POCO นั้นถือว่าเป็นแบรนด์ที่ค่อนข้างรู้จักกันดีตั้งแต่รุ่นแรกๆที่เปิดตัว และมีสเปกต่อราคาที่คุ้มค่าอย่างมากจนต่อเนื่องมาเรื่อยๆจนถึงรุ่น X3 NFC รุ่นล่าสุดที่มาพร้อมกับสเปกที่จัดเต็มในเรทราคาที่ดีเช่นเดิม อีกทั้งยังใส่ในเรื่องของ สเปกกล้องที่เน้นๆ64MP รวมถึงงานออกแบบวัสดุที่ดูดีขึ้นเยอะ และในแง่ของ CPU ยังใส่ Snapdragon 732G ให้มาด้วยอีกทั้งยังมาพร้อมกับ การชาร์จไว 33W ถือว่าดูดีในการใช้งานของมือถือเรทประมาณนี้ และแถมที่ชาร์จมาให้ในกล่อง ทางด้านงานออกแบบทาง POCO เองพยายามฉีกงานออกแบบไม่ให้เหมือนค่ายอื่นหรือมีการเปลี่ยนแปลงจากเดิมเยอะขึ้น ถือว่าแปลกใหม่และไม่เหมือนใครไม่อิงงานออกแบบคนอื่นและกล้าที่จะออกแบบมากขึ้นถือว่าเป็นจุดที่ดี อีกทั้งในไทยก็เปิดตัวได้ไวและนำเข้ามาขายตามจากเมืองนอกมาติดๆทำให้ได้ใช้งานกันทันใจ และเท่าที่ทดสอบมานั้นถือว่าทำออกมาน่าเล่นอีกรุ่นและในการใช้งานจริงถือว่าสบาย รวมถึงคุณภาพกล้องนั้นทำได้ดี

POCO X3 NFC รุ่นใหม่ที่เป็นสมาร์ทโฟนรุ่นกลางที่มาพร้อมหน้าจอ 6.67 นิ้วที่มีรีเฟรชเรทสูงสุด 120Hz และความถี่การตอบสนอง 240Hz ส่วนภายในตัวเครื่องจะใช้ชิปประมวลผล Snapdragon 732G ที่มาพร้อม RAM 6GB และมีระบบระบายความร้อนแบบ liquid cooling 1.0 Plus อีกทั้งยังมีท่อนำความร้อนและแผ่นแกรไฟต์คู่ ที่ลดอุณหภูมิลงได้ถึง 6 องศาเซลเซียส กล้องหลังของ POCO X3 NFC มาพร้อมกล้องหลัง 4 ตัวประกอบด้วย กล้องตัวหลัก 64MP ที่ใช้เซนเซอร์ Sony IMX686 + กล้องมุมกว้าง 8MP + กล้องมาโคร 2MP + กล้องสำหรับถ่าย Portrait 2MP ส่วนกล้องหน้ามีความละเอียด 20MP ตัวเครื่องจะมาพร้อมเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่อยู่ด้านข้างตัวเครื่อง และมาพร้อมแบตเตอรี่ความจุ 5,160 mAh ซึ่งรองรับชาร์จเร็ว 33W ที่สามารถชาร์จแบตได้ 62% ในเวลา 30 นาทีและชาร์จแบตได้ 100% ในเวลา 65 นาที ซึ่งถือว่าค่อนข้างน่าสนใจอย่างมากเลยทีเดียวในเรทราคานี้

POCO X3 NFC เปิดตัวในไทยมาที่ 6,999 บาท พร้อมกับสี น้ำเงินและสีดำ ในสเปก RAM 6 GB STORAGE  64 GB  และ 7,999 บาท RAM 6GB STORAGE 128GB

UNBOX

  • ตัวเครื่อง POCO X3 NFC
  • เคสใส TPU
  • หัวชาร์จ 33W
  • สาย USB-C
  • คู่มือ และ ที่จิ้มซิม
  • ฟิลม์กันรอยติดมาให้แล้วบนหน้าจอ

ตัวเคสนั้น ทำออกมาได้กระชับและมีความหนาเหมือนกับรุ่นก่อนหน้าครั้งนี้เหมือนจะทำวัสดุออกมาได้ดีกว่าเดิมนิดนึงครับตัวเคสเป็นสีใสปกติ ตัวขอบกินเข้ามาบนหน้าจอ และมีความหนาสูงเท่ากันกับหน้าจออาจจะไม่ปกป้องเท่าไร ทำให้เวลาวางอะไรนั้นไม่ได้ปกป้องเท่าที่ควรทั้งหน้าและหลัง ส่วนวัสดุหนากำลังดี และมี จุกปิดพอร์ตมาให้ สำหรับช่องชาร์จ USB-C ถือว่าปกป้องได้ระดับนึง แต่ตัวป้องกันหน้าจอและเลนส์กล้องนั้นจะไม่มีขอบพิเศษมาให้ คือจะปกป้องหน้าจอ หรือ เลนส์กล้องไม่ได้เลยนั้นเอง คือมันจะออกแบบมาเวลาวางคว่ำได้ไม่โดนเลนส์แต่ไม่ได้สูงออกมาเยอะมากเท่าไรนัก ที่จริงน่าจะมีขอบหนาขึ้นมากว่านี้ในการใช้งานน่าจะช่วยได้มากกว่านี้พอสมควร อาจจะไม่สามารถปกป้องหน้าจอได้เวลาวางคว่ำได้เท่าไรนัก ตัวขอบเคสมันไม่ได้มีความนูนสูงอะไรขึ้นมาแบบเยอะอะไร แต่ยังดีที่ตามมุมเหมือนจะหนาขึ้นมานิดหน่อย มีการนูนขึ้นรอบๆและทำมุมพิเศษทั้ง 4 มุมครับ ส่วนด้านหลังตรงกล้องนั้นมีนูนขึ้นมาตามความนูนของโมดูลกล้องแต่ก็ไม่ปกป้องเลนส์กล้องหลังได้ดีเท่าที่ควร เวลาวางคว่ำพื้นผิวเรียบๆก็พอกันได้แต่ถ้าใช้งานติดฟิล์มอะไรเข้าไปก็จะนูนมาป้องกันไม่ได้ แต่ก็พอใช้งานชั่วคราวได้

DESIGN

งานออกแบบถือว่ามีความแตกต่างจากคู่แข่งตัวอื่นๆรวมถึงแตกต่างกับรุ่น 2พอสมควรแม้จะยังคงอิงดีไซน์กล้องมีเส้นรสายวงกลมแต่การเปลี่ยนการวางกล้องอะไรนั้นเปลี่ยนแปลงชัดเจนมีความกล้าออกแบบมากขึ้นไม่ตามคู่แข่งแบบค่ายอื่นๆอันนี้ขอชม วัสดุงานออกแบบดูดีพอสมควรแต่มีความหนานิดหน่อยและกล้องหลังแอบนูนอยู่บ้าง ฝาหลังโลโก้เด่นสวยงามเล่นกับแสงสีได้ดีพอประมาณแม้จะเป็นพลาสติกก็ตาม รวมถึงมีความหนา9.4mm.และหนัก 215g ส่วนความแน่นความเนียนในงานประกอบถือว่าพัฒนาดีขึ้นมาเรื่อยๆสำหรับแบรนด์นี้แม้จะเป็นวัสดุพลาสติกก็ตาม

หน้าจอ LCD ขนาด 6.67 นิ้ว (1080 × 2400 พิกเซล) Full HD+ อัตราส่วน 20:9 ที่มีรีเฟรชเรท 120Hz, HDR10, ใช้กระจก Gorilla Glass 5 พร้อมกับติดฟิล์มกันรอยมาพร้อมใช้งาน ดีไซน์ขอบหนาตามระดับราคานี้

ขอบเครื่องด้านล่างนั้นจะเห็นว่ามีความหนามากกว่าส่วนอื่นๆนิดหน่อย ส่วนทางด้านการควบคุมนั้นสามารถใช้งานทั้งแบบเต็มจอ และ แบบปุ่มในภาพได้ครับ จะเห็นว่าตัวหน้าจอนั้นจะมีฟิล์มติดมาให้อยู่เป็นพลาสติกปกติ

ขอบเครื่องด้านบน ทำได้ค่อนข้างบางมาก พร้อมกับหน้าจอแบบเจาะรู พร้อมกล้องหน้า 20MP และ แทรกลำโพงอยู่ตามขอบ รวมถึง จะเห็นสถานะไฟแจ้งเตือนแทรกอยู่ ไฟ LED ขาว และ ตรงเซนเซอร์อะไรก็แทรกไว้ทั้งหมดเลย

ขอบเครื่องด้านบนอันนี้ถือว่าน่าสนใจเพราะให้มาทั้งเรื่องของไมค์ตัดเสียง และไมค์อีกตัวสำหรับการเก็บเสียง รวมถึงรองรับการใช้งาน IR หรือการสั่งงานเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ใช้งานได้จริงมากๆ ระบบนี้ค่ายนี้ยังคงใส่เข้ามาให้ด้วยเช่นกัน

ในด้านล่างเราจะเห็นลำโพงหลักตัวแรกในด้านซ้ายสุดพร้อมกับ ไมค์อัดเสียง และ รู USB-C รวมถึงรู 3.5มม.ก็ยังใส่เข้ามาให้ไม่ได้ตัดออกไปไหนหรือว่าค่อนข้างดีเลยทีเดียวและเป็นรุ่นที่มาพร้อมกับลำโพงคู่ด้วยนะในเรทราคานี้

ขอบเครื่องทางด้านขวานั้นจะเป็น ปุ่มเพิ่ม-ลดเสียง และมาพร้อมกับ ปุ่ม POWER พร้อมการรองรับสแกนนิ้วไปในตัว ปุ่มนั้นจะสามารถกดลงไปได้เป็นปุ่มปกติ และสแกนนิ้วได้แบบสัมผัส ตัวเครื่องมีความหนาอยู่ระดับนึงเลยนะ

ขอบเครื่องด้านซ้ายนั้นจะเป็นที่อยู่ของถาดซิมแบบ Hybrid Slot พร้อมกับรองรับการเพิ่ม Micro-SD แน่นอนว่าถาดซิมนั้นมียางซีลกันน้ำมาให้ด้วยสำหรับการป้องกันน้ำกระเด็นพวกนี้รองรับ IP Rating  53 กันน้ำกระเด็นได้

ทางด้านกล้องหลังนั้นดีไซน์เหมือนจะพยายามทำให้กลม แต่ก็ยังไม่กลมซะทีเดียวเพราะเดี๋ยวจะเหมือนกับค่ายอื่นเลยทำให้มีการเปลี่ยนแปลงดีไซน์ไม่ให้กลมมากนัก ตัวกล้องเลนส์หลักวางตรงกลางพร้อมอีก 3 ตัวล้อมรอบ แอบแปลกๆนิดหน่อยแต่มองนานๆก็น่าจะชินกัน มาพร้อมกับ  กล้องหลัง AI 4 ตัวความละเอียด 64 ล้านพิกเซล ถ่ายวิดีโอความละเอียด 4K ได้ถึง 30 เฟรมต่อวินาทีเลนส์หลัก ความละเอียด 64 ล้านพิกเซล ขนาด 6μm ซุปเปอร์พิกเซลแบบ 4-in-1 เลนส์อัลตร้าไวด์ (ultra-wide) ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล มุมมอง 119 องศา เลนส์มาโคร (Macro) ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล เลนส์ depth ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล ค่อนข้างครบในการถ่าย

ทางด้านฝาหลังมีการเล่นลวดลายสวยงาม ตรงกลางคล้ายๆกับมีพื้นผิวพิเศษแต่จริงๆนั้นจะเป็นซ่อนลายอยู่ข้างในพร้อมกับโลโก้เด่นๆ POCO แนวนอนค่อนข้างชอบการใช้โทนสีและออกแบบพอสมควรคือแตกต่างกับมือถือในเรทนี้ของคู่แข่งมากๆ และแม้จะเป็นพลาสติกแต่ก็ออกแบบเงาสวยและสะท้อนได้ดีพอสมควรเลย เล่นกับแสงสวยงาม พร้อมกับการออกแบบวงกลมตรงกล้องก็ทำให้ดูสมกับขนาดของตัวเครื่องอยู่เหมือนกันและขอบก็โค้งรับมือได้ดี

SPEC

  • หน้าจอ LCD ขนาด 6.67 นิ้ว (1080 × 2400 พิกเซล) Full HD+ อัตราส่วน 20:9 ที่มีรีเฟรชเรท 120Hz, HDR10, ใช้กระจก Gorilla Glass 5
  • ชิปเซต Snapdragon 732G 8nm ที่มาพร้อมการ์ดจอ Adreno 618
  • RAM LPDDR4X 6GB + storage (UFS 2.1) 64GB / 128GB
  • Android 10 ที่ครอบด้วย MIUI 12
  • ซิมคู่แบบ (nano + nano / microSD)
  • กล้องหลัง 64MP (f/1.89) ที่ใช้เซนเซอร์ Sony IMX682, LED Flash + กล้องหลังมุมกว้าง 119° 13MP (f/2.2) + กล้องตรวจจับความลึก 2MP + กล้องมาโครขนาด 4cm 2MP (f/2.4)
  • กล้องหน้า 20MP (f/2.2)
  • ปุ่มสแกนนิ้วด้านข้าง, เซนเซอร์อินฟราเรด
  • รูแจ็ค 3.5mm, ลำโพง Stereo
  • ตัวเครื่องกันละอองน้ำ (มาตรฐาน IP53)
  • ขนาดตัวเครื่อง: 165.3×76.8×9.4mm; น้ำหนัก: 215กรัม
  • รองรับ Dual 4G VoLTE, Wi-Fi 802.11 ac (2.4GHz + 5GHz), VoWiFi, Bluetooth 5, GPS/GLONASS/Beidou, NFC, ใช้พอร์ต USB Type-C
  • แบตเตอรี่ความจุ 5,160 mAh ที่รองรับชาร์จเร็ว 33W

PERFORMANCE

ทางด้านประสิทธิภาพนั้นต้องบอกว่าตัวนี้ใช้งานคุ้มค่าคุ้มราคาพอสมควร ใช้งาน Snapdragon 732G  พร้อมกับ RAM 6GB  LPDDR4X  ทำงานได้ค่อนข้างดีเลยแหละ ทางด้านน่วยความจำนั้นเป็นแบบ UFS 2.0 อ่านได้ประมาณ 496MB/s และเขียนได้ 178 MB/s และได้คะแนน Antutu ไปที่ 278752 คะแนนครับถือว่าแรงเอาเรื่อง และทางด้าน Geekbench ทำไปได้ 559 /1754  และแน่นอนว่าการดูหนัง NETFLIX นั้นรองรับการใช้งาน FHD ความละเอียดสูงสุด DRM L1 เลยแหละ เมื่อเทียบกับราคากับสเปกที่ให้มาในเรทแค่ 6-7 พันเท่านั้นถือว่าเกินพอ

SYSTEM UI 

หน้าตาระบบใช้ MIUI 12 ทับด้วย Poco ที่คุ้นเคยกันดีพร้อมกับ Android 10 ตัวล่าสุด หน้าตานั้นคุ้นเคยกันอย่างดี หน้าตาแอปยังคงมาในแนวแบนๆ เรียบๆ แอปติดเครื่องเยอะตามแบบของ Xiaomi และ มีโฆษณาแฝงตามแอปมาให้เหมือนเดิม ต้องไปไล่ปิด ข้อเสนอแนะเอาแต่ละแอป ส่วนเรื่องของการแจ้งเตือนทำได้ดี มีเลขมุมแอปมาให้และรองรับภาษาไทยปกติ สำหรับเครื่องศูนย์ของ Xiaomi ถือว่าแจ้งเตือนดีอยู่เหมือนกัน สวยงามเลย

หน้าตาตัวการตั้งค่าอะไรก็ สามารถปรับแสงหน้าจออะไรได้ ตั้งค่าแบบด่วนต่างๆ รวมถึงถ้าลากลงมาสามารถปัดหน้าไปซ้ายขวา ได้ และ แบ่งหน้าจอ เคลียร์แอปอะไรได้ปกติ ใช้งาน 2 หน้าจอพร้อมกันได้เลยเลือกแอปเอาเลย

หน่วยความจำ 64 GB  พื้นที่ระบบกินไป 15GB เหลือใช้งานจริงประมาณ 49 GB  ส่วน RAM 6 GB ตัวนี้ใช้งานไป 4.6 ครับ เหลือใช้งานได้ 1.4 GB เหลือๆสบายๆ ส่วนแป้นพิมพ์ของเดิม Google มาใช้งานกันละกัน พิมพ์ไทยได้สบาย เป็นคีย์บอร์ดที่บอกในทุกรีวิวว่าค่ายไหนติดมาให้แบบนี้จะชอบมากๆเลยแหละ

ในส่วนของการตั้งค่าเพิ่มเติมนั้นจะเป็นการเข้าถึง ไฟสถานะบนตัวเครื่อง ปุ่มลัดต่างๆรวมถึง โหมดใช้งานเต็มหน้าจอที่สามารถเลือกได้เป็นต้น อีกทั้งในแอปนั้นรองรับการตั้งค่าต่างๆเพิ่มเติม การโคลนแอป รวมถึงล็อกแอปได้ด้วยอีกทั้งในการนำทางปุ่มต่างๆนั้นรองรับการใช้งานแบบทั่วไป หรือจะใช้งานแบบเต็มหน้าจอได้ด้วยเป็นท่าทางที่คุ้นเคย

ปุ่มลักในการใช้งานต่างๆนั้นจะเป็นท่าทางเปิดหน้าจอก็รองรับได้ค่อนข้างเยอะมากๆ ในการใช้งานนั้นจะเป็นเหมือนรุ่นอื่นๆของค่ายนี้ ส่วนฟีเจอร์พิเศษทั้งเรื่องของ Game turbo ยังคงมีมาให้และแน่นอนว่า การเปิด Overlay ต่างๆและ การปรับวีดีโอก็สามารถปรับได้ รวมถึงหน้าจอก็รองรับการเปลี่ยน60 กับ 120Hz ได้พร้อมปรับโหมดมืด และ โทนสีของหน้าจอได้ด้วยนั้นเอง

SCREEN

ทางด้านหน้าจอนั้นในรุ่นนี้มาพร้อมกับการออกแบบหน้าจอแบบเจาะรู มาในขนาด 6.67 นิ้ว. ความละเอียด FHD+ (2400 x 1080 พิกเซล) อัตราส่วน 20:9 ใช้งานหน้าจอแบบเจาะรูตรงกลางครับ ใช้กระจก GORILLA GLASS 5 พร้อมความสว่างสูงสุด 450 Nits รองรับ HDR 10 รวมถึง NTSC 84%  ส่วนทางด้าน CONTRAST 1500:1 แน่นอนว่าเรื่องหน้าจอนั้นการแสดงผลอะไรทำได้สวย และสู้แสงกำลังดีอาจจะไม่ได้โหดมากนักแต่ก็พอใช้ได้ แต่ถ้าเจอแสงโหดๆอาจจะไม่สุดเท่าไรและใช้งานไม่เด่นนักแอบเสียดายอยู่นะ แสงสีหน้าจอสวยมีมิติ ใช้กระจกดี ขอบบางสวยงามและในรุ่นนี้มีการปรับใช้งาน 120Hz ทำให้ใช้งานค่อนข้างลื่นไหลพอสมควรเลยทีเดียว

ในเรื่องของมุมมองหน้าจอนั้นถือว่าดีขึ้นด้วยการที่ใช้งานหน้าจอแบบนี้และพัฒนามาแบบนี้แน่นอนว่าเรื่องของมุมมองนั้นทำได้ดีกว่าเดิมแบบชัดเจนและใช้งานได้ดี ส่วนเรื่องของการสู้แสงนั้นทำได้ดีระดับนึงดีกว่าเดิม สู้แสงได้ดี  ส่วนการสู้แสงจ้ามากๆอาจจะไม่ได้โหดมากนัก แต่ก็เพียงพอต่อการใช้งานทั่วไปเลย และในครั้งนี้ได้ใช้งานหน้าจอแบบ 120Hz แล้วเปลี่ยนตามคู่แข่งพอสมควรทำให้มีความืลื่นไหลในการใช้งานได้ดีสัมผัสติดนิ้วได้ไว และรองรับการดูคอนเทนต์ที่มีความลื่นไหลมากขึ้น หรือจะเป็นการเลื่อนใช้งานก็รู้สึกแตกต่างแน่นอน แต่การใช้งานหน้าจอ IPS LCD แบบนี้ก็จะดรอปลงไปในเรื่องของการสู้แสง มุมมอง และการแสดงผลสีดำที่ไม่สะใจเท่าหน้าจอ AMOLED

ในแง่ของการใช้งานหน้าจอ 120Hz ถือว่ารองรับได้สบายๆครับในการใช้งานทั้งเรื่องของการเลื่อนดูภาพต่างๆหรือจะเป็นการทำงานทั่วไปและเล่นเกมแต่ก็ต้องมีเกมที่ออกมารองรับนั้นจะเหมาะกว่าพอสมควรเลยแหละแต่ก็สามารถปรับได้ว่าจะเอา 60 หรือ 120 ในเรื่องของการกินไฟนั้นไม่ได้มีผลแบบชัดเจนอะไรนักปรับ 120 ไว้ก็จะดีกว่านั้นเองเท่าที่ทดสอบนั้นไม่ได้แตกต่างกันชัดมากนัก แต่ความรู้สึกเวลาใช้งานนั้นแตกต่างกันชัดเจนเปิดไว้ย่อมดีกว่า แต่บางทีก็แอบเสียดายว่าถ้าเป็นจอ 60 AMOLED ก็จะได้แสงสีเด่นขึ้น สู้แสงได้มากก็ต้องยอมแลกเปลี่ยนกันไป

FINGERPRINT 

สแกนนิ้วนั้นเนื่องจากในรุ่นนี้ปรับมาใช้งานสแกนนิ้วในด้านข้าง เพราะว่าหน้าจอนั้นเป็นแบบ IPS LCD เลยทำให้สแกนนิ้วบนหน้าจอไม่ได้ครับต้องปรับมาใช้งานตรงขอบเครื่องนั้นเองทำให้การใช้งานอาจจะต้องปรับตัวกันนิดนึง แต่ถ้ามองในแง่คนถนัดขวาการสแกนนิ้วแบบนี้ก็ทำได้ดีพอดีกับนิ้วโป้งของเราเลย รองรับการสแกนนิ้วได้ทันทีและสัมผัสใช้งานได้เลยพร้อมกับเวลากดปุ่มเปิดเครื่อง ส่วนการรองรับก็เป็นเหมือนรุ่นปกติ แต่เวลาอ่านนั้นทำได้ไวเอาเรื่อง

SOUND

ในเรื่องของคุณภาพเสียงที่ได้นั้นต้องบอกว่ามีดีที่กำลังขับมากขึ้น แต่คุณภาพเสียงยังอยู่ในระดับทั่วไปธรรมดาเลยเพราะว่าเสียงยังคงไม่ครอบคลุมเท่าไรในหลายๆย่านเสียงยังคงมีความโดดของเสียงบางย่านแบบชัดเจน แน่นอนว่าตามด้วยเรทราคาของมันอาจจะไม่ได้ใส่ตัวเสียงเทพเข้ามา และสู้ของรุ่นพี่ไม่ได้นั้นเอง แต่ถ้าจะเน้นเรื่องเสียงมากๆ หรือชอบฟังเพลงตัวนี้ก็ยังไม่ค่อยตอบโจทย์เท่าไร จะเด่นแค่กำลังขับ ส่วนเสียงย่านแหลมยังเด่นจัดเกินไปหน่อย และ มิติเสียงยังธรรมดาครับสำหรับเจ้า POCO X3 NFC ตัวนี้พอฟังทั่วไปได้แต่ไม่ได้เน้นมาก

SPEAKER 

ทางด้านลำโพงในรุ่นนี้ถือว่าเป็นอีกรุ่นที่ใส่ลำโพงคู่มาด้วย ถือว่าทำราคาและสเปกมาได้ดีมากๆในแง่ของเสียงลำโพง ลำโพงในรุ่นนี้วางตำแหน่งบนล่างเหมือนทั่วไป พร้อมกับยิงเสียงออกซ้ายขวาเวลาถือแนวนอนได้ดี แต่แน่นอนว่าการวางลำโพงหลักแบบนี้ก็จะยังคงเสียงด้านล่างนั้นเด่นกว่านิดหน่อยเวลาถือแนวนอน แต่ก็ไม่ได้มีผลมากเพราะในปัจจุบันเราไม่ค่อยเห็นการวางลำโพงในด้านหน้าจอแล้ว จึงต้องเป็นแบบการวางแบบนี้เท่านั้นในยุคใหม่นี้ ส่วนเสียงที่ออกมาดังสะใจเหมือนกันเสียงเด่นพอสมควร และมีมิติชัดเจน แต่เสียงเบสอาจจะไม่ได้หนักแน่นเท่าไร

GPS

หลังจากที่ใช้แอปทดสอบ อย่างแรกในการนำทางจริงๆนั้นก็ไม่เจอปัญหาอะไรเท่าไรนัก แต่จะมีบางจังหวะที่ลงอุโมงค์ หรือ ที่ทึบๆทำให้ต้องหาสัญญาณกันใหม่ และอาจจะมึนๆไปบ้างในช่วงเปิดแรกๆ แต่ถ้าจับติดแล้วก็ติดอยู่สบายไม่หายไม่นิ่ง ส่วนในการจับสัญญาณ ภาพกลางเป็นการทดสอบในที่ใต้ทางด่วนจับได้ 18 จาก 42 และ ที่กลางแจ้งจับได้ 22 จาก 42 ในที่กลางแจ้งบนถนนปกติครับ ซึ่งก็ถือว่าจำนวนในการจับได้และเจอนั้นไม่แตกต่าง

BATTERY 33W

ทางด้านแบตในรุ่นนี้มาพร้อมกับความจุ แบตเตอรี่ 5,160 mAh รองรับชาร์จไว 33W ถือว่าความจุแน่นๆจัดเต็มอย่างมากและให้ชาร์จไวมาด้วย ที่แถมในกล่องให้มาที่ 33W เต็มที่เลยไม่ต้องซื้อเพิ่ม และ ในแง่ของการใช้งานด้วยสเปกอะไรในส่วนของ CPU จริงๆเท่าที่ลองนั้นบอกเลยว่าโหดมากจริงๆครับใช้งานหนักหน่วงมากๆในการทำงาน เล่นเกม ฟังเพลงทั้งหมดใช้งาน 14 ชั่วโมง หน้าจอเปิด 5 ชั่วโมง แบตเหลือ 25% เท่านั้นคือมันอึดมากๆ ในการใช้งานจริงแอบแปลกใจเลยแหละ ถ้าใครเน้นในการใช้งานตัวนี้ทั้งวันแบบสบายไม่ต้องพกที่ชาร์จไปอะไรเลย จัดการเรื่องพลังงานได้ดีกว่าที่คิดและชาร์จได้ไวเอาเรื่องเลย เรื่องของแบตอึดใช้งานทั้งวันรุ่นนี้บอกเลยว่าตอบโจทย์ และสามารถชาร์จเต็มได้ภายใน 65 นาที หรือ 1 ชั่วโมงนิดๆเท่านั้น ในเรื่องของการชาร์จไฟเข้านั้นถือว่าไวมากๆเลย

GAME TEST 

เรื่องของการเล่นเกมต้องบอกรุ่นนี้เมื่อเทียบกับราคาสุดจัดมากๆ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดภาพกราฟฟิกในระดับต่างๆ เรื่องของค่า FPS ความร้อน ทำออกมาได้ดีสุด อีกทั้งในรุ่นนี้ยังใส่ในส่วนของลำโพงคู่มาให้ เวลาเล่นเกมฟินสุดๆ ส่วนเรื่องของแบตเตอรี่เล่นต่อเนื่อง 1 ชั่วโมงเเบตลดประมาณ 13% ในส่วนของอุณภูมิอยู่ร้าวๆ 40 องศา เอาเป็นว่ามาดูคลิปทดสอบกันดีกว่า

CAMERA

ในด้านกล้องหลังนั้นถือว่าจัดเต็มเอาเรื่องพอสมควรทั้งในแง่ของสเปก และจำนวนกล้อง เป็นเลนส์หลักที่ใช้งาน 64MP (f/1.89) ที่ใช้เซ็นเซอร์ Sony IMX682, LED Flash + กล้องหลังมุมกว้าง 119° 13MP (f/2.2) + กล้องตรวจจับความลึก 2MP + กล้องมาโครขนาด 4cm 2MP (f/2.4)  ถือว่าในแง่ของสเปกนั้นถือว่าเหลือๆในการใช้งานพร้อมกับมีทั้งเรื่องของโหมดเยอะแยะมากทั้งการถ่าย ละลายหลัง การถ่ายกลางคืนต่างๆรวมถึงการใช้งานถ่าย วีดีโอที่มีโหมดเข้ามาเยอะแยะมากขึ้น หรือจะเป็นการปรับแต่งหลังถ่ายด้วยเช่นกันสำหรับทาง POCO X3 NFC รุ่นนี้ถือว่ารองรับได้สบายๆไม่มีปัญหา ส่วนคุณภาพนั้นถือว่าใช้งานได้ดีเลยทีเดียว ทั้งในแง่ของเลนส์หลักและเลนส์มุมกว้าง โหมดกลางคืนถือว่าทำได้ดีรองรับการใช้งานได้ดีถ่ายง่ายและสวย แต่เลนส์มุมกว้างไม่รองรับการถ่ายโหมดกลางคืนครับ ถ้ามองในเรทนี้ก็ถือว่าไม่ได้น่าเกลียดครับ ส่วนการละลายหลังยังคงมีความแปลกๆนิดหน่อยในแง่ของระยะ แต่ถ่ายทั่วไปและกลางคืนถือว่าโอเคเลยทีเดียว ส่วนเลนส์หลักสามารถถ่ายได้ง่าย โฟกัสไว สวยจบในตัว

PORTRAIT 

NIGHTMODE 

SELFIES

กล้องหน้าให้มาที่ความละเอียด 20MP (f/2.2) ให้มาเลนส์เดี่ยวตรงกลางเป็นหน้าจอแบบเจาะรูครับในแง่ของมุมมองของตัวกล้องระยะมุมกว้างอันนี้ถือว่าทำได้ดีในระยะที่พอใช้งานได้ดีครับยืดแขนไม่ต้องสุดมากก็สามารถรองรับการใช้งานได้ดีเห็นทั้งบริเวณไหล่และลำตัวจุดนี้ทำได้ดีเลยทีเดียว มาพร้อมกับโหมดการถ่ายทั้งเรื่องของการละลายหลังอะไรใส่มาให้ครบพร้อมใช้งาน และยังคงมีการแต่งหน้ามาให้ด้วย แต่ในเรื่องของการถ่ายภาพจริงๆในแง่ของโทนสี ความแม่นยำ คุณภาพกล้องหน้ารุ่นนี้ไม่ได้เด่นเท่าไรเมื่อเทียบกับค่ายอื่นด้วยกันที่เน้นกล้องหน้า ทั้งความสว่าง ความเนียนและโทนสีของผิวนั้นทาง POCO นั้นยังคงไม่ได้เด่นเท่าไรครับจุดนี้ รวมถึงการละลายหลังยังคงแปลกๆ

VIDEO 

งานวีดีโอในรุ่นนี้รองรับสูงสุดถึง 4K 30FPS ครับทำให้ในเรื่องของการถ่ายวีดีโอนั้นทำได้ดีมากๆดีกว่ารุ่นเดิมชัดเจนในเรทราคานี้ และแน่นอนว่าที่ค่อนข้างชอบคือในเรื่องของการถ่ายวีดีโอนั้นรองรับเลนส์มุมกว้างด้วยในหลายความละเอียดรวมถึง 4K30FPS ก็รองรับมุมกว้างทำให้ใช้งานได้อิสระหลากหลายพอสมควร แต่น่าเสียดายว่าไม่สามารถปรับเลนส์ขณะถ่ายวีดีโอได้เลยต้องกดหยุดและถ่ายใหม่เท่านั้น ส่วนทางด้านกันสั่นทำได้เนียนตามากขึ้น แต่คุณภาพสี หรือ เสียงอาจจะไม่ได้เด่นเท่าไรนัก แต่ยังดีที่ใส่โหมด กันสั่นพิเศษ และโหมดอื่นๆเข้ามาด้วย แต่ยังคงไม่มีการละลายหลังอะไรใส่เข้ามา ส่วนกล้องหน้านั้นได้แค่ FHD 30FPS เท่านั้นในการถ่ายวีดีโอรุ่นนี้ครับ

POCO X3 NFC

” POCO ยังคงทำได้คุ้มค่า คุ้มราคา ดีไซน์สวยงามพร้อมกับสเปคที่ใช้งานเหลือๆกับงบนี้ “

POCO นั้นถือว่าเป็นรุ่นที่ตอบโจทย์ในแง่ของคนที่ชื่นชอบในความคุ้มค่า สเปกที่ได้เทียบกับราคาได้เป็นอย่างดีเป็นค่ายที่เน้นสเปกแน่นๆ แต่ราคาจับต้องได้อีกทั้งในรุ่นนี้ยังคงมีการใส่อะไรให้มาที่มีความคุ้มค่าเช่นเดิมทั้ง Snapdragon 732G อีกทั้งยังให้ลำโพงคู่ รวมถึงทางด้านหน้าจอ 120Hz และกล้องหลัง 64MP ด้วยเช่นกัน มาให้รวมถึง 4 ตัว และในส่วนของระบบภายในอะไรก็พัฒนาขึ้นมีการใส่ตัวระบายความร้อนมาให้ดีมากขึ้นและยังให้แบตมาเยอะมากๆที่ 5,160mAh พร้อมชาร์จไว 33W ครับถือว่าเน้นคุ้มค่าใช้งานทั่วไปเลย แต่ก็มีบางจุดเช่นเรื่องของ ระบบหน้าตา Software ที่อาจจะแปลกๆนิดหน่อย กับพวกงานประกอบวัสดุพวกนี้อาจจะไม่ได้เทพเท่าไรนักเมื่อเทียบกับค่ายอื่นในเรทราคานี้หรืออาจจะเป็นวัสดุครับ เพราะว่าค่ายนี้จะเน้นเรื่องของสเปกภายในในภาพรวมครับ เลยสามารถทำราคาได้ถูกมากๆ จนสามารถจับต้องได้ในงบ 6-8 พันเท่านั้นถือว่าโหดเอาเรื่องกับสิ่งที่ให้มาในรุ่นนี้

ข้อดี

  • สเปกเทียบกับราคายังคงทำได้โดดเด่นเช่นเดิม
  • กล้องหลังทำได้ดีถ่ายง่าย และ รองรับการถ่ายที่หลากหลาย
  • การใช้งานแบตเตอร์รี่อึดมากๆใช้งานทั้งวันได้สบาย
  • หน้าจอมีความลื่นไหลสูงพอสมควร ใช้งานติดนิ้วสมกับ 120Hz
  • งานออกแบบดูสวยงามแม้จะเป็นพลาสติกก็ตาม
  • ดีไซน์มีความแตกต่าง มีเอกลักษณ์ของตัวเอง
  • ชาร์จรองรับการชาร์จไว 33W ทำงานได้ดี ไม่ต้องซื้อเพิ่ม
  • มาพร้อมลำโพงคู่ ใช้งานได้ดี ทิศทางเสียงดี
  • ทำราคาได้ดี ในงบแค่ 6-7 พันเท่านั้น

ข้อสังเกต

  • กล้องหน้ายังไม่เด่นเท่าไรนัก
  • ตัวเครื่องแอบหนาอยู่พอสมควร
  • Software ยังมีแปลกๆนิดหน่อย
  • หน้าจอไม่สู้แสงเท่าไรนัก

สำหรับรีวิวนี้ผมก็ต้องขอตัวลาไปก่อนสำหรับรุ่นอื่นๆก็ติดตามกันได้เลย ถูกใจฝากกดไลค์กดแชร์ด้วยนะครับ  มีข้อผิดพลาดประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ  เพื่อนๆสนใจอยากให้พวกผมรีวิวรุ่นไหนสามารถ Inbox มาบอกเราได้เลยนะ
ฝากไลค์เพจ FACEBOOK เราด้วยนะครับ >>>>>>>>>  TECHHANGOUT

เข้าร่วมกลุ่ม TECHHANGOUT พูดคุยแลกเปลี่ยน ข้อมูล คุยกันเองชิลๆได้เลยที่ — Facebook  Techhangout พูดคุย Smartphone gadget 

Review by Nineztr 

Comments กันได้เลย !

Comments

0 Shares