JLAB เองนั้นเป็นแบรนด์ที่ในไทยอาจจะไม่ได้คุ้นตาหรือรู้จักกันเท่าไรนัก แต่แบรนด์นี้เองนั้นส่งตรงมาจาก อเมริกาเลยทีเดียวการดีไซน์เป็นเอกลักษณ์จากทาง California Design และถือว่าเป็นแบรนด์ที่เน้น พัฒนาเทคโนโลยีที่ทันสมัยเป็นของตัวเอง ซึ่งปัจจุบันมียอดขายเป็นอันดับ 1 ในตลาดหูฟังทรูไวเลสที่ต่ำกว่า 100 เหรียญ ใน USAแน่นอนว่าในไทยเองก็นำเข้าโดนทาง RTB นะครับ ซึ่งต้องบอกว่าแบรนด์นี้มีดีหลายอย่างเหมือนกัน และจะเน้นไปทางสายเกมเมอร์มากกว่า ทำให้เป็นหูฟังที่ค่อนข้างมีดีไซน์หวือหวา สายเกม อีกทั้งฟีเจอร์ออกมารองรับได้ดี ทั้งความดีเลย์ต่ำ มาพร้อมโหมด Gaming ต่างๆ และรุ่นนี้ต้องบอกว่าน่าสนใจในตัว JLAB JBUDS AIR PLAY GAMING TWS ตัวนี้โดดเด่นเลยคือเรื่องของดีไซน์ มาพร้อมก้านไมค์ ไมค์คู่รองรับการคุยในเกมได้ชัดๆ อีกทั้งยังรองรับการ ปรับ EQ พร้อมกับ กันน้ำ IP55 รวมถึงในเรื่องของการเล่นเกมแบบความหน่วงต่ำ มีโหมดพิเศษรวมถึงในเรื่องของ ฟีเจอร์จัดเต็มไม่ว่าจะรองรับ คำสั่งเสียงได้ ปรับระดับเสียงได้ ทุกอย่างผ่านทางสัมผัสหูฟังทั้งหมดถือว่าน่าสนใจ และค่าตัวในงบ 3,000 บาทมีทอน ทำให้ตัวนี้อาจจะเป็นรุ่นที่หลายๆคนมองหาสำหรับหูฟังไร้สาย สายเกม ตัวนี้ทำได้ดี

JLAB JBUDS AIR PLAY GAMING ตัวนี้ถือว่าน่าสนใจ โดยตัวหูฟังนี้จะจะรองรับการการเชื่อมต่อแบบ Low Latency แล้วยังมาพร้อมกับ EQ ให้เลือกใช้งานถึง 3 รูปแบบ ระหว่าง Signature Mode, Bass Boost และ Flat มาพร้อมกับไดรเวอร์ 8มม. Neodymium Magnet และใช้งาน  ไมโครโฟน 3C ที่ยอดเยี่ยมในเรื่องการสื่อสารที่คมชัด และ ไมค์คู่ รองรับเสียงเวลาเล่นเกม คุยโทรศัพท์ได้ดี การใช้งานที่นานต่อเนื่อง 6.5 ชั่วโมงต่อการชาร์จ และสามารถใช้งานยาวได้ 30 ชั่วโมงถ้าพร้อมเคสชาร์จ และการออกแบบที่ทั้งสวยงาม ง่ายต่อการพกพา พร้อมด้วยมาตรฐานกันน้ำกันฝุ่น IP55  และหูฟังแยกเชื่อมซ้ายขวา สามารถใช้งานข้างเดียวได้สบายๆเช่นกัน มาพร้อมกับรูปทรงสวยและเบา เคสแปลกตา และ มาพร้อมกับสายชาร์จในตัวเลยแบบ USB-A ครับไม่ต้องหาสาย

JLAB รับประกัน 2 ปี  โดย บริษัท อาร์ ที บี เทคโนโลยี จำกัด เปิดราคาใน 2,990 บาท  มาพร้อมสีดำนะครับ

ตัวแทนจำหน่าย Studio7, Banana IT, BB Beyond D Box, Power Mall – Siam Paragon, Emporium, IT CITY, Mercular, 425 Degree, Lazada, Shopee, Digital Lab Siam Discovery, Iconic Music

UNBOX

ตัวกล่องเองนั้นมาพร้อมกับสีฟ้าเด่นและเป็นสีของแนว GAMING ของค่ายนี้ครับแน่นอนว่าที่ชอบอย่างนึงคือตัวกล่องนั้นจะบอกทั้งหมดเลยว่า ในกล่องมีอะไรบ้าง จุดเด่นมีอะไร และข้างในมีการบอกการควบคุมด้วย ทำให้หลายๆคนไม่ต้องไปเปิดหาคู่มืออะไรก็สามารถใช้งานได้ทันที และอ่านได้ง่ายเข้าใจได้ง่าย แม้จะไม่ต้องมีแอปอะไรให้โหลดก็ตาม

  • ตัวหูฟัง JBUDS AIR PLAY GAMING
  • จุกหูฟัง 3 ขนาด พร้อม จุกโฟมสีฟ้า 1 คู่
  • ตัวเคสชาร์จหูฟัง พร้อม สายชาร์จในตัว
  • คู่มือการใช้งาน

DESIGN

งานออกแบบต้องบอกว่าค่อนข้างเป็นตัวเองทั้งเรื่องของเคสกล่องชาร์จที่หน้าตาแปลกตาและมาพร้อมกับสายชาร์จในตัวตามแบบฉบับของค่ายนี้ รวมถึงการใช้งานโทนสีฟ้า และ มีการเล่นลวดลายเยอะแยะบนฝาหลังเคส เป็นวัสดุหนังเทียมทำให้ดูแปลกตาพอสมควร และมียิงโลโก้ลึกลงไปนิดหน่อย ส่วนตัวหูฟังหนักข้างละ 5 กรัมกำลังดีไม่หนักมาก และ รวมตัวเคสเป็น 60 กรัม เวลาพกไปไหนมาไหนสะดวก วัสดุธรรมดาเป็นพลาสติกทั้งหมด รอยต่ออะไรกลางๆครับไม่ได้เนียนมากนัก แต่ก็เป็นตามระดับของเรทราคาพอเข้าใจได้ และ การเชื่อมต่ออะไรนั้นไม่ได้ยุ่งยากเลยนั้นเองครับ

ตัวเคสรูปทรง งานออกแบบต้องบอกว่าแปลกตามากๆเท่าที่ลองมานั้นตัวนี้ถือว่าแปลกตาจริงๆตัวเคสสวยมีการเล่นลวดลายกราฟิกแนวสาย สตรีทเล็กน้อยและสื่อถึงรุ่นเกมมิ่งได้ดี เป็นวัสดุหนังเทียมหุ่มข้างนอกสีดำ และมียิงโลโก้ลงไปตัวฝาเปิดก็ดึงขึ้นมาปกติมาตรฐาน พร้อมกับความหนาระดับนึง ตัวเคสไม่มีปุ่มอะไรเสริมมาให้ จะมีไฟสถานะด้านหน้า และ ที่เก็บสายชาร์จในตัว ทำให้ตัวนี้ชาร์จได้ไม่ต้องพกพาสายชาร์จอะไรเพิ่มเติมเลยทีเดียวครับถือว่าดี

เมื่อเปิดออกมาเราจะเห็นข้างในสีฟ้าโดดเด่นและเป็นวัสดุพลาสติกทั้งหมดแบบด้าน พร้อมกับไฟสถานะและ ที่ชาร์จหูฟังแบบแม่เหล็กและขั้วทองแดงปกติ สามารถใส่ได้แน่นและไม่มีปัญหาในส่วนนี้ครับการเปิดฝาทำงานได้ดีแต่จะไม่สามารถเปิดข้างได้เพราะใช้ตัวหนังเป็นข้อหมุน จะไม่ได้มีการล็อกอะไรครับเปิดแบบพวกกระเป๋าหนังปกติเลย วัสดุงานประกอบทำได้ตามระดับราคา มีรอยต่ออะไรชัดเจนแต่ก็มีความแข็งแรงในตัวแต่ฟิลลิ่งอาจจะพลาสติกไปนิด

ตัวหูฟังนั้นรูปทรงธรรมดามีก้านเพื่อทำให้ไมค์นั้นใกล้กับปากมากขึ้นใช้งานไมค์คู่ 3C ทำให้ระบบเสียงไมค์นั้นเด่นกว่าทุกตัว รวมถึงน้ำหนักเบาข้างละ 5 กรัมแต่เราจะเห็นว่าขนาดแอบใหญ่เหมือนกันพร้อมกับความสูงของตัวหูฟังที่เป็นทรงกระบอกแบบดูเทอะทะไปหน่อย ส่วนด้านหลังจะเป็นโลโก้สีฟ้า พร้อมรองรับระบบสัมผัสทันทีในการสั่งงานทั้ง 2 ข้างเลยนั้นเองพร้อมกับบอกข้าง ซ้ายขวา และ ไมค์ด้านบน ด้านล่างสำหรับฟังเสียงเวลาคุยต่างๆใส่เข้ามาให้ครบ

สำหรับจุกยางที่ให้มานั้นเราจะเห็นว่าเป็นจุกยางมาตรฐานรองรับการใช้งานทั่วไปได้ดี และจะมียางรอบๆตัวบอดี้อีกรอบทำให้ใส่ได้สบายมากขึ้น รวมถึงดีที่ให้จุกโฟมมาให้ด้วยเช่นกัน แต่ขนาดของมันจะมีแค่ขนาดเดียวครับ แต่ตัวหูฟังเราจะเห็นว่ารอยต่อพลาสติกนั้นค่อนข้างเห็นได้ชัดมากๆ อาจจะเก็บงานไม่ได้เนียนมากเท่าไรนัก และบอดี้แอบดูใหญ่เหมือนกัน แต่ไม่ได้หนักอะไรมากนักแม้จะดูใหญ่ก็ตาม เท่าที่ลองใส่นั้นเบาสบายและไม่ได้อึดอัดอะไรมากนัก

SPEC

  • Battery สามารถใช้งานได้นาน 30 ชม. (6.5 ชม. ในหูฟังแต่ละข้างและสามารถชาร์จเพิ่มได้อีก 24 ชม.)
  • Low Latency Gaming Mode โหมดการเล่นเกมดีเลย์ต่ำเป็นพิเศษ เพื่อให้เสียงในเกมตรงกับภาพที่เห็นมากที่สุด
  • Direct EQ Changeปรับเปลี่ยน EQ ได้ 3 แบบจากหูฟังโดยตรง: JLab Signature, Balanced & Bass Boost
  • Water Resistant กันน้ำด้วย IP55
  • Dual Connectสามารถแยกใช้งานหูฟังเพียงข้างใดข้างหนึ่งได้
  • Microphone + C3 Calling ไมโครโฟนหูฟังแบบคู่ทั้ง 2 ด้าน สำหรับการสนทนาที่ดีที่สุด ไมค์ตัดเสียงภายนอก + ไมค์จับเสียงพูดของผู้ใช้ รองรับเสียงสนทนาแบบ Stereo
  •  Bluetooth 5.0
  • น้ำหนัก 5 กรัม ต่อข้าง และ น้ำหนัก 50 กรัม เคส
  • Speaker: Φ8mm Dynamic, Neodymium Magnet, 20Hz-20kHz, 32 Ω
  • Output: 103±3db
  • Microphone: Both Ears, MEMS, – 4.8dB ±3dB at 1KHz
  • Battery Life: 6.5 ชั่วโมงต่อข้าง
  • Input Power: DC 5V, 50mA
  • Earbud Battery: 60mAh lithium polymer
  • Earbud Charge Time: 1.5 Hours
  • Rapid Charge: 15 min charging = 1 hour playtime
  • Charging Case Battery: 700mAh lithium polymer rechargeable
  • Case Charge Time: 1.5 Hour

SOUND

ในเรื่องของการเชื่อมต่อก็สามารถเชื่อมต่อมาตรฐานได้เลยครับ ไม่ต้องมีแอปอะไรเสริมเข้ามา และ สามารถสั่งงานผ่านตัวหูฟังได้ทันที ส่วนการเชื่อมต่อนั้นจะใช้งาน BT5.0 ถือว่านิ่งและระยะไกลพอสมควร รวมถึงรุ่นนี้จะมีโหมดความหน่วงต่ำ สามารถเล่นเกมได้เนียนมากขึ้นหน่วงน้อยมากขึ้น และมาพร้อม ไดรเวอร์ 8มม. พร้อมกับ ระบบเสียงไมค์ 3C รองรับการดูดเสียงได้ชัด และ รองรับการปรับ EQ 3 แบบในตัว ซึ่งจะเปลี่ยนผ่านหูฟังนะครับไม่ต้องมีแอปส่วนเรื่องของเสียงนั้นต้องบอกว่าทำได้ดีในแง่ของหูฟังสายเกม แต่ถ้าสายฟังเพลงอาจจะไม่ได้เด่นอะไรเท่าไรนักครับ เสียงในรุ่นนี้ขับผ่าน ไดรเวอร์ 8 มม. แบบ Neodymium Magnet ถือว่าเสียงขับออกมากำลังขับดี เสียงขับได้ชัดเจน แต่โทนเสียงนั้นปรับได้ 3 แบบ เราจะเน้นไปที่โหมดกลางไว้ก่อน เสียงขับง่าย ฟังเพลงทั่วไปพื้นฐาน เบสมากลางๆไม่ได้เด่น แต่จะเน้นที่เสียงคนชัด เสียงร้องชัด เสียงแหลมเด่น แต่ช่วงแรกๆที่ซื้อมาเสียงจะบาดหูมากๆครับต้องใช้งานไปซักพักเลย ด้วยแนวเสียงของมันเลยเน้นไปทางด้านนั้น และเน้นในการคุยเล่นเกม พูดคุยต่างๆมากกว่า และเสียง ยิงปืนเวลาเล่นเกมเน้นๆ ทำให้การฟังเพลงเวทีเสียงไม่ได้เด่นมากเท่าไร แต่ก็พอฟังเพลงได้แบบสบายๆ

สำหรับการเล่นเกมเองนั้นสามารถเปิดโหมดความหน่วงต่ำได้โดยการแตะข้างไว้ที่หูฟังซ้ายครับ จะเข้าสลับโหมดเกม หรือ โหมดปกตินั้นเอง เมื่อเปิดแล้วต้องบอกเลยว่าความหน่วงต่ำ และ ไม่รู้สึกดีเลย์เท่าไรถือว่าช่วยได้ และได้ผลชัดเจนรู้สึกต่างครับ สำหรับสายเกมมิ่งต้องชอบกันแน่นอน ส่วนเรื่องของเสียงไมค์สื่อสารกับเพื่อนในทีมได้ชัดเจน รู้เรื่อง เสียงแน่นและมีมิติเช่นกัน คนฟัง และ คนรับได้ยินชัดเจนจุดนี้เรื่องไมค์ต้องขอชม โดดเด่นมากๆ ส่วนเรื่องเสียงนั้น เสียงเกม เสียงยิงปืน ระเบิดต่างๆนั้นได้ยินชัดเจนมากๆเสียงทิศทางชัด เสียงใส และ เบสแน่นกำลังดีชัดเจน เป็นรุ่นที่เซตเสียงออกมาเหมาะกับการเล่นเกมจริงๆ เสียงใส ชัด และเบสกำลังดีแต่จะไม่ได้มีเวทีเสียงฟังเพลงที่โดดเด่น และมีโหมด BE AWARE ที่จะคล้ายกับการเปิดรับเสียงข้างนอกทำให้ได้ยินคนพูด และ เสียงแวดล้อมเข้ามาได้ชัด

FEELING

ในเรื่องของการใส่ใช้งานการควบคุมนั้นถือว่าครบและตอบโจทย์มากๆ แม้จะไม่ได้มีแอปหรือว่าระบบในมือถือให้ปรับแต่ง แต่หูฟังตัวนี้สามารถใช้งานระบบสัมผัสควบคุมตรงหูฟังได้ครบ และเยอะมากที่สุดเท่าที่ลองมาแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการปรับแต่ง EQ หรือแม้แต่รองรับการเพิ่ม ลดเสียงได้ด้วย อีกทั้งยังรองรับคำสั่งเสียงได้สบายๆเลยเช่นกันครับและการสัมผัสนั้นสามารถใช้งานแตะ 2 ข้างได้ตรงบริเวณสีฟ้าโลโก้เลยนั้นเองถือว่าสะดวกต่อการใช้งานมากๆเลย

  • การเชื่อมต่อแรก รีเซตจับคู่ใหม่ แตะหูฟัง 2 ข้าง 3 วิค้างไว้ยังไม่ต้องใส่
  • เพิ่มเสียง ลดเสียง แตะ ข้างซ้าย 1 ครั้งเพื่อลดเสียง แตะ ข้างขวา 1 ครั้งเพิ่มเสียง
  • ข้างซ้าย 2 ครั้ง ใช้งาน Google Assistant – Siri
  • ข้างขวา 2 ครั้ง เล่นเพลง หยุดเพลง
  • ข้างซ้าย แตะ 1 ครั้งค้างไว้ เข้า Gaming Mode- Music Mode 
  • ข้างขวา แตะ 1 ครั้งค้างไว้ เปลี่ยนเพลงไปข้างหน้า
  • ข้างซ้าย แตะ  3 ครั้ง สลับโหมด EQ
  • ข้างขวา แตะ 3 ครั้ง เปิด BE AWARE รับเสียงข้างนอก
  • ข้างขวา แตะ 1 ครั้งรับสาย / 2 ครั้ง วางสาย / แตะค้าง ตัดสายเรียกเข้า
  • แตะ ต้างไว้ 3 วิ เปิด ปิด หูฟัง ได้ทั้ง 2 ข้าง

ในการใส่ใช้งานจริงๆนั้นต้องบอกว่าตัวนี้มีน้ำหนักเบากว่าที่คิดที่เห็นรูปทรงรวมถึงในเรื่องของการใส่ใช้งานไม่ได้ใหญ่เทอะทะอะไรมากนัก ตัวหูฟังเสียบเข้าไปได้แน่นและอยู่ทั้งในเรื่องของการออกกำลังกาย หรือว่าจะเป็นการใช้งานทั่วไปไม่หลุดจากหูง่ายๆแน่นอน รวมถึงในแง่ของความใหญ่จริงๆตัวนี้เมื่อใส่แล้วอาจจะดูเด่นไปนิดหน่อยบอดี้มันค่อนข้างใหญ่และโผล่ออกมาเยอะอาจจะไม่ได้กระชับหรือดูเล็กมากนัก รวมถึงการมีก้านออกมานั้นทำให้รับเสียงได้ดีขึ้นจริงๆ และเรื่องไมค์นั้นค่อนข้างเด่น การสัมผัสใส่ใช้งานต่างๆนั้นไม่มีปัญหา สั่งงานได้ง่าย ไม่เอ๋อและรองรับได้ดีแม้จะแตะเบาๆเวลาใส่ต่างๆ หรือแม้แต่ออกกำลังก็สามารถใช้งานได้แม้จะมีเหงื่อก็ตามครับ ถือว่าภาพรวมใส่สบาย เบาไม่อึดอัด และเสียงไมค์ได้ยินชัด รวมถึงสั่งงานได้ง่ายใส่เล่นเกมนานๆได้สบายเลยทีเดียวสำหรับหูฟังตัวนี้

JLAB JBUDS AIR PLAY GAMING 

” หูฟัง TWS เน้นเล่นเกม เสียงไมค์โดดเด่น แบตอึด พร้อมรองรับการกันน้ำ IP55  “

เป็นหูฟังที่ออกมาตอบโจทย์สาย Mobile Gaming มากๆเพราะว่าสมัยนี้บรรดามือถือหลายๆคนนั้นจะไม่มีรู 3.5 มม. กันแล้วและทำให้ TWS นั้นเข้ามามีบทบาทมากขึ้น แต่ด้วยเทคโนโลยีไร้สายทำให้มันมีความหน่วงในหลายๆตัว แต่สำหรับตัว JLAB JBUDS AIR PLAY GAMING เองนั้นเรียกได้ว่ามีความหน่วงต่ำมากๆจนสามารถเล่นเกมได้โดยที่ไม่รู้สึกถึงความหน่วงเวลาเล่น ทั้งเสียงยิงปืน เสียงเดินต่างๆนั้นมาทันทีไม่เจออาการหน่วงแม้แต่น้อยถ้าเทียบกับหูฟัง tws ทั่วไป แต่ทั้งนี้มันก็ยังคงมีหน่วงตามแบบฉบับไร้สายเพียงแต่มันน้อยมากๆจนไม่รู้สึกแล้วในรุ่นนี้ครับ ส่วนการสัมผัสสั่งงานใช้งานได้ครบ และ รองรับการกันน้ำได้แบบสบาย รวมถึง มาพร้อมกับแบตที่อึดมากๆใช้งานต่อเนื่องได้ 6.5 ชั่วโมงเลยทีเดียว และ ตัวเคสก็สามารถรองรับชาร์จได้อีก 4 รอบทำให้ใช้งานได้ 30 ชั่วโมงถ้ารวมการชาร์จครับ ถือว่าเป็นรุ่นที่ตอบโจทย์จริงๆ และเสียงไมค์ถือว่าโดดเด่นกว่าที่คิดไว้และคุยอะไรทำได้ดีและชัดเจนมากๆ

ข้อดี

  • มาพร้อมดีไซน์ที่ดูโดดเด่น และ สีฟ้าสวยงาม
  • แบตค่อนข้างอึด สามารถใช้งานทั้งวันได้สบาย รองรับ 6.5 ชั่วโมงต่อการชาร์จ
  • ความหน่วงต่ำเวลาเล่นเกม ทำได้ดี
  • เสียงไมค์ดีกว่าทีคิดไว้ และ ใช้งานได้จริงในระดับเรทราคานี้ถือว่าดี
  • มาพร้อมการรองรับกันน้ำ IP55
  • สั่งงานได้หลากหลาย ปรับระดับเสียง เรียก Google และ EQ ได้ง่ายๆ
  • หูฟังน้ำหนักเบา ใส่สบายกว่าที่คิด
  • มีโหมด BE AWARE รับเสียงภายนอกได้ชัดมากขึ้น

ข้อสังเกต

  • เสียงกลางๆมิติเสียงไม่ได้เด่นมากนักในการฟังเพลง
  • สายชาร์จในตัวแอบสั้นไปพอสมควร
  • เคสชาร์จอาจจะดูใหญ่ไปในการพกพา

สำหรับรีวิวนี้ผมก็ต้องขอตัวลาไปก่อนสำหรับรุ่นอื่นๆก็ติดตามกันได้เลย ถูกใจฝากกดไลค์กดแชร์ด้วยนะครับ  มีข้อผิดพลาดประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ  เพื่อนๆสนใจอยากให้พวกผมรีวิวรุ่นไหนสามารถ Inbox มาบอกเราได้เลยนะ
ฝากไลค์เพจ FACEBOOK เราด้วยนะครับ >>>>>>>>>  TECHHANGOUT

เข้าร่วมกลุ่ม TECHHANGOUT พูดคุยแลกเปลี่ยน ข้อมูล คุยกันเองชิลๆได้เลยที่ — Facebook  Techhangout พูดคุย Smartphone gadget 

Review by Nineztr 

Comments กันได้เลย !

Comments

0 Shares