OPPO เปิดตัวตระกูล A ในไทยไปไม่นานทั้งหลากหลายรุ่นไม่ว่าจะเป็น OPPO A74 5G หรือ OPPO A94 แต่อีกรุ่นที่ต้องบอกว่าน่าสนใจไม่แพ้กันเลยทีเดียวคือน้องเล็กแต่สเปคไม่ธรรมดากับ OPPO A54 นั้นเองตัวนี้เมื่อเทียบกับราคาบอกเลยว่าทำได้ดีขึ้น มาพร้อมกับราคาในเรท 5 พันกว่าบาทแต่จะได้ทั้ง แบตอึด 5,000 mAh รองรับการใช้งานชาร์จไว 18W และเป็น USB-C รวมถึง ความจุตัวเครื่อง 128GB อีกทั้งยังมีดีไซน์ สีสันโดดเด่นเช่นเดิมในตัวเครื่องที่มีความบางเพียง8.4มม.พร้อมตัวเครื่องโค้ง3มิติที่มีความเข้ากันกับรูปแบบการวางกล้องแบบเมทริกซ์ และตัวเครื่องรองรับ IPX4 ด้วยเช่นกันรองรับการใช้งานได้สบายๆ และแน่นอนว่าแบตอึดใช้งานได้ทั้งวันแบบสบายๆ

OPPO A54 มาพร้อมกับการใช้งาน CPU MTK P35 เทคโนโลยี 12nm และ การ์ดจอ PowerVR GE8320 และ ใช้งาน RAM 4GB STORAGE 128GB พร้อมกับหน้าจอ Punch-hole display ขนาดใหญ่ 6.51 นิ้ว HD+ ในขนาดพิกเซลที่  1600×720 พิกเซล และ ใช้งาน อัตราส่วน 19:9, ความสว่าง 550nit, รีเฟรชเรท 60Hz, ความถี่การตอบสนอง 120Hz พร้อมกับ ระบบตัวเครื่องจะใช้งาน Android 10 ที่ครอบด้วย ColorOS 7.2 รวมถึงกล้องหลังนั้นให้มา 3 ตัวรองรับการถ่ายกลางคืน NightMode สเปค กล้องหลัง 13MP (f/2.2) + กล้องมาโคร 2MP + กล้อง Bokeh 2MP (f/2.4) + แฟลช LED ส่วน กล้องหน้าให้มาที่ 16MP (f/2.0) รองรับการใช้งาน เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือด้านข้าง และ สแกนใบหน้า รวมถึง ตัวเครื่องกันละอองน้ำ (IPX4) และ แบตเตอรี่ 5,000mAh รองรับชาร์จเร็ว 18W อีกทั้งเรื่องของการออกแบบสีสันสวยงามและโดดเด่นพร้อมกับหน้าจอแบบเจาะรู Punch-hole display ลงตัวในภาพรวมทั้งหมด และมีความบางในระดับ 8.4 มม. เท่านั้นในรุ่นนี้

OPPO A54 เปิดราคามาด้วยกันทั้งหมด 2 สี สีน้ำเงิน Starry Blue / สีดา Crystal Black ใน สเปค RAM 4GB STORAGE 128GB ราคา 5,699 บาทไทย 

UNBOX

ตัวกล่องดีไซน์สวยงามพร้อมกับรูปเครื่องด้านหน้าชัดเจนแน่นอนว่าสีสันโดดเด่นรวมถึงมีการบอกว่าใช้งาน RAM 4 GB STORAGE 128GB บนตัวกล่องพร้อมกับ ของที่ให้ยังคงให้มาครบๆทั้ง เคส ฟิลม์ และสายชาร์จต่างๆครับ

  • ตัวเครื่อง OPPO A54
  • ตัวเคสใส TPU
  • ฟิลม์กันรอยหน้าจอติดตั้งมาให้เรียบร้อย
  • สาย USB-C ไป USB-A
  • Adaptor ชาร์จไฟ 18W
  • คู่มือ และ ที่จิ้มซิม

ตัวเคสที่แถมนั้นยังคงทำได้ดีมาพร้อมกับการปกป้องการใช้งานได้ทั้งหน้าเลนส์และหน้าจอรวมถึงทำให้ตัวเครื่องมีความแข็งแรงมากขึ้นเป็นวัสดุนิ่มพร้อมกับสีใสครับแน่นอนว่าส่วนเลนส์กล้องก็ยังใส่เข้ามาคลุมได้ครอบคลุมทั้งหมด

DESIGN

งานออกแบบตัวเครื่องสีนี้ถือว่าสวยและโดดเด่นเป็นสีออกฟ้าก็จริงแต่ตัวเครื่องนั้นเมื่อเจอแสงอาทิตย์หรือว่าแหล่งแสงเช่นดวงไฟต่างๆนั้นต้องบอกว่าสวยงามในสี Starry Blue และตัวเครื่องนั้น มีขนาดบางเพียง 8.4 มม. และเบาเพียง 192 กรัม และฝาหลังตัวเครื่องโค้ง 3D และจับถือได้อย่างถนัดมือ อีกทั้งเรื่องของ ความแข็งแรง ความคงทนมากขึ้นด้วยงามออกแบบใหม่ทั้งหมด แต่ก็ยังสวยงามเช่นเดิม และ กล้องหลังเรียง 3 มุมในกรอบสี่เหลี่ยมได้ลงตัว และแน่นอนว่าภาพรวมการกันน้ำก็แอบรองรับ IPX4 ในการใช้งานชีวิตประจำวันทั่วไปได้สบายๆเลยทีเดียวครับ

หน้าจอนั้นจะมาพร้อมกับหน้าจอ IPS LCD HD+ ขนาด 6.51 นิ้ว ที่มาพร้อมกับอัตราส่วนหน้าจอต่อตัวเครื่องสูงถึง 89.2% และ OPPO A54 นั้น มีกล้องแบบ punch-hole ขนาดเล็ก ซึ่งจะใช้งานกล้องหน้า 16MP เป็นการออกแบบที่มีความทันสมัยมากกว่าหน้าจอ Waterdrop แบบด้ังเดิม และขนาดกำลังดีเมื่อเทียบกับตัวเครื่องทั้งหมด

กล้องหน้าเจาะรู Single Punch-hole display ในมุมซ้ายบนพร้อมกับสเปคกล้องหน้าในความละเอียด 16MP F2.0 เมื่อเทียบกับตำแหน่งของตัวเครื่องและขนาดตัวเจาะรูถือว่าขนาดไม่ได้ใหญ่เกินไป พร้อมลำโพงในขอบบน

ส่วนขอบด้านล่างนั้นยังคงมีความหนาระดับนึงพร้อมกับปุ่มควบคุมบนหน้าจอแบบ 3 ปุ่มพื้นฐาน ที่แน่นอนว่ารุ่นนี้ก็สามารถปรับใช้งานแบบเต็มหน้าจอด้วย Gesture แล้วด้วยเช่นกันครับทำให้รองรับการทำงานได้เต็มตามากขึ้น

ขอบเครื่องในส่วนฐานล่างนั้นเป็น Layout ที่เราคุ้นเคยกันดี มาพร้อมลำโพงหลัก และพอร์ต USB-C รวมถึง รูไมค์และ รูหูฟัง 3.5 มม. ซึ่งตัวขอบเครื่องก็จะโค้งลงมาด้วยเช่นกันถือว่าทำให้จับได้ถนัดมือมากขึ้นในการใช้งานจริง

ขอบเครื่องในด้านบนนั้นจะไม่ได้มีไมค์ตัดเสียงอะไรใส่เข้ามา แต่ที่เห็นชัดเจนจะเป็นโทนสีในส่วนขอบบนที่มันเป็นสีน้ำเงินผมฟ้าสวยงามพร้อมกับเป็นการไล่สีซึ่งในส่วนขอบล่างเครื่องนั้นจะเป็นสีเงิน ถือว่าเรื่องสีสันต่างๆนั้นไว้ใจได้

ขอบเครื่องด้านขวานั้นเราจะเห็นว่าในรุ่นนี้มีการใช้งานสแกนนิ้ว ด้านข้างที่เป็นปุ่ม Power ในตัวใช้งานได้ถนัดมากขึ้นถ้าหากมองเทียบกับปุ่มสแกนนิ้วในด้านหลังในการขับถือจริงๆ และตัวเครื่องบางและไล่สีสวยงามมากๆในฝั่งขวา

ฝั่งซ้ายนั้นแน่นอนว่ายังคงมีการไล่สีเข้ามาพร้อมกับปุ่ม เพิ่ม ลด เสียง และถาดซิมแบบ Triple Slot ที่รองรับการใช้งาน ซิมคู่ และ รองรับการเพิ่มความจุ Micro-SD ด้วยเช่นกันถือว่าเพียงพอต่อการใช้งานได้สบายๆทั้งหมดในรุ่นนี้

ฝาหลังในสี Starry Blue นั้นจะเป็นสีฟ้า และไล่สีเงินในส่วนขอบล่าง แต่ถ้าหากเจอแสงต่างๆนั้นในส่วนสีเงินด้านล่างนั้นจะเป็นสีรุ้งๆบอกเลยว่าเจอแสงแล้วโดดเด่นกว่าเดิมเยอะมาก หรือแม้ว่าจะไม่มีแสงกระทบก็จะเป็นสีเงินไล่สีฟ้าบอกเลยว่าไม่ธรรมดาและดูดีมากๆตัวนึงในงบราคานี้ครับ และมาพร้อมกับกล้องหลัง 3 ตัวในกรอบสี่เหลี่ยมมุมซ้ายซึ่งตัวกรอบจะรวมกล้องไว้ทั้งหมด และมีการเขียนตัวอักษร รวมถึงไฟแฟลชต่างๆนั้นจะอยู่โซนเดียวกันทั้งหมดเช่นกัน

กล้องหลังในรุ่นนี้มาให้ 3 ตัว จัดวางไว้มุมทั้ง 3 และ มุมขวาล่างนั้นจะเป็นแค่ AI ที่เขียนไว้เท่านั้นไม่ได้มี 4 กล้องแต่อย่างใดครับ ส่วนไฟแฟลชนั้นจะอยู่ในด้านหลังแนวนอนทั้งหมด 2 ดวง กล้องหลังนั้นจะมาพร้อมกับสเปค กล้องหลัง 13MP (f/2.2) + กล้องมาโคร 2MP + กล้อง Bokeh 2MP (f/2.4) รองรับการถ่ายหลากหลายโหมดทั้ง กลางคืน หรือว่าจะเป็น Portrait หรือว่าจะเป็น Ultra Night และ Panorama รวมถึง AI Scene Recognition

SPEC

  • หน้าจอ Punch-hole display  6.51 นิ้ว (1600×720พิกเซล) HD+, อัตราส่วน 20:9, ความสว่าง 550nit, รีเฟรชเรท 60Hz, ความถี่การตอบสนอง 120Hz
  • ชิบประมวลผล Helio P35 (MT6765) 12nm
  • ใช้การ์ดจอ IMG PowerVR GE8320
  • RAM LPDDR4X 4GB + ความจำ (eMMC 5.1) 128GB, ใส่ microSD card เพิ่มได้
  • ซิมคู่
  • Android 10 ที่ครอบด้วย ColorOS 7.2
  • กล้องหลัง 13MP (f/2.2) + กล้องมาโคร 2MP + กล้องBokeh 2MP (f/2.4) + แฟลช LED
  • กล้องหน้า 16MP (f/2.0)
  • เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือด้านข้างตัวเครื่องกันละอองน้ำ (IPX4)
  • ขนาดตัวเครื่อง: 163.6× 75.7 × 8.4มม. ; น้ำหนัก: 192 กรัม
    รองรับเครือข่าย Dual 4G VoLTE, Wi-Fi 802.11 ac (2.4+5GHz), Bluetooth 5.0, GPS +GLONASS
  • USB Type-C
  • แบตเตอรี่ 5,000mAh รองรับชาร์จเร็ว 18W

PERFORMANCE STORAGE 128GB !

ประสิทธิภาพในตัวเครื่องรุ่นนี้ใช้งาน CPU MTK HELIO P35 พร้อมกับ RAM 4 GB STORAGE 128 GB ในการใช้งานจะเน้นไปในเรื่องของการประหยัดพลังงานและการใช้งานทั่วไปมากกว่า และเด่นๆในเรื่องของความจุในการเก็บข้อมูลต่างๆในตัวเครื่องที่รองรับสูงสุด 128GB ในตัวเลยทีเดียว ส่วนทางด้านคะแนนการใช้งานนั้นจะทำไปได้ Antutu ที่ 105871 คะแนน และ Geekbench ที่ 167/972 คะแนน และ การอ่านเขียนทำไปได้ทั้งหมด 274 MB/s และเขียน 180 MB/s ส่วนการรองรับการดูหนังก็ตามสเปคหน้าจอที่รองรับ L3 กับหน้าจอแบบ HD+ ครับ

SYSTEM UI

ทางด้านระบบตัวเครื่องต่างๆนั้นจะใช้งาน Color OS ตัว 7.2 พร้อมกับ Android 10 หน้าตามีความเรียบ ลื่นไหล และทันสมัยมากขึ้นแถมไม่รกแล้วด้วยเช่นกันครับ แม้จะเป็น 7.2 แต่ก็หน้าตาสวยงามขึ้นจากรุ่นก่อนๆพร้อมกับ มอบประสบการณ์การเล่นเกม ความเป็นส่วนตัว และประสิทธิภาพในการทํางาน ดียิ่งขึ้น หน้าล๊อกจอ, หน้าตาหลัก และหน้ารวมแอปต่างๆนั้นใช้งานได้ดีเช่นเดิม การแจ้งเตือนต่างๆ เด้งไวชัดเจน และไอคอนอะไรก็สามารถปรับได้ครับ

หน้าตาในส่วนของการแจ้งเตือนมีการแยกสัดส่วนชัดเจนขึ้น มีความเหลี่ยมมากขึ้นและแน่นอนว่ายังคงโทนสีเขียว ขาวไว้ได้ดีเช่นเดิม ส่วนของ Quick Setting นั้นรองรับการปรับแต่งได้อิสระ และใช้งานได้เหมือนกับรุ่นก่อนๆ

ทางด้านหน่วยความจำตัวเครื่องนั้นให้มาเน้นๆที่ 128GB รองรับการใช้งานได้สบายๆระบบกินไป 17GB เหลือใช้งาน 110GB ประมาณครับเพียงพอแน่นอน ส่วนทางด้านแป้นพิมพ์อะไรนั้นรองรับภาษาไทยชัดเจนใช้งานได้ดีจาก GBoard และ RAM ให้มา 4GB ใช้งานไปทั้งหมด 2.7 เหลือ 1.3 GB

และแน่นอนว่ายังคงมีบรรดา Gesture ใส่เข้ามาให้ทั้งแบบหน้าจอปิดหรือใช้งานทั่วไป รวมถึงสแกนใบหน้า สแกนนิ้วยังคงใส่เข้ามาทั้งหมด และแน่นอนว่าปุ่มควบคุมปรับเปลี่ยนได้ และ รองรับการใช้งาน Smart Sidebar เหมือนเดิม

SCREEN 

หน้าจอนั้นใช้งานขนาดใหญ่ 6.51 นิ้วเป็นหน้าจอ IPS LCD ที่มาพร้อมกับหน้าจอที่เรียกงานออกแบบว่า Punch-hole display  6.51 นิ้ว (1600×720พิกเซล) HD+, อัตราส่วน 20:9, ความสว่าง 550nit, รีเฟรชเรท 60Hz, ความถี่การตอบสนอง 120Hz และทาง OPPO A54 มาพร้อมกับชุดอัลกอริทึมที่สามารถปรับเพิ่มการมองเห็นของหน้าจอได้ ไม่ว่าจะเป็น Sunlight Screen และ Moonlight Screen สามารถเพิ่มหรือลดความสว่างของหน้าจอ แบบอัตโนมัติภายใต้แสงจ้าหรือในสภาพแวดล้อมที่มีแสงสลัวหรือมืดมิด ท้าให้สามารถ รักษาสีที่แท้จริงของจอแสดงผลไว้ได้ หรือในส่วน AI Smart Backlight จะปรับเปลี่ยนการตั้งค่าของแสงพื้นหลังแบบอัตโนมัติตลอดทั้งวัน โดยเรียนรู้ว่าผู้ใช้งานมีการปรับความสว่างด้วยตนเองในสภาพแสงต่างๆ อย่างไร และยังคงมี Eye Comfort จะช่วยลดแสงสีฟ้าของหน้าจอเพื่อป้องกันอาการปวดเมื่อยของดวงตา ส่วนในการใช้งานจริงๆนั้นถือว่าทำได้ดีตามระดับของมัน

หน้าจอนั้นรองรับการใช้งานได้ดีแน่นอนว่าด้วยความเป็นหน้าจอ IPS LCD อาจจะทำในเรื่องของสู้แสงไม่ได้โหดมากแต่ก็รองรับใช้งานแสงกลางวันได้สบาย รวมถึงการสัมผัสการใช้งานนั้นทำออกมาติดนิ้วได้ดีระดับนึงครับ ส่วนความสด ความสวยนั้นจะเน้นในเรื่องของโทนสีที่สมจริงมากกว่า สีจะค่อนข้างสวยแบบเนียนตาไม่เวอร์มากเกินไปส่วนตัวก็ยังคงชอบโทนสีแบบนี้นะ และมุมมองก็พัฒนาได้ดีขึ้นจากรุ่นก่อนๆ และใช้งานจริงได้ดี รวมถึงการเจาะรูก็เนียนตา

FACE RECOGNITION + SIDE FINGERPRINT UNLOCK

แน่นอนว่าการใช้งานนั้นจะรองรับการปลดล็อกด้วยลายนิ้วมือด้านข้างของ OPPO A54 นั้นจะเป็นการพัฒนาจากการปลดล็อกด้วยลายนิ้วมือที่ด้านหลังของรุ่นก่อนหน้า ที่อาจจะจับถือได้ไม่ถนัดมากนัก ซึ่งรองรับลายนิ้วมือได้มากถึงห้าลายนิ้วมือ และใช้งานได้ถนัดมากเวลากดเปิดเครื่องก็จะเป็นการสแกนนิ้วไปในตัวเลยนั้นเอง เป็นข้อดีของการออกแบบสแกนนิ้วในด้านข้างที่รวมกับปุ่ม Power ไปในตัว และนอกเหนือจากสแกนนิ้วนั้นจะรองรับ การจดจำของใบหน้าได้ห้าใบหน้ามอบประสบการณ์การปลดล็อกที่สะดวกยิ่งขึ้น และทำงานได้ไวพอสมควรในสภาพแสงปกติครับ

SOUND

ระบบเสียงทำได้ตามระดับของตระกูล A ที่มาพร้อมกับการปรับเสียงแบบ Real HD Sound ครับแน่นอนว่าเป็นมาตรฐานการรองรับการใช้งานรวมถึงยังคงมีรู 3.5 มม. ใส่เข้ามาให้ใช้งานรองรับการทำงานได้สบาย เสียงที่ออกมานั้นจะเน้นเสียงดัง แต่มิติเสียงอะไรนั้นก็สามารถปรับได้แต่ไม่ได้เน้นมากอยู่แล้วในตระกูลนี้ครับสำหรับทางด้านนี้

GPS

การนำทางในการใช้งานจริงทั้งการนำทางในพื้นที่ทั่วไป หรือ จะเป็นโซนใต้ทางด่วนก็รองรับได้ดี จับได้ทั้งหมด 19 ดวง จากทั้งหมด 48 ดวงครับ เช่นใต้ทางด่วนพวกนี้ครับ ส่วนของกลางแจ้งจับได้ทั้งหมด 32 ดวง จากทั้งหมด 48 ดวง นะครับ การใช้งานแน่นอนว่าทำได้ดีตามเรทราคาของมัน ถือว่าทำได้แม่นยำดีครับใครที่เน้นในเรื่องนี้ถือว่าดี

BATTERY 5000 MAH + 18W  FAST CHARGE

แบตเตอรี่ตัวนี้ให้มาที่ 5,000 รองรับการชาร์จไว 18W โดย OPPO A54 สามารถโทรได้นานถึง 25.4 ชั่วโมง และ ชมวิดีโอออนไลน์ได้ถึง 19.9 ชั่วโมง และ มาพร้อมกับเทคโนโลยี 18W Fast Charge ของ OPPO จะช่วยให้ใช้งานชาร์จแบตเตอรี่ที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทำให้เจ้า OPPO A54 นั้น สามารถชาร์จแบตเตอรี่ได้ 70% ภายในเวลา 60 นาที เมื่อเทียบกับความจุมากถึง 5,000 mAh ก็ถือว่ากำลังดีในระดับนี้ครับ และ ทางด้านแบตเองนั้นก็ยังมี Super Nighttime Standby เป็นฟีเจอร์ที่ใช้แบตเตอรี่เพียง 1.79% เมื่อผู้ใช้นอนหลับระหว่างเวลา 23:00 น. ถึง 07:00 น. เป็นการยืดอายุแบต และ ประหยัดได้เยอะมากๆ พร้อมกับมีโหมด Super Power Saving Mode ช่วยให้คุณไม่ต้องกังวล เมื่อรู้ว่าแบตเตอร์รี่เหลือเวลาอีกไม่กี่นาทีก็จะหมดลง เพราะ โหมด Super Power Saving เป็นโหมดประหยัดแบตเตอรี่ขั้นวิกฤตจะทำการปรับความถี่ของ CPU และแสงของพื้นหลัง โดยเมื่อแบตเตอรี่เหลือเพียง 5% คุณจะสามารถแชท WhatsApp ได้ 85 นาที และโทรได้นานถึง 91 นาทีเลยทีเดียวครับ

ส่วนในการทดสอบนั้นต้องบอกว่าทั้งวันได้สบายๆเลยนะ แบตเยอะมากๆทำให้ไว้ใจได้ครับ และ จากที่ลองใช้งานหนักๆ 14 ชั่วโมง ใช้งานนำทางต่อเนื่อง 6-7 ชั่วโมงเต็มๆครับ ถือว่าทำได้ดีนะ และ แบตเหลือ 21% ครับ ซึ่งหน้าจอเปิดทั้งหมด 6 ชั่วโมง และ ใช้งานทั้งหมด 14 ชั่วโมงถือว่าอึดมากๆ แต่ถ้าจอเปิดโหดๆยังไงก็ทั้งวันสบายๆ ทำให้เรื่องนี้แบตทำได้ดีชัดเจนครับแต่ก็ชาร์จไวได้ 18W เท่านั้น แต่เล่นเกมหนักๆ 3 ชั่วโมง ได้แบบไม่ร้อนและอึด

CAMERA 

กล้องหลังในรุ่นนี้ให้มาทั้งหมด 3 ตัวรองรับการถ่ายค่อนข้างครบรองรับในโหมด Ultra Night และ Panorama อีกทั้งยังมี Dazzle Color สามารถปรับแต่งความอิ่มตัวและความสว่างของภาพ เพื่อให้ได้เอฟเฟกต์ที่มีความสดใสและ ความสวยงามมากยิ่งขึ้นอย่างที่คุณต้องการ โดยไม่ต้องใช้ฟิลเตอร์เพิ่มเติม และยังคงมี AI Scene Recognition สามารถระบุฉากได้ 23 ฉากโดยอัตโนมัติ เช่น พืชสีเขียว ทิวทัศน์ อาหาร ดอกไม้ ฯลฯ โดยชื่อของฉากจะแสดงบนหน้าจอเมื่อตรวจจับด้วยเช่นกัน กล้องหลังมาพร้อมกับกล้องหลัง 13MP (f/2.2) + กล้องมาโคร 2MP + กล้องBokeh 2MP (f/2.4) ในภาพรวมกล้องหลังแอบจัดการแสงกลางวันได้ดี คมชัดและสีสันปรับสวยงามสดใสได้ด้วย รวมถึงโหมด Portrait ยังคงทำได้ดีในเรื่องของโทนสีผิวส่วนการละลายหลังก็พอใช้ได้เลยนะ

SELFIE

กล้องหน้า 16MP (f/2.0) ในมุมซ้ายบนของหน้าจอที่จะเห็นว่าให้รูรับแสงมากว้างพอสมควรในการถ่ายก็ถือว่ายังโดดเด่นในแง่ของคุณภาพในการถ่ายออกมาดูสวยและใสเช่นเดิมกล้องหน้าค่าย OPPO ยังคงรักษามาตรฐานไว้ได้ด้วยเช่นกันเพราะว่าเป็นค่ายที่พัฒนากล้องหน้ามาอย่างต่อเนื่องและสาวๆน่าจะชอบเลยแหละ ส่วนโหมดการถ่ายยังคงมีทั้ง Portrait และ ฟิลเตอร์ เพื่อให้ตัแบบมีความเป็น3มิติและน่าสนใจยิ่งขึ้น รวมถึงใส่ AI Beautificationให้เอฟเฟกต์ที่เป็นธรรมชาติและสมจริงยิ่งขึ้นทำให้ตัวกล้องนั้น สามารถตรวจจับและลบความไม่สมบูรณ์ของใบหน้าได้โดยอัตโนมัติ โดยเมื่อถ่ายภาพ เซลฟี่แบบกลุ่ม ฟีเจอร์จะสามารถปรับเอฟเฟกต์ความงามตามแสงโดยรอบและโทนสี

OPPO A54

”  น้องเล็กแบตเยอะ 5,000 mAh พร้อมกับ STORAGE 128GB ใช้งานได้เหลือๆ “

ถ้ามองในตระกูล A ของทาง OPPO นั้นถือว่าตัว OPPO A54 นั้นจะโดดเด่นในแง่ของสเปคที่ใช้งานได้อึดขึ้นมาจากแบตขนาดใหญ่ 5,000 mAh พร้อมกับการรองรับการชาร์จ 18W ทำให้ใช้งานทั่วไปได้สบายๆกับ CPU MTK P35 นั้นเอง อีกทั้งมาพร้อมกับหน้าจอ 6.51 นิ้วทำให้รองรับใช้งานในการดูคอนเทนต์อะไรได้สบาย โดยที่แบตก็ใช้งานได้ทั้งวันด้วยเช่นกันแน่นอนว่าสเปคอะไรอาจจะเน้นใช้งานทั่วไปให้ยาวๆทั้งวันมากกว่าการเล่นเกมอะไรต่างๆครับตัวนี้ก็เป็นการเจาะกลุ่มตลาดที่แตกต่างกันไป แต่เรื่องใช้งานทั่วไปทั้งกล้องหน้า กล้องหลัง หรือว่าจะเป็นแบตต่างๆนั้นตอบโจทย์แน่นอนสำหรับใครที่อยากได้ OPPO และ งบไม่มากนักเน้นแบตอึด ใช้งานทั่วไป จอใหญ่ก็เพียงพอสำหรับรุ่น OPPO A54 ในเรทราคาประมาณนี้ครับ และมาพร้อมการรองรับ IPX4 ด้วยเช่นกันสำหรับตัวเครื่องนี้

ข้อดี

  • ดีไซน์สวยงาม และ บางเบาพร้อมกับสีสันที่เล่นกับแสงได้ดี
  • หน้าจอ 6.51 นิ้วขนาดใหญ่ พร้อมการออกแบบ Single Punch-hole
  • ใช้งาน STORAGE 128GB
  • มาพร้อมกับแบตขนาดใหญ่ 5,000 mAh รองรับการชาร์จไว 18W
  • กล้องหลังให้มาพร้อมใช้งานทั้งโหมด กลางคืน และ Portrait
  • ประสิทธิภาพการกันน้ำระดับ IPX4

ข้อสังเกต

  • ยังคงใช้งาน MTK P35
  • ไม่มีเลนส์มุมกว้างใส่เข้ามา

สำหรับรีวิวนี้ผมก็ต้องขอตัวลาไปก่อนสำหรับรุ่นอื่นๆก็ติดตามกันได้เลย ถูกใจฝากกดไลค์กดแชร์ด้วยนะครับ  มีข้อผิดพลาดประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ  เพื่อนๆสนใจอยากให้พวกผมรีวิวรุ่นไหนสามารถ Inbox มาบอกเราได้เลยนะ
ฝากไลค์เพจ FACEBOOK เราด้วยนะครับ >>>>>>>>>  TECHHANGOUT

เข้าร่วมกลุ่ม TECHHANGOUT พูดคุยแลกเปลี่ยน ข้อมูล คุยกันเองชิลๆได้เลยที่ — Facebook  Techhangout พูดคุย Smartphone gadget 

Review by Nineztr 

Comments กันได้เลย !

Comments

0 Shares