realme ได้เปิดตัว realmebook เป็นตัวแรกของบริษัท และเป็นตัวแรกใน BBK ด้วยเช่นกันซึ่งต้องบอกเลยว่าในยุคนี้หลายๆค่ายมือถือพยายามลุยตลาดสินค้าที่หลากหลายมากขึ้นและ realme ถือว่าเป็น 1 ในแบรนด์ที่กล้าที่จะลุย กล้าที่จะแตกต่างและยิ่งในไทยที่หลายๆค่ายอาจจะไม่ได้เข้ามาขายอะไรครบมากนัก แต่ในแบรนด์นี้ถือว่ากล้าลุยตลาดๆในหลายๆอย่างไม่ว่าจะเป็นคอมพิวเตอร์ หรือแม้แต่บรรดา AIOT ต่างๆทั้ง เครื่องดูดฝุ่น หูฟัง หรือแม้แต่ทีวี และ รวมไปถึงหลอดไฟเรียกได้ว่าลุยครบทุกอย่างไม่แพ้กับในตลาดโลก ซึ่งล่าสุดเองนี้ก็ได้เปิดตัว Notebook รุ่นล่าสุด ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีที่น่าสนใจ และสเปกที่จัดเต็มในราคาที่จับต้องได้ด้วยเช่นกันและบอกเลยว่าทำได้ดี

realme Book มาพร้อมหน้าจอ IPS เพียง 14 นิ้วที่มีความละเอียด 2K ใช้กระจก Corilla Glass ตัวเครื่องทำจากโลหะและมีขอบหน้าจอบาง 5.3 มม.ภายในตัวเครื่องใช้ซีพียู Intel Gen11th Core i3 หรือ i5 ที่ใช้การ์ดจอ Intel UHD หรือ Iris Xe ในตัวรีวิวจะใช้งาน i5 1135G7 Tiger Lake 10 นาโนเมตร SuperFin 4 Core / 8 Thread ความเร็ว 2.40 – 4.20 GHz  TDP ที่ 15Watt พร้อม การ์ดจอบนชิปเป็น Intel Iris Xe Graphics และมาพร้อมพัดลมระบายความร้อน 2 ตัว ที่มาพร้อม RAM 8GB และ SSD NVMe สูงสุด 512GB  ตัวเครื่องของ realme Book มีความหนาเพียง 14.9มม. และมีน้ำหนัก 1.38 กก. มาพร้อม PC Connect ที่สามารถเชื่อมต่อระบบ Windows และ Android ได้ นอกจากนี้ตัวเครื่องมาพร้อมพอร์ต Thunderbolt 4 (ในรุ่น Core i5) และการเชื่อมต่อ Wi-Fi 6 ความเร็วสูง (ในรุ่น Core i5) รวมทั้งมาพร้อมลำโพง HARMAN 2 ตัวที่รองรับระบบเสียง stereo ที่ถูกปรับแต่งโดย DTS แบตเตอรี่มีขนาด 54Wh ที่สามารถใช้งานแบบธรรมดาติดต่อกัน 11 ชั่วโมง และรองรับชาร์จเร็ว 65W ผ่าน USB-C ที่สามารถชาร์จแบต 0-50% ได้ในเวลา 30 นาที รวมทั้งใช้งานร่วมกับการชาร์จเร็ว Dart Charge 30W ของ realme ได้ ถือว่าทำภาพรวมของสเปกนั้นได้น่าสนใจอย่างมาก และ มีการออกแบบที่บางเบารวมถึงการใช้งานวัสดุต่างๆที่น่าสนใจในรุ่นนี้เป็นการลุยตลาดครั้งแรกแต่ทำภาพรวมของสเปกออกมาได้ดีกว่าที่คาดคิดไว้รวมถึงทางด้านราคาในรุ่นเริ่มต้นเองก็ทำให้จับต้องง่าย และ มาพร้อมเทคโนโลยีใหม่ๆทั้งหมด

PRICE

realme Book เปิดตัวมาพร้อมกับราคา 2 รุ่นย่อย มาพร้อมกับ intel Gen 11 ทั้ง i3 และ i5 และแตกต่างกันในเรื่องของความจุตัวเครื่องบางส่วน ทางด้าน i3 จะมาพร้อมกับ ราคา 22,990 บาท และ i5 จะอยู่ที่ 27,990 บาท

UNBOX

ตัวกล่องนั้นดีไซน์เรียบสวยงาม มาในโทนสีขาวและมีรูปตัวเครื่องโชว์สวยงาม และมาพร้อมกีบการออกแบบที่แตกต่างกับบรรดากล่องมือถือของค่ายชัดเจนครับ รวมถึงทางด้านอุปกรณ์ในกล่องเองนั้นใส่เข้ามาพร้อมใช้งานมาตรฐาน

  • ตัวเครื่อง realme Book
  • คู่มือการใช้งาน
  • สาย USB-C TO USB-C
  • ADAPTOR USB-C 65W

DESIGN

งานออกแบบจริงๆต้องแอบบอกเลยว่ามันมีความคล้ายกับบางค่ายที่เราคงคุ้นเคยกันดีแหละ และในตลาดคอมพิวเตอร์จริงๆดีไซน์ในแง่ของตัว Ultrabook คงไม่ได้หนีไปจากนี้ได้มากเท่าไรถ้าเน้นในแง่ความเรียบง่าย ดีไซน์ก็น่าจะออกมาประมาณนี้ แต่ทาง realme เองก็พยายามให้มีความต่างในเรื่องของสีสัน ในรุ่นที่เรารีวิวจะเป็นสี realblue โทนออกน้ำเงินฟ้าซึ่งสร้างความแตกต่างได้อยู่บ้าง รวมถึงการใส่สแกนนิ้วมาให้ตรงปุ่มเปิดปิดด้วยเช่นกัน แน่นอนว่าในเรื่องของน้ำหนักนั้นจะอยู่ที่ 1.38 กรัม และ ความบางของตัวเครื่องเองนั้นอยู่ที่ 14.9 มม. ถือว่ากำลังพกพาได้ และวัสดุตัวเครื่องอลูมิเนียมทั้งหมด งานประกอบทำได้แน่นหนา มีความแข็งแรงซึ่งถือว่าทำได้ดีกว่าที่คิดไว้มาก

เมื่อมองภาพรวมตัวเครื่องเองนั้นโทนสีถือว่าสวยและโดดเด่นซึ่งในภาพตอนแรกที่เห็นนั้นแอบคิดว่าสีจะดูไม่สวยแต่ของจริงนั้นโทนสีออกฟ้าเข้มๆดูหรูหรา ไม่สดจนเกินไปซึ่งส่วนตัวชอบโทนสีนี้มาก และมาพร้อมโลโก้ด้านหลังเรียบง่ายสลักลงไปพร้อมกับสีโครเมียมเล่นกับแสงได้นิดหน่อยแต่ฝาหลังจะไม่มีเล่นลวดลายอะไรครับเรียบๆทั้งหมดเป็นวัสดุเดียวกันทั้งตัวเครื่อง และเมื่อเปิดมาด้านในเราจะเห็นหน้าจอเต็มในอัตราส่วนที่ 3:2 ที่จะสูงกว่าทั่วไปและขอบจอบาง รวมถึงใช้งานโทนสีดำรอบๆขอบหน้าจอและปุ่มทั้งหมดเป็นโทนสีดำสวยงามและมีไฟสีขาวให้ใช้งานถือว่าดีมาก และที่โดดเด่นมากๆคือเรื่องของ TOUCHPAD ที่ใหญ่สะใจเมื่อเทียบกับขนาดตัวเครื่อง ไม่มีสติกเกอร์ intel อะไรใส่เข้ามาด้านบนเลยทำให้ตัวเครื่องเรียบ หรู และดูดี เพราะได้ย้ายโลโก้อะไรทั้งหมดไปในใต้ตัวเครื่องทั้งหมด

ขอบหน้าจอถือว่าทำได้บางมากทำให้สัดส่วนต่อตัวเครื่องมากถึง  90 % และด้วยการออกแบบขอบข้างทั้งหมด 5.3 มม. เท่านั้น และขอบบนที่ 8.45 มม. ซึ่งนอกจากความสวยงามแล้วนั้นทำให้การใช้งานเต็มตา ตัวเครื่องเล็กลงด้วยเช่นกันซึ่งขอบด้านบนนั้นจะใส่เข้ามาให้ทั้งกล้องหน้า  ส่วนไมค์ ยังไม่ได้ตัดออกไปไหนนั้นเอง และในด้านล่างเราจะเห็นโลโก้ realme ในด้านในเรียบๆ ขอบจะหนากว่าเล็กน้อยเป็นปกติของ Notebook ข้อพับต่างๆนั้นเป็นแบบมาตรฐานแน่นหนา แต่น่าเสียดายว่าไม่สามารถเปิดมือเดียวได้ในการเปิดฝาตัวเครื่องครับแอบเสียดายนิดๆ และ ปุ่มเปิดปิด จะมาพร้อมกับการสแกนนิ้วมือรองรับการใช้งาน Windows Hello สบายๆในการเปิดตัวเครื่อง

ช่องระบายอากาศถือว่าสำคัญตัวนี้เห็นบางเล็กแบบนี้ แต่ใส่พัดลมข้างในมาให้ถึง 2 ตัว มีระบบระบายความร้อนที่ดีกว่าหลายๆตัวในเรทเดียวกัน หรือแม้แต่บางค่ายก็ไม่ใส่พัดลมอะไรมาให้เลยก็มี แต่ทางด้าน realme เองนั้นใส่เข้ามาให้ถึง 2 ตัว และมาพร้อม Heat Pipe 2 เส้นขนาดใหญ่ ทำให้ระบายความร้อนได้ดีกว่าที่คิดไว้มากเช่นกันซึ่งจะยิงออกทางด้านบนเครื่องส่วนใต้หน้าจอ และ ดูดอากาศจากข้างล่างช่องรับลมขนาดใหญ่ครับถือว่าเป็นมาตรฐานทั่วไปพร้อมมกับข้อพับที่สามารถกางหน้าจอได้เยอะมากๆแทบจะเรียบไปกับโต๊ะเลยทีเดียว  ยางรองแนวยาวมีเขียน Dare To Leap ใส่เข้ามาให้ พร้อมกับ ด้านหน้า 2 ตำแหน่ง และลำโพงคู่ HARMAN/KARDON ใส่เข้ามาด้วยครบๆ และในแง่ของการอัปเกรดเองนั้น RAM – SSD ถือว่าเป็นแบบ OnBoard ทั้งหมด แอบน่าเสียดายว่าเพิ่มเป็น 16GB ไม่ได้ครับแต่ก็เน้นใช้งานเบาๆได้สบายเช่นกัน เพราะว่าให้ Heat pipe 2 เส้นเยอะมาก

ในแง่ของความบางเบาลองเทียบกับมือถือ realme GT 5G บอกเลยว่ามีความบางมากๆเมื่อกางใช้งานส่วนฐานของตัวเครื่อง แต่ถ้าพับก็จะหนา 14.9 มม. เท่านั้นครับถือว่าอยู่ในระดับที่บางและพกพาได้ง่าย และตัวเครื่องขึ้นรูปอลูมิเนียมทั้งหมด ตัดCNCและทำสีอโดไนซ์ ถือว่าคุณภาพทั้งสีที่ใช้งาน  ส่วนงานประกอบแข็งแรงไว้ใจได้แน่นอน

SPEC 

  • หน้าจอ IPS ขนาด 14 นิ้ว (2,160×1,440พิกเซล) ความละเอียด 2K, ความสว่างสูงสุด 400nits, sRGB 100%, อัตราส่วน contrast ratio 1500:1
  • ซีพียู Intel Gen 11th i5-11300H (4.4GHz) ที่ใช้การ์ดจอ Intel Iris X-E / Intel Gen 11th i3-1115G4 3GHz ที่ใช้การ์ดจอ Intel UHD Graphics
  • RAM DDR4 4266MHz 8GB + SSD NVMe  256GB (ในรุ่น i3) / 512GB (ในรุ่น i5)
  • Windows 10 Home, อัปเกรดเป็น Windows 11 ได้; มาพร้อม MS Office 2019 (pre-loaded)
  • กล้อง webcam 720p
  • คีย์บอร์ด Backlit 3 ระดับ, 1.3mm key travel, X-shape Bracket, Smile Arc, 123.8 × 78.2mm trackpad, Supports Microsoft PTP Clickpad Technology
  • รองรับเครือข่าย Wi-Fi 6 (5 ในรุ่น i3) 802.11ac (2.4GHz และ 5GHz), Bluetooth 5.2 (5.1 ในรุ่น i3)
  • พอร์ตเชื่อมต่อ USB-C 3.2 × 2, USB-A 3.1, Thunderbolt 4/ USB 4 (ถ่ายโอนข้อมูลได้สูงสุด: 40 Gbps ในรุ่น i5 version)
  • ปุ่ม power สามารถสแกนลายนิ้วมือได้
  • ขนาดตัวเครื่อง: 307.21 ×228.96x 14.9~15.5มม.; น้ำหนัก : 1.38 กก.
  • รูแจ็ค 3.5mm สำหรับหูฟัง / ไมโครโฟน, ลำโพง HARMAN Speaker x 2, ระบบเสียง Stereo ที่ถูกจูนโดย DTS, มาพร้อม AI อัลกอริทึมตัดเสียงรบกวน (Vocplus)
  • แบตเตอรี่ 54Wh ที่ใช้งานได้ติดต่อกัน 11 ชั่วโมงในการเล่นวิดีโอธรรมดา, รองรับชาร์จเร็ว PD 65W ชาร์จได้ 50% ในเวลา 30 นาที, หัวชาร์จ 65W (สามารถใช้ร่วมกับ Dart Charge 30W)

PERFORMANCE

ประสิทธิภาพตัวเครื่องต้องบอกว่ารุ่นนี้ใช้งาน intel Gen 11 ตัวล่าสุด และสเปกที่แรงที่สุดที่ขายคือ intel Core i5-1135G7 ซึ่งจะเป็นเทคโนโลยี Tiger Lake 10 นาโนเมตร SuperFin ซึ่งจะประมวลผลแบบ 4 Core / 8 Thread วิ่งที่ 2.40 – 4.20 GHz สูงสุด  และค่า TDP ที่ 15Watt ซึ่งเป็นตัวล่าสุดของค่ายฟ้าตัวนี้แล้วในปีนี้ และมาพร้อมกับการ์ดจอ OnBoard Intel Iris Xe Graphics พร้อมใช้งานในตัวซึ่งจะดีกว่าตัว i3 ที่จะเป็นแค่ UHD เท่านั้น และมาพร้อมกับ RAM DDR4 4266MHz 8GB แบบ OnBoard ไม่สามารถอัปเกรดได้นะครับ และ ในเรื่องหน่วยความจุ SSD 512GB M.2 PCle ให้มาในการอ่านเขียนสูงมากๆ แต่ก็เป็นแบบ OnBoard เช่นกันครับไม่สามารถเปลี่ยนได้เช่นกัน ซึ่งถ้ามองในภาพรวมการอัปเกรดนั้นไม่รองรับ แต่เนื่องจากเป็น Ultrabook แบบนี้เป็นปกติซึ่งหลายๆค่ายเองก็จะไม่สามารถแกะหรือว่าอัปเกรดอะไรได้เลยนั้นเอง และมาพร้อม Windows 10 พร้อมรองรับการอัพเกรด Windows 11 ได้ทันทีเมื่อปล่อยใช้งานและ มี Microsoft Office 2019 Preload มาให้ครับ

PCMARK

คะแนนทำได้ 4634 ถือว่าตามระดับของ CPU เป็นการเรนเดอร์ในหลายๆอย่างที่เสมือนกับทำงานจริงๆในแง่ของการใช้งานทั้งหมดเวลาใช้งานคอมพิวเตอร์คะแนนเอาจริงๆถือว่าไม่แย่เลยนะถ้าเรามองในราคาแค่นี้ และทำคะแนนออกมาได้ประมาณนี้แน่นอนว่าดีกว่า CPU รุ่นก่อนเยอะ ทำให้ตัวนี้ถือว่าน่าพอใจครับ ทำงานทั่วไปสบายๆไม่ต้องกังวลอะไร และทำคะแนนรวมๆนั้นถือว่ารองรับการทำงานทั้งหมดได้หลากหลาย เต็มประสิทธิภาพกว่าแบบเดิมชัดเจน ทางด้านความร้อนนั้น CPU 58 และ GPU 57  สำหรับการทดสอบนี้ให้สภาพอากาศปกติถือว่าสบายครับ

3DMARK 

เราทดสอบแบบพื้นฐานกันในส่วนของ Night Raid / Wild Life / Wild Life Extream ถือว่าทำคะแนนได้ดีเอาเรื่องเลยคะแนนในส่วนของ Night Raid ตัวนี้ทำได้ 15,301 คะแนน การประมวลผลของรุ่นนี้ในแบบ 3 มิติ ทำได้ดีมากๆแม้จะไม่มีการ์ดจอแยกเข้ามาช่วย แต่ทำคะแนนได้เท่ากับพวก MX เลยและใช้งานได้ในแง่ของการเรนเดอร์พวก 3 มิติทั้งหลาย ถือว่าสบายๆไม่ต้องกังวลทำให้การทำงานต่างเรนเดอร์เริ่มต้นอะไรสบาย ส่วนเรื่องคะแนน Wild Life  นั้นแตะ 11,335ได้เลย Wild Life Extream แบบโหดๆไปที่ 3231 คะแนนครับก็ถือว่าเยอะสำหรับการ์ดจอออนบอร์ดแบบนี้นะ ความร้อนที่ทดสอบนั้น CPU 60 และ GPU 59 ครับสำหรับตัวนี้ บอกเลยว่าคุมความร้อนได้ดีมากๆ

CINEBENCH R15 R20 / CRYSTALDISKMARK 

ตัวนี้คะแนนวัดที่ CPU ล้วนๆเลยแหละทำไปได้  900 ทำได้ดีมาก ในตัว C15 อย่างที่บอกว่ารุ่นนี้คือมาแรงมาก พัฒนาขึ้นเยอะในคะแนนของตัว R20 ที่โหดกว่าเดิมนั้นทำไปได้  2007 cb ถือว่าคะแนนดีเลยแหละในแง่การประมวลผลของ CPU ดีกว่าเจนก่อนหน้าเยอะพอสมควรส่วนตัวนี้มาพร้อมกับ SSD ทำคะแนนการอ่านไปได้สูงและถือว่าเทียบกับการใช้งานถือว่าโหดมากๆ สามารถอ่านสูงถึง 2941 ส่วนเขียนที่ 1805 ครับจากทดลองหลายๆรอบให้มา 512GB  ถือว่าเพียงพอและความเร็วความจุนั้นสบายๆเหลือๆ และความเร็ว SSD Samsung ใช้งานได้สบาย

PC CONNECT

เป็นโปรแกรมที่เสริมเข้ามาในรุ่นนี้ซึ่งทำงานร่วมกันกับมือถือ realme รุ่นล่าสุดที่รองรับจะเป็น realme GT 5G , realme GT MasterEdition นั่นเองและรุ่นอื่นๆในอนาคตนั้น ซึ่งจะทำให้ มือถือ Android และ Windows นั้นเชื่อมต่อได้ง่ายและพิเศษมากขึ้นสามารถโอนย้ายไฟล์จากมือถือไปคอมพิวเตอร์ได้ทันทีแบบไม่ต้องเสียบสาย อีกทั้งยังสามารถโทรออก เข้าใช้งานมือถือได้จากคอมพิวเตอร์ทันที และสามารถโชว์หน้าจอมือถือบนคอมพิวเตอร์ได้ทันทีเลยนั้นเอง และการเซฟไฟล์งานต่างๆจากคอมพิวเตอร์สามารถทำงานต่อเนื่องไปบนมือถือได้แบบสะดวกมาก

SCREEN

หน้าจอ realmebook ถือว่าเป็นหน้าจอที่คุณภาพสูงมากๆตัวนึงในตลาดในระดับราคาเดียวกัน ตัวนี้มาพร้อมกับหน้าจอที่ใช้งานอัตราส่วนหน้าจอแบบ 3:2 มาพร้อมกับความละเอียดสูงถึง 2K และแน่นอนว่าการออกแบบขอบหน้าจอบางสวยงามและใช้งานกระจกแบบเงาของ Gorilla Glass ด้วยเช่นกัน มาพร้อมกับสเปกหน้าจอแบบ IPS ขนาด 14 นิ้ว (2,160×1,440พิกเซล) ความละเอียด 2K, ความสว่างสูงสุด 400nits, sRGB 100%, อัตราส่วน contrast ratio 1500:1 และ อัตราส่วนหน้าจอ 3:2 ทำให้มีพื้นที่บนและล่างมากกว่ารุ่นอื่นๆทั่วไปที่ 16:9 นั้นเอง และใช้งานขอบหน้าจอบางเพียง 5.3 มม. ด้วยเช่นกัน และมีค่าสี sRGB 100% ทำให้ในการใช้งานนั้นแสดงค่าสีต่างๆได้แม่นยำมากขึ้นในการทำงาน และ ค่าสีแสง 400Nits ทำให้การใช้งานเวลาเจอแสงต่างๆนั้นสู้ได้มากขึ้น

ทางด้านหน้าจอตัวนี้ถือว่าให้คุณภาพการใช้งานเป็นที่น่าประทับใจในทั้งเรื่องของการดูภาพต่างๆสีค่อนข้างตรงและมุมมองสมกับเป็น IPS รองรับมุมมองเอียงได้ดีดีรวมถึงมิติของตัวภาพการแสดงเฉดสีเมื่อเทียบกับเรทราคานี้ 22-27 ถือว่าสบายๆและมีความแม่นยำมาก หน้าจอจึงทำออกมาโดดเด่นและรองรับดีจริงๆ และถ้ามองในรุ่นเริ่มต้น 22,990 บาท แต่ได้หน้าจอสเปกแบบนี้บอกเลยว่าเป็นหน้าจอที่เทพมากๆในตลาดตอนนี้ตัวนึงรวมถึงทดสอบใช้งานจริงสามารถขับสีภาพออกมาได้สวยมีมิติ และสามารถสู้แสงได้ด้วยความสว่าง 400nits แต่ด้วยการใช้งานหน้าจอแบบกระจกเงาอาจจะเจอแสงรบกวนได้ง่ายกว่าทั่วไปครับ ซึ่งเท่าที่ลองก็เจอบ้างแต่โชคดีที่แสงสู้ได้ดีประมาณนึงเลยไม่มีปัญหานัก

KEYBOARD

ทางด้านแป้นพิมพ์เองนั้นใช้งานคีย์บอร์ดเรืองแสงสามระดับพร้อมระยะการกด 1.3 มม. และมาพร้อมปุ่มกดขนาดใหญ่และ Smile Arc ที่พอดีกับปลายนิ้วพอดีครับซึ่งเท่าที่ลองเราจะเห็นเลยว่าการวางปุ่มทั้งหมด เราจะเห็นว่ามันมี Layout ที่คล้ายกับตัวอื่นๆมากเช่นกัน มาตรฐานการใช้งานปุ่มลูกศรต่างๆและมาพร้อมกับปุุ่ม Fn เช่นกันสามารถปรับได้ 3 ระดับ แบบเนียนๆชอบที่การเพิ่มหรือลดไฟนั้นจะค่อยๆไล่ระดับไม่ได้ปรับทันทีเป็นรายละเอียดเล็กน้อยที่ดูพรีเมี่ยม ส่วนปุ่มมองเห็นชัดสีดำพร้อมกับระยะห่างแต่ละปุ่มมาตรฐาน ซึ่งต้องบอกว่าปรับตัวไม่เยอะถ้าใครใช้ค่ายอื่นมาก่อน

แน่นอนว่าตัวปุ่มอะไรนั้นจัดวางแบบคีย์บอร์ดทั่วไปเลย ซึ่งปรับตัวไม่ยากครับคล้ายกับค่ายอื่นๆในระดับราคาและการออกแบบแบบนี้ ชอบที่ตัวปุ่มนั้นมีความใหญ่และมีพื้นที่ในการใช้งานได้ดีแต่เรื่องของระยะของตัวปุ่มเวลากดลงไปนั้นไม่ได้ลึกมากเท่าไร 1.3มม. แต่กดสนุกชอบฟีลลิ่งในการกดแอบคล้ายของค่ายผลไม้มากๆครับแต่หลายๆคนอาจจะไม่ชินถ้ามาจากพวก Gaming แต่ถ้ามองเทียบกับพวก Ultrabook ก็จะอยู่ในระดับนี้ทั้งหมด ส่วนวัสดุปุ่มนั้นเป็นแบบด้านสีดำไม่มีส่วนโค้งเว้าอะไร และที่ชอบคือตัวปุ่ม Power นั้นมีมาให้และรองรับการสแกนนิ้วได้เลยเวลากดลงไปไวและใช้งานได้จริง ไม่ต้องรอนาน และซ่อนได้เนียนซึ่งปุ่มภาพรวมทดลองพิมพ์งานได้ดีและต่อเนื่องระยะกำลังดี

TOUCHPAD 

ทัชแพดขนาดใหญ่เมื่อเทียบกับตัวเครื่องซึ่งทาง realme Book ใช้ทัชแพดขนาดใหญ่พิเศษ ซึ่งเพิ่มพื้นที่ควบคุมได้ถึง 44% เมื่อเทียบกับโน้ตบุ๊กทั่วไปอื่นๆและแน่นอนว่าถ้ามองเทียบกับขนาด 14 นิ้วแบบนี้ถือว่ามีอัตราส่วนทัชแพดที่ใหญ่สะใจมากเช่นกัน รวมถึงในแง่ของวัสดุต่างๆนั้นเนียนและเรียบทำให้สัมผัสได้ติดนิ้วแม้จะไม่ได้มีการออกแบบเล่นโครเมียม อะไรแต่สามารถสัมผัสได้หลากหลายนิ้วและ Multitask ได้ไม่มีปัญหาอะไรครับ

SPEAKER 

realme Book มีลำโพง HARMAN 2 ตัว ซึ่งรองรับเอฟเฟกต์เสียงสเตอริโอ DTS HD ให้คุณสัมผัสประสบการณ์ภาพและเสียงรอบข้างได้อย่างเต็มอรรถรส และทาง realme Book มีไมโครโฟน 2 ตัว และรองรับอัลกอริทึมการตัดเสียงรบกวนของ Elevoc Vocplus AI, เทคโนโลยีก่อนการประมวลผล Vocplus และเทคโนโลยี Vocplus Scream Suppression ซึ่งในแง่ของลำโพงตอนแรกไม่ได้คาดหวังอะไรมากนักแต่ถือว่าทำเสียงภาพรวมได้ดีมากๆทั้งเรื่องของความดัง และ มิติของเสียงสามารถเล่นเกมหรือดูหนังมิติเสียงแน่นและดีมากๆสมกับการใช้ลำโพงคู่ ที่มี Harman/Kardon ในการปรับเสียงต่างๆยังคงเป็นเอกลักษณ์และความดังเมื่อเทียบกับขนาดตัวถือว่าดังกว่าที่คิดไว้

CONNECTOR

พอร์ตเชื่อมต่อทางรุ่นนี้มาพร้อมกับ USB-C ทั้ง 2 ช่องซึ่งน่าสนใจตรงที่เรทราคานี้สามารถใช้งาน Thunderbolt 4 รองรับ อัตราการส่งข้อมูลสูงสุด 40Gb/s และสามารถเชื่อมต่อหน้าจอ 4K สองหน้าจอได้ในเวลาเดียวกัน และในพอร์ตด้านในนั้นจะเป็น USB-C  3.2 Gen 2 ก็ถือว่ามีความไวระดับนึงในการใช้งาน และลำโพงจะอยู่ฝั่งหน้าครับ

และ ในด้านขวานั้นยังดีที่ใส่ USB-A และให้ 3.1 Gen 1 เลยทีเดียวถือว่าบางค่ายยังคงใช้ 2.0 เท่านั้น แต่ realmeBook ถือว่าให้ความเร็วมาสูงมากๆ และมาพร้อมรู 3.5มม. ยังไม่ได้ตัดออกไปไหนครับ และ ไร้สายนั้นรองรับเทคโนโลยี Wi-Fi 6 และ Bluetooth 5.1 ถือว่าไร้สายเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดและความเร็วสูงสบายๆครับ

GAMING

intel i5 Gen 11 10nm Tiger Lake นั้นถือว่าพัฒนาขึ้นพร้อมกับ IRIS Xe Graphic  Onboard ครับใน การทดสอบเล่นเกม Overwatch ได้ค่อนข้างลื่นและ FPS 60+ สบายๆ ความร้อนนั้นประมาณ 55 องศา และ CPU แตะไป 53 องศา ครับถือว่าปกติของพวก Ultrabook เล่นในสภาพอากาศไม่มีแอร์ และจากที่ทดสอบนั้นเลยของลองตัว PUBG นั้นได้ FPS 30  ส่วนความร้อนนั้นไม่ได้แตกต่างกันมากครับในการเล่นเกม และ  APEX เองนั้น ก็พอไหวด้วยครับถือว่าน่าสนใจเลยในตัวนี้ 32 FPS การ์ดจอในตัวแบบนี้ ความร้อนระบายได้กลางๆเพราะมันเป็น Ultrabook ไม่ได้สายเล่นเกม รับได้ในการเล่นเกมทั่วไปพื้นฐานปรับลื่นได้สบายครับ และความร้อนทำได้น่าสนใจ

WORKING 

รองรับการทำงานทั่วไปเช่น Microsoft ทั้งหมด อันนี้รองรับได้สบาย Excel Word สบายครับพวกนี้ไม่มีปัญหา และ RAM 8 GB ก็เพียงพอ ส่วนของ ADOBE รองรับได้สบายอยู่ครับในส่วนของ Photoshop แบบเบาๆ ไม่ได้หลายเลเยอร์เยอะหรือไฟล์ไม่หนัก จริงๆ CPU มันไหวสบายๆ ทำงานหลายๆอย่างพร้อมกันอาจะต้องไม่เยอะมาก เพราะ RAM 8GB เท่านั้น ไม่สามารถเพิ่มได้ แต่ถ้ามองในมุมทำงานได้ค่อนข้างดีเลยแหละเพราะ ทำงานรวมๆทำได้ดีกว่าตัวเดิมนะ รองรับการทำงาน 3 มิติระดับเริ่มต้น การตัดต่อไฟล์วิดีโอ หรือ เรนเดอร์ได้แบบไฟล์ไม่หนักมาก ส่วนการดูหนังฟังเพลงทั่วไปสบาย โปรแกรมดูหนัง อื่นๆที่รองรับได้สบายไม่มีปัญหา หลักๆจะเน้นทำงานเบาๆจะดีกว่าครับในรุ่นนี้ หรือต่อภาพออกพรีเซนต์งานอะไรก็ทำได้สบาย มีพอร์ตเชื่อมต่อต่างๆ และ USB มาให้ค่อนข้างครบเลยแหละ

ADOBE PREMIRE PRO

งานวีดีโอนั้นในรุ่นนี้ถือว่ารองรับได้อยู่สำหรับตัว CPU เลยขอเอามาทดสอบเรนเดอร์กันหน่อยว่า 4K 60FPS นั้นทำได้ดีแค่ไหน ในตัวนี้ จะเรนเดอร์ได้ภายใน 33 นาที ถ้าเทียบกับ 4800U ตัวก่อนตัวนั้นใช้เวลาไป 1 ชั่วโมง 8 นาที แต่ตัวนั้นจะ RAM 16GB นะครับ และถ้าเทียบกับ R7 4700U RAM 8GB นั้นจะได้ 1 ชั่วโมง 20 นาที ถือว่าความเร็วในการเรนเดอร์นั้นไม่น้อยหน้าตัวอื่นเท่าไรในการใช้งานจริง แต่ก็อย่างว่ามันไม่ได้ออกแบบมาทำตรงๆในสายงานนี้ ถ้าเราเอาคลิปแต่ละเครื่องมาเทียบกันกับระยะเวลาในการเรนเดอร์ โดยทางเราทดสอบในการเรนเดอร์คลิปแบบเดียวกันทั้งหมด ส่วนเรื่องของอุณหภูมินั้นจะประมาณ 60 องศา ในการเรนเดอร์ตัวนี้ ส่วนการตัดต่อก็ไม่ได้มีหน่วง

PHOTOSHOP

ตกแต่งภาพ ตัดต่อ ทำสินค้าต่างๆมากมาย หรือจะเป็นการทำงานระดับเริ่มต้นก็ใช้งานโปรแกรมนี้กัน และแน่นอนว่าเราก็ทดสอบกันเต็มๆเลยในการเปิดไฟล์งานทั้งหมด 7-8 ไฟล์งานที่แต่ละไฟล์งานนั้นมาพร้อมกับความจุค่อนข้างเยอะ เพราะเป็นงานเรนเดอร์ตึกที่มีหลากหลายเลเยอร์มากๆ แต่ที่น่าสนใจคือตัวโปรแกรมกลับทำงานได้ลื่นไหลมากจริงๆดีกว่าที่คิดไว้มากๆ และการใช้งาน CPU ไม่ได้โหลดเยอะเลยครับถือว่า CPU ตัวนี้จัดการได้อยู่สบายๆ แต่ RAM ไม่พอมากๆถ้าจะเลือกมาใช้งานด้านนี้ทำงานหลัก แต่จะเหมาะสำหรับงานที่แก้ไขเร่งด่วน หรือเสริมมากกว่า

LIGHTROOM

และทางด้าน LIGHTROOM เองสามารถใช้งานได้ลื่นไหลและ IMPORT EXPORT ภาพได้สบายซึ่งโปรแกรม LIGHTROOM เองนั้นจะประมวลผลหนักๆในช่วงนี้ และในช่วงการแต่งภาพเท่าที่ลองนั้นสามารถทำสีแม้จะมีภาพเยอะๆก็สามารถรองรับได้สบายครับ แต่ด้วย RAM 8 GB เองนั้นอาจจะเน้นทำงานโปรแกรมเดียวมากกว่าซึ่งถ้าทำทีละโปรแกรมก็สามารถใช้งานได้สบายๆ แต่ถ้าทำงานหนักเปิดหลายๆโปรแกรมพร้อมกันตัวนี้อาจจะไม่เหมาะเท่าไร

REALME BOOK

” ครั้งแรกของค่ายที่ทำได้ดีทั้งประสิทธิภาพ คุณภาพงานประกอบ และ สเปก ” 

ถือว่าจัดเต็มอย่างมากถ้ามองเป็นครั้งแรกของค่ายที่มาลุยตลาดคอมพิวเตอร์และทำออกมาได้น่าสนใจตั้งแต่เปิดตัวแล้วเช่นกัน ซึ่งรุ่นนี้ถือว่ามีความน่าสนใจหลายๆอย่างทั้ง หน้าจอ 2K พร้อมกับตัวเครื่องบางเบา และวัสดุอลูมิเนียมทั้งเครื่อง พร้อมกันให้พอร์ต Thunderbolt 4 ใส่เข้ามาให้ทำงานร่วมกับ intel  Gen 11 รุ่นล่าสุดได้อย่างลงตัว และแน่นอนว่า เรื่องระบายความร้อนให้มา พัดลมคู่ พร้อมกับ HeatPipe 2 เส้นซึ่งถือว่าเยอะกว่าคุ่แข่งในตลาดชัดเจน และ ในการใช้งานจริงหลายๆส่วนรู้สึกเลยว่าทำงานได้ดีกว่าที่คิด คุณภาพ สเปก หน้าจอ ลำโพงล้วนทำออกมาได้น่าพอใจ เมื่อมองเทียบกับราคา และการรับประกัน 2 ปี แบบนี้เป็นอีกค่ายที่น่าจับตามองและน่าใช้งานมากๆเช่นกันครับ แต่มีข้อที่อาจจะต้องดูเลยว่าถ้า RAM 8 GB จะเพียงพอต่อการใช้งานของเราไหมเพราะเพิ่มไม่ได้ครับ

  • ระยะเวลาการประกันสินค้า 2 ปี วิธีการรับบริการ : สามารถส่งสินค้าเพื่อทำการซ่อมได้โดยผ่าน Kerry (office Booking Kerry) หรือส่งมาที่ realme service back office Call center 02-1233222

ข้อดี

  • งานประกอบ คุณภาพวัสดุถือว่าทำได้ดี แม้จะเป็นตัวแรกของค่าย
  • หน้าจอคุณภาพสูงในการใช้งาน ทั้งค่าสี ความคมชัด และ ขอบหน้าจอบาง
  • ประสิทธิภาพ i5 Gen11 ตอบโจทย์การทำงาน เล่นเกมได้สบาย
  • ลำโพงคู่จาก HARMAN เสียงดัง และ คุณภาพดีในเรทราคานี้
  • พอร์ตเชื่อมต่อครบ และ มีThunderbolt 4 ใส่เข้ามาให้
  • แป้นพิมพ์ และ Touchpad ทำได้ดี ระยะกดดี และมีขนาดใหญ่
  • รองรับการสแกนนิ้วบนปุ่ม Power
  • ระบายความร้อนได้ดี พัดลมคู่ Heatpipe คู่
  • เวลาการประกันสินค้า 2 ปี

ข้อสังเกต

  • RAM 8 GB ไม่สามารถเพิ่มได้ หรือ มีตัวเลือกเท่าไร
  • ไม่มี SD Card Slot มาให้ใช้งาน

สำหรับรีวิวนี้ผมก็ต้องขอตัวลาไปก่อนสำหรับรุ่นอื่นๆก็ติดตามกันได้เลย ถูกใจฝากกดไลค์กดแชร์ด้วยนะครับ  มีข้อผิดพลาดประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ  เพื่อนๆสนใจอยากให้พวกผมรีวิวรุ่นไหนสามารถ Inbox มาบอกเราได้เลยนะ

ฝากไลค์เพจ FACEBOOK เราด้วยนะครับ >>>>>>>>>  TECHHANGOUT

เข้าร่วมกลุ่ม TECHHANGOUT พูดคุยแลกเปลี่ยน ข้อมูล คุยกันเองชิลๆได้เลยที่ — Facebook  Techhangout พูดคุย Smartphone gadget 

Review by Nineztr 

Comments กันได้เลย !

Comments

0 Shares