ROG ได้ทำการเปิดตัว Gaming Notebook  รุ่นล่าสุดสำหรับ สายเกมจริงจังตัวล่าสุดเข้ามาคือ ASUS ROG Strix Hero III ในครั้งนี้ที่จัดเต็มและพัฒนาขึ้นในหลายๆอย่าง ทั้งการออกแบบ ตัวระบายความร้อนแบบใหม่ที่พัฒนาร่วมกับ BMW อีกทั้งเรื่องของสเปค ก็ได้พัฒนาขึ้นรวมถึง ฟีเจอร์ใหม่ๆที่จัดเต็มและเป็นครั้งแรกอีกด้วย รวมถึงหน้าจอที่สุดในบรรดา Gaming ด้วยกันมาพร้อมกับ IPS ที่ 240Hz 3ms 100% sRGB ที่บอกเลยว่าไม่ธรรมดา และ ยังมาพร้อมกับ  ROG Keystone ที่เป็นอุปกรณ์ที่จะทำให้เราสร้าง Shadow Drive ได้และต้องมี Keystone เท่านั้นถึงจะเข้าไปในส่วน Shadow Drive  ได้ถือว่าน่าสนใจ และจะทำงานอะไรยังไง ไปชมกันเลยครับ

สำหรับสายเกมนั้น การเปิดตัว ROG STRIX HERO III รอบนี้นั้นถือว่าเป็นอะไรที่จัดเต็ม และ ว้าวได้เสมอครับ รุ่นนี้จะเป็นตระกูลที่เน้นประสิทธิภาพมากๆและสำหรับสายเกมตัวจริง สำหรับสายแรง เลยแหละ และการออกแบบที่สวยงามและโดดเด่นสุดๆในครั้งนี้ก็ทำให้มันค่อนข้างน่าสนใจอีกเช่นกัน ROG ในรอบนี้มีการออกแบบร่วมกับค่ายรถ BMW ในการพัฒนาการออกแบบช่องระบายความร้อนแบบใหม่ 3D Flow Zone และ ยังเน้นเรื่องการตกแต่ง รวมถึงไฟ RGB รอบเครื่องเลยด้วยครับ และ KeyStone ที่เหมือนกุญแจรถยนต์ที่จะทำให้เราสามารถ ทำ Drive ลับเฉพาะ และการปรับแต่งเฉพาะของเราได้ เหมือนกับ รถยนต์ที่มีกุญแจเป็นของตัวเองนั้นเองครับ รุ่นนี้ก็มาพร้อมกับ สเปก Intel Core i7-9750H  NVIDIA GeForce RTX 2070 ร่วมกับระบบระบายความร้อนแบบใหม่ที่ดีขึ้น 17%  หน้าจอ 15.6 นิ้วแบบ Full HD พาเนล IPS  240Hz  100% sRGB อีกทั้งยังมาพร้อมกับ RAM 8 GB และ  SSD 512GB เลยนั้นเอง ถือว่าเป็นอะไรที่จัดเต็มและในส่วนของหน้าจอนี้โหดเอาเรื่องเลยแหละครับ 

ROG STRIX HERO III G531GW ในประเทศไทยนั้นมาด้วยกัน 3 รุ่นหลักๆครับ 

  • G531GW-AZ201T | 15.6″/i7-9750H/RAM 8GB/
    SSD 512GB/RTX2060/Win10/240Hz ราคา 49,990 บาท
  • G531GW-AZ201T | 15.6″/i7-9750H/RAM 8GB/
    SSD 512GB/RTX2070/Win10/240Hz ราคา 59,990 บาท ตัวที่รีวิว **
  • G531GW-AZ202T | 15.6″/i9-9880H/RAM 16GB/
    SSD 1TB/RTX2070/Win10/240Hz ราคา 89,990 บาท

UNBOX

ตัวกล่องนั้นออกแบบใหม่นิดหน่อยในเรื่องของการใช้กราฟฟิคด้านหน้าที่สวยงามขึ้นมีการเล่นแถบให้รู้ว่าเป็น RGB นิดหน่อยกับลายตัดขวางที่อาจจะคล้ายกับการเน้นว่ารุ่นนี้มีไฟรอบตัวเครื่องเสริมเข้ามา และ รวมๆสวยขึ้นเยอะเลย

  • ตัวเครื่อง ROG STRIX HERO III
  • ตัว KeyStone ที่มาพร้อมกับ พวงกุญแจในตัว
  • ที่ชาร์จ Adaptor มีการออกแบบใหม่
  • สายชาร์จ
  • คู่มือ
  • อุปกรณ์เสริม สำหรับติดตั้ง HDD เพิ่มเติม

DESIGN

งานออกแบบของรุ่นนี้ต้องบอกว่าตอนที่เห็นที่งานไต้หวันนั้นก็ชอบเลยแหละคือตัวไฟและการออกแบบทั้งหมดมันตอบโจทย์สายเกมและคนรัก RGB อย่างมากไฟจัดเต็มให้ทั้งด้านหน้า ด้านข้าง และ ด้านหลังที่เป็นโลโก้ รวมถึง คียบอร์ดนั้นเป็น RGB PerKey  ด้วย และขอบหน้าจอที่บางมากๆ แต่ก็ต้องยอมเสียกล้องหน้าไปแทนครับ รวมถึงการเล่นลวดลายวัสดุต่างๆนั้นยังคงสไตล์ของแบรนด์ไว้ได้ดีมากๆทั้งภาพนอกและภายในของตัวเครื่องถือว่าเป็นรุ่นที่ทำออกมาสวยและงานประกอบวัสดุยังคงไว้ใจได้ ดูแข็งแรงและรอยต่อต่างๆนั้นทำออกมาได้ค่อนข้างดีเลยแหละ

ตัวเครื่องยังคงเอกลักษณ์ได้ดี รูปทรงพกพาได้ง่ายขึ้น หน้าจอบางตัวเครื่องเล็กกระชับและได้ตัดกล้องเว็บแคมออกไปแล้วนั้นเอง น้ำหนักอยู่ที่ 2.57 ครับ และวัสดุหลักๆนั้นจะเป็น พลาสติก อลูมิเนียมทำลวดลายได้ดีครับและเป็นคาร์บอนในส่วนข้างในด้วย ตัวเครื่องรอบนี้มาพร้อมกับไฟ RGB แบบรอบเครื่องจากที่รุ่นก่อนหน้านั้นจะมีแค่ด้านหน้า และ ที่สำคัญมากๆคือในรอบนี้มีการทำช่องระบายความร้อนร่วมกับ BMW อีกด้วย อีกทั้งยังใช้งาน คีย์บอร์ดแบบ RGB PerKey และ มีการใช้ NumberPad ตรง Touchpad ในตัวครับทำให้ประหยัดพื้นที่ไปได้และมีให้ใช้งานกันไม่ได้ตัดไปครับ ตัวข้อพับต่างๆนั้นทำออกมาได้ดี และฝาหลังยังมีไฟตรงโลโก้มาให้ครับเรียกได้ว่าไฟรอบเครื่องเลย

มาส่องกันที่ฐานตัวเครื่องกันหน่อย แม้แต่ฐานตัวเครื่องก็ยังมีการออกแบบ อันนี้ถือว่าใส่ใจยันส่วนที่คนไม่มองกันครับ ตัวเครื่องนั้นมีการเล่นลวดลายเขียนฟอนต์เท่ๆข้างในมุมขวาของภาพและมีการตัดเฉียงแบบเดียวกับฝาหลังเลย แต่วัสดุตรงนี้จะเป็นพลาสติกครับแต่มีความแข็งแรงพอสมควรเลยแหละ ช่องลมเข้าได้เยอะมากๆครับ และจะเห็นยางรอง 5 ตำแหน่ง และมีการยกตัวเครื่องนิดหน่อยเพื่อที่จะให้มีลมเข้าไปได้ง่ายแม้จะไม่เหมือนพวก Zephyrus แต่ก็ทำได้ดีเหมือนกันครับ ส่วนตัวไฟ RGB นั้นมีรอบเครื่องยกเว้นด้านหลังแถบไฟค่อนข้างสว่างชัดเจนอยู่เหมือนกัน
เมื่อเปิดฝาด้านในนั้นจะเป็นในส่วนของการอัพเกรดที่รองรับ RAM เพิ่มอีก 1 แถว แบบในภาพคือซื้อมาใส่ได้เลย อีก 8 GB จะใช้งานได้เต็มที่มากขึ้น และ สูงสุด 16*2 เลยทีเดียว ! ส่วนเรื่อง HDD ก็มีที่ว่างมาให้และน็อตอะไรให้มาครบครับ ตัวพัดลมขนาดใหญ่และ ระบายได้ดีมากๆรวมถึง HeatPipe ที่เยอะและใหญ่มากๆจัดเต็มขึ้นเยอะเลยแหละ

ตัวข้อพับนั้นทำออกมาได้แข็งแรงและเป็นเหลี่ยมสันได้ดีมากๆ มีขนาดใหญ่และหนา สำหรับข้อพับพวกนี้นั้นจะไม่ได้ยกตัวเครื่องแบบรุ่นอื่นๆแต่ก็จะเป็นส่วนที่สำคัญในการออกแบบที่รองรับการใช้งานที่บ่อยและด้วยหน้าจอที่บางขึ้นเรื่องๆ แรงกดต่างๆนั้นก็ทำให้ข้อพับเป็นส่วนนึงที่สำคัญมากๆตัวนี้ทำได้ดีจับข้างนึงพับก็รองรับได้ดีครับ จอกางได้ประมาณ 145 องศาครับสูงสุด และชื่อรุ่นนั้นจะเขียนไว้มุมซ้ายและหน้าจอยังคงเว้าสำหรับระบายลมให้สะดวกเหมือนกับรุ่นก่อนหน้านี้เหมือนเดิมครับ ถือว่ายังคงออกแบบได้สวยงามและดึงเอกลักษณ์ของรุ่นไว้ได้ดีสำหรับ ROG

สำหรับตัว Logo นั้นเมื่อไม่ได้เปิดไฟก็จะเป็นโครมเมี่ยมสีเงาๆเรียบหรูไปอีกแบบครับจะเห็นการปัดลายของฝาหลังที่เป็นแนวเดียวกับการตัดขวางของตัวฝาหลังและเป็นวัสดุที่ค่อนข้างสวยสีเทาเข้มและยังมีความแข็งแรงในตัวได้ดีเลยครับพวกฝาหลังแบบนี้  ส่วนในด้านล่างนั้นยังคงเว้าเข้าไปแบบเดิมแต่ไม่ได้สูงเท่าไรนักรวมถึงไม่ได้ Center ก็แปลกตาไปอีกแบบนั้นเอง แต่ที่น่าสนใจมากๆคือการออกแบบส่วนท้ายในการระบายความร้อนของมันแปลกตาและน่าสนใจมากๆ มันคือการออกแบบที่ร่วมกับ BMW นั้นเอง และ ช่องระบายหลักด้านล่างก็มีซ้ายขวาเหมือนเดิมและ มีพอร์ตเชื่อมต่อตรงกลางครับ แน่นอนว่าการออกแบบช่องแบบ 3D FlowZone นั้นน่าสนใจมากๆเลยแหละในครั้งนี้

3D FlowZone นั้นเป็นการออกแบบที่ร่วมมือกับค่ายรถยนต์ระดับโลก BMW แน่นอนว่าพัฒนาว่าจะทำยังไงกับการระบายความร้อนของตัวเครื่องให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด จึงออกมาเป็นช่องแบบ 3 มิติแบบในภาพด้านบนที่จะรับลมได้เยอะและเร็วที่สุดรวมถึงระบายความร้อนได้ดีมากที่สุดเอาแนวคิดมาจากครีบระบายความร้อนในตัว Concept มอเตอร์ไซค์ของ BMW นั้นเองครับถือว่าแปลกใหม่และมันได้ผลเลยแหละ เป็นเหมือนแถบหม้อน้ำดึงลมเข้าทั้งหมดและเอาลมออกในช่องด้านล่างครับลมเย็นสามารถเข้าได้ทุกทิศและทำมุมรับลมได้ดีมากๆแบบ 3 เหลี่ยมครับ ส่วนในด้านหน้า เมื่อเปิดฝาพับออกมาก็ยังมีช่องรับลมเย็นเข้ามาอีก และมีไฟแสดงสถานีอยู่ในส่วนนี้ด้วยครับแบบในภาพเลย

ขอบหน้าจอนั้นทำได้บางขึ้นไปเรื่อยๆและหน้าจอก็เทพขึ้นเรื่อยๆครับ หน้าจอตัวนี้ขอบบางมากแต่ก็แลกกับไม่มีกล้องหน้ามาให้แล้ว และ หน้าจอมาให้ 15.6 นิ้ว IPS FHD 240Hz 3MS รวมถึง รองรับขอบเขตสี 100% RGB เลยถือว่าเป็นจอสายเกมที่น่าจะโหดที่สุดแล้วในตอนนี้ครับ ทั้งคุณภาพและความลื่นไหล แต่ไม่มี G-Sync อะไรมาให้นะครับ ส่วนวัสดุตรงที่รองมือทั้งหลายนั้นจะเป็นวัสดุคาร์บอนสวยงามเล่นลวดลายแบบเรียบๆผสมกับฟอนต์จากๆสไตล์ ROG ครับเป็นตัดแนวเฉียงมา และที่น่าสนใจอีกอย่างเลยคือ แถบเส้นๆนั้นลากมาถึงด้านข้างต่อเนื่องจากชุดระบายความร้อนด้านหลังทำให้มันดูมีอะไรน่าสนใจและจะเป็นสีแดงๆนั้นแหละ ถอดได้ คือ ROG Keystone นั้นเอง มันทำงานอะไรยังไงนั้น Shadow Drive  ทำงานยังไงเดี๋ยวเราไปดูในส่วนกหัวข้อของมันด้านล่างได้เลยครับ

SPEC

  • Intel® Core™ i7 9750H Processor
  • ระบบปฏิบัติการ  Windows 10 Home
  • ชิพเซ็ต Intel® HM370 Express Chipset
  • หน่วยความจำ 8 GB, 2 x SO-DIMM socket for expansion, สูงสุด 32 GB SDRAM, Dual-channel
  • การแสดงผล  15.6″ (16:9) LED-backlit FHD (1920×1080) 240Hz Anti-Glare Panel with 72% NTSC  With IPS Technology
  • กราฟิก  NVIDIA® GeForce® RTX 2070 , with 8GB GDDR6 VRAM
  • สตอเรจ  Solid state drive: 512GB PCIe® SSD M.2
  • คีย์บอร์ด Illuminated chiclet keyboardPer-key RGB
  • ไม่มีกล้องหน้า WebCam
  • เน็ตเวิร์คกิ้ง  Intel® 802.11ac (2×2) Gigabit Wi-Fi
  • Bluetooth  Bluetooth® 5.0
  • อินเตอร์เฟส
    1 x COMBO audio jack
    3 x Type-A USB 3.1 (Gen 1)
    1 x Type-C USB 3.1 (Gen 2) with display support
    1 x RJ45 LAN jack for LAN insert
    1 x HDMI, HDMI support 2.0b
  • ออดิโอ
    Built-in 4 W Stereo Speakers with Array Microphone   ASUS Sonic Radar  Smart AMP
    ASUS Sonic Studio
  • แบตเตอรี่  4 -Cell 66 Wh Battery
  • พาวเวอร์ อะแดปเตอร์
    Plug type :ø6.0 (mm)
    Output :
    19.5 V DC, 11.8 A, 230 W
    20 V DC, 14 A, 280 W
    Plug Type :ø6.0 (mm)
    Output :
    20 V DC, 7.5 A, 150 W
  • ขนาด  NB: 360.3 x 275 x 24.9 mm (WxDxH)
  • น้ำหนัก  NB: 2.57 kg with battery
  • VR Ready

PERFORMANCE 

ROG STRIX HERO III มาพร้อมกับ CPU Intel Core i7-9750H  6 คอร์ 12 เธร์ด มีความเร็ว 2.60 GHz และเร่งไปได้สุดๆ 4.50 GHz และในตัวใหม่นี้มี L3 cache ขนาดใหญ่ถึง 12MB และสำหรับการ์ดจอนั้นทำงานร่วมกัน RTX 2070 ตัวล่าสุดพร้อมกับ 8GB DDR6  ตัวเครื่องยังมาพร้อมกับ RAM 8 GB  และ SSD 512GB  บอกเลยว่า แรงเกินหน้าเกินตาไปแล้ว และสามารถเพิ่มSSD/HDD แบบ 2.5” SATA ได้ด้วยครับมี Slot ว่างมาให้ใช้งานกัน และการอัพเกรดรองรับ RAM DDR4 2666Mz ได้อีก 1 แถว อีก 1 แถว และรองรับ สูงสุด 32GB  จริงๆแนะนำ RAM เพิ่มไปเลยตอนซื้อเครื่อง จะรีด 2070 ได้เต็มที่กว่าเดิมเยอะครับ 8GB นั้นแอบน้อยไปสำหรับใช้งาน

ทางด้าน CPU ตัวนี้ใช้ Gen 9 ล่าสุดเลย เป็นตัว Intel Core i7 9750H รุ่นล่าสุดที่มีแกนประมวลผลแบบ 6 คอร์ 12 เธรด ให้ความเร็วสูงสุดถึง 4.5GHz  และรองรับการทำงานเยอะได้สบายครับ L3 cache รองรับ 12MB เลย ส่วนเรื่องของการ์ดจอนั้น Intel UHD Graphics 630 ก็มีติดเครื่องมาให้ใช้งานทั้ง 2 มิติ 3 มิติเริ่มต้นก็รองรับได้สำหรับตัวนี้ แต่สำหรับอีกอันนั้นจะเป็น Nvidia GeForce RTX2070 8GB GDDR6 แต่ที่แตกต่างกว่าทั่วไปคือรุ่นนี้จะรองรับ ROG Boost ที่จะบูสตัว clock speed ของ RTX 2070 นั้นให้สูงขึ้นกว่าเดิม 7% สำหรับใช้งานก็แค่เปิดพัดลมแบบ TURBO นั้นเองครับ แน่นอนว่าระดับนี้แล้วนั้นทำให้ภาพที่ได้สมจริงและประสิทธิภาพเต็มที่มากๆ

PCMark 10 ในตัวคะแนนการทดสอบนั้นได้มากถึง 5,246 คะแนน จริงๆพวกระดับราคานี้การใช้งานทั่วไปทำงานคงไม่ต้องกังวลตอบโจทย์ทำงาน ทั่วไปแทบจะทุกรูปแบบครับ ไม่ต้องห่วงเลยแหละ ตั้งแต่ Microsoft Word ไปยังตัดต่อ 4K รองรับได้สบายด้วยความแรงทั้ง CPU -GPU ที่รองรับกันอย่างดีและระบายความร้อนได้ดีด้วย จากการทดสอบเสร็จแล้วนั้น ความร้อนตัวเครื่องวัดได้ที่ CPU 70  GPU 68 องศาครับผมสภาพอากาศปกติ ไม่มีแอร์

3D MARK นั้นก็ทดสอบเช่นกันแต่ครั้งนี้เราจะมีตัว Port Royal เข้ามาสำหรับการ์ดจอพวก RTX ครับเน้นประมวลผลด้านนี้ไปเลยทำคะแนนได้ 4157 นะครับส่วนตัว ตัว TIMESPY EXTREAM  ที่เน้นไปเจาะกลุ่มคอมพิวเตอร์ระดับท็อป เกมมิ่ง เป็นตัวที่กราฟิคสูงมากๆ ทำคะแนนได้แตะ 3231 พันเลยทีเดียว ส่วนพวก Firestrike Extre am -Ultra ก็ทำคะแนนได้ดีครับ ในระดับ 8280 กับ 4386 คะแนน เมื่อทดสอบกันแล้วแอดมินลอง วัดความร้อนนั้นประมาณ CPU 80 และ GPU 74 ไม่มีแอร์ และ ไม่มีพัดลมเปิดช่วยครับผม ถือว่าจัดการได้ดีอยู่ และ พัดลมนั้นทำงานสูงสุดเลยครับระบายได้ค่อนข้างดี อันนี้ทดสอบโดยใช้ RAM 8GB ติดเครื่องปกตินะครับ

CINEBENCH R15 / R20  นั้น ที่เน้นในเรื่องของพลังชิปประมวลผล คะแนนก็อยู่ในระดับสูงมากกก แตะ 1183 และ FPS 99.91  เลยทีเดียวแน่นอนว่าจากการทดสอบมันน่าประทับใจอย่างมาก ประมวลผลหนักๆได้แบบสบาย  และมาดูตัว R20 ที่ใช้งานโหดขึ้นไปอีกขั้นนั้นก็ทำได้ดีมากๆ คือ 2512 ถือว่าสูงเอาเรื่องครับ วัดความร้อนนั้นประมาณ CPU 75 และ GPU 68  ไม่มีแอร์ และ ไม่มีพัดลมเปิดช่วยครับผม ถือว่าดีกว่าที่คิดจริงๆเรื่องความร้อนครับ และใช้งานได้ไวกว่าเดิมไปอีกด้วย SSD 512GB แบบ บอกเลยว่าทำได้ไวพอสมควร ทำงานเล่นเกมสบาย การอ่านที่ 1440 MB/s และเขียนที่ 977 MB/s และรองรับการใส่ HDD เพิ่มเข้ามาอีกด้วยครับ

SCREEN

รุ่นก่อนหน้า 144Hz แต่รุ่นนี้จัดเต็มความลื่นไหลที่ 240Ms และ รองรับ 3Ms เลยทีเดียวครับทำให้ค่อนข้างสบายตาและเวลาเล่นเกมนั้นไม่ปวดหัวหรือมึนเท่าไรไม่เจออาการภาพที่กระตุกอะไรเลยครับ ถ้าใครเล่นสาย FPS น่าจะเข้าใจกันดี ส่วนในเรื่องของความสว่างก็มามากกว่าเดิมและทำได้สู้แสงดีกว่าเดิมครับและสีที่แม่นยำกว่าเดเิมด้วยการรองรับ SRGB100% ที่ใกล้เคียงจอสำหรับทำงานขึ้นไปอีกด้วย และ ด้วยการที่เป็นจอด้านทำให้มันใช้งานได้ดีไม่เจอแสงสะท้อนหรือใช้งานข้างนอกก็ทำได้ดีครับ มาที่เรื่องของสีสันต่างๆนั้นสบายๆจอแบบ IPS FHD นั้นความแม่นยำของตัวสีและมุมมองนั้นทำได้ดีและจากที่ลองมันก็ เล่นเกมได้ ตัดต่อแต่งภาพได้ดีพอสมควรครับไม่มีปัญหาเลย คือเดี๋ยวนี้หน้าจอนั้นเป็นสายเกมแต่ทำมาเพื่อรองรับสายทำงานแต่งภาพตัดต่อ กราฟิคได้มากขึ้นเพราะมีหลายคนนั้นเอาไปใช้งานด้านนี้กันครับและทางค่ายก็เอาใจด้านนี้มากขึ้นหน้าจอเลยทำได้ดีคุณภาพแม่นยำมากขึ้นเรื่อยๆนั้นเองแหละ

การออกแบบตัวขอบจอทั้งหมดทำได้บางดูสวยงามบางลงเรื่อยๆเลยแหละ แต่ก็ต้องตัดกล้องหน้าไปและถือว่าเป็นการออกแบบที่ลงตัวเพราะต้องการขนาดที่เล็กลงในจอเท่าเดิมครับ ส่วนเรื่องถ้าเป็นแต่ก่อนนั้นมุมมองของจอจริงๆสายเกมจอนั้นอาจจะไม่ได้รองรับมุมมองกว้างเท่าพวกจอเทพๆที่เน้นทำงานกันเท่าไรอยู่แล้วอันนี้ต้องเข้าใจกันไว้ก่อนครับ แต่ตัวจอนี้นั้นเป็นจอแบบ IPS 240Hz ที่ดีมาๆคือมุมมอง พร้อมทำงานและรองรับได้ทุกมุมมอง คือมันเป็นจอเกมที่ดีที่สุดแล้วก็ว่าได้ทั้งรองรับมุมมองที่กว้าง Refreshrate 240Hz และ จากที่ได้ลองสีนั้นค่อนข้างตรงและใช้งานทำงานตัดต่อได้สบายมากๆครับ และ เอียงๆยังไงก็ไม่เจออาการเพี้ยนอะไรของสีเลยครับดีกว่ารุ่นก่อนหน้านี้ชัดเจน

TOUCHPAD+NUMPAD 

แน่นอนว่าการเอาเทคโนโลยีเข้ามาในส่วนของ NumberPad ที่รวมกับ Touchpad เข้าด้วยกันนั้นเป็นจุดที่ตอบโจทย์คนใช้งาน 15.6 นิ้ว แต่สายเกมกำลังดีเพราะบางรุ่นนั้นจะตัดออกไป ถ้าขยายตัว คีย์บอร์ดและวาง Layout แบบตัวนี้ครับ แน่นอนว่าด้วยความต้องการขนาดที่เล็กลงทำให้ Numpad ชอบถูกตัดไปกัน แต่ในรุ่นนี้แก้ปัญหาโดยเอามาใส่ไว้ข้างล่างตรง  Touchpad แทนต้องปรับตัวกันพอสมควรนะ ซึ่งเอาจริงๆในด้านการใช้งานตัวทัชแพดนั้นตัวนี้เป็นสายเกม อาจจะไม่ค่อยได้ใช้ตัวเลขเท่าไร และในส่วนของการคลิกซ้ายขวา นั้นแยกออกมาเป็นปุ่มให้กดใช้งานได้ง่ายและมีระยะการกดที่ลึกกำลังดี และแน่นดูแข็งแรง รวมๆในการใช้งานตัวปุ่มนั้นรองรับทำได้ดีรวมถึงการสัมผัสหรือการกดคลิกซ้ายขวาต่างๆครับ ระบบเป็นตัว Presicion นะครับเช่นเดิมเลย ปุ่มการใช้งานทัชอะไรปกติดีครับ เปิดใช้งานตัวเลข โดยการกดมุมขวาบนค้างไว้ ตัวเลขก็จะขึ้น และแค่แตะเบาๆสัมผัสก็กดเลขได้ปกติเลยง่ายๆครับ และ เวลาเปิดตัวเลขก็ยังใช้เป็นเมาส์ได้ปกติครับไม่ต้องมาสลับตัวเลขไปมาๆอันนี้สะดวกดีแต่ต้องระวังตอนพิมพ์จะไปโดนได้ง่ายถ้าเราเปิดตัวเลข Numpad ไว้ครับ จากที่ลองถ้าเปิดค้างไว้ส่วนใหญ่นั้นจะไปโดนได้ง่ายมากๆเลย

ทัชแพดมีรูปทรงและขนาดที่ใหญ่ใช้งานทั่วไปได้ดีขึ้นเยอะมาก เนื่องด้วยการรองรับการใช้ Numpad เลยทำให้ต้องมีขนาดที่ใหญ่กว่าเดิมซึ่งถือว่าขนาดกำลังดีต่อการใช้งานโทนสีดำทั้งหมดเข้ากับตัวเครื่อง รองรับการทัชได้หลายๆจุดทั้งใช้งานแบบ Multi touch หรือพวก Smart Gesture ที่สามารถใช้งานควบคู่กับ Windows 10  สามนิ้วก็รองรับได้สบายเวลาเลื่อนสลับแอพก็รองรับการทำงานได้ดีครับผม และ เลื่อนนิ้วปกติตอบสนองได้ดี ลื่นไม่หนืดนิ้วครับ ส่วนทางด้านปุ่มก็น้ำหนักการกดไม่เจอปัญหาในการใช้งานอะไรครับทั้งซ้ายและขวาแต่เป็นทรงเหลี่ยมๆธรรมดาครับ

KEYBOARD 

คีย์บอร์ดในครั้งนี้มีการเปลี่ยนแปลงการออกแบบค่อนข้างเยอะทั้งตัวปุ่มและตัวไฟ ครั้งนี้มาพร้อมกับ AuraRGB และเป็นแบบ PerKey RGB แล้วนั้นเอง จริงๆการออกแบบแอบชอบตัวก่อนหน้ามากกว่าการที่เน้นสีใสเป็นปุ่ม WASD อะไรพวกนั้นดูน่าสนใจและสวยงามรวมถึงการทำปุ่มรอบๆนั้นเป็นแบบใส แต่มาครั้งนี้เป็นปุ่มแบบปกติทั่วไปแล้วนั้นเองแต่การเว้นระยะ การสัมผัสอะไรนั้นจะคล้ายๆเดิมครับแตกต่างกันที่ดีไซน์มากกว่าตัวปุ่มครั้งนี้สามารถปรับแสงสีอะไรได้เยอะกว่าเดิมเยอะมากครับ เนื่องด้วยที่มันเป็น PerKey RGB นั้นแหละ ส่วนปุ่มการวางตำแหน่งต่างๆของปุ่มพิเศษ ปุ่มเปิดปิดเครื่องยังคงคล้ายๆของเดิม แต่มีการเปลี่ยนลักษณะปุ่มแบบใหม่ทั้งหมดครับ และ NumberPad ก็ใส่เข้ามาให้ด้วยนะแต่เป็นแบบ สัมผัสตรง Touchpad นั้นเองสามารถเปิดปิดใช้งานได้ง่ายๆเลย

ซึ่งระยะของปุ่มนั้นลงไประยะที่ 1.8 มิลลิเมตร และปุ่มนั้นไม่ใช่แค่เรียบๆแต่มีการออกแบบให้โค้งรับกับนิ้วของเราที่  0.25 มิลลิเมตร และยังมีตัวช่วยในด้านเทคโนโลยีต่างๆแบบ OverStroke เพื่อการกดรัวที่ดียิ่งขึ้นด้วยปุ่ม N-key rollover & anti-ghosting ทาง ROG มีการบอกอายุว่าใช้งานประมาณ 20 ล้านครั้ง  และ รวมถึงสามารถมีฟังก์ชันเพิ่มลดเสียง เปิด-ปิดไมค์ และ Gaming Center อยู่ด้านบน ทำให้ใช้งานง่ายและสะดวก ยิ่งตัวปิดไมค์นั้นทำให้เวลาเล่นเกม หรือ สตรีมเกมนั้นปิดได้ไวเวลาไม่ได้ต้องการหรือคุยนอกเกมเป็นต้นครับอันนี้ชอบมากๆเลย

 ROG  KEYSTONE 

เป็นอีก 1  จุดที่เป็นอะไรที่ค่อนข้างแปลกใหม่สำหรับตัวนี้แน่นอนว่ามันเอาแนวคิดมาจากกุญแจรถยนต์ต่างๆแน่นอนว่าอาจจะได้แนวคิดที่ร่วมงานกับ BMW ด้วยนั้นเองครับ หลักการตัวนี้มันเปรียบเสมือนกุญแจ ที่จะเราเสียบเข้าไปแล้วมันจะปรับแต่งตั้งค่าแบบที่เราตั้งไว้ของส่วนตัวเรา หรือจะเป็นการตั้งไฟล์ลับ Drive  ลับที่ต้องมีกุญแจเท่านั้นจึงจะเข้าได้ และ มีแค่เราคนเดียวที่ดูได้แน่นอนว่าไว้เก็บหนัง ข้อมูล ไฟล์เพลงต่างๆได้ที่สำคัญและไม่อยากให้คนอื่นเข้าได้ครับ ถือว่าเป็นแนวคิดที่ดีมากๆ และยังรวมคถึงจดจำการตั้งค่าตัวไฟ ตัวโปรแกรม ทั้งหมดของตัวเครื่องด้วยนั้นเอง

ตัวกุญแจนั้นสามารถเสียบแปะเข้าไปเลยทำงานด้วยระบบ  NFC  ครับทำให้เวลาเสียบเข้าไปตัวเครื่องก็จะรับข้อมูลทันทีและเป็นแม่เหล็กนิดหน่อย เมื่อเสียบเข้าไปตัวไฟจะติดตรงกุญแจ อย่างสวยเลยแหละ และตัวเครื่องจะมีเสียง และ ไฟวิ่งค่อนข้างสวยครับแนะนำให้ลองเสียบกับดู และมันจะเปิดตัว  Shadow Drive ขึ้นมาไฟล์ลับนั้นแหละครับ และจะเปิดโปรแกรม Armoury Crete ขึ้นมาด้วยนั้นเองครับ ถือว่าเป็นแนวคิดที่ดีและใช้งานได้จริงครับ แต่หวังว่าอนาคตคงพัฒนาอะไรที่มันมากกว่านี้ และต่อยอดไปอีกได้ครับทั้งเรืองกุญแจและฟีเจอร์ทั้งหลายที่มากกว่าเดิมไปอีก

AURA RGB STRIP

ตัวแถบไฟนั้นมีการเพิ่มจากรุ่นก่อนหน้านี้มาเยอะมากและมีความสว่างและสวยงามขึ้นครับไฟต่อเนื่องทั้งแถบรอบเครื่องยกเว้นด้านหลังเป็นการพัฒนาต่อยอดจากรุ่นก่อนที่เป็นแถบด้านหน้าแน่นอนว่าการทำไฟให้มันรอบเครื่องต้องเนียนสวยและทำงานดีๆเป็นอีกส่วนที่ยาก และ ในรุ่นนี้นั้นก็ทำได้ดีนะตัวไฟนั้นมีการทำมุมและต่อเส้นหลอดไฟให้มันต่อเนื่องขึ้นและเล่นกับแสงสี Effect ซิงค์กันได้ค่อนข้างดีและไล่สีได้สวย แน่นอนว่าอาจจะไม่ได้เนียนเป๊ะมาก  แต่เมื่อนับว่ามันอยู่ใน Notebook แน่นอนว่าการทำไฟแบบนี้ค่อนข้างยากกว่าทั่วไปแน่นอนครับ ส่วนการปรับแต่งไฟใต้เครื่องนั้นต้องบอกว่าปรับไม่ได้ครับ มันจะปรับตาม  Effect  หลักเท่านั้นจะไม่สามารถปรับแต่งแยกเป็นส่วนๆได้

SPEAKER 

ตัวเครื่องรุ่นนี้มาพร้อมกับระบบเสียงที่ค่อนข้างมีมิติและเสียงดังใช้ได้เลยแหละ เสียงจะส่งออกมาข้างๆเครื่องผ่านทางช่องลำโพงซ้ายและขวา แน่นอนว่ารุ่นนี้มี Smart Amp เข้ามาช่วยด้วย จากที่ลองนั้นต้องบอกว่าเสียงที่ได้มีมิติใช้ได้ และมีความดังที่มากพอสมควร แน่นอนว่าขอบเขตเสียงนั้นทำได้กว้างและเสียงมาครบในหลายๆย่านทั้ง เสียงเบส และเสียงแหลม เสียงคนพูดอะไรแบบนี้ค่อนข้างชัด แน่นอนว่ารุ่นนี้มี ซัฟวูฟเฟอร์มาให้ด้วย แต่เสียงเบสนั้นอาจจะไม่ได้สั่นสะใจอะไรมากนักครับในจุดนี้ แต่ชอบที่ความดังของเสียงนั้นทำได้ดีและมีความดังมากพอสมควรครับ ขาดแต่เสียงย่านต่ำที่อาจจะไม่ได้แน่นสะใจอะไรมากนักในจุดนี้ แต่เรื่องคุณภาพโดยรวมถือว่าดีกว่าตัวอื่นๆในสายเกมแน่นอน

CONNECTOR 

ทางด้านพอร์ตการเชื่อมต่อนั้นในรุ่นนี้จัดมาให้ค่อนข้างครบและในการใส่พอร์ตมาด้านหลังเครื่องนั้นทำให้สะดวกต่อการใช้งานอะไรหลายๆอย่างมากขึ้นและไม่เกะกะครับ ในด้านหลังนั้นเป็นพอร์ตสำหรับ ใช้สาย LAN – HDMI – USB-C  และ ช่องสำหรับจ่ายไฟเข้านั้นเองส่วนใหญ่จะเป็นพอร์ตที่ไม่ได้ใช้งานบ่อยมากนักและการย้ายไปข้างหลังทำให้สะดวกและไม่เกะกะด้านข้างเท่าไร แต่จริงๆใส่ USB-A มาให้อีกช่องนั้นจะกำลังดีเลยแหละ

มาที่ด้านขวากันบ้างด้านนี้ไม่มีช่องเชื่อมต่ออะไรทั้งนั้นเป็นที่อยู่ของ ลำโพงในส่วนด้านหน้าและ ช่องเสียบ ROG KeyStone  ครับ และที่เห็นแดงๆนั้นจะเป็นช่องสำหรับระบายลมร้อนออกมานั้นเอง เสียดายด้านนี้จริงๆน่าจะมีพอร์ตอะไรมาให้หน่อย หรือจะใส่พวก SD-Card  หรือ พอร์ต  USB-A  สำหรับเสียบใช้งานเมาส์ก็น่าจะดีเหมือนกันนะ

มาที่ด้านซ้ายของตัวเครื่อง นั้นจะเป็นพอร์ต  USB-A 3.0 ทั้งหมด 3 ช่องเลยทีเดียวและ รูไมค์+หูฟัง ในช่องเดียวกันครับ และ จะเห็นช่องลำโพงของตัวเครื่องในด้านซ้าย และ แถบไฟที่ยาวตลอดแนวครับ แต่อย่างที่บอกพอร์ตที่ขาดหายไปนั้นคือพวก Micro-SD หรือ SD Card นั้นเองจริงๆแอบน่าเสียดายเพราะบางทีเรายังได้ใช้งานในการย้ายข้อมูล รูปภาพอะไรในการใช้งานหลายๆนั้นเองครับ

ARMOURY CRATE

Armoury Crate   นั้นเราสามารถปรับแต่งได้ทั้งหมดเลยไม่ว่าจะเป็นการปรับแต่งไฟ AURA Sync ที่ทั้งตัวคีย์บอร์ด แต่ในส่วนของแถบไฟรอบตัวเครื่องนั้นไม่สามารถปรับได้นะครับ และ ยังสามารถปรับแต่งในส่วนของ ROG Keystone ด้วยนั้นเองครับ การแสดงผลต่างๆหรือซิงค์กับตัวอื่นๆนั้นเอง และพวก Profile ก็มีให้ปรับได้ค่อนข้างเยอะครับ หรือจะเป็นการตั้งค่าแอพเกม ที่จะปรับตามแอพที่เราเลือกเปิดไว้ได้ก็เช่นเดียวกันครับ และตัวนี้นั้นยังมี Mobile Dashboard รองรับกับ Android และ iOS ที่สามารถดูจากมือถือเราได้เลยครับผม

ในส่วนของการปรับแต่งไฟเนื่องจากเป็น RGB Perkey ทำให้ปรับแต่งค่าต่างๆได้เยอะขึ้นและหลากหลายมากขึ้นเยอะครับ สามารถปรับแต่งได้ดีมากๆ 13 แบบและสามารถปรับสีและรวมถึง ทิศทาง  Effect ต่างได้ค่อนข้างเยอะ แม้จะไม่สามารถปรับละเอียดเป็นปุ่มๆได้ แต่ก็ถือว่าปรับแต่งได้หลากหลายกว่าเดิมเยอะเลยแหละครับ ส่วนเรื่องของ ROG Keystone นั้นก็เมื่อเสียบไปก็จะสามารถตั้งค่าว่าจะให้มีไฟตอนเสียบ หรือ เปิดโปรแกรมอะไรไหมนั้นเองครับ

ฟีเจอร์ทั้งหลายนั้นรองรับการทำงานหลากหลายครับ ทั้งเรื่องของการปรับแต่งการใช้งาน ดูสถานะ อุณหภูมิ พัดลมต่างๆสถานะการใช้งาน CPU -GPU  รวมถึงสามารถโหลดแอพอื่นๆเพิ่มเติมได้ค่อนข้างเยอะมากครับและมี XSplit มาให้ด้วยในตัวเลยแหละ และยังมีแอพอื่นๆที่เราสามารถโหลดได้ ทั้งบอกทิศทางเสียงต่างๆ ปรับโปรไฟล์สีหน้าจอ รวมไปตัวซอฟต์แวร์ยังสามารถสั่งปิดเปิดปุ่ม Windows, ROG และทัชแพดได้ขณะเล่นเกมด้วยอีกด้วยพวกนี้สามารถตั้งค่าปรับอะไรได้ทั้งหมด และในเรื่องของระบบจะสามารถปรับตั้งค่าได้ว่า มีไฟตอนเปิด หรือ  Sleep ไหม

GAMING 

ที่ลองนั้นในสภาพอากาศที่ไม่ได้เปิดพัดลม ไม่ได้เปิดแอร์ ซึ่งทำให้ได้อุณหภูมิจริงๆในการใช้งานเลยแหละครับสภาพอากาศจริง ซึ่งก็ได้ทำการทดสอบในหลายๆเกมทั้งกราฟิคที่ไม่ได้สวยงามกินสเปค ไปยันกินสเปคโหดๆ ซึ่งทางเราก็ได้เปิดภาพแบบสูงสุด รวมถึง เปิด Monitor FPS /Temp ไว้ตลอดเลยเล่นต่อเนื่องยาวๆครับในแต่ละเกม ซึ่งในรุ่นนี้ปุ่มอะไรพวกนั้นเวลาเล่นเกมรองรับได้ค่อนข้างดี คือตัวแป้นพิมพ์นั้นเล่นได้ง่ายมีที่วางมือและไม่ร้อน เราสามารถวางมือบนตัวคอมพิวเตอร์ได้เลยครับ จัดการความร้อนได้ดีมาตลอดในด้านตรงที่วางมือ และรุ่นนี้ก็มีระบบระบายความร้อนแบบใหม่เข้ามาแน่นอนว่าช่วยได้เยอะ ดูดลมเข้าได้เยอะเลยแหละเรามาดูกันในหลายๆเกมว่าจะเป็นยังไงกันบ้าง

จากหลายๆเกมที่แอดมินได้ลองนั้น FPS ทำได้สูงจริงๆครับ ส่วนเรื่องความร้อนในสภาพอากาศปกติไม่ได้เปิดแอร์ หรือ เปิดพัดลมอะไรนั้นทำได้ที่ GPU 81 CPU 93 โดยประมาณครับ ถือว่าอยู่ในระดับที่รับได้ครับ เพราะเมื่อใช้งานในห้องแอร์ก็ไม่เจอแตะ 90 เท่าไรครับผม และทุกเกมนั้นเราปรับภาพสูงสุด และ ได้มีการลอง Live Streaming แคสเกมกันด้วยในบางเกมและประสิทธิภาพนั้นไม่ได้แตกต่างกันเลยแหละและยังจัดการได้ดีมากๆครับ  ส่วนในเกมอื่นๆเช่นพวก Callofduty BlackOps 4  ตัวภาพปรับสูงสุดนั้นทำได้ดีมากๆ FPS 93 และ GPU 79 CPU 90 ครับผมโดยแต่ละเกมที่ทดสอบนั้นเล่นมานานมากสมควรนะครับ และทางด้านเกม อย่าง Overwatch นั้น ทำไปได้ FPS 68 อุณหภูมินั้น GPU 78 CPU 86  อันนี้ปรับภาพสูงสุดและ แคสเกมไปด้วยผ่าน OBS นะครับผม  APEX นั้นก็ทำได้ลื่นไหลครับปรับภาพแบบโหดๆ FPS 107 GPU 82 CPU 91  และรวมไปถึงเกม PUBG  ได้ FPS 91 GPU 81 CPU 94  และ สุดท้ายนั้นเป็นเกม  Monster Hunter  ปรับสูงสุด ก็รับไปได้ FPS 68 GPU 82 CPU 92 อันนี้ก็แคสไปด้วยนะครับ ซึ่งจริงๆแล้วถ้าใครชอบลื่นๆนั้นปรับภาพต่ำลงมา และ เพิ่ม RAM  ก็จะสามารถรันได้  140+ 200 FPS ได้สบายๆครับ หน้าจอรองรับอยู่แล้ว โดยรวมแล้วมีการจัดการอุณหภูมิดีมากนะจากที่ทดสอบ สภาพอากาศทั่วไป เสียงพัดลมก็ดังตามปกติครับผม แต่ก็ปรับได้ตามการใช้งานเลย ซึ่งจะเน้นแรงดัง แต่เพื่อรักษาความร้อนโดยรวมนั้นก็สมควรที่จะเปิดแรงๆไว้ก่อนครับ และถ้าเปิด  TURBO นั้นจะช่วยในเรื่องนี้ได้ดีมากๆครับเพราะมันจะ  Overclock GPU  ขึ้นไปอีกด้วยเป็นฟีเจอร์ของทาง ROG

WORKING

อย่างที่เคยบอกกันไปว่าทาง ROG เองก็เคยมีผลสำรวจเหมือนกันว่าคนที่ซื้อไปก็เอาไปทำงานกราฟิคตัดต่ออะไรกันมากกว่าที่คิด และในตระกูล ROG นี่เองก็ถือว่าเป็นรุ่นที่ทำงานในด้านนี้ได้ดีไม่แพ้กันเลย และยิ่งในรุ่นนี้นั้นใช้หน้าจอที่ดีขึ้นกว่าเดิม การรองรับสี  SRGB100% และเป็นหน้าจอแบบ IPS ที่เด่นในเรื่องมุมมองและความแม่นยำสีที่ดีกว่าเดิมและรวมถึงสเปคที่รองรับการเรนเดอร์ทำงานที่ดีกว่า ด้วยการใช้  i7 Gen 9  ตัวล่าสุด โดยเฉพาะในส่วนเรื่องประสิทธิภาพนั้นไม่ต้องห่วงจากที่ได้ลองทั้งตัดต่อ แต่งภาพ เรนเดอร์งานวีดีโอ หรือ โมเดลต่างๆนั้นทำความร้อนได้ค่อนข้างดี และควบคุมอุณหภูมิโดยรวมและภายนอกได้ดีมากๆเนื่องจากรุ่นนี้มีการพัฒนาระบบระบายความร้อนที่ดีขึ้น

 BATTERY

เอาจริงๆในการทำงานอายุแบตก็ทำได้ค่อนข้างประทับใจกว่าหลายๆตัวที่ออกมาก่อนหน้านี้ แบตอยู่ได้  4  ชั่วโมงในการใช้งานทั่วไป ตัดต่อภาพ เขียนข่าวพวกนี้แต่ถ้าเมื่อไรที่เราเอามาทำงานหนักๆ เล่นเกมแบตจะลดลงอย่างไวด้วยการที่ประสิทธิภาพนั้นค่อนข้างแรงมากๆทำให้แบตมึนไม่ได้อึดเหมือนตัว Zephyrus G อะไรพวกนั้นที่จะเน้นเรื่องการพกพาและแบตที่มากกว่า แนวคิดคนละแบบกันครับเพราะตัว HEROO III จะเน้นใช้งานเล่นเกมเสียบอยู่กับที่มากกว่าการพกพาและด้วยน้ำหนักตัวเครื่องทั้งหลายก็อาจจะไม่ได้เหมาะแก่การเน้นการพกพาเท่าไรด้วยนั้นเองครับ 

ROG STRIX HERO III G531GW

“สำหรับสายเกมตัวจริง ไฟรอบเครื่องโดดเด่นสุดๆ และหน้าจอที่โหดขึ้นมาก”

เป็นรุ่นที่ต้องบอกว่าดีไซน์มันโดดเด่นจริงๆเห็นครั้งแรกก็ชอบเลยสำหรับผมคือด้วยส่วนตัวเป็นคนชอบพวกไฟสวยๆอยู่แล้ว รุ่นไหนไฟเยอะๆนี่จัดเต็มชอบเลยแหละ และรุ่นนี้มันก็ตอบโจทย์อย่างมากไฟทั้งรอบเครื่อง บนแป้น และด้านหลังนั้นให้มาครบๆและ  Effect  สวยงามเป็นจุดหลักๆที่จะมองรุ่นนี้ ส่วนเรื่องประสิทธิภาพนั้นไม่ต้องห่วงเพราะว่ามันสบายๆครับทั้ง  i7 RTX 2070 – SSD  และมาพร้อมกับหน้าจอลื่นๆ 240hz 3MS IPS FHD  อีกด้วยเรียกได้ว่าเรื่องสเปคไม่ต้องไปดูอะไรเยอะแค่เพิ่ม RAM เข้าไปนั้นจะช่วยได้ดีมากๆจะเร่งได้เต็มที่ และยังมีฟีเจอร์ใหม่ๆทั้งตัว  ROG Keystone และ การออกแบบระบายความร้อน การดูดลมเข้ามาแบบใหม่ที่ทำได้ดีขึ้นเยอะ อีกทั้งยังโดดเด่นเรื่องของการออกแบบทั้งหลาย วัสดุ รวมถึง  Number Pad แบบใหม่ในรุ่นนี้ก็น่าใช้งานครับแต่อาจจะต้องปรับตัวกันหน่อย ถือว่ามันเป็นอะไรที่ลงตัวหาข้อติได้ยากนะ แต่ก็มีจุดขัดใจเล็กๆที่มันไม่มีพวก  SD Card  อะไรให้เสียบเลยรวมถึง RAM 8 GB จริงๆแอบน้อยไปหน่อย และในเรื่องของ Thunderbolt 3 ก็ยังไม่มีมาให้ด้วย และตัดกล้องหน้าออกไปจริงๆใส่เข้ามาด้านล่างก็ได้นะเพราะพื้นที่เหลือๆครับ แอบเสียบดายไปนิดหน่อยแม้จะมีคนใช้น้อยก็ตาม

ข้อดี

  • หน้าจอที่ดีมากๆ  240hz IPS 3MS FHD ทั้งทำงานและเล่นเกมสบาย
  • วัสดุ งานประกอบ และ การออกแบบไว้ใจได้เหมือนเดิม
  • ประสิทธิภาพรวมๆนั้นทำได้ดีแรง เล่นเเกม ปรับภาพสุดสบาย
  • ROG Keystone เป็นแนวคิดที่แปลกใหม่
  • ไฟรอบตัวเครื่องสวยงามและโดดเด่นมากๆ
  • ระบบระบายความร้อนทำได้ดีและออกแบบใหม่
  • ลำโพงคู่เสียงดังมีมิติมาก
  • Numpad  แบบใหม่มีให้ใช้งานไม่ได้ตัดไปไหน
  • ประกัน 2 ปี ส่งผ่าน 7-11 ปีแรก มีประกับอุบัติเหตุ Perfect Warranty
  • รองรับการอัพเกรดทั้ง  RAM – SSD – HDD

ข้อสังเกต

  • ไม่มีช่อง SD Card หรือ Micro SD มาให้เลย
  • ไม่มีกล้องหน้ามาให้แล้ว
  • ตัวเครื่อง ไม่มีพอร์ต Thunderbolt 3 มาให้เลย
  • RAM 8GB ทำให้ RTX 2070 ไม่ได้เต็มที่เท่าที่ควรแนะนำเพิ่ม  RAM หรืออัพสเปค SSD

สำหรับรีวิวนี้ผมก็ต้องขอตัวลาไปก่อนสำหรับรุ่นอื่นๆก็ติดตามกันได้เลย ถูกใจฝากกดไลค์กดแชร์ด้วยนะครับ  มีข้อผิดพลาดประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ  เพื่อนๆสนใจอยากให้พวกผมรีวิวรุ่นไหนสามารถ Inbox มาบอกเราได้เลยนะ
ฝากไลค์เพจ FACEBOOK เราด้วยนะครับ >>>>>>>>>  TECHHANGOUT

เข้าร่วมกลุ่ม TECHHANGOUT พูดคุยแลกเปลี่ยน ข้อมูล คุยกันเองชิลๆได้เลยที่ — Facebook  Techhangout พูดคุย Smartphone gadget 

Review by Nineztr 

 

Comments กันได้เลย !

Comments

0 Shares