LENOVO ได้ทำการเปิดตัว GAMING NOTEBOOK รุ่นล่าสุดในไทยไปไม่นาน แต่กระแสนั้นบอกว่าขายดีพอสมควรทั้งที่การเปิดตัวมาพร้อมกับ สเปกทั้งทีม AMD ทีม INTEL ตอบโจทย์ลูกค้าแล้วแต่ชอบเลยว่าจะใช้งานค่ายไหนรวมถึงทางด้านงานออกแบบ และ สเปกที่ให้มาทั้งหน้าจอ ลำโพงอะไรให้ ATMOS มาครบ และราคาก็ถือว่าทำได้ดีขึ้นครับสำหรับค่ายนี้ ทาง LEGION 5I ครั้งนี้เราจะมาอยู่กับทีม INTEL ที่ใช้งาน i7 Gen 10 พร้อมกับ สเปก GTX 1650TI อยู่ในช่วงเรทราคาที่กำลังจับต้องได้ไม่แรงเกินไป พร้อมกับงานออกแบบใหม่ดีไซน์อะไรสวยงามขึ้นเยอะอย่างมากอีกทั้ง เด่นๆคือทางด้านหน้าจอที่สีตรง และเด่นกว่าคู่แข่งพอสมควร แต่ในการใช้งานจริงนั้นจะเป็นอย่างไรกันมาดูกันเลยสำหรับ LENOVO LEGION 5I รุ่นล่าสุดจากค่าย LENOVO ในครั้งนี้ครับ

LEGION 5I ตัวนี้ต้องบอกว่าสเปกนั้นถือว่า มาพร้อมกับ Intel Core i7-10750H ตัวล่าสุด 2.60 GHz, 12 MB L3 Cache, up to 5.00 GHz และใช้งาน NVIDIA GeForce GTX 1650 Ti (4GB GDDR6) พร้อมกับ RAM 8GB DDR4 2933 MHz และมีให้อัพเกรดได้อีก 1 ช่อง รวมถึงทางด้านความจุของตัวเครื่องนั้น ให้มาเป็น 512GB SSD NVMe  เรียกได้ว่าการอ่านเขียนนั้นถือว่าไวมากๆเลยทีเดียว ส่วนทางด้านหน้าจอในรุ่นนี้ถือว่ามีความโดดเด่นพอสมควรเพราะใช้งานหน้าจอ 15.6 ” (1920×1080) Full HD IPS 144Hz และยังได้ sRGB 100% ด้วยเน้นในเรื่องของความแม่นยำสีถือว่าโอเคเลยทีเดียว และใช้งานหน้าจอแบบด้าน และทางด้านลำโพงรุ่นนี้ใช้ลำโพง Harman รองรับระบบเสียง Dolby Atmos ด้วย และทางด้าน แป้นพิมพ์นั้นให้ไฟ RGB 4 โซนมาด้วยสีสันสวยงามพอสมควร และ ทางด้านงานออกแบบมีความโดดเด่น และหน้าจอใช้งานได้อิสระกางเรียบไปกับพื้นได้เลยเป็นเอกลักษณ์ของค่ายนี้เลยแหละ ส่วนทางด้านการเชื่อมต่อก็รองรับ WIFI 6 +BT 5.0 มาให้พร้อม

LENOVO LEGION 5I ในรุ่นนี้ เริ่มต้น 32,990 บาท แต่ในส่วนของสเปกที่รีวิวนั้นจะเป็น 36,990 บาท ซึ่งจะมาพร้อมกับ i7 10750H + GTX 1650Ti พร้อมหน้าจอ IPS 144HZ 15.6 นิ้ว และ. RAM 8GB DDR4 2933Mhz และ 512GB SSD NVMe ถือว่าสเปกพอใช้งานเลยทีเดียว แต่ถ้าเพิ่ม RAM จะลงตัวทีเดียวเลย

UNBOX

ตัวกล่องมีการออกแบบสวยงามและโดดเด่นพอสมควรมีความหนาพอประมาณ และเล่นลวดลายอะไรสวยเลยแหละ อุปกรณ์ให้มานั้นเพียงพอไม่ได้มีอะไรมากนัก แต่กล่องค่อนข้างใหญ่กว่าที่คิดหรือเกินจำเป็นไปนิดหน่อย

  • ตัวเครื่อง LENOVO LEGION 5I
  • คู่มือการใช้งาน
  • Adaptor ชาร์จไฟ 170W

DESIGN

งานออกแบบทาง LENOVO LEGION  นั้นจะยังคงงานออกแบบธีมอะไรคล้ายกับรุ่น Lenovo Legion Y540 ก่อนหน้าแต่ปรับปรุงเล็กๆน้อยๆให้ลงตัวมากขึ้นงานออกแบบยังคงทำได้ดูดีเรียบๆแต่คงความดุดัน ซึ่งทำให้สามารถใช้งานทั่วไปได้พกพาได้ดูเรียบ แต่สเปกเล่นเกมแรงๆได้นั้นเองไม่ได้ออกแบบสายเกมมากเกินไป รวมถึงทางด้านงานประกอบงานออกแบบวัสดุรอยต่อพวกนี้ต้องบอกกันตรงๆว่าคุณภาพสูง รอยต่ออะไรดูแน่นหนาและแข็งแรงกว่าตัวอื่นๆแบบชัดเจนเวลาจับถือแล้วรู้สึกถึงความแน่นดีเลยแหละ ส่วนการพกพาอาจจะดูหนาไปนิดหน่อยและหนัก 2.3 kg

ด้านหลังเราจะเห็นว่ามีงานออกแบบเรียบๆไม่ได้มีไฟอะไรเสริมแทรกเข้ามาครับเป็นวัสดุสีเทาทั้งหมดรวมถึงเขียนโลโก้ และชื่อรุ่นไว้ให้เรียบร้อยที่เห็นสีเขียวๆนั้นจะเป็นแสงที่สะท้อนตรงโลโก้เหมือนมีการเคลือบเล่นกับแสงสีรุ้งได้ดีครับสะท้อนสีได้สวยงามเลยแหละ ส่วนข้อต่อการพับนั้นยังคงโดดเด่นอยู่การกางได้ 180องศาต่างๆถือว่าดูดี และทางด้านหน้าจอขอบบางสวยงามพร้อมกับรองรับ 144Hz ได้สบายในการทำงานเล่นเกมรวมถึงแป้นพิมพ์วางลงตัว

ฝาหลังนั้นใช้วัสดุพลาสติกสีดำด้านออกเทา มีการเล่นสะท้องกับแสงนิดหน่อยออกสีเทาดำ Phantom Black แน่นอนว่า มีโลโก้ไว้มุมขวาของตัวเครื่องที่เป็นเอกลักษณ์ประจำแบรนด์รวมถึงในมุมซ้ายบนนั้นจะเป็นโลโก้ LEGION ที่วัสดุเล่นกับแสงได้เหมือนกับพร้อมกับสีไทเทเนียม และถ้ามองดีๆตัวแกนกลมๆก็จะเป็นสีแบบเดียวกัน ค่อนข้างการเก็บงานตามขอบเครื่อง ขอบหน้าจอ ขอพับต่างๆนั้นดูแข็งแรงและแน่นหนามากพอสมควรถือว่าทำได้ดี

การระบายความร้อนนั้นจะเห็นว่าฝาหลังตรงฐานนั้นจะมีช่องระบายความร้อนขนาดใหญ่จัดเต็มเลยแหละด้วยการออกแบบและการใส่ใจมีแผ่นกันฝุ่นใส่เข้ามาข้างในเหมือนแผ่น Filter ด้วยไม่ค่อยเจอค่ายไหนใส่กันเข้ามาครับ และระบบระบายความร้อนแบบใหม่ Lenovo Legion Coldfront 2.0 ทำให้การระบายได้ดีขึ้น แต่ยังคงเงียบเช่นเดิมครับ ทั้งแกนทองแดง พัดลมที่ดีขึ้น รวมถึงในรุ่นนี้มีพัดลม 2 ตัวพร้อมกับ Heatpipe 3 เส้นใหญ่ยิง ลมออกด้านหลังและดูดลมจากด้านล่าง ยังออกด้านข้าง ยิงออกด้านหลังเต็มๆ 2 ฝั่งครับ ถือว่าเรื่องระบายทำได้ดีอย่างมาก

เมื่อเปิดออกมาข้างในดูในส่วนของฐานของตัวคอมพิวเตอร์นั้นต้องบอกว่าเป็นไม่กี่รุ่นที่ทำออกมาได้ดีมากๆทั้งในเรื่องของการเก็บงาน วัสดุที่ใช้มีความเป็นระเบียบเรียบร้อยอย่างมากในการวางตำแหน่งอะไรหลายๆอย่าง ไม่ค่อยเจองานเก็บสวยๆแบบนี้ในคอมพิวเตอร์เรทประมาณนี้เท่าไรเลย ถือว่าน่าสนใจและขอชื่นชมการเก็บงานข้างใน ตรง RAM มีที่คลุมมาให้อีกชั้น รวมถึงตรง SSD มีซิลิโคนและแผ่นคลุมมาให้และ HDD DUMMY ใส่มาให้สามารถถอดได้เก็บงานดูดีอย่างมาก ส่วนฝาหลังตรงฐานจะเห็นแผ่นกันฝุ่นสีดำเว้นวงกลมพัดลมไว้ถือว่าไม่เจอค่ายไหนทำแบบนี้ การอัพเกรดนั้น  HDD/SSD SATA ขนาด 2.5 นิ้ว มีโครงพลาสติกติดตั้งเอาไว้เพื่อเสริมความแข็งแรงด้วย  และ อัพเกรดหน่วยความจำได้สูงสุดถึง 32 GB (ที่ 16GB x 2 แถว) รวมถึง M.2 SSD ก็เปลี่ยนแทนของเดิมได้ไม่ยาก

ทางด้านหน้าจอมาพร้อมกับขอบจอบาง พร้อมกับหน้าจอ IPS 15.6 นิ้ว 144Hz รองรับ sRGB100% รวมถึงใช้งานหน้าจอด้าน ถือว่าเป็นหน้าจอที่มีคุณภาพสูงตัวนึงเท่าที่เคยลองมาในงบนี้ครับทั้งเรื่องของ สีสัน การใช้งานตัดต่อ รวมถึงความลื่นไหลในการเล่นเกม ในเรทราคานี้ถือว่าน่าพอใจ และ ทางด้านกล้องหน้าให้มานั้นรองรับการปิดกล้องเลื่อนปิดเพื่อความปลอดภัยได้ด้วย สำหรับใครที่เป็นห่วงว่าจะมีความเป็นส่วนตัวไหมถ้ากล้องปิดไม่ได้

แกนพับวงกลมแบบนี้สวยงาม และออกแบบดูดีเลยทีเดียวในตัวแกนนี้สามารถรองรับการกางได้กว้าง แบนเกือบราบไปกับพื้นเลยทีเดียวทำให้มันเป็นจุดเด่นของค่ายนี้ ไม่ค่อยมีสายเกมมิ่งตัวไหนทำแบบนี้ได้ กางได้อิสระรองรับการทำงานได้เยอะมากขึ้นรวมถึงมีความแข็งแรงมากๆในการกางหรือว่าเปิดใช้งานจับตรงไหนก็เปิดได้ ไม่มีเอนหรือว่าดูหลวมเลยแม้แต่น้อยถือว่าเรื่องของข้อพับสวยงามและยังแข็งแรงรวมถึงมีการเล่นสี ไทเทเนียมตรงแกนครับ

ปุ่ม Power ไว้ตรงกลางด้านในวัสดุเงาสวยงาม และอีกจุดที่ค่อนข้างชอบในรุ่นนี้คือด้านหลังเครื่องนั้นสามารถเสียบใช้งาน USB-C / USB-A และรวมถึง HDMI – LAN และที่สำหรับการชาร์จไฟเข้า DC IN ด้วยถือว่าเป็นตำแหน่งที่ใช้งานได้ดีไม่เกะกะรวมถึงใส่มาให้ครบมากๆในการใช้งาน และเวลาเสียบก็จะไม่เกะกะด้านขวามือเวลาใช้งานหรือซ้ายมือ แต่ก็ยังมีพอร์ตบางตัวใส่มาให้ทั้งซ้าย และ ขวาด้วย ถือว่าคิดมาดีมากๆพอร์ตพร้อมใช้งานเหลือๆ

SPEC

  • CPU 10th Gen Intel®Core™ i7-10750H
  • RAM 8 GB DDR4-2933 MHz
  • VGA NVIDIA GeForce GTX 1650 Ti 4GB GDDR6
  • SSD  512 GB SSD M.2 2280 PCIe NVMe
  • หน้าจอ 15.6″ Full HD 144Hz 100% sRGB
  • 170W AC Adapter Slim (3pin)-Thailand
  • 1 Year Courier or Carry-in
  • Backlit 4 Zone RGB Keyboard Black Thai
  • 720p HD 4mm Camera with Array Microphone
  • Wi-Fi 6 2×2 AX, Bluetooth Version 5.0 or above
  • 2W SPEAKER DOLBY ATMOS BY HARMAN
  • Windows 10 Home Single Language 64
  • USB-A 3.1 Gen 1 (always on)
  • 3 x USB-A 3.1 Gen 1
  • USB-C 3.1 (DisplayPort™)
  • HDMI 2.0
  • RJ45 ethernet
  • Mic / headphone combo
  • Kensington lock slot
  • การใช้งานแบต สูงสุด 7.7 ชั่วโมง

PERFORMANCE

ในรุ่นนี้ใช้งาน CPU i7-10750H 14nm 2.60GHz 12MB 6 Core/12 Thread ส่วนการ์ดจอ นั้นยังคงใช้งานของ NVIDIA GeForce GTX 1650TI  มาพร้อมกับ 4GB GDDR6  และ ทางด้าน Ram ให้มา 8GB DDR4 bus 2933 และ อีก 1 ช่องสำหรับอัพเกรดทำให้มันรองรับได้ 32GB สูงสุดนั้นเองครับ ส่วน SSD 1TB PCIe® Gen3 SSD M.2 ให้มาเรียบร้อย 1 ช่องเท่านั้นและมาพร้อมกับ Windows 10 เรียบร้อยพร้อมใช้งานในรุ่นนี้ถือว่าสเปกนั้นทำได้ดีและความเร็วในการอ่านเขียนสูงมากๆทำให้ใช้งานได้ดีทีเดียวกับ SSD ที่ใส่เข้ามา

PCMARK

คะแนนไปได้ค่อนข้างสูงมากๆแน่นอนว่าตัว i7 Gen10 ก็ถือว่าแรงพอสมควร ไปได้ 4573 คะแนน จริงๆพวกระดับราคานี้การใช้งานทั่วไปทำงานคงไม่ต้องกังวลตอบโจทย์ทำงาน ทั่วไปแทบจะทุกรูปแบบ ไม่ต้องห่วงเลยแหละ ตั้งแต่ Word ไปยังตัดต่อ เรนเดอร์ 3 มิติ งานเขียนงานวาดแปลนบ้านทุกอย่าง และ รองรับได้สบายด้วยความแรงทั้งหมดถือว่าชิลๆและดีกว่าตัว i7 9750H อยู่ด้วยในคะแนนส่วนนี้ครับ ส่วนในการทดสอบนั้นเป็นอุณหภูมิปกติ เช่นเดิมไม่ได้เปิดแอร์ แต่ถ้าเปิดแอร์นั้นจะได้คะแนนประมาณ 4,690 คะแนน แน่นอนว่าถ้าเทียบกับ 4800HS ตัวนั้นจะยังคงทำได้แตะ 5000 ครับก็เป็นจุดที่ยังคงมีความแตกต่างกันอยู่นิดหน่อย ทางด้านอีกค่ายจะแรงกว่านิดหน่อยถ้าวัดกัน

3D MARK

นั้น ทำคะแนนเรียกได้ว่าสูงในการทดสอบทั้ง 4 แบบนะครับ ตัว FIRESTRIKE EXTREAM ที่เน้นไปเจาะกลุ่มคอมพิวเตอร์ระดับท็อป เกมมิ่ง ทำคะแนนได้ 4365  ถือว่าดี และ ทดสอบตัวเทพสุด FIRESTRIKE ULTRA ทำไปได้ 2070 คะแนนในแบบที่โหดๆขึ้นมานั้นเอง แน่นอนว่าทางด้าน GTX 1650TI ก็ถือว่าใช้งานทั่วไปสบายเล่นเกมได้สบาย แต่ถ้าเน้นทดสอบ คะแนนอาจจะยังไม่โหดเท่าพวก RTX แต่ก็ถือว่าตามราคาครับต้องบอกว่าผ่านการทดสอบใช้งานของ 3D Mark สบายๆ และการทดสอบ TIME SPY ทำได้ 3795 คะแนน และ แบบโหดนั้นทำไป 1739 คะแนนครับ ส่วนในเรื่องความร้อน  CPU 86 GPU 80 ประมาณนี้

CINEBENCH R20 R15 / SSD 

R15 ที่เน้นในเรื่องของพลังชิปประมวลผล คะแนนก็อยู่ในระดับสูง เลยแหละ R15 นั้นทำได้ 1333 / 114.86 FPS ประมวลผลหนักๆได้แบบสบายมากๆและดีกว่าพวกรุ่นก่อนหน้านี้แบบชัดเจนครับผมส่วนเรื่องความร้อนนั้นตามที่แจ้งไป ทดสอบในอุณหภูมิห้อง ไม่มีเปิดแอร์ นะครับผม R20 ที่เน้นในเรื่องของพลังชิปประมวลผลตัวโหดกว่า R15 คะแนนก็อยู่ในระดับสูงเช่นกันครับดีกว่ารุ่นก่อนเยอะมาก และทำได้ดีกว่าตัว i7 9750H ด้วยนะ ในตัว R20 นั้นที่ประมวลผลหนักหน่วงกว่าเดิม ทำคะแนน 3062 CB เลยครับ ดีกว่าพวกรุ่นปกติเยอะเลย และ เช่นเดิมทดสอบในสภาพอากาศปกติไม่มีแอร์ครับ ทำได้ดีทั้ง Single และปกติ ส่วนตัว SSD นั้นทำการอ่านเขียนไป 3397MB/s และ 2705 MB/s  ถือว่าเร็วแรงมากๆเมื่อเทียบกับคู่แข่งบางตัวจะได้แค่พันต้นๆในการเขียน ส่วนการอัพเกรดรุ่นนี้รองรับ RAM ใส่เพิ่มได้ 1 แถว รวมถึงมีช่อง HDD มาให้ใช้งาน + SSD M.2 นั้นจะมีมาให้ 1 ช่องอัพได้แทนของเดิม

SCREEN 

หน้าจอค่ายนี้ถือว่าเป็นจุดที่เน้นอย่างมากและชูโรงเลยก็ว่าได้ในเรื่องของความแม่นยำของสีที่ได้รวมถึงคุณภาพสีอะไรที่ใช้งานทำงานได้ทันที อีกทั้งสายเกมก็ยังสามารถได้รับความลื่นไหลในการเล่นเกมไปพร้อมๆกันด้วย เพราะในรุ่นนี้หน้าจอนั้นมาพร้อมกับ ขนาด 15.6 นิ้ว IPS FULLHD WVA, AntiGlare, LED Backlight, Narrow, 100%sRGB, , 144Hz 5ms, 9.5mm 1920×1080 ถือว่าได้ทั้งเรื่องของความแม่นยำสีที่ดี และยังได้ 144Hz 5Ms ทำให้ในการเล่นเกมมีความลื่นไหลและตอบสนองได้ดีเลยแหละ รวมถึงการใช้งานหน้าจอแบบด้านทำให้เล่นเกมทำงานข้างนอกได้สบายไม่รบกวนสายตา อีกทั้งสีที่ให้มีมิติสวยและเด่นกว่าคู่แข่งแบบชัดเจนถ้าให้เทียบกัน แต่ในแง่ของความสว่างเร่งแสงสูงสุดในกลางแจ้ง หรือว่าพื้นที่ภายนอกเวลาใช้งานแอบไม่สว่างมากนักในความสว่างสูงสุด

รวมๆนั้นถือว่ามีมุมมองที่ดีแต่ก็มีจำกัดอยู่นิดหน่อยในเรื่องของความสว่างหน้าจอที่เร่งได้สูงสุดก็ยังไม่ได้สว่างจัดมากนัก และเมื่อมองข้างๆก็อาจจะมีดรอปลงในเรื่องความสว่างครับ แต่ถ้าในแง่สีนั้นถือว่าดีกว่าคู่แข่งแม้จะมองข้างๆก็ตาม เป็นจอที่ใช้ทำงานทั่วไป เล่นเกมถือว่าในเรื่องของคุณภาพหน้าจอโดดเด่นกว่าค่ายอื่นๆแบบชัดเจนได้ในเรื่องของสีที่แม่นยำและตรงมากๆรองรับมาตรฐาน sRGB100% ทำให้สายงานตัดต่อ กราฟิกเลือกตัวนี้ไปใช้งานได้ทันที ถือว่าเป็นจุดเด่นที่ดีกว่าตัวอื่นในเรทราคาเดียวกันอย่างมากอีกทั้งจอมีความสวยมุมมองดีอีกตัวนึงของบรรดา Gaming Notebook ในเรทราคานี้เลยครับค่อนข้างชอบ และ ประทับใจจอรุ่นนี้อย่างมากใช้งานโอเคเลยทีเดียว

KEYBOARD

ตัวคีย์บอร์ดนั้นต้องบอกว่าคุ้นเคยกันดีในตระกูล LEGION เรื่องของการออกแบบและรูปทรงของตัวปุ่มนั้นเป็นสีดำและมีไฟ RGB 4 ZONE ปรับแต่งได้ ตัวปุ่มนั้น ขอบด้านบนตัวตรง และขอบด้านล่างโค้งครับส่วนความโค้งก็รองรับนิ้วมือได้ดี เป็นแบบ 4 แถวขนาด Full Size และมี Numpad ในด้านขวามาให้ยังไม่ได้ตัดไปไหน และปุ่มเล่นเกม ลูกศรนั้นใหญ่และขยายเป็นพิเศษ  ส่วนเรื่องตัวปุ่มนั้นตอบสนองได้เป็นอย่างดีทั้งขนาดแป้นพิมพ์ที่รับกับนิ้ว และช่องว่างระหว่างแป้นที่ทำให้มีความแม่นยำในการกด และระยะการกดรองรับ 1.5 มม. และใช้งานได้ดี Anti Ghosting มาให้เรียบร้อย และมีปุ่มลัดอะไรมาให้ครบครับถือว่าระยะการกดความรู้สึกค่อนข้างประทับใจตัวนี้มาก

ตัวปุ่มระยะการกดมีความลึกกำลังดี และที่ชอบคือความโค้งรับกับนิ้วได้ดีกว่าหลายๆตัวที่ได้ลองแน่นอนว่าของตัว Lenovo ก็ยังคงใช้คีย์บอร์ดลักษณะนี้มาหลายๆตัวครับรวมถึงการเว้นระยะห่างหลายๆอย่างก็ทำได้ค่อนข้างลงตัว และไม่ติดปัญหาอะไรในด้านของตัวอักษรนั้นเป็นสีขาวเ มื่อเวลาไม่เปิดไฟก็ยังเห็นอยู่ลางๆ ใช้งานได้ในหลายสภาพแสงยังมองเห็นได้ชัดครับไม่ได้มีปัญหาในส่วนนี้ และ ตัวไฟเมื่อเปิดก็มองเห็นได้ชัดเจน  มีไฟรอบๆปุ่ม ซึ่งสามารถปรับแต่งได้เยอะ 4 Zone สวยงามเลยทีเดียวอีกทั้งไล่สีเป็น Rainbow Effect ได้ด้วยถือว่าสวย

TOUCHPAD

สำหรับตัวทัชแน่นอนว่ามีขนาดแอบเล็กไปเหมือนกัน แต่ก็ยังไม่มีการเล่นกับการออกแบบอะไรเลยในตัวทัชแพดไม่มีพวกโครเมี่ยมเงาๆหรือจะเป็นพวกสีสันต่างๆตามขอบครับเป็นวัสดุคนละแบบกับตัวเครื่อง แน่นอนว่าตัวเครื่องจะหนืดๆแต่ตัวทัชแพดนั้นจะเป็นแบบลื่นๆใช้งานได้ดีทีเดียว แน่นอนว่า ตัวแป้นไม่มีคลิกแยกซ้ายขวาอะไร สามารถกดลงไปได้เลย ตัวทัชนั้นรองรับหลายๆนิ้วได้ ใช้งานได้ไวลื่นติดนิ้ว แต่ขนาดแอบเล็กไปนิดนึง ใช้งานจริงนั้นไม่เจออาการเอ๋อ อะไร การสัมผัสเลื่อนใช้งานหลายๆนิ้วติดนิ้วดีกว่ารุ่นก่อนหน้าพอสมควรเลย และฟีลลิ่งดีกว่าด้วย

สามารถวางนิ้วควบคุมทั้ง 4-5 นิ้วได้เป็นอย่างดีในเรื่องของวัสดุนั้นเป็นแบบเดียวกับตัวเครื่องโดยรวมทำให้ค่อนข้างติดนิ้ว เป็นตัว Software ของ Precision แบบเดียวกับรุ่นอื่นๆของค่ายใช้งานได้ดี แต่รู้สึกขนาดที่เล็กไปหน่อยเมื่อเทียบกับ 15.6 นิ้วของตัวเครื่องโดยรวม แต่ความติดนิ้วสัมผัสนั้นลื่นใช้ได้ดีสมกับตระกูล LEGION เลย

SPEAKER 

ลำโพงในรุ่นนี้ให้มาพร้อมกับการรองรับ Dolby Atmos ในการทำเสียงรอบทิศทาง และ ทางด้านลำโพงนั้นจากค่าย Harman ด้วยเป็นชื่อที่เราคุ้นเคยกันดี 2W Harman Kardon ทำให้เสียงที่ออกมานั้นค่อนข้างมีพลังพอสมควร จะเห็นได้ชัดเมื่อเล่นเกมหรือดูหนังที่รองรับระบบเสียงนี้เสียงจะดีกว่าลำโพงคู่ทั่วไปชัดเจน มันไม่ใช่แค่เสียงซ้ายขวาแต่ได้ยินทางทุกทิศทางเลยแหละ ถ้าใครเคยใช้ระบบเสียงนี้น่าจะพอเข้าใจว่ามิติเสียง ทิศทางมันแตกต่างกับที่ไม่มีระบบนี้ชัดเจนครับถือว่าลำโพงจัดว่าดีมาก รวมถึงกำลังขับกำลังดีเสียงดัง แน่นพอสมควรถือว่าเทียบกับราคาแล้วลำโพงให้มาค่อนข้างคุ้มและดูดีเลย เสียงเล่นเกม ดูหนังหรือการฟังเพลงรุ่นนี้สามารถตอบโจทย์ได้

CONNECTOR

พอร์ตเชื่อมต่อในรุ่นนี้ค่อนข้างชอบที่ออกแบบหลายๆช่องเชื่อมต่อกระจายมาด้านหลัง เพราะสะดวกต่อการใช้งานทั้งที่ชาร์จหรือจะเป็นสายแลนพวกนี้ต่อข้างหลังสะดวกกว่ามากๆ ในด้านหลังรุ่นนี้ให้มาครบมากๆ มี RJ45 สำหรับใช้ LAN พร้อมกับ USB-C และ USB-A 3.1 X2 และ HDMI และ ที่ชาร์จไฟ DC IN รวมถึง Kensington Lock

ในฝั่งซ้ายของตัวเครื่องนั้นเราจะเห็นว่าก็ยังมีช่องระบายความร้อนให้มาพร้อมกับ USB-A 3.1 พร้อมกับ รูไมค์ + หูฟัง รวมในรูเดียว และ ด้านหน้าสุดนั้นจะเห็นว่าช่องลำโพงนั้นวางยิงออกมาด้านข้างลงด้านล่างด้วยเช่นกัน

ด้านขวาตัวเครื่องนั้นจะเป็นไฟสถานะของตัวเครื่อง และยังคงให้ช่อง USB-A 3.1 มาให้อยู่ในฝั่งนี้ และ มีช่องระบายความร้อนให้มาด้วย จึงทำให้ภาพรวมมีช่องระบาย 4 ทิศทาง และ USB-A ให้มามากถึง 4 ช่องพร้อมใช้งานเลยทีเดียวถือว่าเยอะและกระจายรอบเครื่องได้ดีมากถือว่าการออกแบบ พอร์ตพวกนี้จัดการได้ดี และ เชื่อมต่อไร้สายนั้นในรุ่นนี้ให้มา WIFI 6 รองรับเต็มที่ และใช้งาน Bluetooth 5.0 ครับสำหรับการเชื่อมต่อแบบไร้สายเทคโนโลยีล่าสุด

WORKING

การเล่นเกมและในการทำงานนั้นแน่นอนว่าตัวนี้ก็ถือว่าพัฒนามาดีขึ้นครับสำหรับ intel แน่นอนว่าการทำงานโปรแกรมเดียวเน้นๆทำได้ดีอยู่แล้ว รวมถึงระยะเวลาการเรนเดอร์อะไรถ้าไม่ได้สลับทำงานเยอะมาก ก็ถือว่าไม่ได้ด้อยกว่าตัวอื่นๆเลย แต่ถ้าเน้นทำงานหลากหลายโปรแกรมอะไรพวกนี้แน่นอนว่าอาจจะไม่ได้โหดแบบอีกค่ายแต่ก็ถือว่าพัฒนามาดีขึ้น ในรุ่นนี้ยังคงใช้งาน 14nm และ ใช้ CPU i7-10750H + NVIDIA® GeForce® GTX 1650TI 4GB GDDR6  และ RAM 8GB 2933Mhz ให้มาเพียงพอต่อการใช้งานแต่การทำหลายโปรแกรมพร้อมกันก็อาจจะต้องเพิ่มเป็น 16 จะดีกว่า และการอ่านเขียนของ SSD ก็ถือว่าช่วยงานทำงานได้ไวขึ้นมากๆ และใช้ระดับสูงเลยที่ใส่เข้ามาของ WD ในการเรนเดอร์การทำงานจริงนั้นจะเป็นอย่างไรกันบ้างลองดูทดสอบกันในหลายๆโปรแกรม

SKETCH UP 

ในงานนี้ก็เป็นการทดสอบแบบจัดเต็มเลยคือเรนเดอร์ไฟล์ความละเอียดสูงพร้อมกับใส่ Texture ที่อิงกับแสงและทั้งตัวกระจกเองรวมถึงดีเทลในอาคารก็ถือว่าเป็นการทดสอบได้ดี แต่ถ้าอยากหนักกว่านี้แนะนำเลยว่าใส่ต้นไม้และท้องฟ้าอาคารข้างหลังจะรู้เลยว่ามันทำงานไหวไหม ซึ่งจริงๆก็ลองอยู่ต้องบอกว่าไหวสบาย แต่ความร้อนจะมีขึ้นมากกว่าปกตินิดหน่อย แต่ที่เรนเดอร์ในภาพตัวอย่างนั้นจะทดสอบเทียบกับคอม RTX ทั่วไปครับ เลยได้คร่าวๆว่าตัว GAMING เจนก่อน จะเรนเดอร์พวกนี้คือ 70 นาที แต่ถ้าตัวนี้เอามาทำจะได้ภายใน 46 นาทีเท่ากับประหยัดเวลาไปเยอะมากในการทำงานแต่ละชิ้นงานบอกเลยว่าเอาเรื่องเลยแหละ ไวพอสมควรเลยและทำงานได้ดีมากๆ

PREMIRE PRO  

เรนเดอร์กันหน่อยครับว่า 4K 60 FPS นั้นทำได้ดีแค่ไหนมีเทียบตัว INTEL I7 ด้วยนิดหน่อย ซึ่งในตัวนี้ จะเรนเดอร์ได้ภายใน 34 นาที และเมื่อเทียบกับ Ryzen 7 4800HS ทำไปได้ 25 นาที แต่ถ้าใช้งาน i7 9750H นั้นจะใช้เวลาประมาณ 37 นาที และในการเรนเดอร์คลิปต้องบอกว่ามันมีผลแบบชัดเจนถ้าเราเอาคลิปแต่ละเครื่องมาเทียบกันกับระยะเวลาในการเรนเดอร์ โดยทางเราทดสอบในการเรนเดอร์คลิปแบบเดียวกันทั้งหมดถือว่าทำได้ดีแต่อาจจะไม่ได้ไวมากนักเมื่อเทียบ RAM 8GB เท่ากันครับแต่ถ้าเพิ่ม RAM นั้นอาจจะช่วยได้ในเรื่องของการทำงาน

LUMION 10

ลูเมียนโปรแกรมในการทำงานเรนเดอร์ตึกเป็นแบบวีดีโอหรือ อนิเมชั่นล้วนๆเลย ทำให้เราสามารถเรนเดอร์แบบวีดีโอเดินพาชมตึกใส่คนเดิม หรือ จะเป็นการใส่สภาพแวดล้อมให้ใกล้เคียงกับภาพที่เราอยากได้มากที่สุด และเป็นการเรนเดอร์ที่ใส่พื้นผิวท้องฟ้าได้ค่อนข้างสมจริงรวมถึงการจัดแสง จึงเป็นโปรแกรมที่เน้นการใช้ CPU แบบหนักหน่วงครับ ในการเรนเดอร์ทดสอบโดยการเรนเดอร์แบบเดียวกับรุ่นอื่นๆ ในความละเอียด 4K เพื่อในการเทียบเวลากับตัวอื่นซึ่งในรุ่นนี้จะใช้เวลาเรนเดอร์ไป 1.59 ชั่วโมง แน่นอนว่าแอบช้ากว่าตัวอื่นนิดหน่อย เมื่อเทียบกับ Ryzen 7 ก่อนหน้าทำเวลาไป 1.27 และถ้าหากเทียบกับ i7 9750H ตัวก่อนหน้านั้นจะทำเลาไป 2 ชั่วโมงกว่าแน่นอนว่าถือว่าไวขึ้นชัดเจนเลยเมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้าใน RAM 8GB เท่ากันในความละเอียดเท่ากัน

GAMING

จากหลายๆเกมที่แอดมินได้ลองนั้น FPS ทำได้ดีรองรับกับจอ 144Hz ได้บางเกมรันได้สบาย ทุกเกมที่เอามาให้ดูคือปรับภาพสูงสุดทุกเกมนะครับ เอาให้สุดหมดทุกอย่างเลย  ถ้าอยากได้ 100+ FPS ในบางเกมต้องปรับต่ำลงมาหน่อยนะครับ และทำได้ดีมากส่วนเรื่องความร้อนในสภาพอากาศปกติไม่ได้เปิดแอร์ หรือ เปิดพัดลมอะไรนั้นไม่ใช่ห้องแอร์และเล่นต่อเนื่องกันยาวๆ 2ชม + โดยประมาณครับถือว่าในด้านของความร้อนก็มีพอประมาณในตัว CPU มีแตะ 85+ บ้างในบางครั้งครับแต่เท่าที่เล่นมาการจัดการความร้อนยังไม่เจอแตะ 90 เลยนะครับถือว่าดี

  • Overwatch นั้น ทำไปได้ FPS 89-90 อุณหภูมินั้น GPU 68 CPU 72  : HIGH
  • APEX ทำไปได้ FPS 82-83 อุณหภูมินั้น GPU 68  CPU 74 : HIGH
  • PUBG ทำไปได้ FPS 64-68 อุณหภูมินั้น GPU 70 CPU 76  : HIGH
  • MW WARZONE ทำไปได้ FPS 84 อุณหภูมินั้น GPU 77 CPU 79  : HIGH

โดยรวมแล้วมีการจัดการอุณหภูมิดีมากนะจากที่ทดสอบ สภาพอากาศทั่วไป เสียงพัดลมก็ดังตามปกติครับ ระบายความร้อนได้ดีกว่าที่คิด การทดสอบทั้งหมดไม่ได้เปิดแอร์เลยนะ GPU  แต่ CPU นั้นจะแตะ 85+ บ่อยอยู่เหมือนกันแต่ก็ยังถือว่าควบคุมความร้อนไม่ให้ไปแตะ 90 ได้ดีมากๆถือว่าน่าสนใจในการใช้งานของ I7+GTX1650TI ครั้งนี้

LENOVO LEGION 5I

” หน้าจอสีตรงคุณภาพดี ดีไซน์สวย พร้อมกับสเปกที่รองรับเล่นเกม ทำงานลงตัว “

ต้องพูดกันตรงๆว่าหลังจากที่ได้ใช้งานมากระยะหนึ่งนั้นในรุ่นนี้ทำเอาประทับใจในหลายๆจุดตั้งแต่ งานประกอบ วัสดุที่ใช้งานรวมถึงความแน่นหนาในแต่ละส่วนรวมไปถึงการใส่ใจการออกแบบข้างในตัวเครื่องมีการทำแผ่นกันความร้อนระบายความร้อนมาให้ครอบทั้ง RAM SSD รวมถึงใส่ซิลิโคนเข้ามาช่วยและไปถึงการมีแผ่นกรองฝุ่นอีกชั้นในส่วนของฐานเครื่องที่ไม่ค่อยเจอในรุ่นอื่นๆในเรทราคานี้เลย และรุ่นนี้ถือว่าใส่ใจมากๆอันนี้ขอชมงานประกอบ คุณภาพอะไรแน่นดีมากๆ รวมถึงคุณภาพของลำโพง และ หน้าจอที่โดดเด่นกว่าค่ายอื่นในราคานี้ชัดเจนทำให้มันน่าเล่นและรวมถึงสเปกที่ใส่เข้ามานั้นจัดเต็มพอสมควรการทำงานเล่นเกมไว้ใจได้ แค่ขาดในเรื่องของ RAM  8GB นั้นอาจจะไม่เพียงพอต่อการทำงานหนักเท่าไรก็ แนะนำให้เพิ่มใช้งานจะดีกว่าและในเรื่องของขนาดและน้ำหนักที่มากพอสมควรอาจจะพกพาได้ยากเมื่อพกพาไปข้างนอก เป็นจุดหลักๆที่ต้องลองดูกัน แต่ในส่วนอื่นๆต้องบอกว่าครบและคุณภาพมาเต็มมากเมื่อเทียบกับตัวอื่นๆในเรทเดียวกันแน่นอนว่า เน้นในเรื่อง จอ วัสดุงานประกอบ ความแข็งแรง ลำโพง แป้นพิมพ์อะไรจัดเต็มมากๆใน LENOVO LEGION 5I ครั้งนี้เป็นรุ่นที่บอกกันตรงๆแบบไม่อวยว่าค่อนข้างชอบเลยทีเดียว

ข้อดี

  • หน้าจอสีค่อนข้างดี รองรับ 144HZ และ sRGB100%
  • ประสิทธิภาพเพียงพอต่อการใช้งาน เล่นเกม
  • ควบคุมความร้อนได้ดีในการใช้งานเล่นเกมทำงาน
  • KEYBOARD RGB 4 ZONE เล่นแสงสีสวยงาม
  • ระยะการกดแป้นพิมพ์กำลังดี
  • ลำโพงเสียงดีพอสมควรรองรับ DOLBY ATMOS
  • งานประกอบ วัสดุ รวมถึง งานออกแบบดูดีสวยงาม
  • หน้าจอรองรับการกางได้กว้างอิสระ ใช้งานได้หลากหลายมากขึ้น
  • ยังคงมี Numpad มาให้ใช้งาน
  • พอร์ตเชื่อมต่อมาครบ พร้อมใช้งาน ทั้ง 3 ด้าน
  • งานออกแบบข้างใน ใส่ใจ และ อัพเกรดได้เยอะ

ข้อสังเกต

  • ตัวเครื่องมีความหนา และ หนัก พอสมควร
  • หน้าจอเร่งแสงสุดไม่สว่างเท่าไรนัก
  • ไม่มี Thunderbolt 3 หรือ SD CARD ใส่มา
  • RAM 8GB อาจจะไม่พอถ้าใช้งานหนัก

สำหรับรีวิวนี้ผมก็ต้องขอตัวลาไปก่อนสำหรับรีวิวรุ่นต่อไปนั้นจะเป็นรุ่นอะไรอย่าลืมติดตามกันนะครับ ถูกใจฝากกดไลค์กดแชร์ด้วยนะครับ  มีข้อผิดพลาดประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ  เพื่อนๆสนใจอยากให้พวกผมรีวิวรุ่นไหนสามารถ Inbox มาบอกเราได้เลยนะ
ฝากไลค์เพจ FACEBOOK เราด้วยนะครับ >>>>>>>>>  TECHHANGOUT

เข้าร่วมกลุ่ม TECHHANGOUT พูดคุยแลกเปลี่ยน ข้อมูล คุยกันเองชิลๆได้เลยที่ — Facebook  Techhangout พูดคุย Smartphone gadget 

Comments กันได้เลย !

Comments

0 Shares