สวัสดีครับเพื่อนๆชาว Techhangout ทุกท่านวันนี้เรากลับอีกครั้งนะครับกลับการรีวิว ซึ่งวันนี้ผมต้องขอบอกเลยว่าเราอยู่กับสมาร์ทโฟนอีกหนึ่งรุ่นที่น่าสนใจมากๆ ซึ่งต้องบอกเลยว่าส่วนตัวผมได้ใช้เเละรู้สึกถูกใจ เเละคิดว่าทำออกมาได้ดี วันนี้เเน่นอนเราจะมาพูดถึงสมาร์ทโฟนรุ่นล่าสุดจากเเบรนด์ VIVO กับในรุ่น VIVO X50 PRO 5G สุดยอดสมาร์ทโฟนที่ครบเครื่องอีกหนึ่งรุ่น

ซึ่งถ้าถามว่าทำไมผมถึงบอกว่ารุ่นนี้เป็นสมาร์ทโฟนที่คุ้มค่าก็ต้องขอบอกเลยว่ารุ่นนี้เป็นสมาร์ทโฟนอีกหนึ่งรุ่นถือทาง VIVO อัดทุกอย่างมาเกือบสุดจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของกล้องที่ต้องย้ำว่าส่วนตัวผมชอบมากๆ โดยในรุ่นนี้จะมาพร้อมกับกล้องหลังทั้งหมดถึง 4 เลนส์ ประกอบไปด้วย เลนส์หลักความละเอียด 48 ล้านพิกเซล พร้อมเทคโนโลยี Gimbal ป้องกันภาพสั่นไหว เซ็นเซอร์ Sony IMX598 เลนส์ Super-wide หริอเลนส์มุมกว้างความละเอียด 8 ล้านพิกเซล 120 องศา เลนส์ Portrait ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล ระยะ 50 มม ที่จะทำให้ภายถ่ายเเนวพอตเทรตของคุณเหมือนถ่ายมาจากกล้องใหญ่ เลนส์ Tele ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ซูมออฟติคอล 5x , Hyper Zoom สูงสุดถึง 60x และต้องย้ำว่า  Vivo X50 Pro 5G คือกล้องหลังที่มาพร้อมระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบ Gimbal รุ่นแรกในโลก

นอกจากนั่นในรุ่นนี้ในเรื่องของหน้าจอแสดงผลยังจัดมาให้อย่างเต็มที่มาพร้อมหน้าจอแบบ E3 AMOLED ความละเอียด FHD+ ขนาด 6.56 นิ้ว รองรับอัตรารีเฟรชเรท 90 Hz ขับเคลื่อนด้วยขุมพลัง Snapdragon 765 RAM 8 GB, ROM 256 GB รองรับการใช้งาน 5G เเบตเตอรี่ความจุ 4,315 mAh พร้อมเทคโนโลยีชาร์จเร็ว FlashCharge 2.0 กำลังไฟ 33 วัตต์ เเละในรุ่นนี้ยังถือว่าเป็นการกลับมาอีกครั้งของระบบเสียง HIFI ของทางเเบรนด์ VIVO โดยในรุ่นนี้จะมาพร้อมกับชิพประมวลผลเสียง AK4377A Hi-Res เอาใจคนที่ชอบฟังเพลงอีกด้วย โดยรุ่นนี้จะมีราคาจำหน่าย 24,999 บาท

UNBOX

สำหรับในรุ่นนี้ก่อนอื่นเลยผมจะต้องพาทุกคนมาดูอุปกรณ์ด้านใน เเละ กล่องที่ใส่สมาร์ทโฟนกันก่อนซึ่งเเน่นอนว่าเชื่อว่าหลายคนเวลาจะเลือกซื้อมือถือก็อาจจะต้องดูเเถมที่ใส่มาด้านใน ก่อนอื่นเลยเรามาพูดถึงเเพ็คเกจกล่องของรุ่นนี้กันก่อนดีกว่า โดย VIVO X50 Pro 5G รุ่นนี้จะมาพร้อมโทนสีกล่องที่เป็นสีน้ำเงินเข้ม ดีไซน์กล่องรูปทรงจะเป็นกล่องที่เป็นโทนสี่เหลี่ยม

ด้านหน้ามีการเล่นลวดลายเอาไว้อย่างชัดเจน รูปทรงกล่องดูเเตกต่างจากสมาร์ทโฟนตะกูลต่างๆ ด้านหน้ามีคำว่า VIVO X50 PRO 5G สลักเอาไว้ เปิดออกมาด้านในเราก็จะเห็นตัวเครื่องที่มีการห่อมาอย่างดี พอเราเปิดออกมาอีกหนึ่งชั่น เราก็จะเห็นอุปกรณ์ต่างๆที่เเถมมา เเละมีการเเยกหมวดหมู่อย่างจัดเจน โดยอุปกรณ์ด้านในที่เเถมมาจะมีดังต่อไปนี้

  • ตัวเครื่อง VIVO X50 PRO
  • สายชาร์จ
  • สมุดคู่มือ
  • เคสใส่ TPU
  • หูฟัง 3.5 มม
  • สายแปลงหูฟัง type c เป็น 3.5
  • อะแดปเตอร์ชาร์จไว 33 W

สำหรับตัวเคสที่เเถมมาจะเป็นเคสใส TPU มีความบางอยู่พอสมควร ขอดีคือเวลาเราจับรู้สึกสบายมือเมื่อวานเราจับเพียงเเค่สมาร์ทโฟน ข้อเสียคือเคสที่เเถมมาจะค่อนข้างบาง เวลาตกอาจจะไม่ได้กันกระเเทกได้มากควรที่จะระวังกันสักนิด

ส่วนด้านหน้าของเคสจะยืนออกมาจากหน้าจอเล็กน้อย สามารถกันได้ในระดับนึงเวลาที่เราวางคว่ำหน้าเอาไว้ ส่วนเคสที่เเถมมาจะเป็นเคสใส่เวลาใช้งานอาจจะ เป็นรอยขนเเมวได้ง่ายยังไงก็ระวังกันไว้นิดนึง

ส่วนด้านหลังของตัวเครื่องบริเวณกล้องเวลาที่เราใส่เคส ตัวเคสก็จะยื่นออกมาเล็กน้อย ผมคิดว่าเวลาที่วางไว้บนโต๊ะ ก็สามารถที่ป้องกันไม่ให้เลนส์กล้องเป็นรอยได้

DESIGN

งานออกแบบทางด้ายของ VIVO X50 PRO รุ่นนี้ส่วนตัวผมว่าทำออกมาได้สวยเลย ไม่ว่าจะเป็นการดีไซน์ของตัวเครื่องที่มีความบาง ขนาดหน้าจอที่กำลังดี บวกน้ำหนักที่บอก เวลาที่เราจับผมมองว่ามันให้ความรู้สึกที่ดีมากๆ ส่วนด้านหลังของตัวเครื่องการวางตำแหน่งของกล้องก็ทำออกมาได้ไม่น่าเกลียดส่วนตัวผมมองว่ามันเเอบสวยด้วยซ้ำ

เเละที่ผมจะต้องชมเลยรุ่นนี้ทาง VIVO ออกแบบในส่วนของตัวเครื่องด้านหน้าบริเวณของหน้าจอมาได้บางมากๆ หน้าหน้าจอเกือบจะเต็มขอบ ขนาดหน้าจอ 6.56 นิ้ว ไม่ทำให้รู้สึกว่าหน้าจอใหญ่เลย อีกทั้งในรุ่นนี้ ขอบด้านข้างหน้าจอก๋ก็ออกแบบมาได้ดีโค้งรับกับอุ้มมือ เวลาถือถือได้กระชับ สบายมือ หน้าจอสวย เต็มตาอาจจะมีรูเล็กๆติดมานิดหน่อย เเต่ก็ต้องบบอกเลยยังไงก็เวรี่กู้ดสุดๆ

ทางด้านของหน้าจอเเสดงผลในรุ่นนี้ตามสเปคจะมาพร้อมกับหน้าจอแบบหน้าจอโค้ง 3D Curved Screen ที่มีขอบบางเฉียบทั้ง 4 ด้านมาพร้อมหน้าจอแบบ Punch hole Display ขนาดหน้าจอ 6.56 นิ้ว จอแสดงผล E3 AMOLED ความละเอียดหน้าจอ FHD+ ( 2376×1080 พิกเซล ) สีสันที่คมชัด พร้อม Refresh Rate ที่ 90 Hz พร้อมกับ การทัชสกรีนตอบสนองไวที่ 180Hz

DCI-P3 คอนทราสท์ 6,000,000:1 ด้านบนด้านซ้ายจะมีจุดเล็กๆซึ่งเล็กมากๆ มาพร้อมกล้องหน้าความละเอียด 32 ล้านพิกเซล ข้างๆกันจะมีตำแหน่งของลำโพงเอาไว้ฟังเสียงสนทนาเเละเซนเซอร์สำคัญต่างๆ

ถัดมาด้านล่างจะมีตำแหน่งของแถบนำทางที่เราสามารถสลับหรือเรียกใช้งานเเบบเต็มจอได้

ด้านซ้ายตัวเครื่องจะไม่มีรายละเอียดอะไร เเต่ภายในงานเปิดตัว VIVO เขาได้บอกไว้ว่ารุ่นนี้จะมีการออกแบบพิเศษกว่าสมาร์ทโฟนรุ่นก่อนๆ คือมีการติดตั้งตัวจับสัญญาณ 5G ไว้หลายจุดบริเวณเครื่องทำให้สามารถจับสัญญาณ 5G ได้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

บริเวณด้านขวาจะมีตำแหน่งของปุ่มพาวเวอร์ เพิ่มเสียงลดเสียง

ส่วนด้านบนจะมีตำแหน่งของไมโครโฟนพร้อมมีโลโก้คำว่า 5G สลักเอาไว้ทำให้ตัวเครื่องดูสวยงาม เฟรมบอดี้ทั้งหมดเป็นโลหะงานประกอบดี

ส่วนด้านล่างจะมาพร้อมกับตำแหน่งของไมโครโฟน ลำโพงหลัก พอร์ตชาร์จแบบ USB-C เเละช่องใส่ซิม

ถัดมาด้านหลังเเน่นอนรุ่นนี้จะมาพร้อมกับบอดี้ที่เป็นกระจกแบบผิวด้าน ( Matte Glass ) เวลาใช้งานจริงๆก็แอบมีรอยนิ้วมือนิดๆ ด้านหลังจะมีตำแหน่งของกล้องทั้งหมด 4 เลนส์ ประกอบไปด้วย เลนส์หลักความละเอียด 48 ล้านพิกเซล  (f/1.6) พร้อมเทคโนโลยี Gimbal ป้องกันภาพสั่นไหว ระบบกันสั่นกิมบอลแบบ 5 แกน ทำงานได้ดีกว่าสมาร์ทโฟนที่ใช้ระบบ OIS กันสั่นถึง 300% เซ็นเซอร์ Sony IMX598 เลนส์ Super-wide หริอเลนส์มุมกว้างความละเอียด 8 ล้านพิกเซล 120 องศา

เลนส์ Portrait ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล (f/2.5) ระยะ 50 มม ที่จะทำให้ภายถ่ายเเนวพอตเทรตของคุณเหมือนถ่ายมาจากกล้องใหญ่ เลนส์ Periscope telephoto 8 MP (f/3.4) ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ซูมออฟติคอล 5x , Hyper Zoom สูงสุดถึง 60x ส่วนด้านล่างตัวเครื่องจะมีตำแหน่งของคำว่า VIVO สลักเอาไว้ ตัวเครื่องเวลาโดนเเสงก็ยังคงมีความสะท้อนเเสงทำออกมาได้หลายเฉดสี

SPEC

  • หน้าจอ E3 AMOLED ขนาดหน้าจอ 6.56 นิ้ว (1080 x 2400 พิกเซล) Full HD+ ที่มีอัตราส่วน 20:9, รีเฟรชเรท 90Hz การทัชสกรีนตอบสนองไวที่ 180Hz
  • ชิปประมวลผล Snapdragon 765G 5G 7nm  มาพร้อมการ์ดจอ Adreno 620
  • RAM 8GB (LPDDR4X) + Storage  256GB (UFS 2.1)
  • Android 10 ที่ครอบด้วย Funtouch OS 10.5
  • ซิมคู่ (nano + nano)
  • กล้องหลัง 4 ตัวประกอบด้วย กล้อง 48MP (f/1.6) ที่ใช้เซ็นเซอร์ Sony IMX598, Gimbal OIS
  • เลนส์ Super-wide หริอเลนส์มุมกว้างความละเอียด 8 ล้านพิกเซล 120 องศา
  • เลนส์ Portrait ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล (f/2.5) ระยะ 50 มม
  • เลนส์ Periscope telephoto 8 MP (f/3.4) ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ซูมออฟติคอล 5x , Hyper Zoom สูงสุดถึง 60X สามารถถ่ายวิดิโอ 4K ได้ที่ 60fps
  • กล้องหน้า : 32MP (f/2.45)
  • เซนเซอร์สแกนนิ้วใต้หน้าจอ
  • ขนาดตัวเครื่อง 158.46 x 72.8 x 8.04 มม 181.5 กรัม
  • พอร์ต USB Type-C
  • 5G SA/NSA, Dual 4G VoLTE, Wi-Fi 6, Bluetooth 5.1, NFC
  • แบตเตอรี่ขนาด 4315 mAh รองรับชาร์จไว 33W
  • ชิปเสียง HIFI AK4377A มาตรฐาน Hi-Red Audio
  • สีที่วางจำหน่าย : Alpha Grey
  • ราคาจำหน่าย 24999 บาท

PERFORMANCE 

ประสิทธิภาพของตัวเครื่องตัวนี้พกพาความแรงระดับ Snapdragon 765 5G ที่แรงกว่าเดิม พร้อมกับ RAM 8GB และใช้งานหน่วยความจำแบบ UFS 2.1 256GB อ่านเขียนรวดเร็ว ทำคะแนนในส่วนของ Antutu ไปได้ 331154 คะแนน และ Geekbench ได้ไป 634/1936 รวมถึงหน่วยความจำอ่านเขียนไปได้สูงมากๆ ทำความเร็วไปได้ 926 MB/s และ DRM L1 สำหรับการดู NETFLIX รองรับสูงสุด HD ครับ

SYSTEM UI

Android 10 ที่ครอบด้วย Funtouch OS 10.5 ผมต้องบอกเลยว่าทำออกมาได้ลื่นไหลมากๆ สลับเเอพไว ทัชสนองได้ติดนิ้ว หน้าตาต่างๆอาจจะดูเปลี่ยนเเปลงจาก Funtouch OS รุ่นเก่าๆ เเต่ผมมองว่ามันดูใช้งานได้ง่ายดี ไม่ว่าจะพวกเส้นทางลัดเข้าถึงต่างๆที่เราลากลงมาจากด้านบน การเเจ้งเตือนที่รวดเร็ว หน้า All App ที่เพียงลากขึ้นมาจากด้านล่างก็เรียกใช้งานได้ดังใจ

สำหรับการแบ่งหน้าจอนั้น ยังคงทำได้เช่นเดิม สามารถกดเข้าหน้าเคลียร์แอปและกดค้างหน้าแอปได้เลย จะทำได้บางแอปนะครับเช่น Facebook อะไรต่างๆ

ตัวระบบใช้งานได้ 231 GB และ RAM 8 GB ใช้ไป 4.7 GB รายละเอียดจะประมาณนี้ครับ

หน้าจอในรุ่นนี้สามารถปรับได้ 60Hz และ 90 Hz ครับ แต่ในด้านความละเอียดนั้นเป็น FHD ปกติเลย ส่วนทางด้านหน้าจอเพิ่มเติมสามารถปรับโทนสีอะไรได้ รวมถึงการเจาะรูกล้องหน้าว่าจะเป็นแบบไหน หรือซ่อนไป และปรับหน้าแอปเต็มหน้าจอ และทางด้านปุ่มควบคุมนำทางนั้นปรับได้ว่าใช้งานปุ่มหรือท่าทางและ แตะ หรือ กดค้างจะสั่งงานอะไร

นอกจากนั้นในรุ่นนี้ยังคงมาพร้อมกับโหมดเกมอย่าง Ultra Game Mode การปลดล็อกลายนิ้วบนหน้าจอที่เราสามารถเลือกรูปแบบได้ การปลดล็อกใบหน้า เเละก็ยังคงมีในส่วนของ Alway on display

นอกจากนั้นใครที่ชอบเปลี่ยนในส่วนของ ธีมต่างๆ รูปแบบตัวหนังสือก็ยังสามารถดาวโหลดมาใช้งานได้ มีให้เลือกหลากหลาย มีทั้งฟรี เเละเสียเงินอีกด้วย

SCREEN

หน้าจอในรุ่นนี้แน่นอนว่าอาจอย่างที่เเจ้งไปหลักๆรุ่นนี้จะมาพร้อมกับหน้าจอที่มาพร้อมกับความลื่นไหล 90Hz โดยถือเป็นมือถืออีกหนึ่งรุ่นที่ต้องชมว่าหน้าจอโหดสุดๆทั้งเรื่องของความคมชัดสวยงามการสัมผัสที่ไว และ รวมถึงอัตราการตอบสนองที่ไวมากๆ หน้าจอนั้นการสัมผัสนั้นไวมากเลยทีเดียว ติดนิ้วมากๆ ในส่วนของหน้าจอก็สามารถปรับได้ว่าจะเอา 60 กับ 90Hz ครับ ช่วยประหยัดแบตได้นิดหน่อยส่วนเรื่องของสเปกนั้นมาพร้อมกับ หน้าจอในชื่อ E3 AMOLED มาพร้อมกับขนาด 6.65 นิ้ว (1080 x 2400 พิกเซล) Full HD+ ที่มีอัตราส่วน 20:9, รีเฟรชเรท 90Hz  การออกแบบหน้าจอแบบเจาะรูทำให้แปลกใหม่เเละมีขนาดเล็กมากๆ

หน้าจอนอกเหนือจากมุมมองตรงๆแล้วตัวภาพในมุมมองอื่นๆก็ถือว่ายังตอบสนองได้ค่อนข้างดีมากแสงสีอะไรสวยงามและมีความสว่างพอสมควรเลยทำให้สามารถใช้งานได้ในหลายๆสภาพแสงครับถือว่าทางด้านหน้าจอเหมาะกับการดูหนังเเละเล่นเกมแบบสุดๆ การสัมผัสลื่นไหล เรียกได้ว่าหน้าจอ 120Hz บางค่ายยังทัชไม่ได้เท่านี้เอาจริงๆ ส่วนเรื่องของความสว่างรุ่นนี้ไม่ต้องกังวลครับสู้เเสงแดดได้สบายๆ

SOUND

เรื่องของเสียงรุ่นนี้ก่อนอื่นเลยต้องขอชมว่าทำออกมาได้ดีมากๆ พลังขับชัดเจน เสียงใสฟังสบายๆ หูฟังที่เเถมมาให้เสียงที่ดีมากๆ เรื่องของเสียงเเน่นอนว่ารุ่นนี้ทาง VIVO ใส่ชิปเสียงอย่าง HIFI มาให้เรียกได้ว่าจัดหนักมากๆเอาใจสำหรับคนที่ชอบฟังเพลงชิปเสียง AK4377A มาตรฐาน Hi-Red Audio ให้พลังขับเสียงที่ดี เสียงคมชัด เบสไม่เเน่นจนเกินไป เสียงร้องเด่น ดนตรีเเยกได้ดี ฟังเพลงเเนวต่างๆได้สบายๆ นอกจากนั้นในรุ่นนี้ใครที่ใช้งานทางด้านของ Vivo TWS Neo ถ้าใช้คู่กันจะทำให้ตัวหูฟังทำงานได้อย่างเต็มที่อีกด้วย เเต่สำหรับเรื่องเสียงผ่านลำโพงรุ่นนี้ ผมแอบยังไม่ถูกใจเท่าไร เพราะว่าจะมาพร้อมกับลำโพงเพียงเเค่ตัวเดียว เน้นเส้นดัง มิติเสียงไม่ชัดเจน ถ้าเอาไว้ดูหนัง เน้นเสียงๆดัง ส่วนตัวผมคิดว่าไม่น่ามีปัญหาครับ

BATTERY

แบตนั้นถือว่าให้มาค่อนข้างดีในความจุ 4315 mAh ส่วนการชาร์จไวนั้นยังคงทำได้ดี 33W เท่ารุ่นพี่ของการทดสอบนั้นอยู่ได้ 13 ชั่วโมง ถ่ายรูป เล่นเฟสบุค แบตเหลือ 13% ออกจากบ้าน 14.00น นั่งเขียนรีวิวตอนนี้ประมาณตี 4 กว่าๆเหลือแบตอยู่ร้าวๆประมาณ 15% ครับ ส่วนเรื่องของความเร็วการชาร์จรุ่นนี้เท่าที่ทดสอบตั้งเเต่ 10 % ถึง 100% จะใช้เวลาชาร์จอยู่ร้าวๆประมาณ 1 ชั่วโมง

GPS

การนำทางค่ายนี้ทำได้ดีมาเสมอครับและในตัวนี้ยังคงไว้ใจได้ครับในเรื่องนี้นำทางได้สบายมากแม่นเอาเรื่องทำได้ดีขึ้นทางด่วนลงอุโมงค์ไม่เด้งไปไหนครับ ทดสอบตอนรถวิ่ง ก็จับได้ 33-35 ถือว่าอยู่ในระดับที่ใช้งานได้ดีเลย และกลางแจ้งจับได้ 38-40 เลยทีเดียวครับ และในที่ร่มนั้นได้ 29 ครับ ระยะเวลาในการจับหลังจากเปิด แอปนั้นใช้เวลาไวมากครับ อันนี้ ไม่หน่วงหรือ รอเลยหลังจากเปิดแอป ไม่มีปัญหาใดๆ รวมถึงการเปิดสถานที่ในแอปอื่นๆก็ใช้งานได้

CAMERA 

กล้องหลังในรุ่นนี้ถือว่าน่าสนใจมากๆครับมีโหมดการใช้งานต่างๆมาให้เรา แน่นอนว่าเมื่อเทียบกับเรทราคาของมันนั้นถือว่าดีอย่างมากเเต่พูดถึงราคาอาจจะขัดใจใครหลายๆคน รุ่นนี้จุดเด่นที่น่าสนใจที่เราจะพูดไม่ได้เลยคงจะนี้ไม่พ้นเรื่องของระบบกันสั่นแบบ Gimbal มันช่วยได้มากทั้งภายนิ่งเเละวีดีโอ  ส่วนเรื่องกล้องรุ่นนี้ก็จัดเต็มครบทุกเลนส์ใช้งานได้ทุกสถานะการจริงๆครับ กล้องหลัง 4 เลนส์ตัวประกอบด้วย กล้อง 48MP (f/1.6) เซ็นเซอร์ Sony IMX598 เลนส์ Portrait ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล (f/2.5) ระยะ 50 มม ที่ทำออกมาได้ดีมากๆเวลาถ่ายภาพบุคคลอันนี้ผมเเนะนำเลยที่ใช้เลนส์ Super-wide หริอเลนส์มุมกว้างความละเอียด 8 ล้านพิกเซล 120 องศาเลนส์ Periscope telephoto 8 MP (f/3.4) ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ซูมออฟติคอล 5x , Hyper Zoom สูงสุดถึง 60X สามารถถ่ายวิดิโอ 4K ได้ที่ สามารถถ่ายวิดีโอ 4K ได้ที่ 60 fps

ที่ทำออกมาได้ดีมากๆเวลาถ่ายภาพบุคคลอันนี้ผมเเนะนำเลยที่ใช้เลนส์ Super-wide หริอเลนส์มุมกว้างความละเอียด 8 ล้านพิกเซล 120 องศาเลนส์ Periscope telephoto 8 MP (f/3.4) ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ซูมออฟติคอล 5x , Hyper Zoom สูงสุดถึง 60X สามารถถ่ายวิดิโอ 4K ได้ที่ สามารถถ่ายวิดีโอ 4K ได้ที่ 60 fps นอกจากนั้นในรุ่นนี้ยังใส่ในส่วนของโหมดต่างๆมาให้เยอะมากๆ ไม่ว่าจะเป็น Super Night Mode , Pro Sport Mode , Astro Mode , Portrait Mode , Night Mode รวมไปถึงฟิวเตอร์เเละเอฟเฟ็กต่างๆที่มีมาให้เราได้ปรับใช้งานเยอะมากๆ เอาเป็นว่าผมขอพาทุกคนมาชมภาพถ่ายที่ไม่ได้ปรับเเต่งอะไรกันดีกว่าครับจะได้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้น

SELFIES

ทางด้านกล้องหน้าให้มา 1 ตัวครับ พร้อมกับตัวหลักกล้องหน้า 32MP (f/2.45) กล้องหน้ารุ่นนี้ต้องบอกเลยว่าคุณภาพดีมากๆ สกินโทนสวย มุมกว้างกำลังดี คุณภาพกล้องทั้งภาพนิ่งวีดีโอจัดว่าดี ใครที่ชอบเซลฟี่บอกเลยว้่คุณต้องหลงรักมือถือรุ่นนี้อย่างเเน่นอน ถ่ายภาพเซลฟี่พอตเทสละลายหลัง โหมด Beauty มีให้ปรับเเต่งใช่งานเยอะ มีสติ้กเกอร์ AR เเละยังมีในส่วนของ Night Potrait มาให้อีกด้วย

VIVO X50 PRO 

” มือถือที่ผมว่าทุกคนต้องชอบ จอลื่น กล้องดี บอกได้คำเดียวอย่าพลาด “

ส่วนตัวรุ่นนี้ผมถือว่า VIVO ทำออกมาได้ค่อนข้างดีถ้าตัดในส่วนของสเปคออกไป ส่วนตัวหลังจากได้ใช้งานผมชอบมากๆ เเละเชื่อว่าใครที่ได้ใช้งานจะต้องชอบด้วยเช่นเดียวกัน หน้าจอสวย กล้องเทพ วัสดุ ดีไซน์ตัวเครื่องลงตัว การเล่นเกมก็ทำออกมาได้ดีในระดับที่ชิปเซ็ตรุ่นนี้ไหว ส่วนทางด้านกล้องหน้าหลังใช้งานได้ดี ไว้ใจได้เลยและยังมาพร้อมโหมดการถ่ายที่ครบทำให้ใครเน้นกล้องตัวนี้ตอบโจทย์อย่างมาก ใครชอบฟังเพลงผ่านหูฟังรุ่นนี้ตอบโจทย์คุณเเน่นอน สำหรับใครที่เป็นเเฟน VIVO เน้นใช้งานจริงๆ ชอบกล้องสวยๆ เเละมีงบที่ไม่จำกัดจัดเลยครับผมว่าคุณถูกใจรุ่นนี้เเน่นอน ที่สำคัญรองรับการใช้งาน 5G ด้วยนะ อีกทั้ง Vivo X50 Pro 5G กล้องหลังมาพร้อมระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบ Gimbal รุ่นแรกในโลก ด้วยนะคะ

ข้อดี

  • หน้าจอสวย 90Hz ลื่นไหล และ การสัมผัสดี
  • เสียงหูฟังดี
  • วัสดุงานประกอบทำได้ดีสมราคา
  • ประสิทธิภาพการใช้งานลื่นไหล
  • งานวีดีโอทำได้ดีทั้งหน้าและหลัง
  • รองรับการชาร์จไว 33W
  • กล้องหลังทำได้ดีในภาพนิ่ง รวมถึง การถ่ายกลางคืน เเละโหมดพอตเทรต

ข้อสังเกต

  • ชิปเซ็ตยังคงไม่ใช่ตัวท็อป
  • ไม่รองรับ Micro-SD
  • แบตใช้งานทั่วไปไม่ได้อึดมากนัก
  • ตัวเครื่องด้านหลังเป็นรอยง่ายต้องระวัง

สำหรับรีวิวนี้ผมก็ต้องขอตัวลาไปก่อนสำหรับรุ่นอื่นๆก็ติดตามกันได้เลย ถูกใจฝากกดไลค์กดแชร์ด้วยนะครับ  มีข้อผิดพลาดประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ  เพื่อนๆสนใจอยากให้พวกผมรีวิวรุ่นไหนสามารถ Inbox มาบอกเราได้เลยนะ
ฝากไลค์เพจ FACEBOOK เราด้วยนะครับ >>>>>>>>>  TECHHANGOUT

เข้าร่วมกลุ่ม TECHHANGOUT พูดคุยแลกเปลี่ยน ข้อมูล คุยกันเองชิลๆได้เลยที่ — Facebook  Techhangout พูดคุย Smartphone gadget 

Review by Max

Comments กันได้เลย !

Comments

0 Shares