LENOVO แบรนด์นี้ก็ถือว่าเป็นอีกแบรนด์ที่มีคอมพิวเตอร์พกพาที่ค่อนข้างหลากหลาย และยังคงเป็นค่ายที่ทำตระกูล YOGA หรือ IDEAPAD SLIM ทำออกมาได้ค่อนข้างบาง ซึ่งจุดเด่นของค่ายนี้คือหลายๆรุ่นนั้นสามารถกางได้ 180 องศาเลยทีเดียว รุ่นนี้ก็ยังคงทำได้ดี รุ่นที่เรารีวิวจริงๆจะเป็นตัวเมืองนอกจะใช้ชื่อ IDAPAD SLIM  แต่ในไทยนั้นจะคุ้นเคยกันในชื่อ YOGA มากกว่า แตกต่างกันแค่ชื่อ เลยขอเรียกในรีวิวนี้ว่า YOGA จะได้ไม่งง หรือสับสนกันถ้าเข้าไทย ในรุ่นนี้เป็นบอดี้อะไรคล้ายกับที่ขายก่อนหน้าในอีกสเปกค่ายฟ้า แต่ครั้งนี้การปรับมาใช้งาน Ryzen 7 4800U รุ่นล่าสุดทำให้อะไรหลายๆอย่างนั้นทำได้ดีขึ้น พร้อมกับประสิทธิภาพนั้นยังคงทำได้ดีมาก และยังคงมาพร้อมกับ RAM 16GB และใช้งาน หน้าจอ 14.0″FHD IPS Glare WLED พร้อมกับ 512GB SSD PCIe รวมถึงดีไซน์การใช้งานยังคงคล้ายกับรุ่นสเปก 4700U ด้วยเช่นกัน รวมถึงดีไซน์ภาพรวมทั้งหมดของตัวนี้

LENOVO YOGA SLIM 7 RYZEN 4800U ในรุ่นนี้มาพร้อมกับสเปกตัวใหม่ล่าสุด ใช้งานตัวเทพตระกูลประหยัดจากทีม AMD คือตัว RYZEN 7 4800U (1.80GHz – 4.2 GHz ,8 core/16 thread ,TDP 15W) พร้อมกับ Radeon RX Vega 8 แรม 16GB DDR4 1600 MHz Dual Channel ด้วยเช่นกัน และใช้งาน 512GB SSD PCIe รวมถึงทางด้านหน้าจอนั้นใช้งานขอบบางๆมาในขนาด 14.0″FHD IPS จอแบบเงา WLED Backlight 1920×1080 ความสว่างสูงสุด 300 nits  ทางด้านสเปกอื่นๆนั้น มาพร้อมกับลำโพงคู่ 2 x 2W Dolby Atmos® หน้าจอขอบบางพร้อมกับ IR Camera ในการสแกนใบหน้าก่อนเข้าเครื่อง ใช้งาน USB-C ในการชาร์จไฟเข้าพร้อมรองรับชาร์จไว และทำน้ำหนักในภาพรวมได้บางเบาพอสมควร เหมาะแก่การพกพาไปไหนมาไหน รวมถึงการกางหน้าจอที่อิสระพอสมควรในรุ่นนี้ ส่วนในไทยนั้นสเปกตัวนี้ยังไม่ได้เข้าไทยอย่างเป็นทางการเลยไม่แน่จว่าอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงบางจุดก็เป็นไปได้ รวมถึงทางด้านราคาที่จะเข้ามาขายด้วยเช่นกัน

UNBOX

  • ตัวเครื่อง LENOVO YOGA SLIM 7 (ideapad slim 7 )
  • ที่ชาร์จ USB-C 65W
  • คู่มือและใบรับประกัน

DESIGN

งานออกแบบนั้นยังคงไม่ได้หนีจากรุ่นก่อนหน้า หรือสเปกอื่น เปลี่ยนแค่ส่วนข้างในเป็น 4800U ตัวล่าสุดที่เราเคยได้ไปทดสอบกันที่ TEXAS,USA เลยนั้นเอง ครั้งนี้ได้ส่งเครื่องส่งตรงจากเมืองนอกเลย ทำให้แป้นพิมพ์นั้นไม่มีภาษาไทยนั้นเอง แน่นอนว่าวัสดุงานออกแบบโทนสีนั้นถือว่าเป็นโลหะสวยงาม และมีความแข็งแรงพอสมควรโทนสีเทา น้ำหนัก 1.4 กก. ด้วยวัสดุโลหะทั้งเครื่องเลยอาจจะทำได้ไม่ต่ำกว่า 1 กก.ได้นั้นเอง แต่ได้ความแข็งแรงแลกมาแทน รวมถึงกางหน้าจอ 180องศาแบบนี้ไม่ค่อยจะเห็นค่ายไหนทำได้กันเท่าไรนัก มีความแข็งแรงพอสมควร

ในรุ่นนี้ยังคงมาพร้อมกับงานออกแบบที่คุ้นเคย หน้าจอแบบเต็มๆตาพร้อมกับระบบสแกนใบหน้า IR ทำให้รองรับการสแกนใบหน้าได้ทันที ในส่วนขอบบนตัวเครื่องถือว่าสะดวก หน้าจอ 14 นิ้วมีความบางพอสมควรแ ต่หน้าจอเป็นแบบเงาอาจจะทำให้ในการใช้งานข้างนอกลำบากมากๆ เพราะเจอแสงสะท้อนได้ง่ายพอสมควรเลยครับตรงนี้ ส่วนฝาหลังนั้นไม่มีอะไรมากเป็นแค่โลโก้แบรนด์เท่านั้น แต่ที่ขายในไทยถ้าเป็นชื่อ YOGA นั้นจะมีเขียนให้ด้วยมุมซ้ายบน แต่เนื่องจากอันนี้เป็นตัวสเปก USA เลยทำให้มันนขายในชื่อ IDEAPAD SLIM 7 แทนนั้นเองต่างกันแค่ชื่อเท่านั้น

งานประกอบวัสดุต่างๆ นั้นยังคงขึ้นรูปชิ้นเดียวกันทั้งหมด วัสดุของส่วนแป้นพิมพ์รวมถึงฝาหลังนั้นใช้งานวัสดุแบบเดียวกันโทนสีเดียวกัน และตรงคีย์บอร์ดนั้นจะมีเว้าเข้าไปนิดหน่อยให้มีพื้นที่ในการกดต่างๆ และการวางลำโพงนั้นจะอยู่ตรงขอบข้างๆคีย์บอร์ดด้วยซ้ายขวา ส่วนช่องระบายอากาศนั้นจะอยู่ข้างหลังยิงออกมาด้านข้างหน้าจอด้วย ระบายออก 3 ช่องหลักๆ ซึ่งข้อดีของรุ่นนี้คือมีพัดลมระบายทั้ง 2 ข้างเลยทำให้จัดการความร้อนได้ค่อนข้างดี

ฝาหลังฐานของ LENOVO YOGA SLIM 7 นั้นมีความเรียบๆ พร้อมกับช่องระบายอากาศขนาดใหญ่ วางเรียงกันขอบด้านบนพร้อมกับจะเห็นว่ามียางรองแนวยาวในด้านหลังและ ยางรองในด้านหน้าส่วนข้างในนั้นจะแอบเห็นว่ามีพัดลมทั้ง 2 ฝั่งซ้ายขวา และ มีระบบระบายความร้อนได้ค่อนข้างดี เพราะปกติในรุ่นเล็กๆบางๆจะเห็นแต่พัดลมอันเดียวครับ ซึ่งในรุ่นนี้มาพร้อมกับ HeatPipe 1 เส้นและการอัพเกรดจริงๆนั้นมีแค่ตัว SSD ที่พอจะถอดเปลี่ยนได้เท่านั้น

ทางด้านหน้าจอยังคงกางได้ค่อนข้างเรียบแบนและเป็นอีกจุดที่เราค่อนข้างคุ้นตากันในค่ายนี้ที่จะสามารถพับหน้าจอได้เรียบไปกับพื้นแบบนี้ ส่วนข้อพับอะไรนั้นออกมารองรับได้ค่อนข้างดีเลยแหละ งานประกอบรอยต่อวัสดุตามขอบนั้นถือว่าเก็บได้ค่อนข้างเนียนเลยทีเดียว ถือว่าในแง่ของวัสดุอะไรอันนี้ถือว่าสวยงาม และมีความแข็งแรง ส่วนทางด้านปุ่มเปิดปิดนั้นจะอยู่ขอบเครื่อง อาจจะดูแปลกตากันนิดหน่อยแต่ก็สามารถใช้งานได้ปกติไม่มีปัญหาแต่อย่างใด

SPEC

  • หน่วยประมวลผล AMD Ryzen 7 4800U Processor
  • ระบบปฏิบัติการ Windows 10 Home Single Language 64
  • ประเภทจอแสดงผล 14.0″FHD IPS Glare WLED Backlight Narrow Bezel with Glass 1920×1080
  • หน่วยความจำ 16GB LPDDR4X Onboard 1,600 MHz Dual Channel
  • การจัดเก็บข้อมูล 512GB SSD PCI
  • การรับประกัน 1 Year การรับประกันแบบลูกค้านำส่งศูนย์บริการด้วยตนเอง
  • AC Adapter 65W
  • กราฟิก AMD Radeon Graphics VEGA 8
  • แบตเตอรี่ 4 Cell Li-Polymer
  • Bluetooth Bluetooth Version 5.0
  • Camera IR & 720p HD Camera
  • Keyboard 6-row Backlit
  • ไร้สาย Intel Wi-Fi 6 22260 2x2ax non-vPro

PERFORMANCE

ประสิทธิภาพในรุ่นนี้ใช้งาน Ryzen 7 4800U 1.8GHz -4.2 GHz ตัวล่าสุดที่มาพร้อมกับสถาปัตยกรรม 7 นาโนเมตรเช่นเดิม แน่นอนว่ามาพร้อม 8 คอร์ 16 เทรด ส่วนทางด้านกราฟิกนั้นมาพร้อมกับ VEGA 8 ซึ่งเป็นการ์ดจอ Onboard แต่ก็มีประสิทธิภาพที่ไม่แตกต่างกับการ์ดจอแยกเลยนั้นเอง และข้อดีของการใช้งานแบบนี้ทำให้ใช้พลังงานค่อนข้างน้อยแต่ได้ประสิทธิภาพของการเล่นเกมทำงาน 3 มิตินั้นดีไม่แพ้กันเลยในส่วนนี้ ทางด้าน RAM 16GB ให้มาเต็มที่เป็นแบบ DualChannel เป็นแบบ Onboard 1600 MHz ถือว่าเพียงพอมากๆ และ ความจุ SSD 512GB PCI ความเร็วในการอ่านเขียนนั้นถือว่าเร็วเอาเรื่องจากที่ทดสอบ และมาพร้อมกับ Windows 10 พร้อมใช้งานเลย

PCMARK คะแนนทำได้ 4899 ถือว่าตามระดับของ CPU เป็นการเรนเดอร์ในหลายๆอย่างที่เสมือนกับทำงานจริงๆในแง่ของการใช้งานทั้งหมดเวลาใช้งานคอมพิวเตอร์คะแนนเอาจริงๆถือว่าไม่แย่เลยนะถ้าเรามองในราคาแค่นี้ และทำคะแนนออกมาได้ประมาณนี้แน่นอนว่าดีกว่า CPU รุ่นก่อนเยอะ ทำให้ตัวนี้ถือว่าน่าพอใจครับทำงานทั่วไปสบายๆไม่ต้องกังวลอะไร และทำคะแนนรวมๆนั้นถือว่ารองรับการทำงานทั้งหมดได้หลากหลาย เต็มประสิทธิภาพกว่าแบบเดิมชัดเจน ทางด้านความร้อนนั้น CPU 72 และ GPU 68  สำหรับการทดสอบนี้ให้สภาพอากาศปกติ

3D MARK เราทดสอบแบบพื้นฐานกันในส่วนของ Sky driver / Night Raid ถือว่าทำคะแนนได้ดีเอาเรื่องเลยคะแนนในส่วนของ Night Raid ตัวนี้ทำได้ 13,966 คะแนนดีกว่ารุ่นเดิมอีกนะ การประมวลผลของรุ่นนี้ในแบบ 3 มิติ ทำได้ดีมากๆแม้จะไม่มีการ์ดจอแยกเข้ามาช่วย แต่ทำคะแนนได้เท่ากับพวก MX เลยและใช้งานได้ในแง่ของการเรนเดอร์พวก 3 มิติทั้งหลาย ถือว่าสบายๆไม่ต้องกังวลทำให้การทำงานต่างเรนเดอร์เริ่มต้นอะไรสบาย ส่วนเรื่องคะแนน Sky Driver นั้นแตะ 12,782 ได้เลย ความร้อนที่ทดสอบนั้น CPU 72 และ GPU 67 ครับสำหรับตัวนี้ สภาพอากาศปกติ ถือว่าเป็นการ์ดจอ Onboard ที่ทำได้ดีมากๆ และคะแนนก็แสดงให้เห็นว่าดีมาก

CINEBENCH R20 -15 ตัวนี้คะแนนวัดที่ CPU ล้วนๆเลยแหละทำไปได้ 1230 ทำได้ดีมาก อย่างที่บอกว่ารุ่นนี้คือมาแรงมาก และพัฒนาขึ้นเยอะในคะแนนของตัว R20 ที่โหดกว่าเดิมนั้นทำไปได้ 3117 cb ถือว่าคะแนนดีเลยแหละในแง่การประมวลผลของ CPU แอบดีกว่าเดิมพอสมควรส่วนตัวนี้มาพร้อมกับ   SSD    ทำคะแนนการอ่านไปได้สูงมากๆ และถือว่าเทียบกับ การใช้งานถือว่าโหดมากๆ สามารถอ่านสูงถึง 3465 ส่วนเขียนที่ 2111 ครับจากทดลองหลายๆรอบให้มา 512GB  ถือว่าเพียงพอและความเร็วความจุนั้นสบายๆในการใช้งานทั่วไป

SCREEN

ทางด้านหน้าจอในรุ่นนี้มาพร้อมกับขนาด 14 นิ้ว ซึ่งใช้งานหน้าจอแบบเงาจะค่อนข้างสวยในการใช้งาน พร้อมกับความละเอียด FHD 1920×1080  IPS  WLED Backlight ถือว่าในเรื่องของหน้าจอในการใช้งานจริงอาจจะเจอแสงรบกวนได้ง่ายเวลาไปทำงานนอกสถานที่ต่างๆ เวลาเจอฉากหลังที่สว่างหรือมีแสงรบกวนเยอะๆอาจจะลำบากนิดหน่อยเพราะตัวจอก็อาจจะไม่ได้สว่างสู้แสงได้โหดมากนักในการใช้งานจริง ประมาณ 300Nits ถ้าอิงตามสเปกส่วนการออกแบบขอบหน้าจอมีความบาง และสวยงามพอสมควรเป็นชิ้นเดียวกันทั้งหมดรอบเครื่องดูเนียนสวย ส่วนค่าความแม่นยำของสีนั้นตัวสเปกนี้ยังไม่ใช่หน้าจอ 100% sRGB แต่เท่าที่ทดสอบดูนั้นสีสันพอใช้งาน 80% ได้ครับในแง่ของมิติแสงสีอะไรสวยงามแต่ก็อาจจะไม่ได้โหดอะไรมากนัก ในบางเฉดสีหรือสีดำบางล่วงก็อาจจะมีแปลกๆ

หน้าจอในมุมองอื่นๆหรือมุมมองเอียงนั้นต้องบอกว่ายังคงรองรับได้ดีเนื่องจากเป็นหน้าจอแบบ IPS แน่นอนว่าเรื่องของมมุมมองอะไรต่างๆนั้นไม่มีปัญหาซักเท่าไรรวมถึงในแง่ของการใช้งานจริง เพราะหน้าจอรุ่นนี้รองรับการกางได้กว้างอาจจะทำให้ในเรื่องของมุมมองนั้นสะดวกพอสมควรเลยแหละ ส่วนหน้าจอแบบเงานั้นจะเริ่มรู้สึกเช่นในภาพนั้นทดสอบใช้งานจริงๆเลยในการทำงานตามร้านกาแฟนั้นจะเจอแสงรบกวนได้ค่อนข้างง่ายในบางมุมก็ต้องปรับองศา หลับกันไปนั้นเอง แต่ถ้ามองในแง่ของคุณภาพหน้าจอตัวนี้ถือว่าทำได้ในภาพรวมสีสันสวยงาม และมีมิติอยู่เช่นกัน

KEYBOARD /  TOUCHPAD 

แป้นพิมพ์มาในขนาดมาตรฐานแบบเต็มรูปแบบพร้อมกับไฟ 2 ระดับในการเปิดปิดได้ แต่อย่างที่แจ้งไปนั้นในรุ่นนี้ยังคงเป็นรุ่นที่ขายในเมืองนอก สเปกอะไรทั้งหมดเป็นรุ่น US ทั้งหมดทำให้ไม่มีแป้นพิมพ์ภาษาไทย แต่การออกแบบอะไรนั้นจะเหมือนกันทั้งหมด การวางปุ่มอะไรเป็นแบบที่เราคุ้นกันในรุ่นปกติ หรือรุ่นก่อนหน้าในสเปกอื่นๆ พร้อมกับคีย์ลัดต่างๆพร้อมใช้งานทั้งหมด ส่วน Touchpad มีขนาดกำลังดีใช้งานได้ดี เหมาะกับขนาดตัวเครื่องและระบบสัมผัสค่อนข้างติดนิ้ววัสดุอะไรถือว่าโอเค การกดคลิกซ้ายขวาก็สามารถกดลงไปได้เลยไม่มีปุ่มแยกมาให้ก็ตาม

ระยะการกดนั้นมีความลึกระดับนึงในการใช้งานจริง และรู้สึกแน่นพอสมควรฟีลลิ่งในการกดรู้สึกโอเคมากๆ เมื่อเทียบกับความบางของตัวเครื่องส่วนตัวค่อนข้างชอบกว่าตัวอื่นในเรทราคนี้พอสมควรทั้งระยะการกด การเว้นระยะของปุ่มรวมถึงการเว้าต่างๆนั้น ระยะการกดอาจจะไม่ได้ลึกสะใจมาก แต่ความรู้สึกการเด้งรับต่างๆนั้นถือว่าโอเคอย่างมากในตัวนี้ และการใช้งานพิมพ์ในระยะเวลานานก็ถือว่าไม่ได้น่าเกลียด แต่องศาตัวเครื่องอาจจะเรียบๆไม่มีส่วนเอียงขึ้น เลยทำให้มืออาจจะไม่ได้สบายมากนัก ถ้าหากเทียบกับอีกค่ายที่มีการยกตัวเครื่องขึ้นมาแค่นั้น แต่ปุ่มตัวนี้ถือว่าทำได้ดีนะ

SPEAKER 

ลำโพงในรุ่นนี้มาพร้อมกับลำโพงคู่ 2W รองรับระบบเสียง Dolby Atmos ทำให้ในเรื่องของเสียงนั้นสะใจและไว้ใจได้พอสมควรเมื่อเทียบกับขนาดของมันแม้จะดูเครื่องบางก็ตามแต่เสียงนั้นจัดเต็มอยู่พอสมควรเลยแหละ เสียงมีทิศทางชัดเจน ด้วยการที่รองรับระบบเสียง Dolby Atmos นั้นทำให้เวลาเล่นเกมหรือดูหนังจะมีมิติกว่าทั่วไป แต่ถ้าถามถึงความดังสะใจนั้นอาจจะไม่ได้เป็นจุดประสงค์หลักของระบบนี้ และเมื่อเทียบกับเรทนี้ตัวอื่นๆก็ไม่ได้หนีกันมากในแง่ของความดัง แต่การวางตำแหน่งลำโพงแบบนี้รวมถึงรองรับระบบนี้ เลยทำให้ทิศทางของเสียงมันทำออกมาได้ดี

CONNECTOR

ฝั่งซ้ายนั้นถือว่าเป็นรุ่นบางไม่กี่รุ่นที่ใส่ HDMI มาให้รองรับพร้อมใช้งานเลยถือว่าโหดและใช้งานได้จริง ในริมซ้ายสุดในภาพนั้นจะเป็น USB-C เป็นช่องสำหรับชาร์จไฟเข้าเป็นหลัก และใช้งานอื่นๆได้เช่น DP + power delivery  รวมถึงมาพร้อมกับ HDMI และ USB-C อีก 1 ช่องสำหรับการใช้งานทั่วไป และ 3.5 มม. ยังคงใส่เข้ามาให้ด้วย

ในฝั่งขวาของตัวเครื่องนั้นมาพร้อมกับ ช่องใส่ Micro SD card reader ยังคงใส่มาให้ใช้งานกัน และ 2 x USB 3.1 Gen 2 ให้มา 2 ช่อง และไฟสถานะรวมถึง สุดท้ายนั้นจะเป็นปุ่มเปิดปิด  Power button

WORKING

Ryzen 7 4800U นั้นแน่นอนว่ารองรับการทำงานทั่วไปเช่น Microsoft ทั้งหมด อันนี้รองรับได้สบาย Excel Word สบาย พวกนี้ไม่มีปัญหา และ RAM 16 GB ก็เพียงพอ ส่วนของ ADOBE รองรับได้อยู่ ในส่วนของ Photoshop CPU มันไหวทำงานหลายๆอย่างพร้อมกันได้สบายมากโล่งกว่า 8GB เยอะมากสามารถเปิดทำงานจริงได้ทันที ทำงานรวมๆทำได้ดีกว่าตัวเดิมนะ รองรับการทำงาน 3 มิติระดับเริ่มต้น การตัดต่อไฟล์วิดีโอ หรือ เรนเดอร์ได้แบบไฟล์ไม่หนักมาก ส่วนการดูหนังฟังเพลงทั่วไปสบาย โปรแกรมดูหนัง อื่นๆที่รองรับได้สบายไม่มีปัญหา หลักๆจะเน้นทำงานเบาๆจะดีกว่าในรุ่นนี้ หรือต่อภาพออกพรีเซนต์งานอะไรก็ทำได้สบาย มีพอร์ตเชื่อมต่อต่างๆ และ USB มาให้ค่อนข้างครบเลยแหละ และใช้งานกลาง-หนักได้ ขอยกความดีให้ทั้ง RAM 16GB + Ryzen7 4800U และความเร็วในการอ่านเขียนของ SSD ตัวนี้ทำให้สามารถรันโปรแกรมทำงานได้จริงและใช้งานจริงได้ดีอย่างมากครับ

PHOTOSHOP 

เป็นโปรแกรมที่เรียกว่าพื้นฐานสำหรับทุกๆงานเลยก็ว่าได้ หลายๆคนน่าจะใช้งานกันเยอะทั้งการตกแต่งภาพ ตัดต่อ ทำสินค้าต่างๆมากมาย หรือจะเป็นการทำงานระดับเริ่มต้นก็ใช้งานโปรแกรมนี้กัน และแน่นอนว่าเราก็ทดสอบกันเต็มๆเลยในการเปิดไฟล์งานทั้งหมด 7-8 ไฟล์งานที่แต่ละไฟล์งานนั้นมาพร้อมกับความจุค่อนข้างเยอะ เพราะเป็นงานเรนเดอร์ตึกที่มีหลากหลายเลเยอร์มากๆ แต่ที่น่าสนใจคือตัวโปรแกรมกลับทำงานได้ลื่นไหลมากจริงๆดีกว่าที่คิดไว้มากๆ และการใช้งาน CPU ไม่ได้โหลดเยอะเลยครับถือว่า CPU ตัวนี้จัดการได้อยู่สบายๆ และแม้จะเปิดหลากหลายโปรแกรมก็รองรับได้อยู่แต่ถ้าจะใช้งานพร้อมกัน ตรงนี้จะเห็นว่าตัว RAM นั้นจะเริ่มแน่นมากๆแล้วครับแต่สามารถรองรับได้สบาย 16GB ยังคงเอาไหว + CPU รองรับได้สบายๆถ้าทำงานโปรแกรมเดียวชิลๆ ผ่านสบายเลยแหละ

ILLUSTRATOR 

ทำงานด้านกราฟิกเน้นๆสำหรับทำพวก ARTWORK ต่างๆตัวนี้จริงๆไม่ค่อยกินอะไรมาก ถ้าทำงานพื้นฐาน แต่ถ้าเราเริ่มทำงานแบบโปรเจคใหญ่ๆที่มีหลากหลายเลเยอร์ หรือหลายๆหน้าในไฟล์เดียวนั้น จึงจะเริ่มออกครับว่าคอมนั้นรองรับไหวไหม และแน่นอนเท่าที่ทดสอบดูนั้นไฟล์งานตัวนี้ก็ถือว่ามีขนาดใหญ่ สำหรับพรีเซนต์โปรเจคครับ และในแต่ละ PAGE นั้นมีทั้งแปลนห้อง ตัวหนังสือ รวมถึงกราฟิก INFOGRAPHIC พวกนี้แต่ก็ถือว่ารองรับได้สบายๆสามารถใช้งานได้ไม่มีปัญหา และสามารถสลับระหว่าง PHOTOSHOP และ AI ได้สบายๆครับไม่เจออาการเด้ง หรือหน่วงค้างอะไร ซึ่งการที่ RAM 16GB จะเห็นว่าสามารถเปิดพร้อมกัน 2 โปรแกรมได้ดีและ CPU เหลือๆครับ

PREMIERE PRO

เรนเดอร์งานวีดีโอนั้นในรุ่นนี้ถือว่าสบายๆ รองรับได้อยู่สำหรับตัว CPU เลยขอเอามาทดสอบเรนเดอร์กันหน่อยว่า 4K 60FPS นั้นทำได้ดีแค่ไหน ในตัวนี้ จะเรนเดอร์ได้ภายใน 1ชั่วโมง 2 นาที แต่ถ้าใช้งาน i7 9750H นั้นจะใช้เวลาประมาณ 37-45 นาที และถ้าเทียบกับ 3700U ตัวก่อนตัวนั้นใช้เวลาไปมากถึง 2 ชั่วโมง และถ้าเทียบกับ R7 4700U RAM 8GB นั้นจะได้ 1 ชั่วโมง 20 นาที โดยประมาณเลย แน่นอนว่าอย่าลืมอันนี้ยังคงเป็นตัว U นะครับถือว่าความเร็วในการเรนเดอร์นั้นไม่น้อยหน้าตัวอื่นเท่าไรในการใช้งานจริง แต่ก็อย่างว่ามันไม่ได้ออกแบบมาทำตรงๆในสายงานนี้ และในการเรนเดอร์คลิปต้องบอกว่ามันมีผลแบบชัดเจน ถ้าเราเอาคลิปแต่ละเครื่องมาเทียบกันกับระยะเวลาในการเรนเดอร์ โดยทางเราทดสอบในการเรนเดอร์คลิปแบบเดียวกันทั้งหมด ส่วนเรื่องของอุณหภูมินั้นจะประมาณ 75 องศา ในการเรนเดอร์ตัวนี้ ส่วนการตัดต่อก็ไม่ได้มีความหน่วงหรือค้างอะไร

SKETCH UP 3D 

การทำงานเรนเดอร์โมเดล 3 มิติอีกโปรแกรมนึงที่ใช้งานกันบ่อยพอสมควร สำหรับตัวแอดเองเวลาทำแบบบ้านต่างๆนั้น SKETCH UP 3D ในงานนี้ก็เป็นการทดสอบแบบจัดเต็มเลย คือเรนเดอร์ไฟล์ความละเอียดสูงพร้อมกับใส่ Texture ที่อิงกับแสงและทั้งตัวกระจกเองรวมถึงดีเทลในอาคารก็ถือว่าเป็นการทดสอบได้ดี แต่จะสลับไปทำโปรแกรมอื่นได้ยากหน่อยเพราะ มันกินพลังงานมากจริงๆ 100% ตลอดเวลา แต่ข้อดีของ RAM 16GB เริ่มชัดทำให้เราสลับแอปได้อยู่ในการใช้งานจริง เวลาเช็คมุมมองหรือเทียบแปลน และในส่วนของเวลานั้นถือว่าไวกว่าที่คิดเลย ตัวนี้นั้นเท่าที่ลอง แต่ถ้าตัวนี้ได้ภายใน 27 นาทีเท่านั้นเท่ากับประหยัดเวลาไปเยอะมาก ที่สำคัญคือไม่เจออาการหน่วงหรือมึนอะไร รวมถึงในเรื่องของความร้อนก็สามารถคุมได้ดี ประมาณ 69 องศา อันนี้ถือว่าพกพาทำงานแก้งานได้ดีเลย

GAMING 

RYZEN 7 4800U + VEGA 8 เดิมๆ Onboard ครับใน การทดสอบเล่นเกม Overwatch ได้ค่อนข้างลื่นและ FPS  65-70 สบายๆ ความร้อนนั้นประมาณ  63 องศา และ CPU แตะไป  74 องศา ครับถือว่าปกติของพวก Ultrabook เล่นในสภาพอากาศไม่มีแอร์ ไม่มีพัดลม และจากที่ทดสอบนั้นเลยของลองตัว PUBG นั้นได้ FPS 30+ ส่วนความร้อนนั้นไม่ได้แตกต่างกันมาก ในการเล่นเกม และ COD MW ก็พอไหวด้วย ถือว่าน่าสนใจเลยในตัว การ์ดจอในตัวแบบนี้ ความร้อนระบายได้กลางๆเพราะมันเป็น Ultrabook ไม่ได้สายเกม รับได้ในการเล่นเกมทั่วไปพื้นฐานปรับลื่นได้สบาย แต่การทำงานอาจจะเล่นระยะยาวจะแอบทรมานเครื่องไปพอสมควร

คุณภาพนั้นปรับภาพระดับกลาง และ ที่แอดมินทดสอบคือเล่นในสภาพอากาศปกติ ไม่ได้เปิดแอร์  ไม่ได้มีพัดลมช่วย ก็ถือว่าเล่นเกมได้ลื่นและไม่ได้แย่ เล่นได้ปรับภาพกลางได้ไม่ติดขัด และทำได้ไม่แพ้พวก การ์ดจอแยกที่มี MX250 เลยครับ ประสิทธิภาพโดยรวมนั้นสูสี และสู้ได้สบาย แต่ที่ชอบคือความร้อนและการกินพลังงานนั้นน้อยกว่า แต่ได้แรงเท่ากันถือว่าครั้งนี้มาโหดมากพอสมควรเลยครับ 

LENOVO YOGA SLIM 7 

” RYZEN 7 4800U ยกระดับประสิทธิภาพในบอดี้คุณภาพ งานประกอบที่ไว้ใจได้ “

ก็ยังคงต้องขอชื่นชม AMD RYZEN7 อีกครั้งที่ครั้งนี้ยังคงทำได้ประทับใจ มันคือความลงตัวทั้งหมดทั้งเรื่องของ การประหยัดพลังงาน พร้อมกับประสิทธิภาพที่แรง และรวมถึงสเปกที่ใช้งานได้จริงทำให้เครื่องนี้ตอบโจทย์ทั้งการทำงาน เล่นเกม หรือจะเป็นการพกพาได้อย่างดี มาอยู่ในบอดี้งานประกอบที่เราคุ้นเคยจาก LENOVO เลยทำให้มันลงตัวอย่างไม่น่าเชื่อ พอร์ตเชื่อมต่ออะไรครบครัน ลำโพงทำได้ดี วัสดุงานประกอบแข็งแรง หน้าจอสวยและกางได้เยอะอีกทั้ง สเปกที่ให้มาลงตัวอย่างมากทั้งนี้อยู่ที่ราคาในไทยแล้วว่าจะทำออกมาเท่าไร และสเปกจะเป็นแบบไหนในรุ่น Ryzen 7 4800U รุ่นนี้หลายๆอย่างนั้นเรียกได้ว่าลงตัวแพร้อมใช้งานไม่ต้องไปทำอะไรอีกแล้ว ซื้อมาแล้วจบเลย

ข้อดี

  • ประสิทธิภาพของ CPU แรงเกินหน้าตาและขนาดของเครื่อง
  • การทำงานรองรับได้สบายทั้ง 2 มิติ 3 มิติแม้ไม่มีการ์ดจอแยก
  • Ryzen 7 4800U ทำได้ดีมากๆจนน่าตกใจ
  • สเปกในภาพรวมทำได้ดี RAM 16GB พร้อมกับ SSD 512GB
  • งานประกอบ วัสดุแข็งแรงและสวยงาม
  • ลำโพงมิติเสียงค่อนข้างดีในการใช้งานจริง
  • หน้าจอสวยและขอบบางพอสมควร
  • พอร์ตเชื่อมต่อทำได้ดี ครบพร้อมใช้งานและชาร์จผ่าน USB-C
  • ระบายความร้อนได้ดี พัดลม 2 ตัวแม้จะในขนาดที่เล็กและบาง
  • แบตทำได้อืดมากๆในการจัดการพลังงานของเครื่อง 12 ชั่วโมง+

ข้อสังเกต

  • หน้าจอยังไม่มี 4K หรือ คุณภาพสูงกว่านี้
  • ไม่รองรับระบบสัมผัส
  • จอแบบเงาอาจจะเจอแสงรบกวนได้ง่าย

สำหรับรีวิวนี้ผมก็ต้องขอตัวลาไปก่อนสำหรับรีวิวรุ่นต่อไปนั้นจะเป็นรุ่นอะไรอย่าลืมติดตามกันนะครับ ถูกใจฝากกดไลค์กดแชร์ด้วยนะครับ  มีข้อผิดพลาดประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ  เพื่อนๆสนใจอยากให้พวกผมรีวิวรุ่นไหนสามารถ Inbox มาบอกเราได้เลยนะ
ฝากไลค์เพจ FACEBOOK เราด้วยนะครับ >>>>>>>>>  TECHHANGOUT

เข้าร่วมกลุ่ม TECHHANGOUT พูดคุยแลกเปลี่ยน ข้อมูล คุยกันเองชิลๆได้เลยที่ — Facebook  Techhangout พูดคุย Smartphone gadget 

Comments กันได้เลย !

Comments

0 Shares