realme GT ถือว่าเป็นตระกูลระดับเทพของทางค่าย และครั้งนี้ได้เปิดตัว GT Neo 2 5G รุ่นน้องใหม่ล่าสุดแต่สเปกไม่ธรรมดากันไปแล้วในตลาดเมืองนอก ทั้งเรื่องของหน้าจอระดับ E4 และ การใช้งานสเปกหลายๆส่วนนั้นถือว่าทำออกมาคุ้มค่า และคุ้มราคามากๆ พร้อมกับใช้งาน Snapdragon 870 5G รวมถึง มีระบบระบายความร้อนแบบใหม่และแน่นอน ทั้งลำโพงคู่ หน้าจอ 120Hz และ การออกแบบที่แปลกตา มาพร้อมมอเตอร์สั่นแกน X และระบบสั่น 4D แบตเตอรี่5,000mAh  65W สามารถชาร์จแบตจาก 0-100% ได้ในเวลา 36 นาที และด้วยการเปิดราคามา ในงบ 14,000 บาทมีทอนถือว่ามาลุยตลาดในระดับราคานี้ได้แบบโหดๆพร้อมการรองรับ 5G ทำให้ภาพรวมน่าสนใจ

realme GT Neo 2 5G จะมาพร้อมกับ หน้าจอ E4 AMOLED ขนาด 6.62 นิ้ว Full HD+ ที่มีรีเฟรชเรท 120Hz และความถี่การตอบสนอง 600Hz ภายในตัวเครื่องใช้ชิป Snapdragon 870 ที่มาพร้อม RAM สูงสุด 12GB และ RAM แบบเสมือนอีกสูงสุด 7GB นอกจากนี้ยังมาพร้อมเจลกระจายความร้อนผสมเพชรเกรดอากาศยานพื้นที่ 7,932มม. และ VC cooling แบบ 3D ขนาด 4,129มม. รวมทั้งแผ่นแกรฟีน ซึ่งรวมทั้งหมดแล้วทาง realme เผยว่าสามารถกระจายความร้อนดีกว่ารุ่นที่ผ่านมา 20% ทำให้สามารถลงอุณหภูมิสมาร์ตโฟนได้สูงสุด 18 องศาเซลเซียส ตัวเครื่องในสีเขียวทำจากกระจกกันรอยแบบด้านมาพร้อมกับแถบ Black Mint สีดำ ในขณะที่ตัวเครื่องสีฟ้าและสีดำทำจากกระจกป้องกันรอยนิ้วมือ นอกจากนี้เจ้า realme GT Neo2 มาพร้อมมอเตอร์สั่นแกน X และระบบสั่น 4D กล้องหลังของตัวสมาร์ตโฟนมีจำนวน 3 ตัวประกอบด้วย กล้องตัวหลัก 64MP + กล้อง Ultra-wide 8MP + กล้องมาโคร 2MP ส่วนแบตเตอรี่มีความจุ 5,000mAh ที่รองรับชาร์จเร็ว 65W สามารถชาร์จแบตจาก 0-100% ได้ในเวลา 36 นาที ถือว่าสเปกภาพรวมนั้นทำได้น่าสนใจ และหน้าจอน่าจะเด่นที่สุดแล้วในตอนนี้

PRICE 

  • realme GT Neo 2 5G : RAM 8GB STORAGE 128GB : ราคา 13,990 บาท ! 

UNBOX

ตัวกล่องเขียนชื่อรุ่นชัดเจน พร้อมกับ ชื่อแบรนด์ที่ครั้งนี้กล่องกลายเป็นสีดำ และ ออกแบบแตกต่างกว่ารุ่นอื่นๆทั้งหมดถือว่าแปลกตาและสมกับเป็นเรือธงมากขึ้นส่วนอุปกรณ์นั้นมาครบเช่นเดิม ทั้งตัวเครื่อง ที่ชาร์จ 65W SuperDart และ ตัวเคสTPU พร้อมกับ คู่มือ และ ที่จิ้มซิม ส่วนทางด้านหูฟังนั้นจริงๆค่ายนี้ไม่มีให้ปกตินะครับ

  • ตัวเครื่อง realme GT Neo2 5G
  • สายชาร์จ USB-C ไป USB-A 65W
  • Adaptor 65W SuperDart
  • คู่มือการใช้งาน
  • ที่จิ้มซิม
  • เคส TPU สีเทาเข้ม

ตัวเคสที่ให้มามีความแตกต่างกับรุ่นก่อนๆจากที่รุ่นก่อนหน้าจะเป็นแบบเคสใสแต่ครั้งนี้มาพร้อมกับสีทึบทั้งหมดใช้งานวัสดุ TPU แต่มีการเล่นพื้นผิวให้เป็นแบบด้านเล็กน้อยพร้อมกับโลโก้ realme จริงๆแอบปกปิดสีเขียวทั้งหมดจะเห็นแค่ตรงกล้องเท่านั้นครับส่วนการปกป้องนั้นรองรับได้ดีทั้งหน้าจอ คลุมเข้ามาข้างใน รวมถึงตามมุมหน้าจอและเลนส์

DESIGN

ผสมผสานอย่างลงตัวกับ Digital Urban Design หากลองจินตนาการว่า ดิจิทัลกับธรรมชาติ จะมาสู่ดีไซน์ของสมาร์ตโฟนได้อย่างไร? ดีไซน์เนอร์จาก realme Design Studio ได้ร่วมออกแบบอย่างใกล้ชิดกับสีต่างๆรอบตัว เพื่อให้ได้สีที่สื่อถึงการสร้างแรงบันดาลใจและความมีชีวิตชีวา จากสีเขียวในธรรมชาติ ถูกปรุงแต่งอย่างแตกต่างให้มีความสว่าง และเส้นสีทึบด้าน แมท ถูกเคลือบให้เงางาม เฉกเช่นเดียวกับ ดิจิทัลและธรรมชาติที่มีความแตกต่าง แต่สามารถผสมผสานกันอย่างลงตัวได้ นั้นเองทำให้ออกแบบมาเป็นสีเขียว Neo Green และ มีการเล่นสีดำแทรกเข้ามาส่วนตัวถือว่าแปลกตาพอสมควร และ มีน้ำ หนัก 200 กรัม และ บางเพียง 8.6 มม. วัสดุคล้ายกระจกทั้งหมด

หน้าจอนั้นเป็นการออกแบบหน้าจอแบบเจาะรูมุมซ้ายบนใช้งาน หน้าจอ ชนิด E4 AMOLED ขนาด 6.62 นิ้ว Full HD+ ที่มีรีเฟรชเรท 120Hz และความถี่การตอบสนอง 600Hz ขอบหน้าจอบางและเป็นหน้าจอสเปกที่ดีมากตัวนึง

ขอบหน้าจอส่วนล่างนั้นมีความบางระดับนึงพร้อมกับปุ่มควบคุมมาตรฐาน และ สามารถปรับไปใช้งานได้แบบเต็มหน้าจอ ส่วนหน้าจอนั้นเป็นการออกแบบหน้าจอแบบเรียบๆไม่ได้มีส่วนขอบโค้งหรือกระจกโค้งอะไรแต่อย่างใดในรุ่นนี้

ขอบหน้าจอส่วนบนนั้นตัวนี้ถือว่าทำได้ดีเพราะว่าเป็นลำโพงคู่ให้มาจัดเต็ม พร้อมกับกล้องหน้า 16MP F2.5 รองรับการถ่ายมาตรฐาน แต่น่าเสียดายว่ารูรับแสงนั้นแคบไปนิดหน่อยครับ พร้อมกับแทรกเซนเซอร์ต่างๆไว้ขอบบนทั้งหมด

ขอบเครื่องส่วนล่างนั้นเราจะเห็นว่ารุ่นนี้เป็นลำโพงหลัก และ มาพร้อมกับ USB-C และ รูไมค์หลักในด้านล่าง แต่รุ่นนี้จะไม่มีรู 3.5 มม.ส่วนการออกแบบนั้นจะเป็นขอบสีเทาเข้มแบบด้านๆสวยงามมากๆ ดูพรีเมียมสวยงาม และขอบซ้ายขวา โค้งรับมาอย่างดีรวมถึงสีตัดกับฝาหลังสีเขียวสดได้สวย พร้อมกับถาดซิมที่รองรับ DualSim เพิ่มความจุไม่ได้

ขอบเครื่องด้านบนนั้นเรียบๆไม่ได้มีอะไรมากนัก แต่เราจะเห็นรูไมค์ด้านบนสำหรับการตัดเสียงหรือว่าอัดเสียงใส่มาพร้อมกับฝาหลังที่เราเห็นนั้นจะมีการโค้งลงมาทำให้การจับถืออะไรนั้นรองรับได้ง่ายและถือได้ถนัดมือมากขึ้นด้วย

ขอบเครื่องด้านขวาเราจะเห็นว่ามีแค่ปุ่ม Power เท่านั้นไม่ได้มีการเล่นสีที่ปุ่มหรือเล่นพื้นผิวอะไรเท่าไรเรียบๆทั้งหมดสีเดียวกับขอบเครื่องที่เป็นพลาสติก ส่วนฝาหลังหนังนั้นมีการเข้าขอบเครื่องมากขึ้น ทำให้ตัวขอบเครื่องนั้นดูบางขึ้น

ขอบเครื่องด้านซ้ายนั้นจะเป็นปุ่ม เพิ่ม / ลด เสียงครับ จะเห็นว่ามีสีเข้มและแบบด้านทั้งขอบเครื่องดูหรูหราสวยงาม แต่ปกติจะมีถาดซิม ซึ่งรุ่นนี้จะย้ายไปส่วนขอบล่างเครื่องแทนแล้วนั้นเองครับ

พื้นผิวจากกระบวนการทับซ้อนแบบนาโน 7 ชั้น ทำให้ได้ฝาหลังที่เรียบเนียน แสงสะท้อนละมุน ทนต่อรอยขีดข่วน
ป้องกันลายนิ้วมือและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เปรียบเสมือนผ้าไหม มีความมันเงาและสัมผัสนุ่มมือ แม้ว่าจะเป็นพลาสติกเคลือบกันรอยแต่ความเนียนเวลาสัมผัสฝาหลังตัวนี้ทำได้ดี เคลือบผิวแตกต่างกันทั้งแบบด้านและแบบเงาถือว่าเก่งในเรื่องการออกแบบ และ ทำพื้นผิวให้แตกต่างกันครับ พร้อมกับสีเขียวสะท้อนแสงแบบนี้บอกเลยว่าไม่ค่อนเจอค่ายไหนทำ รวมถึงกล้องหลัง มุมซ้ายบน และสแกนนิ้วนั้นไปอยู่บนหน้าจอทั้งหมด และมีการตัดสีดำเข้ามา 2 เส้นก็ถือว่าแปลกตาและมีเขียน Dare to Leap เสริมมาครับ แต่ถ้าใครชอบแบบเรียบๆก็มีฝาหลังปกติให้เลือกนะ

กล้องหลังดีไซน์ที่อาจจะเห็นในหลากหลายรุ่นมาพร้อมกับ 3 ตัวและเป็นการแยกแฟลชบนล่างคนละโทนสีรวมถึงเลนส์กล้องกระจายทั้ง 3 เลนส์แยกกันชัดเจนรวมถึงมีการเล่นการออกแบบเลนส์และฝาหลังวัสดุแตกต่างกันไปมาพร้อมกับสเปกกล้องหลัง 3 เลนส์ มาพร้อมกับเลนส์หลัก 64 ล้านพิกเซล รูรับแสง f1.8 ระยะภาพ 26 มม. ขนาดเซนเซอร์ 1/1.73″, 0.8µm, PDAF ส่วนตัวที่ 2 นั้นใช้งานเลนส์มุมกว้าง 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f2.3 ระยะภาพ 16 มม. มุมกว้าง 119 องศา ขนาดเซนเซอร์ 1/4.0″, 1.12µm และ ตัวสุดท้าย 2 ล้านพิกเซล f2.4 เป็นมาโคร

SPEC

  • หน้าจอ E4 AMOLED ขนาด 6.62 นิ้ว (2,400×1,080พิกเซล) Full HD+ รีเฟรชเรท 120Hz, HDR10+, ความสว่างสูงสุด 1300nits, DCI-P3 color gamut 100%, DC dimming, ใช้กระจก Gorilla Glass 5
  • ชิปประมวลผล Snapdragon 870 7nm ที่ใช้การ์ดจอ Adreno 650
  • RAM LPDDR5 8GB + storage (UFS 3.1) 128GB
  • Android 11 ที่ครอบด้วย realme UI 2.0
  • ซิมคู่ (nano + nano)
  • กล้องหลัง
    • กล้องหลัง 64MP (f/1.8)
    • กล้อง Ultra-wide กว้าง 119 องศา 8MP (f/2.2)
    • กล้องมาโคร 2MP (f/2.4)
    • แฟลช LED
  • กล้องหน้า 16MP
  • เซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอ
  • ช่องเสียบหูฟัง USB Type-C, ลำโพง Stereo, รองรับ Dolby Atmos, คุณภาพเสียง Hi-Res
  • ขนาดตัวเครื่อง: 162.9×75.8×8.6มม.; น้ำหนัก: 199.8 กรัม
  • รองรับเครือข่าย 5G SA/ NSA, Dual 4G VoLTE, Wi-Fi 6 802.11 ax, Bluetooth 5.2, GPS (L1 + L5)/GLONASS/Navic/QZSS/Galileo, NFC
  • USB Type-C
  • แบตเตอรี่ 5,000mAh ที่รองรับชาร์จเร็ว 65W

PERFORMANCE 

realme GT Neo2 5G มาพร้อมชิปเซ็ต Snapdragon 8705G ซึ่งเป็นชิปเซ็ตซีรีส์ 8 ใหม่ล่าสุดจาก Qualcomm ผลิตจากนวัตกรรมขั้นสูง ท าให้ได้ชิปเซ็ตเล็กเพียง 7nm ช่วยประหยัดพลังงาน เป็นโปรเซสเซอร์ระดับเรือธง ให้ประสิทธิภาพอีกขั้น ท างานคู่กับ A77 Prime Core ความเร็ว 3.2GHz และ ใช้งาน  เทคโนโลยี Stainless Steel Vapor Cooling Plus ใหม่ล่าสุด ใช้วัสดุ แผ่น VC สแตนเลสขนาด 4129 มม2 ในโครงสร้าง 8 ชั้น พร้อมด้วย ซิลิโคน Diamond Thermal บน CPU เพื่อช่วยควบคุมอุณหภูมิเป็นครั้งแรกของทางค่ายเช่นกัน

SYSTEM UI 

ทางด้านหน้าตาระบบอะไรนั้นจริงๆไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงอะไร รุ่นนี้ก็ยังคงเป็น realme UI 2.0 เช่นเดิมพร้อมกับ Android 11 ตัวล่าสุด ได้ด้วยเช่นกันใครที่อยากลองก่อนก็ไปโหลดกันไว้ได้เลยครับสำหรับรุ่นนี้  หน้าตาหลักมีความโค้งมน ลดเหลี่ยมไปอีกขั้น ทำให้หน้าตารูปแบบล็อกอะไรเรียบร้อยมากขึ้น รวมถึงหน้าหลักยังคงมีเลขแจ้งเตือนมุมแอปต่างๆใส่เข้ามาให้ใช้งานครับ ระบบการแจ้งเตือนเวลามีข้อความนั้นเด้งได้ไว รองรับ realme UI 3 แน่นอน

หน้าการแจ้งเตือนและ Quick Setting เพิ่มการแยกสัดส่วนมากขึ้น ในการแจ้งเตือน และไอคอนต่างๆนั้นสวยและขอบโค้งมนมากขึ้นเยอะ การกดเข้าอะไรต่างๆนั้นได้เปลี่ยนแปลงไปทั้งหมดรวมถึงไอคอนรูปเฟืองก็เปลี่ยนไปด้วย เมื่อลากลงมาก็เป็นการตั้งค่าแบบเต็ม รวมถึงแบ่งหน้าจออะไรนั้นยังมีมาให้ปกติ และรองรับการแบ่งหน้าจอได้หลักๆทั้ง 3 แบบครับไม่ว่าจะเป็น Floating – Mini – Split Screen ทั้ง 3 แบบรองรับการทำงานต่างๆได้สบายเลย

คีย์บอร์ดนั้นเป็น GBoard มาตรฐานครับจากทาง Google รองรับการใช้งานหรือว่าคำสั่งเสียงพูดต่างๆ การลากนิ้วใช้งานได้มาตรฐานเลยแหละ และทางด้าน RAM จะให้มา 12GB แต่รองรับการเพิ่ม RAM ไปอีก สูงสุด 3GB และความจุ 256GB นะครับ ทำให้เหลือในการใช้งานสบายๆ 240 GB เลยทีเดียวเพราะว่ารุ่นนี้เพิ่มความจุไม่ได้แล้วนะ

ทางด้านการตกแต่งหน้าตาต่างๆนั้นยังคงรองรับแบบจัดเต็มทั้งตัวไอคอน การวางแอปต่างๆหรือว่าจะเป็น Effect การใช้งานตัวสแกนนิ้วต่างๆก็เปลี่ยนได้ รวมถึงโทนสีของไอคอน ตัวหนังสือ รูปทรงไอคอนเปลี่ยนได้เยอะมากๆ รวมถึงมีไฟขอบเครื่องเวลามีคนโทรเข้า หรือ แจ้งเตือน อีกทั้งหน้าจอ Always On ปรับเปลี่ยนได้เยอะและอิสระมากๆเช่นกัน

Gesture นั้นยังมีมาให้ครบทั้งการวาด การใช้งานท่าทางต่างๆครับส่วนทางด้าน Smart Sidebar แถบหน้าจอด้านข้างก็ รองรับการแชร์ไฟล์ที่เพิ่งเปิดขึ้นได้ เพิ่มเครื่องมือหรือแอปพลิเคชัน บันทึกหน้าจอในรูปแบบวิดีโอ และ จับภาพหน้าจอ นอกจากนี้ Smart Sidebar ยังมีโฟลเดอร์การจัดการให้เพิ่มรายการโปรดเข้าไปเพื่อดูรายการโปรดได้

SCREEN

หน้าจอตัวนี้ถือว่าน่าสนใจเพราะว่าเป็นหน้าจอที่เทพมากๆตัวนึงครับในแบรนด์นี้ไม่ใช่แค่ 120Hz แต่รองรับการสัมผัสมากถึง 600Hz เลยทีเดียว มากกว่า GT 5G ที่ออกมาก่อนหน้านี้ และใช้งาน SuperAMOLED ด้วยเช่นกันเพราะว่ารุ่นก่อนๆเราอาจจะเป็นแต่พวก IPS นั้นเองครับ แต่การปรับมาใช้งาน SuperAMOLED ต้องบอกว่าน่าสนใจขึ้นเยอะมากๆ พร้อมกับสเปกหน้าจอ หน้าจอ E4 AMOLED ขนาด 6.62 นิ้ว (2,400×1,080พิกเซล) Full HD+ รีเฟรชเรท 120Hz, HDR10+, ความสว่างสูงสุด 1300nits, DCI-P3 color gamut 100%, DC dimming, ใช้กระจก Gorilla Glass 5 ถือว่าเป็นหน้าจอที่เทพที่สุดของค่ายนี้ด้วยเช่นกันดีกว่ารุ่นพี่  GT 5G ทันทีสวยงามมาก

การปรับมาใช้งานชนิด E4 ที่เป็นวัสดุรุ่นใหม่ แบบ Organic Light-Emitting Diode ความสว่างสูงขึ้น ชัดขึ้น ความแม่นยำของสี พร้อมทั้งช่วยประหยัดพลังงานในการใช้งานมากกว่าแบบเดิมแน่นอนว่ามุมมองที่ดีขึ้น ภาพสู้แสงได้โหดขึ้นทำให้การใช้งานตัวนี้ดีกว่าทุกๆตัวที่เคยสัมผัสมาและมุมมองไม่ดรอปเลยแม้แต่น้อยครับถือว่าเป็นหน้าจอที่ลื่นติดนิ้วเวลาเล่นเกมด้วยเช่นกัน การสัมผัสตอบสนองมากกว่ารุ่นปกติเกือบ 2 เท่าตัวเลยทีเดียว ส่วนงานออกแบบแม้จะเป็นแบบเจาะรูกล้องเดียวก็น่าจะเป็นการออกแบบที่ลงตัวสำหรับค่ายนี้แล้วถือว่าหน้าจอตัวนี้ผ่านในการใช้งานทั้งเล่นเกม ดูหนังต่างๆยิ่งถ้าเทียบกับงบ 13,990 บาทแบบนี้ถือว่าตอบสนองไวที่สุดในบรรดาคุ่แข่งทั้งหมดเลยทีเดียว

SOUND 

รูหูฟัง 3.5 มม. หายไปแล้วในรุ่นนี้ แต่ก็ได้ลำโพงคู่มาชดเชยกันไปนะ ทำให้เรื่องของเสียงแบบไร้สายจริงๆ ตัวนี้ขับกำลังขับต่างๆออกมากำลังดี แน่น มิติเสียงดี เวทีเสียงอะไรขับออกมาได้ครบครับ แต่ถ้ามองเทียบกับการฟังเพลงคลาสสิกหรือรายละเอียดดีเทลเยอะๆอาจจะไม่ได้เป็นแนวทางตัวนี้เท่าไร และลำโพงก็ถือว่าพัฒนาแถมยังทำได้ดีกว่ารุ่นพี่ซะอีกเพราะว่าตัวนี้มาพร้อม 2 ตัว บนล่างเลยทีเดียวทำให้เรื่องของเสียงรองรับ Dolby Atmos แน่นอนครับ แต่ก็จะขาดเรื่องหูฟัง 3.5 มม.ไปนั้นเอง ส่วนรอบนี้แอบเอาหูฟัง สีพิเศษมาอวดกันด้วยครับแน่นอนว่าเรื่องเสียง realme Buds Air 2 Neo Green ตัวนี้ทำได้เด่นอยู่แล้วในแง่ของการฟังเพลง หรือแม้แต่เล่นเกม ครั้งนี้มาพร้อมกับสีใหม่เข้ากับเครื่องสีเขียวสวยงามมาก แม้จะไม่ได้ปรับสเปกอะไรแต่ได้สีใหม่เข้ามาเลยเอามาอวดกันซักเล็กน้อย

GPS

จากที่ใช้งานจริงและใช้แอปทดสอบเช่นเคย ก็จับได้ทั้งหมด 55 ดวง จากทั้งหมด 107 ดวง ที่อับทึบเช่นใต้ทางด่วนพวกนี้ ส่วนของกลางแจ้งจับได้ทั้งหมด 71 ดวง จากทั้งหมด 106 ดวง เรียกได้ว่าไว้ใจได้แบบสบายๆสู้กับเรือธงในหลายๆค่าย และใช้งานได้ดี ส่วนการเรียกใช้งานแอป หรือ เวลาหลังจากเปิดแอป นั้นก็ทำได้ค่อนข้างไว ถือว่าทำได้แม่นยำดี ในการนำทางใครที่เน้นในเรื่องนี้ จุดนี้นั้นสบายๆครับ และสมกับเป็นสเปกเรือธงและ Snapdragon 888 เลยครับตัวนี้ทำได้ประทับใจและยังรองรับได้ดีถ้าใครกำลังหาเน้นเรื่องนำทางตัวนี้ใช้ได้สบายๆ

BATTERY

realme GT 5G นั้นมาพร้อมกับระบบชาร์จไว 65W SuperDart Charge แน่นอนว่าเทคโนโลยีล่าสุดของค่ายและเท่ากับในรุ่นก่อนหน้านี้ถือว่ายังคงไวและตอบโจทย์ได้ดีและส่วนตัวแอดคิดว่า 65W เป็นความไวกระแสที่กำลังดีไม่เวอร์มากและไม่น้อยเกินไปครับ ส่วนทางด้านสเปกมาพร้อมกับแบต 4,500 mAh ในการทดสอบนั้นต้องบอกว่าทั้งวันได้ จากที่ลองใช้งานหนักๆ ใช้งานนำทางต่อเนื่อง 1-2 ชั่วโมงเต็มๆ และ เปิดเพลง ถ่ายรูป วีดีโอ เล่นเกมไป 2 ชั่วโมงกว่า ถือว่าทำได้ดีนะ และ แบตเหลือ 7% ครับ ซึ่งหน้าจอเปิดทั้งหมด 6 ชั่วโมง และ ใช้งานทั้งหมด 15  ชั่วโมงถือว่าอึดมากๆ แต่ถ้าจอเปิดโหดๆยังไงก็ทั้งวันสบายๆรุ่นนี้ยังคงไว้ใจได้ครับ อีกทั้งการชาร์จเข้าถือว่าไวมากๆ

65W SUPERDART

ตัวนี้มาพร้อมกับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 65W SuperDart Charge ชาร์จเต็ม 100% ภายใน 37 นาที ที่ระบบนั้นสามารถทำงานได้แม้กระทั่งในขณะเล่นเกมอย่างหนักหน่วง 65W SuperDart Charge  จะแบ่งเซลล์หลักเป็น 2 ส่วน ส่วนละ 2,250 mAh ผ่านการชาร์จแบตเตอรี่โดยตรงด้วยอะแดปเตอร์ 10V 6.5A ภายใต้การควบคุมด้วย อัลกอริทึมการชาร์จเร็ว SuperDart ใช้วงจรอัดประจุเพื่อลดแรงดันไฟฟ้าของแบตเตอรี่สองเซลล์ลงครึ่งหนึ่ง เพื่อให้มั่นใจถึงความเร็วในการชาร์จและการควบคุมอุณภูมิ + 10 เซนเซอร์ ในการตรวจจับอุณหภูมิ + มาพร้อมการป้องกัน 5 ชั้น ตั้งแต่อะแดปเตอร์ไปยังตัวเครื่อง ถือว่าเป็นระบบชาร์จไวที่ปลอดภัยที่สุด และไวมากเมื่อนับเป็นมือถือในเรทราคานี้ทำให้เกินหน้าเกินตารุ่นอื่นๆแบบชัดเจน และทดสอบจริงนั้นก็ทำได้เร็วจริงมากๆในตัว GT 5G ตัวนี้

CAMERA 

สเปกกล้องหลัง 3 เลนส์ มาพร้อมกับเลนส์หลัก 64 ล้านพิกเซล รูรับแสง f1.8 ระยะภาพ 26 มม. ขนาดเซนเซอร์ 1/1.73″, 0.8µm, PDAF ส่วนตัวที่ 2 นั้นใช้งานเลนส์มุมกว้าง 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f2.3 ระยะภาพ 16 มม. มุมกว้าง 119 องศา ขนาดเซนเซอร์ 1/4.0″, 1.12µm และ ตัวสุดท้าย 2 ล้านพิกเซล f2.4 เป็นมาโคร แน่นอนว่าเลนส์หลักถือว่ามีความใหญ่ของเซนเซอร์อยู่ แต่น่าเสียดายไม่มี OIS ใส่เข้ามาส่วนเลนส์มุมกว้างก็เป็นตัวที่เราคุ้นเคยกันในหลายรุ่นของค่ายนี้ และ มาโคร 2 ล้านก็ยังใส่เข้ามาให้จริงๆแล้วไม่ค่อยจำเป็นเท่าไรนักแอบน่าเสียดายพอสมควรที่หลายๆค่ายยังคงใส่เข้ามา ส่วนโหมดการถ่ายนั้นจัดเต็ม ไม่ว่าจะเป็น โหมด Street Photography ที่มีเฉพาะใน realmeพัฒนาจากฟีเจอร์คุณสมบัติพิเศษต่างๆ อาทิ โหมดDIS Snapshot, โหมด Instant Focus และ Quick Zoom ฟิลเตอร์ Film Simulation และแน่นอนว่ารองรับ RAW ด้วยเช่นกันในการถ่ายภาพโปรและเอามาแต่งต่อได้ง่ายขึ้น ซึ่งภาพถ่ายออกมาก็ถือว่าดีในเลนส์หลักและประมวลผลภาพออกมาได้สวย แต่มุมกว้างก็พอๆกับรุ่นอื่นๆในค่ายครับ และโหมดกลางคืนก็พัฒนาได้ดีขึ้นเก็บแสงสีได้ดีความคมอาจจะไม่ได้เยอะมากถ้ามุมกว้าง

PORTRAIT 

STREET  PHOTOGRAPHY 

SELFIE 

กล้องหน้าให้มาที่ 16MP พร้อมกับรูรับแสง f2.5 ถือว่าในเรื่องของสเปกอาจจะไม่ได้โดดเด่นเท่าไรนักทั้งความละเอียดและรูรับแสงครับ แต่ก็ยังคงให้มาในเรื่องของการใช้เซนเซอร์ของ Sony และมาพร้อมกับโหมดการถ่ายไม่ว่าจะเป็น AI Beauty Mode หรือ Portrait Bokeh ต่างๆครบเช่นเดิมเลย อีกทั้งในการพัฒนาโหมด หน้าสวยหรือ Beauty Mode เองนั้นมีการปรับสำหรับแต่ละเพศ ประเภทผิวที่แตกต่างกัน และรูปร่างและฟีเจอร์ใบหน้าที่แตกต่างกัน ให้ถ่ายเซลฟี่และเผยผิวธรรมชาติ ละเอียดอ่อนได้ดีกว่าเดิม หรือเรียกได้ง่ายๆว่าภาพไม่หลอกตาสำหรับหนุ่มๆ

REALME GT NEO 2 5G

” รุ่นนี้ถือว่าตลาดแตก กลับมาทำราคาได้ดี และลงตัวทั้งกล้อง หน้าจอ ลำโพง ! “

ถ้าจะบอกว่าหลังๆ realme แอบทำราคาแปลกๆในหลายๆรุ่นถ้ามองเทียบกับเมื่อก่อน แต่ครั้งนี้เหมือนเค้าจะได้ยืนเสียงบ่นกัน ทำให้รุ่นนี้เป็นรุ่นที่ออกมา ตลาดแตกได้แน่นอนทั้งเรื่อง ประสิทธิภาพ ราคา หน้าจอ ลำโพง กล้องหลัง หรือแม้แต่ภาพรวมทั้งหมดทำได้น่าสนใจไปทุกอย่าง และได้ราคาไม่เกิน 14,000 บาทแบบนี้ แต่ได้หน้าจอ 120Hz E4 AMOLED บอกเลยว่าไม่ธรรมดาและเรื่องของคุณภาพหนีคู่แข่งไปทันที เพราะว่าหน้าจอแบบ E4 เราจะเจอแค่ในเรือธงแพงๆ แต่รุ่นนี้ใส่เข้ามาให้ใช้งานด้วย ในงบแค่หมื่นต้นๆ จนรุ่นพี่แอบน้อยใจได้เลยถ้ามองไปจอ GT 5G ตัวนั้นครับ และได้ลำโพงคู่ DOLBY ATMOS รวมถึง กล้องหลังที่ไม่ธรรมดาแบบนี้ทำให้ภาพรวม ราคา สเปกที่ให้มาน่าจะไม่มีอะไรให้บ่น หรือ ไม่คุ้มเลยแม้แต่น้อย จะมีแค่ขาดรู 3.5 มม. เท่านั้น แต่ส่วนอื่นๆนั้นบอกเลยว่าโหดมาก

ข้อดี

  • ประสิทธิภาพ Snapdragon 870 5G ทำได้น่าประทับใจ
  • ทำราคาได้ดีอย่างมากเมื่อเทียบกับสเปกที่ให้มา
  • ดีไซน์โดดเด่น และ สวยงาม
  • กล้องหลังทำได้ดีกว่าที่คิดไว้ในระดับราคานี้
  • ลำโพงคู่ เสียงดีมิติเด่น ดังสะใจ
  • กล้องมีโหมดการถ่ายหลากหลายทั้งหน้า และ หลัง
  • หน้าจอคุณภาพสูง E4 AMOLED 120Hz ดีกว่าคู่แข่งชัดเจน
  • แบตอึด พร้อมรองรับการชาร์จไว 65W SuperDart

ข้อสังเกต

  • ไม่มีรู 3.5 มม.
  • ไม่รองรับการเพิ่มความจุ Micro-SD
  • ** ตัวที่รีวิวจะเป็น RAM 12GB นะครับ ขายจริงจะ 8GB + 128GB

สำหรับรีวิวนี้ผมก็ต้องขอตัวลาไปก่อนสำหรับรุ่นอื่นๆก็ติดตามกันได้เลย ถูกใจฝากกดไลค์กดแชร์ด้วยนะครับ  มีข้อผิดพลาดประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ  เพื่อนๆสนใจอยากให้พวกผมรีวิวรุ่นไหนสามารถ Inbox มาบอกเราได้เลยนะ
ฝากไลค์เพจ FACEBOOK เราด้วยนะครับ >>>>>>>>>  TECHHANGOUT

เข้าร่วมกลุ่ม TECHHANGOUT พูดคุยแลกเปลี่ยน ข้อมูล คุยกันเองชิลๆได้เลยที่ — Facebook  Techhangout พูดคุย Smartphone gadget 

Review by Nineztr 

Comments กันได้เลย !

Comments

0 Shares