เปิดตัวมาแล้วสำหรับค่าย ASUS ที่เปิดมาในรุ่น ROG STRIX SCAR 18 มาพร้อมกับประสิทธิภาพการใช้งานที่รวดเร็ว ทันใจ ตอบโจทย์ทุกการใช้งาน การออกแบบดีไซน์สวยเท่เป็นเอกลักษณ์ตามฉบับ ROG เช่นเดิม มาในรูปแบบโทนสีที่สุขุมนุ่มลึก อีกทั้งยังออกแบบดีไซน์เล่นสีเล่นไฟให้ดูน่าใช้งานมากขึ้น แน่นอนว่าให้สเปกแรงขนาดนี้หลายๆคนคงจะห่วงเรื่องของความร้อน แอดขอบอกเลยว่ารุ่นนี้นั้นมาพร้อมกับระบบระบายความสุดเทพ ที่สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพระบายความร้อนได้เป็นอย่างดี ช่วยให้เรายังคงใช้งานได้แบบเต็มประสิทธิภาพในระยะยาว นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับประกัน 3 ปี แบบ Onsite Service ซ่อมถึงที่ภายในประเทศ ประกัน 3 ปี เข้าศูนย์ได้ 80 ประเทศทั่วโลก และ ประกัน 1 ปี ในกรณีเครื่องเกิดอุบัติเหตุ ครอบคลุมค่าอะไหล่ 80% ครบจบในค่ายเดียว จุดเด่นยังมีอีกเพียบ เดี๋ยวเราไปอ่านรีวิวพร้อมๆกันเลย

มาพร้อมกับหน้าจอขนาดใหญ่จุใจถึง 18 นิ้ว 2K QHD+ (2560 x 1600) 16:10 มีอัตราค่า Refresh Rate 240Hz พร้อมกับ Response Time 3ms รองรับค่า 100% DCI-P3 และ Pantone Validated มอบสีสันที่สวยคมชัดเสมือนจริงมากๆ อีกทั้งยังเป็นหน้าจอแบบ ROG Nebula Display ที่เอาใจสายเกมมิ่งใช้งานได้อย่างลื่นไหน ขับเคลื่อนด้วยชิปประมวลผล Intel® Core™i9-13980HX Processor 2.2 GHz พร้อมกับ GPU RTX 4090 (175W), MUX Switch with Nvidia Advanced Optimus ให้ RAM มาอยู่ที่ 32GB DDR5 (16GB*2 DDR54800 SODIMM, Max 64 GBSTORAGE 2TB (1TB+1TB) PCIe® 4.0 NVMe M.2Performance SSD (RAID 0) พร้อมพอร์ตเชื่อมต่อที่ครบครัน ทางด้านของแป้นพิมพ์นั้นเป็นแบบ Backlit Chiclet Keyboard PerKey RGB ขนาด Full-Size Keyboard ในส่วนของระบบเสียงนั้นคือ Dolby Atmos ระบบจำลองเสียงรอบทิศทาง ประกอบด้วยทวีตเตอร์ 2 ตัวและวูฟเฟอร์ที่ยิงลงด้านล่าง 2 ตัว มีการตัดเสียงรบกวนด้วย AI แบบสองทาง (Two-way AI noise-canceling technology) รองรับ WiFi 6E(802.11ax) (Triple band) 2*2, Bluetooth® 5.2 อีกทั้งยังมีความจุแบตเตอรี่มาให้ใช้งานยาวๆถึง 90Whr Support PD Charge (TypeC)ในน้ำหนักเพียงแค่ 3.1 kg. เท่านั้น ที่สำคัญยังคงมีประกัน Warranty 3 Years On-site + 1 Year Perfect Warranty มาให้เราได้ใช้งานกันเช่นเคย ภาพรวมแล้วแอดประทับใจมากๆ เปิดตัวมาพร้อมกับการพัฒนาที่จัดหนักจัดเต็มในทุกๆด้านเลย

UNBOX

  • ตัวเครื่อง ROG STRIX SCAR 18
  • Adaptor 330W + สายชาร์จ
  • คู่มือการใช้งาน

DESIGN

การออกแบบดีไซน์ในรุ่นนี้นั้นมาพร้อมกับความเป็นเอกลักษณ์โดดเด่นด้วยการออกแบบแชสซีที่เฉียบคม โดยเจ้าตัว ROG Strix Scar 18 นั้นมาพร้อมกับการใส่แผงไฟ RGB บริเวณด้านหลังและด้านหน้าของตัวเครื่อง สามารถใช้งานเชื่อมต่อสัมพันธ์กับตัวแป้นพิมพ์ได้อย่างลงตัวสุดๆ และยังคงสามารถตั้งค่าไฟต่าง ในอุปกรณ์ที่รองรับผ่านทาง Aura Sync เป็นสัญญาณแห่งพลังในการเล่นเกมจากทุกมุม เพิ่มสีและแสงให้ดูน่าใช้งานสุดๆ เอาใจสายเกมมิ่งได้เป็นอย่างดีเลยนะ โทนสีต่างๆยังคงมาในโทนเท่ๆอยู่ ตัวเครื่องมีน้ำหนักที่ไม่หนักมาก เพียงแค่ 3.1 กิโลกรัมเท่านั้น พกพาใช้งานนอกสถานที่ได้สะดวกสบาย การสลักโลโก้ค่ายยังคงโดดเด่น พร้อมแถบสี RGB ที่สะดุดสายตา

ดีไซน์ของหน้าจอด้านหน้ารวมไปถึงพื้นผิวด้านหลังยังคงมีดีไซน์ที่ไม่แตกต่างไปจากเดิมมากนัก ดูมีความเรียบหรู พื้นผิวแบบด้าน วัสดุอุปกรณ์แข็งแรงทนทานเช่นเคยเลย จะมีก็แต่การเพิ่มสี RGB ที่เข้ามาเป็นลูกเล่นในการใช้งานของเรา  ระยะของแป้นพิมพ์หรือองค์ประกอบต่างๆทางค่ายทำออกมาได้ดี ใช้งานได้สะดวกสบาย มีการสลักโลโก้ไว้แบบเด่นๆ ด้วยโทนสีที่ตัดกับสีตัวเครื่องได้อย่างลงตัว

ด้านล่างของตัวเครื่องนั้นจะเป็นในส่วนของระบบระบายความร้อนที่ทางค่ายใส่ใจมาเป็นพิเศษ จัดเต็มกับระบบระบายความร้อนที่สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตอบโจทย์ทุกการใช้งานอย่างลงตัว มีการเล่นแถบสีขาวจัดกับโทนสีของเครื่อง มองแล้วเท่สะดุดตามากๆ

ในเรื่องของแผ่นแถบพอร์ตเชื่อมก็ออกแบบมาให้สามารถใช้งานได้ง่าย เปิด/ปิด เสียบชื่อมต่อได้อย่างสะดวกสบาย เมื่อปิดใช้งานก็กลืนไปกับตัวเครื่องแบบเนียนๆเลย ตรงส่วนนี้แอดชอบมาก

มากันในส่วนของหน้าจอและขอบจอกันบ้างในรุ่นนี้ให้หน้าจอในขนาดที่ใหญ่กำลังพอดี มาพร้อมกับหน้าจอ 18 นิ้ว พร้อมขอบจอที่บางเฉียบ สามารถใช้งานได้อย่างเต็มพื้นที่ ถัดมาจะเป็นในเรื่องของแผงควบคุมด้านหลังตัวเครื่อง แอดบอกเลยว่าทางค่ายจัดระบบต่างๆมาเป็นอย่างดี โดยเฉพาะระบบระบายความร้อนที่ใส่ให้มาทั้ง 2 ฝั่ง แน่นอนเลยว่าสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด เป็นโน้ตบุ๊กอีกหนึ่งรุ่นที่แอดบอกเลยว่าตอบโจทย์ครบครันในเครื่องเดียวมากเลยนะ

SPEC

  • หน้าจอ 18 นิ้ว 2K QHD+ (2560 x 1600) 16:10, อัตราค่า Refresh Rate 240Hz, Response Time 3ms, IPS-level, 100% DCI-P3, Pantone Validated, ROG Nebula Display
  • Intel® Core™i9-13980HX Processor 2.2 GHz (36M Cache, up to 5.6 GHz, 24 cores: 8 P-cores and 16 E-cores) (Max TDP 65W)
  • GPU RTX 4090 (175W), MUX Switch with Nvidia Advanced Optimus
  • RAM 32GB DDR5 (16GB*2 DDR54800 SODIMM, Max 64 GB)
  • STORAGE 2TB (1TB+1TB) PCIe® 4.0 NVMe M.2Performance SSD (RAID 0)
  • พอร์ตเชื่อมต่อ 1x 2.5G LAN RJ45 LAN port / 1x HDMI 2./ 1x Thunderbolt4 support DisplayPort™ / 1x USB 3.2 Gen 2 TypeC support Display/ power delivery Charger / 1x 3.5mm Combo Audio Jack / 2x USB 3.2 Gen 1 TypeA
  • คีย์บอร์ด Backlit Chiclet Keyboard PerKey RGB, Full-Size Keyboard, Gaming Hotkeys
  • ระบบเสียง Dolby Atmos ระบบจำลองเสียงรอบทิศทาง ประกอบด้วยทวีตเตอร์ 2 ตัวและวูฟเฟอร์ที่ยิงลงด้านล่าง 2 ตัว, การตัดเสียงรบกวนด้วย AI แบบสองทาง (Two-way AI noise-canceling technology)
  • 4-speaker system with Smart Amplifier Technology
  • WiFi 6E(802.11ax) (Triple band) 2*2, Bluetooth® 5.2
  • Windows 11 Home
  • Warranty 3 Years On-site + 1 Year Perfect Warranty
  • แบตเตอรี่ 90Whr Support PD Charge (TypeC)
  • น้ำหนัก 3.1 kg

PERFORMANCE

ทางด้านของประสิทธิภาพการใช้งานในรุ่นนี้นั้นมาพร้อมกับชิปประมวลผล Intel® Core™i9-13980HX Processor 2.2 GHz เจนเนอเรชันที่ 13 รุ่นใหม่ล่าสุดที่เรียกได้ว่าสเปกโหดเอาเรื่องเลย จากการใช้งานจริงนั้นรวดเร็วทันใจ ไม่อืดไม่ค้างกวนใจเลย มาพร้อมกับ GPU RTX 4090 (175W), MUX Switch with Nvidia Advanced Optimus ที่ไม่ว่าจะสายงานครีเอเตอร์ ตัดต่อ หรืองานด้านไหนๆก็สามารถเอาอยู่ ประสิทธิภาพการใช้งานน่าประทับใจ ยังมาพร้อมกับความจุ RAM 32GB DDR5 (16GB*2 DDR54800 SODIMM, Max 64 GB) และ STORAGE 2TB (1TB+1TB) PCIe® 4.0 NVMe M.2Performance SSD (RAID 0) รองรับการใช้งานได้สบายๆ รวมไปถึงการอ่าน-เขียวที่รวดเร็ว การถ่ายโอนไฟล์งานใหญ่ก็สามารถจัดการได้อย่างรวดเร็วเช่นเดียวกัน การใช้งานไหลลื่นลงตัว เดี๋ยวเราไปต่อกันที่ผลทดสอบคะแนนต่างๆกันเลยว่าจะได้คะแนนที่สูงมากน้อยขนาดไหน 

CPU I9 

ต้องบอกเลยว่า CPU I9 นั้นเป็นโปรเซสเซอร์ตัวท็อปรุ่นใหม่ล่าสุดของปี 2023 เลยแหละ ขับเคลื่อนด้วย Intel® Core™ i9-13980HX เจนเนอเรชั่นที่ 13 ที่มาพร้อมกับแกนประมวลผล 8 PerformanceCores (PCore) และ 16 EfficientCores (ECore) รวมทั้งหมดเป็น 24 Cores/ 32 Threads สามารถทำงานได้โหด รวดเร็ว เทียบเท่าได้กับรุ่นเรือธงเลยก็ว่าได้ เป็นความโดดเด่นในรุ่นนี้ที่น่าจับตามองอยู่นะ ใช้งานจริงมาในระยะหนึ่งก็ถือว่าโอเคเลย ไม่อืดไม่ค้างหรือมีปัญหาใดๆขณะใช้งาน 

PC MARK

มาต่อกันด้วยผลคะแนน PC MARK กันบ้าง คะแนนที่ออกมาก็เรียกได้ว่าอยู่ในระดับที่สูงเลยนะ จากที่ได้ทำการทดสอบมาในหลายๆรอบ ก็ยังคงทำคะแนนออกมาได้น่าประทับใจ โดยสามารถทำคะแนนไปได้ถึง 12,858 คะแนนเลย เป็นคะแนนที่สูงกว่ารุ่นก่อนๆอย่างเห็นได้ชัด รองรับการทำงานทั่วไปได้สบายๆแบบหายห่วง ในส่วนของงานหนักๆ ตัดต่อ ออกแบบ ตัวนี้ก็ยังคงเอาอยู่

GPU RTX 4090 

มาต่อกันด้วย GPU ในรุ่นนี้กันบ้าง มาพร้อมกับกราฟิกการ์ดตัวท็อป NVIDIA® GeForce RTX 4090 16GB DDR6 ที่มีค่า TGP สูงสุดถึง 175 วัตต์ พร้อมเทคโนโลยีมากมายที่สามารถรองรับงานกราฟิกทุกด้านได้อย่างตอบโจทย์ อีกทั้งยังคงทำงานร่วมกับ MUX Switch เพื่อใช้งานการ์ดจอแยกได้อย่างอิสระ โดยไม่ต้องผ่านการ์ดจอออนบอร์ด (iGPU) สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความต้องการเลยนะ หรือหากต้องการใช้งานทั่วไปก็สามารถเปลี่ยนคืนได้เพื่อที่จะถนอมพลังงานในแบตเตอรี่ให้ใช้งานได้อย่างยาวนาน ภาพรวมคือเอื้ออำนวยต่อกันสุดๆ มั่นใจได้เลยว่าจะได้คุณภาพในการทำงานอย่างเต็มประสิทธิภาพ

3D MARK

ทางส่วนของคะแนน 3D Mark นั้นสามารถทำคะแนนที่เรียกได้ว่าสูงในการทดสอบทั้ง 2 แบบนะครับ ตัว TIMESPY EXTREAM ที่เน้นๆไปในเรื่องกลุ่มคอมพิวเตอร์ระดับท็อป เกมมิ่ง สามารถทำคะแนนได้ 10368 ถือว่าคะแนนอยู่ในระดับที่ดีมากๆเลยนะ และในตัว FIRE STRIKE EXTREAM ทำไปได้ 15783 และการทดสอบคะแนนในตัว FIRE STRIKE ULTRA สามารถวัดทำคะแนนออกมาอยู่ที่ 13446 คะแนน เรียกได้ว่าจากการทดสอบคะแนนแล้วนั้น คะแนนที่ออกมาอยู่ในระดับที่น่าประทำใจเลยแหละ เชื่อได้เลยว่าประสิทธิภาพการใช้งานมีคุณภาพสุดยอดไปเลย

CINEBENCH

R15 ที่เน้นในเรื่องของพลังชิปประมวลผล คะแนนก็อยู่ในระดับสูง เลยแหละ R15 นั้นทำได้ 2336cb/ 172.53 FPS ประมวลผลหนักๆได้แบบสบายมากๆหนีกับ GEN11 แบบชัดเจนและเทียบกับ RYZEN 7 4800HS ตัวนั้นจะประมาณ 120 ครับถือว่าพัฒนาขึ้น และมีผลในการเรนเดอร์ R20 ที่เน้นในเรื่องของพลังชิปประมวลผลตัวโหดกว่า R15 คะแนนก็อยู่ในระดับสูงเช่นกัน ดีกว่ารุ่นก่อนเยอะมาก และทำได้ดีกว่าตัว i7 Gen11 ด้วยนะ ในตัว R20 นั้นที่ประมวลผลหนักหน่วงกว่าเดิม ทำคะแนน 5423 ครับ เช่นเดิมทดสอบในสภาพอากาศปกติไม่มีแอร์ครับ ส่วนตัว SSD M.2 นั้นทำการอ่านเขียนไป 3083 MB/s และ 1726 MB/s  ถือว่าแรงมากๆในทั้งเรื่องของการอ่านและการเขียนถือว่าให้ประสิทธิภาพที่ดีมากๆอีกตัวนึงเลยในระดับเรตราคาแบบนี้ ทำให้สเปกรวมๆนั้นไม่มีจุดให้ติเลยทีเดียว

COOLING

ในส่วนของระบบระบายความร้อนในครั้งนี้พัฒนามาได้ตอบโจทย์มากกับประสิทธิภาพที่เกิดคาด มาพร้อมกับระบบระบายความร้อน ROG Intelligent Cooling™ ที่รองรับกับฮาร์ดแวร์ระดับไฮเอนด์ตัวเครื่อง ช่วยให้สามารถระบายความร้อนได้เป็นอย่างดีช่วยให้การใช้งานของตัวเครื่องมีประสิทธิภาพสูง นอกจากนี้ยังเพิ่มกำลังการระบายความร้อนไปอีกขั้นด้วยพัดลมระบายความร้อนถึง 3 ตัว (Tri-Fan Technology) โดยจะกระจายผ่านทางฮีทซิงค์ทั้ง 4 ตัวรอบตัวเครื่องโดยฮีทซิงค์แต่ละตัวจะประกอบไปด้วยครีบทองแดงที่บางเฉียบเพียง 0.1 mm เท่านั้น ทำให้สามารถใส่จำนวนครีบได้สูงถึง 414 ครีบ มีพื้นที่รวมถึง 195,509 ตารางมิลิเมตรเพิ่มขึ้นจากเดิม 82.5% ช่วยให้การหลของอากาศทำงานได้สะดวก แอดบอกเลยว่าระบบระบายความร้อนของเจ้าตัวนี้นั้นโหดใช่เล่นเลยแหละ อีกทั้งยังมี CoolZone Keyboard ที่เป็นช่องระบายอากาศบริเวณปุ่ม WASD เป็นความพิเศษที่แปลกใหม่มาก ช่วยให้พัดลดึงอากาศเย็นเข้าทางด้านบนตัวทำให้ลดอุณหภูมิบริเวณคีย์บอร์ดได้ไปในตัวแบบครบวงจร สำหรับใครที่ใช้ทำงานเป็นเวลานานๆ หมดห่วงเรื่องความร้อนไปได้เลย

SCREEN

ทางด้านของหน้าจอในรุ่นนี้มาพร้อมกับความละเอียดสูงถึง 2K (2560 x 1600 พิกเซล) สัดส่วนหน้าจอ 16:10 ที่กว้างกว่าทั่วไป มาพร้อมขนาดของหน้าจอ 18 นิ้ว ใหญ่จุใจใช้งานได้เพลินๆ เต็มอิ่มไปกับทุกอรรถรส อัตรา  Refresh Rate อยู่ที่ 240Hz ใช้งานได้อย่างลื่นไหลไม่มีสะดุด นอกจากนี้ยังพร้อมกับการตอบสนอง 3ms ตอบโจทย์ทุกการใช้งานอย่างลงตัวมากๆ สำหรับสายเกมมิ่งแอดว่าต้องหุบยิ้มไม่อยู่ อีกทั้งยังมาพร้อมการรองรับผ่านมาตราฐาน 100% DCI-P3 และรองรับ Pantone Validated เช่นเดิม ช่วยให้สีสันที่ออกมานั้นสวยสีสันสดใส สมจริง และแม่นยำ ใช้งานในทุกสายงานได้อย่างลงตัวถูกใจ ไม่ว่าจะสายไหนก็เอาอยู่

SPEAKER

ทางด้านลำโพงในรุ่นนี้ให้มาจัดเต็มและเป็นรุ่นแรกๆที่ใส่ระบบเสียงการรองรับ DOLBY ATMOS เข้ามาเสริมทำให้เสียงนั้นเวลาดูหนัง เล่นเกมที่รองรับนั้นมีมิติเสียงรอบทิศทางได้ดีมากๆ เสียงรอบตัวเราจริงๆและด้วยพละกำลังลำโพง 4 ตัวทั้งหมดนี้ทำให้เสียงมีความดัง แน่น เบสมากลางๆและคุณภาพเสียงอันดับต้นๆของบรรดา Gaming Notebook แล้วด้วยเช่นกัน รวมถึงเมื่อเทียบกับราคานั้นต้องบอกว่าสมราคาและค่าย ROG ยังคงเด่นเรื่องนี้มากๆ  แต่ถ้าเทียบกับพวกที่มีชิปเสียงตัวนั้นกำลังขับเวลาฟังเพลงจะทำได้ดีกว่า รวมถึงไม่มีพวก ซัพอะไรใส่เข้ามาให้ทำให้เสียงเบสอาจจะไม่ได้แน่น สั่นสะใจมากนัก เลยออกแนวกลางๆ แต่มิติภาพรวมนั้นทำได้ดี และทิศทางดีเลยทีเดียว พร้อมฟีเจอร์ Two-way AI Noise-Cancelation ตัดเสียงรบกวน มอบประสบการณ์การ voice chat ที่คมชัด

KEYBOARD

ในส่วนของแป้นพิมพ์ในครั้งนี้โดดเด่นเป็นพิเศษด้วยการเพิ่มแผงไฟ RGB เข้าไป และมาพร้อมกับ AuraRGB  4 Zone ปรับได้อิสระมากๆ และการออกแบบที่เน้นสีใสเป็นปุ่ม WASD อะไรพวกนั้นดูน่าสนใจและสวยงามรวมถึงการทำปุ่มรอบๆนั้นเป็นแบบใส ถือว่าดูสวยและทำให้แสงสีนั้นออกมาได้ชัดกว่าเดิมเยอะ รวมถึง การเว้นระยะ การสัมผัสอะไรนั้นจะคล้ายๆเดิมครับ แตกต่างกันที่ดีไซน์มากกว่าตัวปุ่มครั้งนี้สามารถปรับแสงสีอะไรได้เยอะกว่าเดิมเยอะมากส่วนปุ่มการวางตำแหน่งต่างๆของปุ่มพิเศษ ปุ่มเปิดปิดเครื่องยังคงคล้ายๆของเดิม แต่มีการเปลี่ยนลักษณะปุ่มแบบใหม่ทั้งหมด และ ไม่มีการใส่ NumberPad เข้ามาแล้วนะครับ เป็นปกติของบรรดา Gaming แต่ก็จะได้ปุ่มที่มีขนาดใหญ่มากขึ้น ระยะห่างดีขึ้น ใช้งานเล่นเกมได้ดีขึ้นรวมถึงปุ่มลัดในแถบด้านขวาก็ใส่เข้ามาให้ควบคุมพวกเพลง เปลี่ยนเพลงได้จุดนี้ถือว่าใช้งานบ่อยมากก และปุ่ม Arrow Key นั้นอยู่เยื้องลองมาทำให้การกดใช้งานนั้นไม่มีปัญหาและเล่นเกมได้ดีเช่นเดิมเลย

RGB LIGHTING 

WOKING LUMION 

ทางด้านของการทำงานนั้นแน่นอนว่าตัวนี้ก็ถือว่าพัฒนามาดีขึ้นครับสำหรับ AMD RYZEN บอกเลยว่าถ้าสายทำงาน สายเรนเดอร์หรือจะเป็นการตัดต่อ ทำภาพ 3มิติ สร้างบ้าน ขึ้นโมเดล ทำงานหลายโปรแกรม ทางค่ายแดง AMD RYZEN ทำได้ประทับใจกว่าอีกค่ายอยู่แล้ว ทั้งการจัดการหลายๆโปรแกรม การรัน การประมวลผล และเห็นชัดมากๆในการ เรนเดอร์โมเดลอันนี้แอดมินใช้เองเลยครับ มาพร้อมกับเทคโนโลยี 7nm เช่นเดิม ในตัว RYZEN 9 5900HX  ด้วยนะ พร้อมกับ RX6800M และใช้งาน RAM 16GB 1TB SSD ก็ถือว่าไวมากๆในทั้งเรื่องของการอ่านเขียน แต่ทดสอบในการเรนเดอร์การทำงานจริงนั้นจะเป็นอย่างไรกันบ้างลองดูทดสอบกันในหลายๆโปรแกรมสายทำงาน แต่บอกเลยว่าการอ่านเขียนโปรแกรมต่างๆของค่ายนี้ทำได้ดีและเรนเดอร์ไวมาก และ การ์ดจอค่ายแดงไม่ธรรมดาเลยทีเดียวครับ และ เทียบกับระดับเรทราคาถือว่าการเรนเดอร์ในหลายๆโปรแกรมอยู่ในระดับที่น่าพอใจมากๆ

GAMING

การเล่นเกมต้องบอกว่ารุ่นนี้สามารถขับหน้าจอ 2K 165Hz ได้แบบไม่มีปัญหาในการเล่นเกมแม้จะปรับภาพสุดที่ลองนั้นในสภาพอากาศที่ไม่ได้เปิดพัดลม ไม่ได้เปิดแอร์ ซึ่งทำให้ได้อุณหภูมิจริงๆในการใช้งานเลยแหละครับสภาพอากาศจริง ซึ่งก็ได้ทำการทดสอบในหลายๆเกมทั้งกราฟิกที่ไม่ได้สวยงามกินสเปก ไปยันกินสเปกโหดๆ ซึ่งทางเราก็ได้เปิดภาพแบบสูงสุด รวมถึง เปิด Monitor FPS /Temp ไว้ตลอดเลยเล่นต่อเนื่องยาวๆครับในแต่ละเกม ซึ่งในรุ่นนี้ปุ่มอะไรพวกนั้นเวลาเล่นเกมรองรับได้ค่อนข้างดี คือตัวแป้นพิมพ์นั้นเล่นได้ง่ายมีที่วางมือและไม่ร้อน เราสามารถวางมือบนตัวคอมพิวเตอร์ได้เลยครับ จัดการความร้อนได้ดีมาตลอดในด้านตรงที่วางมือ  เรามาดูกันในหลายๆเกมว่าจะเป็นยังไงกันและตัว RYZEN 9 5900HX +RX6800M ค่ายแดงทั้งคู่จะทำได้ดีแค่ไหน และครั้งนี้มาพร้อมกับ RAM 16GB อีกทั้งตัว SSD 1TB ที่รองรับการเล่นเกมได้สบายๆ และค่ายแดงจะขับได้โหดแค่ไหนไปดูกันได้เลย

ROG STRIX SCAR 18 2023

” จัดเต็มด้วยสเปกการใช้งานที่ตอบโจทย์รวดเร็วโดนใจ พร้อมระบบระบายความร้อนระดับเทพ “

ภาพรวมของเจ้าตัวนี้นั้นต้องบอกเลยว่าครบจบในเครื่องเดียว ทั้งด้านของการออกแบบดีไซน์ที่สวยหรูมึเอกลักษณ์ เพิ่มลูกเล่นด้วยไฟ RGB ทำให้ดูสะดุดตาน่าใช้งาน อีกทั้งในเรื่องของสเปกการใช้งานที่จัดหนักจัดเต็มในทุกจุด ตอบโจทย์ทุกความต้องการของเราได้อย่างลงตัวเลยนะ ไม่ว่าจะสายงานทั่วไปหรือสายงานออกแบบเจ้าตัวนี้ก็สามารถใช้งานได้แบบสบายๆ แบตเตอรี่ที่ให้มาความจุค่อนข้างเยอะใช้งานได้เป็นเวลานาน จากการใช้งานจริงแบตอึดอยู่นะ หรืออาจจะเป็นเพราะตัวระบบระบายความร้อนที่ค่อนข้างเด่นมากๆ ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถระบายความร้อนได้รอบตัวเครื่องเลยนะ ช่วยมาทำให้เครื่องไม่ร้อนประสิทธิภาพการใช้งานยังคงสูง พร้อมกับไม่กินแบตอีกด้วย สำหรับสายเกมมิ่งหรือสายใช้งานเป็นเวลานานๆ รุ่นนี้คือเหมาะมาก น้ำหนักเบาสามารถพกพาไปใช้งานนอกสถานที่ได้สบายๆ หน้าต่อใหญ่ สู้แสงได้ดีในระดับหนึ่ง เปิดตัวมาในรุ่นนี้แอดค่อนข้างถูกใจ เพราะภาพรวมต่างๆนั้นพัฒนามาจากรุ่นก่อนๆอย่างเห็นได้ชัดเลยแหละ อยากให้ทุกคนได้ลอง

ข้อดี

  • ขับเคลื่อนด้วย Intel Gen 13 i9-13980HX เร็วแรงมากขึ้น
  • การ์ดจอที่ทำคะแนน 3DMarks ได้สูงขึ้นกว่า RTX3080Ti ถึง 57%
  • มีแถบแผงไฟ RGB มาให้ใช้งาน
  • หน้าจอสีสวยตรงสมจริง ขนาดกำลังพอดี
  • ดีไซน์สวย วัสดุอุปกรณ์แข็งแรงทนทาน
  • ลำโพง 4W x 2 คุณภาพดี รองรับ Dolby Atmos รอบทิศทาง
  • พอร์ตเชื่อมต่อครบพร้อมใช้งาน ในด้านหลัง และ ข้าง
  • ระบบระบายความร้อน ROG Intelligent Cooling™
  • 3 year Onsite service + 1 year Perfect warranty

ข้อสังเกต

  • น้ำหนักยังไม่อยู่ในเกณฑ์ที่พกพาได้สะดวกมากนัก

สำหรับรีวิวนี้ก็ต้องขอตัวลาไปก่อนสำหรับรุ่นอื่นๆก็ติดตามกันได้เลย ถูกใจฝากกดไลค์กดแชร์ด้วยนะคะ  มีข้อผิดพลาดประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ  เพื่อนๆสนใจอยากให้พวกเรารีวิวรุ่นไหนสามารถ Inbox มาบอกเราได้เลยนะ
ฝากไลค์เพจ FACEBOOK เราด้วยนะคะ >>>>>>>>>  TECHHANGOUT

เข้าร่วมกลุ่ม TECHHANGOUT พูดคุยแลกเปลี่ยน ข้อมูล คุยกันเองชิลๆได้เลยที่ — Facebook  Techhangout พูดคุย Smartphone gadget 

Review by Ning

Comments กันได้เลย !

Comments

0 Shares