realme นั้นยังคงเดินหน้าพัฒนาสินค้าที่มีความหลากหลายที่จะมาเติมเต็ม AIoT ของตัวเองทั้งหมดทำให้มีความครอบคลุมมากขึ้นและล่าสุดก็ถึงคิวของ realme Smart TV ที่จะมาลุยตลาดทีวีกันแล้วในประเทศไทยครับ เรียกได้ว่ามีความแปลกใหม่พอสมควรที่ค่ายมือถือนั้นจะเอาทีวีเข้ามาสู้กับตลาดทีวีในไทย แต่ด้วยชื่อ realme ก็เป็นตัวช่วยทำให้มีความมั่นใจได้เรื่องของ ราคา และ สเปกที่ทำออกมาได้ค่อนข้างโดดเด่นเช่นเดียวกับมือถือของตัวเอง รวมถึงการรับประกันจากทางศูนย์ไทย พร้อมกับระยะเวลา 3 ปีเต็มๆทำให้มีความเด่นมากขึ้นในการใช้งาน และมั่นใจได้ ทางด้านสเปกนั้นแน่นอนว่ามาพร้อมหน้าจอ LED ที่รองรับการใช้งานกับเทคโนโลยี  Chroma Boost  รวมถึงลำโพง 4 ตัวรองรับ Dolby Audio 24W และ การที่เป็น Android TV ทั้งหมดทำให้รองรับการเชื่อมต่อ การใช้งานที่ดีขึ้นและทำราคาได้ดี เริ่มต้น 4,999 บาทเท่านั้นในขนาด 32 นิ้ว แต่ได้ฟีเจอร์ ทุกอย่างเหมือนกับรุ่น 43 นิ้วทั้งหมดเลย

realme Smart TV เปิดตัวมาด้วยการนำเทคโนโลยี  Chroma Boost จากสมาร์ทโฟนมาด้วย แน่นอนว่าเปิดใช้งานตลอดเป็นเทคโนโลยีที่จะช่วยให้หน้าจอภาพนั้นมีความสว่างขึ้น พร้อมกับ สีสวยสดขึ้น ค่า Contrast สูงขึ้นพร้อมกับสเปกความสว่างสูงสุด 40nits หน้าจอขอบบาง 8.7 มิลลิเมตร และให้มุมกว้างถึง 178 องศา ถ้ามองเทียบสเปกถือว่าดีเกินราคาอยู่เช่นกัน และยังคงมีฟีเจอร์ Chromecast ในตัวเป็นฟีเจอร์ที่มาพร้อมกับ Android TV  และทำให้ใช้งาน Google Assistant ใช้คำสั่งเสียงได้เลย รองรับภาษาไทย และรวมถึงรองรับแอป Youtube, Netflix, Prime, Disney+ ได้แบบ Official ความละเอียดสูงทั้งหมดครับ หรือจะแอปอื่นๆก็สามารถใช้งานตัว Play Store ก็มีให้เลือกอีกกว่า 5,000 แอป ทางด้านสเปกนั้นใช้งาน CPU MediaTek แบบ Quad-Core ใช้ RAM 1GB มีความจุภายใน 8GB มีลำโพงคู่ในตัว และรวมทั้งหมด ฝั่ง ละ 2 ตัวครับทำให้รองรับเสียงที่ดีพอสมควรเลยแหละ มีความดังกำลังขับสูงพร้อมรองรับระบบ Dolby 24W เช่นกัน ส่วนหน้าจอนั้นเป็น LED ก็ภาพอะไรสวยงามเช่นกันรองรับ Content ได้ดี รวมถึงตัวรีโมท มีไมค์สั่งงานรองรับได้สบายและ ช่องเชื่อมต่อครบๆเลย

realme Smart TV เปิดราคาในไทย 32 นิ้ว HD  4,999 บาท และ 43 นิ้ว FHD 7,999 บาท พร้อมขายเร็วๆนี้ รอติดตามกันอีกที พร้อมการรับประกัน 3 ปีเต็มจากทาง realme Thailand 

UNBOX 32 นิ้ว

  • ตัวเครื่อง realme smart TV
  • ขาตั้ง 2 ข้าง
  • รีโมท
  • ถ่าน AAA 2 ก้อน
  • คู่มือ และ การติดตั้ง

UNBOX 43 นิ้ว 

  • ตัวเครื่อง realme smart TV
  • ขาตั้ง 2 ข้าง
  • รีโมท
  • ถ่าน AAA 2 ก้อน
  • คู่มือ และ การติดตั้ง
  • สายแปลง AV ออก 3 ช่อง

DESIGN

งานออกแบบทีวีนั้นก็ถือว่าเป็นมาตรฐานทั่วไปครับขาตั้งมุมซ้ายขวาพร้อมกับหน้าจอที่มีความบาง แต่ทางด้าน realme นั้นจะเด่นตรงเรื่องของขอบหน้าจอที่ต้องบอกว่ามีความบางมากๆ เมื่อเทียบกับคู่แข่งและชนิดของหน้าจอที่เป็น LED สวยงามพอสมควรครับและได้เทคโนโลยี Chroma Boost เสริมเข้ามาทำให้มีความสว่างสด สีสันทำได้ดีส่วนน้ำหนักค่อนข้างเบาถือเปลี่ยนที่วางได้แบบถือข้างเดียวได้สบายๆครับไม่ได้หนัก และ มีความบางพอสมควร น้ำหนักตัว 32 นิ้วจะอยู่ที่ 3.7 กิโลกรัม ส่วนทางด้าน 43 นิ้วจะอยู่ที่ 6.7 กิโลกรัม สำหรับความต่าง 3 กิโลกรัม realme Smart TV ผ่านการทดสอบมาตรฐานอย่างเข้มงวด อาทิ ทดสอบในห้องอุณหภูมิต่ำถึง -20℃ ตกจากที่สูงกว่า 760mm กดใช้งานปุ่มกว่า 5,000 ครั้ง กดเปิด-ปิด กว่า 5,500 ครั้งและอื่นๆ นอกจากนี้ ยังผ่านมาตรฐาน ระดับสากล ISTA

จะเห็นว่าขนาดนั้นมีความแตกต่างกัน ตัวเล็กที่ 32 นิ้ว และตัวใหญ่ 43 นิ้วครับส่วนทางด้านงานออกแบบนั้นใช้งานแบบเดียวกันทั้งหมด ทั้งขาตั้ง ส่วนขอบหน้าจอที่มีความบางเท่ากัน รวมถึงงานออกแบบด้านข้างและด้านหลังนั้นเหมือนกันทั้งหมด จะเห็นได้เลยว่างานประกอบด้านหลังเป็นชิ้นเดียวกันทั้งหมดถือว่าดูดี และเส้นสายอะไรนั้นคล้ายกัน และขอบด้านข้างหน้าจอนั้นมีความบางและที่สำคัญคือเรื่องของพอร์ตเชื่อมต่อทั้ง 2 ขนาดให้มาเหมือนกันทั้งหมด

งานประกอบ วัสดุตามขอบนั้นจะเป็นพลาสติกทั้งหมด รวมถึงขาตั้งทั้ง 2 ข้างเป็นพลาสติกสีดำทั้งหมดครับ เมื่อแกะแล้วต้องมาประกอบเองทั้งหมดเพราะเวลาใส่กล่องนั้นจะถอดขาตั้งออก เป็นแบบนี้ทุกยี่ห้อนะครับ ส่วนขอบหน้าจอ ขอบล่างอะไรก็งานประกอบตามเรทราคาของรุ่นนี้ พร้อมกับโลโก้ realme ขอบล่างตรงกลาง และปุ่มเปิด/ปิดเช่นกัน

ส่วนทางด้านลำโพงนั้นจะยิงออกมาด้านล่าง ข้างละ 2 ตัวรวมทั้งหมด 24W ส่วนขาตั้งนั้นจะเป็นทรงเดียวกันเป็นวัสดุพลาสติกทั้งหมดรูปทรงเดียวกันมียางรองข้างล่างพอใช้งานได้ เพราะตัวทีวีไม่ได้หนัก ทำให้ขาตั้งแค่นี้ก็เพียงพอแล้ว แต่ถ้าเน้นความพรีเมี่ยมเป็นโลหะทำสีอะไรนั้นน่าจะดูแพงกว่า เลยแอบดูพลาสติกเยอะไปนิดหน่อย ส่วนระบายความร้อนด้านหลังนั้นยิงออกส่วนบนปกติครับเป็นมาตรฐานของทีวีหลายๆแบรนด์จะ Layout ประมาณนี้เลย พร้อมกับ รูสำหรับการยึดติดผนังเป็นมาตรฐาน พร้อมใช้งานทั้ง 2 ขนาด ตามมาตรฐาน VESA

SPEC 32 นิ้ว

  • สเปกของ Realme Smart TV 32 นิ้ว
  • หน้าจอขนาด 32 นิ้ว (1366 × 768 พิกเซล) HD, มุมมอง 178 องศา ที่มีความสว่างสูงสุด 400 nits, มุมมอง 178 องศา, รองรับถอดรหัส HDR 10
  • การแสดงผล 7 รูปแบบ : มาตรฐาน, สดใส, กีฬา, ภาพยนตร์, เกม, ประหยัดพลังงาน
  • ชิปประมวลผล Quad-Core Cortex A53 MediaTek
  • มาพร้อมการ์ดจอ Mali-470 MP3 RAM 2133MHz 1GB, ความจำ 8GB
  • Android TV 9.0
  • มาพร้อม Chromecast แบบ Built-in,
  • Netflix, YouTube, Prime Video
  • Wi-Fi 802.11 b/g/n (2.4GHz), Bluetooth 5.0
  • HDMI x 3 (มี 1 ช่องรองรับ ARC), USB x 2, SPDIF, DVB-T2, Ethernet,
  • รองรับ H.264, H.263, MPEG1/2/4, etc.
  • speakers 12W x 2 + tweeter x 2, รองรับ Dolby Audio MS12B

SPEC 43 นิ้ว 

  • หน้าจอขนาด 43 นิ้ว (1920 × 1080พิกเซล) Full HD ที่มีความสว่างสูงสุด 400 nits, มุมมอง 178 องศา, รองรับถอดรหัส HDR 10
  • การแสดงผล 7 รูปแบบ : มาตรฐาน, สดใส, กีฬา, ภาพยนตร์, เกม, ประหยัดพลังงาน
  • ชิปประมวลผล Quad-Core Cortex A53 MediaTek
  • มาพร้อมการ์ดจอ Mali-470 MP3 RAM 2133MHz 1GB, ความจำ 8GB
  • Android TV 9.0
  • มาพร้อม Chromecast แบบ Built-in,
  • Netflix, YouTube, Prime Video
  • Wi-Fi 802.11 b/g/n (2.4GHz), Bluetooth 5.0
  • HDMI x 3 (มี 1 ช่องรองรับ ARC), USB x 2, SPDIF, DVB-T2, Ethernet,
  • รองรับ H.264, H.263, MPEG1/2/4, etc.
  • speakers 12W x 2 + tweeter x 2, รองรับ Dolby Audio MS12B

SCREEN

หน้าจอขนาด 43 นิ้ว (1920 × 1080พิกเซล) Full HD ที่มีความสว่างสูงสุด 400 nits, มุมมอง 178 องศา, รองรับ ถอดรหัส HDR 10 แน่นอนว่าในภาพถ่ายนั้นจะเป็นหน้าจอตัว 43 นิ้วส่วนเรื่องของสีสัน ความสวย ความสว่างทั้ง 2 รุ่นนี้ไม่ได้แตกต่างกันรองรับมุมมองได้ดีเหมือนกัน แต่จะแตกต่างกันแค่ความละเอียด  แต่สีสัน ความสวย มิติของสีนั้นเหมือนกันอย่างมาก แค่ความคมชัดตัว 43 นิ้วจะทำได้ดีกว่าพอสมควรด้วยความละเอียดที่มากกว่า ส่วนความสว่างก็ถือว่าใกล้เคียงกันมากๆครับ ตัวภาพสวย มิติสีดีพอสมควร สีสดกำลังดีไม่เวอร์มากนัก ตามเรทราคาและตัวขอบหน้าจออันนี้ถือว่าบาง  รองรับการถอดรหัสวีดีโอมาตรฐาน HDR10 และ โหมดภาพ HLG แต่หน้าจอภาพไม่ได้แสดงผลแบบ HDR 10 นะครับ

หน้าจอพาแนลนั้นเป็นแบบ LED ทั้ง 2 ขนาดแต่จะแตกต่างกันในเรื่องของความละเอียดและการรองรับ ส่วนมุมมองของหน้าจอ การเพี้ยนหรือดรอปของสีหน้าจอนั้นไม่ได้แตกต่างกันทั้ง 2 รุ่นเจออาการเดียวกันครับเมื่อมองในด้านข้างข้อดีของรุ่นนี้คือหนา้จอสีไม่เพี้ยนแม้จะมองจากด้านข้างมากๆหรือเอียงมากก็ไม่เจออาการเพี้ยนของสี ซึ่งถ้ามองเทียบกับในเรทราคาแบบนี้ตัวอื่นๆค่ายอื่นมีเพี้ยนเยอะกว่านี้ชัดเจน จุดนี้ถือว่าดี แต่การดรอปของความสว่างของหน้าจอนั้นมีอยู่บ้างตามภาพเลยนั้นเองก็เป็นปกติ ที่มุมมองแบบนี้แอบดรอปลงนิดหน่อย แต่สียังคงแม่นยำอยู่นะอันนี้สำคัญครับซึ่งหน้าจอของทาง realme รอบนี้ถือว่าทำได้ดีในเรื่องของสีสันและรองรับมุมมองที่ค่อนข้างกว้างมากๆ

งานออกแบบขอบหน้าจอนั้นถือว่ามีความบางถ้าหากมองเทียบกับบรรดาทีวีเรทราคานี้ครับถือว่างานออกแบบมีความโดดเด่นพอสมควรแต่เรื่องงานประกอบ วัสดุอะไรพวกนี้ก็ตามเรทราคาของบรรดาทีวีพวกนี้ ส่วนหน้าจอพาแนลสวยงามสีสดและสว่างพอสมควร น่าจะได้เทคโนโลยี Chromaboost เข้ามาช่วยที่เราจะเห็นได้ในมือถือของ realme นั้นเองทำให้เวลาใช้งานกลางวันนั้นถือว่าสบายๆสู้แสงได้ เจอพวกแสงเงากระทบก็ยังพอเห็นหน้าจอชัด

SPEAKER 

ไม่ค่อยเห็นทีวีในเรท 4-5 พันที่จะให้ลำโพง 4 ตัวครับ และ ทางด้านลำโพงในรุ่นนี้ให้มาที่ 4 ตัวรองรับระบบเสียง Dolby Audio Stereo 4 ตัว 24W ทำให้เรื่องของเสียงนั้นรองรับการใช้งานได้ค่อนข้างดีทั้งในเรื่องของเสียงเวลาดูทีวีทั่วไปหรือจะเป็นการดู Content ต่างๆทั้ง NETFLIX – SPOTIFY รวมถึง YOUTUBE ต้องบอกว่าการที่ลำโพงให้มานั้นถือว่าถ้าเน้นในเรื่องของกำลังขับเสียงนั้นสามารถรองรับได้สบายมีความดังแม้จะปรับแค่ ครึ่งนึงก็ตาม และการเปิด Dolby นั้นทำให้เสียงมีมิติมากขึ้น กังวานมากขึ้น แต่ถ้ามองเทียบกับบรรดาเรทราคานี้ลำโพงตัวนี้ถือว่าดังกว่าคู่แข่งดีกว่าชัดเจน แต่ด้วยข้อจำกัดของทีวี พวกเสียงเบส หรือ ย่านต่ำนั้นก็จะไม่ได้เยอะมากเป็นปกติของบรรดาทีวีพวกนี้ครับ แต่เน้นเสียงคนพูดชัดถือว่าตอบโจทย์มากๆครับ TV สร้างความถี่เสียงได้ตั้งแต่ 148Hz ถึง 20,000Hz  ซึ่งในแต่ละข้างนั้นจะ ประกอบด้วยลำโพง Full-Range 1 ตัว และลำโพง Tweeter 1 ตัว เมื่อทั้ง 2 ชุดทำงานร่วมกัน มีกำลังไฟถึง 24W ทำให้เป็นทีวีที่โดดเด่นในเรื่องของลำโพงมากๆตัวนึงในเรทราคาประมาณนี้

CONNECTOR 

ทางด้านพอร์ตเชื่อมต่อนั้นจริงๆจะให้มาเท่ากัน แต่จะแตกต่างกันแค่ในเรื่องของตัว 43 นิ้ว ในส่วนของพอร์ต แดง ขาว เหลือง นั้นจะต้องต่อสายแยกแค่นั้น แต่ของ 32 นิ้วให้มาเลยบนตัวทีวีครับ และตำแหน่งก็แตกต่างกันเล็กน้อย เพราะว่าในรุ่น 32 นิ้วจะวางไว้ด้านข้างทั้งหมด แต่ของ43 นิ้วนั้นจะใส่มาให้ขอบล่าง และ ขอบข้างครับที่แตกต่างกันในภาพข้างบนนั้นจะเป็นของทาง 32 นิ้วที่ให้พอร์ตมาครับทั้งหมด  HDMI x 3 (มี 1 ช่องรองรับ ARC), USB x 2, SPDIF, DVB-T2, Ethernet

ส่วนตัว 43 นิ้วก็ให้มาครบเช่นกันครับ  HDMI x 3 (มี 1 ช่องรองรับ ARC), USB x 2, SPDIF, DVB-T2, Ethernet, แต่ส่วนของสาย AV นั้นต้องใช้สายต่อแยกเพิ่มเติมแบบในภาพเลยนั้นเองที่แตกต่างกับ 32 นิ้วครับ

ANDROID TV FEATURE 

เนื่องจากเป็น Android TV แท้ทำให้การรองรับการใช้งานฟีเจอร์นั้นค่อนข้างหลากหลายและรองรับได้ดีอย่างมากแน่นอนว่าเริ่มตั้งแต่การตั้งค่า ที่รองรับการซิงค์กับตัวมือถือ เชื่อม Account ให้เองทันทีไม่ต้องไปปรับแต่งอะไรให้ยุ่งยาก ในการเข้าใช้ Youtube Google Netflix ต่างๆทำให้เราสามารถเชื่อมกับมือถือและตั้งค่าเองได้ทั้งหมด และการดู Content ต่างๆนั้นเป็นแบบถูกต้องทำให้รองรับการดู Youtube Netflix และอื่นๆมากๆมายจากทาง Playstore โดยตรง รองรับความละเอียดสูงสุด และรองรับการใช้งาน Cast แบบเต็มรูปแบบจากทาง Google เช่นกันทำให้เป็นทีวีที่ราคาไม่แรงแต่ได้ฟีเจอร์ของทาง Android TV แบบครบๆพร้อมใช้งานไม่ต้องโหลดอะไรเพิ่มเติม

CHROMECAST : SPOTIFY YOUTUBE 

เป็นฟีเจอร์พื้นฐานเลยสำหรับการโยนหน้าจอมือถือไปบนทีวี ตัวนี้มันทำได้มากกว่าแค่ CAST หน้าจอพวก Youtube หรือ ภาพเพลง มันสามารถโยนทั้ง Facebook live หรือ วีดีโอได้สบายๆรวมถึง Netflix ก็โยนไปได้ด้วยไม่ต้องใช้แอปก็ได้ด้วยเช่นกัน และ จากหน้า Chrome บนคอมพิวเตอร์ก็สามารถ Cast Tab นั้นขึ้นไปได้เช่นกัน รวมถึงสายทำงานพวก Slide ก็สามารถโยนหน้าจอไปได้ด้วย นอกเหนือจากมือถือ ตัวคอมพิวเตอร์ที่ใช้งานก็สามารถ Cast Tab ที่เราดูอยู่ขึ้นไปได้ด้วย รวมถึง ทั้งหน้าจอได้เลยแหละ และยังรองรับ Cast ตรงๆได้เช่น Netflix บนคอม หรือ Youtube ถ้าหากใครไม่อยากใช้มือถือ Cast ขึ้นไปครับ ก็เป็นฟีเจอร์ที่ยังเด่นอยู่เช่นกัน

แน่นอนว่าการที่รองรับ CAST ทำให้สามารถใช้งานได้ปกติครับเป็นหน้าตาแบบ Youtube TV เลยใช้งานคำสั่งเสียงค้นหาได้ด้วยเช่นกันและสามารถ CAST จากมือถือไปได้เลยง่ายๆ ในส่วนนี้ทำให้ใช้งานสะดวกเลยทีเดียวรวมถึงการเชื่อมบัญชีทำงานได้ง่ายมาก และ YOUTUBE ก็สามารถโยนไปบนจอทีวีได้ง่ายๆจากมือถือ

การใช้งาน Spotify นั้นรองรับการใช้งาน สามารถเชื่อมต่อได้ทั้งแบบส่งเพลงขึ้นไปแบบ Cast เพลงไปหรือว่าจะเป็นการ Log In ก็ได้เช่นกัน ใช้งานได้ไม่ยากเลย สำหรับการ Log In ถ้าใครมี ID บนมือถือแล้วก็เพียงแค่กดส่งเพลงขึ้นไป หรือจะเป็นการใส่โค้ดเพื่อทำการ Log In ได้ทำให้ใช้งานได้เต็มรูปแบบดูเพลง อัลบั้มได้ทั้งหมดเลยถือว่าใช้งานค่อนข้างครบและหน้าตาสวยใช้งานได้ดี

NETFLIX 

ในการดูหนัง NETFLIX ก็ถือว่า ภาพที่ได้สวยและคมชัดรองรับสูงสุด FHD และขับเสียงได้ ดีพอสมควรครับจะรองรับ Dolby / DTS  แต่เสียงจะไม่รองรับพวก 7.1 หรือ Atmos พวกนี้นะครับ ถือว่ารองรับได้สบายถ้าหากเทียบกับเรทราคาของตัวทีวี ทั้ง 2 รุ่นนี้สามารถใช้งานได้ปกติทั้งหมด มีขึ้น HD HDR รองรับความละเอียดสูงสุด หน้าตาใช้งานทั่วไปปกติ เท่าที่ลองนั้นไม่เจอปัญหาในการดูอะไรแต่อย่างใด ภาพที่ออกมาสวยคมชัดสูงสุดนั้นเอง

PLAYSTORE 

การโหลดแอปเพิ่มเติมนั้นสามารถทำได้ครับมีให้เลือกค่อนข้างเยอะทั้งของไทยเช่น TrueID TV หรือจะเป็น JOOX Line TV และอีกมากมายเลยก็เป็นข้อดีของการใช้งาน Android TV ทำให้ค่อนข้างอิสระ การรองรับนั้นย่อมดีกว่า Android ทั่วไปที่มาแปลงใช้งานบททีวีเยอะ ทั้งการรองรับและการใช้งานรวมถึงความนิ่งในการใช้งาน เป็นจุดสำคัญเลยจริงๆเพราะถ้าเน้นใช้งานนิ่งๆยังไงทาง Android TV ก็ยังคงได้เปรียบกว่าในเรื่องนี้ครับและแอปรองรับ

GOOGLE ASSISTANT 

การใช้งานคำสั่งเสียงนั้น ก็สามารถพูดกับตัวรีโมทได้เลยครับกดปุ่ม Assistant และพูดใช้งานได้เลยรองรับภาษาไทย-อังกฤษได้ดีครับทำให้ทีวีเราเทพขึ้นมาก และ นอกเหนือจากแอปพื้นฐานนั้นก็สามารถโหลดใช้งานได้เพิ่มเติม และด้วยพื้นฐานของระบบ แน่นอนว่าเล่นเกมได้ในตัวครับ MTK ที่ใส่เข้ามาในตัว realme TV ก็พอใช้งานสบายๆ

REALME SMART TV 

” SMART TV ฟีเจอร์เด่น  ลำโพงดี หน้าจอสวย ในราคาที่จับต้องได้จาก realme “

ถ้ามองว่าเรทราคา 4-8 พันตัวนี้ถือว่าดีกว่าคู่แข่งหลายๆตัว ทั้งเรื่องของลำโพง 4 ตัว กำลังขับสูง และหน้าจอ LED ที่มีเทคโนโลยีช่วยเหลืออะไรเยอะแยะมากทำให้รองรับความสว่าง ความสวยสดของหน้าจอและสู้แสงได้ดีรวมถึง ฟีเจอร์อะไรเยอะแยะเท่ากันทั้ง 2 รุ่น ขอบหน้าจอบางสวยงามและ การรับประกัน 3 ปี รวมถึงการใช้งาน MTK Quad Core 64-bit ทำให้การรองรับการใช้งานค่อนข้างเหลือๆอันนี้ถือว่าเป็นจุดดี เมื่อเทียบกับเรทราคานี้ในราคาเปิดตัว ทำให้มีความโดดเด่นอย่างมากในการใช้งานก็เป็นการลุยตลาดที่ทำราคาได้ดีกว่าที่คิดไว้ในตอนแรก และของจริงก็สมราคาใช้งานได้ดีเลยทีเดียวแหละ แต่แน่นอนว่าพาแนลจอก็ตามเรทราคารวมถึงวัสดุก็จะเป็นพลาสติกส่วนใหญ่

ข้อดี

  • เป็น Smart TV ที่เปิดราคามาได้จับต้องง่าย
  • หน้าจอ แสงสีสวยงาม และ มีความสว่างพอสมควร
  • รองรับฟีเจอร์ครบ Android TV
  • รองรับ NETFLIX HDR – HD ในตัว 43 นิ้ว
  • ลำโพง 4 ตัวเสียงดังสะใจ รองรับ DOLBY
  • พอร์ตใช้งานค่อนข้างครบ ทั้ง 2 รุ่นหน้าจอ
  • งานออกแบบเรียบง่าย และมีน้ำหนักเบา
  • รองรับคำสั่งเสียงผ่านทาง รีโมทพร้อมใช้งาน ภาษาไทย
  • มีเมนูภาษาไทยเป็นปกติของ Android TV
  • รองรับการถอดรหัส HDR10 HLG

ข้อสังเกต

  • ตัว 32 นิ้วควรจะเป็น FHD ได้แล้ว
  • Software น่าจะมีอัปเดตให้ลื่นไหลขึ้นกว่านี้ในอนาคต

หรับรีวิวนี้ผมก็ต้องขอตัวลาไปก่อนสำหรับรีวิวรุ่นต่อไปนั้นจะเป็นรุ่นอะไรอย่าลืมติดตามกันนะครับ ถูกใจฝากกดไลค์กดแชร์ด้วยนะครับ  มีข้อผิดพลาดประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ  เพื่อนๆสนใจอยากให้พวกผมรีวิวรุ่นไหนสามารถ Inbox มาบอกพวกเราได้เลยนะ
ฝากไลค์เพจ FACEBOOK เราด้วยนะครับ >>>>>>>>>  TECHHANGOUT

เข้าร่วมกลุ่ม TECHHANGOUT พูดคุยแลกเปลี่ยน ข้อมูล คุยกันเองชิลๆได้เลยที่ — Facebook  Techhangout พูดคุย Smartphone gadget 

Review By Nineztr

Comments กันได้เลย !

Comments

0 Shares