realme ประเทศไทยนั้นได้เปิดตัว realme 7 5G รุ่นล่าสุดที่จะมาเจาะตลาดที่รองรับการใช้งาน 5G มากขึ้นในราคาที่จับต้องได้ง่ายและสเปคที่ใช้งานได้ดีเช่นเดิม สำหรับรุ่นนี้ต้องบอกว่าในตลาดโลกเองนั้นเปิดตัวไปไม่นาน แต่ในไทยก็ได้เอาเข้ามาอย่างรวดเร็วและพร้อมใช้งาน 5G ในไทยทันทีเลยนั้นเองครับ สำหรับรุ่นนี้ถือว่ามีความน่าสนใจหลากหลายอย่างทั้งการรองรับ 5G+5G Dual Standby และใช้งาน MTK Dimensity 800U 5G และมาพร้อมกับหน้าจอ 120Hz และ ชาร์จไว 30W รวมถึงงานออกแบบที่มีความพรีเมี่ยมสวยงามมากขึ้นจากรุ่นก่อนๆ  และระบบเสียง Hi-Res และ รองรับ Dolby Atmos รวมถึงในแง่ของกล้องนั้นใช้งานกล้อง 4 เลนส์ ความละเอียด 48 ล้านพิกเซล เซนเซอร์ Samsung S5KGM1ST จัดเต็มพอสมควรครับในหลายๆด้านของรุ่นนี้ และราคาก็ไม่แรง

สำหรับ realme7 5G รุ่นนี้ถือว่าในตลาดโลกนั้นเปิดตัวไปไม่นานครับ มาพร้อมกับสเปกการใช้งาน MTK Dimensity 800U ตัวล่าสุดที่รองรับการใช้งาน 5G พร้อมกับการผลิตที่ 7Nm ตัวล่าสุดถือว่าเด่นเรื่องของการประหยัดพลังงาน และ ทำความเร็วได้ดีด้วยเช่นกัน พร้อมกับ RAM 8GB STOPRAGE 128GB ส่วนในเรื่องของหน้าจอนั้นให้จัดเต็มมาที่ 120Hz แต่เป็นหน้าจอแบบ IPS LCD ที่มาพร้อมกับขนาดหน้าจอ 6.5 นิ้ว FHD+ อัตราส่วน 20:9 นั้นเอง และ ทางด้านกล้องนั้นให้มาเลนส์หลัก 48MP (f/1.8) + กล้อง ultra-wide 119° 8MP (f/2.3) + กล้องมาโครขนาด 4cm 2MP + กล้องจับความลึก 2MP (f/2.4), แฟลช LED และทางด้านกล้องหน้าให้มาที่ 16MP F2.1 และ แบตเตอร์รี่นั้นให้มาที่ 5,000 mAh พร้อมกับรองรับการชาร์จไว 30W และ ระบบเสียงรองรับ Dolby Atmos และ Hires ผ่านทางหูฟังครับ แต่น่าเสียดายว่าไม่มีลำโพงคู่ในรุ่นนี้ แต่สเปกนั้นจะเน้นในเรื่องของการรองรับ 5G ที่มีความโดดเด่นเพราะ ประหยัดแบต และ ใช้งานได้อึดแม้จะเปิด 5G ใช้งานทั้งวันครับ รองรับการใช้งานทั้ง 2  ซิมเลยด้วยนั้นเองครับ

realme 7 5G มาพร้อมกับ RAM 8GB STORAGE 128 GB :

Flash Silver , Mist Blue ราคา 9,999 บาท  และ ราคาติดโปร 2,099 บาท

UNBOX

  • ตัวเครื่อง realme 7 5G
  • สาชาร์จ USB-C
  • Adaptor Dartcharge 30W
  • เคส TPU
  • คู่มือ ที่จิ้มซิม
  • ฟิล์มกันรอยติดมาให้แล้วบนหน้าจอ

เคสนั้นจะมีความหนาเป็นสีเทาๆเข้มๆเล็กน้อยใส่แล้วฝาหลังสะท้อนน้อยลงไปแบบชัดเจน การปกป้องนั้นในทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ตัวขอบกินเข้ามาบนหน้าจอ และมีความหนาสูงกว่าหน้าจอทำให้วางคว่ำได้สบาย คล้ายๆกับเคสรุ่นก่อน ส่วนฝาหลังนั้นก็คลุมได้หมด รวมถึงตัวเลนส์กล้องนั้นก็ทำออกมาปิดได้ดีมีความหนาขึ้นมาปกป้องได้เวลาวางต่างๆใช้งานทั่วไปคล้ายกับรุ่นก่อนๆของทาง realme  หรือ ในรุ่นก่อนหน้านี้ถือว่าปกป้องได้ดีใช้งานได้จริง จะเห็นได้ว่าตัวเคสนั้นมีความนูนขึ้นมาปกป้องตัวเลนส์และหน้าจอขึ้นมาอีก และ ทั้ง 4 มุมนั้นในด้านหน้าจะทำความสูงพิเศษขึ้นมาเพื่อที่จะปกป้องหน้าจอให้ดีขึ้นไปอีกเวลาตกหรือวางคว่ำ ซึ่งเคสปกติทั้วไปจะไม่มีมุมพิเศษขึ้นมา ระดับเดียวกับเคสแถมในตัวอื่นๆที่ออกมาในปีเดียวกันของทาง realme ครับถือว่าใช้งานไปได้ดีวางคว่ำอะไรได้ไม่ต้องเป็นห่วง

DESIGN

งานออกแบบในรุ่นนี้ต้องบอกว่ามีการเปลี่ยนแปลงอีกครั้งนึงเลยก็ว่าได้เพราะมาพร้อมกับงานออกแบบฝาหลังที่จะเป็นโลโก้แบรนด์ชัดเจน เล่นแสงสีอะไรสวยงามพร้อมกับเป็นฝาหลังแบบด้านด้วยเช่นกัน อีกทั้งจะเป็นเพียงสีเดียวที่จะเล่นลวดลายแบบนี้ครับ ส่วนทางด้านหน้าจอนั้นเป็นหน้าจอแบบเจาะรูทั่วไปพร้อมกับขอบเครื่องที่หนาเป็นปกติในเรทราคานี้ มาพร้อมกับสี เงิน และ น้ำเงินที่จะเป็นวัสดุพลาสติกแต่เล่นพื้นผิวสวยงามแบบกระจกด้วยเช่นกัน ทำให้น้ำหนักทั้งเครื่องนั้นเป็น 196 กรัมเท่านั้นครับถือว่าเป็นน้ำหนักที่กำลังดีต่อการพกพา และ สีสันอะไรนั้นสวยงามจริงๆ

หน้าจอมาพร้อมกับงานออกแบบหน้าจอแบบเจาะรูมุมซ้ายบน และเป็นหน้าจอแบบ 120Hz ที่ลื่นไหลพอสมควรและมาพร้อมกับความละเอียดแบบ FHD+ และยังคงเป็นอัตราส่วน 20:9 ใช้งานกระจก Gorilla Glass ครับ แน่นอนว่าขนาดให้มากำลังดีที่ 6.5 นิ้วครับ

ขอบหน้าจอในด้านบนนั้นเราจะเห็นว่ามีความหนาระดับนึงตามระดับเรทราคาประมาณนี้ พร้อมกับช่องลำโพงสำหรับการคุย  และเซนเซอร์ต่างๆนั้นแฝงตามขอบเครื่องเป็นปกติครับ แน่นอนว่ากล้องหน้าแบบเจาะรู 16MP F2.1 ใส่มาให้ครับ ถือว่าสเปกนั้นเพียงพอ

ส่วนขอบด้านล่างนั้นต้องบอกตรงๆว่ามีความหนาเทียบกับกับตัวอื่นๆในเรทราคาประมาณนี้เลยก็ว่าได้พร้อมกับ ปุ่มควบคุมบนหน้าจอทั้งหมด หรือจะปรับใช้งานแบบ Gesture หรือปุ่มในภาพก็ทำได้เผื่อที่ใครนั้นยังคงชอบแบบปุ่ม

ทางด้านขอบบนของตัวเครื่องนั้นเราจะเห็นว่ามีแค่ไมค์ตัดเสียงรบกวนมาให้ครับ เป็นขอบเครื่องวัสดุแบบพลาสติกด้าน ไม่ใช่ขอบอลูมิเนียมนะครับ

ส่วนของเครื่องในด้านล่างนั้น จะเป็นลำโพงหลักของเครื่องพร้อมกับ USB-C อีกทั้งยังเป็น ไมค์ และ รู3.5มม.ยังคงใส่เข้ามาให้ไม่ตัดออกไปนะครับ และขอบเครื่องด้านขอบข้างนั้นมีการโค้งเข้ามานิดๆ

ทางด้านขอบซ้ายนั้นเราจะเห็นว่ามีปุ่ม เพิ่ม-ลด เสียง พร้อมกับ ถาดซิมที่รองรับการใช้งาน Hybrid Slot ที่จะสามารถใส่ Sim 5G Dual Stanby ได้ หรือจะเพิ่มเป็น Micro-Sd ได้ด้วย แต่ไม่ใช่ Triple Slot

ส่วนขอบเครื่องด้านขวานั้นเราจะเห็นว่าเป็นส่วนของ ปุ่ม Power ที่รองรับการสแกนนิ้วในตัวครับ ซึ่งเป็นปกติของหน้าจอ IPS LCD ที่ไม่รองรับการสแกนนิ้วบนหน้าจอ ทำให้ต้องมาตรงขอบเครื่องแทน

ทางด้านกล้องหลังตัวนี้มาพร้อมกับกล้องหลัง 4 ตัว พร้อมกับเลนส์หลัก 48MP รองรับการใช้ เลนส์มุมกว้าง รวมถึง โหมดกลางคืน และ ละลายหลัง Portrait นั้นเองครับ ส่วนทางด้านสเปกนั้น กล้องหลัง 48MP (f/1.8) + กล้อง ultra-wide 119° 8MP (f/2.3) + กล้องมาโครขนาด 4cm 2MP + กล้องจับความลึก 2MP (f/2.4), แฟลช LED ถือว่าเพียงพอต่อการใช้งานทั่วไป เลนส์มุมกว้างและ เลนส์หลัก สเปคนั้นจะไม่ได้หนีจากรุ่นอื่นๆของทางค่ายมากนักครับ

ฝาหลังในรุ่นนี้ถือว่าเป็นครั้งแรกในการนำโลโก้ realme มาดีไซน์อยู่บนฝาหลัง ซึ่งโลโก้ realme มีพื้นผิวที่ให้เอฟเฟกต์แบบ glasses-free 3D โดยเมื่อขยับฝาหลังโลโก้ realme จะมองเห็นเป็นแบบ 3 มิติ ที่มีมิติความตื้นลึก พร้อมด้วยการเคลือบผิวสัมผัสแบบ AG ให้ผิวสัมผัสนุ่มนวล และลดการเกิดรอยนิ้วมือ ซึ่งต้องบอกเลยว่ามีความโดดเด่นกว่าเดิมเยอะและค่อนข้างแปลกตา และเล่นสีสันได้สวยจะเห็นว่าถ้าฝาหลังนั้นมืด ตัวโลโก้ก็จะสว่าง สลับกันแล้วแต่สภาพแสง และแม้จะเป็นวัสดุ พลาสติกแต่ก็มีความสวยเนียนและมีผิวสัมผัสที่ดี

SPEC

  • หน้าจอ LCD ขนาด 6.5 นิ้ว (1080 × 2400 พิกเซล) Full HD+ อัตราส่วน 20:9, รีเฟรชเรท 120Hz
  • ชิปประมวลผล MediaTek Dimensity 800U 7nm มาพร้อมการ์ดจอ Mali-G57 MC3
  • RAM LPDDR4X  8GB + storage (UFS 2.1) 128GB ใส่ความจำเพิ่มได้ 256GB
  • Android 10 ที่ครอบด้วย realme UI
  • ซิมคู่แบบ Hybrid (nano + nano / microSD)
  • กล้องหลัง 48MP (f/1.8) + กล้อง ultra-wide 119° 8MP (f/2.3) + กล้องมาโครขนาด 4cm 2MP + กล้องจับความลึก 2MP (f/2.4), แฟลช LED
  • กล้องหน้า 16MP (f/2.1)
  • เซนเซอร์สแกนนิ้วด้านข้าง
  • ขนาดตัวเครื่อง: 162.2×75.1×9.1mm; น้ำหนัก: 194 กรัม
  • กันละอองน้ำ (เคลือบแบบ p2i coating)
  • รูแจ็คหูฟัง 3.5mm, ลำโพง Linear, รองรับ Dolby Atmos, คุณภาพเสียง Hi-res
  • รองรับเครือข่าย 5G (SA/ NSA) / Dual 4G VoLTE, Wi-Fi 802.11 ac (2.4GHz + 5GHz), Bluetooth 5, GPS/GLONASS/Beidou
  • ใช้พอร์ต USB Type-C
  • แบตเตอรี่ความจุ 5,000mAh ที่รองรับชาร์จเร็ว 30W

PERFORMANCE 

ชิปเซ็ต Dimensity 800U ใช้เทคโนโลยีการผลิตขนาด 7 นาโนเมตร ให้ประสิทธิภาพสูงในขณะที่ยังลดการใช้พลังงาน มาพร้อม CPU แบบ 8-core ที่ประกอบไปด้วย Cortex-A76 จำนวน 2 คอร์ ความเร็วสูงถึง 2.4GHz และ Cortex-A55 ประสิทธิภาพสูง 6 คอร์ ที่ความเร็วสูงสุด 2GHz ผสานรวมกับ Mali-G57 GPU สามารถทำคะแนนได้ 342543 คะแนนเลยทีเดียวพร้อมกับ Geekbench 593/1762 คะแนน รวมถึงอ่านเขียน UFS ระดับสูงถึง 938MB/s และ เขียนไปที่ 472MB/s เลยด้วย ส่วนการรองรับ Netflix  HD ปกติครับในรุ่นนี้ ถือว่ามีความเร็วแรง และรองรับการใช้งาน 5G ด้วย

SYSTEM UI

realme UI นั้นเริ่มใส่เข้ามาแล้วในหลากหลายรุ่นพัฒนาขึ้นให้มีความแตกต่างความลื่นไหลและมี อนิเมชันมากกว่าเดิม รวมถึงยังคงอิงความเรียบง่ายที่จะไปคล้ายๆ Pure Android มากขึ้นครับ ในรุ่นนี้ยังใช้งานบนพื้นฐาน Android 10 และใช้ realme UI แล้วไม่ได้ใช้งาน Color OS แล้วนั้นเอง  การแจ้งเตือนใช้ได้ มีเลขมุมแอปอะไรปกติครับไอคอนเป็นทรงกลมซะส่วนใหญ่ ขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่เกินไป ลงตัวกับขนาดหน้าจอของตัวเครื่องครับสวยงามเลย

หน้าการแจ้งเตือนและ Quick Setting นั้นเป็นอีกจุดที่เปลี่ยนแปลงค่อนข้างเยอะ ไอคอนการตั้งค่าอะไรเปลี่ยนไปทั้งหมดเป็นวงกลม และ คลีนขึ้นครับ การกดเข้าอะไรต่างๆนั้นได้เปลี่ยนแปลงไปทั้งหมดรวมถึงไอคอนรูปเฟืองก็เปลี่ยนไปด้วย เมื่อลากลงมาก็เป็นการตั้งค่าแบบเต็ม รวมถึงแบ่งหน้าจออะไรนั้นยังมีมาให้ปกติ

ทางด้านแป้นพิมพ์นั้นเป็นของ Google ที่คุ้นเคยกันดีครับใช้ง่าย ดีงามเลยแหละ ส่วนหน่วยความจำพื้นที่ตัวเครื่อง มาให้ 128GB นั้นเหลือใช้งานได้ 110 หลังจากหักระบบออกไป และ RAM นั้นใช้งานเหลือ 3.4 จาก 8 GB ครับ

Gesture นั้นยังมีมาให้ครบทั้งการวาด การใช้งานท่าทางต่างๆครับ และการสแกนใบหน้า สแกนนิ้วก็ให้มาครบเลย ส่วนทางด้าน Smart Sidebar แถบหน้าจอด้านข้างก็ รองรับการแชร์ไฟล์ที่เพิ่งเปิดขึ้นได้ เพิ่มเครื่องมือหรือแอปพลิเคชัน บันทึกหน้าจอในรูปแบบวีดีโอ และ จับภาพหน้าจอ นอกจากนี้ Smart Sidebar ยังมีโฟลเดอร์การจัดการให้เพิ่มรายการโปรดเข้าไปเพื่อดูรายการโปรดได้สบาย

การใช้งานทั้งเรื่องของการจัดการแอป การโคลนแอปต่างๆ รวมถึงโหมดเกม และการแบ่งหน้าจอ และการควบคุมทั้งการแคปหน้าจอ และ การรับสายต่างๆก็ทำได้ด้วยเป็นพื้นฐานครับ รวมถึงการตั้งค่าการควบคุมหลักๆนั้นสามารถปรับใช้งานแบบเต็มจอหรือจะใช้งานแบบ 3 ปุ่มปกติสลับตำแหน่งได้ด้วย

SCREEN

ทางด้านหน้าจอถือว่ามีความโดดเด่นกว่าตัวอื่นๆในเรทราคานี้เพราะมาพร้อมกับหน้าจอ 120Hz จอที่มีความลื่นไหล เพราะว่าในหลายๆครั้งนั้น แบรนด์นี้จะโดนบ่นเรื่องหน้าจอที่สัมผัสไม่ไว แต่หลังๆนั้นที่ปรับมาใช้งาน 90-120Hz แล้วก็ได้ลบเรื่องพวกนี้ออกไปและทำให้ทั้งเรื่องของความคมชัดสวยงามการสัมผัสที่ไว และรวมถึงอัตราการตอบสนองที่ไวมากๆ หน้าจอนั้นอัพเกรดเป็น 120Hz และ การสัมผัสนั้นไวมากเลยทีเดียว ติดนิ้วมากๆ ในส่วนของหน้าจอก็สามารถปรับได้ว่าจะเอา 60 กับ 120Hz ครับ ช่วยประหยัดแบตได้นิดหน่อยส่วนเรื่องของสเปกนั้นมาพร้อมกับ ขนาด 6.5 นิ้ว (2400 x 1080 พิกเซล) Full HD+ อัตราส่วน 20:9 IPS LCD sampling rate 180Hz  หน้าจอโค้งแบบ 2.5D ที่มีรีเฟรชเรท 120Hz และ ใช้กระจก Corning Gorilla Glass  ปรับความสว่างได้สูงสุด 480 nits เป็นจอคุณภาพสูงอีกตัว และเป็นหน้าจอที่ต้องบอกว่าใกล้เคียงกับรุ่นพี่ X50 5G มากพอสมควรเลยนั้นเองครับตัวนี้

การปรับมาใช้งาน IPS LCD แน่นอนว่ามุมมองของตัวภาพนั้นถือว่าทำได้ดี แม้จะเป็นหน้าจอแบบ FHD IPS ครับก็ถือว่ายกระดับไปอีกครั้ง การสัมผัส การรองรับความถี่ถึง 120Hz สูง ลื่นไหลที่สุดเลยในตอนนี้และทำออกมาได้ดีเมื่อเทียบกับเรทราคาของทาง realme 7 5G  และ การออกแบบก็เป็นแบบเจาะรูด้วยเช่นกันมาพร้อมกล้องตัวเดียวครับ แต่เรื่องของความละเอียดอาจจะแค่ FHD+ เท่านั้นจะเท่าๆกันกับรุ่นก่อนเลยนั้นเอง ในเรื่องของการสู้แสงบางทีรู้สึกว่าน่าจะสว่างได้มากกว่านี้ด้วยที่เป็น 2 จุดหลักๆที่ต้องดูกัน และ ความดำไม่สนิทเท่าจอแบบ AMOLED แต่ถ้านอกเหนือจาก 2 จุดนี้ แล้วนั้นไม่มีจุดไหนให้ต้องกังวล ใช้ทั่วไปได้ การสัมผัสที่แบรนด์นี้พัฒนาขึ้นมาดีขึ้นเยอะมากครับ

FINGERPRINT

การสแกนนิ้วยังคงใช้งานขอบเครื่องด้านข้างเพราะการใช้งานหน้าจอแบบ IPS LCD 120Hz ทำให้เราต้องเปลี่ยนจากการสแกนนิ้วบนหน้าจอ มาเป็นสแกนนิ้วที่ขอบข้างเครื่องแล้ว ซึ่งในตัวปุ่มสแกนนิ้วนี้จะเป็นปุ่ม Power ไปในตัวเราสามารถกดได้กดแบบปุ่มทั่วไป รวมถึงสามารถสัมผัสเพื่อสแกนนิ้วได้แบบเดียวกับ X50 5G เลยนั้นเอง ในเรื่องของความไวในการใช้งานนั้นไม่มีปัญหาเลยแต่ความล้ำอะไรไม่เท่าบนจอแค่นั้นเลยดูไม่ทันสมัยมากนักแต่ใช้งานได้ดี

SOUND

ใส่ระบบเสียงที่ดีขึ้นกว่าเดิมมาให้ด้วยเพราะรองรับการอ่านไฟล์เสียงคุณภาพสูงหรือไฟล์ Hi-Res นั้นเองเท่าที่ได้ลองฟังนั้นต้องบอกว่าเสียงขับออกมาได้ดีหลักๆคือเรื่องของกำลังขับที่ชัดเจนมากขึ้น และรายละเอียดเสียงเพลงที่ดีขึ้นในไฟล์คุณภาพสูง ส่วนทางด้านเสียงก็รองรับการปรับแต่งผ่านทาง Software ได้ด้วยทั้งระบบเสียง Dolby Atmos และปรับ EQ ได้ แต่ถ้าทดสอบนั้นทางเราจะปิดตัวช่วยทั้งหมดและเท่าที่ลองฟังนั้น รายละเอียดเสียงออกมาดีระดับนึง และเสียงเวทีเสียงนั้นกว้างกว่ารุ่นก่อนแบบรู้สึกได้ เสียงเบสมาแบบกลางๆกำลังดีแต่อาจจะไม่ได้สะใจ ส่วนกำลังขับนั้นมากขึ้นจากรุ่นที่ไม่ได้มีรองรับ Hi-Res ด้วยเช่นกันในระดับเสียงเดียวกันแต่ถ้าเทียบกับเรทราคาก็ถือว่าทำได้ดี แม้จะยังสู้ของชิปเสียงระดับเรือธงยังไม่ได้ก็ตาม แต่ถ้ามองในเรทของมัน แค่นี้ก็ถือว่าเพียงพอต่อการฟังเพลงคุณภาพที่ดีกว่าทั่วไปได้ชัดเจนมากนั้นเองสำหรับตัวนี้ แต่ถ้าเทียบกับรุ่น 6 ก่อนหน้าถือว่าเสียงกำลังขับทำได้ดีขึ้น

SPEAKER

GPS

ในการนำทางจากที่ใช้งานจริงและใช้แอปทดสอบเช่นเคย ก็จับได้ทั้งหมด 14 ดวง จากทั้งหมด 5w ดวง ที่อับทึบเช่นใต้ทางด่วนพวกนี้ ส่วนของกลางแจ้งจับได้ทั้งหมด 21 ดวง จากทั้งหมด 50 ดวง ใกล้ๆ กับเรือธงและรุ่นอื่นๆที่ลองกันมา และใช้งานได้ดี ส่วนการเรียกใช้งานแอป หรือ เวลาหลังจากเปิดแอป นั้นก็ทำได้ค่อนข้างไว ถือว่าทำได้แม่นยำดี ในการนำทางใครที่เน้นในเรื่องนี้รุ่นนี้แนะนำ และทำงานร่วมกับเครื่อข่าย 5G ถือว่าตอบโจทย์ได้สบายครับ

5G DUAL STANDBY 

realme 7  5G รองรับ Dual 5G SIM สามารถเชื่อมต่อ 5G ผ่านซิมการ์ดใดก็ได้เพื่อประสบการณ์อินเทอร์เน็ตความเร็วสูง นอกจากนี้ยังรองรับ 5G-CA (2CC 5G Carrier Aggregation) การนำความถี่หลายย่านมารวมกัน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและเสถียรภาพในการรับสัญญาณ และสามารถรองรับ รองรับ 12 คลื่นความถี่ 5G ทั่วโลก (n1, n3, n5, n7, n8, n20, n28, n38, n40, n41, n77, n78) เรียกได้ว่าพร้อมใช้งานทันที และใช้งานได้ทั้ง 2 ซิมครับ จากที่ทดสอบใส่ของ AIS ก็ขึ้นทันที และสามารถเลือกใช้งานได้เลย ทำการทดสอบในใจกลางเมืองเป็นแหล่งที่คนค่อนข้างหนาแน่นก็ถือว่าทำได้ไวกว่า 4G หลายเท่าตัวในแพ็คเกจเดียวกันครับพุ่ง 300+ ได้ตลอด

สำหรับการใช้งาน 5G นั้นจะเด่นๆคือ Download เพิ่มขึ้น 300 – 700 Mbps ได้แล้วแต่สถานที่และช่วงเวลานั้นๆ และ Ping น้อยลงอย่างมากครับ และ ความเร็วในบางช่วงหรือบางสถานที่ทำได้ 800+ ได้เลยทำให้การดูหนังหรือว่าโหลดข้อมูล การโอนย้ายไฟล์ต่างๆนั้นส่งผลต่อการใช้งานที่ลื่นไหลมากขึ้น เข้าดู Youtube 4K ได้แบบสบายไม่ต้องรอโหลดเลยนั้นเอง หรือจะเป็นการดู Steaming จะลื่นไหล และสามารถโหลดทำงานอย่างอื่นพร้อมกันไปได้

BATTERY

แบตเตอรี่ตัวนี้ให้มาที่ 5,000 การจัดการพลังงานมันทำได้ดีครับ และรองรับการชาร์จไว 30W Dartcharge ส่วนในการทดสอบนั้นต้องบอกว่าทั้งวันได้สบายๆเลยนะ แบตเยอะมากๆทำให้ไว้ใจได้ครับ และ จากที่ลองใช้งานหนักๆ 15 ชั่วโมง ใช้งานนำทางต่อเนื่อง 3-4 ชั่วโมงเต็มๆครับ และ เปิดเพลงไปด้วยครับ ชั่วโมงกว่า ถือว่าทำได้ดีนะ และ แบตเหลือ 30 % ครับ ซึ่งหน้าจอเปิดทั้งหมด 8-9 ชั่วโมง และ ใช้งานทั้งหมด 15 ชั่วโมงถือว่าอึดมากๆครับแต่ถ้าจอเปิดโหดๆยังได้สบายมาก และรองรับการชาร์จเร็ว 30W Dart Charge ชาร์จเต็ม 100% ในเวลา 65 นาที และเปิดใช้งาน 5G ตลอดเวลาต้องบอกกันตรงๆว่าทำได้อึดกว่าที่คิดไว้เยอะมากๆแม้จะใช้งาน 5G

GAMING

เรื่องของการทดสอบเล่นเกมรุ่นนี้ เท่าที่ได้ทดสอบก็ต้องบอกเลยว่าลื่นสุดๆ ภาพกราฟิกทำออกมาได้เนียนตา สมูทลื่นไหล เเละจัดการความร้อนได้ดี สำหรับข้อสังเกตอาจจะมีเเค่เรื่องของการเล่น ROV จะสามารถเล่นได้เพียงเเค่ 30 FPS เท่านั้นอาจจะต้องรออัปเดตจากตัวเกมนิดนึง ส่วนการเล่นเกมต่อเนื่อง 1 ชั่วโมง แบตจะลดไป 13% ส่วนความร้อนสูงสุดที่วัดได้ จะอยู่ที่ 44 องศา กับห้องปกติ

CAMERA

สำหรับตัวกล้องนั้นต้องบอกว่าในรุ่นนี้ให้มาค่อนข้างครบ 4 ตัวพร้อมกับเลนส์หลักที่ให้มา 48MP โดยจะใช้งานเซนเซอร์  Samsung S5KGM1ST มีความสามารถเปิดรับแสงได้ดีและมาพร้อมกับรูรับแสง f / 1.8 ส่วนในเลนส์มุมกว้างนั้นเป็น ระยะที่คุ้นเคยที่ 119 องศา พร้อมกับ ความละเอียด 8MP f/2.3 และน่าจะเป็นเลนส์ที่คุ้นเคยกันในหลากหลายรุ่นของทาง realme ส่วนเลนส์ มาโคร ระยะใกล้ใส่เข้ามาที่ 4 เซนติเมตร ในความละเอียด 2MP f/2.4 พร้อมกับเลนส์ จับระยะ ขาวดำ 2MP f/2.4 เช่นเดียวกัน ส่วนในเรื่องของฟีเจอร์การถ่ายภาพ ทั้งโหมดกลางคืน Nightscape รวมถึง Portrait ยังคงมีมาให้ใช้งานแล้วเรื่องของคุณภาพนั้นถือว่าดีเอาเรื่องในการใช้งานถ่าย ละลายหลังในหลายๆสภาพแสง อีกทั้งโหมดกลางคืนของค่ายนี้ถือว่าทำแสงสีได้สวยงามพอสมควรครับ แต่เลนส์มุมกว้างอาจจะไม่ได้เด่นมากเท่าไรนัก และ มาโครเนื่องจากความละเอียดค่อนข้างน้อยเลยอาจจะใช้งานจริงไม่ได้เท่าไรครับ แต่ถ้าในแง่ของการใช้งานทั่วไปจริงๆ เลนส์หลัก มุมกว้าง ในเวลากลางวัน กลางคืนนั้นถือว่าเพียงพอต่อการใช้งาน

PORTRAIT 

SELFIES

กล้องหน้าความละเอียด 16 ล้านพิกเซล พร้อมรูรับแสง F2.1 กล้องหน้าในรุ่นนี้ยังคงใช้งานกล้องหน้าเจาะรูมุมซ้าย เป็นความละเอียดที่หลากหลายคนนั้นคุ้นเคยกันในรุ่นก่อนและอาจจะเป็นเลนส์ตัวเดียวกับในรุ่นอื่นๆของค่ายนี้ด้วยเช่นกันครับ มุมมองของภาพนั้นถือว่าระยะกลางๆ รวมถึงคุณภาพนั้นเพียงพอต่อการใช้งานและสามารถถ่ายได้ค่อนข้างดีครับทั้งกลางวันหรือแสงน้อย แอบรู้สึกว่าเลนส์กล้องนั้นทำได้ดีและ Software นั้นประมวลผลของภาพนั้นถือว่าเก็บแสงได้ดี และจับการ สกินโทนได้ดีครับ หรือว่าจะเป็นการย้อนแสงอะไรนั้นก็ถือว่าใช้งานได้ดี และมี Portrait ใส่มาให้ใช้งานด้วยเช่นกัน และ AI Beauty Mode รุ่นนี้ก็ยังคงปรับแต่งได้หลากหลายและเนียนตาสวยงามเช่นเดิมครับ

VIDEO

realme 7 5G

” น้องเล็ก เด่นที่ 5G พร้อมใช้งาน แบตอึด จอลื่น และ ประสิทธิภาพที่เกินราคา “

ต้องบอกเลยว่าเป็นอีกครั้งที่มือถือในเรทราคาต่ำกว่าหมื่นเริ่มเข้ามาในตลาดมากขึ้นและในไทยก็ต้องบอกเลยว่ามีหลากหลายตัวเข้ามาแต่ทางด้าน realme นั้นเป็นอีกค่ายใที่ลุยตลาดมือถือในเรทราคาคุ้มมาโดยตลอดทั้งเรื่องของสเปคกล้อง หน้าจอที่มีความลื่นไหล หรือจะเป็นการทำราคาเทียบกับสเปคที่ให้มานั้นเหลือๆในการใช้งาน และทางด้าน realme7 5G  ก็เป็นอีกรุ่นที่รองรับใช้งาน 5G Dual Stanby และ มาพร้อมกับหน้าจอ 120Hz ด้วยเช่นกันเน้นเรื่องของความลื่นไหลต่างๆมากขึ้น และ CPU MTK Dimensity 800U ตัวล่าสุดทำให้รองรับการใช้งาน 5G และได้เรื่องของแบตที่ค่อนข้างอึดมากๆในการใช้งานจริงแม้จะเปิด 5G ตลอดเวลาก็ตามครับเรียกได้ว่าจัดการได้ดีทำให้ในภาพรวมนั้นขอบอกเลยว่าเป็นอีกรุ่นที่รองรับ 5G ที่ทำราคาออกมาได้คุ้มค่าและสเปคใช้งานได้ดีในภาพรวม

ข้อดี

  • ชาร์จเร็ว 30W Dart Charge ชาร์จเต็ม 100% ในเวลาเพียง 65 นาที
  • หน้าจอ 120Hz IPS LCD คุณภาพดี ลื่นไหล และสู้แสงได้
  • มาพร้อมการรองรับ 5G Dual Stanby ใช้งานได้เร็วต่อเนื่องมากขึ้น
  • MTK Dimensity 800U 5G ทำได้ดีกว่าที่คิด
  • แบตระยะเวลาการใช้งานทำได้ดี อึดทั้งวัน แม้จะใช้งาน 5G ทั้งวัน
  • กล้องหลัง คุณภาพภาพรวมจัดการได้ดีทั้งวีดีโอ และ ภาพนิ่่ง
  • งานออกแบบฝาหลัง โดดเด่นและสวยงาม glasses-free 3D

ข้อสังเกต

  • ถาดซิมไม่ใช่ Triple Slot
  • หน้าจอ LCD แต่ได้ 120Hz มาแทน

สำหรับรีวิวนี้ผมก็ต้องขอตัวลาไปก่อนสำหรับรุ่นอื่นๆก็ติดตามกันได้เลย ถูกใจฝากกดไลค์กดแชร์ด้วยนะครับ  มีข้อผิดพลาดประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ  เพื่อนๆสนใจอยากให้พวกผมรีวิวรุ่นไหนสามารถ Inbox มาบอกเราได้เลยนะ
ฝากไลค์เพจ FACEBOOK เราด้วยนะครับ >>>>>>>>>  TECHHANGOUT

เข้าร่วมกลุ่ม TECHHANGOUT พูดคุยแลกเปลี่ยน ข้อมูล คุยกันเองชิลๆได้เลยที่ — Facebook  Techhangout พูดคุย Smartphone gadget 

Review by Nineztr 

Comments กันได้เลย !

Comments

0 Shares