B&O นั้นถือว่าเป็นแบรนด์คุณภาพระดับพรีเมี่ยม ที่หลายๆคนนั้นรู้จักกันดีทั้งเรื่องของ ระบบเสียง ลำโพงพกพา ลำโพงใหญ่ หรือแม้แต่ทีวี และ หูฟังคุณภาพสูงเป็นแบรนด์ที่มีเอกลักษณ์ของตัวเองไม่ว่าจะเป็นการออกแบบดีไซน์ที่เรียบหรู รวมถึง คุณภาพเสียงที่เป็นเอกลักษณ์ทั้งหมดเพราะว่ามีโทนเสียงที่เด่นชัดและคุณภาพไม่ธรรมดา และแน่นอนว่าแบรนด์นี้ ถือว่าแบรนด์เครื่องเสียงพรีเมียมไลฟ์สไตล์จากเดนมาร์กที่เก่าแก่ที่สุดในโลกกว่า 95 ปี โดยฝีมือ 2 วิศวกรชาวเดนมาร์ก คือ Peter Bang และ Svend Olufsen เป็นชื่อย่อของแบรนด์ด้วยเช่นกัน และครั้งนี้เป็นครั้งแรกของแบรนด์ที่ ลุยตลาด Gaming และ ทำหูฟังสำหรับ Gaming ออกมาแต่ยังคงพรีเมี่ยม และ ไลฟสไตล์เด่นชัดเจนเช่นเดิมครับ มาพร้อมกับเสียงเซอร์ราวด์ที่ส่งเสียงมาพร้อมภาพ (Low-latency), ประสิทธิภาพไมโครโฟนที่โดดเด่น, การตัดเสียงรบกวนแบบ Adaptive Active Noise Cancellation, โหมดเปิดรับเสียงรอบข้าง และ วัสดุหนังแกะ รวมถึง ระบบไมค์แบบ Virtual Boom Arm ถือว่าคุณภาพนั้นไม่ต้องสงสัยสำหรับตัวนี้ครับ

B&O BEOLAY PORTAL รุ่นนี้ต้องบอกว่าเป็นหูฟัง Gaming แต่งานออกแบบ การใช้งานสามารถเอามาฟังเพลงทั่วไปได้ด้วยเช่นกันครับ และ เรื่องของคุณภาพเสียงน่าจะอันดับต้นๆของบรรดาหูฟัง Gaming และ บรรดาหูฟังใช้งานทั่วไปแล้วก็ว่าได้ เพราะให้มาครบมากๆ ทั้งการตัดเสียง ไดรเวอร์ใหญ่ ทำให้รุ่นนี้มาพร้อมกับ ไดรเวอร์ 40 มม. ที่ออกแบบขึ้นมาเป็นพิเศษทั้ง 2 ตัว พร้อมแม่เหล็กแท้คุณภาพสูง Electro-dynamic + Neodymium magnets 40 mm ให้เสียงในระดับ Hi-res รองรับและขับเสียงในช่วง 20 – 22,000 Hz  ช่วยให้เสียงคมชัดไม่ผิดเพี้ยนจากต้นฉบับ และ Dolby Atmos พร้อมกับ เทคโนโลยีตัดเสียงรบกวน  Adaptive Active Noise Cancellation ที่ผสานระบบตัดเสียงรบกวนเต็มรูปแบบ ทั้งแบบ Feed-Forward และ Feed-Back พร้อมด้วยเทคโนโลยี Own Voice ยังช่วยให้ผู้ใช้ได้ยินเสียงพูดของตัวเอง ขณะที่ตัดเสียงรบกวนจากภายนอกได้อีกด้วย และ Ear cup ผลิตจากเมมโมรี่โฟนและหุ้มด้วยหนังแกะ วัสดุรองก้านด้านบนนั้น หุ้มด้วยผ้าใยไม้ไผ่คุณภาพสูงที่คัดสรรมาโดยเฉพาะ น้ำหนักที่เบาเพียง 282 กรัม และ เรื่องของไมค์นั้น Virtual Boom Arm ด้วยเทคโนโลยี Directional Beamforming พร้อมกับไมค์ 8 ตัว รองรับทั้งตัดเสียง และ รับเสียง และตัวแบตนั้น ใช้งานต่อเนื่องได้นานสูงสุดถึง 24 ชั่วโมง เมื่อเปิดใช้งาน Bluetooth และ Active Noise Cancellation หรือ 12 ชั่วโมง เมื่อเปิดใช้งาน Xbox Wireless, Bluetooth และ Active Noise Cancellation ถือว่าจัดเต็ม พร้อมรองรับการสั่งงานสัมผัส และ ปรับระดับการตัดเสียงในตัว รวมถึง การเชื่อมต่อ XBOX Wireless 2.4GHz , Bluetooth 5.1 และ USB-C รวมถึง 3.5 มม. ครบพร้อมใช้งาน และมาพร้อมกับสี Black Anthracite, Grey Mist และ Navy

BANGANDOLUFSEN BEOPLAY PORTAL :ราคาสินค้า 23,900 บาท
มี 3 สี Black Anthracite, Grey Mist, Navy

สถานที่จำหน่าย ::  Dotlife , Studio7, MunkongGadget, BeTrend Paragon, iStudio by Copperwired, iStudio by SPVI, iBeat by Copperwired, , Beyond d Box, Bb Moe, Power Buy, Power Mall, Banana IT, Discovery Retail/ Digital Lab, Bb Move, AV Value และร้านค้าออนไลน์อย่างเป็นทางการ Mercular.com, 425 Degree, His.in.th, Central Online, JD.co.th, Lazada, Shopee และ Gadgetthai.net และร้านค้าปลีกอื่น ๆ ที่ได้รับอนุญาต

Dotlife : https://bit.ly/3wk7mlb

Mercular : https://bit.ly/3hUQUmn

Lazada : https://bit.ly/3jPoNr8

Shopee : https://bit.ly/3qQBX8X

Gadgetthai : https://bit.ly/3wqMBUS

UNBOX

ตัวกล่องนั้นยังคงมีการออกแบบที่โดดเด่นมองแล้วรู้เลยว่ามาจากแบรนด์ไหน กล่องโทนสีขาว เขียวพร้อมกับรูปตัวสินค้าจริงๆในกรอบสี่เหลี่ยมแบบนี้มีค่ายเดียวแน่นอน และมีการเขียนบอก คุณสมบัติข้างหลัง ส่วนอุปกรณ์นั้นให้มาครบ

  • ตัวหูฟัง B&O Beoplay Portal
  • คู่มือการใช้งาน
  • สาย 3.5 มม. 1.25 ม.
  • สาย USB Type-C ไป USB Type-A รองรับการเชื่อมต่อ และ ชาร์จ  1.8 ม.

DESIGN

งานออกแบบเองนั้นถือว่าโดดเด่นทั้งเรื่องของวัสดุ คุณภาพและการผลิตซึ่งแบรนด์นี้ถ้าใครได้ลองจะรู้สึกเลยว่า วัสดุการใช้งานเค้าค่อนข้างใส่ใจและใช้งานวัสดุดีๆทั้งนั้นอย่างเช่นตัวนี้ก็มีการใช้ทั้ง หนังแกะ เส้นใยไม้ไผ่ หรือจะเป็นอโนไดซ์อะลูมิเนียม ทั้งตัวบอดี้ และ การใช้งานนั้นพรีเมี่ยมมาก ส่วนในแง่รูปทรงงานออกแบบนั้นเน้นความกระชับ และมีน้ำหนักเบาพอสมควรที่ 282 กรัมเท่านั้น ถือว่าเบาและใส่ได้นานๆในแง่ของการเล่นเกม รวมถึงรูปทรงสามารถครอบใบหูทั้งหมด และไม่ได้รู้สึกอึดอัดเพราะว่า วัสดุที่ใช้งานระบายอากาศต่างๆได้เป็นอย่างดีและมีความพรีเมี่ยมนุ่มมากๆ แบรนด์นี้เองจะเน้นความเรียบๆไม่ได้มีเส้นสายหวือหวา รวมถึงมีการออกแบบไมค์ที่ไม่ต้องมีก้านไมค์ด้วยเช่นกันครับ

รูปทรงทั้งหมดจะเห็นว่าตัวบอดี้นี้จะเป็นสี NAVY ซึ่งเราจะเห็นว่าในทั้ง 3 ตัวเลือกสีตัวนี้จะสีสันมากที่สุด นอกเหนือจาก ขาว และ ดำ และรุ่นนี้จะได้สีตรงโลโก้ด้านซ้าย ขวาเป็นโทนสีเหลือบๆทองแดงนิดหน่อย ตัดกับสีน้ำเงินได้เป็นอย่างดีครับ และเข้ากับการใช้งานได้ทั้งสาวๆและหนุ่มๆ และบอดี้ภาพรวมนั้นเองจะเป็นบอดี้พลาสติกด้านผสมกับ หนัง และ อลูมิเนียมต่างๆถือว่าทำได้ดีเลยทีเดียว และ วัสดุผ้าตรงขอบก้านด้านบนนั้นเอง โดยเป็นผลงานการออกแบบของ Jakob Wagner ที่ทำงานร่วมกับทีมออกแบบของ Bang & Olufsen ถือว่าดีไซน์นั้นหรูหราไม่เหมือนกับบรรดา Gaming เท่าไรนัก และเน้นใช้งานทั่วไปมากกว่าถือว่า เป็นการออกแบบที่ตัวเดียวใช้งานได้หมด

การออกแบบตัวแผงควบคุมการทำงานส่วนควบคุมแบบสัมผัส ซึ่งตัวแผงควบคุมอะลูมิเนียมที่ไวต่อการสัมผัสและไล่เฉดที่สวยงามและสะท้อนเวลาเจอแสงได้ดี พร้อมกับโทนสีออกเหลื่อมๆทองใช้งานวัสดุผลิตด้วยเทคนิคการอโนไดซ์อะลูมิเนียม และเล่นลวดลายเวลาปัดเงาได้ดีจะท้อนแสงได้หลากหลายมุม และสัมผัสสั่งงานได้เช่นกันครับ และเราจะเห็นตัวการออกแบบที่มีไมค์รับเสียง และ ตัดเสียงต่างๆได้ครบทั้งหมดแทรกเข้ามา ส่วนการสั่งงานซ้ายขวานั้นจะทำหน้าที่เหมือนกันในส่วนสัมผัส แต่ปุ่มข้างๆนั้นจะแตกต่างกันด้านขวาจะเป็น รู USB-C และไฟสถานะสำหรับชาร์จไฟ รวมถึง รูไมค์ หลัก และ รูหูฟัง 3.5มม. สำหรับเสียบใช้งานแบบสาย และปุ่มเปิดปิด และทางด้านรุ่นนี้จะมีระบบสัมผัสตรงขอบบอดี้ สามารถปรับเสียงขึ้นลง โดยการไล่ระดับเสียงได้ง่ายๆครับถือว่าสะดวกและตอบสนองได้ง่ายมากๆ

ส่วนทางด้านซ้ายเองนั้นจะเป็นการควบคุมเรื่องของระบบการตัดเสียง ANC ที่เลือกได้ว่าจะรับเสียงข้างนอก หรือว่า ตัดเสียงแบบสุดก็สามารถปรับได้ละเอียดผ่านระบบสัมผัสได้ทั้งหมด และ ปุ่มเสริมจะเป็นการเชื่อมต่อกับ XBoxซึ่งรุ่นนี้ทำมาเน้นการเชื่อมต่อกับ คอนโซลนี้เป็นหลักด้วยเช่นกัน และ มีไมค์รับเสียง ตัดเสียงใส่เข้ามาให้ในฝั่งนี้เช่นกัน และเราจะเห็นว่าการออกแบบมีพื้นที่เข้ามาทำให้สามารถ รองรับมุมองศาของตัว EarCup ได้อิสระมากๆในการเอียง

วัสดุหนังของตัว EaCup ผลิตจากเมมโมรี่โฟนและหุ้มด้วยหนังแกะที่นุ่มสบาย และการออกแบบตัวบอดี้ด้านหลังของ EarCup ออกแบบมาให้กว้างขึ้นรับกับรูปทรงของศีรษะผู้ใช้ เผื่อความสะดวกสบาย และ เก็บเสียงได้ดีมากๆรวมถึงการระบายความร้อนซึ่งตรงนี้หนังแท้แบบนี้จะทำได้ดีกว่าหนังเทียมเยอะมากๆในการใส่ใช้งานทั่วไปในอากาศปกติ และมีการเขียน ข้างซ้าย ขวานั้น ตัวอักษรเด่นชัดมากๆ ส่วนวัสดุแถบคาดศีรษะด้านในบุวัสดุรองที่ออกแบบมาเพื่อลดแรงกดทับด้านบนศีรษะ โดยหุ้มด้วยผ้าใยไม้ไผ่คุณภาพสูงที่คัดสรรมาโดยเฉพาะมีความนุ่มกำลังดีและทนทานกว่าหนังเพราะว่าหลายๆคนเคยใช้แบบหนังน่าจะเจออาการเปื่อยได้ง่ายในด้านบน ส่วนวัสดุภายนอกก้านนั้นเป็นหนังสีน้ำเงินเข้มสวยงามและมีความแข็งแรงกว่าหนังส่วนอื่นๆและผิวสัมผัสอะไรเนียนและแน่น แต่ทำน้ำหนักได้ดีมากๆ

ตัว Earcup เองนั้นสามารถถอดออกได้ง่ายแค่หมุนเท่านั้นง่ายต่อการเปลี่ยนอะไหล่ในอนาคต และสามารถเปลี่ยนเองได้ทันที บอดี้อะไรแข็งแรงและเบาครับ เมื่อถอดออกมานั้นเราจะเห็นไดรเวอร์ขนาดใหญ่มากๆ 40มม. Electro-dynamic + Neodymium magnets  พร้อมกันการออกแบบส่งเสียงพิเศษของทางค่าย ที่ออกแบบขึ้นมาเป็นพิเศษทั้ง 2 ตัว พร้อมแม่เหล็กแท้คุณภาพสูง และรองรับ Hi-res รวมถึงขับเสียงในช่วง 20 – 22,000 Hz พร้อมด้วยฟีเจอร์ตัดเสียงรบกวน Active Noise Cancelling ส่วนตัวก้านนั้นสามารถปรับความยาวได้แต่ไม่มีล็อกเป็นขั้นๆอะไรครับเลื่อนได้ปกติเลย มีความหนืดกำลังดี และ มีความแข็งแรงด้วยวัสดุ อลูมิเนียมด้านทำสีปัดลายนิดหน่อยครับ

SPEC

  • ระบบตัดเสียงรบกวน Adaptive Active Noise Cancellation, โหมด Transparency mode,
  • รองรับ Dolby Atmos
  • ไมโครโฟน MEMS 4 ตัวสำหรับตรวจจับเสียงพูด (2ตัวใช้ร่วมกับ ANC)
  • ไมโครโฟน MEMS สำหรับ ANC 4 ตัว (ข้างละ 2 ตัว)
  • ไดร์เวอร์เส้นผ่านศูนย์กลาง 40มม., Driver Sensitivity 95dB @ 1kHz / 1 mW,
  • ช่วงความถี่ 20-22,000 Hz
  • สามารถปรับแต่งระบบ Sound EQ ได้ในแอป Bang & Olufsen
  • ขนาดตัวหูฟัง  167.3 x 178.7 x 92.6 มม.:
  • น้ำหนัก 282 กรัม
  • รองรับเครือข่าย Bluetooth 5.1, Xbox Wireless
  • รองรับ SBC, AAC, aptX™ Adaptive
  • ใช้ช่องเสียบหูฟัง 3.5มม. และ ชาร์จด้วย USB-C สามารถเชื่อมอุปกรณ์ได้พร้อมกัน 2 อย่าง
  • แบตเตอรี่ Lithium-Ion 1,200mAh ที่ใช้งานได้ 12 ชั่วโมงเมื่อเปิด Xbox wireless, Bluetooth and Active Noise Cancelling
  • ใช้งานได้ 24 ชั่วโมง Bluetooth and Active Noise Cancelling สามารถชาร์จเต็มในเวลา 3 ชั่วโมง
  • ใช้เวลาชาร์จจาก 0 > 100% เฉลี่ย 3 ชั่วโมง
  • Black Anthracite , Grey Mist , Navy

SOFTWARE

ทางด้านหูฟังนั้นจะรองรับการเชื่อมต่อที่หลากหลายทั้ง PC , XBOX , SMARTPHONE ซึ่งเชื่อมต่อแตกต่างกันทั้ง Bluetooth , Wireless , หรือจะเป็นเสียบสายก็รองรับครับ และตัวนี้รองรับ Google Fast Pair ด้วยเช่นกันเมื่อเปิดใกล้ๆมือถือก็จะเด้งขึ้นมาให้เชื่อมต่อทันที และ ในมือถือสามารถใช้งานแอป B&O ที่จะเป็นแอปมาตรฐานด้วยนั้นเอง ก็สามารถทำการเชื่อมต่อได้มาตรฐานปกติ และ ตั้งค่าได้ทั้งหมด ส่วนในคอมพิวเตอร์เองนั้น Windows รองรับ Dolby Atmos ถ้าเราเสียบสาย USB หรือ Wireless 2.4GHz ที่เป็น Adaptor ซื้อเพิ่มถึงรองรับระบบเสียง Dolby Atmos นะครับ และเมื่อเสียบกับตัวคอมพิวเตอร์เองนั้นก็สามารถเข้าไปส่วนตั้งค่า Dolby ได้ ในแอป Dolby Access นั้นเอง เมื่อเข้าในแอปก็จะรองรับและเช็กระบบว่ามีหูฟังที่รองรับเสียบใช้งานหรือไม่นั้นเองครับตัวนี้

สำหรับทางแอปบนมือถือกันก่อนตัวนี้จะสามารถปรับแต่งสี ชื่อหูฟังได้เองง่ายๆ และในหน้านั้นจะเป็นการแสดงผลหลักๆ ว่าจะเลือกเชื่อมต่อแบบ Bluetooth หรือว่า XBOX พร้อมกับบอกสถานะหูฟัง รวมถึง การควบคุมเสียง ระดับเสียง เพลงต่างๆ และโหมดการฟังก็สามารถปรับได้ หรือจะปรับแต่งเสียงเองได้เช่นกัน และ แถบล่างนั้นเป็นการปรับการตัดเสียงว่าจะสูงมากน้อยแค่ไหน และ เปลี่ยนค่าอื่นๆได้ด้วยเช่นกันครับ รวมถึงตั้งค่าให้มันดับเองในกี่นาที

และแน่นอนว่า Dolby Atmos เองนั้นจะรองรับในตัว PC , XBOX ก่อนนะครับผมถึงจะเปิดใช้งานได้ และ การตั้งค่าตัวควบคุมฝั่งซ้ายเองจะสามารถปรับได้ว่าเป็นการควบคุมตัดเสียง หรือ ว่า ปรับระดับเสียงตนเองเวลาเล่นเกมแชท ส่วนการปรับ EQ เองนั้นค่อนข้างง่ายและเข้าใจได้ง่ายเป็นแบบเลื่อนในวงกลมได้อิสระว่าเราจะเน้นเสียงแบบไหน เบสหนัก เบสอ่อน แหลม ใส อุ่นต่างๆสามารถปรับได้ง่ายๆคนทั่วไปเข้าใจได้ง่าย ไม่ต้องมีแถบ EQ อะไรเยอะถือว่าดีมาก

แต่ถ้าเข้าใช้งานผ่านตัวคอมพิวเตอร์แบบเสียบสาย หรือ ตัวแปลง Wireless ที่ต้องซื้อแยกนั้นจะรองรับระบบเสียง Dolby Atmos ทันที แต่ถ้า Bluetooth หรือ สาย 3.5 มม. เองนั้นไม่รองรับนะครับ ซึ่งตัวแอปเองนั้นไม่ใช่ว่าจะใช้งานได้ทุกคน แต่ต้องมีหูฟังที่มี License ด้วยเพราะว่าทางโปรแกรมจะเชตและขึ้นโชว์ว่า รองรับ จากแบรนด์อะไร ซึ่งในภาพนั้นจะเขียนชัดเจนว่า BANG&OLUFSEN และ สามารถปรับ EQ และ เร่งระดับเสียง รวมถึง จำลองเสียงรอบทิศทางได้ทั้งหมด และถ้าไม่ได้เปิดโปรแกรมนี้ ระบบ Dolby Atmos จะไม่ทำงานนะครับในครั้งแรก แต่ถ้าเปิดลงแอปแล้วก็สามารถปิดใช้งานได้ปกติ ถือว่าใช้งานได้ง่ายและไม่ยุ่งยาก แต่ถ้า XBOX ก็รองรับได้ทันทีไม่ต้องมีแอปอะไรเพิ่ม แค่เชื่อมต่อมาตรฐาน และ ไม่ต้องมีอุปกรณ์อะไรเสริมครับพร้อมใช้งานตั้งแต่แกะกล่องรวมถึง Atmos

GAMING 

ทางด้านเกมมิ่งนั้นแน่นอนว่าตัวนี้เป็นหูฟังตัวแรกที่ออกมาจากค่ายนี้พร้อมกับเน้นไปในกลุ่ม Gaming ไม่ว่าจะเป็นคอนโซล XBOX PC หรือแม้แต่มือถือ และรองรับได้อิสระมากๆ แต่น่าเสียดายว่า PS5 นั้นจะได้แค่แบบ สาย 3.5 มม.นะครับ ในแง่ของฟีเจอร์ สเปกที่ใส่เข้ามาตอบโจทย์สายเกมมากๆคงจะเป็นเรื่องของ ตัวไมค์ที่รับเสียงได้ดีกว่าปกติ และ ทางด้านความหน่วงต่ำ รวมถึงการรองรับเสียง Dolby Atmos และด้วยสเปก ไดรเวอร์ผสม Electro-dynamic + Neodymium magnets 40 mm ให้เสียงในระดับ Hi-res ขับเสียงในช่วง 20 – 22,000 Hz พร้อม  Active Noise Cancelling และใน ส่วนไมโครโฟนนั้นจะประกอบไปด้วยไมโครโฟน 8+1 ตัวบนหูฟัง รวมถึงไมโครโฟน Virtual boom arm ไมค์ Broadcasting Grade สำหรับเก็บเสียงพูดที่สะอาดใสโดยเฉพาะ น่าจะเป็นหูฟัง Gaming ที่เสียงดีที่สุดในการขับเสียง มิติเสียง ความนุ่ม และคุณภาพสูงที่สุดในตลาดตอนนี้ได้ทันทีเลย

แต่การเล่นเกมแน่นอนว่าหลายๆคนจะชอบมาสอบถามกันว่าเรื่องของความหน่วงหละจะเป็นยังไง แน่นอนว่าขอพูดในมุมตัว 2.4GHz Wireless ก่อนเพราะว่าเป็นฟีเจอร์ที่รองรับทีทีในตัว XBOX – ( PC ถ้ามีอุปกรณ์เสริม ) แน่นอนว่าถ้าเชื่อมต่อแบบนี้ ไม่มีความหน่วงให้ได้ยินและตอบสนองได้ดีมากๆรวมถึงรองรับ Dolby Atmos ทันที ซึ่งเป็นการเชื่อมต่อที่ดีและโหดสุด ในการใช้งานครับ แต่ถ้าเป็นแบบ Bluetooth ตัวนี้มาพร้อมกับ Bluetooth 5.1 ทำให้รองรับการใช้งานได้ดีเหมือนกันทั้ง มือถือ หรือ คอมพิวเตอร์ หรือแม้แต่พวก อุปกรณ์อื่นๆทั่วไป ในการเล่นเกมนั้นไม่เจอความหน่วงอะไรในการเล่นเพราะว่า เทคโนโลยีถือว่าพัฒนาขึ้นมาเยอะมากแล้ว และตัวรับส่งทำได้ดีแต่ถ้าถามว่าถ้าคนช่างสังเกตจริงๆนั้นก็แอบมีหน่วงแต่อยู่ในระดับที่เล่นเกมได้ไม่มีปัญหาครับ ยังไงไร้สายก็มีความหน่วงนิดหน่อยอยู่แล้วนั้นเอง และ เสียงที่ใช้งานได้ดีและไม่หน่วงคือแบบสาย 3.5 มม. หรือ USB-C ทั้งสองขับออกมาได้ดี และถ้าเสียบ USB กับคอมนั้นสามารถใช้งาน Atmos ได้ทันทีและเสียงดีกว่าแบบ 3.5 มม. ชัดเจนเลยในเรื่องของเสียง

และแน่นอนว่าเล่นเกมก็จะมีเรื่องของไมค์เสริมเข้ามา ตัวนี้เป็นการใช้เทคโนโลยีใหม่ล่าสุด Virtual Boom Arm ทำให้ไม่ต้องมีก้านไมค์ที่ยื่นออกมารับเสียงที่มีในหูฟังเกมมิ่งส่วนใหญ่ ด้วยเทคโนโลยีการออกแบบ Directional Beamforming ที่จับทิศทางของเสียงพูดแล้วทำให้ดังขึ้น ในขณะที่ตัดเสียงรบกวนรอบข้างออก ทำให้ได้ยินเสียงสนทนาชัดเจนมากกว่าหูฟังเพลงทั่วไปในค่ายตัวเองหรือค่ายอื่นๆ และรู้สึกแตกต่างกับรุ่นทั่วไปเยอะมากเช่นเดียวกัน แต่ถ้าถามว่า ไมค์นั้นเทียบกับหูฟัง Gaming ที่มีก้านได้ไหม ต้องบอกว่ายังครับ ทั้งความแน่นของเสียง และ มิติเสียงที่รับได้ แน่นอนว่า ตำแหน่งไมค์ห่างกันเยอะย่อมแตกต่าง แต่ถ้าบอกว่าดีกว่าทั่วไป หูฟังทั่วไปที่ราคาใกล้กันไหมในการเล่นเกม ต้องบอกว่าดีกว่าเยอะมาก ดูดเสียงได้ดี เสียงชัด แต่จะออกแนวใสๆ กังวานมากกว่าไม่แน่นมาก

SOUND 

Bang & Olufsen BeoPlay Portal นั้นมาพร้อมกับ ไดรเวอร์ 40 มม. เต็มๆตัวบอดี้พร้อมกับ Electro-dynamic + Neodymium magnets และสามารถขับ Hi-Res พร้อมกับ ความถี่เสียงระหว่าง 20 – 22,000 Hz ค่า Impedance 24 Ohm +/- 15% และแน่นอนว่า แบรนด์นี้ถ้าใครเคยสัมผัสหรือใช้งานนั้นจะค่อนข้างประทับใจเรื่องของเสียง แนวเสียงที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง และคุณภาพอันดับต้นๆไม่มีผิดหวังทำเสียงดีแน่นอนโดยแนวเสียงของทางแบรนด์ B&O นี้ก็จะโดดเด่นในเรื่องของความแม่นยำในตำแหน่งเสียง เสียงมีความโปร่งและเสียงจะโทนผู้ดีนิดๆฟังสบายนุ่ม และเบสมาหนักแบบกำลังดี รวมถึงในเรี่องของเสียงนั้น ตำแหน่งดี มีความแม่นยำ เนื้อเสียงเป็นกลาง ซึ่งส่วนตัวเป็นหูฟังที่เสียงคุณภาพสูงมากๆเมื่อมองเป็นสาย Gaming แต่ด้วยพื้นฐานของแบรนด์นั้นไม่แปลกใจ เพราะว่าเน้นเรื่องคุณภาพเป็นหลักอยู่แล้วเสียงขับได้กำลังขับเด่นแม้จะใช้กับมือถือก็ตาม ส่วนหูฟังเหมาะแก่การเอามาฟังเพลงอย่างมาก ขับเสียงร้องชัดเจน เวทีเสียงกว้างมากๆ สามารถฟังเพลง POP แต่ได้ยินเสียงดนตรีข้างหลังแม้จะมีเสียงร้อง หรือว่าเสียงดนตรีอื่นๆอยู่ถือว่าเก็บรายละเอียดได้โหด รวมถึงเบสที่มีความแน่นลงลึกได้ดีถือว่าลงตัวและเป็นหูฟังที่ถ้าเราไปฟังเพลงหรือไฟล์อะไรที่ทำออกมาได้ดีจะฟังแล้วรู้สึกได้ชัดเจนเลยทีเดียวสำหรับ Portal นี้  ทดสอบโดยการฟังทั้งเพลง EDM – JAZZ หรือแนวทั่วไปตัวนี้ถือว่าเซตมาขับออกมาได้ง่ายที่สุดเท่าที่เคยลองแบรนด์นี้มา อาจจะด้วยการมาลุยสาย Gaming ก็อาจจะเซตออกมาที่ขับได้ง่ายกว่ารุ่นอื่นๆแบบรู้สึกได้เลยทีเดียว ฟังได้หลากหลายแนวมากๆ และ เบสยังมาแบบสนุกกระชับ สามารถตอบสนองต่อการเล่นเกมได้ดีกว่ารุ่นปกติ

สำหรับเสียงในแง่ของการเล่นเกมก็สามารถขับได้ง่ายและชัดเจนรวมถึงการทำงานร่วมกับ Dolby Atmos ทางเราได้ทดสอบสำหรับเกมที่รองรับ ใน PC ถือว่าขับออกมาได้ดีแต่ถ้าไม่ได้เปิดตัวช่วยขับในบางคอมพิวเตอร์นั้นเสียงอาจจะเบาไปเล็กน้อยครับ แต่ถ้าเปิดก็ถือว่าจัดเต็มดีขึ้น ในแง่ของแนวเสียงนั้นเมื่อเล่นเกมจะรู้สึกเลยว่าตัวนี้โทนเสียงเซตมาเน้นเกมมากกว่ารุ่นอื่นๆอย่างแรกที่รู้สึกได้นั้นจะเป็นเสียงทิศทางที่ชัด และ โปร่งกว้างมากๆ เสียงเดินทำงานร่วมกับ Atmos ได้ดี สามารถจับทิศทางได้ดีกว่าหูฟังอื่นๆชัดเจน รวมถึงเสียงพูดในเกมชัดเจนเด่นขึ้นมากว่าเสียงพื้นหลัง เสียงเพลงมากๆ เวลาตัวละครพูด หรือ คนในเกมพูดอันนี้เด่นมาก ส่วนทางด้านเสียง Effect เพลง หรือ ปืน ระเบิดต่างๆนั้นทำได้หนักแน่นแต่อาจจะไม่ได้สะใจอะไรมากเหมือนจะเน้นไปทางเสียงคน เสียงเดินได้ชัดมากกว่า แต่ที่ชอบคือเวทีเสียง มิติของมันค่อนข้างกว้างมากๆเล่นแล้วจะรู้สึกเสียงมันไม่ได้อุดอู้ใกล้มากนักแต่มีมิติชัดเจน บรรยากาศแวดล้อมของเสียงถือว่าดีตามระยะของตัวเกม อาจจะด้วยไดรเวอร์ใหญ่และผสมกับ Atmos ถือว่าแตกต่างกว่า 7.1 ในหลายๆตัวที่อาจจะไม่ได้เซตมารองรับหรือโปรแกรมรองรับแบบนี้นั้นเองครับ ทำงานร่วมกันทั้ง Hardware Software ถือว่าดี ในแง่ของการเล่นเกมตัวนี้จัดว่าเสียงในการเล่นเกมดีมีมิติอันดับต้นๆของบรรดาหูฟังที่ทดสอบมา

FEELING 

การใส่ใช้งานในเรื่องของผิวสัมผัสการใช้งานหรือว่าความเบาสบายตัวนี้ยังคงตอบโจทย์ได้ดีอยู่แล้วและเท่าที่ทดสอบมาหลายๆตัวของแบรนด์นี้เองนั้นจัดว่ามาตรฐานสูง และทำได้ดีเสมอในการใส่ใช้งานจริงเหมือนทาง B&O นั้นเข้าใจกลุ่มลูกค้าตัวเองและราคาที่แลกกันทำให้หลายๆจุดนั้นสัมผัสดีทั้งหมด และแม้จะเป็นสาย Gaming แต่ทางค่ายเองก็ไม่ได้ปรับลดอะไรแต่อย่างใด รวมถึงพัฒนาเรื่องของน้ำหนักให้เบาแต่ไดรเวอร์ใหญ่ มาพร้อมการตัดเสียง และ แบตขนาดใหญ่แบบนี้ใส่เข้ามาได้ถือว่าทำได้ดีมากๆแล้ว ตั้งแต่สัมผัสแรกรู้สึกเลยว่ามันแอบเบากว่าที่คิดไว้ชัดเจน และทำให้ใส่นานๆสบายและไม่ล้า อาจจะมีผลจากน้ำหนักเบา และ การออกแบบตัวรูปทรงก็มีส่วนช่วยมากๆเพราะอิงตามสรีระ ร่างกายได้ดีและวัสดุหนังแกะแท้ ทำให้ใส่นานๆสามารถระบายอากาศได้ดีมากๆ ซึ่งเราจะไม่ค่อยเห็นหูฟัง Gaming ใช้งานวัสดุอะไรแบบนี้ รวมถึงรูปทรงแบบครอบหูทั้งหมดแต่ไม่อึดอัดและมีความลึกทำให้เวลาใส่ไม่ชนหู

เราจะเห็นว่าความกว้างของตัวก้านกำลังดีต่อการใช้งาน สามารถรองรับศรีษะของคนได้หลากหลายแบบและไม่ได้บีบอัดแม้แต้น้อยเลย ตัว Earcup นั้นกำลังดีในการครอบใบหูทั้งหมดแบบไม่ได้กดทับใบหู รวมถึง สามารถลึกพอที่จะทำให้ใบหูไม่ชนข้างในสำหรับผมเองบางรุ่นแม้จะมีราคาสูงแต่ส่วนนี้จะค่อนข้างตื้นมากๆทำให้ใส่นานๆไม่สบาย แต่รุ่นนี้ออกแบบมาลึกชัดเจนครับ ส่วนการปรับองศาอะไรทำได้อิสระ บนล่าง ซ้ายขวา และให้ตัวพอสมควรเลยรวมถึงตัวก้านข้างบนที่เป็นวัสดุหนังข้างนอก แต่ข้างในนั้นจะเป็นวัสดุใยผ้าไม้ไผ่ที่ทำออกมาได้นุ่มกำลังดี แต่ระบายอากาศเด่นๆและไม่กดลงมากเกินไป อีกทั้งยังมีความทนทานต่อเส้นผมที่บางคนอาจจะผมสั้นก็จะมีอายุใช้งานได้ยาวกว่าพวกหนังแท้ หรือ หนังเทียมที่อาจจะสะสมเหงื่อหรือทิ้งได้ง่ายมากกว่าเวลาใส่ไปนานๆหรือลอกได้ง่ายกว่านั้นเองครับ

ขนาดภาพรวมนั้นกำลังดีไม่ใหญ่เทอะทะแบบ Gaming จ๋าๆ และ ไม่ได้เล็กจนอึดอัดสามารถใส่เล่นเกม และเป็นตัวเดียวกันกับการใช้งานพกพาไปข้างนอกฟังเพลง คุณภาพสูงได้ รวมถึงการสั่งงานตัวนี้จะรองรับ 2 ส่วนครับ คือสามารถแตะสั่งงานตรงสีเงินโลโก้ได้ทั้ง 2 ข้าง จะเป็นการสั่ง เล่น หรือ หยุดเพลง แต่จะไม่สามารถสั่งอย่างอื่นได้เลย ไม่ว่าจะ เปลี่ยนเพลงหรืออื่นๆ แอบน่าเสียดายมากๆครับ ส่วนการควบคุมแบบ ปรับระดับเสียง ปรับระบบตัดเสียงเองนั้นจะอยู่ขอบข้างหลัง ซึ่งเป็นระบบสัมผัสแบบ เลื่อนขึ้นลง อันนี้ถือว่าใช้งานได้ไวสะดวกและปรับได้เนียนละเอียด

BEOPLAY PORTAL 

” หูฟัง Gaming คุณภาพสูง ทั้งการฟังเพลง เล่นเกม และ วัสดุ คุณภาพ สมราคา “

BEOPLAY PORTAL รุ่นนี้ถือว่าเป็นหูฟัง GAMING LIFESTYLE ตัวนึงที่ต้องบอกว่าคุณภาพสูงและทางเราให้ EDITOR’S CHOICE ไปเลยสำหรับตัวนี้ ซึ่งการที่ทางแบรนด์ B&O ลงมาลุยเจาะกลุ่มนี้เหมือนว่าจะไม่ธรรมดาซะแล้วทั้งในแง่ของ คุณภาพเสียงการใช้งานจริง ไม่ว่าจะเล่นเกม หรือ ฟังเพลง รวมถึงการเสพคอนเทนต์บอกเลยว่าคุณภาพมันเหลือจนสามารถเอาไปฟังเพลง Lossless ได้แบบสบายๆถ้าเสียบสาย รวมถึงสามารถขับเสียงออกมามิติดี เวทีเสียงกว้างมากๆ ส่งผลดีทั้งฟังเพลง รายละเอียดชิ้นดนตรีทำได้เด่นได้ยินเสียงที่ปกติไม่ได้ยิน รวมถึง ส่งผลต่อการเล่นเกม เสียงคนเดิน เสียงยิงปืนทิศทางมาแม่นเป๊ะมาก และเสียงคนพูดเซตมาเด่นกว่าทุกเสียงเวลาคุยกันในเกม รวมถึง เสียงจากตัวละคร และ นอกเหนือจากเสียง ทั้งเรื่องฟีเจอร์การตัดเสียง การควบคุมหรือตั้งค่าเสียงต่างๆนั้นทำได้ดีเด่นมากๆ Atmos ใช้งานได้จริง รวมถึงรองรับได้หลากหลายอย่างมากในการใช้งานหลายๆอย่าง และทางด้านวัสดุคือจุดที่ค่ายนี้มาตรฐานยังคงทำได้ดีแน่น วัสดุหนังแกะ ผ้าใยไม้ไผ่ต่างๆ รวมถึงการออกแบบทุกอย่างทำได้ดี

ข้อดี

  • หูฟังในสาย Gaming ที่คุณภาพเสียงดีที่สุด ขับเสียงออกมาได้เด่นที่สุด
  • งานออกแบบ วัสดุพรีเมี่ยม เนี๊ยบ รูปทรงสวยหรู เบาระบายอากาศได้ดี
  • รูปทรงไม่บีบ ไม่อึดอัด ออกแบบตามหลักศรีระลงตัว
  • เป็นหูฟังที่รองรับ XBox ที่มาพร้อมระบบตัดเสียงในตลาด
  • การเชื่อมต่อทำได้ดี นิ่ง สเถียร รองรับได้หลากหลาย
  • ระบบเสียง Dolby Atmos ทำได้ดีในเกมที่รองรับบน PC XBOX
  • การขับเสียง มิติมาครบ เวทีเสียงดี โทนเสียงนุ่มเป็นเอกลักษณ์ เสียงใสชัดเจน
  • การตัดเสียง ANC เงียบมาก และ ปรับได้ละเอียดมากๆในตลาดตอนนี้
  • การควบคุม ระดับเสียง การตัดเสียงทำได้ง่ายผ่านตัวหูฟัง
  • แบตอึดมากๆในการใช้งานทั้งวันแบบไร้สาย

ข้อสังเกต

  • ไม่มี Dongle ไร้สายกับเวลาใช้ Wireless กับคอมพิวเตอร์มาให้ในกล่อง
  • ไมค์มิติเสียงอาจจะยังสู้แบบมีก้านไม่ได้เท่าไรแต่ดีกว่ารุ่นทั่วไป เน้นเสียงชัด
  • การสั่งงาน ไม่รองรับเปลี่ยนเพลง หรือ คำสั่งเสียงในการเชื่อมมือถือ

สำหรับรีวิวนี้ผมก็ต้องขอตัวลาไปก่อนสำหรับรุ่นอื่นๆก็ติดตามกันได้เลย ถูกใจฝากกดไลค์กดแชร์ด้วยนะครับ  มีข้อผิดพลาดประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ  เพื่อนๆสนใจอยากให้พวกผมรีวิวรุ่นไหนสามารถ Inbox มาบอกเราได้เลยนะ
ฝากไลค์เพจ FACEBOOK เราด้วยนะครับ >>>>>>>>>  TECHHANGOUT

เข้าร่วมกลุ่ม TECHHANGOUT พูดคุยแลกเปลี่ยน ข้อมูล คุยกันเองชิลๆได้เลยที่ — Facebook  Techhangout พูดคุย Smartphone gadget 

Review by Nineztr 

Comments กันได้เลย !

Comments

0 Shares