หลังจาก vivo เปิดตัวสมาร์ตโฟนซีรีส์ต่าง ๆ ทั้ง V Series, Y Series และล่าสุดกับ T Series ในปี 2022 นี้ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซีรีส์ต่อไปที่จะมาสร้างความฮือฮาและเขย่าวงการสมาร์ตโฟนเมืองไทย คงหนีไม่พ้นรุ่นเรือธงอย่าง X Series นำโดย vivo X80 5G มาพร้อมกับสเปกระดับไฮเอนด์และเทคโนโลยีใหม่ๆ ซึ่งถือว่าเป็นรุ่นที่หลายๆคนให้ความสนใจโดยเฉพาะคนที่รักการถ่ายรูปต่างๆ เพราะว่ารุ่นนี้ได้มีการพัฒนากันอย่างต่อเรื่องร่วมกับทาง ZEISS ที่จะเน้นไปทางกล้องจัดเต็ม ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายรูปวิวหรือแม้แต่ถ่าย Portrait ซึ่งมีทั้งการช่วยในเรื่อง Hardware ไม่ว่าจะเป็นการเคลือบหน้าเลนส์ และ Software ที่จะทำให้การเบลอฉากหลังนั้นเนียนและสวยโดยอิงจากเลนส์จริงๆด้วยเช่นกัน ที่สำคัญยังมาพร้อม vivo Pro Imaging Chip V1+ ชิปที่ปรับแต่งเองจาก vivo ซึ่งออกแบบมาเพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการถ่ายวิดีโอในเวลากลางคืน และให้การแสดงผลวิดีโอที่โดดเด่นแม้ในสภาพแสงน้อย

PRICE

  • vivo X80PRO 5G เปิดตัวมาพร้อมกับ ราคา 39,999 บาท 
  • vivo X80  5G เปิดตัวมาพร้อมกับ ราคา 29,999 บาท 

UNBOX 

ตัวกล่องยังคงมีความสวยพรีเมียมและออกแบบได้ดีครับ เมื่อเปิดเข้ามาข้างในจะเห็นการเขียนชื่อรุ่นพร้อมระบบกันสั่นให้เข้ามาด้านในพร้อมกับตัวเครื่องวางสวยๆอยู่ด้านในเป็นกล่องที่สวยงามและใส่ใจมากๆตัวนึงในคู่แข่งด้วยกันส่วนอุปกรณ์เองนั้นให้มาครบๆทั้ง หูฟัง ตัวแปลง ที่ชาร์จ และ สายครบพร้อมใช้งานรวมถึงตัวเคสใสแบบพลาสติกแข็ง

  • ตัวเครื่อง vivo X80 5G
  • เคสแข็ง
  • ที่ชาร์จ USB-C รองรับชาร์จไว 80W
  • หูฟังพอร์ต USB-C พร้อมจุกหูฟังอีก 2 ขนาด
  • คู่มือ และ ที่จิ้มซิม

DESIGN 

X80 Series โดดเด่นด้วยการจัดวางรูปแบบกล้องแบบ Cloud Window 2.0 ดีไซน์ที่สวยหรู โดดเด่นในทุกมุมมอง หน้าจอโค้งดีไซน์สวยงามแบบ 3 มิติ ขนาดหน้าจอ 6.78 นิ้ว งานออกแบบเรียบหรู พัฒนาต่อยอดจากเดิมได้ดีพร้อมกับเลนส์ขนาดใหญ่และแน่นอนว่ามีโลโก้ ZEISS โดดเด่นเข้ามาทั้งนี้สีต่างๆมีการออกแบบใหม่ทั้งหมด  และยังได้หน้าจอขอบโค้งเต็มตาแน่นอนว่าสวยและทำให้การจับถือนั้นถนัดมือและดูภาพเต็มตามากกว่าจอปกติ จอมีความชัดเจนคมชัดฉบับ E5 AMOLED สีสันสวยสดสมจริง รองรับอัตรา Refresh Rate ได้สูงสุดถึง 120Hz ส่งผลให้การแสดงผลมีความสมูทตามากขึ้น และยังสามารถปรับอัตรา Refresh Rate แบบอัตโนมัติ เพื่อให้เหมาะสมกับการใช้งาน

vivo X80 5G มาพร้อมหน้าจอแสดงผล E5 AMOLED 3D Curved Screen ขนาด 6.78 นิ้ว ในอัตราส่วน 20:9 ความละเอียดระดับ Full HD+ (1080×2400 พิกเซล : 388 ppi) รองรับค่า Refresh Rate ระดับสูงสุด 120Hz และรองรับการแสดงคอนเทนต์แบบ HDR10+ บนตัวเครื่องขนาด 164.95×75.23×8.30 มิลลิเมตร และมีน้ำหนัก 206 กรัม

มีฝาหลังดีไซน์พรีเมียมแบบ Ultimate Aesthetic ให้ผิวสัมผัสแบบด้านป้องกันการเกิดรอยนิ้วมือได้เป็นอย่างดี โดยรุ่น vivo X80 5G ที่นำมารีวิวเป็นสีฟ้า (Urban Blue)

ส่วนบนของหน้าจอมาพร้อมดีไซน์รอยเจาะ เป็นตำแหน่งของกล้องหน้า 32MP เหนือขึ้นไปเป็นลำโพงเสียง

ส่วนล่างของหน้าจอเป็นซอฟต์แวร์การนำทางระบบ ขอบด้านล่างยังคงเป็นการควบคุมมาตรฐานที่สามารถปรับใช้งานแบบเต็มหน้าจอได้รวมถึงขอบข้างๆโค้งลงไป ทำให้ขอบบางขึ้น เต็มตามากกว่าเดิม สวยงามและเนียนไปกับหน้าจอได้กำลังสวยเลยแหละ

โดดเด่นด้วยโลโก้ ZEISS พร้อมสัญลักษณ์ T*Coating เป็นเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนของ Carl Zeiss AG. เลนส์กล้อง ZEISS ที่จับคู่กับ vivo Pro Imaging chip V1+ รุ่นอัปเกรด สำหรับประมวลภาพ (ISP) ที่ทาง vivo พัฒนาขึ้นเอง สำหรับเพิ่มประสิทธิภาพของการบันทึกวิดีโอ

ที่ด้านบนของตัวเครื่อง vivo X80 5G มีข้อความ Professional Photography พร้อม IR Blaster สำหรับใช้งานแทนรีโมตคอนโทรล และเส้นเสาสัญญาณทั้ง 2 ด้าน และมีรูไมโครโฟนตัดเสียงอยู่

ที่ด้านล่างประกอบด้วย พอร์ตเชื่อมต่อแบบ USB Type-C, ไมโครโฟนสำหรับสนทนา , ลำโพงเสียงตัวหลัก และช่องสำหรับถาดใส่ซิมการ์ด nanoSIM แบบ Dual-Slot

ด้านซ้ายของตัวเครื่อง ไม่มีช่องหรือปุ่มสั่งการใด ๆ แต่จะมีเส้นสัญญาณอยู่ 2 ด้าน

ด้านขวาของตัวเครื่อง มีปุ่มปรับระดับเสียง พร้อมปุ่ม Power เปิด/ปิด เครื่อง และสำหรับล็อกหน้าจอ พร้อมเส้นสัญญาณ 1 เส้น

SPEC

  • หน้าจอ E5 AMOLED 6.78 นิ้ว 2400×1080 พิกเซล 120Hz
  • สามารถปรับอัตราการรีเฟรชระหว่าง 60Hz ถึง 120Hz
  • ชิป MTK Dimensity 9000
  • แรม 8GB/12GB LPDDR5
  • ความจุ 128GB/256GB/512GB UFS 3.1
  • กล้องหลัง ZEISS 3 เลนส์ Main 50MP f/1.75 (OIS) + Ultrawide 12MP f/2.0 + Telephoto 12MP f/1.98 Optical Zoom 2x
  • กล้องหน้า 32MP f/2.45
  • เซนเซอร์สแกนนิ้วในหน้าจอ
  • รองรับ 5G, Wi-Fi 6, Bluetooth 5.3
  • แบตเตอรี่ 4,500mAh รองรับชาร์จเร็ว 80W
  • ระบบปฏิบัติการ Android 12 (Funtouch OS)

PERFORMANCE

มาพร้อมชิปแรงๆ อย่าง MediaTek Dimensity 9000 ซึ่งปรับปรุงประสิทธิภาพของ CPU ขึ้น 45% และ GPU เพิ่มขึ้น 20% เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า รองรับการใช้งาน 5G ส่วนคะแนน Antutu ทำไปได้ 925299 คะแนนถือว่าตามระดับของ CPU คะแนนภาพรวมนั้นดีขึ้นแน่นอน และใช้งานลื่นไหลเล่นเกมได้ดีกว่าเดิมแบบรู้สึกได้จริงๆ และการเขียนที่ไวขึ้นส่งผลการทำงานต่างๆในตัวเครื่องได้ดีขึ้นด้วยเช่นกัน นี่ทำคะแนน Antutu เกือบทะลุล้าน ถือว่าสร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้กับวงการ Flagship ส่วน RAM 12GB LPDDR5 และ ROM 256 GB UFS 3.1 รันบนระบบปฏิบัติการ Funtouch OS 12 บนพื้นฐาน Android 12 แน่นอนและใช้งานลื่นไหลเล่นเกมได้ดีกว่าเดิมแบบรู้สึกได้จริงๆ

BATTERY 

แบตเตอรี่ความจุ 4,500mAh ซึ่งรองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 80W Flash Charge แบบผ่านสาย การชาร์จไวที่มากกว่าเดิมเป็นจุดที่สำคัญและส่งผลชัดเจนทำให้เรื่องของการชาร์จก็ไวขึ้น แบตอยู่ได้ทั้งวันมากกว่าเดิม 10-100% เท่าที่ทดสอบด้วยเลยว่าใช้งานเวลาการชาร์จได้ 1 ชั่วโมงเป๊ะๆ แม้ความจุมากกว่าเดิมแต่ทำได้ไวไม่ต่างกัน และ ในส่วนการใช้งานนั้นทั้งวัน 12 ชั่วโมง หน้าจอเปิด 6 ชั่วโมง ใช้งานหนักมาก แบตเหลือ 10% ครับ ถือว่าใช้งานทั้งวันได้แบบสบายๆมีเล่นเกม ดูหนังยาวๆ และเปิดใช้งานทั่วไปถือว่าตอบโจทย์สำหรับสายใช้งานทั่วไป เล่นเกมได้ดีมากและชาร์จเข้าไวกว่าเดิม

CAMERA

vivo X80 5G ติดตั้งกล้องหลัง 3 เลนส์ ประกอบด้วย กล้องหลัก เซนเซอร์ Sony IMX866 ความละเอียด 50MP และมีระบบกันสั่นแบบ OIS, เลนส์ Ultra-Wide ความละเอียด 12MP และเลนส์ Telephoto ความละเอียด 12MP ในขณะที่กล้องหน้ามีความละเอียด 32MP ดีไซน์กล้องหลังเรียกว่า Cloud Window 2.0 โดยมีกรอบสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่ที่มีพื้นผิวสะท้อนเงา จัดวางกล้อง 3 ตัว ไว้ในกรอบวงกลม ข้างกันเป็นตำแหน่งของแฟลช LED และได้รับการรับรองตามมาตรฐานของการเคลือบ ZEISS T* ซึ่งช่วยปรับปรุงให้การถ่ายภาพมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ให้ภาพถ่ายมีค่าสีแม่นยำ สีสันสวยงาม สมจริง ที่สำคัญยังมาพร้อม vivo Pro Imaging Chip V1+ ชิปที่ปรับแต่งเองจาก vivo ซึ่งออกแบบมาเพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการถ่ายวิดีโอในเวลากลางคืน และให้การแสดงผลวิดีโอที่โดดเด่นแม้ในสภาพแสงน้อย

ขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Android 12 ครอบทับด้วย Funtouch OS 12 เวอร์ชันล่าสุด ที่มี User Interface รูปแบบใหม่ โดยยังคงเน้นความมินิมอล เรียบหรู สบายตา และใช้งานง่าย สามารถปรับสีของหน้าจอได้ 3 รูปแบบ Standard (มาตรฐาน) ซึ่งจะเป็นค่าเริ่มต้น, Professional (มืออาชีพ) จะให้แสงโทนอุ่น และ Bright (สว่าง) ซึ่งจะสว่างมากขึ้น สามารถเลือก วอลเปเปอร์, ลักษณะไอคอน, การจัดวางแอปฯ, สี, ตัวอักษรและขนาดตัวอักษร, รวมไปถึงแถบรายการแจ้งเตือน ที่มีให้เลือกหลากหลายรูปแบบ เพื่อตรงกับความต้องการ และสามารถดาวน์โหลดมาเพิ่มจากทางออนไลน์ก็ได้

ZEISS PORTRAIT STYLE 

ซึ่งในรุ่นนี้มีการเพิ่ม Effect เลนส์เข้ามาจากที่รุ่นก่อนหน้านั้น จะมีแค่ Biotar เท่านั้นแน่นอนว่ารุ่นก่อนหน้านั้นก็ทำออกมาได้ดีแล้วในระดับนึง ทั้งในเรื่องละลายหลังและลูกเล่นต่างๆ แต่ครั้งนี้ได้มีการพัฒนาขึ้นไปอีกขั้นเพราะว่าเป็นเลนส์คลาสสิกของ ZEISS  ซึ่งเป็นชื่อเรียกในแต่ละซีรีย์ที่สาวกกล้อง หรือคนที่เคยเล่นกล้องฟิล์มมาก่อนก็น่าจะพอทราบ และรู้เลยว่าใน 5 ตัวนี้มีเอกลักษณ์ที่เด่นมากๆทั้ง Distagon, Planar, Sonnar และ Biotar และ เฟรมภาพแบบ Cinematic นั้นเอง ซึ่งจะมีการเบลอ หรือว่าความโค้งของโบเก้แตกต่างกันไปรวมถึง รูปทรงของ Bokeh บอกเลยว่าทำออกมาได้ดีมากๆและแตกต่างกันทั้ง 5 แบบ

vivo Pro Imaging Chip V1+

ด้วยกล้องหลังความละเอียดสูง 50MP ของ ZEISS ที่มีเซนเซอร์ขนาดใหญ่ จับคู่กับ vivo Pro Imaging chip V1+ ชิปพิเศษสำหรับการถ่ายภาพโดยเฉพาะ จะช่วยให้-ได้ภาพกลางคืนที่คมชัดยิ่งขึ้น ลดการเกิดนอยส์ เพิ่มความสว่างให้กับภาพ แต่ในขณะเดียวกัน ก็สามารถเก็บแสงสี และธรรมชาติของพื้นผิวต่างๆ ของวัตถุได้อย่างเป็นธรรมชาติ

ZEISS Cinematic Video

รองรับการบันทึกวิดีโอด้วยโหมด Cinematic video ด้วยความละเอียดสูงสุดที่ระดับ Full HD 1080p (24 fps) รองรับเทคโนโลยี AI Video Enhancement ที่ช่วยให้ถ่ายวิดีโอคมชัดในทุกสภาพแสง พร้อมโหมด ZEISS Cinematic Video ที่สามารถสร้างเอฟเฟกต์ของเลนส์ภาพยนตร์ ZEISS ได้อย่างแม่นย

360° Horizon Leveling Stabilization

ยังได้เทคโนโลยีกันสั่นแบบActive Centering OIS System + 360° Horizon Leveling Stabilization มาช่วยป้องกันภาพวิดีโอสั่นไหวจากทุกทิศทาง เรียกได้ว่าทั้งภาพนิ่ง และวิดีโอ ไม่ว่าจะแบบนิ่ง หรือเคลื่อนไหว

VIVO X80 5G

แน่นอนว่าเป็นสมาร์ตโฟนที่เอาใจคนที่ชอบการถ่ายภาพไม่ว่าจะเป็นการถ่าย Selfies หรือแม้แต่ Portrait ซึ่งค่าย vivoเอง ชื่อเสียงเรื่องนี้ทำได้ดีมากมานานแล้ว และยิ่งมีการพัฒนาร่วมกับ ZEISS ด้วยเช่นกันทำให้มันยกระดับการถ่ายภาพด้วยมือถือขึ้นไปอีกขั้น รวมถึงการพัฒนาเลนส์กล้อง การพัฒนา Software บอกเลยว่าเป็นรุ่นที่กล้องทำได้ดีที่สุดเท่าที่ vivo ในไทยเคยเอาเข้ามา ทุกๆอย่างจัดเต็มและทำได้น่าสนใจ รวมถึงหน้าจอ 120Hz ขอบโค้งสวยงาม และสำหรับแบตก็ทำได้ดี ความจุมากกว่าเดิม ชาร์จไวขึ้น ลบข้อเสียจากรุ่นก่อนได้ทั้งหมด โดยรวมแล้วพัฒนามาได้ดีกว่ารุ่นก่อนๆเยอะมาก โดยเฉพาะทางด้านของกล้องในรุ่นนี้ให้มาอัดแน่นมากๆ มอบประสิทธิภาพการใช้งานระดับเทพเลย เป็นอีกรุ่นที่น่าสนใจมากๆในราคาระดับนี้แล้วได้ประสิทธิภาพจัดเต็มสุดๆ

ข้อดี

  • งานออกแบบสวย พรีเมียม บาง เบา
  • มาพร้อม MTK DIMENSITY 9000 5G
  • กล้องพัฒนาร่วมกับ  ZEISS Co-Engineered
  • ZEISS T*Coating ช่วยลดการสะท้อนของแสงได้ดี
  • ฟีเจอร์การถ่าย ZEISS ทั้ง 5 แบบทำได้โดดเด่น
  • กล้องหลัง PORTRAIT ได้ดีขึ้น และ สวยขึ้น สกินโทนดี
  • แบตชาร์จไว 80W ใช้งานได้ดี ไวขึ้น ความจุ มากขึ้นกว่าเดิม
  • กล้องหน้าทำได้ดี ทั้งความเนียน และ ฟีเจอร์

ข้อสังเกต

  • หน้าจอไม่ได้เปลี่ยนแปลงมากนัก
  • ในรุ่นเล็กไม่มี เลนส์สำหรับการซูม (periscope)

 

สำหรับรีวิวนี้ก็ต้องขอตัวลาไปก่อนสำหรับรุ่นอื่นๆก็ติดตามกันได้เลย ถูกใจฝากกดไลค์กดแชร์ด้วยนะ มีข้อผิดพลาดประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย  เพื่อนๆสนใจอยากให้รีวิวรุ่นไหนสามารถ Inbox มาบอกได้เลยนะ

ฝากไลค์เพจ FACEBOOK เราด้วยนะคะ >>>>>>>>>  TECHHANGOUT

เข้าร่วมกลุ่ม TECHHANGOUT พูดคุยแลกเปลี่ยน ข้อมูล คุยกันเองชิลๆได้เลยที่ — Facebook  Techhangout พูดคุย Smartphone gadget 

Review By Aum

Comments กันได้เลย !

Comments

0 Shares