แท็บเล็ตกำลังบุกรุกการเรียน ลืมกระเป๋าเป้สะพายหลังที่เต็มไปด้วยหนังสือ นี่เป็นยุคของแท็บเล็ตและการเรียนแบบดิจิทัล บทความนี้สรุปข้อดี 10 ข้อของการใช้แท็บเล็ตที่ครอบคลุมสถาบันต่างๆ และวิธีการสอน มาดูกันว่าทำไมการเป็นนักเรียนสมัยนี้มันเท่จัง

  1. ใช้งานง่าย

แท็บเล็ต นั้นใช้งานง่ายกว่าคอมพิวเตอร์เดสก์ท็อปและโน้ตบุ๊ค หรือแม้แต่หนังสือที่เป็นกระดาษ เด็กวัยหัดเดินก็ใช้แท็บเล็ตได้ หนังสือเรียนดูเหมือนจะแพ้ในหลาย ๆ ด้านอยู่ เด็กตัวเล็ก ๆ นั้นสามารถพัฒนาการเรียนรู้ผ่านการเล่นเกมได้ คนสูงอายุสามารถเรียนรู้ได้อย่างรวดเร็วด้วยแท็บเล็ต ทำให้เป็นวิธีที่ดีสำหรับปู่ย่าตายายในการติดต่อกับหลาน ๆ ของพวกเขาด้วยการฟังเพลงหรือเล่นเกมด้วยกัน

  1. สื่อสารโดยตรง

แท็บเล็ตเชื่อมต่อได้ทั้งนักเรียน ผู้ปกครอง และครู บันทึกย่อหรืองานที่เขียนด้วยลายมือจะหายไปในเวลาไม่นาน ไม่ว่าจะโดยตั้งใจหรือโดยบังเอิญ แต่จะไม่เกิดขึ้นกับข้อมูลดิจิทัล

นักเรียนจะไม่ลืมทำการบ้าน คอมเมนต์ของครูที่มีต่องาน และเวลานัดหมายการเรียนต่าง ๆ ครูก็ไม่ลืมว่าจะต้องตามงานนักเรียนชิ้นไหนบ้าง เมื่อมีอีเมลก็เตือนนักเรียนได้ว่าอย่าลืมส่งงานนะ หรือคุยกับนักเรียนบางคนที่มีปัญหาเพื่อช่วยเหลือได้ทันท่วงที หากนักเรียนป่วยหรือเราอยู่ในช่วงวันหยุดก็ยังช่วยได้ ผู้ปกครองยังสามารถตรวจสอบเกรดและติดต่อครูได้  หากบุตรหลานต้องการความช่วยเหลือเพิ่มเติม 

  1. เข้าถึงง่าย

ผู้สอนสามารถส่งสื่อที่มีจำเป็นให้กับนักเรียนแบบเรียลไทม์ได้อย่างรวดเร็วด้วยการคลิกเพียงไม่กี่ครั้ง นักเรียนสามารถใช้แหล่งข้อมูลที่แนะนำเพื่อทำการบ้านได้ แท็บเล็ตช่วยให้นักเรียนเข้าถึงการวิจัยได้ทันที ซึ่งเป็นฐานความรู้มหาศาลที่พร้อมใช้งานเพียงปลายนิ้วสัมผัส

แต่ก่อนนักเรียนต้องหาเพื่อนร่วมชั้นหรือเข้าถึงหนังสือเพื่อขอความช่วยเหลือเกี่ยวกับงานที่ไม่เข้าใจ ขณะนี้มีเว็บไซต์และวิดีโอมากมายที่แสดงตัวอย่างบทเรียนได้ เด็ก ๆ ไม่จำเป็นต้องตามหลังเพียงเพราะไม่สามารถไปห้องสมุดหรือติดต่อเพื่อนเพื่อขอความช่วยเหลือได้

  1. ปรับให้เข้ากับความต้องการได้

สำหรับครูแล้วต้องจัดการกับรูปแบบการเรียนรู้ที่หลากหลาย เนื่องจากนักเรียนแต่ละคนไม่เหมือนกัน บางคนวิ่งช้า บางคนวิ่งเร็ว ก้าวต่างกัน ความสนใจก็ต่างกันด้วย ครูสามารถใช้ E-learning เพื่อเอาชนะอุปสรรคนี้และนำเสนอหลักสูตรเดียวกันในรูปแบบต่าง ๆ เช่น ฉายวีดิทัศน์หรือเชิญนักเรียนเล่นเกมการศึกษา

แท็บเล็ตยังรองรับความต้องการพิเศษ ผู้เรียนที่มีความทุพพลภาพจะประทับใจกับการใช้งานของแท็บเล็ต และหลักสูตรที่ปรับให้เหมาะสม

เด็ก ๆ ยังพูดใส่แท็บเล็ตและแปลงเสียงเป็นข้อความเพื่อเขียนเอกสารได้ นักเรียนที่มีความทุพพลภาพอื่น ๆ สามารถดาวน์โหลดเทคโนโลยีที่ใช้อยู่แล้วลงในแท็บเล็ตและนำติดตัวไปได้ทุกที่

  1. คุ้มกว่าหนังสือเรียน

แท้จริงแล้วแท็บเล็ตเป็นการลงทุนที่ชาญฉลาด ไม่มีฝุ่น ไม่มีการขึ้นราคา ไม่มีเซอร์ไพรส์จากผู้ให้บริการหนังสือเรียน ไม่มีปัญหาเรื่องการจัดเก็บและความเสียหาย และใส่หนังสือเรียนหลายพันเล่มในเครื่องเดียว

แท็บเล็ตจะอัปเดตข้อมูลเวอร์ชันใหม่ล่าสุดได้อย่างง่ายดายเช่นกัน หนึ่งหรือสองทศวรรษที่แล้ว หากโรงเรียนจะเปลี่ยนหลักสูตร พวกเขาต้องซื้อหนังสือใหม่ด้วย ซึ่งสุดท้ายต้องเสียเงินหลายแสนบาทเพื่อจัดหาให้นักเรียนหลายร้อยคน 

  1. แสดงภาพและรายงานอย่างรวดเร็ว

แท็บเล็ตเป็นสิ่งจูงใจที่ยอดเยี่ยมสำหรับการฝึกฝนทักษะทางวิทยาศาสตร์ ตัวอย่างเช่น นักเรียนสามารถบันทึกการทัศนศึกษาได้ทันที ไม่ว่าจะเป็นการตั้งแคมป์ ไปสวนสัตว์ หรือพิพิธภัณฑ์ 

นักเรียนสามารถใช้บันทึกบทเรียนหรือแนวคิดที่มี แล้วกลับไปฟังในภายหลังและจดจำข้อมูลที่ต้องการได้อย่างแม่นยำ สิ่งอื่น ๆ เช่น เครื่องคิดเลขและแอปพลิเคชันพยากรณ์อากาศเป็นโบนัสเพิ่มเติม ฟีเจอร์เล็ก ๆ น้อย ๆ ทั้งหมดของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์มีไว้เพื่อช่วยเด็ก ๆ แก้ปัญหาและทำงานให้เสร็จอย่างรวดเร็ว

  1. พัฒนาทักษะการใช้คอมพิวเตอร์ ส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์

การเรียนรู้วิธีใช้คอมพิวเตอร์ตั้งแต่ระดับประถมศึกษาเป็นต้นไปเป็นเรื่องสำคัญ อีกทั้งแท็บเล็ตยังส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ เช่น วาดรูป แต่งเพลง หรือสร้างภาพยนตร์โดยไม่ต้องใช้เครื่องมือเพิ่มเติม 

ทุกวันนี้นายจ้างกำลังมองหาผู้สมัครงานที่มีทักษะคอมพิวเตอร์ขั้นพื้นฐานเป็นอย่างน้อย พวกเขาต้องการคนที่สามารถทำงานได้ดีกับแอปพลิเคชัน เช่น Word, Excel และ PowerPoint แม้ว่านักศึกษารุ่นเยาว์จะไม่กังวลกับการหางานในเร็ว ๆ นี้อย่างแน่นอน แต่การเริ่มต้นเรียนรู้ตั้งแต่เนิ่น ๆ เป็นสิ่งที่ดี ใครจะไปรู้ บางทีเด็กคนหนึ่งอาจพบว่าชอบทำงานกับคอมพิวเตอร์ และเลือกเส้นทางเขียนโค้ดหรือออกแบบกราฟิกสักวันหนึ่ง

  1. การประเมินที่ไม่ยุ่งยาก

การประเมินนักเรียนแง่ายขึ้น เว็บไซต์สมัยใหม่ยังให้ข้อเสนอแนะและตัวเลือกบทเรียนในทันที หากเด็กทำแบบทดสอบออนไลน์แต่ทำได้ไม่ดี พวกเขาสามารถดูวิดีโอบนเว็บไซต์และทำซ้ำได้ทันที ไม่ต้องให้ครูรวบรวมทุกอย่าง แถมยังประเมินผลได้อย่างรวดเร็ว 

  1. การบ้านแบบไร้กระดาษ

หลาย ๆ สถาบันให้นักเรียนส่งผลงานในรูปแบบดิจิทัล กระดาษไม่ใช่ทางเลือกอีกต่อไป ทั้งนี้เพื่อช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม เพราะแต่ก่อนโรงเรียนมีส่วนทำให้เกิดขยะเหล่านี้ แต่ว่าแท็บเล็ตสามารถลดการปล่อยแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ได้อย่างแท้จริง

  1. จำลองการเรียนรู้

การบินอาจเสี่ยงและมีค่าใช้จ่ายสูงเกินไป แต่เกมจำลองสถานการณ์จำลองการเรียนรู้ทักษะแบบเสมือนจริง ช่วยให้นักบิน ทหาร และศัลยแพทย์ได้ฝึกฝีมือก่อนไปเจอสถานการณ์จริง 

การเรียนรู้ในสภาพแวดล้อมจำลองช่วยลดความเครียดที่เด็กบางคนอาจรู้สึกเกี่ยวกับการทำข้อสอบ การนำเสนอ หรือการเรียนรู้หัวข้อใหม่ที่ยากลำบาก นอกจากนี้ยังสามารถนำประสบการณ์นี้มาปรับใช้ในห้องเรียนได้ 

     มาดูกันว่าแท็บเล็ตราคาไม่เกิน 20,000 บาทที่สามารถช่วยให้เราเรียนรู้ทักษะใหม่ เพื่อนำมาปรับใช้กับการเรียนมีอะไรบ้าง

1.Samsung Galaxy Tab A 10.1

Samsung Galaxy Tab A เป็นแท็บเล็ตราคาประหยัดที่ยังคงประสิทธิภาพการทำงานที่มั่นคง บรรจุ RAM 2GB พื้นที่เก็บข้อมูลที่ขยายได้ 32GB และรันfh;p Android 6.0 Marshmallow บนโปรเซสเซอร์ Exynos 7904A ยิ่งไปกว่านั้น ยังได้รับจอแสดงผล HD ขนาด 10.1 นิ้ว พร้อมระบบเสียงรอบทิศทาง Dolby Atmos เหมาะสำหรับการชมภาพยนตร์และรายการทีวี มีกล้องหลัง 8MP และกล้องหน้า 5MP พร้อมแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้นานถึง 13 ชั่วโมงที่น่าประทับใจ น้ำหนักเบาและทนทาน เป็นแท็บเล็ต Android ราคาถูกและยังคงได้รับความนิยมแม้ในปี 2021

ราคาประมาณ 11,900 บาท ทำให้ Samsung Galaxy Tab A เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมหากกำลังมองหาแท็บเล็ตที่เชื่อถือได้ซึ่งมีขนาดหน้าจอที่เหมาะสม

 

2.Apple iPad Mini 4 (7.9 นิ้ว ปี 2019)

หลังจากปล่อยให้รอนานกว่าสามปี Apple ก็ปล่อย iPad Mini 4 ในปี 2019 ที่ใช้ Apple Pencil ได้ เหตุผลหลักในการซื้อ iPad Mini 4 คือการพกพาและงบ เด็กเล็กใช้ง่ายขึ้น 

 

3.Apple iPad Air (10.9 นิ้ว ปี 2020)

หากคุณต้องการแท็บเล็ตที่ดูทันสมัย ลองใช้ iPad Air รุ่นปี 2020 ของ Apple มาพร้อมคุณสมบัติเดียวกันมากมายจาก iPad Pro ที่มีราคาแพงกว่า เช่น ขอบจอบาง ไม่มีปุ่มโฮม USB-C สำหรับชาร์จ และรองรับ Apple Pencil รุ่นที่สอง ซึ่งติดแม่เหล็ก Air ยังเพิ่มประสิทธิภาพที่คล้ายกันด้วยชิป A14 Bionic ล่าสุดภายใน (โปรเซสเซอร์เดียวกันใน iPhone 12) ทำให้มีประสิทธิภาพสำหรับการตัดต่อวิดีโอและรูปภาพขนาดใหญ่ ไม่มี Face ID แต่ Touch ID ถูกรวมเข้ากับปุ่มเปิดปิด ซึ่งเป็นครั้งแรกสำหรับ Apple หน้าจอ LCD ขนาด 10.9 นิ้วให้ใหญ่กว่า iPad Mini จอแสดงผลที่เป็นธรรมชาติมากขึ้น 

เป็นยังไงกันบ้างกับแท็บเล็ตราคาไม่เกิน 20,000 ที่เรานำมาฝากในวันนี้ หวังว่าจะช่วยให้หลาย ๆ คนตัดสินใจได้ว่าควรมีไหม แล้วควรจะซื้อรุ่นไหนดี

พลาดไม่ได้กับ Shopee 8.8 Crazy Flash Sale! พบกับโปรโมชั่นสุดพิเศษมากมายจาก Shopee โปร 8.8 นี้มาพร้อมกองทัพสินค้า Flash Deals ลดสูงสุดถึง 88% ช้อปเพลินไปกับโค้ดส่วนลดสูงสุด 888.- ให้การช้อปของคุณคุ้มค่ายิ่งกว่าเดิม และช้อปออนไลน์อยู่ที่บ้านกันได้แบบชิล ๆ เพราะ Shopee 8.8 มาพร้อมโค้ดส่งฟรี ขั้นต่ำ 0.- ทุกวัน เริ่มช้อปพร้อมกันได้แล้วที่ Shopee 8.8 Crazy Flash Sale ตั้งแต่วันที่ 29 ก.ค. – 8 ส.ค.นี้!

Comments กันได้เลย !

Comments

0 Shares