ทาง Nissan X-trail นั้นถือว่าเป็นตระกูลรถที่มีขายในไทยมานานพอสมควร และเดิมๆนั้นในรุ่นนี้เปิดตัวในชื่อ X-Trail ปีแรกตอนช่วงยุค 2000 ที่ตลาดตรงนี้เอาจริงๆค่อนข้างขายได้ดีเลยแหละ และยังคงเป็นรถ SUV ของค่ายนี้ที่ทำยอดขายได้ดีเอาเรื่องในต่างประเทศครับและด้วยตัวรถที่มีงานประกอบ วัสดุการขับขี่ที่ดีและยังเน้นในแง่ของการขับง่าย กว้างขวางเรื่องลุยก็อาจจะไม่ได้เน้นมากนักแต่เป็นรถที่ใช้ทั่วไป ลุยน้ำท่วม ขับไปไหนมาไหนได้แบบไม่ต้องกังวลด้วยเช่นกัน ในรุ่นนี้เป็นรุ่นล่าสุดแล้วในตอนนี้ก่อนที่จะมีการเปลี่ยนแปลงงานออกแบบทั้งหมด ทั้งภายนอกและภายในในปีไม่กี่ปีข้างหน้า แต่ ณ ตอนนี้มันคือรุ่น Minorchange ตัวล่าสุดของค่ายแล้วนั้นเอง ดีไซน์อะไรปรับใหม่ลงตัวมากขึ้นเยอะ รวมถึงฟีเจอร์การช่วยเหลือการขับขี่ที่ใส่เข้ามามากขึ้น แต่เรื่องระบบ Pro-Pilot นั้นน่าเสียดายไม่มาด้วยครับ ห่างหายไประหว่างทางการมาไทย จริงๆมันมีเหตุผลที่ใส่เข้ามาไม่ได้เพราะด้วย สภาพถนนอะไรหลายๆอย่างในไทยนั้นมีความเสี่ยงมากพอสมควรเลยครับในการใช้งานระบบนี้ ส่วนทางด้านงานออกแบบภายนอกก็มีสีใหม่สวยขึ้นเด่นสุดๆพร้อม ล้อดีไซน์ใหม่ กระจังหน้า ไฟท้ายอะไรเปลี่ยนใหม่ให้ลงตัวขึ้นเยอะกว่าเดิม และแน่นอนรุ่นนี้รองรับการนั่งทั้งหมด 7 ที่นั่ง เป็นรถครอบครัวที่ขับลุยได้สบายๆ และ มีตัวเลือก Hybird ให้ใช้งานกันด้วยครับ อีกทั้งยังเป็นรถไม่กี่รุ่นในไทยที่มาพร้อมหลังคา Panoramic roof ด้วยครับก็เลยต้องแลกมากับราคาที่สูงกว่า

Nissan X-Trail นั้นในรุ่น Minorchange นั้นจะเห็นความแตกต่างจากรุ่นก่อนคือทั้งเรื่องของหน้าตาทั้งหมดในภาพรวม ล้อลายใหม่ สีสันใหม่และฟีเจอร์ที่ใส่เข้ามาครับ โดยจุดแตกต่างมันนั้นจะมีในเรื่องของ ดีไซน์กระจังหน้า ไฟหน้าทั้งหมด ชุดกันชนหน้าหลัง ไฟท้าย ภายในปรับเปลี่ยนเยอะพอสมควรทั้งตัวพวงมาลัย แดชบอร์ดตรงกลางการใช้วัสดุที่ดูดีขึ้นและสัมผัสดีกว่าเดิมอีกทั้งตัว ฟีเจอร์เตือนมุมอับ ช่วยเหลืออะไรก็ใส่เข้ามาเยอะขึ้นครับ พวก ระบบไฟสูงอัตโนมัติ High Beam Assist (HBA) อะไรพวกนี้ก็ใส่เข้ามา ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัจฉริยะ เป็นต้นครับ และIntelligent Cruise Control  ก็มีให้ใช้งานกัน และพวกฟีเจอร์ความปลอดภัยมันก็จัดเต็มอันดับต้นๆของบรรดาคู่แข่งอยู่แล้ว และ ยังคงมีกล้องรอบคันมาให้ และในแง่ของความกว้าวขวาง สะดวกสบายก็ยังตอบโจทย์ได้ดีรวมถึง การควบคุมที่รุ่นนี้เหมือนจะปรับพวงมาลัยให้ใช้ในเมืองได้สะดวกกว่าเดิมด้วยเบาขึ้นเล็กน้อยครับ

Nissan X-Trail Minorchange 2.5 VL 4WD 2.5 VL CVT 4WD  1,660,000 บาท

สีตัวถังภายนอก / สีส้ม Monarch Orange/ สีแดง Radiant Red / สีขาว Storm White / สีเงิน Brilliant Silver / สีเทา Deep Iris Gray / สีดำ Black Star

EXTERIOR 

งานออกแบบในรุ่นนี้ต้องบอกว่าในขณะที่เพื่อนๆนั้นไป Modelchange กันหมดแล้วในหลายๆรุ่นก็อาจจะไม่ได้ทันสมัยเท่าแต่การปรับเปลี่ยน Minorchange รอบนี้ก็ช่วยยืดอายุของมันไปได้อีกพอสมควรครับเอาจริงๆหน้าตามันลงตัวขึ้นเยอะมากเลยทั้งด้านหน้าและด้านหลัง และการใส่ล้อลายใหม่ 19 นิ้วทำให้มันดูสมส่วนและเต็มซุ้มล้อมากขึ้นครับ และตัวล้อเป็นโครเมี่ยมปัดเงาเลยดูเข้ากับส่วนกระจังหน้า V ตัวใหญ่ และเส้นโครเมี่ยมรอบคันได้ดีขึ้นด้วย

ดีไซน์ภายนอกในภาพรวมนั้นลงตัวครับในรุ่นที่เราเห็นในภาพนั้นจะเป็นรุ่นสูงสุดของรุ่นนี้มาครบจัดเต็ม และสีที่เราถ่ายนั้นจะเป็นสีใหม่ส้มสวยงามสดใสครับ ตัวรถในภาพรวมด้วยรูปทรงของมันพัฒนาขึ้นจากเจนแรกเยอะมาก ใครที่จำกันได้ในรุ่นแรกเลยมันจะเป็นเหลี่ยมๆกระป๋องกันหน่อย แต่พอมาเจนใหม่ทุกอย่างเปลี่ยนไปทั้งหมดเลย ยกระดับการออกแบบมากกว่าเดิม และเอาจริงๆค่อนข้างชอบดีไซน์ใหม่ของมัน และยิ่งตัว Mincorchange นั้นลงตัวขึ้นหน้าตาดูดีขึ้น มีการเล่นสี โครเมี่ยม สีดำแทรกเข้ามาทำให้ตัวรถดูไม่อ้วนไม่หนาเกินไป และไฟท้ายก็ลงตัวขึ้นครับ

ทางด้านกุญแจตัวนี้ยังคงใช้งานทรงเดิมที่คุ้นเคยกันมานานแสนนานครับ สามารถกดเปิดปิดฝาท้ายไฟฟ้าได้เลย กดค้างสั่งงานได้ หรือจะเป็นการเตะ เพื่อเปิดได้เมื่อพกกุญแจครับ ทางด้านการใช้งานการเข้าตัวรถยังคงต้องกดปุ่ม ไม่ได้มีเซนเซอร์ตรวจจับเวลาเอื้อมมือไปเปิดแบบรุ่นใหม่ๆแต่อย่างใดครับ ยังคงต้องกดปุ่มเปิดปิดไว้ตลอด และมีปุ่มตรงฝาท้ายเช่นกัน และแน่นอนว่ารุ่นนี้เป็นแบบ Keyless แล้วกดปุ่มติดเครื่องได้เลย ในภาพรวมด้านข้างระยะใต้ท้องรถนั้นสูงพอสมควรอยู่ในระยะ SUV สมัยใหม่ทั่วไปครับ มุมเอียงตรงท้ายปาดขึ้นมานิดหน่อยเวลาลุยก็จะไม่กระแทกส่วนด้านหลังครับ และ ขอบชายล่างเป็นพลาสติกสีดำเล็กน้อย มีราวหลังคามาให้เล่นสีเงินสวยงาม จัดกับสีตัวรถ และโครเมี่ยมรอบคันได้ดีครับ ตัวนี้แน่นอนว่าไม่มีบันไดมาให้แต่การเข้าออกก็สบายๆไม่สูงมากครับ

ไฟหน้าไฟท้ายในรุ่นนี้มีการเปลี่ยนแปลงทั้งหมดครับแต่รูปทรงในส่วนของด้านหลังนั้นเหมือนเดิมโคมเดิมๆเลย ซื้อมาเปลี่ยนได้ครับถ้าใครใช้รุ่นก่อนหน้า แต่ถ้าทางด้านหน้านั้นเปลี่ยนเยอะมากเพราะรูปทรงของไฟเปลี่ยนด้วย ตามกระจังหน้า และกันชนด้านล่างรวมถึงเทคโนโลยีไฟ LED ความสว่างหลอดต่างๆนั้นเปลี่ยนยกชุดใหญ่เลยครับ และการเปลี่ยนแปลงเลยทำให้มันมีแสงไฟที่ดีกว่าเดิม มีระบบไฟสูงออโต้ต่างๆและไฟรูปทรงดูสวยขึ้นด้วยเช่นกันครับ ไฟท้ายนั้นจะเป็นทรง บูมเมอแรง ตามสมัยยุคใหม่ของ นิสสัน และรมดำเล็กน้อยครับตรงไฟเลี้ยวไฟถอยดูลงตัวขึ้นนะ

สำหรับล้อตัวนี้จะเป็น ล้ออัลลอย ขนาด 19 นิ้ว พร้อมยาง 225/55 R19 ถือว่าแม้จะเป็นขอบ 19 แต่ก็มีความนุ่มอยู่พอสมควรด้วยขนาดของตัวรถมันทำให้ขอบ 19 นั้นพอดีกับซุ้มล้อโดยที่ ไม่บางและไม่ล้นเกินไป อีกทั้งลายของมันก็สวยใช้ได้ครับ โครเมี่ยม รมดำสวยงามเป็นแนวทางเดียวกับตัวรถในภาพรวม ตัวรถนั้นยังคงมีไฟตัดหมอกแบบ ฮาโลเจนมาให้สีส้มๆเหลืองๆ แน่นอนว่ายังคงใช้งานได้ดีในตอนฝนตก เจอหมอกครับและ จะเน้นส่องใกล้ๆมากกว่า ส่วนไฟ DRL ก็เด่นใหญ่กว่าเดิม รวมถึงรูปทรง บูมเมอแรงแบบเดียวกับไฟท้ายและรถรุ่นใหม่ๆหลายๆตัว

ในส่วนของเวลากลางคืนตัวไฟหน้าเราจะเห็น 2 ดวงหลักๆคือในส่วนของไฟต่ำและไฟสูงครับ เป็น LED ทั้งคู่ ส่วนไฟหรี่นั้นจะใช้หลักการหรี่แสงของ DRL ลงมา ส่วนไฟเลี้ยวนั้นยังคงเป็นหลอดไส้ รวมถึงตัวไฟตัดหมอกครับ ในส่วนของไฟท้ายนั้นไฟหรี่เป็นเส้น บูมเมอแรงสวยงาม และไฟเบรคนั้นยังเป็นหลอดไส้ รวมถึงไฟเลี้ยวและไฟถอยครับ ในรุ่นนี้จะไม่มีไฟตัดหมอกด้านหลังมาให้  ส่วนไฟเบรคดวงที่ 3 นั้นอยู่ตรงสปอยเลอร์หลังด้านบนครับ พร้อม เสาอากาศแบบครีบฉลาม ในส่วนของไฟทับทิมนั้นจะอยู่ตรงชายกันชนล่างของรถยนต์ทั้ง 2 มุม ส่วนไฟเลี้ยวตรงกระจกมองข้างนั้นมีมาให้ครับ

ตัวไฟหน้านั้นต้องบอกก่อนว่าเดิมๆจากโรงงานนั้นค่อนข้างเซทมาต่ำมากๆ ปรับสูงขึ้นนิดหน่อยจะกำลังดีครับแม้จะเป็นระบบไฟปรับเองอยู่แล้วแต่มันก็แอบต่ำไปครับผม ปรับขึ้นมานิดหน่อยกำลังดีโดยใช้ไขควงในการปรับได้เลยครับ ส่วนตัวไฟต่ำนั้นคัทออฟสวยงามคมเป๊ะมากๆ และส่องได้ไกล รวมถึงตัวไฟสูงก็สว่างมากจริงๆ ใช้งานได้ดีไม่มีปัญหาดูได้จากภาพด้านบน ส่วนไฟตัดหมอกจะเป็นโทนอุ่นเพื่อการใช้งานได้ดีที่สุดครับ และจะส่องต่ำกว่าไฟปกติพอสมควรเลย และจะกินบริเวณข้างๆได้ดีกว่าไฟปกติด้วยเช่นกัน ส่วนรุ่นนี้มีไฟท้ายไฟฟ้าก็เปิดปิดเอง หรือ เตะเปิดปิดได้สบาย

INTERIOR 

สำหรับภายในนั้นมีการเปลี่ยนแปลงหลักๆในตัวพวงมาลัยและวัสดุการตกแต่งในส่วนของแดชบอร์ดต่างๆที่เปลี่ยนไปดูดีกว่าเดิมด้วยสีดำเปียโนแทนคาร์บอน และมีการหุ้มหนังอะไรเพิ่มเติมข้างหน้าแต่ที่ชอบมากๆเลยคือการเปลี่ยนแปลงพวงมาลัยเป็นทรงใหม่แล้วที่สวยกว่าเดิมเยอะมากกดีกว่าทรงตัว V ตัวเก่าเยอะมากจริงๆครับทำให้พวงมาลัยจับกระชับขึ้น ควบคุมอะไรได้สะดวกขึ้นด้วยเหมือนกับรุ่นอื่นๆของทางนิสสันครับและดูสปอร์ตกว่าเดิมเยอะมาก ในห้องโดยสารภาพรวมนั้นค่อนข้างโปร่งโล่ง ด้วยหลังคากระจกช่วยได้เยอะ โทนสีครีมผสมดำสวยงามแต่เสียดายเบาะสีน้ำตาลไม่ได้เอาเข้าไทยครับ แน่นอนว่าภายในมันอาจจะไม่ได้สวยว้าวแบบคู่แข่งที่ Modelchange กันหมดแล้วต้องเข้าใจเลยว่ามันเลยอาจจะมีความย้อนยุคอยู่บ้างในหลายๆจุดของงานออกแบบเมื่อเทียบกับปีนี้

เมื่อมาดูห้องโดยสารแน่นอนว่ามีความดูดีขึ้นจริงๆทั้งเรื่องของพวงมาลัย วัสดุโทนสีของภายในการใช้สีดำเงา สลับกับหนังเย็บตะเข็บเข้ามาช่วยให้มันดูหรูขึ้นและตัดด้วยความสปอร์ตของพวงมาลัยครับ ควบคุมอะไรได้ง่ายสะดวกกว่าเดิม มาตรวัดต่างๆดูง่ายไม่ซับซ้อนอ่านไทยได้ มี Animation สวยงามโมเดลรถเปลี่ยนสีได้ต่างๆ แสดงข้อมูลได้ดีกว่าเดิม รองรับหน้าจอสีที่ชัดเจนขึ้น และ เบรคมือแบบไฟฟ้าพร้อม Auto Brake Hold ที่ตรงเกียร์ด้วย และมีไฟส่องตรงคอนโซลกลางรวมถึง ที่วางแก้วแบบมีแอร์เป่าสามารถเลือกเปิดปิดได้ครับ ตัวสวิทช์ตามปุ่มต่างๆนั้นเป็นสีส้มทั้งหมด และ ตรงพวงมาลัยเช่นกัน มีการปาดขอบเล็กน้อยเข้าออกอะไรสะดวกขึ้นครับ และ Headroomโล่งมากๆ

บรรยากาศภายในรวมๆนั้นจริงๆตัวรถ นิสสันหลายๆรุ่นเองจะค่อนข้างโปร่งๆนั่งสบายอยู่แล้วด้วยการออกแบบของเค้าครับและในรุ่นนี้หารที่มีหลังคากระจกนั้นก็ช่วยได้เยอะมากเมื่อเรามองจากที่นั่งแถว 3 ก็ไม่อึดอัดเช่นกันพื้นที่เหนือศีรษะเยอะรวมถึงที่วางขา เบาะแถว 2 สามารถเลื่อนหน้าหลังได้ เอียงเอนได้ครับ ทำให้ที่แถว 3เหลือพอสมควรเลย เบาะแถว 2 ตรงกลางนั้นจะเป็นที่วางแก้ว 2 ตำแหน่งขนาดใหญ่พอสมควรและกว้างพอทำให้วางแขนได้ไม่เกะกะกัน

เบาะคู่หน้านั้นจะเป็นเบาะไฟฟ้าทั้งหมด แต่ส่วนของคนขับจะปรับดันหลังได้เพิ่มเข้ามาครับ ไม่มีระบบจำอะไรมาให้ในรุ่นนี้ และ บรรยากาศรวมๆในที่นั่งแถว 2 และ ส่วนคนขับครับถ้าใครได้ขับรถที่มีหลังคากระจกนั้นอาจจะค่อนข้างติดใจความโปร่งโล่งของมันแต่ก็แลกมาด้วยเวลาแดดแรงๆอาจจะแสบตาได้ง่ายบ้างครับแต่เวลาไปเที่ยวนี่เหมาะมากๆ ที่วางแก้วมีมาให้พอดีหลายๆตำแหน่งบนรถ และตำแหน่งขึ้นนั่งทั้งหน้าหลังสบายไม่ลำบาก ให้ฟีลคล้ายรถเก๋งครับไม่ได้สูงโย่งมากนักและชายกางเกงไม่เลอะเวลาไปลุยด้วยการออกแบบของมัน ตัวเบาะหน้าหลังนั้นนั่งสบายครับ โดยเฉพาะถ้าใครที่เน้นเบาะหลังตัวนี้น่าจะตอบโจทย์ที่สุดแล้วนั่งสบาย โปร่งโล่ง เอนได้ เลื่อนหน้าหลังได้ และการเก็บเสียงรถนั้นค่อนข้างดีในส่วนเสียงจากพื้นครับ ส่วนเสียงลมอาจจะเข้ามาเยอะไปหน่อยถ้าเทียบกับค่ายนี้ แต่ถ้าจะหารถ SUV ที่นั่งสบายๆในทุกตำแหน่งนั้น X-Trail น่าจะตอบโจทย์ที่สุดแล้วครับ แม้แต่เบาะแถวสามก็รองรับได้เวลาจำเป็น ประตูหน้าหลังนั้นเปิดได้กว้างสะดวกแก่การเข้าออกพอสมควรครับ และมีพื้นที่พอสำหรับคนที่จะปีนไปข้างหลังได้ด้วย

สำหรับ X-Trail นั้นจะเป็นรถที่รองรับได้สูงสุด 7 ที่นั่งแต่แน่นอนครับว่า 2 ที่หลังสุดจะเหมาะสำหรับเด็กๆหรือคนตัวเล็กมากกว่าแต่ ผู้ใหญ่ก็นั่งพอได้ระยะใกล้ๆ มีที่วางแขน วางแก้วน้ำมาให้ด้วย ถ้านั่งจริงๆนั้นก็ปรับเบาะแถว 2 ให้เลื่อนออกไปได้รองรับได้นิดหน่อยยามฉุกเฉินครับ ตัวที่พิงศรีษะนั้นจะเลื่อนมาได้ 1 จังหวะตามภาพรองรับช่วงไหล่ได้บ้างและยังพอมีพื้นที่ เหนือศีรษะอยู่ครับส่วนแอร์นั้นเวลานั่งจริงๆก็ถึงข้างหลังอยู่บ้างครับไม่ได้ร้อน  แต่นั่งข้างหลังนั้นอาจจะรู้สึกโยนๆอยู่บ้างด้วยทั้งตำแหน่งของมันที่จะสูงกว่าข้างหน้าเลยอาจจะไม่ชินได้ครับสำหรับใครที่ไม่เคยนั่ง

ตัวเก็บของเมื่อใช้งานแถวสามนั้นจะเห็นในภาพว่าตัวกระเป๋า Xiaomi 20 นิ้วนั้นจะสามารถวางแนวตั้งได้ความกว้างประมาณ 2 ใบครับ เป็นปกติของการขนเวลาใช้งานเบาะแถว 3 จะเล็กลงเยอะมาก ส่วนถ้าเราพับแถว 3 ไปแล้วนั้นจะสามารถวางแนวนอนเสียบเข้าไปได้และเหลือพื้นที่ข้างหลังอีกพอสมควรครับและจริงๆตัวเบาะแถว 2 สามารถเลื่อนไปได้อีก แต่จะพับแนวนอนลงไปไม่ได้นะ ดูในภาพรวมมันก็สามารถขนของได้เยอะพอสมควรครับทั้งพื้นที่และการรองรับและในส่วนข้างล้างก็เป็นฝาเปิดขึ้นมาใส่พวกของได้อีกนิดหน่อยก่อนที่จะเป็นส่วนของล้ออะไหล่ด้านล่างครับ

ประตูฝาท้ายนั้นจะใช้ไฟฟ้าสามารถขนของอะไรได้สะดวกพอสมควรครับมีความกว้างรองรับได้สบายๆความกว้างของมันจะเห็นว่าสามารถวางกระเป๋าเดินทางได้สบายๆหลากกหลายใบมากๆและตัวเบาะแถว 2 เองนั้นจะสามารถพับตรงกลางลงมาตรงที่วางแขนเพื่อนที่จะไว้ขนของอะไรแนวยาวๆจะสามารถทะลุมาตรงกลางได้ครับ และตรงที่นั่งแถว 2 เราจะเห็นเป็นช่องแอร์สำหรับตรงกลางด้วยรวมถึง วัสดุตรงประตูอะไรต่างๆนั้นจะบุนุ่มมาให้เรียบร้อยสวยงามเลย

ตัวมาตรวัดตรงกลางนั้นเป็นสีสวยงามรองรับการแสดงข้อมูลที่หลากหลายกว่าเดิม ทั้งตั้งค่า ฟีเจอร์ช่วยเหลือต่างๆการบอกออกนอกเลน ตั้งระยะห่างกับคันหน้าเป็นต้น หรือจะแสดงการใช้งานขับเคลื่อนล้อ รวมถึงการนำทางด้วยครับ และแน่นอนว่า หน้าปัดถือว่าเรียบๆมองง่ายครับ ธรรมดาๆตัวอักษรชัดเจนสวยงามในภาพบนสุดจะเห็นว่ามีไฟส้มๆตรงกระจกมองข้างอันนั้นจะเป็นการเตือนว่ามีรถมาตรงมุมอับไหม มีทั้ง 2 ข้างครับผมจะมีเสียงและกระพริบด้วย ส่วนหน้าจอตรงกลางก็รองรับการใช้งานครบๆทั้ง นำทาง กล้องรอบคัน มีเดีย โทรเข้าออกเป็นต้น ควบคุมผ่านพวงมาลัยได้ครับเป็นระบบสัมผัสทั้งหมดเลยด้วยถือว่าดีมากๆ อยากจะยกหน้าจอนี้ไปใส่ใน Nissan leaf เลยจริงๆ

ENGINE 

เครื่องยนต์และการขับขี่ของมันนั้นเอาจริงๆจะบอกเลยก็ได้ว่ามันเป็น SUV ค่ายญี่ปุ่นที่ช่วงล่างผมค่อนข้างมั่นใจสุดอีกรุ่นนึงเลยคือดีกว่าคู่แข่ง และรองรับได้ดีกว่าในการควบคุมทั้งนั่งสบายแต่ก็ยังควบคุมได้ดีเอาอยู่ในหลายๆสถานการณ์ความเร็วสูงไว้ใจได้ แน่นๆเลยแหละถือว่าให้ช่วงล่าง โช๊คอัพอะไรมาดีมากๆเมื่อเทียบคู่แข้งด้วยกันอีกทั้งยังมีความนุ่มหนึบนั่งสบายไม่กระด้างเกินไปด้วย และรองรับขับสี่แบบ Auto หรือ Part Time สายลุยได้แบบอิสระครับ เวลาลุยจริงจังพวกนี้ และตัวยางติดรถ อะไรที่ให้มาก็รองรับได้ดีเหมือนกันถือว่าเป็นรถที่ช่วงล่างแน่นๆไว้ใจได้มาก แต่เครื่องยนต์ของมันอาจจะไม่ได้พุ่งทันใจมากเท่าไร แต่จะมาแบบเนิบๆไหลยาวช่วงหลัง 80 ซะมากกว่า แต่ช่วง 0-80 นั้นบอกเลยว่าอาจจะไม่ได้ทันใจเท่าไรออกตัวแบบผู้ดีครับค่ายนี้ แต่จะไหลไป 180 แบบไม่รู้ตัวจริงๆ ส่วนตัวพวงมาลัยนั้นจะมีความเบากว่าตัวก่อนไมเนอร์อยู่บ้าง แต่ช่วงความเร็วสูงจะหน่วงแบบพอดีครับ แต่ช่วงแรกๆแอบเบาไปหน่อยน่าจะเซ็ทไว้สำหรับขับในเมือง สำหรับสาวๆขับง่ายเลี้ยวคล่องขึ้นบ้างครับแตกต่างกับรุ่นก่อนไมเนอร์

ทางด้านเครื่องยนต์นั้นยังคงใช้ เครื่องยนต์เบนซิน รหัส QR25DE 4 สูบแถวเรียง DOHC 16 วาล์ว Twin C-VTC ขนาด 2.5 ลิตร 2,488 ซีซี. กระบอกสูบ x ระยะช่วงชัก : 89.0 x 100.0 มิลลิเมตร กำลังสูงสุด 171 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 233 นิวตันเมตร ที่ 4,000 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ XTronic CVT ขับเคลื่อน 4 ล้อ รองรับน้ำมันสูงสุด E20 ที่เป็นรุ่นที่เครื่องยนต์แอบกินจุพอสมควรเลยนะ และยังคงใช้งาน CVT ครับ

FUEL CONSUMPTION 

การกินน้ำมันแน่นอนว่ามันเร็วสุดในบรรดาคู่แข่งในแง่ของอัตราเร่ง เวลากดเท่าที่รู้สึกนะพุ่งไหลมากๆเลยทำให้มันกินน้ำมันเอาเรื่องเลยแหละครับถ้าเทียบกับคู่แข่งด้วยกัน ตัวนี้เครื่องอัตรากินน้ำมันยังคงไม่แตกต่างกับรุ่นก่อนหน้านี้เท่าไรนัก ยังคงเติมน้ำมันได้แค่ E20 และใช้งานเครื่อง QR25DE 4 สูบ 2.5 ลิตร 171 แรงม้า เช่นเดิมเอาจริงๆเครื่องมันตอบสนองได้ไวเวลาจะแซงรถบรรทุกเร่งไปได้ไวและมีพลังมากๆแม้จะไม่ได้พุ่งไวหลังติดเบาะแต่ก็มาเต็มดีเหมือนกัน แต่ก็แลกกับน้ำมันที่กินมากขึ้นและเสียงเครื่องดังสะใจขึ้นครับ ส่วนในการใช้งานจริงๆนั้นขับไปกลับ ต่างจังหวัดนั้นทำได้ 11 กิโลลิตร โดยใช้เงิน 1200 บาทไปกลับ เขาใหญ่ได้ครับสำหรับที่ลองขับกัน โดยเติม E20

ส่วนถ้าในเมืองนั้นอัตรากินอาจจะโหดขึ้นหน่อยทั้งรถติดต่างๆก็ทำได้ 8 กิโลลิตร-9 กิโลลิตรเท่าที่ลองขับและใช้จับดูคร่าวๆนะครับ ส่วนในเมืองแน่นอนว่าพวงมาลัยเบามันขับง่ายขึ้นเยอะก็จริงแต่ก็ยังชอบความรู้สึกของพวงมาลัยก่อนหน้านี้มากกว่าที่มั่นใจได้มากกว่านิดหน่อยครับทั้งความเร็วต่ำและความเร็วสูง

NISSAN X-TRAIL  Minorchange 2.5 VL 4WD

” รถครอบครัว ช่วงล่างมั่นใจได้ ระบบความปลอดภัยเยอะขึ้น นั่งสบายเหมือนเดิม “

เป็นรถที่แม้จะไม่ได้ใหม่ล่าสุด สดสุดในบรรดาคู่แข่งแต่จุดเด่นของมันก็ยังคงไม่มีตัวอื่นมาเทียบคือในเรื่องของ ช่วงล่าง การนั่งสบาย และพวกหลังคากระจกที่ใส่เข้ามา แต่แน่นอนว่าเมื่อเทียบราคากับยุคของโมเดลมันอาจจะทำให้ราคาของมันนั้นสูงไปหน่อยและด้วยการที่เอาเข้ามาช้าไปมากเลยทำให้มันไม่ได้นิยมอย่างที่คิดสำหรับคันนี้ ตัวรถมันเองนั้นต้องบอกว่าดีแน่ๆแหละแต่เวลากว่าจะเอามาขายนั้นนานไปมากเลยทำให้มันไม่ได้น่าสนใจเหมือนตอนแรกๆแล้ว ส่วนคุณภาพโดยรวมมันโอเคเลยแหละ อยู่แค่ราคา และช่วงเวลาของมันเท่านั้นที่มาช้าไปหน่อย และด้วยราคาแบบนี้ตอนนี้เลยทำให้หลายๆคนไปมองรถที่ โมเดลใหม่กว่าสดกว่า ในราคาที่ถูกกว่า แต่ก็ยอมฟีเจอร์อะไรบางอย่างที่ขาดหายไปบ้างอันนี้ก็ขึ้นอยู่กับแต่ละคนว่าจะเน้นไปทางไหน แต่ถ้าหารถที่นั่งสบาย ช่วงล่างไว้ใจได้ จริงๆก็ยังแอบเชียร์รุ่นนี้อยู่นะ Minorchange แล้วลงตัวมากขึ้น และถ้ายังคงชอบแบรนด์นี้ก็ตัดสินใจได้ไม่ยากเลยครับ

สำหรับรีวิวนี้เป็นการทำบทความเกี่ยวกับรถยนต์ หรือ สายยานยนต์ของเรา และถ้าหาก มีข้อผิดพลาดประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ มีข้อเสนอแนะ หรือข้อนำแนะอะไร ยังไงสามารถแจ้งเราได้เสมอเพื่อการปรับปรุงที่ดีขึ้นครับ เพื่อนๆสนใจอยากให้พวกผมรีวิวรถรุ่นไหนสามารถ Inbox มาบอกเราได้เลยนะ จะพยายามจัดหามาให้อ่านกันเยอะๆ ขึ้นเรื่อยๆ ครับ … สำหรับ Techhangout Auto !

ฝากไลค์เพจ FACEBOOK เราด้วยนะครับ >>>>>>>>>  TECHHANGOUT

เข้าร่วมกลุ่ม TECHHANGOUT พูดคุยแลกเปลี่ยน ข้อมูล คุยกันเองชิลๆได้เลยที่ — Facebook  Techhangout พูดคุย Smartphone gadget 

Comments กันได้เลย !

Comments

0 Shares