Huawei Freebuds 3 นั้นเปิดตัวต่อยอดจากรุ่นเดิม พัฒนาต่อเนื่องทั้งเรื่องของการออกแบบ และ ฟีเจอร์การใช้งานครับ และในรุ่นนี้ยังคงการออกแบบที่เป็น Earbuds อยู่และได้พัฒนาต่อเนื่องทำให้มีการตัดเสียงรบกวนได้เป็นเจ้าแรกส่วนในเรื่องการออกแบบนั้นคุ้นหน้าคุ้นตากันดีเลยแหละไม่ต้องพูดอะไรกันเยอะ  ตัวเคสตัวนี้รองรับการชาร์จไร้สาย และ USB-C แล้วและใช้งาน CPU KirinA1 พร้อมกับรองรับ Bluetooth 5.1 ตัวล่าสุดด้วยเช่นกัน สามารถใช้งานต่อเนื่องได้ 4 ชั่วโมงต่อการชาร์จหนึ่งรอบ มาพร้อมกับแบตเตอรี่เคสที่สามารถชาร์จไฟเพิ่มให้ใช้งานได้อีก 20 ชั่วโมง  และการชาร์จไฟเข้านั้นทำได้ไวมากๆใช้เวลา 30 นาทีในการชาร์จแบตเต็มสำหรับตัวเคส ต้องบอกว่าฟีเจอร์อะไรหลายๆอย่างพัฒนามาน่าสนใจ ทั้งการตัดเสียง การชาร์จต่างๆแต่เรื่องออกแบบยังไม่ได้เป็นตัวเองเท่าไรนัก ส่วนการใช้งานนั้นจะเป็นยังไงกันบ้าง ในการใช้งานจริงตัดเสียงต่างๆ รวมถึงคุณภาพเสียงมาชมรีวิวกันเลย

ในแง่ของฟีเจอร์ที่เด่นสุดๆของรุ่นนี้ที่น่าสนใจสำหรับ Huawei freebuds 3 คือ ระบบตัดเสียงรบกวน Active Noise Cancelling เป็นครั้งแรกของหูฟังแบบ Earbuds เลยเพราะในรุ่นอื่นๆนั้นจะเป็น InEars แต่ทางรุ่นนี้จะเป็นรุ่นแรกของโลกที่ใส่มาให้ในแบบ Earbuds แบบที่ไม่ยัดเข้าไปในหูครับ ถือว่าน่าสนใจเลย และดีไซน์แบบนี้ ใส่สบายด้วยหลายๆคนเลยชอบกัน ส่วนสเปคอื่นๆนั้นจะมาพร้อมกับ Chipset Kirin A1 ใช้งาน Bluetooth 5.1 และ รองรับการใช้งาน 4 ชั่วโมงต่อการชาร์จ ฟังเพลงได้นาน 20 ชั่วโมงรวมชาร์จในเคส พร้อมกับไดรเวอร์⌀14.2 มม. แบบไดนามิก ควบคุมด้วยระบบสัมผัส และ รองรับชาร์จไร้สาย และ USB-C ผ่านตัวเคส  ใช้งานกับ Android เท่านั้นครับ ส่วนตัวระบบเสียงนั้นก็เชื่อมต่อได้ดี ความหน่วงช้าในระดับต่ำมากๆในการฟังเพลงเล่นเกม

Huawei Freebuds 3 นั้นเปิดตัวมาพร้อมกับ 2 สี คือ ขาว และ ดำ พร้อมกับราคา 4,990 บาท 

UNBOX 

ตัวกล่อง Huawei FreeBuds 3 นั้นจะเขียนอะไรไว้ชัดเจนรวมถึงตัวกล่องก็จะบอกสีของหูฟังข้างในไว้ชัดเจนครับว่าเป็นสีอะไร จะมีสีขาว ดำ เป็นหลัก ในรุ่นนี้ ตัวกล่องก็บอกรูปทรงอะไรไว้ชัดเจน ส่วนของข้างในก็มาให้ครบๆ

  • ตัวเคส สำหรับชาร์จ
  • Huawei Freebuds 3
  • สาย USB-C
  • คู่มือ และ ที่สแกนลงแอป

DESIGN

งานออกแบบในรุ่นนี้ก็ยังคงมีกลิ่นอายของอีกค่ายอยู่พอสมควร แต่ก็เป็นการพัฒนาขึ้นจากรุ่น 2 ต่อยอดดีไซน์ดูสวยดูดีขึ้นทั้งตัวเคส และตัวหูฟังเองอีกทั้งยังมีขนาดที่พกพาได้ง่ายขึ้นใส่สบายขึ้นด้วยครับ วัสดุนั้นเป็นพลาสติกทั้งหมด สีดำเงาแน่นอนว่าอาจจะเป็นรอยติดรอยนิ้วมือได้ง่ายพอสมควรเลย แต่ตัวหูฟังนั้นเก็บงานอะไรได้ดี ส่วนตัวเคสนั้นตรงฝาแอบมีโยกๆนิดหน่อยครับไม่ได้แน่นมากเวลาเปิด แต่รูปทรงวงกลมนั้นขึ้นรูปอะไรสวยไม่มีรอยต่อเลย

ตัวเคสนั้นเป็นวงกลมเรียบๆสีดำเงา ส่วนของโลโก้เองนั้นจะอยู่ด้านหลัง และในด้านหน้านั้นจะเรียบๆไม่มีอะไรเลยครับ และซ่อนปุ่มกดไว้ด้านขวา และ ไฟสถานะนั้นอยู่ด้านล่างตัวเคสเป็นวงกลมฝาเปิดงัดได้เลย ส่วนตรงโลโก้นั้นจะเป็นด้านหลังที่เห็นแถบสี่เหลี่ยมเงาๆ ที่จะใช่สีโครมดำเงินๆเป็นวัสดุแตกต่างกับวัสดุทั้งหมดครับ และตรงพอร์ตชาร์จเป็นสีเงินโครเมี่ยมทำรอบรูชาร์จไว้ทำให้เห็นได้ชัดพอสมควรเวลาใช้งาน ขนาดเคสกำลังดีพกพาง่ายและไม่หนา

เมื่อเปิดฟาตัวเคสแล้วนั้นจะกางออกมา 90 องศาสุดแค่นั้นครับและสามารถหยิบตัวหูฟังออกมาได้เลยในด้านขวาของตัวเคสจะมีปุ่มสำหรับเชื่อมต่อกับมือถือให้กดอยู่ครับเป็นสีดำเล็กๆมองยากนิดนึง ส่วนด้านล่างนั้นจะเป็นพอร์ตชาร์จแบบ USB-C พร้อมกับไฟสถานะของเคสชาร์จว่าเต็มหรือหมดแล้วครับ ซึ่งไปตรงนี้จะแสดงสีแตกต่างกันไป ถ้าไฟเขียวคือ แบตนั้นเต็มอยู่ หรือสูงกว่า 60% ครับ แต่ถ้าสีเหลือง คือ 20-60% สีแดงคือต่ำกว่า 20%  แต่ถ้า ขณะชาร์จนั้น เขียวคือสูงกว่า 90 % แต่ถ้าเหลืองคือต่ำกว่า 90% ครับ แบบในภาพคือสีเหลืองนั้นเอง 

เมื่อเปิดฝาออกมาแล้วนั้นก็สามารถหยิบออกมาได้เลย ตรงตัวเคสก็จะมีไปสถานะของหูฟังอีกรอบเมื่อเปิดออกมาครับ ถ้าไฟเขียวคือ แบตหูฟังนั้นเต็มอยู่ หรือสูงกว่า 60% ครับ แต่ถ้าสีเหลือง คือ 20-60% สีแดงคือต่ำกว่า 20% กระพริบสีขาวคือกำลังเชื่อมต่อ กระพริบสีแดงคือ รีค่าโรงงานครับ ตัวฝาอย่างที่บอกไปแอบมีโยกๆได้นิดหน่อยดูไม่แน่นหนาเท่าที่ควรครับ แต่ฝาก็ยังไม่ได้หลวมหรือเปิดอ้าเองครับในจุดนี้ แต่วัสดุดำเงานั้นจะเป็นรอยได้ง่ายมากจริงๆ

ตัวหูฟังนั้นเป็นทรงที่เราคุ้นเคยกันดีและแน่นอนว่าทรงก้านยาวๆแบบนี้ คือ ทรงที่ดีที่สุดแล้วในการรับสัญญาณและคุยโทรศัพท์ครับ เลยทำให้มันเป็นหูฟังไร้สายที่คุยได้ดีมากอีกตัวนึงเลย ขนาดของมันกำลังดีไม่ใหญ่ไม่หนักเกินไป อีกทั้งตรงหูแบบ Earbuds ทำให้ใส่สบายไม่อึดอัด และ สามารถสั่งงานแตะควบคุมได้ตรงก้านยาวๆครับ ตัวหูฟังรองรับกับหลายๆขนาดใบหูได้ดีคือง่ายๆว่าใส่ได้ทุกคนจริงๆครับ และ รูปทรงของมันก็ไม่ได้เจ็บหูเลยแม้แต่น้อย

ขนาดในภาพรวมนั้นก็ทำได้ดีเมื่อเทียบกับเคสชาร์จก็สามารถพกพาไปไหนมาไหนได้สบายครับ และตัวเคสอย่างที่บอกไปคือรองรับการชาร์จแบบไร้สายด้วย สามารถวางชาร์จแบบในภาพด้านล่างได้เลย แต่ก็จะช้ากว่าแบบสายนะครับเป็นปกติ ส่วนงานออกแบบนั้นมีความคล้ายของAirpods Apple มากๆแต่ก็ไม่ได้เป๊ะซะทีเดียวครับเมื่อเอามาเทียบกับก็พบว่ายังมีความแตกต่าง จุดแตกต่างกันพอสมควรเลย แต่มองผ่านๆนั้นอาจจะเหมือนกัน แต่ทรงก้านหูฟัง ตัว Earbuds อะไรนั้นมีความแตกต่างกันอยู่เหมือนกันนะ แต่ขนาดอะไรนั้นไม่ต่างกันเลย แค่คนละสีกันเท่านั้นครับ

SPEC 

  • ชิปเซ็ต Kirin A1
  • รองรับ Active Noise Cancellation
  • สั่งงานด้วยระบบสัมผัส
  • ระบบตัดเสียงไมค์ Aerodynamic Mic Duct
  • Bone Sensor
  • ไดร์เวอร์ขนาด 14 มิลลิเมตรอยู่ข้างใน บวกกับ Bass Tube
  • ชาร์จเข้าผ่าน USB-C 6W / Wireless 2W
  • รองรับการใช้งาน 4 ชม. ต่อการชาร์จ รวมเคสชาร์จ รองรับสูงสุด 20 ชม.
  • Bluetooth 5.1  Dual Channel
  • น้ำหนักต่อข้าง ประมาณ 4.5 กรัม
  • น้ำหนักเคส ประมาณ 48 กรัม

SOFTWARE 

ทางด้าน Software นั้นจะใช้ชื่อ Huawei AI Life เป็นตัวควบคุมยุคใหม่ของทาง Huawei ทั้งหมดครับ และรองรับเฉพาะ Android เท่านั้น iOS ใช้งานไม่ได้นะครับ น่าเสียดายพอสมควรเลย ซึ่งแอปนี้สามารถโหลดได้จากในตัว Playstore เลย ซึ่งแอปนี้จะควบคุมพวก Eye Wear และ Wifi Router  ทั้งหมดที่ออกมารุ่นหลังๆ ซึ่งในยุคหลังๆน่าจะใช้แอปนี้หมดแล้ว แต่ถ้าพวก นาฬิกานั้นจะใช้งานแอป Huawei health ครับ จริงๆมันน่าจะรวมกันไปเลยนะจะได้ไม่ต้องโหลดแอปอะไรเยอะครับ ถ้ารวมกันในอนาคตก็น่าจะดีไม่น้อยเลย ตัวแอปหน้าตาอะไรคุ้นๆกันบ้างครับ ทันสมัยและใช้งานไม่ยาก เดี๋ยวมาลองดูกันเลยว่าจะเป็นยังไง ส่วนการเชื่อมต่อนั้นไม่ยากครับ กดเปิดแล้วมันจะหาให้เลย ถ้าไม่เจอต้องกดปุ่มที่ข้าง เคสหูฟังก่อนตามภาพด้านบน 2 วิ แล้วมันจะสแกนให้เองครับแล้วจะเจอหูฟังเชื่อมได้เลย จุดนี้ไม่ยากครับ เมื่อเชื่อมเสร็จแล้วก็รอซักพักนึงแล้วก็สามารถใช้งานได้เลย แต่ถ้าไม่มีแอปก็ฟังเชื่อมแบบปกติได้เลยครับ กดหา Bluetooth บนมือถืออะไรได้ปกติแค่จะปรับฟีเจอร์อะไรไม่ได้เท่าไร ถ้าไม่มีแอปบนมือถือ

ตัวแอปนั้นไม่มีอะไรมาก หน้าแรกนั้นจะเป็นตัวอุปกรณ์ที่เรามี ในที่นี้คือตัว Freebuds 3 และเมื่อแตะเข้าไปแล้วนั้นก็จะบอกว่า แบตแต่ละข้างเท่าไร แบตเคสเหลือเท่าไร และ ฟีเจอร์การปรับแต่งการสัมผัส รวมถึงการปรับเสียงรบกวน เมื่อเข้ามาส่วนของทางลัดนั้นจะเป็น การตั้งค่าว่า แตะ ข้างขวาทำอะไร แตะข้างซ้ายทำอะไร แต่น่าเสียดายว่า ไม่มีการปรับเสียงเพิ่มขึ้นลงได้ครับในการควบคุม แต่ก็สามารถรับสายอะไรได้ปกติ และก็สามารถปรับการตัดเสียงรบกวนได้ว่าจะตัดเสียงรบกวนเยอะหรือน้อย หรือตัดเสียงระแวกโซนไหนครับ โดยการหมุนจุดกลมๆไปเรื่อยๆจนกว่าเราจะเจอการตัดเสียงที่เราชอบที่สุด อันนี้ถือว่าดีมากๆไม่ค่อยเจอค่ายไหนทำการตัดเสียงได้เยอะและละเอียดแบบนี้

แต่ต้องบอกก่อนว่า ฟีเจอร์บางส่วนนั้นจะใช้งานได้แค่กับ Huawei Smartphone EMUI10 คือ

  • หน้าจอ PopUp เวลาเชื่อมต่อกับมือถือ คล้ายๆของ Apple Airpods
  • ฟีเจอร์เวลาถอดหูฟังและเพลงจะหยุดเอง 

และใน 2 ฟีเจอร์นี้นั้นจะไม่ทำงานกับมือถืออื่นๆที่ไม่ใช่ Huawei ครับ

SOUND 

ในเรื่องของเสียงนั้นแน่นอนว่าด้วยการออกแบบที่ไม่ใช่ InEars อาจจะคุมเสียงภายในไม่ได้โหดมากเท่าไรนักในการคุมเสียง ควบคุมตัวแปรของเสียงเลยจะยากกว่าของ InEars แต่ถ้ามองในแง่ของบรรดาหูฟัง Earbuds ทั้งหมดแบบ True Wireless ทั้งหมด ต้องบอกว่าตัว Huawei Freebuds 3 นั้นทำได้ประทับใจกว่าทุกรุ่นที่เราเคยลองกันมาเลยแหละ และราคาน่ารักด้วยสำหรับคุณภาพเสียงที่ได้และฟีเจอร์ในภาพรวมครั้บ เสียงในตัวนี้จะเน้นไปทางฟังสบายทั่วไป และที่เด่นคือเรื่องของการคุย และตัวนี้มีระบบตัดเสียงเข้ามาเลยทำให้มันเสียงรอบข้างเข้ามาน้อยสุดแล้วในบรรดาหูฟังแบบเปิดแบบนี้ครับ แต่ถ้าเทียบกับ InEars แน่นอนว่ายังสู้ไม่ได้ครับแต่ก็ดีกว่าไม่มีระบบนี้มาให้นะ

มากันที่เรื่องของเสียงกันเลยฟังเพลง เล่นเกมดูหนังอะไรนั้นก็รองรับได้สบายๆเป็นหูฟังที่ค่อนข้างฟังง่ายขับง่ายไม่ยุ่งยาก ไม่ต้องเบิร์นอะไรเยอะก็ฟังได้ทุกแนวครับ จากที่ลองฟังเพลงหลายๆแนวแล้วนั้น ในเรื่องของเสียงเบสกันก่อนในรุ่นนี้มีท่อเสียงเบสเพิ่มเข้ามาก็จริงแต่เสียงก็มาแบบพอดี มีน้ำหนักกว่าตัวอื่นๆ แต่ไม่ได้ลึกอะไรมากไม่ได้สะใจกระแทกสะใจเท่าไร แต่มาแบบพอดีๆแน่นๆไม่อึดอัดครับ ถือว่าดีกว่า ตัวอื่นๆที่เป็นแบบเปิดด้วยกันฟังสนุกได้อยู่ ส่วนเสียงร้องนั้นเป็นจุดเด่นเลยคือเสียงใส ชัดเจนดีครับ รายละเอียดพวกนี้ทำได้ดีเลยแหละ อีกทั้งเสียงแหลมนั้นรายละเอียดดีแต่คม ไม่บาดหู รวมถึงเสียงนุ่มๆดีเหมือนกันชอบที่เปิดแรงๆก็ยังไม่บาดหูครับสำหรับเสียงย่านแหลมสูง และ ทำให้เวลาดูหนังอะไรคนพูดอะไรชัดเจนดี และมิติเสียงทำได้ดีเลยเพราะว่าแยกกันชันเจนระหว่างเสียงคนและพื้นหลัง และทำให้มันมีเวทีเสียงที่กำลังดี แยกได้ดีไม่ทับไม่มั่วกัน แต่ถ้าหลายๆชิ้นรายละเอียดจัดๆก็ยังแอบยากอยู่ อาจจะเป็นระดับกลางๆในส่วนของเวทีเสียงครับ แน่นอนว่าเสียงที่ลองจากที่อ่านมามันก็เน้นฟังทั่วไป เบสมาดี แหลมไม่จัด ฟังได้ทุกแนวไม่ได้เน้นไปทางใดทางนึงเกินไป อีกทั้งยังคุยได้ชัดเจน เสียงคนอะไรพวกนี้ทำได้ดีเลยครับ และในเรื่องของเสียงการเล่นเกมนั้น จากที่ลอง PUBG Mobile บนมือถือนั้นยังมีหน่วงอยู่ครับแต่ก็ดีกว่าตัวอื่นนิดหน่อย แต่ยังเจออยู่ จากที่ลองมายังไม่เจอตัวไหนไม่หน่วงเลยนะในการเล่นเกม แต่ก็ดีขึ้นในจุดนี้ อาจจะเป็นตัวการเชื่อมต่อแบบใหม่ที่ พยายามพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ แต่ถ้าไปตามห้าง และ เอามือถือไว้กางเกงก็ยังมีกวนๆอยู่บ้างครับ แต่ถ้าถือมือถือไว้ตลอดจะไม่เจอปัญหาเสียงขาดๆ แต่ถ้าเริ่มห่างแล้วนั้นก็จะเริ่มมีบ้างเล็กน้อย ส่วนดูหนังไม่มีหน่วงครับตามแอปต่างๆ

FEELING 

ความรู้สึกเวลาใส่หูฟังตัวนี้จริงๆด้วยความที่มันเป็นพลาสติกนั้นเลยทำให้มันเบามากๆพอสมควร และใส่สบายกว่าพวก InEars ทั้งหลายซึ่งมีหลายๆคนไม่ชอบแบบที่เป็นยัดเข้าไปครับเลยตอบโจทย์ต่อการออกกำลังและใช้งานทั่วไปมากๆและยังได้เรื่องของการระบายอะไรที่ดีกว่าด้วย ส่วนเรื่องของการออกแบบจริงๆก็ยังไม่ค่อยชอบการออกแบบที่เป็นก้านๆแบบนี้อยู่ดีมันดูแปลกๆเหมือนเอาอะไรมาเสียบก้านๆแท่งๆ แต่มันใช้งานกันจนชินกันไปหมดแล้วในตอนนี้ แต่ส่วนตัวยังไงก็ชอบแบบพวก B&O พวกนั้นยังดูดีกว่าหน่อย แต่เรื่องการคุยเสียง แน่นอนว่าแบบมีก้านดีกว่าเยอะมาก ในแง่ของการใส่เดิน ออกกำลังยังไม่เจอหลุดอะไรครับเกาะได้ดี และระบายได้ดีไม่อึดอัดเลยย ถ้าเลือกใส่วิ่ง หรือ ใส่ไปออกกำลังนั้น ยังไงคงหยิบตัวนี้ไปใช้งานมากกว่าพวก InEars แน่นอนครับ  โดยรวมความรู้สึกมันใส่สบาย ถ้าเคยใช้ Airpods มันรู้สึกยังไงรุ่นนี้ก็คือแบบนั้นเป๊ะๆครับ ใส่สบายฟังง่าย คุยเสียงชัดเหมือนกันทุกอย่าง แต่รุ่นนี้จะได้ระบบเสียงที่ตัดเสียงได้ดีกว่าเงียบกว่า Earbuds ทั่วไปแบบชัดเจน แต่ก็ยังไม่เท่าของ Inears ครับ

ตัวการควบคุมการสั่งงานนั้นจะเป็นระบบสัมผัสสามารถสัมผัสสั่งงานได้เลยในตัวนี้ ซึ่งรองรับการสั่งงานทั้งด้านขวาและซ้าย และสามารถปรับเปลี่ยนได้ในแอปครับ ซึ่งล่าสุดสามารถสั่งงานรับสายวางสายได้แล้ว แต่น่าเสียดายว่ายังไม่มีฟีเจอร์ที่ปรับเพิ่มลดเสียงแต่อย่างใด และ การสัมผัสนั้นรองรับแตะ 2 ครั้งและ 1 ครั้ง แน่นอนว่า ไม่สามารถแตะ 3 ครั้ง ย้อนไปเพลงก่อนหน้าได้เลย อันนี้ก็น่าเสียดายเหมือนกัน แต่การตอบสนองก็ทำได้ดีครับไม่เจอหน่วงอะไรในการสั่งงานแม้จะเวลาวิ่งหรือใช้งานทั่วไปแต่ต้องพอรู็ตำแหน่งของมันประมาณ ที่เห็นในภาพเลยครับออกแรงแบบเคาะนิดนึงจะทำงานได้ดีสุด ส่วนตัวก้านก็รองรับเสียงไมค์เวลาคุยอะไรชัดเจนดีมากๆ ถือว่าเป็นข้อดีของการออกแบบ

HUAWEI FREEBUDS 3 

” รายละเอียดเสียงดี ใส และเป็น ตัวแรกที่ตัดเสียงได้ในแบบ Earbuds แต่ก็มีข้อจำกัดอยู่นิดหน่อย ” 

ในเรื่องของเสียงนั้นแน่นอนว่าตั้งแต่แรกด้วยการที่มันออกแบบเป็น Earbuds เลยทำให้การคุมเสียงหรือเก็บเสียงแน่นอนว่าเทียบกับพวก Inears ไม่ได้ครับทั้งเรื่องของคุณภาพเสียง และ การตัดเสียง แต่ก็ถือว่าเป็นรุ่นแรกที่ทำออกมาและมันก็ดีกว่าที่คิดในแง่ของการออกแบบของมัน แต่ก็ยังสู้พวกนั้นไม่ได้ครับอันนี้คือข้อจำกัดของการออกแบบของมัน ส่วนเรื่องเสียงนั้นทำได้ดี​โปร่งใส เคลียร์รายละเอียดดี แต่เบสไม่ได้แน่นมากนัก การเชื่อมต่อทำได้ดีไม่ดีเล ทั้งเล่นเกมส์ และ ดูหนัง Youtube Netflix และ เชื่อมได้นิ่ง ส่วนเรื่องของแบตนั้นปกติ 4 ชั่วโมงแต่ชาร์จไวมากก อีกทั้งคุยสัญญาณได้ดีเวลาโทรศัพท์และฟังชัด ถือว่าเป็นจุดเด่นของมันเลยแหละ ในภาพรวมถือว่าเน้นใส่สบายฟังทั่วไปได้ ตัดเสียงได้ระดับนึง และถ้าใครที่เน้นเรื่องการคุย รุ่นนี้ถือว่าทำได้ดีเลยทีเดียวครับ

ข้อดี

  • ใส่สบาย น้ำหนักเบา ไม่อึดอัด
  • ระบบการเชื่อมต่อทำได้ดี สัญญาณนิ่ง ไม่ดีเล
  • คุยได้ชัดเจนมากกว่ารุ่นอื่นๆ ทำได้ดีพอๆกับ Airpods
  • ระบบตัดเสียงใน Earbuds ทำได้ดีและเป็นเจ้าแรกที่ทำ
  • ชาร์จแบตได้ไว และ รองรับ USB-C รวมถึง Wireless Charging
  • เสียงเน้นรายละเอียดเสียงใสฟังง่าย ฟังสบาย เบสกลางๆ
  • เชื่อมต่อได้ดีถ้าเป็น Huawei Android
  • สามารถวางสายรับสายได้แล้ว ในอัปเดตล่าสุด

ข้อสังเกต

  • แอปไม่รองรับใน iOS แต่เชื่อมปกติได้
  • ไม่สามารถปรับระดับเสียงได้ผ่านหูฟัง
  • เมื่อถอดหูฟังไม่ยอมหยุดเพลงหรือปิดเพลง แม้จะใส่เคสแล้วก็ตาม *เพราะฟีเจอร์นี้ใช้ได้กับแค่มือถือ Huawei
  • เสียงเบสธรรมดา
  • ระบบตัดเสียงทำได้ดีในแง่ของ Earbuds แต่ก็ไม่สูงเท่า Inear ตัวอื่นๆ

สำหรับรีวิวนี้ผมก็ต้องขอตัวลาไปก่อนสำหรับรุ่นอื่นๆก็ติดตามกันได้เลย ถูกใจฝากกดไลค์กดแชร์ด้วยนะครับ  มีข้อผิดพลาดประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ  เพื่อนๆสนใจอยากให้พวกผมรีวิวรุ่นไหนสามารถ Inbox มาบอกเราได้เลยนะ

ฝากไลค์เพจ FACEBOOK เราด้วยนะครับ >>>>>>>>>  TECHHANGOUT

เข้าร่วมกลุ่ม TECHHANGOUT พูดคุยแลกเปลี่ยน ข้อมูล คุยกันเองชิลๆได้เลยที่ — Facebook  Techhangout พูดคุย Smartphone gadget 

Review by Nineztr 

Comments กันได้เลย !

Comments

0 Shares