มม. — รองรับ ระบบเสียง Hi-Res Audio  Dolby Atmos
  • 5G 4G VoLTE, WiFi 802.11 ac (2.4GHz + 5GHz) 2×2 MIMO, Bluetooth 5, GPS, GLONASS,
  • USB Type-C
  • แบตเตอรี่ 4,200 mAh  DART CHARGE 30W

PERFORMANCE

ตัวเครื่องนั้นมาพร้อมกับ Snapdragon 765G 5G ทางด้าน RAM นั้นมาให้ทั้งหมด 6GB LPDDR4X และในด้านความจุนั้นมาพร้อมกับ 128GB ใช้หน่วยความจุแบบ UFS2.1 และแน่นอนว่า ทำคะแนนไปได้ 323513 คะแนน ในตัว Antutu และในตัว Androbench การอ่านเขียน UFS 2.1 ครับทำการอ่านเขียนไปได้ 864 MB/s  และ 187 MB/s และในตัว Geekbench ทำได้ 601 / 1893 คะแนน ส่วนในเรื่องของความปลอดภัยนั้นแน่นอนว่ารองรับ L1 ดูหนังในความละเอียดสูงสุดได้เลย รุ่นนี้ก็ถือว่าในเรื่องของสเปกนั้นเร็วแรงพอสมควร และ รองรับ 5G ด้วยเช่นกัน

SYSTEM UI

realme UI นั้นเริ่มใส่เข้ามาแล้วในหลากหลายรุ่นพัฒนาขึ้นให้มีความแตกต่างความลื่นไหลและมี อนิเมชั่นมากกว่าเดิม รวมถึงยังคงอิงความเรียบง่ายที่จะไปคล้ายๆ Pure Android มากขึ้นครับ ในรุ่นนี้ยังใช้งานบนพื้นฐาน Android 10 และใช้ realme UI แล้วไม่ได้ใช้งาน Color OS แล้วนั้นเองครับ  การแจ้งเตือนใช้ได้ มีเลขมุมแอปอะไรปกติครับไอคอนเป็นทรงกลมซะส่วนใหญ่ ขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่เกินไป ลงตัวกับขนาดหน้าจอของตัวเครื่องครับสวยงามเลย

หน้าการแจ้งเตือนและ Quick Setting นั้นเป็นอีกจุดที่เปลี่ยนแปลงค่อนข้างเยอะ ไอคอนการตั้งค่าอะไรเปลี่ยนไปทั้งหมดเป็นวงกลม และ คลีนขึ้นครับ การกดเข้าอะไรต่างๆนั้นได้เปลี่ยนแปลงไปทั้งหมดรวมถึงไอคอนรูปเฟืองก็เปลี่ยนไปด้วย เมื่อลากลงมาก็เป็นการตั้งค่าแบบเต็มครับ รวมถึงแบ่งหน้าจออะไรนั้นยังมีมาให้ปกติ

ทางด้านแป้นพิมพ์นั้นเป็นของ Google ที่คุ้นเคยกันดีครับใช้ง่าย ดีงามเลยแหละ ส่วนหน่วยความจำพื้นที่ตัวเครื่อง มาให้ 128GB นั้นเหลือใช้งานได้ 110 หลังจากหักระบบออกไป และ RAM นั้นใช้งานเหลือ 2 จาก 6 GB ครับ

Smart Sidebar แถบหน้าจอด้านข้างก็ รองรับการแชร์ไฟล์ที่เพิ่งเปิดขึ้นได้ เพิ่มเครื่องมือหรือแอปพลิเคชัน บันทึกหน้าจอในรูปแบบวิดีโอ และ จับภาพหน้าจอ นอกจากนี้ Smart Sidebar ยังมีโฟลเดอร์การจัดการให้เพิ่มรายการโปรดเข้าไปเพื่อดูรายการโปรดได้สบาย Gesture นั้นยังมีมาให้ครบทั้งการวาด การใช้งานท่าทางต่างๆครับ รวมถึงการตั้งค่าการควบคุมหลักๆนั้นสามารถปรับใช้งานแบบเต็มจอหรือจะใช้งานแบบ 3 ปุ่มปกติสลับตำแหน่งได้ด้วย

สามารถปรับเลือกได้ด้วยรวมถึง โหมดมืด และ ตั้งค่าสีต่างๆ รวมถึงการตั้งค่าการควบคุมหลักๆนั้นสามารถปรับใช้งานแบบเต็มจอหรือจะใช้งานแบบ 3 ปุ่มปกติสลับตำแหน่งได้ด้วย รวมถึงทางด้านหน้าจอนั้นจะสามารถปรับโทนสี และการใช้งานได้รวมถึงการปรับความถี่ Hz ได้เช่นกันครับ และความสดใจของหน้าจอได้ด้วย และ การถ่ายหน้าจอนั้นรองรับการใช้งาน 3 นิ้วลากลงมารวมถึง หน้าจอแบบยาวได้ด้วยเช่นกันครับโดย 3 นิ้วแตะค้างไว้นั้นเอง

SCREEN

จอที่มีความลื่นไหล 120Hz ที่สูงสุดในตอนนี้ และ แน่นอนว่าเป็นหน้าจอแบบเดียวกับ X3 Superzoom ก่อนหน้านี้ครับ แน่นอนในหลายๆครั้งนั้น แบรนด์นี้จะโดนบ่นเรื่องหน้าจอที่สัมผัสไม่ไว และไม่โหดมีหน่วงกันเล็กน้อยแต่ในครั้งนี้ได้แก้ไขทั้งหมด โดยเป็นหน้าจอที่โหดสุดๆอีกรุ่น ทั้งเรื่องของความคมชัดสวยงามการสัมผัสที่ไว และรวมถึงอัตราการตอบสนองที่ไวมากๆ หน้าจอนั้นอัพเกรดเป็น 120Hz และ การสัมผัสนั้นไวมากเลยทีเดียว ติดนิ้วมากๆ ในส่วนของหน้าจอก็สามารถปรับได้ว่าจะเอา 60 กับ 120Hz ครับ ช่วยประหยัดแบตได้นิดหน่อยส่วนเรื่องของสเปกนั้นมาพร้อมกับ ขนาด 6.57 นิ้ว (2400 x 1080 พิกเซล) Full HD+ อัตราส่วน 20:9 IPS LCD หน้าจอโค้งแบบ 2.5D ที่มีรีเฟรชเรท 120Hz และ ใช้กระจก Corning Gorilla Glass 5 ปรับความสว่างได้สูงสุด 480 nits

การปรับมาใช้งาน IPS LCD แน่นอนว่ามุมมองของตัวภาพนั้นถือว่าทำได้ดี แม้จะเป็นหน้าจอแบบ FHD IPS ครับแน่นอนว่าในเรื่องของความดำสนิทสวยงามยังคงชอบแบบตัว X2 Pro ก่อนหน้านั้นอยู่ และ ตัวนั้นสวยกว่าครับแอบเสียดายพอสมควร แต่อย่างอื่นนั้นก็ถือว่ายกระดับไปอีกครั้ง การสัมผัส การรองรับความถี่ถึง 120Hz สูง ลื่นไหลที่สุดเลยในตอนนี้ และ การออกแบบก็เป็นแบบเจาะรูด้วยเช่นกันมาพร้อมกล้องคู่ แต่เรื่องของความละเอียดอาจจะแค่ FHD+ เท่านั้นจะเท่าๆกันกับรุ่นก่อนเลยนั้นเอง  ในเรื่องของการสู้แสงบางทีรู้สึกว่าน่าจะสว่างได้มากกว่านี้ด้วยที่เป็น 2 จุดหลักๆที่ต้องดูกัน และ ความดำไม่สนิทเท่าจอแบบ AMOLED แต่ถ้านอกเหนือจาก 2 จุดนี้ แล้วนั้นไม่มีจุดไหนให้ต้องกังวล ใช้ทั่วไปได้ การสัมผัสที่แบรนด์นี้พัฒนาขึ้นมาดีขึ้นเยอะรวมถึงการใช้งานติดนิ้วมากขึ้น

FINGERPRINT

การสแกนนิ้ว ต้องบอกว่ามันไม่ล้ำเท่าเดิม เพราะการใช้งานหน้าจอแบบ IPS LCD 120Hz ทำให้เราต้องเปลี่ยนจากการสแกนนิ้วบนหน้าจอ มาเป็นสแกนนิ้วที่ขอบข้างเครื่องแล้ว ซึ่งในตัวปุ่มสแกนนิ้วนี้จะเป็นปุ่ม Power ไปในตัวเราสามารถกดได้กดแบบปุ่มทั่วไป รวมถึงสามารถสัมผัสเพื่อสแกนนิ้วได้แบบเดียวกับ X3 Superzoom เลยนั้นเอง ในเรื่องของความไวในการใช้งานนั้นไม่มีปัญหาเลยแต่ความล้ำอะไรไม่เท่าบนจอแค่นั้นเลยดูไม่ทันสมัยมากนัก

SOUND

ไม่มีรู 3.5 มม. กันแล้ว ในรุ่นนี้แต่แน่นอนว่าเรื่องเสียงยังคงรองรับ อ่านเสียงคุณภาพสูง Hi-Res ได้เลย รองรับไฟล์เสียงคุณภาพสูง และ Atmos จำลองเสียงรอบทิศทาง แต่เรื่องของยี่ห้อหรือแบรนด์นั้นยังไม่ชัดเจนว่าใช้ตัวไหน ส่วนในการใช้งานจริงๆในรุ่นนี้ไม่ได้มีหูฟังมาให้ในกล่องเท่าที่ลองกับหูฟังไร้สายของ Sudio นั้นขับได้ดีกว่าเดิมพวกรายละเอียดเสียงมาดี เสียงขับได้เยอะ มิติเสียงดี เบสมาสะใจขึ้น โทนเสียงคล้ายกับในตัว realme X3 Superzoom เลยนั้นเอง รายละเอียดความใสนั้นอาจจะยังไม่ได้โหดเท่าไรนัก อารมณ์เดิมเลยแหละก็ถือว่าน่าเสียดายในการตัดรู 3.5มม. และ ในเรื่องของความสะดวกนั้นดีกว่าเดิมแน่นอน ถ้าใครมีหูฟังไร้สายมาแล้ว ถ้ามองในแง่เน้นคุณภาพยังไงมีสายหรือใช้งานตัวแปลงมาเสริมน่าจะดีกว่า ในเรื่องของการฟังเพลงของตัวนี้ และเสียงเทียบกับ X3 Superzoom ค่อนข้างใกล้เคียงกันอย่างมากทั้งเรื่องของ กำลังขับ คุณภาพ และ แนวเสียงครับ

SPEAKER

ลำโพงในรุ่นนี้ยังคงใช้งานลำโพงตัวเดียวเหมือนเดิม เสียงนั้นจะยิงออกด้านล่างตัวเดียว เสียงเท่าที่ลองฟังนั้นเหมือนจะมีกำลังขับมากขึ้นเมื่อเทียบกับรุ่นก่อนๆในเรทราคาเดียวกันแบบชัดเจน และ ในครั้งนี้เราเอามาเทียบกันกับ VIVO V19  แน่นอนว่าราคาค่อนข้างใกล้กัน เสียงก็ทำได้ดังพอๆกันเลยด้วยแต่แนวเสียงของมือถือนั้นแตกต่างกันแบบชัดเจนเรียกได้ว่าคนละสไตล์กันมากกว่า เสียงของทาง vivo จะเน้นแหลมจัด เสียงร้องชัด ทำให้มันฟังแล้วอาจจะดูชัดเจนแต่แหลมไปนิดหน่อย ส่วนทาง realme นั้นจะเน้นเสียงครบมากกว่า เสียงนุ่มฟังสบาย แต่ก็ยังดังอยู่เช่นกันก็เป็นคนละแนวทางกันไปครับว่าชอบแนวเสียงไหน แต่ถ้าฟังเพลงรวมๆแน่นอนว่า realme ฟังสบายง่ายกว่าและแน่นกว่าครับ ทำให้ใครที่ชอบเรื่องของเสียงลำโพง realme ตอบโจทย์กว่าพอสมควรในเรื่องของคุณภาพ

GPS

ในการนำทางนั้นทำได้ดีต่อเนื่องจากรุ่นเดิมเลย และ จากที่ใช้งานจริงและใช้แอปทดสอบเช่นเคย ก็จับได้ทั้งหมด 25 ดวง จากทั้งหมด 64 ดวง ที่อับทึบเช่นใต้ทางด่วนพวกนี้ ส่วนของกลางแจ้งจับได้ทั้งหมด 35 ดวง จากทั้งหมด 64 ดวง ใกล้ๆ กับเรือธงและรุ่นอื่นๆที่ลองกันมา และใช้งานได้ดี ส่วนการเรียกใช้งานแอป หรือ เวลาหลังจากเปิดแอป นั้นก็ทำได้ค่อนข้างไว ถือว่าทำได้แม่นยำดี ในการนำทางใครที่เน้นในเรื่องนี้รุ่นนี้แนะนำ

BATTERY

แบตเตอรี่ตัวนี้ให้มาที่ความจุ 4,200 mAh การจัดการพลังงานมันทำได้ดี จากที่เคยทดสอบแบรนด์นี้มาพอสมควร แม้จะใช้งาน Snapdragon 765G ถือว่าประหยัดเอาเรื่องเลย อาจจะด้วยใช้จอ IPS LCD แม้จะเป็น 120Hz แต่ก็ไม๋ได้กินแบตเท่าไร รวมถึงได้ FHD ด้วย และ ยังได้ใช้งานเทคโนโลยีชาร์จไวมาเหมือนเดิม 30W ในการทดสอบนั้นต้องบอกว่าทั้งวันได้ จากที่ลองใช้งานหนักๆ ใช้งานนำทางต่อเนื่อง 1-2 ชั่วโมงเต็มๆ และ เปิดเพลง ถ่ายรูป วีดีโอ เล่นเกมไป 1 ชั่วโมงกว่า ถือว่าทำได้ดีนะ และ แบตเหลือ 19 % ครับ ซึ่งหน้าจอเปิดทั้งหมด 5 ชั่วโมง และ ใช้งานทั้งหมด 9 ชั่วโมงถือว่าอึดมากๆ แต่ถ้าจอเปิดโหดๆยังไงก็ทั้งวันสบายๆรุ่นนี้ยังคงไว้ใจได้ครับ

GAMING 

เรื่องของการเล่นเกม รุ่นนี้จัดมาเด็ด ถูกใจสายเกมเเน่นอน เเน่นอนว่าในรุ่นนี้มาพร้อมกับชิปเซ็ตระดับกลางตัวล่าสุดจาก Qualcomm อย่าง 765 โดยรวมถือว่าเหมาะมากๆกับคนที่ชอบเล่นเกมมากๆ เกมต่างๆ อย่าง PUBG ROV FREEFIRE สามารถเปิดภาพสูงสุดได้อย่างสบายๆ การทัชสกีนความลื่นไหลโดยรวม ถือว่าทำออกมาได้ดี เรื่องของความร้อนเท่าที่ทดสอบคุมความร้อนได้ดีมากๆ สูงสุดราวๆ 41 องศา ส่วนเเบตเตอรี่เท่าที่ทดสอบราวๆ 50 นาที กินเเบตเตอรี่ประมาณ 15 เปอร์เซ็นต์

CAMERA

กล้องหลัง 4 ตัว  ตัวหลัก 48 MP รูรับแสงขนาด f/1.8, เลนส์ 6P + Ultra-Wide 8MP  รูรับแสงขนาด f/2.3, เลนส์ 5P, มุมมองกว้าง 119 องศา + จับระยะ ความละเอียด 2 MP รูรับแสงขนาด f/2.4 + เลนส์มาโคร 2 MP โฟกัส 4ซม., รูรับแสงขนาด f/2.4, เลนส์ 3P  รวมถึงฟีเจอร์อะไรเสริมเข้ามาเยอะมากขึ้นทั้งกลางวัน และ โหมดกลางคืนรวมถึงการถ่ายวีดีโอ ที่มีกันสั่นพิเศษ และ ละลายหลังใส่เข้ามาด้วยเช่นกัน ไปลองดูภาพตัวอย่างก่อนเลยสำหรับกล้องหลัง realme x50 5G จะเห็นว่าโหมดกลางคืนนั้นยังคงทำได้น่าสนใจในการเก็บรายละเอียดแสงสี และดีเทลหลายๆอย่างทำได้ดี แม้จะเป็นเลนส์มุมกว้างก็ตาม รวมถึงในการถ่ายทั่วไปค่อนข้างไวในการถ่าย โฟกัสใช้งานไม่เจออาการหน่วง หรือ ช้าอะไรแม้จะเป็นที่แสงน้อยถือว่ากล้องรุ่นนี้ใช้งานได้ดี  ฟีเจอร์การละลายหลังอะไรยังคงเนียนตาและเก็บระยะได้ดีในกล้องหลัง แต่เลนส์มาโครนั้นอาจจะไม่ได้คมชัดซักเท่าไรนัก

PORTRAIT

SELFIES

กล้องหน้านั้นให้มา 2 ตัวพร้อมกับจับระยะ  กล้องหน้า ความละเอียด 16 MP เซ็นเซอร์ Sony IMX471 รูรับแสง f/2.0 + เลนส์จับระยะ ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4 ก็ถือว่าเรื่องกล้องหน้า และ กล้องหลังนั้นยังคงไว้ใจได้สบาย ทั้ง Software การจัดการต่างๆเน้นเรื่องของการถ่ายง่าย และ สวยโดยมีการรองรับทั้งระยะต่างๆ ครบเพียงพอต่อการใช้งาน  มีทั้งโหมดละลายหลัง และ ปรับแต่งใบหน้ามาให้รวมถึง วีดีโอก็ใส่เข้ามาได้ด้วยสำหรับการถ่าย กล้องหน้าแบบหน้าชัดหลังเบลอแบบ วีดีโอนั้นเอง ถือว่าฟีเจอร์ยังคงยกมาครบๆ ซึ่งน่าเสียดายที่ไม่มีเลนส์มุมกว้างอะไรใส่เข้ามา แต่จะเน้นในเรื่องของการจับระยะและใช้งานด้านอื่นๆเข้ามาแทนก็แล้วแต่ชอบกัน

VIDEO

งานวีดีโอถือว่าดูดี รองรับการถ่ายสูงสุดที่ 4K 30FPS แน่นอนว่า มาพร้อมกับฟีเจอร์ครบๆ แบบรุ่นพี่ทั้งเรื่องของกันสั่นพิเศษ หรือ จะเป็นละลายหลังก็รองรับ แต่น่าเสียดายว่ากล้องหน้าไม่มีมุมกว้าง และ ไม่สามารถเปลี่ยนเลนส์ขณะถ่ายวีดีโอได้เวลาจะใช้งานมุมกว้าง ส่วนเรื่องของคุณภาพจัดว่าดี และ กันสั่นทำได้ดีพอสมควร ถือว่าพัฒนามากขึ้นจากเดิมเยอะ และกันสั่นพิเศษ ทำได้ดีขึ้นแบบชัดเจนในความละเอียดนี้ แต่ทางด้านเลนส์มุมกว้างยังคงไม่เหมาะกับกลางคืนเท่าไรนัก ทางด้านเสียงก็อยู่ในระดับใช้งานได้ และกล้องหน้านั้นดีที่ใส่ละลายหลังเข้ามาจับระยะแม่นยำ แต่เสียดายที่ไม่มีการถ่ายมุมกว้าง หรือ วีดีโอมุมกว้างใส่เข้ามาในส่วนของการถ่ายกล้องหน้าในรุ่นนี้

REALME X50 5G

” ทำราคาดี​ สเปกแน่น แรงคุ้ม ​พร้อมการรองรับ​ 5G​ ถือว่าลงตัวพร้อมใช้งาน “

ครั้งนี้ทำราคาออกมาได้ดีเมื่อเทียบกับสเปกไม่แปลกใจที่กระแสยอดจองจะทำได้ดีครับ จากที่ทดสอบมานั้นถือว่าประทับใจขึ้นเมื่อเทียบกับราคาแม้จะเสียดายกล้องหน้าหลังอาจจะไม่เหมือนกับรุ่นเมืองนอก แต่ภาพรวมและราคาของมันทำให้มองข้ามไปได้ ประสิทธิภาพตัวเครื่องยังคงจัดเต็ม เร็วแรง เล่นเกมทำงานได้ดี รวมถึงมีความลื่นไหลของหน้าจอที่ดี ติดนิ้วมากกว่าตัวอื่นเช่นเดิม และรองรับ 5G ตั้งแต่แกะกล่องซื้อเผื่ออนาคตได้สบาย กล้องหน้าหลัง ยังคงทำได้ดีถ้าหากลองดูจากภาพตัวอย่างแล้วบอกเลยว่าสมราคา และมีฟีเจอร์เยอะเช่นเดิมถ่ายง่ายถ่ายสวย ทางด้านแบตนั้นอึดทั้งวันได้ดี รองรับชาร์จไว 30W ถือว่าเพียงพอแล้วในการใช้งานเป็นรุ่นที่มีจุดดีเยอะมากๆ และ คุ้มราคาจริงๆไม่เจอมือถือแบบนี้มานานในแบรนด์นี้ แต่รุ่นนี้เป็นการกลับมาราคาดีสเปกคุ้มเช่นเดิมแนะนำในงบนี้ตัวนี้โอเคอย่างมาก จะมีบ่นแค่เรื่องงานออกแบบที่ซ้ำ จำเจ จากรุ่นก่อนหน้าเกือบทุกรุ่นแค่นั้น กับหน้าจอ IPS ถ้ารับได้ก็สบายครับ รุ่นนี้เป็นอีกรุ่นที่แนะนำในงบหมื่นต้น สเปกดี รองรับ  5G  และ ภาพรวมนั้นเป็นรุ่นที่คุ้มค่าอีกตัวของค่าย

ข้อดี

  • รองรับ 5G ตั้งแต่แกะกล่อง ในราคาไม่แพง
  • งานประกอบ วัสดุกระจก ดูดีพรีเมี่ยม
  • ดีไซน์ฝาหลังโดดเด่นพอสมควร
  • มาพร้อม Snapdragon 765G 5G
  • กล้องหลัง 4 ตัว คุณภาพดี เก็บหลายสภาพแสงได้ดี ใช้งานง่าย
  • โหมด ถ่ายคน แสงดี สกินโทนสวย
  • กล้องหน้าสวยคมชัด ไว้ใจได้ ถ่ายง่าย
  • แบตอึดพอสมควร พร้อม ชาร์จไว 30W
  • ลำโพงเสียงดีแม้จะเป็นตัวเดียว
  • หน้าจอ 120Hz ลื่นไหลพอสมควร
  • ทำราคาเทียบสเปกดีมาก

ข้อสังเกต

  • หน้าจอยังเป็น IPS LCD
  • ดีไซน์ด้านหลังยังคงไม่เปลี่ยนแปลงจากรุ่นก่อนหน้า
  • ลำโพงยังคงเป็นตัวเดียว
  • สเปกคือตัว X50m ในเมืองนอก

สำหรับรีวิวนี้ผมก็ต้องขอตัวลาไปก่อนสำหรับรุ่นอื่นๆก็ติดตามกันได้เลย ถูกใจฝากกดไลค์กดแชร์ด้วยนะครับ  มีข้อผิดพลาดประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ  เพื่อนๆสนใจอยากให้พวกผมรีวิวรุ่นไหนสามารถ Inbox มาบอกเราได้เลยนะ
ฝากไลค์เพจ FACEBOOK เราด้วยนะครับ >>>>>>>>>  TECHHANGOUT

เข้าร่วมกลุ่ม TECHHANGOUT พูดคุยแลกเปลี่ยน ข้อมูล คุยกันเองชิลๆได้เลยที่ — Facebook  Techhangout พูดคุย Smartphone gadget 

Review by Nineztr 

Comments กันได้เลย !

Comments

0 Shares