OPPO ได้ทำการเปิดตัว ตระกูล F สานต่อรุ่นเดิมและในครั้งนี้ก็ได้พัฒนาอะไรหลายๆอย่างมากขึ้นหลักๆคงหนีไม่พ้นการออกแบบ และใช้หน้าจอแบบรุ่นเรือธงแบบไร้ติ่งด้วยนั่นเองครับดีไซน์ได้สวยงามกว่า R17 Pro ไปอีกในด้านหน้าและแน่นอนว่าการทำไร้ติ่งนั้นจึงจำเป็นต้องมีกล้องหน้าแบบ Rising Camera ที่เลื่อนขึ้นลงอัตโนมัตินั่นเองครับ และการออกแบบโดยรวมนั้นลงตัวเลยแหละ รวมถึงการยกเครื่อง Colour OS ตัวใหม่สวยงามกว่าเดิม และกล้องหลังที่ถ่ายได้โหดขึ้น แน่นอนว่าหลายๆอย่างดีขึ้นเรามาดูกันดีกว่าว่ารุ่นนี้จะน่าสนใจและมีอะไรเจ๋งๆอยู่บ้างครับ

OPPO F11 Pro นั้นเปิดตัวมาด้วยการชูเรื่องของ กล้องหลังคู่ความละเอียดถึง 48 ล้าน + 5 ล้านพิกเซล  อีกทั้งยังเป็นการใช้กล้องหน้าแบบ เลื่อนอัตโนมัติ Rising Camera ด้วยทำให้ได้หน้าจอเต็มตาไร้ติ่งรบกวน และ ไม่มีการเจาะรูอะไรทั้งนั้น มาด้วยขนาด 6.5 นิ้วกว้างเต็มตาไร้สิ่งกีดขวาง ด้วยสัดส่วนหน้าจอต่อตัวเครื่องมากถึง 90.9%  แบตเตอร์รี่ขนาด 4,000 มิลลิแอมป์ มาคู่กับเทคโนโลยี VOOC 3.0 ชาร์จไวขึ้น 20% อีกทั้งยังมีเทคโนโลยี Hyper Boost ทำงานร่วมกับ MediaTek Helio P70  ที่ทำให้สามารถเล่นเกม ดูหนัง หรือใช้งานหลายแอปพร้อมกันได้อย่างลื่นไหล

OPPO F11 Pro มีให้เลือก 2 สี คือ Thunder Black และ Aurora Green มาพร้อมราคา 10,990 บาท เปิดพรีออเดอร์ 16 มีนาคม 2562 เป็นต้นไป รับฟรี Smart Bag และ VIP Card มูลค่ากว่า 6,590 บาท (ของแถมมีจำนวนจำกัด)

UNBOX

กล้องมาพร้อมกับเขียนชื่อรุ่น รูปทั้งหน้าและหลังชัดเจนครับ พร้อมกับมุมบนซ้าย บอกความจุ และ RAM มาให้เรียบร้อย อุปกรณ์ในกล่องให้มาค่อนข้างครบทั้ง ฟิลม์ เคส พวกนี้ก็พร้อมใช้งานตั้งแต่แกะกล่องเลยนั้นเอง

  • ตัวเครื่อง OPPO F11 PRO
  • เคส TPU คลุมด้านหลัง
  • สายชาร์จ Micro-Usb รองรับ VOOC 3.0
  • Adaptor VOOC 3.0
  • ที่จิ้มซิม  คู่มือ
  • หูฟัง 3.5 มม.
  • ฟิลม์กันรอยติดมาให้แล้ว

ตัวเคสนั้นตอนแรกคิดว่าจะเป็นแบบเคสแข็งแต่จริงๆแล้วนั้นเป็นเคสแบบนิ่ม TPU ที่คุ้นเคยกันดีแต่ไม่ย้วยแบบตัวอื่นๆครับมีความแข็งแรงและเป็นทรงมากกว่าตัวอื่นๆเคสคลุมเครื่องได้ดีทั้งหน้าและหลังปกป้องกล้องและหน้าจอเวลาวางได้เป็นอย่างดี แต่เคสเปิดทั้งบนหัว และ ท้ายค่อนข้างเยอะมากทำให้เวลาตกอะไรอาจจะไม่ป้องกันเท่าไรนักครับเป็นข้อมูลไว้สำหรับใครที่อยากรู้ว่าเคสที่แถมเป็นยังไงแต่ก็ดูดีกว่าตัวอื่นๆนะครับ ไม่กัดเครื่องด้วยโอเคเลยแหละ

DESIGN

การออกแบบในรุ่นนี้มาพร้อมกับดีไซน์แบบใหม่ทั้งหน้าและหลังโดยรวมสวยงามใช้ได้และกล้องอะไรต่างๆนั้นสมมาตรดีครับรวมถึงกล้องหน้าแบบ Rising Camera นั้นก็ตำแหน่งเดียวกับกล้องหลังและวางไว้กลางตัวเครื่องแบบสวยงามเลยอันนี้ชอบการออกแบบตรงนี้มากๆ รุ่นนี้ยังมาพร้อมกล้องหลัง 2 ตัวที่รองรับการถ่าย 48MP + 5MP และ ยังถ่ายแสงน้อยได้สวยงามและมีโหมด Ultra Nightmode มาให้ด้วย สแกนนิ้วยังมีที่ด้านหลังและฝาหลังเป็นการไล่สี เขียวน้ำเงินครับ

หน้าจอนั้นเป็นหน้าจอแบบ  Panoramic Screen ขนาดใหญ่ 6.5 นิ้ว FULLHD IPS LCD Gorilla Glass 5  เต็มตาไม่มีติ่งรบกวนพร้อมกับขอบด้านข้างและด้านบนที่บางเอาเรื่องเลย แต่ขอบด้านล่างยังหนาอยู่ครับอย่างที่เจอในหลายๆตัว

ขอบด้านบนนั้นจะไม่มีกล้องหน้า ไม่มีอะไรให้กวนใจแต่จะเห็นเป็นลำโพง สนธนาที่เนียนๆอยู่ตรงขอบหน้าจอครับและพวกเซนเซอร์ต่างๆนั้นจะย้ายไปอยู่ขอบด้านบนทั้งหมดเลยนั้นเอง ถือว่าดีไซน์ขอบอะไรได้บางสวยงามดีครับ

กล้องหน้านั้นซ่อนอยู่และจะเลื่อนขึ้นมาอัตโนมัติเมื่อเราใช้งานกล้องหน้า หรือ สแกนหน้าเวลาเข้าเครื่อง แน่นอนว่าการออกแบบก็สวยงามขอบข้างๆนั้นจะเป็นแบบกระจกใสทำให้เห็นข้างหลังด้วย และตรงตัวกล้องก็เป็นสีดำเป็นแรงบัลดาลใจมากจากพวกอำพันและขวดน้ำหอมที่ใสๆและมีความโค้งมนนั้นเองครับ ถ้ามีไฟอะไรด้วยจะสวยเลยนะเนี่ย

ด้านขอบล่างนั้นจะมีความหนาพอสมควรด้วยการผลิตและการออกแบบเลยจำเป็นที่จะต้องมีขอบอยู่นะครับด้วยปัจจัยหลายๆอย่างและคุมไม่ให้ราคาสูงเกินไปด้วย และ ปุ่มควบคุมทั้งหมดนั้นอยู่บนจอและสามารถใช้งานเต็มจอได้สบาย

ขอบด้านล่างเครื่องเป็นรูลำโพงหลักครับ พร้อมกับ พอร์ท Micro-USB รวมถึง ไมค์ และ รู 3.5มม. เสียดายตรงนี้นิดหน่อยที่ยังเป็น Micro-USB แทนที่จะเป็น USB-C ครับ

ขอบด้านซ้ายนั้นเป็นที่อยู่ของถาดใส่ซิม และ ปุ่ม Power ที่มีการเล่นสีด้วยขีดฟ้าๆตรงกลางปุ่มก็เด่นดีครับและจะเห็นว่าฝาหลังนั้นโค้งลงมาขอบข้างๆด้วยทำให้เวลาจับถือนั้นสะดวกและจับได้ค่อนข้างง่ายกว่าแบบเรียบๆเยอะเลยแหละ

ด้านบนนั้น เป็นที่อยู่ในซ้ายสุดจะเป็นรูไมค์ ตรงกลางนั้นเป็นกล้อง Rising Camera รูปทรงเกือบจะเป็นวงรีและ ด้านขวา 2 จุดนั้นน่าจะเป็นพวกเซนเซอร์ที่ย้ายมาขอบด้านบนครับเพราะหน้าจอนั้นทำแบบไร้ขอบบางมากๆเลยแหละ

ขอบด้านซ้ายตัวเครื่องนั้นเป็นปุ่ม เพิ่ม-เสียงอยู่ในตำแหน่งที่ใช้งานได้พอดีและกดได้ง่ายครับ ส่วนวัสดุเป็นอลูมิเนียมทำสีแบบเดียวกับฝาหลังทั้งหมด แบบด้านๆเล็กน้อยครับโทนสีนี้ก็สวยดีเหมือนกันถ้าเจอแสงกระทบอะไรต่างๆ

ด้านหลังเป็นการออกแบบใหม่ที่เล่น 2 สีคือเขียวและน้ำเงินผสมกันและเล่นเลเยอร์แสงแบบตัว  S จะเห็นได้ชัดเจนเลยครับว่ามันเป็นคลื่นตัว S แน่นอนว่าถ้าใครดูรูปแรกของเราเวลาเจอแสงตรงๆนั้นจะเป็นตัว S ชัดเจนเลยทีเดียวพร้อมกับชื่อแบรนด์ และ เขียนว่า Design by OPPO แต่ก็แปลกๆไปนิดเพราะมันอ่านรวมๆจะเป็น OPPO DESIGN BY OPPO ก็แปลกดี ส่วนสแกนนิ้วก็มีมาให้ครับใต้กล้อง และ โมดูลกล้องก็เป็นชิ้นเดียวกันทั้งหมด กล้องหลังเป็น 2 ตัวหลักๆในการถ่ายและจับระยะ

ภาพนี้แอดมินทำให้เห็นว่าเมื่อโทรศัพท์ตก เวลาเราใช้งานกล้อง มือถือจะทำการเก็บกล้องเข้าไปเองเพื่อที่จะรักษากล้องมันไว้ทุกครั้งที่ โทรศัพท์จะหล่น หรือ โยนขึ้นไปนั้นมันจะทำการเก็บเข้าไปเลยและถามว่าต้องการใช้งานต่อไหมนั้นเองครับถือว่าเป็นระบบที่ฉลาด และ ทางผมก็ได้ลองทำตกก็ทำงานได้ดีเหมือนกัน และ ระบบนี้เคยเจอใน OPPO Find X มาแล้วรอบนึงและทางเราก็ชืนชมระบบนี้เช่นกันครับ อยากให้มีในทุกๆยี่ห้อเลยแหละ

SPEC

  • จอแสดงผล : 6.5 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ (2340 x1080) 397 ppi อัตราส่วนหน้าจอ 90.9%
  • ระบบปฏิบัติการ : Android 9.0 Pie ครอบทับด้วย ColorOS 6.0
  • ชิปเซ็ต : Helio P70
  • GPU : ARM Mali-G72 MP3 900MHz
  • RAM : 6GB
  • หน่วยความจำภายใน : 64GB  + เพิ่ม MicroSD Card ได้ถึง 256GB
  • กล้องหลังคู่ : 48MP F1.79 + 5MP F2.4
  • กล้องหน้า : Rising Camera 16MP F2.0
  • ถ่ายวิดีโอ : รองรับ 1080P / 720P ทั้งหน้าและหลัง
  • แบตเตอรี่ : 4000 มิลลิแอมป์ รองรับชาร์จเร็ว VOOC Flash Charge 3.0
  • รองรับ Dual Nano-SIM Cards (Hybrid slot)
  • การเชื่อมต่อ GPS: GPS/A-GPS/GLONASS/Beidou
  • Bluetooth: 4.2
  • WiFi 802.11 a/b/g/n/ac รองรับ 2.4GHz และ 5GHz
  • ขนาดตัวเครื่อง : 161.3 x 7.61 x 76.1 มิลลิเมตร
  • น้ำหนัก 190 กรัม
  • สี Thunder Black และ Aurora Green
  • ราคาเปิดตัวในไทย 10,990 บาท

PERFORMANCE

ประสิทธิภาพ ในตัวนี้มาพร้อมกับ MTK P70 และ ร่วมการทำงานกับระบบ Hyperboost จากทาง OPPO ช่วยเสริมสร้างประสบการณ์ของผู้ใช้ให้รวดเร็วและตอบสนองที่ดียิ่งขึ้น 30% ถึง 3 ด้าน ด้านเกมส์, ด้านระบบ และด้านแอพพลิเคชั่น ให้ผู้ใช้ได้รับประสบการณ์ที่ดียิ่งขึ้น ด้วยส่วนทางด้านคะแนน Antutu ทำได้ไป 147691 คะแนน ทดสอบหลายๆครั้งตอนแบตเยอะก็ได้ประมาณนี้นะครับ 147K ทั้งหมดทุกรอบ ส่วนคะแนน Geekbench ทำได้ 1580 และ 5946 ส่วนทางด้านความปลอดกัยปกติเลยได้ L3 ครับผมไม่สามารถดู NETFLIX ความละเอียดสูงได้ และ เก็บข้อมูลแบบ EMMC5.1

SOFTWARE UI : COLOUR OS 6

หน้าตาระบบรุ่นนี้มีการปรับปรุงอีกครั้งมาใช้ Colour OS 6 ร่วมกับ Android 9 หน้าตาเปลี่ยนไปพอสมควรครับทั้งการตั้งค่า การใช้งานทั่วไป แต่หน้าหลักๆนั้นยังคงมีมาคล้ายๆเดิมครับการแจ้งเตือนใช้ได้ มีเลขมุมแอพอะไรปกติครับไอคอนเป็นทรงกลมซะส่วนใหญ่ ขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่เกินไปลงตัวกับขนาดหน้าจอของตัวเครื่องครับ

หน้าการแจ้งเตือนและ Quick Setting นั้นเป็นอีกจุดที่เปลี่ยนแปลงค่อนข้างเยอะ ไอคอนการตั้งค่าอะไรเปลี่ยนไปทั้งหมด รวมถึงเป็นการใช้สี่เหลี่ยมด้วยครับ การปรับแสง การกดเข้าอะไรต่างๆนั้นได้เปลี่ยนแปลงไปทั้งหมดรวมถึงไอคอนรูปเฟืองก็เปลี่ยนไปด้วย เมื่อลากลงมาก็เป็นการตั้งค่าแบบเต็มครับ รวมถึงแบ่งหน้าจออะไรนั้นยังมีมาให้ปกติ

ทางด้านแป้นพิมพ์นั้นเป็นของ Google ที่คุ้นเคยกันดีครับใช้ง่ายและเสถียรมากๆ ส่วนหน่วยความจำพื้นที่ตัวเครื่อง มาให้ 64GB นั้นเหลือใช้งานได้ 49.3 หลังจากหักระบบออกไป และ RAM นั้นใช้งานเหลือ 1.97 จาก 6GB ครับ

กล้อง Rising Camera นั้นสามารถเปลี่ยนเสียงได้เวลาเลื่อนขึ้ยลงถ้าเราเปิดเสียงแจ้งเตือนของโทรศัพท์อยู่นะครับ ส่วนปุ่มนำทางสามารสลับตำแหน่งได้ และ สามารถใช้งานแบบเต็มจอได้ด้วยแบบปัดไปๆมาๆ และ การสแกนนิ้ว สแกนใบหน้าอะไรมีมาให้ครบครับ การสแกนหน้าแบบ 2 มิติ แสงน้อยสแกนยากนิดหน่อยครับ จะคนละแบบกับ FindX

ส่วนการโคลนแอพ อะไรทั้งหลายก็มีมาให้ครับผม รวมถึงตัว Game Space มาใหม่อันนี้น่าสนใจยังไงไปดูในหัวข้อ Gaming ได้เลย และ ยังมีผู้ช่วยอัจฉริยะมาให้ในการปัดมาด้านขวาในจอหลักจะคอยช่วยในการจัดการแจ้งเตือนอะไรต่างๆ หรือ ดูการใช้งานของเราว่าเน้นอะไรยังไงก็จะเสนอมาให้ใช้งานกันเลย อีกทั้งยังมีโหมดช่วยขับรถมาให้จะดูแลการแจ้งเตือน ขณะขับขี่ ระบบจะทำ การปิดเสียงการแจ้งเตือน ระบบจะใช้ตัวอักษรและ ปุ่มขนาดใหญ่ที่สามารถรับหรือปฏิเสธได้เท่านั้น และส่ง SMS ตอบกลับให้เองเลย

Smartbar แถบหน้าจอด้านข้างก็ รองรับการแชร์ไฟล์ที่เพิ่งเปิดขึ้นได้ เพิ่มเครื่องมือหรือแอพลิเคชั่น บันทึกหน้าจอในรูปแบบวิดีโอ และ จับภาพหน้าจอ นอกจากนี้ Smartbar ยังมีโฟลเดอร์การจัดการให้เพิ่มรายการโปรดเข้าไปเพื่อดูรายการโปรดได้สบาย Gesture นั้นยังมีมาให้ครบทั้งการวาด การใช้งานท่าทางต่างๆครับ

THEME 

สำหรับหน้าตาตัว UI สามารถปรับเปลี่ยนได้นิดหน่อยครับซึ่งมีให้เลือกในแอพธีม และสามารถปรับเปลี่ยนได้หลักๆคือหน้าต้า ICON หน้าตาหน้า Lockscreen และ Wallpaper รวมๆครับซึ่งหน้าโทร หน้าส่งข้อความจะไม่เปลี่ยนตาม

SCREEN : Panoramic screen

หน้าจอของทาง OPPO รุ่นนี้เต็มตามากขึ้นไม่มีติ่งแล้วเป็นครั้งแรกในตระกูล F เลยที่จัดเต็มหน้าจอแบบนี้มาให้หน้าจอนั้นมีขนาด OPPO F11 Pro มาพร้อมกับหน้าจอกว้างไร้ติ่งขนาด 6.53นิ้ว IPS LCC แบบ  FHD+ ให้อัตราส่วนหน้าจอต่อตัวเครื่อง 90.9%  Gorilla Glass 5 รองรับสูงสุดที่ 60FPS อัตราส่วน 19.5:9 ส่วนหน้าจอคุณภาพโดยรวมมุมมองตรงๆนั้นถือว่าใช้ได้ครับ รายละเอียดความสว่าง สู้แดดได้สบายและเร่งแสงได้เยอะรวมถึงความคมชัดอะไรไม่ได้แย่เลย และ สีสันค่อนข้างตรงครับ ส่วนเรื่องสัมผัสอะไรทำได้ไวและติดนิ้วได้ปกติครับไม่มีปัญหาในรุ่นนี้

ด้วยการที่เป็นจอแบบ LCD แน่นอนว่ามุมมองเวลาเอียงๆนั้นจะรู้สึกถึงความแตกต่างครับยิ่งเป็นสีดำพวกนี้เวลามองเอียงๆนั้นจะรู้สึกเลยว่ามันจะออกเทาๆไม่คมชัดแบบมุมมองตรงๆครับ และ ภาพก็จะดรอปลงนิดหน่อยแบบในภาพด้านบนครับเทียบกับมองตรงๆได้ค่อนข้างชัดเลย จริงๆพวกจอ LCD ก็เจอแบบนี้หลายๆตัวครับใช้งานจริงๆก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรแต่บางคนอาจจะชอบมุมมองแบบ ดำสนิท มุมไหนก็คมชัดเข้มเหมือนกันอะไรก็แล้วแต่ผู้ใช้งานกันเลยครับ เพราะถ้าเป็นภาพอะไรทั่วไปจะมองออกได้ค่อนข้างยากครับ แต่ถ้าเปิดหน้าจอดำๆเยอะๆนั้นจะค่อนข้างเห็นชัดครับ

SOUND 

ในด้านของเสียงผ่านหูฟังตัวนี้มีรู 3.5มม. ในด้านการออกแบบตัวหูฟังยังคงคล้ายเดิม มาในโทนสีขาวและครับ ในเรื่องของเสียงผ่านทางหูฟังแถมนั้นยังคงให้ความรู้สึกคล้ายของเดิมไม่ได้เด่นมากนัก กำลังขับ เบส หรือ เสียงนั้นค่อนข้างธรรมดา เสียงที่ได้ออกมา จะค่อนข้างออกไปทางโทนแหลมสูง ส่วนใน เรื่องของมิติ เวที เสียงมากลางๆครับผม สำหรับหูฟังที่แถมมาน่าจะเน้นเหมาะสำหรับใช้งานโทรศัพท์ หรือเวลาออกกำลังนั้นน่าจะเหมาะกว่าเวลาฟังเสียงเพลงครับ เสียงสามารถปรับเสียงแล้วแต่แนวคนชอบได้และปรับ EQ ได้ 3 ย่านหลักๆครับ ถือว่าแอบน้อยไปนิดนึงนะ

หูฟังแบบนี้ทรงคุ้นเคยกันแน่นอนครับ มีปุ่มควบคุมอะไรมาให้ 1 ปุ่มสำหรับกดรับสาย เปลี่ยนแปลง และมีไมค์มาให้ สายสีขาวค่อนข้างบางเล็กน้อยและใช้งานอาจจะเลอะง่ายตามแบบสีขาวครับ ส่วนหูฟังเป็นพลาสติกน้ำหนักค่อนข้างเบาใส่สบายเลยแหละใส่ออกกำลังได้สบายครับ ไม่ปวดหูและใส่นานๆได้สบายกว่าพวก InEar ทั้งหลายนะอันนี้ชอบ

GPS 

ส่วนของการนำทางตัวนี้แอดมินทดสอบนำทางจริงๆ และ ใช้แอพทดสอบเช่นเคยครับตัวนี้จากที่ทดสอบจริงๆพบว่านำทางได้ แต่ไม่ได้ดีมาก คือตัวการนำทางอัพเดทยังไม่ค่อยเป๊ะมากนักเมื่ออยู่ในเมืองมีการหันหัวผิดทิศไปบ้างและอัพเดทแอบช้าไปเวลาขับรถในบางจังหวะ ซึ่งก็เป็นอีกจุดที่ใครเน้นเรื่องนี้อาจจะต้องลองกันดีๆหน่อย มันเจอบ้างบางครั้งครับ ไม่ได้เจอทุกครั้งนะ ส่วนในการใช้แอพทดสอบนั้นก็จับได้ทั้งหมด 16 ดวง จากทั้งหมด 42 ดวงครับทั้งบนรถ และ ทางเดินเท้าปกติ ส่วนของกลางแจ้ง จับได้ทั้งหมด 16 ดวง จากทั้งหมด 44 ดวง นะครับ

BATTERY :  VOOC 3.0

แบตเตอรี่รุ่นนี้จัดเต็มมาให้ขนาดใหญ่ 4000 mAh พร้อมกับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว VOOC Flash Charge 3.0 ที่ชาร์จเร็วขึ้นกว่ารุ่นก่อน 20%  ใช้งานจนแบตหมด 0% และ เสียบชาร์จจับเวลากันเลยครับ 0-100% จะได้เท่าไรกันครับ จากที่ลองคือแบตหมดเกลี้ยงและใช้ที่ชาร์จในกล้องทั้งหมดนะครับ จากที่ทดสอบการชาร์นะครับเริ่มชาร์จตอน 09.57 ตีเป็น 10.00 และ ครึ่งชั่วโมงได้มา 52% และ ในเวลา 11.18 โดยประมาณ ก็เต็มพอดีเป๊ะครับ ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงนิดๆครับในการชาร์จไปเข้าเต็มถือว่าทำได้ไวพอสมควรเลยนะ VOOC 3.0 ในรอบนี้ครับ

อายุใช้งานกันบ้างแบตมามากถึง 4000mAh นั้นทำให้รองรับการใช้งานทั้งวันได้สบายๆครับจากที่ใช้งานคือ ทั้งหมด 12 ชั่วโมงจอเปิดเยอะพอสมควรตีเป็น 5 ชั่วโมงครับใช้งานถ่ายรูป โซเชี่ยลอะไรปกติ ฟังเพลง ดู  Youtube ครับแน่นอนว่าใช้งานได้ทั้งวันแบบไม่ต้องกังวล เหลือกลับมา 20% โอเคเลยครับเพราะเล่นเกมไป 2 ตาเกือบ ชั่วโมงได้

GAMING 

การเล่นเกมตัวนี้มาพร้อมกับ Game space ตัวใหม่หน้าตาแบบใหม่สวยงามและดูสายเกมมากขึ้นครับ เป็นแอพลิเคชั่นที่ออกแบบโดย OPPO เพื่อความสะดวกในการจัดการเกมในโทรศัพท์มือถือ โดยการใช้ Game Space ผู้ใช้จะสามารถจัดการเกมได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งมีทั้งหมด 3 โหมดด้วยกันคือ โหมดประสิทธิภาพสูง โหมดสมดุล และโหมดการใช้พลังงานต่า และสามารถดูสถานะ Wifi ความนิ่งอะไรได้ รวมถึงล็อคความสว่างอะไรพวกนี้ได้ครับ

เมื่อเราเข้าเกมไปแล้วนั้นและปักซ้ายออกมานั้นจะทำให้มีฟีเจอร์ที่จะช่วยได้คือการรองรับการใช้งานทางลัดเช่น การปิดการแจ้งเตือน การแจ้งเตือนข้อความ การทำงานหลายอย่างได้อย่างรวดเร็ว การจับภาพหน้าจอและการบันทึกหน้าจอในรูปแบบวิดีโอ ถือว่าสะดวกและใช้งานได้ดีครับจากที่ได้ลองมาซักพักในหลายๆเกมที่ลอง ส่วนการปรับภาพเกมนั้นได้สูงสุดตามภาพเลยในส่วนของ PUBG เล่นได้ลื่นตามระดับของ CPU ครับไม่หน่วงอะไรมาก แต่ในแง่ความสวยอาจจะไม่ได้โหดมากนักยังไงสามารถรอติดตามการทดสอบเกมหลายๆเกมได้แบบใน Video ทาง Youtube ได้เลย

CAMERA 

OPPO F11 Pro มาพร้อมกล้องหลังคู่ 48MP + 5MP กล้องหลักมีเซ็นเซอร์ภาพ 48MP พร้อมรูรับแสง F1.79 เซ็นเซอร์จะสามารถสร้างภาพให้ชัดเจนยิ่งขึ้น ด้วยการใช้เทคโนโลยี Tetracell ที่ข้อมูลจากสี่พิกเซลที่อยู่ติดกันจะถูกวิเคราะห์และรวมกันเพื่อให้ได้ข้อมูลเท่ากับขนาดพิกเซลเดียว 1.6μm เทคโนโลยีนี้นั้นทำให้จำนวนพิกเซลแสงที่มีจานวนสองเท่า จะช่วยตอบสนองความไวของแสงได้เร็วขึ้น และ ระบบโฟกัสนั้นใช้แบบ closed-loop VCM ซึ่งใช้เวลาในการโฟกัสเพียง 0.1 วินาที และยังมีในส่วนของ AI Scene Recognition ระบุประเภทภาพได้ถึง 23 ชนิด และปรับภาพให้เหมาะสมได้ถึง 864 ฉาก กล้องจากที่ได้ลองต้องบอกว่าถ่ายได้สวยขึ้นเยอะมากครับกลางคืนก็จัดว่าโหดเลยแหละ รวมถึงความไวในการโฟกัสก็ใชได้เลยครับไม่วืดวาดเท่าไรและยังมีโหมดกลางคืนมาให้เล่นด้วย

หน้าตาการถ่ายก็เปลี่ยนไปมากพอสมควรครับ โหมดอะไรต่างๆก็เปลี่ยนแปลงตำแหน่งกันไป แต่ที่ชอบคือรุ่นนี้มีฟิลเตอร์มาให้ ปกติมันก็มีมาให้แหละแต่รุ่นนี้มันทำออกมาใหม่และโทนสีมันดีมากๆจริงโทนจะเหมือนพวกแอพ VSCO อะไรแบบนี้น เกรดสีได้สวยถ่ายวิวถ่าย Street ได้สวยมากเลยอันนี้หลายๆคนอาจจะไม่รู้แต่บอกเลยว่าของดีมาก

แบบผ่าน Filter จบในแอพกล้องของตัวเครื่อง

48 MP คลิกขวาดูไฟล์ภาพเต็มได้เลย 

NIGHT MODE

ด้วย Ultra Night Mode F11 Pro สามารถใช้ AI ลด Noise ของ Multi-frame ซึ่งจะช่วยการลด Noise, เสถียรภาพของมือถือ, highlight suppression และปรับปรุงช่วงไดนามิกเพื่อให้ได้ความสว่างให้กับตัวภาพได้ครับจะทำงานต่อเมื่อแสงน้อยตามที่ระบบตั้งค่าไว้ บางทีถ่ายอะไรที่สว่างอยู่แล้วก็ไม่ทำงานนะครับ ระบบจะถ่ายปรัมาณ 2-4 วิ แบบไม่ใช่ขาตั้งและนำภาพมาต่อกันให้สวยงามเลยลองไปชมภาพกันครับแต่บางทีมันอาจจะแปลกๆหน่อยเพราะมันดู Dynamic จัดไปนิดนึงสำหรับบางสภาพแสงอันนี้ต้องหัดใช้ให้มันเนียนๆกันไปครับ

PORTRAIT

SELFIES : RISING CAMERA 

f11 Pro มาพร้อมกล้องหน้า 16MP พร้อมรูรับแสง F2.0  แน่นอนว่าทำออกมาเป็น Fix Focus เช่นเดิมครับแต่กล้องหน้าค่ายไว้ใจได้สบายครับถ่ายออกมาสวยง่ายไม่ยุ่งยากจะเอาคมชัด หรือ จะเอาหน้าเนียนกันไปเลยก็ดีเพราะในรุ่นนี้มาพร้อมกับระบบ AI Beauty Camera สามารถระบุจุดเพื่อวิเคราะห์ใบหน้า (รวม 137 จุดที่สามารถจดจาได้เฉพาะหน้าผากที่เพิ่มใหม่อีก 31 จุด)  แน่นอนว่าทำให้หน้าเนียนได้แบบธรรมชาติ แต่ผมก็อยากลองปรับสุดดูว่าจะเป็นยังไง จะเป็นภาพไหนก็ลองเดากันเองครับ ซึ่งเอาจริงๆให้มันแต่งให้เองตามแบบ AI ผมโอเคนะมันเนีนยนแบบธรรรมชาติดีครับไม่เวอร์ แต่ถ้าอยากเวอร์เค้าก็จัดให้ได้เหมือนกันเอาใจได้ทุกคนแน่นอนกล้องหน้าตัวนี้ชอบมากๆครับ ระยะมุมกว้างใช้ได้ถ่ายภาพหมู่ได้ครับกล้องไม่แคบเกินไป และ ระบบเลื่อนขึ้นมาใช้งานได้ไวเหมือนกันไม่เป็นปัญหา

OPPO F11 PRO 

” ดีไซน์สวย กล้องพัฒนาขึ้น ชาร์จไวกว่าเดิม แต่ยังเป็น Micro USB อยู่เลยนะ .. “

อะไรหลายๆอย่างมันพัฒนาขึ้นชัดเจนเลยแหละทั้งการออกแบบ หน้าตาตัวเครื่อง การใช้จอแบบเต็มจอ และ หน้าตาของ Colour OS 6 มันพัฒนาขึ้นน่าใช้งานมากจริงๆรวมถึงกล้องหลังที่รองรับการถ่ายได้หลากหลายและกลางคืนโหดขึ้นมากครับทำให้มันค่อนข้างน่าเล่นพอสมควร และยังได้กล้องหน้าแบบ Rising Camera ที่เป็นการเลื่อนขึ้นลงอัตโนมัติ และกล้องหน้ามันไว้ใจได้ดีมาก สวยหล่อทุกคนอันนี้ชอบๆ และเรื่องรู 3.5มม.ยังมีมาให้ ลำโพงยังเสียงดีกว่าคู่แข่งพอสมควรครับ และอีกๆหลายๆอย่างเลย รวมถึงศูนย์บริการด้วยที่เยอะมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ยังมีจุดขัดใจเรื่องของการถ่ายวีดีโอไม่รองรับ 4K และ พอร์ตแบบ Micro-USB รวมถึง ถาดซิมแบบ Hybrid ขัดใจเล็กน้อยจริงๆครับ

ข้อดี

  • การออกแบบดีไซน์สวย และ ลงตัว งานประกอบดี
  • หน้าจอ Panoramic เต็มตาไร้ติ่งแบบ FindX
  • กล้องหน้า  Rising Camera ดีไซน์สวยและคุณภาพดี
  • กล้องหลังถ่ายกลางคืนสวย รวมถึง Portrait แสงน้อย
  • Colour OS 6 ดีไซน์ใหม่สวยขึ้น เท่ขึ้น
  • มาพร้อมหน้าจอแบบ Gorilla Glass 5
  • แบตอึดใช้งานทั้งวัน + Vooc 3.0 ชาร์จไวขึ้น

ข้อสังเกต 

  • ยังคงเป็น Micro-Usb ในปี 2019 กับเรทราคา 10K
  • เป็นถาดซิมแบบ Hybrid Slot
  • ไม่รองรับ การถ่าย 4K
  • P70 แรง แต่เล่นเกมอาจจะปรับได้ไม่สุดมากนัก

สำหรับรีวิวนี้ผมก็ต้องขอตัวลาไปก่อนสำหรับรุ่นอื่นๆก็ติดตามกันได้เลย ถูกใจฝากกดไลค์กดแชร์ด้วยนะครับ  มีข้อผิดพลาดประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ  เพื่อนๆสนใจอยากให้พวกผมรีวิวรุ่นไหนสามารถ Inbox มาบอกเราได้เลยนะ
ฝากไลค์เพจ FACEBOOK เราด้วยนะครับ >>>>>>>>>  TECHHANGOUT

เข้าร่วมกลุ่ม TECHHANGOUT พูดคุยแลกเปลี่ยน ข้อมูล คุยกันเองชิลๆได้เลยที่ — Facebook  Techhangout พูดคุย Smartphone gadget 

Review By Nineztr

Comments กันได้เลย !

Comments

0 Shares