Mercedes-Benz ถือว่าเป็นค่ายรถยนต์ที่ได้รับความนิยมกันมาอย่างยาวนาน เป็นค่ายที่เรียกได้ว่าเป็นหน้าตาของคนขับได้ดีถ้ามองไปในยุคก่อนๆ Mercedes-Benz เองถือว่าเป็นรถที่หรูหราและถ้าใครมีคือถือว่ามีเงินกันพอสมควรทีเดียวมองย้อนไปในคันแรกของที่บ้าน C220 Elegance ในรหัสตัวถัง W202 ในสมัยนั้นก็ถือว่ามีราคา 2 ล้านกว่าบาทแต่ก็เป็นรหัสที่ตัวเริ่มต้นของค่าย Mercedes-Benz ที่ราคาขนาดต่างๆเหมาะกับคนที่อยากมีรถคันแรก แต่ดูภูมิฐานเช่นกัน จนมาถึงรหัส W206 ตัวถังล่าสุดที่มาพร้อมกับงานออกแบบยุคใหม่ทั้งหมดในตัว C220d Avantgarde รุ่นเริ่มต้นของรหัส  C ที่จับต้องได้ง่าย และ มีงานอกแบบที่หรูหรา ไม่ได้สปอร์ตมากนักครับ แต่ถ้าต้องบอกว่าภาพลักษณ์หรูของแบรนด์ตั้งแต่รุ่นแรก จนมาถึงรุ่นปัจจุบันเองนั้นไม่มีการเปลี่ยนแปลงเลยแม้แต่นิดเดียว

Mercedes-Benz C220d Avantgarde นั้นเป็นตัวเริ่มต้นของรหัสดีเซล ซึ่งก่อนหน้านี้จะมีรุ่น AMG ที่การตกแต่ง การใช้งานนั้นจะเน้นไปทางสปอร์ตมากกว่า แต่ก็ได้ยกเลิกการจำหน่ายเป็นที่เรียบร้อย ทำให้ถ้าใครจะเล่นดีเซล จะเหลือแค่รุ่น Avantgarde เท่านั้น จะมาพร้อมกับเครื่องยนต์ ดีเซล 4 สูบ 16 วาล์ว Diesel Commonrail Turbocharged Intercooler ขนาด 2.0 ลิตร  200 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 440 นิวตันเมตร แต่มีพ่วงระบบมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 48V EQ Boost  มีแรงม้า 20 แรงม้า และ แรงบิด 200 นิวตันเมตรเลยทีเดียว ทำให้พละกำลังก็ถือว่าไม่ธรรมดา 0-100 ใน 7.3 วินาที แต่แอบช้ากว่าเดิมด้วยน้ำหนักตัวที่มากกว่าเดิมเล็กน้อยครับพร้อม จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 9 จังหวะ 9G-Tronic ขับเคลื่อนล้อหลัง ซึ่งการใช้งานแบต 48V ทำให้การสตาร์ตเงียบขึ้น มีมอเตอร์ช่วยออกตัวได้เล็กน้อย แต่จะไม่สามารถวิ่งด้วยไฟฟ้าล้วนๆได้นั้นเอง ส่วนทางด้านออฟชันมาพร้อมกับพื้นฐานทั่วไป กันชนแบบ  Avantgarde และ ล้อ 18 นิ้ว พร้อมกับ Keyless มาตรฐาน ไฟหน้า LED แต่ไม่มีสูงต่ำอัตโนมัติ รวมถึงไม่มีกล้องรอบคันอย่างน่าเสียดาย แต่ก็มีระบบช่วยจอดมาให้อยู่นั้นเองครับ แต่เรื่องแสงสีภายในมาครบ พร้อม โลโก้ตอนเปิดประตูแบบล้ำๆ รวมถึง จอกลางขนาดใหญ่ 11.9 นิ้ว และ จอเรือนไมล์ 12.3 นิ้ว  และยังใจดีให้ Blind Spot มาให้เช่นกันควบคู่กับ Exit warning Function แต่ก็ไม่มี Adaptive Cruise เหมือนเดิม

  • C 220d Avantgarde : 2,730,000 บาท ปรับเพิ่มขึ้นจากตอนเปิดตัว 

EXTERIOR

งานออกแบบภายนอกแน่นอนว่ามีความแตกต่างกับ AMG หรือรุ่นก่อนหน้าชัดเจน ตัวรถยุคใหม่ดีไซน์ใหม่หมดทั้งด้านนอก และ ภายใน รวมถึงโครงสร้างทำให้เราจะเห็นว่ามันมีความสปอร์ตวัยรุ่นกว่าเดิม แต่ถ้ามองในชุดแต่ง Avantgarde กลับรู้สึกว่าดูลงตัวกว่าของ E-Class แต่ก็ยังไม่สวยเท่า AMG เท่าไรครับ ส่วนทางด้านมิติตัวถังรถนั้นจะมาในขนาด กว้าง 1,820 มิลลิเมตร ยาว  4,751 มิลลิเมตร สูง 1,437 มิลลิเมตร แต่ที่น่าสนใจคือใต้ท้องรถค่อนข้างเตี้ยครับ เวลาขับอาจจะต้องระวังพอสมควรเพราะทางเราเจอขูดใต้ท้องไปหลายๆครั้งเวลาเจอหมอนถนน

เส้นสายตัวรถภาพรวมจะเห็นเลยว่ามีความเรียบร้อยมากขึ้นในแง่ของการใช้งานเส้นคมๆด้านข้างหายไปแต่จะเสริมความนุ่มนวลเรียบๆเข้ามาแต่มีมัดกล้ามขึ้นสปอร์ตขึ้น และเอกลักษณ์ต่างๆในด้านหน้าเส้นสายบนฝากระโปรงยังคงใส่เข้ามาให้ ตัวรถอาจจะไม่ได้ดุดันเท่ากับ AMG แต่ก็มีความทันสมัยวัยรุ่นกว่าเจนก่อนหน้าที่จะเจอกระจังหน้าแบบซี่แนวนอนที่หรูหรากว่านี้ แต่โลโก้ลอยแบบยุคก่อนๆอาจจะไม่ค่อยได้เห็นกันแล้วส่วนตัวรู้สึกว่าตัวรถภาพรวมพยายามวัยรุ่นขึ้นมากทั้งไฟหน้า ไฟท้าย เส้นสายรอบๆคัน หรือแม้แต่ทรงรถด้านข้างเองก็ตาม ถือว่าสวยลงตัวและสัดส่วนทำได้ดีมากๆ และถ้าได้รถที่มีสีดำตัดกับความเงินโครเมียมรอบๆตัวรถใครที่ชอบความหรูหราถือว่ารุ่นนี้ตอบโจทย์

ด้านท้ายเราจะเห็นว่าไฟท้ายเรียวบางขึ้น และ มองผ่านๆอาจจะมีคล้าย E-Class , S-Class บ้าง ด้วยความที่เป็น DNA ยุคใหม่ของค่ายตราดาวอาจจะมีหลายคนมองว่าขาดความเป็น Benz ไปบ้างซึ่งก็แล้วแต่ชอบนั้นเองครับ ส่วนในด้านหน้า ตราดาวโลโก้ใหญ่สะใจขึ้น พร้อมกับ กระจังหน้าทาง Avantgarde ปากไม่คว่ำ พร้อมเสริมด้วยเส้นแนวนอน 1 เส้นและ โครเมียมรอบๆ แต่ถ้ามองดีๆเราจะเห็นเส้นแนวตั้งแฝงข้างในอยู่นิดหน่อยก็แอบแปลกๆตาเล็กน้อย ส่วนเซนเซอร์รอบคันมีมาให้ กล้องรอบคันไม่มีครับ และทางด้านกันชนมีความสปอร์ตขึ้นคล้ายกับ AMG แต่ก็ยังไม่ดุเท่า เพิ่มความโค้งมนเข้ามารอบๆกันชน แม้จะเป็นช่องแบบทึบก็ตามซึ่งถ้าเป็นสีรถอื่นๆอาจจะดูเด่นขึ้นบ้าง

เซนเซอร์รอบคันมีมาให้พร้อมกับ กระจกมองข้างที่มีไฟเลี้ยวในตัว และ Blindspot รวมถึง โลโก้  Benz  ส่องลงพื้นเวลาปลดล็อกเท่ๆ ตัวล้อมาพร้อมกับขนาด 18 นิ้วลวดลายสวย แอบสวยกว่า C350e AMG ซะอีกครับส่วนตัวผมค่อนข้างชอบเลยแหละและขนาดก็กำลังสวย แต่ถ้าสวยจริงๆจะเป็นตัว AMG C220d ก่อนหน้านี้ถือว่าลงตัวสุดๆ ซึ่งในรุ่นนี้จะมาพร้อมกับ ล้ออัลลอย 18 นิ้ว Multi-spoke  ใช้งานยางคู่หน้า แบบ Run-Flat ขนาด 225/45/R18 และ ยางคู่หลัง แบบ Run-Flat ขนาด 245/40/R18 พร้อมกับยาง Pilot Sport 5 จะเห็นว่าระยะล้อกับตัวถังต่างๆไม่สูงมากนัก และ เว้นระยะกำลังสวยลงตัวและยางแบบนี้ก็สามารถขับได้ในเมืองโดยที่ไม่กระด้างมากเกินไป

ไฟหน้ารูปทรงแบบเดียวกันทั้ง AMG และ AVANTGARDE แต่ออฟชันแตกต่างกันเพราะว่าในรุ่น AMG เราจะได้ไฟสูงต่ำ อัตโนมัติ แต่ไฟหน้าจะเป็น High Performance เหมือนกัน ไม่ใช่ Multi-Beam นะครับ แต่ถ้าขยับไป C350e เราจะได้ Digital Light แบบสูงสุดเลยทีเดียวครับ ส่วนทางการใช้ไม่เจอปัญหา แต่ความคม เข้มแสงอาจจะไม่โหดเท่าเทคโนโลยีอื่นๆ ส่วนไฟท้ายเองนั้นเป็น Full-LED ทั้งหมดทรงเรียว ไฟเลี้ยวปกติไม่มีวิ่งอะไรรวมถึงมีไฟตัดหมอกหลังมาให้แล้ว และไฟทับทิมด้านล่าง รวมถึงกันชนหลังแบบ Avantgarde ที่มีปลายท่อโครเมียม แต่จะไม่ใช่ท่อจริงนะครับ

INTERIOR

งานออกแบบภายในเรียกได้ว่าเป็นยุคใหม่ของ Mercedes-Benz แล้วเราจะเห็นการออกแบบแบบนี้ในหลายๆตัวถังยุคใหม่ไม่ว่าจะเป็น S-Class หรือบรรดา SL แต่ถ้าเป็นตระกูลไฟฟ้า EQS EQE ทั้งหลายจะเป็นอีกแนวทางหนึ่งทั้งหมด ส่วนตัวมองว่าความหวือหวา แสงสีภายใน หรือ เส้นสายภายในคือล้ำยุค และ เท่มากๆส่วนในการใช้งานจริงก็อาจจะต้องดูว่าเราถนัดมากน้อยแค่ไหนครับ แต่ถ้าความเท่ไว้ก่อนค่ายนี้ถือว่าไม่ธรรมดาอย่างมาก รวมถึงเวลากลางคืนก็มีแสงสีหลากหลายให้ปรับแต่ง ทั้งช่องแอร์ เส้นสายไฟรอบคันรวมถึงหน้าจอที่มีการออกแบบมิติภาพสวยทางด้านมุมมองการขับขี่เองนั้นทำได้ดีไม่มีมุมอับสายตาเท่าไรนักในด้านการขับขี่ทั้งเสา A เลี้ยวต่างๆทำได้ดีอย่างมาก

ทางด้านช่องแอร์แน่นอนว่าเอกลักษณ์ 3 ช่องจากรุ่นก่อนหน้าก็ยังคงพัฒนาใส่เข้ามาแต่มีการปรับเปลี่ยนจากวงกลมมาเป็นทรงที่เหลี่ยมขึ้น แต่ทางด้านไฟแสงสีเองนั้นยังคงหวือหวาเช่นเดิมส่วนหน้าจอจากแนวนอนรุ่นก่อนๆ พัฒนามาเป็นแนวตั้งขนาด 11.9 นิ้วที่เป็น MBUX แบบใหม่หน้าตาใหม่หมดมีมิติมากกว่าเดิมและดูล้ำยุคขึ้น ปุ่มต่างๆนั้นลดน้อยลงกว่าเดิมเพราะทุกอย่างเปลี่ยนไปทั้งหมดการควบคุมแอร์ต่างๆไปบนหน้าจอทั้งหมดซึ่งอาจจะปรับตัวพอสมควรส่วนด้านล่างยังคงมีปุ่มอยู่บ้างทั้งเพิ่ม/ลดเสียงแบบสัมผัส หรือ กดลงไปได้ การสแกนนิ้ว หรือ ปุ่มไฟฉุกเฉินต่างๆ และปุ่มการปรับเปลี่ยนโหมดการขับขี่ และ กล้องรอบคัน คีย์ลัดต่างๆยังคงใส่เข้ามาให้ใช้งานได้ถนัดในแง่ UX UI

พวงมาลัยทรงเปลี่ยนใหม่จะเห็นหน้าตาแบบนี้ได้ในหลายๆตัวทั้ง e-Class , S-Class , Maybach แต่การใช้งานวัสดุต่างๆแตกต่างกันไป แต่ทางด้าน AMG จะได้ขอบตัด และทรงอีกแบบทั้งหมด ส่วนการใช้งานบนปุ่มต่างๆเป็นแบบปุ่มกด ผสมการสัมผัสในการสั่งงาน ซึ่งต้องบอกตรงๆว่าบางฟีเจอร์แอบกดยากไปหน่อย ขอปุ่มปกติน่าจะดีกว่าส่วนด้านหน้าจอคนขับสามารถปรับเปลี่ยนได้หลากหลาย แต่ไม่อิสระเท่าแบบเดิมมาในขนาดหน้าจอ 12.3 นิ้ว

ซึ่งถ้ามองเทียบกับรุ่นก่อนๆหน้าปัดมีความสวยทันสมัย หวือหวาขึ้น มิติภาพสวยขึ้น แต่การปรับแต่งอิสระนั้นน้อยลงเยอะ เพราะถ้ามองเทียบในรุ่นก่อนหน้า จะสามารถปรับตั้งค่าได้ทั้งโซนกลาง โซนซ้าย ขวาว่าจะให้แสดงผลอะไรบ้าง หรือให้โชว์อะไรบ้าง แต่รุ่นใหม่เราจะได้แค่เปลี่ยนหน้าตาภาพรวมทั้งหมดเท่านั้นจะปรับได้ไม่เยอะเท่ากับรุ่นก่อน แต่ที่พัฒนาขึ้นชัดเจนคือ Apple Carplay รองรับแบบไร้สาย และ รองรับการใช้งานแบบเต็มหน้าจอสะใจมากๆเลยทีเดียวครับ เพราะจากรุ่นก่อนๆจะชอบกดหน้าจอ ซ้ายขวาไปทำให้พื้นที่ใช้งานจริงได้น้อย รวมถึงในรุ่นนี้มีคีย์ลัดเสริมเข้ามาให้ในด้านล่างทำให้ไม่ต้องกดออกจาก Carplay เวลาจะสั่งงานอะไรถือว่าเป็นจุดที่ค่ายรุ่นอื่นๆไม่ค่อยมีกัน

งานออกแบบภายในเส้นสายด้านข้างเราจะเห็นเลยว่าทั้งมิติของตัวช่องแอร์กับเส้นสายจอบอกเลยว่าสวยมาก ส่วนการใช้งานก็ทำได้ดีเพราะหน้าจอมีเอียงเข้าหาคนขับเล็กน้อยครับไม่ได้ตั้งตรงทำให้อิงความเป็นการใช้งานได้ดีแต่ความเอียงอาจจะมีการสะท้อนแสงบ้างในการใช้งานจริงในบางจังหวะ ส่วนทางด้านหลังเราจะได้ช่องแอร์ แต่น่าเสียดายไม่มี USB สำหรับชาร์จไฟมาให้เลยในด้านหลัง ส่วนที่วางแขนต่างๆมีช่องวางมือถือ และ ที่วางแก้วน้ำมาให้ครบ ซึ่งในด้านหลังเราจะไม่ได้ม่านบังแบบหลัง หรือ ตรงประตูแบบ C350e รวมถึงไม่มีหลังคากระจกแบบรุ่นนั้นเช่นกันครับ

และทางด้านการขนจักรยานเองนั้นคันนี้สามารถรองรับได้สบายด้วยการพับเบาะได้ 3 ส่วนและสามารถเรียบเนียนได้ แต่ทางด้านจักรยานเองอาจจะต้องถอดล้อกันซักเล็กน้อยครับเนื่องจากพื้นที่ความสูงต่างๆจะเป็นข้อจำกัดของ Sedan

TECHNOLOGY

เทคโนโลยีพื้นฐานระบบความปลอดภัยมาครบ พวก Active Safety พอมีบ้าง ระบบเตือนรถในมุมอับสายตา Blind Spot Assist  ระบบช่วยเบรก Active Brake Assist หรือออฟชั่นความสะดวกแบบ ระบบช่วยจอดแบบอัตโนมัติ Active Parking Assist กล้องมองภาพขณะถอยหลัง และ ระบบ Exit warning Function  แน่นอนว่าด้วยความที่เป็นตัวเริ่มต้นอาจจะไม่ได้เยอะมากเท่าไรนัก แต่ด้วยราคาที่เกือบ 3 ล้านอาจจะดูให้มาน้อยไปพอสมควร

กล้องที่ให้มาจะมีแค่กล้องมองหลังเท่านั้นไม่มีกล้องรอบคัน ส่วนที่ชอบในรุ่นนี้อาจจะเป็นพวก UI UX ของตัวระบบรถยนต์ที่มีการเปลี่ยนแปลงมากขึ้น ทั้งหน้าตา การออกแบบ การใช้งานถือว่าคิดมาดีสำหรับการใช้งานจริงๆบนรถยนต์ ไม่ใช่เน้นเรียบง่ายแต่ใช้งานยากซึ่งจุดนี้ผมว่าลงตัวไม่ว่าจะอยู่หน้าไหน เราก็จะสามารถปรับแอร์ พัดลมได้ทันทีไม่ต้องออกจากหน้าจอ หรือเข้าไปหน้าอื่นๆ และบรรดาหน้าจอแสดงสถานะตัวรถ ตั้งค่ามีความสวยงามมากๆ

DRIVING

ทางด้านการขับขี่แน่นอนว่า C220D จะใช้ช่วงล่างธรรมดาไม่ได้สปอร์ตอะไรครับ แต่การขับขี่ต่างๆนั้นถือว่าเพียงพอต่อการใช้งานทั่วไปแล้วในรุ่นทั่วไปความนุ่มนวลและยวบๆของค่าย BENZ ยังคงมีบ้างถ้าเป็นคนที่ขับเร็ว และ สายซิ่งตัวรถอาจจะไม่ได้เซตมาแบบนั้น จะอารมณ์เดียวกับพวก CLS300d แต่ตัวรถจะคล่องตัวกว่าเล็กน้อยด้วยขนาดที่เล็กกว่า แต่ถ้าขับเร็วๆความมั่นใจอาจจะไม่ได้ดีมากนัก ส่วนทางด้านอัตราเร่งนั้นในรุ่นนี้จะได้ไฟฟ้าเล็กๆเข้ามาช่วยในเรื่องสตาร์ต และ เร่งแซงในบางจังหวะ ทำให้อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลา 8 วินาที และ 80-120 กม./ชม. ภายในเวลา 6 วินาที ถือว่าพุ่งดีกว่าที่คิดแต่รุ่น W205 แอบพุ่งกว่าด้วยน้ำหนักตัวรถที่ดูน้อยกว่านั้นเอง ทำให้ไม่ได้หวือหวาเท่าไรส่วนอัตราสิ้นเปลือง หรือ ความประหยัดรุ่นนี้ทำได้ดี ทั้งดีเซลที่ราคาดี และ อัตราสิ้นเปลืองที่ 16-17 กิโล/ลิตร ในต่างจังหวัด ส่วนในเมืองจะอยู่ที่ 12 กิโล/ลิตร นั้นเองครับถือว่าอยู่ในระดับที่ประหยัดเอาเรื่องนะ

MERCEDES-BENZ C220D AVANTGARDE

” BENZ ที่ยังคงเป็น BENZ ความหรูหรา ดีไซน์ครบ เป็นเครื่องดีเซลส่งท้ายก่อนยุคไฟฟ้า”

ถ้าใครกำลังมองรถขนาดกลาง ยุโรปในงบ 3 ล้านและเน้นไปที่ดีเซลก็อาจจะมีตัวเลือกไม่เยอะ แต่ถ้าเป็นคนที่ติดแบรนด์เอง Mercedes-Benz นั้นน่าจะเป็นตัวเลือก 1 แน่นอนครับ ด้วยความที่เทียบกับคู่แข่งทั้งหมด มันจะเป็นโมเดลใหม่ที่สุด ทั้งด้านนอก และ ด้านใน รวมถึง ภายใน เพราะถ้าเทียบกับแบรนด์อื่นๆ จะเป็นโมเดลที่ขายมานานแล้วทั้งคู่เลยนั้นเอง ซึ่งทำให้ได้เปรียบมากๆทั้ง Platform ใหม่ล่าสุด ภายในล้ำที่สุด และ ได้ความประหยัด และ ดีเซล แถมได้แบรนด์ ซึ่งช่วงล่างอาจจะไม่ได้เหมาะกับการขับขี่เร็วหรือสายซิ่ง เน้นสายขับชิลมากกว่าถ้ายอมรับจุดนี้ได้กับเรื่องของออฟชันเมื่อเทียบกับราคาที่มีหายไปบ้าง และ ราคาที่ปรับขึ้นได้มันก็เป็นตัวเลือกที่ดีมากๆคันนึงตอนนี้

สำหรับรีวิวนี้เป็นการทำบทความเกี่ยวกับรถยนต์ หรือ สายยานยนต์ของเรา และถ้าหาก มีข้อผิดพลาดประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ มีข้อเสนอแนะ หรือข้อนำแนะอะไร ยังไงสามารถแจ้งเราได้เสมอเพื่อการปรับปรุงที่ดีขึ้นครับ เพื่อนๆสนใจอยากให้พวกผมรีวิวรถรุ่นไหนสามารถ Inbox มาบอกเราได้เลยนะ จะพยายามจัดหามาให้อ่านกันเยอะๆ ขึ้นเรื่อยๆ ครับ … สำหรับ Techhangout Auto !

ฝากไลค์เพจ FACEBOOK เราด้วยนะครับ >>>>>>>>>  TECHHANGOUT

เข้าร่วมกลุ่ม TECHHANGOUT พูดคุยแลกเปลี่ยน ข้อมูล คุยกันเองชิลๆได้เลยที่ — Facebook  Techhangout พูดคุย Smartphone gadget 

Comments กันได้เลย !

Comments

0 Shares