Samsung ประเทศไทยนั้นได้เปิดตัว Galaxy S22 Ultra ในประเทศไทยกันไปเรียบร้อย แต่แน่นอนว่าด้วยสเปกในไทยนั้นทุกๆครั้งจะได้ EXYNOS เป็นหน่วยประมวลผลทุกครั้ง  แต่ในตลาดต่างประเทศอื่นๆนั้นอย่างที่ทราบกันดีจะได้ใช้งาน SNAPDRAGON 888 เป็นหน่วยประมวลผลที่หลายๆคนน่าจะชื่นชอบกัน แน่นอนว่าสเปกอื่นๆนั้นไม่ได้แตกต่างกับตัว EXYNOS เลยแต่การเปลี่ยนหน่วยประมวลผลมาใช้งาน SNAPDRAGON นั้นก็จะส่งผลในหลายๆเรื่องทั้งการจัดการความร้อน การประหยัดแบต หรือแม้แต่เป็นการใช้งานเวลาเล่นเกม ถ่ายรูปทุกอย่างล้วนมีความแตกต่าง

Galaxy S22 Ultra มาพร้อมหน้าจอ DynamicAMOLED 2X ความละเอียด 3088 x 1440 พิกเซล WQHD+ (HDR10+) ขนาด 6.8 นิ้ว  พร้อมค่า Refresh Rate ระดับ 120Hz (1 – 120Hz) ในแบบความละเอียด WQHD+ Touch Sampling Rate 240 Hz สำหรับ Game Mode มีขนาดตัวเครื่อง 163.3 x 77.9 x 8.9 มม. และน้ำหนัก 229 กรัม ชิปเซ็ตประมวลผล Qualcomm Snapdragon 8 Gen 1 กราฟิก Xclipse 920 | Adreno 730 พร้อมหน่วยความจำ RAM ขนาด 8 / 12GB  (LPDDR5) หน่วยความจำภายในความจุ 128 (คู่กับรุ่น RAM 8GB) / 256 / 512GB  การเชื่อมต่อ WiFi 802.11 B/G/N/AC/AX หรือ Wi-Fi 6E, Bluetooth 5.2 ,UWB, 5G / 4G และมีลำโพง Stereo ทั้งบนและล่างปรับจูนโดย AKG รองรับซิมการ์ด Nano SIM 2 ช่อง พร้อมกล้องดิจิทัลด้านหน้าความละเอียด 40MP และกล้องดิจิทัลด้านหลังจำนวน 4 ตัว แบ่งออกเป็น กล้องหลักความละเอียด 108MP + Dual Pixel + Laser Focus, LED Flash + OIS เปลี่ยนเซนเซอร์ใหญ่ขึ้น + เลนส์ Telephoto 3x ความละเอียด 10MP F/2.4 + เลนส์ Tele 10x ความละเอียด 10MP (Space Zoom 100x) F/4.9 เลนส์ Ultra Wide ความละเอียด 12MP กล้อง ToF (Time-of-Flight) สำหรับตรวจจับระยะชัดตื้น ตัวเครื่องกันน้ำกันฝุ่นระดับ IP68 มีระบบปลดล็อก สแกนใบหน้า และ ระบบสแกนลายนิ้วมือในหน้าจอ แบตเตอรี่ขนาด 5000mAh รองรับระบบชาร์จไฟ Fast Charge 45W (แบบสาย), รองรับชาร์จไร้สาย Qi กำลัง 15W Wireless Power Share 2.0 กำลัง 9W ทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 12 ครอบทับด้วย One UI 4.0

DESIGN

งานออกแบบนั้นการวางกล้องยังคงไว้มุมซ้ายบนเช่นเดิม แต่มีการเปลี่ยนแปลงงานออกแบบ ได้ตัดกรอบเงินที่ครอบตัวกล้องออกไปใน S21 มาในดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์ของ Galaxy Note Series ที่ตัวเครื่องมีความเรียบแบน ตัวเครื่องทำจากกระจก Corning Gorilla Victus ที่มีความแข็งแกร่งและทนทาน ยังให้ความหรูหรา และมีผิวสัมผัสด้านแบบ Haze finish โดดเด่นด้วยการจัดวางเลนส์กล้องแบบผสมผสานรวมกับกรอบโลหะได้อย่างลงตัว วัสดุฝาหลังเป็นกระจกด้านเล่นแสงสวยงาม ส่วนความหนา และ หนัก ต้องเข้าใจกันในเรื่องของทั้งสเปก แบต กล้องที่กินพื้นที่ทำให้ตัวเครื่องแอบหนักไปนิดๆ

ดีไซน์จอแบบ Infinity-O Display ขนาด 6.8 นิ้ว มีดีไซน์ขอบหน้าจอโค้งทั้ง 2 ข้าง เจาะรูใส่กล้องหน้าตรงกลาง เหนือกล้องหน้ามีลำโพงสนทนา และมีสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอแบบ Ultrasonic

ตัวเครื่องมีดีไซน์แบบ Round Edge ฝาหลังกับขอบด้านข้างจะโค้งมนรับกันหมด ส่วนหัวและท้ายตัดเรียบ ผิวสัมผัสฝาหลังเป็นแบบด้าน ทำให้เห็นรอยนิ้วมือได้ยาก

ด้านขวาของตัวเครื่องมาพร้อม ปุ่มปรับระดับเสียง และปุ่มเปิด/ปิดเครื่อง

ด้านล่างของตัวเครื่องจะมาพร้อมกับช่องเสียบ S Pen, ลำโพงสปีกเกอร์, พอร์ต USB-C, ไมโครโฟน, ถาดใส่ซิมการ์ด โดยจะมาในดีไซน์แบนเรียบ

ฝาหลังประกอบไปด้วยกล้องหลัง 4 ตัว วางเรียงแนวตั้งแถวแรก 3 ตัว ไล่ลงมาเป็นเลนส์ Ultrawide, Wide กับ Telephoto 2 ส่วนแถวสองเป็นส่วนของเซนเซอร์, แฟลช LED กับเลนส์ Telephoto1

ปากกา S Pen นี้ ก็จะเป็นลักษณะเดียวกันกับที่ใช้งานใน Galaxy Note สามารถคลิกที่ด้ามปากกาแล้วดึงออกมาใช้งานได้เลย

SPEC

  • หน้าจอ DynamicAMOLED 2X ขนาด 6.8 นิ้ว
  • ความละเอียด 3088 x 1440 พิกเซล WQHD+ (HDR10+)
  • Refresh Rate ระดับ 120Hz (1 – 120Hz) ในแบบความละเอียด WQHD+ Touch Sampling Rate 240 Hz สำหรับ Game Mode
  • ขนาดตัวเครื่อง 163.3 x 77.9 x 8.9 มม.
  • น้ำหนัก 229 กรัม
  • ชิปเซ็ตประมวลผล Qualcomm Snapdragon 8 Gen 1
  • กราฟิก Xclipse 920 | Adreno 730
  • หน่วยความจำ RAM ขนาด 8 / 12GB  (LPDDR5)
  • หน่วยความจำภายในความจุ 128 (คู่กับรุ่น RAM 8GB) / 256 / 512GB
  • การเชื่อมต่อ WiFi 802.11 B/G/N/AC/AX หรือ Wi-Fi 6E, Bluetooth 5.2 ,UWB, 5G / 4G
  • ลำโพง Stereo ทั้งบนและล่างปรับจูนโดย AKG
  • การรองรับซิมการ์ด Nano SIM 2 ช่อง
  • กล้องดิจิทัลด้านหน้าความละเอียด 40 ล้านพิกเซล
  • กล้องดิจิทัลด้านหลังจำนวน 4 ตัว
  • ตัวเครื่องกันน้ำกันฝุ่นระดับ IP68
  • แบตเตอรี่ความจุ 5,000mAh
  • รองรับระบบชาร์จไฟ Fast Charge 45W (แบบสาย), รองรับชาร์จไร้สาย Qi กำลัง 15W Wireless Power Share 2.0 กำลัง 9W
  • ระบบปฏิบัติการ Android 12 ครอบทับด้วย One UI 4.0
  • มี 4 สีให้เลือก Phantom Black, Phantom White, Green และ Burgundy

SYSTEM UI

ระบบปฏิบัติการพร้อมกับ Android 12 ครอบทับด้วย One UI 4.0 ใหม่ล่าสุดที่มีการปรับปรุงรายละเอียดเยอะเน้นเรื่องของการทำงานราบรื่นและยังสามารถปรับแต่งได้เยอะมาก  ใช้ง่าย หน้าตาสะอาด ฟังก์ชันครบ การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้และรู้สึกว่ามันมีความลื่นไหลมากกว่าเดิมแบบชัดเจนในการพัฒนารอบนี้

PERFORMANCE

ประสิทธิภาพในรุ่นนี้แน่นอนว่าการใช้งาน Snapdragon 888 Gen 1  ทำให้ในเรื่องของคะแนนนั้นทำได้ดี แต่ทาง ANTUTU อาจจะไม่ได้หนีกันมากนัก แต่เมื่อไรความร้อนสูง SNAPDRAGON จะคงคะแนนได้ดีกว่า ไม่ตกหนักเหมือนกับทาง EXYNOS ครับ และ ทางด้าน GEEKBENCH นั้นถือว่า SNAP จะดีกว่าในส่วนของ SINGLE CORE แต่ถ้า MULTI นั้นไม่ได้หนีกันเท่าไรนัก ทางด้าน Androbench นั้นทำไปได้สูงมากๆในการอ่านเขียน อ่านทะลุ 1615MB/s ไปแล้วพร้อมกับเขียน 1052MB/s ก็ถือว่าเร็วแรงใช้งานได้ดี  และแน่นอนว่ารองรับการดู NETFLIX HDR อะไรเต็มที่แน่นอน ไม่ต้องห่วงในเรื่องนี้ รวมถึงระบบเสียงอะไรก็ทำได้เต็มที่ของระบบเลย

SCREEN

มาพร้อมกับหน้าจอ Dynamic AMOLED 2X ขนาด 6.8 นิ้ว ความละเอียด QHD+ มีความสว่างสูงสุด 1,750 นิต ครอบคลุม DCI-P3 100% ให้สีสันสดใสและแม่นยำสมจริง รองรับอัตราการรีเฟรชไดนามิก 1-120Hz ซึ่งจะมีการปรับการใช้งานตามความเหมาะสมให้อัตโนมัติเพื่อประหยัดแบตเตอรี่ และมีค่าความไวในการสัมผัสหน้าจอ Touch Sampling Rate สูงสุด 240Hz เมื่อเปิด Game Mode

S PEN 

S Pen ของ Galaxy S22 Ultra 5G มีการอัปเกรดลดค่า Latency ให้เหลือแค่เพียง 2.8ms (Galaxy Note20 Ultra อยู่ที่ 9ms) ฟีเจอร์การทำงานเรียกว่าเหมือนกับที่ใช้ใน Galaxy Note ไม่ว่าจะเป็นการเชื่อมต่อกับเครื่องผ่าน Bluetooth Low-Energy และมีเซนเซอร์ Gyroscope ในตัว ทำให้ใช้สั่งงานสมาร์ตโฟนจากระยะไกลด้วยคำสั่ง Air Action ได้

นอกจากนี้ยังได้รับปรับปรุงฟีเจอร์การเขียนด้วยลายมือเป็นข้อความให้รองรับถึง 88 ภาษา และยังคงมาพร้อมฟีเจอร์ Quick Note ที่ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถจดโน้ตได้อย่างรวดเร็ว

CAMERA 

Samsung Galaxy S22 Ultra 5G มาพร้อมกับกล้องหลัง 4 ตัว แบ่งออกเป็น กล้องหลักความละเอียด 108MP Dual Pixel + Laser Focus, LED Flash + OIS เปลี่ยนเซนเซอร์ใหญ่ขึ้น + เลนส์ Telephoto 3x ความละเอียด 10MP F/2.4 + เลนส์ Tele 10x ความละเอียด 10MP (Space Zoom 100x) F/4.9 และเลนส์ Ultra Wide ความละเอียด 12MP มุมมอง 120 องศา  ถ่ายวิดีโอสูงสุด 8K Super HDR พร้อม Adaptive Pixel และมีประสิทธิภาพของ AI แบบใหม่ ที่สามารถ Space Zoom ซูมได้สูงสุด 100 เท่า รวมถึงโหมด Portrait ที่ทำให้ทุกภาพถ่ายดูสวยงามเป็นธรรมชาติพร้อมกับการตกแต่งโบเก้ตามสไตล์ของทางซัมซุง


SAMSUNG GALAXY S22 ULTRA 

” เปลี่ยนแปลงเล็กน้อย ดีขึ้น ดีไซน์สวย แต่ก็แอบร้อนไวเหมือนกัน ” 

หน้าจอ 6.8 นิ้วก็มีขนาดใหญ่ใช้งานได้เต็มตาม แต่ตัวเครื่องมีดีไซน์ที่บางยังจับได้ถนัดมือ กล้อง คุณภาพ ลำโพงหรือจะเป็นงานวิดีโอ รุ่นนี้เป็นอะไรที่ลงตัวมากๆของทาง Samsung แล้ว และยิ่งได้ Snapdragon 888 มาแบบนี้ทำให้ๆหลายๆคนที่อยากเปลี่ยนเรือธงตระกูล Snap แนะนำมากๆ เพราะทำให้ประสิทธิภาพของกล้องออกมาได้เต็มที่มากๆภาพมีความคมมากขึ้น Noise เนียนตา ระยะไกลๆไม่วุ้นเท่าไร รวมถึงโทนสีของภาพทำได้ดีกว่าด้วยเช่นกัน อีกทั้ง เรื่องของความร้อน หรือ เวลาใช้งานกล้องนานๆทำได้ดีกว่า Exynos แบบรู้สึกได้รวมถึงการใช้พลังงานด้วยเช่นกันที่จะดีกว่า 1 ชั่วโมงคร่าวๆในการใช้งานจริง ทำให้มันคือสเปกที่ควรค่าแก่การใช้งานสำหรับ สายถ่ายภาพ มากๆ มันไม่ได้ดีกว่าแค่เล่นเกม แต่มันลงตัวทั้งหมดในการใช้งานทั่วไปแล้วในสเปกตัวนี้

ข้อดี

  • การกลับมาของ S-Pen ทำได้ดี น่าสนใจ และ ยังคงโดดเด่น
  • ดีไซน์เรียบง่าย สวย และ วัสดุงานประกอบดี
  • ประสิทธิภาพ Snapdragon 8 Gen 1 ทำได้เร็ว และ แรง
  • หน้าจอสวย คมชัด และ สู้แสงได้ดี
  • ลำโพงทำได้โดดเด่นเช่นเดิม
  • หน้าตา UI และฟีเจอร์เยอะและหลากหลาย
  • กล้องหลังเลนส์เทเลเวลาซูมรายละเอียดดีขึ้นกว่าเดิม
  • ปากกาตอบสนองได้ไวที่สุดเท่าที่เคยทำมา

ข้อสังเกต

  • เครื่องร้อนได้ไว และ เข้ากล้องจะร้อนมากพอสมควร
  • หลายๆส่วนเปลี่ยนแปลงไม่เยอะถ้ามาจาก S21 Ultra
  • กล้องภาพรวมไม่ได้แตกต่างกับรุ่นก่อนชัดเจนมาก
  • แบตหมดค่อนข้างไว

Comments กันได้เลย !

Comments

0 Shares