Microsoft Surface นั้นต้องบอกว่าทำได้น่าสนใจตั้งแต่เปิดตัวรุ่นแรกๆออกมาทั้งแนวคิด วิธีการนำเสนอต่างๆของรุ่นนี้บอกเลยว่าทำได้ประทับใจครับ และรุ่น Laptop นั้นถือว่าเป็นรุ่นที่เอาวัสดุผ้าเอามาทำกันแรกๆ ในรุ่นนี้ก็ได้พัฒนามีตัวเลือกมากขึ้น และหลายๆอย่างก็พัฒนาขึ้นด้วยเช่นกันครับ แบรนด์นี้ต้องบอกว่าเป็น Microsoft ลงมาทำเองเลยแน่นอนว่า การซัพพอร์ต การใช้งาน คุณภาพ พรีเมี่ยมจัดเต็มจริงๆ ในรุ่นใหม่ล่าสุดนี้ก็ได้พัฒนาขึ้นทั้งสเปค ดีไซน์ ความบางเบาและรวมถึงฟีเจอร์ที่ใส่เข้ามาด้วย ขอบหน้าจอบางขึ้น ลำโพงทำได้ดีขึ้นเป็นลำโพง Onmisonic ที่เป็นลำโพงที่ดีที่สุดในบรรดาคู่แข่งทั้งหมดเลย บอกเลยว่าทำได้ดีมากเรื่องของเสียง การออกแบบเรียบสวยและที่ชอบคือสีดำด้านมันสวยจริงๆครับ ส่วนในการใช้งานต่างๆ สเปคการทดสอบจะเป็นยังไงมาชมรีวิวกัน

Surface Laptop 3 นั้นมาพร้อมกับจุดเด่นที่เน้นในเรื่องของความพรีเมี่ยมในหลายๆจุดมากขึ้น และแน่นอนว่าเป็นรุ่นที่ทำได้ดีในเรื่องของงานประกอบ วัสดุรวมถึงความบางเบา ในรุ่นก่อนๆถ้าจำกันได้นั้นจะเห็นได้ชัดเลยว่าในแง่ของวัสดุการใช้ผ้าต่างๆนั้นถือว่าน่าสนใจ แต่ก็มี Feedback  เข้ามาบ้างในรุ่นนี้เลยมีให้เลือกทั้งแบบปกติและแบบผ้าครับ ในส่วนของสเปคนั้นมาพร้อมกับ CPU Intel Gen 10  ซึ่งในตัวรีวิวนั้นจะเป็น i5-1035G7 รุ่นล่าสุด มาพร้อมกับ RAM LPDDR4X 8 GB และ SSD 256GB แต่ในส่วนของการ์ดจอนั้นจะเป็นตัว  Intel® Iris™ Plus Graphics ไม่ได้มีตัวแยกครับ ในส่วนของหน้าจอนั้นมาพร้อมกับหน้าจอ 13.5 นิ้ว PixelSense รองรับปากกาและระบบสัมผัส ซึ่งจุดเด่นของค่ายนี้นั้นเป็นอัตราส่วนแบบ 3:2 ไม่ใช่ 16:9 แบบตัวอื่นๆที่เราคุ้นเคยกันครับ รุ่นนี้แบตนั้นก็สามารถใช้งาน ได้ 11 ชัวโมงโดยประมาณ และรองรับ Quickcharge ด้วยครับ และมาพร้อมกับพอร์ต USB-C และ USB-A ค่อนข้างครบเลย และน้ำหนักนั้นมาพร้อมกับ 1.2 โลเท่านั้นและวัสดุแมกนีเซียมดำด้านทั้งเครื่อง

Microsoft Surface Laptop 3 นั้นมาพร้อมกับสเปคให้เลือกทั้ง 2 ขนาดหน้าจอ 2 สีครับ 

  • Surface Laptop 3 13 นิ้ว i5 8GB /128 ราคา 34,990 บาท
  • Surface Laptop 3 13 นิ้ว i5 8GB / 256 ราคา 44,990 บาท
  • Surface Laptop 3 13 นิ้ว i7 16GB / 256 ราคา 52,990 บาท
  • Surface Laptop 3 15 นิ้ว R5 8GB/ 256 ราคา 49,990  บาท

UNBOX

สำหรับตัวกล่องในรุ่นนี้มาในขนาดพอดีกับตัวเครื่องไม่ได้ใหญ่เกินครับมีรูปเครื่องพร้อมกับสีชัดเจนเลยว่าเป็นสีไหน และในตัวกล่องนั้นมีอุปกรณ์มาให้เหมือนกับทั่วไปครับ

  • ตัวเครื่อง Surface Laptop 3
  • สายชาร์จ ไฟพร้อม Adaptor
  • คู่มือ

ที่ค่อนข้างชอบคือตัว Adaptor ของมันที่ให้มานั้นรองรับ Quickcharge และสามารถใช้งาน USB-A ในการชาร์จไฟได้อีก 1 ช่องครับรองรับใช้งานพวก มือถือหรือสายทั่วไปในการเสียบชาร์จไฟเวลาไปข้างนอกก็สามารถใช้ปลักแค่ตัวเดียวแต่สามารถชาร์จได้ทั้ง คอมพิวเตอร์ และ มือถือ เลยนั้นเองครับถือว่าสะดวกเอาเรื่อง

DESIGN

การออกแบบในรุ่นนี้ที่เข้าในไทยนั้นจะมีสีดำด้าน และ สีเงินครับ ดีไซน์ในภาพรวมนั้นเรียบๆมากไม่มีลวดลายอะไรเลย อีกทั้งการออกแบบรูปทรงมีความตัดขอบตรงๆ เหลี่ยมมุมจัดสวยงามไม่มีส่วนโค้งเว้าอะไรเลยส่วนทางด้านวัสดุนั้นจะใช้งานแมกนีเซียมทั้งเครื่องเลยครับ ขึ้นรูปเต็มๆเน้นเรื่องของความแข็งแรงสวยงามเอาเรื่องเลย ตัวโลโก้นั้นจะเป็นแบบเงาตัดกับเครื่องแบบด้านๆ แต่ก็เป็นสีดำเงาไม่ใช่สีเงินเลยทำให้ภาพรวมมันดูสุขุม เรียบหรูอย่างมากครับและสีที่ใช้มันดำด้านจริงๆเวลากลางคืนมองได้ยากพอสมควรเลยตัวเครื่องถ้าวางไว้ไม่ได้ใช้งานครับ ส่วนน้ำหนักและขนาดของมันเมื่อเทียบกับ 13 นิ้วถือว่าทำได้ดีในการพกพาไปไหนมาไหนอีกทั้งยังมีน้ำหนักที่เบากว่าที่คิดพอสมควร

ตัวเครื่องในภาพรวมนั้นจะเห็นว่ามีความเรียบแบนทั้งด้านหน้าและด้านหลังครับ รวมถึงตัวพื้นที่ด้านในด้วยเช่นกันเป็นการออกแบบที่เรียบและดูแข็งแรงเป็นชิ้นเดียวกันมากๆ ตัวหน้าจอก็อาจจะไม่ได้เต็มตาเท่าไรนักขอบยังมีความหนาพอสมควรเลยเมื่อดูและเทียบกับในยุคนี้ครับ แน่นอนว่าอาจจะต้องใส่ทั้งไมค์และสแกนใบหน้าเข้ามาด้วย  มิติตัวเครื่องจะอยู่ที่ 308 มม. x 223 มม. x บางแค่ 14.5 มิลลิเมตร และการผลิตนั้นจะเป็น Unibody ทั้งเครื่องซึ่งการผลิตหลักๆนั้นใช้งานแค่ 3 ชิ้นประกอบกันแค่นั้นเรียกได้ว่าแข็งเรงเลย และไม่มีรอยต่อไม่มีช่องอะไรเลย รวมถึงไม่มีช่องลำโพงเลย ทำให้มันเป็นชิ้นเดียวกันและ แข็งแรงมากๆในการออกแบบแบบนี้ครับ และ โลโกจะเป็นสีดำเงา

วัสดุในด้านในก็จะเป็นดำด้านเหมือนกับข้างนอกทั้งหมดครับจะเห็นว่าในตัวเครื่องนั้นตัวปุ่ม ทัชแพดนั้นจะเป็นโทนสีเดียวกันทั้งหมดและมีความสวยและเนียนมากๆในการเลือกพื้นผิว เราจะไม่ได้เห็นวัสดุผ้าในรุ่นนี้หรือที่เอาเข้ามาเพราะวัสดุผ้านั้นสวยและดูดีก็จริงแต่มันมีปัญหาในเรื่องของ การดูแลรักษาพอสมควร ในรุ่นนี้เลยทำให้มีตัวเลือกในการใช้งานและเป็นวัสดุแบบ อลูมิเนียม ผสมกับแมกนีเซียมทั้งหมดเลยหมดห่วงไปได้ครับ ส่วนตัวขอบล่างหน้าจอจะเห็นว่ามีอีกวัสดุนึงเป็นชุดที่เป็นพวกข้อต่อหรือการประกอบอีกชิ้นนึงครับ แต่ที่ชอบคือช่องระบายความร้อนนั้นไม่ได้เป่าออกมาบนจอแต่เป็นการยิงลงด้านล่างครับ

ขอบหน้าจอด้านบนนั้นจะเห็นได้ชัดๆเลยว่า มีกล้องหน้าในความละเอียด HD มาพร้อมกับไมค์ 2 ตัว Studio Mic คู่แบบรับเสียงจากระยะไกล และเซนเซอร์วัดระยะ 3 มิติ IR ในการใช้งาน Windows Hello ครับ แต่ขอบทั้งด้านบนและด้านข้างยังมีความหนามากเมื่อเทียบกับรุ่นอื่นๆ ในค่ายอื่นๆที่ออกมาปลายปีนี้ครับแอบเสียดายนิดๆจุดนี้

เป็นเครื่องมีพัดลมระบายมาให้มุมขวานะครับ และมีช่องระบายความร้อนจัดเต็ม ด้านหลัง แต่ช่องตรงอื่นนั้นไม่มีเลย และการออกแบบทำให้มันเป็นชิ้นเดียวกันมากกว่าเดิม มีแค่ช่องระบายออกด้านหลังของเครื่องที่จะยิงลงด้านล่างไม่ได้ยิงขึ้นหน้าจอ และจะเห็นว่าตัวเครื่องไม่มีสติกเกอร์บอก CPU อะไรแบบค่ายอื่นเลยคือเรียบมากๆ และยังไม่เห็นรูน็อตเลยด้วยซ้ำ เพราะมันซ่อนอยู่ตรงยางรองทั้ง 4 มุมครับและต้องใช้อุปกรณ์ของช่างในการ เซอร์วิสเท่านั้นด้วยครับ

เมื่อมองจากด้านข้างนั้นจะเห็นชัดๆเลยว่าตัวเครื่องมีการยกตัวเครื่องขึ้นมาเยอะเหมือนกันและมีการปาดขอบเครื่องด้านหลังในช่องระบายออกลงด้านล่างครับ และหน้าจอก็เปิดสุดได้ตามภาพเลยไม่มีการบังแต่อย่างใด ส่วนตัวข้อพับนั้นทำได้แข็งแรงดีไม่มีการโยกอะไรครับ และซ่อนได้เนียนพอสมควรเลย จริงๆชอบงานมันมากทั้งความแข็งแรง เวลาเปิดปิด และ จับมุมเครื่องก็ไม่เจออาการโยกหรือเอนอะไรเลยแม้แต่น้อย วัสดุงานประกอบค่ายนี้ยอมรับจริงๆ

SPEC

  • หน้าจอ 13.5 นิ้ว Pixel Sense ความละเอียด 2256 x 1504 อัตราส่วน 3:2CPU
  • Quad-core 10th Gen Intel® Core™ i5-1035G7 Processor
  • GPU  Intel® Iris™ Plus Graphics 950
  • RAM 8GB  3733 MHz LPDDR4x
  • SSD 256GB
  • รองรับ WiFi 802.11 ax และ Bluetooth 5.0 LE / AMD 802.11ac 2×2 MIMO
  • ไมโครโฟน Dual Farfield
  • ลำโพง Omni Sonic พร้อม Dolby Audio Premium
  • กล้องหน้า HD 720p
  • พอร์ตเชื่อมต่อ
    – USB-A
    – USB-C™
    – 3.5mm headphone jack
    – Surface Connect
    – รองรับ Surface Dial
  • รองรับ Surface Pen
  • Quick Charge 65W 0-80% ภายใน 1 ชั่วโมง
  • ตัวเครื่องทำจากแมกนีเซียม
  • น้ำหนัก 13.5 นิ้ว 1,310 กรัม / 1,250 กรัม
  • Windows 10
  • ประกัน 1 ปี

PERFORMANCE 

ทางด้านประสิทธิภาพในรุ่นนี้ค่อนข้างจัดเต็มมาให้ครับทั้งเรื่องของ CPU ตัวล่าสุดสดๆร้อนๆ Intel® Core   10th Gen Intel® Core™ i5-1035G7 Processor ที่เทคโนโลยีผลิตที่ 10nm 1.20GHz ทำงานร่วมกับGPU  Intel® Iris™ Plus Graphics 950 และ ยังให้ RAM 8GB  3733 MHz LPDDR4x รวมถึงตัว SSD 256GB ที่มีความเร็วการอ่านเขียนที่ดีพอสมควรครับ และ มาพร้อมกับ Windows 10 ครบๆพร้อมใช้งาน

PCMARK คะแนนทำได้  3974 ถือว่าตามระดับของ CPU เป็นการเรนเดอร์ในหลายๆอย่างที่เสมือนกับทำงานจริงๆในแง่ของการใช้งานทั้งหมดเวลาใช้งานคอมพิวเตอร์คะแนนเ อาจริงๆถือว่าไม่แย่เลยนะถ้าเรามองในราคาแค่นี้ และทำคะแนนออกมาได้ประมาณนี้ใน CPU i5 Gen10   ตัวนี้ถือว่าน่าพอใจครับทำงานทั่วไปสบายๆไม่ต้องกังวลอะไร และทำคะแนนรวมๆนั้นถือว่ารองรับการทำงานทั้งหมดได้หลากหลายและเต็มประสิทธิภาพกว่าแบบชัดเจนครับ ความร้อน CPU 60 ประมาณนี้ไม่ได้สูงมากกว่านี้ครับ

CINEBENCH R20 -15 ตัวนี้คะแนนวัดที่ CPU ล้วนๆเลยแหละทำไปได้ 346 ทำได้ดีครับสมราคา อย่างที่บอกว่าทำได้ค่อนข้างดี ในคะแนนของตัว R20 ที่โหดกว่าเดิมนั้นทำไปได้ 922 cb ถือว่าคะแนนดีเลยแหละในแง่การประมวลผลของ CPU  ส่วนตัวนี้มาพร้อมกับ SSD ทำคะแนนการอ่านไปได้ 2027 ส่วนเขียนที่ 831  ครับจากทดลองหลายๆรอบ แน่นอนว่ามันแตกต่างกับ HDD ไวกว่า HDD ประมาณเยอะมากเมื่อเทียบกัน และรุ่นนี้มาให้ถึง 512 GB และ ให้ HDD มาอีกที่ 1TB ครับ256GB แบบ M.2 NVMe ระดับกลางๆ แน่นอนว่าเร็วกว่า SSD M.2 SATA 3 แต่น่าเสียดายเมื่อเทียบเรทราคาแล้วถ้าใส่ความเร็วที่สูงสุดมาให้น่าจะทำงานได้ดีขึ้นไปอีกครับจุดนี้

SCREEN

หน้าจอในรุ่นนี้มาพร้อมกับอัตราส่วนแบบ 3:2 ซึ่งเป็นอัตราส่วนที่หลายๆคนอาจจะชอบกันครับในแง่ของการทำเอกสารต่างๆ หรือทำงานทั่วไปสบายๆเลย หน้าจอในรุ่นนี้มาพร้อมกับหน้าจอบนขนาดหน้าจอที่ 13.5″ ที่มีความละเอียด 2256 x 1504 พิกเซล (201 PPI) ความหนาแน่นสูงพอสมควรไม่เห็นเม็ดพิกเซลเลยครับ และในแง่ของกมุมมองภาพก็ทำได้ดีเช่นกัน หน้าจอมาพร้อมกับหน้าจอแบบเงา เหมาะสำหรับทำงานต่างๆได้ดีเลยมีความคมชัด และสวย สายแต่งภาพทำงานกราฟิกน่าจะชอบกัน และรองรับการใช้งานปากกา Surface และ ใช้งานนิ้วมือระบบสัมผัสสูงสุด 10 จุดครับ แต่แอบเสียดายว่าขอบหน้าจอนั้นยังคงมีความหนาอยู่พอสมควรเลยถ้าเทียบในยุคนี้ครับ

ในเรื่องของมุมมองของตัวหน้าจอนั้นรองรับการทำงานได้ดีมากๆทั้งการตัดต่อ แต่งภาพ ทำงานทั่วไปนั้นเรื่องของคุณภาพสี มิติต่างๆสมจริงและแม่นยำมากๆครับถือว่าเป็นหน้าจอที่ดีมากๆตัวนึงในบรรดา Ultrabook เลยทีเดียว และด้วยการรองรับระบบสัมผัสนั้นทำให้การใช้งานได้อิสระมากขึ้นในการใช้งานพกพาไปข้างนอกด้วยเช่นกัน และ ปากกาก็รองรับในการเซ็นเอกสารต่างๆหรือจะเป็นการวาดภาพ ได้หลากหลายมากๆในจอตัวนี้ครับ เรื่องของความสว่างต่างๆนั้นทำได้ดีเช่นกันสู้แสงได้สบายมากๆ แต่ด้วยกระจกเงาอาจจะใช้งานข้างนอกลำบากอยู่บ้างครับ

WINDOWS HELLO 

การใช้งาน สแกนใบหน้าของรุ่นนี้จะทำงานเหมือนกับตัวอื่นๆที่ใส่ Windows Hello แต่รุ่นนี้มีInstant On เข้ามาทำให้เครื่องติดเลยตั้งแต่แง้มหน้าจอ เลยทำงานได้ไวมากๆครับ เข้ามาจะเป็นการสแกนแบบ IR 3 มิติทำให้ความแม่นยำของการสแกนนั้นเชื่อถือได้ดีพอสมควร และสามารถใช้งานทั้งแสงน้อย แสงมากได้ค่อนข้างไวครับส่วนการจดจำนั้นจะรองรับแค่ 1 ใบหน้าเท่านั้น และเมื่อเปิดเครื่องออกมานั้นมันก็จะทำการสแกนได้เลยครับไม่ต้องกดอะไรทั้งนั้น เป็นระบบที่หลายๆค่ายเอามาใช้งานกันแทนสแกนนิ้วแล้ว แต่ก็แลกกับขอบจอที่หนาพอสมควร

KEYBOARD

แป้นพิมพ์ในรุ่นนี้ดีไซน์การวางไว้ตรงกลางของเครื่อง ใช้โทนสีดำแบบเดียวกับตัวเครื่องเป๊ะๆครับ มีการเว้าลงไปนิดหน่อย ส่วนแป้นพิมพ์นั้น มาแบบเต็มมีปุ่มอะไรใช้งานครบ แต่ไม่มี number pad มาให้นะครับแน่นอนว่าเป็นปกติของขนาด 13 นิ้วครับส่วนตัวแป้นนั้นมีไฟ Backlit สีขาวปรับได้ 3 ระดับมาให้เห็นได้ชัดเจนดีครับ ตัดกับสีดำได้ชัดเจนใช้งานได้ทั้ง กลางวัน กลางคืนมองเห็นได้ชัดเจน Layout เป็นเหมือนตัวอื่นๆ 4 แถว ช่องว่างต่างๆนั้นลงตัวดีครับ และปุ่ม ลูกศรก็ใหญ่พอสมควรใช้งานได้ไม่มีปัญหา แต่แอบไม่ชอบปุ่ม เปิดปิด ที่มันอยู่ข้างใน อาจจะไปโดนได้ง่ายครับเพราะปุ่ม Delete อยู่ริมขวาสุด จริงๆน่าจะสลับกันนิดหน่อย แต่ก็ยังดีมี ตุ่มนูนขึ้นมาให้จะได้ไม่กดผิดกัน

คีย์บอร์ดระยะการกดอะไรนั้นทำได้ดีในแง่ของการพิมพ์งานต่างๆ คีย์บอร์ดตัวนี้ที่ชอบคือความเงียบของมันครับเวลาพิมพ์งานอะไรเงียบพอสมควรเลย และ ระยะห่างแต่ละปุ่มนั้นปรับตัวไม่ยากเลยครับถ้ามาจากพวก MAC อะไรนั้นสบายๆใกล้เคียงกันเลย รวมถึงตัวปุ่มและขนาดด้วยแต่จะเบามากๆเวลาพิมพ์งาน ส่วนระยะกดนั้น1.3 กำลังดีครับเด้งรับได้ดีและพิมพ์งานเอกสารรัวๆสบาย ถือว่าเรื่องของการพิมพ์ต่างๆนั้นทำได้ดีไม่มีปัญหาและระยะต่างๆลงตัวมาก

TOUCHPAD 

ตัวทัชแพดในรุ่นนี้ได้มีการขยายจากรุ่นเดิมพอสมควรครับ และเมื่อเทียบกับขนาดของเครื่อง 13 นิ้วนั้นถือว่าใหญ่เอาเรื่องเลยครับ ซึ่งตัวทัชแพดนั้นจะเป็นวัสดุแบบด้านเดียวกับตัวเครื่องไม่ได้มีแป้นกดแยกอะไรในการคลิกซ้ายขวาครับ แต่ที่ชอบคือขนาดที่เต็มเครื่องมากขึ้น แต่วัสดุนั้นเป็นแบบด้านอาจจะทำให้ติดรอยคราบมันได้ง่ายไปนิดหน่อยเพราะในส่วนของทัชแพดนั้นเราจะใช้งานบ่อยมากๆและนิ้วของเรานั้นจะมีคราบมันนั้นเอง และทาง Software นั้นจะใช้งาน Precision ครับ ในภาพรวมขนาดของมันก็รองรับการทำงานทั้งหมุนภาพ ซูมเข้าออกได้สะดวกพอสมควรเลยครับ

ตัวทัชแพดนั้นสามารถใช้งานรองรับได้ค่อนข้างดีหลายๆนิ้วก็รองรับได้สบายครับ ทั้งเรื่องของขนาดและสัมผัสนั้นลื่นไหลดีเหมือนกัน เมื่อเทียบกับขนาดตัวเครื่องนั้นถือว่าทำได้ใหญ่พอสมควรเลย และใช้งานหลายๆนิ้วก็รองรับได้สบายทั้งการใข้งาน 3 4 นิ้วในการทำงานต่างๆไม่มีเอ๋อหรือรวนอะไรเลย และติดนิ้วได้ดีมากๆครับทำให้ใช้งาน พกพาได้ดี

SPEAKER 

ลำโพงในรุ่นนี้ไม่ต้องแปลกใจว่าทำไมถึงถ่ายคีย์บอร์ดมาครับ เพราะว่าในรุ่นนี้นั้นได้ซ่อนลำโพงอยู่ภายใต้คีย์บอร์ดเลย ทำให้ในรุ่นนี้จะไม่มีช่องลำโพงเป็นรูๆแบบตัวอื่น และการกระจายเสียงนั้นทำได้ดีจนน่าตกใจครับ เอาช่องว่างตรงคีย์บอร์ดมากระจายเสียงทำให้เครื่องนั้นเรียบเนียนมากๆ และเสียงแบบ Omnisonic นั้นทำได้ดีมากจริงๆเสียงมีมิติ ดังกังวาน และ วางแบบนี้ทำให้เวลาใช้งานยิงออกมาตรงๆเลย ไม่มีทางที่จะบังช่องลำโพงเลยครับ ถือว่าเป็นลำโพงที่ดีที่สุดในบรรดา คอมพิวเตอร์ในเรทราคานี้ไปเลย และทำได้ดีกว่าทุกๆตัวที่อยู่ในขนาดหน้าจอเดียวกันครับ

CONNECTOR 

พอร์ตเชื่อมต่อในรุ่นนี้นั้นต้องบอกว่ามีมาให้เพียงพอ แต่อาจจะยังไม่ครอบคลุมเท่าไรในแง่ของตัว USB-C นั้นยังไม่รองรับ Thunderbolt 3 เลยแม้จะมีราคาสูง ส่วนพอร์ตการอ่าน SD Card หรือ Micro Sd ก็ยังไม่มีมาให้ แต่อย่างน้อยในภาพรวมก็ให้พอร์ตสำคัญๆมาอยู่ครับทั้ง USB-A / USB-C ที่เป็น 3.1 ทั้งคู่ และ รูหูฟังนั้นก็ยังมีครับ

ในส่วนของฝั่งซ้ายนั้นจะเป็นช่อง USB-A 3.1 และ USB-C 3.1 และตัว USB-C รองรับ PD Charge ได้ด้วย และสามารถต่อจอภาพภายนอกได้ด้วยเช่นกันครับแต่ไม่รองรับ Thunderbolt 3 นะครับ และแน่นอน รวมถึงรูหูฟัง 3.5 นั้นยังคงอยู่ไม่ได้เอาออกไปไหน

ในด้านขวานั้นเป็นช่องๆนั้นไม่ใช่ช่องสำหรับเสียบ SD Card แต่อย่างใด แต่เป็นช่อง Surface Connect ที่จะเป็นช่องสำหรับจ่ายไฟเข้า และเป็นแบบแม่เหล็กที่คุ้นเคยกันดีครับรองรับการต่อได้หลากหลายในค่ายของตัวเอง หรือ อุปกรณ์เสริมที่สามารถเลือกซื้อเป็นพอร์ตนี้ได้  ชอบที่มันเป็นแม่เหล็กทำให้เวลา เตะตัดสายอะไรนั้นจะไม่ดึงคอมพิวเตอร์ลงไปด้วยถือว่าทำได้ดีมากๆในตัวพอร์ตนี้ คล้ายๆของ MAGSAFE ที่ตอนนี้ก็เอาออกไปแล้วในค่ายนั้น

BATTERY 

ทางด้านอายุการใช้งานแบตนั้นในรุ่นนี้ถือว่าอึดพอสมควรแน่นอนเพราะไม่มีการ์ดจอแยกอะไรให้ดึงพลังงานครับเลยทำให้ใช้งานทั่วไปนั้นรองรับได้สบายๆประมาณ 6-7 ชั่วโมงแบบใช้งานปกติของผมนะ น้อยกว่าที่เคลมไว้พอสมควรครับ ประมาณ 5  ชั่วโมง โดยสามารถใช้ทั่วๆไปได้ รวมถึงในรุ่นนี้มีการรองรับชาร์จไว 1 ชั่วโมงได้ 80%  โดยที่ทดสอบนั้นจะเปิดไปเกือบประสิทธิภาพที่ดีสุดครับ ซึ่งชั่วโมงในการใช้งานจะแตกต่างกันในแต่ละคนนะครับ ถ้าใช้งานหนักๆพวก Photoshop หรือทำงานหนักหน่อย อะไรแบบนั้นจะลดไวขึ้นเป็นปกติครับโดยส่วนตัวที่ลองนั้นจะเป็นการเข้าเว็บเขียนบทความ ดู Netflix พวกนั้นครับ และเปิดใช้งาน Wifi ตลอดการใช้งาน 6-7ชั่วโมงเลยครับ

WORKING

ทางด้านการทำงานนั้นรองรับการทำงานทั่วไปเช่น Microsoft ทั้งหมด อันนี้รองรับได้สบาย Excel Word สบายครับพวกนี้ไม่มีปัญหา และ RAM 8 GB ก็เพียงพอ ส่วนของ ADOBE นั้นแน่นอนว่าทางด้านของ CPU รองรับได้สบายอยู่ครับในส่วนของ Photoshop แบบเบาๆ ไม่ได้หลายเลเยอร์เยอะหรือไฟล์ไม่หนัก จริงๆ CPU มันไหวสบายๆแต่ถ้าทำงานหลายๆอย่างพร้อมกันอาจจะต้องเลือกรุ่นที่มี RAM สูงขึ้นเพิ่มขึ้นนั้นจะทำให้ ทำงานได้ค่อนข้างดีเลยแหละเพราะ แต่ระวังเรื่องควมร้อนสะสมนิดหน่อยถ้าทำหนักๆ ส่วนการดูหนังฟังเพลงทั่วไปสบาย โปรแกรมดูหนัง อื่นๆที่รองรับได้สบายไม่มีปัญหา หลักๆจะเน้นทำงานเบาๆจะดีกว่าครับในรุ่นนี้ หรือต่อภาพออกพรีเซนต์งานก็ทำได้สบาย มีพอร์ตเชื่อมต่อต่างๆ และ USB มาให้ค่อนข้างครบเลย และหน้าจอรุ่นนี้ก็มีคุณภาพมากๆทำให้การทำงานของหลายๆคนนั้นรองรับได้ดีกว่าในรุ่นก่อนๆ ทั้งแต่งภาพ ตัดต่อ รวมถึง การวาดภาพ เป็นต้นก็ได้ครับ

GAMING 

ในการเล่นเกมนั้นจริงๆรุ่นนี้ต้องบอกว่าอาจจะไม่ได้เน้นเท่าไรครับ เพราะมันไม่มีการ์ดจอแยกอะไรเลยเป็นการ์ดจอที่มากับ CPU เท่านั้นจึงหวังอะไรไม่ได้เยอะ แต่ก็ขอลองเกมพื้นฐานเบาๆที่สุดเลยละกันคือตัว Overwatch นั้นเองตัวนี้ปรับภาพต่ำ และเล่นได้แบบแก้ขัดจริงๆครับ FPS 24-35 ประมาณนี้ ถ้าเริ่มมีความร้อนนั้นมันจะเริ่มลดความแรงลงเพื่อรักษาความร้อนเลยทำให้มันตกลงไปพอสมควรครับ ความร้อนสะสม 68-75 ประมาณนี้ถือว่าเยอะแต่ก็ไม่ได้แตะ 80+ เท่าไรครับเนื่องด้วยไม่ได้แรงมาก และเล่นในห้องแอร์ แต่ภาพรวมจริงๆไม่แนะนำในการเล่นเกมเท่าไรนัก

SURFACE LAPTOP 3 

” Microsoft ยังคงทำได้ดีทั้งเรื่อง ความพรีเมี่ยม บางเบา ลำโพงเทพ ลงตัวในหลายๆด้าน “

งานประกอบ ความพรีเมี่ยมมันดูดีตั้งแต่แรกเห็นและสัมผัสเลย การขึ้นรูปแต่ละชิ้นสัมผัสอะไรดีไปหมด อยากให้มาลองกันจริงๆ และความบางเบานั้นทำได้ดีมากๆ ส่วนเรื่องของลำโพงถือว่าดีที่สุดในบรรดาคู่แข่งตอนนี้ และมาพร้อมหน้าจอที่แม่นยำ ใช้งานได้ดีรองรับระบบสัมผัส ทำให้มันตอบโจทย์กับสายทำงาน พกพา ดูหนังได้สบายๆ รวมถึงสเปคนั้นทำงานได้สบายๆ เบาๆไปถึงระดับกลางตัดต่อต่างๆได้ระดับเริ่มต้น และ การใช้งานคีย์บอร์ดก็ทำได้ดี รวมถึงทัชแพด แต่ก็มีบางสิ่งที่น่าเสียดายทั้งเรื่องของ ความอึดแบต พอร์ตบางตัว และ เรื่องของความร้อนอาจจะมีสะสมได้ง่ายบ้างแต่ก็ไม่ร้อนจัดและไม่ได้เยอะเกินไปครับ ในภาพรวมมันเน้นพกพา ทำงานได้สบาย ดีไซน์สวย แต่ถ้ามองมาที่ราคานั้นแอบสูงไปพอสมควรถ้าเทียบสเปค และ ประกันแค่ 1 ปี ก็อาจจะเป็นจุดที่หลายๆคนนั้นต้องตัดสินใจกันพอสมควรครับ เพราะในรุ่นก่อนๆนั้นอาจจะเจอปัญหาหลังหมดประกันกันหลายเคสพอสมควร แต่ถ้าพูดถึงความน่าใช้รุ่นนี้มันน่าใช้อันดับต้นๆของบรรดา Ultrabook ระดับ Premium อยู่แล้วเป็นอีกตัวเลือกที่อยากให้ลองมองกันครับ

ข้อดี

  • งานประกอบ วัสดุ พรีเมี่ยม เก็บขอบมุมสวยแข็งแรง
  • Intel Core i Gen 10 ตัวล่าสุด
  • ใช้งานวัสดุ แมกนีเซียมในการผลิตบอดี้ทั้งหมด
  • หน้าจอสวยคม PixelSense 2256 x 1504 พิกเซล (201 PPI)
  • ชาร์จไว 0 – 80% ภายใน 1 ชั่วโมงเท่านั้น
  • ลำโพงดีที่สุดในบรรดาคู่แข่งหน้าจอ 13 นิ้ว
  • คีย์บอร์ดเงียบและพิมพ์ระยะยาวได้ดีมากๆ
  • ทัชแพดรองรับได้หลากหลายการใช้งานและมีขนาดใหญ่
  • Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax
  • มาพร้อม Windows 10
  • Adaptor รองรับชาร์จไวและมีช่อง USB-A

ข้อสังเกต

  • สีดำด้านอาจจะติดคราบมันได้ง่าย
  • USB-C ไม่รองรับ Thunderbolt
  • แบตยังไม่ค่อยอึดเท่าไรนัก
  • SSD เมื่อเทียบราคาแอบช้าไปหน่อย

สำหรับรีวิวนี้ผมก็ต้องขอตัวลาไปก่อนสำหรับรุ่นอื่นๆก็ติดตามกันได้เลย ถูกใจฝากกดไลค์กดแชร์ด้วยนะครับ  มีข้อผิดพลาดประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ  เพื่อนๆสนใจอยากให้พวกผมรีวิวรุ่นไหนสามารถ Inbox มาบอกเราได้เลยนะ

ฝากไลค์เพจ FACEBOOK เราด้วยนะครับ >>>>>>>>>  TECHHANGOUT

เข้าร่วมกลุ่ม TECHHANGOUT พูดคุยแลกเปลี่ยน ข้อมูล คุยกันเองชิลๆได้เลยที่ — Facebook  Techhangout พูดคุย Smartphone gadget 

Review by Nineztr 

Comments กันได้เลย !

Comments

0 Shares