realme ประเทศไทยนั้นเรียกได้ว่าลุยตลาดกันอย่างต่อเนื่องทั้งในตลาดโลก และ ตลาดไทยทางด้านเรือธง realme GT 5G เองนั้นเปิดตัวในตลาดเมืองจีนไปก่อนหน้านี้ และ เปิดตัวในตลาดโลกไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา อีกทั้งยังเดินหน้าลุยตลาดอื่นๆจัดเต็มเช่นกัน และ ในประเทศไทยเองก็ไม่น้อยหน้าเตรียมจะเปิดตัว realme GT 5G และ เข้ามาขายในประเทศไทยอย่างเป็นทางการแน่นอน ตามตลาดโลกมาติดๆเลยนั้นเองต้องบอกว่าลุยตลาดแบบจัดเต็มอีกทั้งรุ่นนี้จะเป็นเรือธงที่โหดมากๆตัวนึงของทาง realme และ อาจะเป็น Flagship Killer อีกตัวก็ว่าได้ทั้งเรื่องของสเปก ความคุ้มค่า และ สิ่งที่ได้มานั้นเปิดตัวในไทยกันไปแล้ว และถือว่าทำราคาให้ไม่เกิน 20K ได้ดีเลยทีเดียว

realme GT 5G เรือธงตัวล่าสุดนั้นจะมาพร้อมกับ หน้าจอ Super AMOLED ขนาด 6.43 นิ้ว Full HD+ รีเฟรชเรท 120Hz มีความถี่การตอบสนอง 360Hz สามารถปรับความสว่างได้ 4,096 ระดับ ภายในตัวเครื่องใช้ชิป Snapdragon 888 ที่รองรับเครือข่าย 5G ทั้งแบบ SA/NSA ระบบระบายความร้อนใช้สแตนเลส + แผ่น heat sink ทองแดง VC แผ่กว้างภายในตัวเครื่องทำให้ลดอุณหภูมิลงได้ถึง 15 องศาเซลเซียส นอกจากนี้ภายในตัวเครื่องยังมาพร้อมมอเตอร์สั่นแบบ Linear และ 4D กล้องหลังของ realme GT 5G มีจำนวน ตัวที่ประกอบด้วย กล้องความละเอียด 64 ล้านพิกเซลที่ใช้เซนเซอร์ IMX682 + กล้องมุมกว้าง ultra-wide 8 ล้านพิกเซล + กล้องมาโคร 2 ล้านพิกเซล ส่วนกล้องหน้าแบบเจาะรูพร้อมกับความละเอียด 16 ล้านพิกเซล แบตเตอรี่มีความจุให้มาที่  4,500mAh ที่รองรับชาร์จเร็ว Super Dart 65W ชาร์จ 100% ได้ในเวลา 35 นาที นอกจากนี้ตัวสมาร์ตโฟนมาพร้อมกับโหมด GT สามารถเพิ่มประสิทธิภาพ, เอฟเฟค dynamic + เสียงเอฟเฟค + การสั่น ด้วยการกดเพียงปุ่มเดียว realme GT จะมีรุ่นที่บอดี้ด้านหลังทำจากกระจกแล้ว ยังมีรุ่นที่บอดี้ด้านหลังทำมาจากหนังที่ทำจากพืชแบบ dual tone ซึ่งทั้งสองสีนะใช้วัสดุที่แตกต่างกัน realme GT จะมีรุ่นที่บอดี้ด้านหลังทำจากกระจกแล้ว ยังมีรุ่นที่บอดี้ด้านหลังทำมาจากหนังที่ทำจากพืชแบบ dual tone ซึ่งทั้งสองสีนะใช้วัสดุที่แตกต่างกัน พร้อม ลำโพงคู่ รองรับ Dolby Atmos, คุณภาพเสียง Hi-Res จัดเต็มครับ ซึ่งยังคงมีรูหูฟัง 3.5 มม. ใส่เข้ามาให้ไม่ได้ตัดออกไปด้วยนะ

สำหรับ realme GT 5G ในไทยนั้นมาพร้อมกับ  SNPDRAGON 888 / RAM 8 GB STORAGE 128GB / ในราคา 19,990 บาทไทย  Racing Yellow, Dashing Blue

UNBOX

ตัวกล่องต้องบอกว่าครั้งนี้เราได้เครื่องเป็นสเปกเมืองจีนมาก่อนเพราะว่าเป็นตัวก่อนจะเปิดตัวในตลาดโลก ไม่แน่ใจว่าตลาดโลกนั้นจะมีการออกแบบเปลี่ยนแปลงกล่องหน้าตาอะไรไหมนะครับ แต่การใช้งานหรือของที่ให้มานั้นจะเหมือนกัน ตัวกล่องเขียนชื่อรุ่นชัดเจน พร้อมกับ ชื่อแบรนด์ที่ครั้งนี้กล่องกลายเป็นสีดำ และออกแบบแตกต่างกว่ารุ่นอื่นๆทั้งหมดถือว่าแปลกตาและสมกับเป็นเรือธงมากขึ้นส่วนอุปกรณ์นั้นมาครบเช่นเดิม ทั้งตัวเครื่อง ที่ชาร์จ 65W SuperDart และ ตัวเคสใส TPU พร้อมกับ คู่มือ และ ที่จิ้มซิม ส่วนทางด้านหูฟังนั้นจริงๆค่ายนี้ไม่มีให้ปกตินะครับ

ตัวเคสนั้นเป็นเคสใสที่คล้ายกับรุ่นอื่นๆของค่ายนี้ไม่ได้มีการออกแบบพิเศษอะไรแม้จะเป็นเรือธงรองรับการใช้งานได้ดีทั้งเรื่องของความเบาและการปกป้องครับ แม้อาจจะดูธรรมดาไปนิดหน่อยแต่ถือว่าป้องกันเลนส์กล้องได้ดีและไม่หนักการปกป้องนั้นในทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ตัวขอบกินเข้ามาบนหน้าจอ และมีความหนาสูงกว่าหน้าจอทำให้วางคว่ำได้สบายคล้ายๆกับเคสรุ่นก่อน และ ส่วนฝาหลังนั้นก็คลุมได้หมดรวมถึงตัวเลนส์กล้องนั้นก็ทำออกมาปิดได้ดี มีความหนาขึ้นมาปกป้องได้เวลาวางต่างๆใช้งานทั่วไป ไม่ได้ปิดฝาหลังทึบทำให้เห็นดีไซน์สีดำเหลืองชัดเจนแม้จะใส่เคส

จะเห็นได้ว่าตัวเคสนั้นมีความนูนขึ้นมาปกป้องตัวเลนส์และหน้าจอขึ้นมาอีก และ ทั้ง 4 มุมนั้นในด้านหน้าจะทำความสูงพิเศษขึ้นมาเพื่อที่จะปกป้องหน้าจอให้ดีขึ้นไปอีกเวลาตกหรือวางคว่ำ ซึ่งเคสปกติทั้วไปจะไม่มีมุมพิเศษขึ้นมาแบบนี้อันนี้ถือว่าออกแบบมาได้ดีมากๆ เหมือนเคสแถมเรือธงค่ายอื่นๆเลยแหละ และเป็นการออกแบบเดียวกันกับ realme ตัวอื่นๆครับแต่ทำให้มันบางและนิ่มมากขึ้นดูไม่หนามากนักเวลาใส่ใช้งานครับ สำหรับเคสตัวนี้รองรับได้สบายตัวนี้

DESIGN

งานออกแบบตัวนี้การวางกล้องอะไรไม่ได้หนีจากซีรีส์ตัวอื่นๆมากนัก แต่จะเด่นๆด้วยการออกแบบฝาหลังที่แปลกตาและโดดเด่น รวมถึงความแน่น ความพรีเมี่ยมของงานประกอบเองนั้นรู้สึกเลยว่าแตกต่างกับรุ่นอื่นๆ และการใช้งานสีเหลือง ดำนั้นถือว่าแปลกตา และเป็นสีประจำค่ายด้วยเช่นกัน พร้อมกับตัวเครื่องเบาเพียง 186g และบางเพียง 8.4mm และ ด้านหลังนั้นโดดเด่นด้วยการออกแบบที่เป็นการประกอบหนังกับฝาหลัง ด้วยเทคโนโลยีพิเศษ Dual-tone Leather Design เพิ่มความหรู หรา และทนต่อรอยนิ้วมือ แทรกด้วยกระจกหลังสีดำแนวยาวพร้อมกับมีเล่นลวดลายด้านหลัง ส่วนหน้าจอเป็นหน้าจอแบบเจาะรูมุมซ้ายบนไม่ได้แตกต่างกับรุ่นอื่นๆ แต่ขอบจอนั้นบางพอสมควร

หน้าจอนั้นเป็นการออกแบบหน้าจอแบบเจาะรูมุมซ้ายบนใช้งาน หน้าจอ Super AMOLED ขนาด 6.43 นิ้ว (2400×1080 พิกเซล) Full HD+, อัตราส่วน 20:9 รองรับ HDR10+, รีเฟรชเรท 120Hz,สัมผัส 360Hz

ขอบหน้าจอส่วนล่างนั้นมีความบางระดับนึงพร้อมกับปุ่มควบคุมมาตรฐาน และ สามารถปรับไปใช้งานได้แบบเต็มหน้าจอ ส่วนหน้าจอนั้นเป็นการออกแบบหน้าจอแบบเรียบๆไม่ได้มีส่วนขอบโค้งหรือกระจกโค้งอะไรแต่อย่างใดในรุ่นนี้

ขอบหน้าจอส่วนบนนั้นตัวนี้ถือว่าทำได้ดีเพราะว่าเป็นลำโพงคู่ให้มาจัดเต็ม พร้อมกับกล้องหน้า 16MP F2.5 รองรับการถ่ายมาตรฐาน แต่น่าเสียดายว่ารูรับแสงนั้นแคบไปนิดหน่อยครับ พร้อมกับแทรกเซนเซอร์ต่างๆไว้ขอบบนทั้งหมด

ขอบเครื่องส่วนล่างนั้นเราจะเห็นว่ารุ่นนี้เป็นลำโพงหลัก และ มาพร้อมกับ USB-C และ รูไมค์หลักในด้านล่าง พร้อมกับรู 3.5 มม. ให้มาไม่ได้ตัดออกไปไหนครับ ส่วนลำโพงอีกตัวนั้นจะไว้ขอบบนหน้าจอนั้นเอง ส่วนการออกแบบนั้นจะเป็นขอบสีเงินโครเมี่ยมสวยงามมากๆ ดูพรีเมี่ยมสวยงาม และมีการขึ้นรูปปาดเล็กน้อยในส่วนฐานเครื่องด้านล่าง

ขอบเครื่องด้านบนนั้นเรียบๆไม่ได้มีอะไรมากนัก แต่เราจะเห็นรูไมค์ด้านบนสำหรับการตัดเสียงหรือว่าอัดเสียงใส่มาพร้อมกับฝาหลังที่เราเห็นนั้นจะมีการโค้งลงมาทำให้การจับถืออะไรนั้นรองรับได้ง่ายและถือได้ถนัดมือมากขึ้นด้วย

ขอบเครื่องด้านขวาเราจะเห็นว่ามีแค่ปุ่ม Power เท่านั้นที่มีการเล่นสีเหลืองเป็นแถบขึ้นมาทำให้โดดเด่นกว่าปุ่มอื่นๆ ส่วนฝาหลังหนังนั้นมีการเข้าขอบเครื่องมากขึ้น ทำให้ตัวขอบเครื่องนั้นดูบางมากกว่าเดิมและจับถือได้สะดวกเช่นกัน

ขอบเครื่องด้านซ้ายนั้นจะเป็นปุ่ม เพิ่ม / ลด เสียงครับ จะเห็นว่ามีสีเงินโครเมี่ยมทั้งขอบเครื่องดูหรูหราสวยงามจริงๆ พร้อมกับถาดซิมที่รองรับการใช้งานแบบ Dual-Sim แต่จะไม่รองรับการเพิ่ม Micro-SD นะครับตัวนี้

งานออกแบบฝาหลังตัวนี้ในรุ่น realme GT 5G นั้นจะมีฝาหลังสองแบบให้เลือกคือแบบ กระจกด้านหลัง และแบบฝาหลังหนัง ซึ่งในรุ่นที่รีวิวจะเป็นฝาหลังหนังครับ พร้อมกับหนัง vegetal เจเนอเรชันใหม่ที่ให้สัมผัสที่ละเอียดอ่อนยิ่งขึ้น เมทริกซ์ของกล้องขยายออกไปด้านล่างอย่างไม่สิ้นสุด แสดงถึงการออกแบบไบโอนิคของไฟหน้า มาในสีที่เรียกว่า ‘speedy yellow’ หมายถึง “รุ่งอรุณ” ของอนาคตที่สดใสในยามเช้า ตัดกับสีดำแบบกระจกพร้อมกับวางพาดไปจนถึงกล้องสวยงาม ส่วนทางด้านโลโก้ไว้ในแนวนอนด้านล่างถือว่าเป็นคู่สี ดำ เหลือง ที่ออกมาได้ลงตัว โดดเด่น

ทางด้านกล้องหลังนั้นจะมาพร้อมกับ 3 ตัววางเรียงกันและพร้อมกับไฟแฟลช 2 ดวง ส่วนกล้องหลังนั้นไม่ได้นูนออกมามากนักครับ มาพร้อมกับ มุมกว้าง และ เลนส์หลัก แต่ตัวนี้น่าเสียดายว่าไม่มีเลนส์เทเลอะไรใส่เข้ามา แต่ด้วยความเที่เป็นมือถือ เน้นการเล่นเกม เน้นสเปก เรื่องกล้องอาจจะไม่ได้เด่นมากนักครับ และใช้กล้องความละเอียด 64 ล้านพิกเซลที่ใช้เซนเซอร์ IMX682 + กล้องมุมกว้าง ultra-wide 8 ล้านพิกเซล + กล้องมาโคร 2 ล้านพิกเซล

SPEC

  • หน้าจอ AMOLED ขนาด 6.43 นิ้ว (2400×1080 พิกเซล) Full HD+, อัตราส่วน 20:9 รองรับ HDR10+, รีเฟรชเรท 120Hz, NTSC color gamut 98%, DCI-P3 colour gamut 100%
  • ชิปประมวลผล Snapdragon 888 5nm ใช้การ์ดจอ Adreno 660
  • RAM LPDDR5 8GB + ความจำ (UFS 3.1) 128GB / RAM LPDDR5 12GB + ความจำ (UFS 3.1) 256GB
  • Android 11 ที่ครอบด้วย realme UI 2.0
  • ซิมคู่ (nano + nano)
  • กล้องหลัง
    • กล้องตัวหลัก 64MP (f/1.8) ที่ใช้เซนเซอร์ Sony IMX682
    • กล้อง ultra-wide 119° 8MP (f/2.3)
    • กล้องมาโคร 2MP (f/2.4)
    • LED flash
  • กล้องหน้า 16MP (f/2.5)
  • เซนเซอร์สแกนนิ้วใต้หน้าจอ
  • ช่องเสียบหูฟัง 3.5mm, ลำโพง Stereo, รองรับ Dolby Atmos, คุณภาพเสียง Hi-Res
  • ขนาดตัวเครื่อง: 158.5 x 73.3x 8.4 มม. (กระจก) / 9.1 มม. (หนัง) ; น้ำหนัก:186 กรัม (กระจก) / 186.5 กรัม (หนัง)
  • รองรับเครือข่าย 5G SA/NSA, Dual 4G VoLTE, Wi-Fi 6e 802.11 ax, Bluetooth 5.2,GPS/GLONASS
  • พอร์ตเชื่อมต่อแบบ USB Type-C
  • แบตเตอรี่ความจุ 4,500mAh ที่รองรับชาร์จเร็ว Super Dart 65W

PERFORMANCE

แน่นอนว่าเรื่องระบายความร้อน realme ได้นำโครงสร้างคอมโพสิตเหล็กและทองแดงเจเนอเรชันใหม่ให้กับ realme GT 5G โดยใช้ทองแดงนำความร้อนได้ดีเยี่ยมและหุ้มด้วยเปลือกสแตนเลสเพื่อเพิ่มความแข็งแรง ซึ่งจะให้ความแข็งแรงสูงกว่าระบบทำความเย็นทองแดง VC แบบเดิมถึง 42% และมีการนำความร้อนกราไฟท์ 3 มิติแบบหลายชั้นและการครอบคลุม 100% จึงทำให้ realme GT 5G มีคุณสมบัติการระบายความร้อนที่ดีขึ้นอย่างมาก และทำงานร่วมกันกับ Snapdragon 888 5G + RAM 12GB ทำให้รีดคะแนนออกมาได้มากถึง 814K ทีเดียว และ Androbench เองนั้น ทำคะแนนได้ 1887 ในการอ่านและเขียนไปที่ 766 ถือว่าเร็วแรงตามสเปกของตัวเครื่องใช้งานดูรูปภาพ หรือ เรียกดูข้อมูลและบันทึกอะไรได้ไวด้วย ส่วน Geekbench ทำไปได้ที่ 1130/3184 และทางด้าน Netflix จริงๆนั้นรองรับได้ HD เต็มระบบแน่นอนในเครื่องขายไทย แต่เครื่องรีวิวเป็นเครื่องจีนเลยทำให้ไม่รองรับนะ

SYSTEM UI

ทางด้านหน้าตาระบบอะไรนั้นจริงๆไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงอะไรแม้จะเป็นตระกูล GT จริงๆอยากให้มี Wallpaper พิเศษหรือหน้าตาเฉพาะน่าจะโดดเด่นขึ้นครับ ทำให้รุ่นนี้ก็ยังคงเป็น realme UI 2.0 เช่นเดิมพร้อมกับ Android 11 ตัวล่าสุด และรองรับ 12 Beta ได้ด้วยเช่นกันใครที่อยากลองก่อนก็ไปโหลดกันไว้ได้เลยครับสำหรับรุ่นนี้  หน้าตาหลักมีความโค้งมน ลดเหลี่ยมไปอีกขั้น ทำให้หน้าตาล็อกอะไรเรียบร้อยมากขึ้นรวมถึงหน้าหลักยังคงมีเลขแจ้งเตือนมุมแอปอะไรใส่เข้ามาให้ใช้งานครับ ระบบการแจ้งเตือนเวลามีข้อความนั้นเด้งได้ไว

หน้าการแจ้งเตือนและ Quick Setting เพิ่มการแยกสัดส่วนมากขึ้น ในการแจ้งเตือน และไอคอนต่างๆนั้นสวยและขอบโค้งมนมากขึ้นเยอะ การกดเข้าอะไรต่างๆนั้นได้เปลี่ยนแปลงไปทั้งหมดรวมถึงไอคอนรูปเฟืองก็เปลี่ยนไปด้วย เมื่อลากลงมาก็เป็นการตั้งค่าแบบเต็ม รวมถึงแบ่งหน้าจออะไรนั้นยังมีมาให้ปกติ และรองรับการแบ่งหน้าจอได้หลักๆทั้ง 3 แบบครับไม่ว่าจะเป็น Floating – Mini – Split Screen ทั้ง 3 แบบรองรับการทำงานต่างๆได้สบายเลย

คีย์บอร์ดนั้นเป็น GBoard มาตรฐานครับจากทาง Google รองรับการใช้งานหรือว่าคำสั่งเสียงพูดต่างๆ การลากนิ้วใช้งานได้มาตรฐานเลยแหละ และทางด้าน RAM จริงๆในไทยจะให้มา 8GB และความจุ 128GB นะครับสำหรับสเปกในไทยจะมีความแตกต่างกับสเปก 12GB เช่นกันแอบน่าเสียดายว่านำเข้ามาแค่ตัวเลือกเดียวเท่านั้นในไทย

การที่อัปเดต realme UI 2.0 นั้นทำให้หน้าตาการตกแต่งการเปลี่ยนแปลงอะไรนั้นง่ายมากขึ้น อิสระมากขึ้นชัดเจนครับ ทำให้เราสามารถปรับแจ้งหน้าจอได้ทั้ง ไอคอน การวางแอป ตัวอักษร หรือแม้แต่สี และ ทรงไอคอนต่างๆได้ทั้งหมด ถือว่าสวยงามมากขึ้น และปรับแต่ง Animation ได้เยอะขึ้นด้วยถือว่ารองรับการปรับปต่งไอ้อิสระมากกว่าเดิมเยอะ หน้าจอรองรับการใช้งานโหมดมืด Dark Mode ในตัวเครื่องทำให้หลายๆส่วนเป็นสีดำทั้งหมดเลยครับ

ระบบเสียงรองรับ Dolby Atmos รวมถึงรองรับการใช้งานปรับแต่งโทนเสียงอะไรได้อิสระ และการแจ้งเตือนแสงไฟขอบหน้าจอก็รองรับได้สบายๆครับเวลามีสายเรียกเข้าหรือมีอะไรเข้ามาจะมีไฟวิ่งๆรอบเครื่องสวยงามเลยแหละ และหน้าจอก็รองรับการปรับแต่ง SDR HDR ได้สบายๆรวมถึงปรับ 120Hz อะไรพวกนี้ก็รองรับได้ตามมาตรฐานเลย

Gesture นั้นยังมีมาให้ครบทั้งการวาด การใช้งานท่าทางต่างๆครับส่วนทางด้าน Smart Sidebar แถบหน้าจอด้านข้างก็ รองรับการแชร์ไฟล์ที่เพิ่งเปิดขึ้นได้ เพิ่มเครื่องมือหรือแอปพลิเคชัน บันทึกหน้าจอในรูปแบบวิดีโอ และ จับภาพหน้าจอ นอกจากนี้ Smart Sidebar ยังมีโฟลเดอร์การจัดการให้เพิ่มรายการโปรดเข้าไปเพื่อดูรายการโปรดได้

SCREEN 120HZ – TOUCH 360HZ

หน้าจอตัวนี้ถือว่าน่าสนใจเพราะว่าเป็นหน้าจอที่เทพมากๆตัวนึงครับในแบรนด์นี้ไม่ใช่แค่ 120Hz แต่รอรับการสัมผัสมากถึง 360Hz เลยทีเดียว และใช้งาน SuperAMOLED ด้วยเช่นกันเพราะว่ารุ่นก่อนๆเราอาจจะเป็นแต่พวก IPS นั้นเองครับ แต่การปรับมาใช้งาน SuperAMOLED ต้องบอกว่าน่าสนใจขึ้นเยอะมากๆ และทาง realme GT 5G มีฟังก์ชันการปรับ touch sampling rate แบบอัตโนมัติ ซึ่งทำให้การใช้พลังงานและประสิทธิภาพสมดุลกันอย่างมาก แม้ในโหมดเกมก็สามารถรองรับ touch sampling rate ถึง 360Hz พร้อมกับสเปกหน้าจอ AMOLED ขนาด 6.43 นิ้ว (2400×1080 พิกเซล) Full HD+, อัตราส่วน 20:9 รองรับ HDR10+, รีเฟรชเรท 120Hz, NTSC color gamut 98%, DCI-P3 colour gamut 100% และ รองรับการสแกนนิ้วบนหน้าจอด้วยเช่นกัน

หน้าจอในการใช้งานจริงนั้นถือว่ารองรับได้สบายแน่นอนว่าความสว่างสูงถึง 1,000 Nits ทำให้การใช้งานกลางแจ้งนั้นเหลือๆเลยแหละอีกทั้งการสัมผัสนั้นในการเล่นเกมจริงๆแอบรู้สึกเลยว่าดีกว่ารุ่นก่อนๆหรือแม้แต่เรือธงรุ่นก่อนหรือคู๋แข่งในเรทราคาเดียวกันครับ อาจจะเพราะว่าตัวนี้เน้นสายเกมมากๆทำให้การสัมผัสตอบสนองจริงๆนั้นทำได้เด่นมาก ส่วนความสวยของหน้าจอเองนั้นสบายๆเพราะว่าใช้งานพาแนลของ Samsung ที่ขึ้นชื่อเรื่องหน้าจอได้ดีอยู่แล้วครับ และสามารถสู้แสง สัมผัสได้ดี รองรับการใช้งาน Always On ได้เช่นกันเรียกได้ว่าครบๆทั้งหมด และ มิติของภาพในภาพรวมในการเล่นเกมสวยคมชัด และ ลื่นไหลแม้จะใช้งานทั่วไปก็ตามครับถือว่าเป็นหน้าจอที่เทพมากๆตัวนึงในเรทนี้

หน้าจอการแจ้งเตือนนั้นจุดที่ชอบคือรองรับการแสดงผล Always On แล้วยังรองรับการปรับแต่งได้อิสระมากๆรวมถึงรองรับการใช้งานเวลามีคนโทรเข้ามาจะมีไฟวิ่งๆรอบเครื่องแทนไฟสถานะการแจ้งเตือนแบบยุคก่อนๆแล้ว และสามารถปรับแต่งแสงสีได้แบบสบายๆรวมถึงเวลามีข้อความ ไลน์เข้าอะไรนั้นก็จะมีไฟวิ่งให้ขึ้นมาโชว์ด้วยเช่นกันครับ

FINGERPRINT

หน้าจอ AMOLED นั้นทำให้สแกนนิ้วบนหน้าจอได้ และ การสแกนนิ้ว ถือว่าน่าสนใจเลย รุ่นนี้คือไวมากจริงๆ ใช้เซนเซอร์ รุ่นใหม่แน่นอนว่าเป็นการพัฒนาต่อเนื่องจากรุ่นก่อนๆ บางขึ้นด้วยเช่นกัน จะเห็นว่าตัวแสงไฟนั้นเป็นสีขาวส้มตรงกลาง เป็นแบบเดียวกับรุ่นใหม่ๆที่ออกมาปีนี้ มาแทนที่พวกแสงสีฟ้า เขียว และจากที่ลองนั้นแสงสีขาวทำได้ดีกว่าพอสมควรเลย และการออกแบบเซนเซอร์อะไรบางขึ้นทำให้ตัวเครื่องในภาพรวมนั้นบางและใช้งานได้ดีขึ้นด้วยนะและแน่นอนว่า GT 5G ก็รองรับการสแกนใบหน้าเป็นมาตรฐานของบรรดา Android รุ่นใหม่ๆมีมาให้สบายๆครับ

SOUND 

ระบบเสียงจริงๆนั้นนอกเหนือจากเสียงที่ให้มาแบบลำโพงคู่ รองรับ Dolby atmos แล้วจริงๆเรื่องของเสียงหูฟังก็ถือว่าทำได้ดีเช่นกันแม้จะไม่ได้มีชิพเสียงพิเศษอะไร แต่รองรับระบบเสียง Hi-Res Audio ด้วยนะในรุ่นนี้ถือว่าทำได้ดีเลยแหละถ้าเทียบกับรุ่นอื่นๆของค่ายหรือว่าในเรทราคาใกล้ๆกันหลายๆตัวครับ เสียงสามารถอ่านไฟล์ความละเอียดสูงได้ ทำให้ฟังเพลงที่คุณภาพโหดๆได้ดีรวมถึงการที่มีรู 3.5 มม. เองนั้นทำให้เสียบใช้งานได้ง่ายสบาย และเล่นเกมก็ตบโจทย์เช่นกันครับ เพราะว่าตัวนี้ขับกำลังขับต่างๆออกมาแบบจัดเต็มมากๆเสียงกำลังดี แน่น มิติเสียงดี เวทีเสียงอะไรขับออกมาได้ครบครับ แต่ถ้ามองเทียบกับการฟังเพลงคลาสสิกหรือรายละเอียดดีเทลเยอะๆอาจจะไม่ได้เป็นแนวทางของชิพเสียงตัวนี้เท่าไร แต่ถ้าฟังแนวทั่วไป เล่นเกม หรือว่าขับเพลงอันนี้ถือว่าแตกต่างเยอะเลยแหละกับรุ่นอื่น แต่อาจจะเป็นแนวของตัวเครื่องที่เซ็ตเสียงหรือเลือกชิพที่กำลังขับดีแต่อาจจะไม่ได้เป็นแนวคลาสสิกหรือดีเทลเยอะมากนักนั้นเองครับ แต่ถ้ามองเทียบกับตัวอื่นๆตัวนี้ได้ทั้งลำโพงคู่เสียงดังสะใจและเสียง Hi-Res ถือว่าครบๆเลย

GPS

ในการนำทางนั้นทำได้ดีต่อเนื่องแน่นอนว่า Snapdragon 888 5G ตัวนี้สามารถทำงานร่วมกับ 5G สบายๆครับ และจากที่ใช้งานจริงและใช้แอปทดสอบเช่นเคย ก็จับได้ทั้งหมด 55 ดวง จากทั้งหมด 107 ดวง ที่อับทึบเช่นใต้ทางด่วนพวกนี้ ส่วนของกลางแจ้งจับได้ทั้งหมด 71 ดวง จากทั้งหมด 106 ดวง เรียกได้ว่าไว้ใจได้แบบสบายๆสู้กับเรือธงในหลายๆค่าย และใช้งานได้ดี ส่วนการเรียกใช้งานแอป หรือ เวลาหลังจากเปิดแอป นั้นก็ทำได้ค่อนข้างไว ถือว่าทำได้แม่นยำดี ในการนำทางใครที่เน้นในเรื่องนี้ จุดนี้นั้นสบายๆครับ และสมกับเป็นสเปกเรือธงและ Snapdragon 888 เลยครับตัวนี้ทำได้ประทับใจและยังรองรับได้ดีถ้าใครกำลังหาเน้นเรื่องนำทางตัวนี้ใช้ได้สบายๆ

BATTERY 

realme GT 5G นั้นมาพร้อมกับระบบชาร์จไว 65W SuperDart Charge แน่นอนว่าเทคโนโลยีล่าสุดของค่ายและเท่ากับในรุ่นก่อนหน้านี้ถือว่ายังคงไวและตอบโจทย์ได้ดีและส่วนตัวแอดคิดว่า 65W เป็นความไวกระแสที่กำลังดีไม่เวอร์มากและไม่น้อยเกินไปครับ ส่วนทางด้านสเปกมาพร้อมกับแบต 4,500 mAh ในการทดสอบนั้นต้องบอกว่าทั้งวันได้ จากที่ลองใช้งานหนักๆ ใช้งานนำทางต่อเนื่อง 1-2 ชั่วโมงเต็มๆ และ เปิดเพลง ถ่ายรูป วีดีโอ เล่นเกมไป 2 ชั่วโมงกว่า ถือว่าทำได้ดีนะ และ แบตเหลือ 7% ครับ ซึ่งหน้าจอเปิดทั้งหมด 6 ชั่วโมง และ ใช้งานทั้งหมด 15  ชั่วโมงถือว่าอึดมากๆ แต่ถ้าจอเปิดโหดๆยังไงก็ทั้งวันสบายๆรุ่นนี้ยังคงไว้ใจได้ครับ อีกทั้งการชาร์จเข้าถือว่าไวมากๆ

65W SUPERDART

ตัวนี้มาพร้อมกับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 65W SuperDart Charge ชาร์จเต็ม 100% ภายใน 37 นาที ที่ระบบนั้นสามารถทำงานได้แม้กระทั่งในขณะเล่นเกมอย่างหนักหน่วง 65W SuperDart Charge  จะแบ่งเซลล์หลักเป็น 2 ส่วน ส่วนละ 2250 mAh ผ่านการชาร์จแบตเตอรี่โดยตรงด้วยอะแดปเตอร์ 10V 6.5A ภายใต้การควบคุมด้วย อัลกอริทึมการชาร์จเร็ว SuperDart ใช้วงจรอัดประจุเพื่อลดแรงดันไฟฟ้าของแบตเตอรี่สองเซลล์ลงครึ่งหนึ่ง เพื่อให้มั่นใจถึงความเร็วในการชาร์จและการควบคุมอุณภูมิ + 10 เซนเซอร์ ในการตรวจจับอุณหภูมิ + มาพร้อมการป้องกัน 5 ชั้น ตั้งแต่อะแดปเตอร์ไปยังตัวเครื่อง ถือว่าเป็นระบบชาร์จไวที่ปลอดภัยที่สุด และไวมากเมื่อนับเป็นมือถือในเรทราคานี้ทำให้เกินหน้าเกินตารุ่นอื่นๆแบบชัดเจน และทดสอบจริงนั้นก็ทำได้เร็วจริงมากๆในตัว GT 5G ตัวนี้

GAMING

GT MODE 

ในการเล่นเกมต่างๆจริงๆในรุ่น GT 5G จะมีส่วน GT MODE คือนอกเหนือจากตัว Software แล้วยังเป็นการตั้งค่าของตัวเครื่องคือจะเข้าเกมได้ไว เรียกแอปต่างได้ไว ไม่มีความหน่วง ควบคุมความร้อนได้ดี หรือว่าจะเป็นระบบฟีเจอร์ที่จะช่วยจัดการพลังงานให้ขับเกมออกมาได้ดีที่สุดด้วยเช่นกัน และยังมาพร้อมกับระบบสั่นแบบ 4 มิติซึ่งตรงนี้ต้องเกมที่รองรับนะครับเพราะว่าในไทยหรือตลาดโลกไม่แน่ใจจะมีรองรับไหม เพราะว่าเครื่องนี้เป็นเครื่องจีนเลยมีใส่เข้ามา แต่นอกเหนือจากนั้นก็ยังสามารถปรับแต่งเกม การแจ้งเตือนต่างๆ ความสว่างหน้าจอ ความละเอียดได้แบบจัดเต็ม หรือจะเป็นการตั้งระบบเสียง เครือข่ายมือถือ หรือว่าจะเป็นงานภาพก็สามารถปรับได้ทั้งหมดในส่วน Game

CAMERA

กล้องหลังมาพร้อมกับ เลนส์หลัก 64MP อัลกอริทึมการสังเคราะห์หลายเฟรมที่อัปเกรดใหม่ ให้ความคมชัดใกล้ถึง 108MP และที่เด่นๆเลยนั้นตัวนี้จะใช้งานเซนเซอร์ Sony IMX 682 พร้อมกับ F1.8 ส่วนเลนส์มุมกว้าง 119 องศา ที่ 8MP F2.2 และ มาโคร 2MP ระยะ 4 เซนติเมตรนั้นเอง ก็ยังคงใช้ 3 เลนส์คล้ายตัวอื่นแต่จะไม่มี เลนส์ขาวดำแล้วครับ แต่ฟีเจอร์การถ่ายอะไรนั้นบอกเลยว่าจัดเต็ม ทั้งโหมด โปร โหมดกลางคืน Portrait ดูดสี และอีกมายมายให้ใช้งาน และได้พัฒนาเลนส์หลักให้รองรับการใช้งานมากขึ้นต้องบอกว่าคุณภาพถือว่าทำได้ดีทั้งกลางวัน และ กลางคืน รวมถึง Super Nightscape realme ได้จัดเรียงโซลูชันใหม่สำหรับการถ่ายภาพกลางคืนและแยกความแตกต่างออกเป็นสี่โหมดเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ที่ซับซ้อน และรวมถึงโหมด Pro และ รองรับเลนส์มุมกว้าง และแน่นอนว่ายังคงมี Filter โทนสีใส่เข้ามาให้เช่นกันทั้ง Cyberpunk และ สีอื่นๆ และที่ค่อนข้างชอบคือ wide Angle Mode & Portrait Distortion Correction เพิ่มฟังก์ชันป้องกันการบิดเบือนใบหน้าใหม่ เมื่อใบหน้าปรากฏที่ขอบเลนส์ รูปทรงของใบหน้าจะถูกปรับให้เหมาะสมโดยอัตโนมัติ เพื่อให้การถ่ายภาพบุคคลมุมกว้างดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น เหมาะสำหรับการถ่ายภาพหมู่เป็นอย่างมาก ถือว่าช่วยลดมุมมองของภาพหรือคนที่อยู่ขอบภาพและหน้าจะแปลกๆไปได้เยอะครับ ถือว่าสเปกสายคุ้มค่าแต่กล้องก็ถือว่าสบายๆครับเอามาถ่ายอาหาร วิวต่างๆกลางคืน

PORTRAIT 

SELFIES

กล้องหน้าให้มาที่ 16MP พร้อมกับรูรับแสง f2.5 ถือว่าในเรื่องของสเปกอาจจะไม่ได้โดดเด่นเท่าไรนักทั้งความละเอียดและรูรับแสงครับ แต่ก็ยังคงให้มาในเรื่องของการใช้เซนเซอร์ของ Sony และมาพร้อมกับโหมดการถ่ายไม่ว่าจะเป็น AI Beauty Mode หรือ Portrait Bokeh ต่างๆครบเช่นเดิมเลย อีกทั้งในการพัฒนาโหมด หน้าสวยหรือ Beauty Mode เองนั้นมีการปรับสำหรับแต่ละเพศ ประเภทผิวที่แตกต่างกัน และรูปร่างและฟีเจอร์ใบหน้าที่แตกต่างกัน ให้ถ่ายเซลฟี่และเผยผิวธรรมชาติและละเอียดอ่อนได้ดีกว่าเดิม หรือเรียกได้ง่ายๆว่าภาพไม่หลอกตาสำหรับหนุ่มๆ

REALME GT 5G

สเปกแรง คุ้ม เรือธงราคาดี Snapdragon 888 ตัวแรกของค่าย พร้อมกับดีไซน์โดดเด่น “

Flagship Killer คำนี้เราไม่ได้ยินมานานและทาง realme  เองก็เหมือนจะพยายามสื่อสารในเรื่องนี้เหมือนกันและตัวนี้ต้องบอกว่าทำได้นะสำหรับคำนี้ ทั้งเรื่องของสเปก ระบบต่างๆรวมถึงทางด้าน ราคา ก็ยังถือว่าอยู่ในเรท 20K ไม่เกินนี้พอได้อยู่เมื่อเทียบกับสเปก Snapdragon 888 และ ระบบการจัดการอะไรต่างๆตัวนี้ตอบโจทย์ได้สบายๆ และยังได้ทั้งเรื่องของการชาร์จไวเทพๆแบบ 65W SuperDart Charge และยังใช้งานหน้าจอ 120Hz AMOLED ที่ลื่นไหล คุณภาพดี สู้แสงได้ดี รวมถึงตอบสนองต่อการสัมผัสที่โหดมากๆตัวนึงเลยแหละ และยังมีรู 3.5 มม. และ ลำโพงคู่ทำให้เรื่องของ การสัมผัสรับรู้ หน้าจอ เสียง ความลื่นไหล ทุกอยางล้วนจัดเต็มที่สุดแล้วก็ว่าได้ แต่ทำราคาได้ดีมากๆถ้ามองมันเป็นเรือธงสเปกเทพตัวนึงครับ แต่น่าเสียดายนิดๆในเรื่องของกล้องนั้นน่าจะเอาให้สุดไปได้มากกว่านี้จะถือว่าเป็นอะไรที่ครบจบในตัวเลยแหละ แต่เท่านี้ก็ถือว่าพอแล้วในการใช้งาน เน้นสเปกแรง คุ้มๆแบบนี้

ข้อดี

  • นักฆ่าเรือธง จากแบรนด์ realme ที่ทำได้ดี ทั้งสเปก และ ความคุ้มค่า
  • ใช้งาน Snapdragon 888 5G ประสิทธิภาพไม่มีข้อกังขา
  • หน้าจอลื่นไหล 120Hz พร้อมความไว 360Hz ในการทัชสัมผัส
  • ใช้งาน sAMOLED คุณภาพสูง สู้แสงดี ตอบสนองได้ดี
  • ดีไซน์โดดเด่นฝาหลังสวย แตกต่างและงานประกอบดี
  • ลำโพงคู่ รองรับ Atmos และ เสียงดัง คุณภาพดีอันดับต้นๆในค่าย
  • ระบบเสียงหูฟัง มี 3.5 มม.  รองรับ Hi-Res
  • แบตชาร์จไว 65W SuperDart Charge

ข้อสังเกต

  • ในไทยมาในสเปก RAM 8 GB เท่านั้น
  • ทางด้านระบบ หน้าตาไม่แตกต่างกับรุ่นปกติรุ่นอื่นๆ
  • กล้องหลังไม่ได้เด่นมากนัก

สำหรับรีวิวนี้ผมก็ต้องขอตัวลาไปก่อนสำหรับรุ่นอื่นๆก็ติดตามกันได้เลย ถูกใจฝากกดไลค์กดแชร์ด้วยนะครับ  มีข้อผิดพลาดประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ  เพื่อนๆสนใจอยากให้พวกผมรีวิวรุ่นไหนสามารถ Inbox มาบอกเราได้เลยนะ
ฝากไลค์เพจ FACEBOOK เราด้วยนะครับ >>>>>>>>>  TECHHANGOUT

เข้าร่วมกลุ่ม TECHHANGOUT พูดคุยแลกเปลี่ยน ข้อมูล คุยกันเองชิลๆได้เลยที่ — Facebook  Techhangout พูดคุย Smartphone gadget 

Review by Nineztr 

Comments กันได้เลย !

Comments

0 Shares