Razer เป็นแบรนด์ Gaming Gear ที่หลายๆคนน่าจะรู้จักกันดีครับแน่นอนว่ามีสินค้าหลากหลายให้ใช้งานกันในครั้งนี้เราจะมาอยู่กับหูฟังตัวเทพรุ่นล่าสุดจากทาง Razer ครับแน่นอนว่าพึ่งเปิดตัวกันไปสดๆร้อนๆและในไทยก็พึ่งเอาเข้ามากันเลย รุ่นนี้มีจุดเด่นหลักๆคือการออกบบที่ใส่สบายมากขึ้น วัสดุแบบหนังผสมผ้าในตัวครอบหู และ ในรุ่น Ultimate นั้นมีการใช้งานระบบสั่น Hypersense ที่ทำให้สั่นตอบสนองเวลาใช้งานครับ แต่ในรุ่นที่เรามารีวิววันนี้จะเป็นรุ่นกลาง ไม่มีระบบสั่นแต่ ระบบเสียงการออกแบบและคุณภาพนั้นเหมือนกันทุกอย่างเลยรวมถึงตัวไฟ Chroma
Razer Nari วางจำหน่ายในสามรุ่น ได้แก่ Razer Nari Ultimate, Nari และ Nari Essential สำหรับ Razer Nari ตัวนี้อยู๋ระหว่างกลางครับ ซึ่งไม่มี Razer HyperSense ที่สั่นตามจังหวะ แต่ยังคงมอบความสะดวกสบาย เทคโนโลยีเสียง และคุณสมบัติอื่นๆ เช่นเดียวกับ Razer Nari Ultimate และรองรับเสียง THX Spatial Audio นวมครอบหูที่มีเจลเย็นภายใน และ วัสดุที่เป็นผ่าน ผสมกับหนังทำให้เวลาใส่นั้นสบายมากยิ่งขึ้นครับ และมีไฟ Chroma มาอีกด้วยใน่สวนของโลโก้ทั้งซ้ายละขวา ตัวหูฟังมีขนาดใหญ่และกระชับ รองรับไร้สายและแบบมีสาย
สำหรับราคา Razer Nari ตัวนี้ในไทยเปิดราคามาที่ 5800 บาท ประกัน 1 ปี และหาซื้อกันได้เลยวันที่ 10 ตามร้านค่าทั่วไปครับ ส่วนรุ่นอื่นๆนั้นยังไม่เข้ามานะครับอันนี้ต้องรอติดตามกันไปว่าจะมาในช่วงไหน สำหรับตลาดประเทศไทย
UNBOX
ตัวกล่องมีขนาดใหญ่ตามขนาดของหูฟังครับอุปกรณ์มีมาให้ครบเพียงพอต่อการใช้งาน มีคู่มือ สติกเกอร์ สายชาร์จแบบ Micro-USB สายรู 3.5 มม. เป็นสายถักทั้งหมด และ หูฟัง พร้อมกับ Wireless Adaptor ในตัวครับ ผม
DESIGN
การออกแบบตัว Razer Nari นั้นเมื่อดูรวมๆจะคล่ายกับรุ่นก่อนหน้านี้ที่รีวิวไปครับทั้งตัวทรง ขนาดและ ก้านข้างบนแต่ก็มีการปรับเปลี่ยนรายละเอียดเล็กๆน้อยครับสำหรับการใช้งานเพื่อใช้งานได้ดีขึ้นและสบายขึ้นรวมถึงพวกวัสดุพวกนี้ขนาดความหนานุ่มของฟองน้ำพวกนี้ก็ได้มีความเปลี่ยนแปลงครับผม และ มีไฟ Chroma มาด้วยเช่นกันครับ
ทางด้านทั้ง 2 ข้างของทางหูฟังนั้น มาเริ่มกันที่ฝั่งซ้ายของหูฟังกันก่อนครับ ด้านซ้ายนั้นจะเป็น รู 3.5 มม รูช่องชาร์จแบบ Micro-USB และ ปุ่มเปิดปิดครับ และมีแถบเลื่อนควบคุมว่าจะเน้นเสียงเกมส์หรือเสียงคุยครับ และ ปุ่ม Mute มากันที่อีกด้าน ด้านนี้จะเป็นการควบคุมเสียงหลักครับ และ มีที่เก็บตัวรับสัญญาณไร้สาย 2.4 Hz ครับ เสียบเข้าได้เนียนเลยแหละค่อนข้างสะดวกและ มีแม่เหล็กแอบดูดเข้าด้วย ไม่ต้องกลัวหายแบบรุ่นของ Thresher ไร้สาย นะครับ
ด้านการออกแบบซ้ายขวาก็ยังมีตระแกรงเช่นเดิมครับ มาพร้อมโลโก้ครั้งนี้มีไฟมาด้วย สามารถปรับได้ในโปรแกรมอัพเดทล่าสุดนะครับ ขยับได้ค่อนข้างอิสระเหมาะกับทรงหัวของแต่ละคนได้ดีครับ มีขนาดใหญ่พอสมควรครอบหูได้สบายและมีความหนาทำได้ดี ใบหูไม่ชนเหมือนรุ่นก่อนหน้านี้ มาที่ข้อต่อต่างๆนั้นดูแข็งแรงเป็นเหล็กและด้านข้างบนก็ยังใช้เหล็กที่มีการให้ตัวค่อนข้างดีและกระชับไปในตัวด้วยสายสลิงครับ ตัวฟองน้ำส่วนบนนั้นด้านในเป็นผ้าตาข่าย และ ส่วนด้านนอกเป็นหนังและเขียนชื่อแบรนด์ลงไปครับผม ความหนาทำได้ดีไม่ได้ฟองน้ำบางๆแล้วเวลาใส่ค่อนข้างสบายเลยแหละ ไม่บางแบบรุ่นก่อนๆแล้วครับในส่วนฟองน้ำส่วนบนตามภาพกดลงไปนิ่มๆ
มาที่ตัวจุดเด่นอีกอย่างคือตัว แพดที่ครอบหูตัวนี้มีขนาดใหญ่ครอบคลุมทั้งหูได้สบายเลยแหละ มีความหนาดีมาก ใบหูไม่ชนกับตัวข้างในแล้ว รวมถึงการใช้วัสดุผ้า ผสมกับหนังทำให้ระบายความร้อนได้ดีมากกกก และ มีเจลลดความร้อนอยู่ข้างในด้วยครับแอดมินลองใช้งานนานๆ พอใจกว่ารุ่นก่อนหน้านี้มากก แม้จะไม่เปิดแอร์ก็สบายครับนิ่มนุ่มเลยแหละ
SPEC
- Frequency response: 20 Hz – 20 kHz
- Impedance: 32Ω at 1 kHz
- Sensitivity (@1 kHz): 107 ± 3 dB
- Input power: 30 mW (Max)
- Drivers : 50 mm, with Neodymium magnets
- Inner ear ขนาดส่วนข้างใน : Width 56mm / Length 67mm
- Oval ear cushions: แพดครอบหู ใส่สบาย และมี cooling gel ภายใน
- การเชื่อมต่อ : ไร้สายผ่านทาง USB Transceiver / สาย 3.5 มม.
- Wireless frequency: 2.4 GHz
- Analog connection: 4 – pole
- การใช้งานแบต : 14 ชั่วโมงแบบเปิดไฟ Chroma / 24 ชั่วโมง แบบไม่เปิดไฟ Chroma
- รองรับระบบเสียง THX Spatial Audio
- มี Cooling Gel-Infused ในตัวแพกครอบหู
- ระบบปรับเสียง คุย และ เสียงเกม
- ระบบเสียง Lag-Free Wireless Performance
- มีไฟ Razer Chroma™
SOFTWARE
สำหรับซอฟท์แวร์ตัวนี้ยังคงใช้ Synapse 3 อยู่นะครับและต้องอัพเดทล่าสุดด้วยถึงจะหาเจอครับใครไม่ขึ้นแนะนำให้ลองหาอัพเดทกันก่อนนะครับก่อนจะเชื่อมต่อปรับแต่งอะไรพวกนี้ ถ้าไม่อัพเดทก็ฟังเพลงได้ แค่ปรับอะไรไม่ได้ครับ หน้าแรกที่เชื่อมต่อเลยมันจะบอกว่าตัวหูฟังนี้นั้น สามารถปรับเลือกได้ว่าเราจะเอาเสียง คนในทีม หรือ เสียงเกม ที่เน้นมากกว่ากันครับสามารถปรับได้ และ อีกข้างนั้นจะเป็นปรับสำหรับเสียงโดยรวม ก็เป็นอีกฟีเจอร์ที่ทำได้ดีเลยแหละ
หน้าต่อมาเป็นการปรับแต่งเสียงว่า โปรแกรมไหนจะเอาเสียงรอบทิศทาง หรือ เสียงซ้ายขวาครับสำหรับผมแนะนำว่าฟังเพลง อะไรพวกนี้ปรับเป็น Strero ไว้ดีกว่า ส่วนในเรื่องของเกม หนังนั้นแนะนำปรับ Surround ไว้ครับจะสนุกมาก และในด้านขวานั้นเป็นการปรับแต่งให้เสียงนั้นรอบทิศทางและทดสอบว่าตรงไหม ถ้าไม่ตรงก็ตั้งค่าใหม่ได้ครับ
มาที่หน้าต่อไปกันเลย อันนี้มาที่การแต่งเสียงละว่าชอบแบบ เบสหนักๆแน่น ในแถบด้านบนซ้าย หรือ เสียงคนร้อง เสียงใสแหลมมากกว่ากัน ในแถบด้านบนขวา ครับผม ก็สามารถปรับได้เลยครับ หรือตัวช่วยในการปรับเสียงให้มีความสมดุล ไม่ดังไปในทุกๆย่านเสียงของตัวเพลงหรือเกมที่เราเล่นครับ
มาถึงตัวไฟตรงโลโก้กันบ้างตัวนี้ปรับแต่งความสว่างได้ ปรับว่าจะปิดตอนไหน และยังเปลี่ยนสี การกระพริบอะไรได้ครับซึ่งสามารถทำได้หลักๆคือ แบบหายใจ ไฟวนสีไปเรื่อยๆ และ กระพริบครับผม หรือจะไปเล่นใน Chroma Studio ก็ได้เช่นเดียวกันครับซิงค์กับพวก เมาส์ คียบอร์ดได้เลย
ต่อมาในเรื่องของตัวไมค์กันบ้างครับ เราสามารถปรับได้ว่ารับเสียงได้เอาดังแค่ไหนครับ ความไวเสียงที่รับเข้า ปรับเสียง Sidetone ได้ว่าจะได้ยืนเสียงตัวเองดังแค่ไหน ปรับเสียงไมค์ สมดุลเสียง ลดเสียงรบกวน และ ความใสชัดได้
หน้านี้จะเป็นการปรับแต่งในเรื่องของเสียงที่เราฟังว่าจะปรับ Equalizer ยังไงเน้นเสียงแนวไหนครับสามารถปรับได้เองหรือเลือกตามที่เค้าตั้งมาให้ได้ครับ อันนี้เลือกกันได้เลยว่าเอาย่านความถี่เสียงด้านไหนเด่น ด้อยกว่ายังไงครับ
อันสุดท้ายก็เป็นการควบคุมพลังงานครับว่าปิดตัวเองเมื่อไม่ได้ใช้นานเท่าไรก็สามารถปรับได้เลยครับ ก็เป็นประมาณนี้สำหรับตัวโปรแกรม ปรับได้ค่อนข้างเยอะแหละหลากหลายทั้งไมค์ เสียง และตัวไฟครับสำหรับ Synapse 3
SOUND
มาถึงการใช้งานจริงกันบ้างครับสำหรับหูฟัง Razer Nari ตัวนี้มีขนาดค่อนข้างใหญ่ครับ เมื่อแรกจับนั้นแอบรู้สึกถึงความใหญ่และหนัก สำหรับใครตัวเล็กหรือทรงหัวที่ค่อนข้างเล็กอาจจะดูแปลกๆไปซักหน่อยครับแต่สำหรับที่แอดมินให้ สาวๆนั้นได้ลองใช้งานก็ยังไม่เจอใครที่บ่นว่าหนักหรือบีบหัวอะไรพวกนี้นะครับ ถือว่าไม่เลวร้ายและก็แอบชอบความนิ่มและใส่สบายของตัวที่ครอบหูครับ ไม่ได้บีบรัดหรือร้อนอบเลยน่าจะเป็นส่วนของผ้าเข้ามาช่วยในจุดนี้ครับ
เมื่อเวลาใส่นั้นจะได้ตามภาพเลยให้เห็นถึงความหว้าง ขนาดและทรงโดยรวมของตัวหูฟังครับจากที่ลองนั้นเอาจริงๆคือใส่สบายเลยนะ ทั้งด้านบนหัว การกระชับด้านข้าง และรวมๆคือไม่ได้รู้สึกกด บีบ หรือ รัดอะไรเกินจำเป็นครับใส่นานๆใช้ได้เลย สำหรับตัวแอดมินนะครับ และ ก้านเหล็กข้างบนก็ไม่ได้รับทรงหัวอะไรเท่าไร และขนาดกำลังดีไม่เล็กเกินไปตัวครอบหูทำได้ดีเต็มใบหูและความลึกรองรับใบหูไม่ไปชนข้างในครับการใส่ความสบายเอาจริงๆเลย โอเคมากๆเลยครับเป็นหูฟังในไม่กี่รุ่นที่ลองแล้วใส่ค่อนข้างสบายมากๆ นุ่ม ไม่ร้อน และ ระบายได้ดี ไม่บีบ และ ไม่รัดครับผม 
มาที่เรื่องของเสียงกันบ้าง ตัวเสียงของรุ่นนี้ยังคงแนวเสียงแบบเดิม ไม่ได้แตกต่างกันมากครับเสียงจะเน้นไปที่เสียงต่ำ และเบสที่มาเยอะหน่อย เสียงแหลมมากลางๆครับ เสียงอันนี้คือปรับปกตินะครับทื่ลองจริงๆตัวเสียงเราก็พอทำใจแล้วหละว่ามันคือหูฟังสำหรับเกมครับ ใครที่หวังเรื่องเสียงมาใช้งานฟังเพลง อะไรด้วยอาจจะต้องมองตัวอื่นเลย เพราะตัวนี้เสียงมันปรับมาเน้นเกมจริงๆ เสียงรอบทิศทางทำได้ดีอันนี้คือจุดเด่นครับเสียง บอกทิศทางได้เป๊ะมากๆเวลาเลนเกมครับเสียงเบสที่บอกว่ามาเยอะจะช่วยให้เล่นเกมได้มันส์มากขึ้นเวลายิงปืน หรือ ขว้างระเบิดพวกนี้สนใจมากๆครับ สะใจเลยแหละ เสียงทั้งไร้สายและต่อตรงไม่ได้ต่างกันมากครับไม่มีอาการหน่วงเลยทั้ง ลองกับคอมพิวเตอร์และมือถือ ส่วนเสียงคุยที่สามารถปรับได้ระหว่าง เกม กับ คนในทีมอันนี้ช่วยได้เยอะครับปรับได้ง่ายและไวมาก อันนี้ชอบ
ตัวไฟนั้นสว่างและปรับได้หลากหลายเป็นปกตของพวก Chroma ครับ และตัวไมค์รับเสียงกันบ้างไมค์ตัวนี้ สามารถกด Mute ได้และจะมีไฟสีแดงขึ้นมาครับ ส่วนในเรื่องคุณภาพไมค์นั้นจากที่สอบถามเพื่อนๆในทีมและลองฟังเองอัดเสียงเวลาเล่นเกม แคสเกม นั้นต้องบอกว่าเสียงออกมาดังชัด แต่ความนุ่มของเสียงไม่ได้ดีมากนักออกไปทางแข็งๆมากกว่าครับ ระบบตัดเสียงไมค์ก็ทำงานได้ดี ไม่มีปัญหาเสียงคนพูดชัด เสียงลม เสียงรบกวนค่อนข้างน้อย แต่ติดแค่ไมค์เวลาเราพูดเสียงมันไม่นุ่มเท่าไร แค่นั้นเองสำหรับไมค์ตัวนี้ครับผม แต่ถ้าไม่ซีเรียสตัวนี้ดูดเสียงพูดได้ดีแหละ
RAZER NARI : หูฟังตัวเทพไร้สาย ผ้าใส่สบาย และ เสียงรอบทิศทาง
เป็นหูฟังที่ทำออกมาเด่นๆคือเรื่องความใส่สบายครับตัวนี้รู้สึกได้ชัดเจนว่าเออใส่สบายไม่หนีบ ไม่รัด และ ตัวผ้า ความนิ่มอะไรมันลงตัวไปหมด และ ครอบหูได้ทั้งหมดเก็บเสียงได้ดี และ ความลึกนั้นไม่ชนใบหู การออกแบบดูออกว่าเป็น Razer ปรับเปลี่ยนนิดหน่อย วัสดุสีดำพลาสติกด้าน ผสมกับเหล็กและมีไฟตรงโลโก้ ค่อนข้างครบเลยแหละ ส่วนฟีเจอร์เสียงอะไรยกมาจากรุ่น Ultimate เลยแค่ไม่มีระบบสั่นเท่านั้น เสียงรอบทิศทางทำได้ดี เล่นเกมดีครับ แต่เรื่องคุณภาพตัวเสียงโดยรวมไม่ได้พัฒนามากขึ้นมากนัก ไม่ค่อยแตกต่างจากรุ่นก่อนๆเท่าไรในเรื่องคุณภาพรวมๆครับ และ มีขนาดใหญ่ และ หนักสำหรับบางคนก็เป็นได้ แต่สำหรับผมนั้นถือว่าไม่เป็นปัญหาเลยครับ
ข้อดี
- ครอบหูได้ค่อนข้างดี เก็บเสียงได้ดี และ หนาลึก ไม่ชนใบหู
- มีไฟ Chroma ในส่วนของโลโก้
- แบตใช้งานได้นานมากๆถือว่าอึดเลยแหละ
- มีที่เก็บตัวรับสัญญาณในตัวสะดวกดี
- วัสดุผ้าใส่สบายกว่าเดิมมากๆ
- เจลลดความร้อนช่วยตอนใส่นานๆได้ดีกว่าแบบเดิม
- เสียงรอบทิศทางทำได้ดี เวลาเล่นเกม FPS
ข้อสังเกต
- ขนาด และ น้ำหนักอาจจะใหญ่ หนัก ไปสำหรับบางคน
- วัสดุผ้าอาจจะต้องดูแลกันมากกว่าเดิม ทำความสะอาดยากหน่อย
- คุณภาพเสียงโดยรวมไม่ได้ต่างจากเดิมมาก
สำหรับรีวิวนี้ผมก็ต้องขอตัวลาไปก่อนสำหรับรีวิวรุ่นต่อไปนั้นจะเป็นรุ่นอะไรอย่าลืมติดตามกันนะครับ ถูกใจฝากกดไลค์กดแชร์ด้วยนะครับ มีข้อผิดพลาดประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ
ฝากไลค์เพจ FACEBOOK เราด้วยนะครับ >>>>>>>>> TECHHANGOUT
เข้าร่วมกลุ่ม TECHHANGOUT พูดคุยแลกเปลี่ยน ข้อมูล คุยกันเองชิลๆได้เลยที่ — Facebook Techhangout พูดคุย Smartphone gadget
