มือถือน้องใหม่จากประเทศจีนก็เข้ามาในไทยเรื่อยๆ รวมถึง itel ก็เช่นกันครับแบรนด์นี้จะเน้นเจาะกลุ่มตลาดเริ่มต้น ราคาไม่แพงทำให้เข้าถึงได้ง่าย และเจาะตลาดกลุ่มใหญ่ได้ดีเช่นกันในหลายๆประเทศ ซึ่งในครั้งนี้ได้เปิดตัว itel VISION 3 Series นำเสนอ 2 รุ่นทั้ง Vision 3 และ Vision 3 Plus ถือเป็นสมาร์ตโฟนซีรีส์แรกของ แบรนด์ itel ที่มาพร้อมระบบชาร์จเร็ว 18W โดยใช้เวลาชาร์จเพียง 10 นาทีก็สามารถใช้คุยได้นานถึง 3 ชั่วโมง ซึ่งเหนือกว่ามือถือในระดับเดียวกัน รวมถึง หน้าจอใหญ่ รองรับ 90Hz งบราคาเปิดตัวที่มีกลุ่มลูกค้า ไม่แพงมากนักทำให้อาจจะเจาะตลาดกลุ่มซื้อให้พ่อแม่ ผู้สูงอายุใช้งานทั่วไปได้ เน้นแบตอึด จอใหญ่ และ ดีไซน์สวยด้วยนะสำหรับตัวนี้

itel Vision 3 ตัวนี้จะมาพร้อมกับ CPU UNISOC  SC9863a Octa-core 4 x 1.6GHz ARM Cortex A55 + 4 x 1.2GHz ARM Cortex A55 ผลิตที่ 28 nm มาพร้อมกับ หน่วยความจำ 64GB ROM + 4GB RAM และ หน่วยความจำ 32GB ROM + 2GB RAM และใช้งานหน้าจอ 6.6 นิ้ว ปิดทับด้วยกระจก 2.5D 1612×720 HD+ 60Hz IPS LCD ในรุ่นนี้ และ ใช้งานแบต 5,000mAh รองรับชาร์จไว 18W ซึ่งถือว่าไวที่สุดของค่ายในตลาดเล็กแบบนี้ อีกทั้ง กล้องให้มา 8MP ในกล้องหลัง และ กล้องหน้า 5MP แบบติ่งหยดน้ำพอใช้งานทั่วไปได้ รองรับการสแกนนิ้วมือในด้านหลัง และ สแกนใบหน้าผ่านกล้องหน้า ใช้งานระบบ itel OS 7.6 ตัวล่าสุด ที่ใส่ ฟีเจอร์แจ้งเตือนการโจรกรรมอัจฉริยะ (Smart Anti-Theft Alarm) และ สำหรับเกมเมอร์ Darwin Engine จะช่วยเสริมประสบการณ์การเล่นเกมที่ราบรื่นยิ่งขึ้น ผ่านการตั้งค่าอัจฉริยะ เช่น ซ่อนการแจ้งเตือนระหว่างการเล่นต่างๆ

  • itel Vision 3 : ความจุ 2GB /32GB ราคารอเปิดตัวทางการ
  • itel Vision 3 : ความจุ 4GB /64GB ราคารอเปิดตัวทางการ

UNBOX

  • ตัวเครื่อง  itel VISION 3
  • สายชาร์จ MICRO-USB
  • หัวชาร์จ 18W
  • หูฟัง 3.5
  • คู่มือการใช้งาน
  • ที่จิ้มซิม
  • เคสใสแบบ แข็ง

DESIGN

งานออกแบบตัวเครื่องจริงถือว่าดูดีนะ แม้อาจจะเป็นมือถืองบเริ่มต้นกับวัสดุต่างๆแต่ภายนอกดูสวยครับ จะมีตัวเลือกทั้งหมด 3 โทนสี Multicolor Green, Sky Blue และ Deep-Ocean Black  และแน่นอนว่าที่ชอบคือหน้าจอใหญ่มากๆในการใช้งาน เน้นจอใหญ่น่าจะถูกใจเลยนะ และมีรุ่น Plus หน้าจอใหญ่กว่านี้ไปอีกครับ แต่ ที่เรารีวิวแค่รุ่น 3 นะ ขอบจอหนาปกติ และ จอแบบหยดน้ำ แต่ชอบที่ความบางกำลังดี และ หนัก 193 กรัม ถ้าเทียบกับความจุแบตถือว่าไม่หนักเท่าไร หนาประมาณ 8.85 มม. กำลังถือสบายๆไม่มีปัญหาสำหรับตัวเครื่อง

หน้าจอในรุ่นนี้ให้มาขนาดกำลังพอดีเลยนะ ขนาดอยู่ที่ 6.6 นิ้ว เป็นขนาดที่ใหญ่กำลังพอดี อีกทั้งหน้าจอมีความโค้งมน ดูมีมิติสุดๆ ขอบหน้าจอมีความบางมาก ใช้งานได้อย่างเต็มพื้นที่ ตัวกล้องหน้าเป็นแบบติ่งหยดน้ำลงมากลางหน้าจอ และจะสังเกตเห็นได้ว่าจะมีเพียงขอบจอด้านล่างเท่านั้นที่จะหนากว่าขอบจอด้านอื่นๆ แต่ไม่ส่งผลใดๆต่อการใช้งานเลยนะ

ฝาหลังตัวเครื่องในรุ่นนี้แอดชอบมากๆ มีความเนียนตาเนียนใจสุดๆ โทนสีนุ่มละมุน ถือยังไงก็ขึ้นมือ อีกทั้งยังมีที่สแกนนิ้วมือมาให้ใช้งานในบริเวณข้างๆตำแหน่งกล้องด้วย ภาพรวมฝาหลังในรุ่นนี้สวยงามตอบโจทย์เลยนะ เรียบหรูดูแพง ที่สำคัญมีการสลักชื่อ itel ไว้บริเวณด้านล่างแบบเท่ๆอีกด้วย

ขอบเครื่องด้านบนไม่มีอะไรมาให้เลย จะเป็นพื้นผิวของตัวเครื่องที่น่าสัมผัสมากๆ เนียนตา สะอาดตา เรื่องดีไซน์ของรุ่นนี้ต้องยกนิ้วให้กับความเนียนของพื้นผิวจริงๆ

ขอบเครื่องด้านล่างจะเป็นในส่วนของลำโพง ตามมาด้วยพอร์ตชาร์จ รูไมค์ตัดเสียงและปิดท้ายด้วยช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม. ที่มีมาให้ใช้งาน เรียงกันเป็นระเบียบครบครัน

ขอบเครื่องด้านซ้ายจะเป็นในส่วนของช่องใส่ซิมเพียงเท่านั้น ไม่มีปุ่มสั่งงานใดๆมาให้เลย จะเน้นโชว์พื้นผิวที่สวยงามของตัวเครื่องมากกว่า

ขอบเครื่องด้านขวาจะเป็นในส่วนของปุ่มสั่งงานลด-เพิ่มเสียง และปุ่ม Power มาให้ใช้งาน อยู่ในตำแหน่งที่กำลังพอดีมือ ใช้งานง่าย เรียงเป็นระเบียบสะอาดตาสุดๆ

SPEC

  • หน้าจอ IPS LCD ขนาด 6.6 นิ้ว (720 x 1600 พิกเซล)
  • ชิป Spreadtrum UniSoC SC9863A
  • การ์ดจอ PowerVR GE8322
  • RAM 2GB + ความจุ 32GB ใส่ microSD card ได้สูงสุด 128GB
  • Android 11 Go Edition
  • ซิมคู่แบบ Hybrid (Nano-SIM, dual standby)
  • กล้องหลังคู่ 8 MP (f/2.0) PDAF,
  • เซนเซอร์จับความลึก VGA 5 MP, รองรับ HDR, panorama
  • กล้องหน้า 5MP
  • เซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือ
  • ช่องเสียบหูฟัง 3.5มม.
  • รองรับ 4G LTE, Wi-Fi 802.11 b/g/n, Wi-Fi Direct, hotspot,
  • Bluetooth 4.2, A-GPS, GLONASS, GALILEO, BDS
  • Micro USB 2.0
  • แบตเตอรี่ 5,000mAh ชาร์จเร็ว 18W

PERFORMANCE 

ตัวเครื่องมาพร้อมกับการใช้งาน CPU UNISOC  SC9863a Octa-core 4 x 1.6GHz ARM Cortex A55 + 4 x 1.2GHz ARM Cortex A55 ผลิตที่ 28 nm + PowerVR GE8322 และ RAM GB STORAGE GB เน้นใช้งานทั่วไป แบตอึดไว้ก่อนครับ ความแรงอาจจะไม่ได้โหดทะลุมาก แต่ก็เหลือๆในการใช้งานทั่วไป เล่นเกมเบาๆแก้เบื่อ หรือ ถ่ายรูป โหลดแอปต่างๆพอไหวเช่นกัน ทำให้คะแนน Antutu นั้นเองทำไปได้ประมาณ 85293 คะแนน และ เท่าที่ลองเองนั้นประหยัดแบตมากๆ สามารถใช้งานทั่วไปสบายๆทั้งวัน ไม่ต้องนั่งเสียบชาร์จไฟตลอดวัน หรือบ่อยๆเลย จุดนี้ผมว่าคนใช้เน้นแบตอึด จอใหญ่ และ ชาร์จไว ตัวนี้รวมๆตอบโจทย์เหมือนกันนะ ไม่ได้สายเล่นเกม สเปกแรงอะไรมากนัก ตัวนี้โอเคมาก

SYSTEM UI

แน่นอนว่าค่ายนี้ก็มีการใส่ UI ของตัวเอง itel OS V7.6 หน้าตาคลีนๆ เรียบๆ แต่ฟีเจอร์หลายๆอย่างถือว่าใช้งานได้ดี ส่วนทางด้านความลื่นไหลเองนั้นยกระดับประสบการณ์การใช้งานทุกด้านในภาพรวม ฟีเจอร์แจ้งเตือนการโจรกรรมอัจฉริยะ (Smart Anti-Theft Alarm) ช่วยให้ Vision3 ของคุณปลอดภัย สำหรับเกมเมอร์ Darwin Engine จะช่วยเสริมประสบการณ์การเล่นเกมที่ราบรื่นยิ่งขึ้น ผ่านการตั้งค่าอัจฉริยะ เช่น ซ่อนการแจ้งเตือนระหว่างการเล่น ซึ่งเหมาะสำหรับการใช้งานหลายๆแบบมากขึ้น แต่ด้วยความที่เป็นแบรนด์น้องใหม่ การปรับตัวกับ UI ในช่วงแรกก็อาจจะมีบ้างแต่ไม่ได้ยากเท่าไรนัก

SCREEN

หน้าจอในรุ่น 3 นี้จะมีขนาดเล็กกว่าในรุ่น 3 Plus แต่ได้ความละเอียดเท่ากัน ถ้ามองกันภาพรวมแตกต่างกันที่รุ่นนี้จะไม่ได้ใช้งาน 90Hz นั้นเอง แต่จะมาหน้าจอ 6.6 นิ้ว แบบ Waterdrop Display ความละเอียดสูงที่ 1612*720 HD+ ปิดทับด้วยกระจก 2.5D เพื่อมอบสัมผัสความโค้งมนบนหน้าจอ ซึ่งถ้ามองภาพรวมหน้าจอใหญ่ เน้นใช้งานได้ง่ายและชัดระดับนึงเลยแหละ สำหรับคนใช้งานทั่วไปเน้นใหญ่ไว้ก่อนตัวนี้ตอบโจทย์ ส่วนการสู้แสงเองนั้น ลองใช้งานจริงๆ ในบางสภาพแสงอาจจะสู้ได้ยากนิดหน่อย รวมถึงในการสัมผัสนั้นไม่มีปัญหาในการใช้งาน ตอบสนองได้ไวชัดเจนดีครับ แต่แค่การออกแบบดีไซน์แบบติ่งหยดน้ำเริ่มกลับมาอีกครั้ง อาจจะดูตกยุคไปบ้างแต่ใช้งานทั่วไปก็ไม่มีปัญหานะ เทียบกับการเน้นตลาดกลุ่มเริ่มต้นก็ถือว่าพอรับได้ ในเรื่องความสว่าง ขนาด และ การออกแบบหน้าจอตัวนี้

SECURITY

ความปลอดภัยแน่นอนว่ายุคนี้ สแกนนิ้วมือต้องมีมาให้ และค่ายนี้ก็ใส่เข้ามาให้เช่นกัน รองรับการสแกนนิ้วในด้านหลัง และรองรับการปลดล็อกคู่ทั้งใบหน้าและลายนิ้วมือช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการใช้งาน และช่วยให้ข้อมูลของคุณปลอดภัยยิ่งขึ้น ซึ่งในการใช้งานจริงๆถ้าเอาความปลอดภัยแบบชัวร์ๆ สแกนนิ้วไวกว่าเพราะไม่ต้องมานั่งถอดหน้ากากอะไรบ่อยๆ รวมถึงความแม่นยำในการตรวจจับดีกว่าแบบ สแกนใบหน้า แต่ถ้าใครเน้นเอาสะดวกก็สามารถใช้งานได้ทั้ง 2 แบบแล้วแต่ชอบเลย ตำแหน่งสแกนนิ้วด้านหลังกำลังดี เอื้อมถึงได้ง่าย แต่ขนาดอาจจะเล็กไปนิดๆในช่วงแรกที่ใช้

CHARGING 

มาพร้อมแบตเตอรี่ขนาดใหญ่  ความจุ 5,000mAh + ระบบการจัดการพลังงานด้วยปัญญาประดิษฐ์ รับประกันว่าคุณจะสามารถควบคุมการใช้พลังงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ รองรับระบบชาร์จไว 18W ความเร็วในการชาร์จไฟชาร์จเพียง 10 นาที สามารถใช้โทรคุยได้นานถึง 3 ชั่วโมง Vision3 Series ชาร์จเร็วกว่าถึง 3 เท่า เมื่อเปรียบเทียบกับรุ่นก่อน ระยะเวลาการใช้งาน สแตนด์บายได้นานถึง 666.7 ชั่วโมง หรือเล่นเพลงต่อเนื่อง 121 ชั่วโมง หรือเล่นวิดีโอต่อเนื่อง 14.8 ชั่วโมง

CAMERA

กล้องหลังอาจจะไม่ได้เน้นอะไรมากสำหรับมือถือในกลุ่มตลาดนี้ครับ ให้กล้องหลังมาที่ 8 ล้านพิกเซล  PDAF, f/2.0 และ ตัวจับระยะ 0.3MP นั้นเองครับ พร้อมกับไฟแฟลช และ รองรับโหมดการปรับบิวตี้ด้วย AI การถ่ายภาพพาโนรามา ภาพบุคคล ภาพในที่แสงน้อย และภาพ HDR สบายๆ ส่วนการถ่ายกล้องหน้า 5 ล้านพิกเซล อาจจะเน้นใช้งานไปในแง่ของการ วิดีโอคอล ก็ถือว่าพอไหวนะ คุยกับหลานๆ ลูกๆได้สบาย แสงเยอะก็เหลือๆครับตามระดับราคาของมัน ส่วนกล้องหลังเองถ่ายแก้ขัดได้ดี และ แอบดีกว่าที่คิดไว้เหมือนกันในหลายๆภาพ แต่ถ้าแสงน้อยเองนั้นอาจจะไม่เด่นเท่าไรนัก แต่ก็ยังคงมีโหมดกลางคืนมาให้อยู่นะ


Exif_JPEG_420
Exif_JPEG_420
Exif_JPEG_420

ITEL VISION 3

” เน้นจอใหญ่สะใจ แบตเยอะ ชาร์จไวหน่อย ใช้งานเหลือๆ ทั่วไปสบายมาก “

เป็นมือถือที่เน้นใช้งานทั่วไป อาจจะเจาะกลุ่มตลาดเริ่มต้นไม่แรงเท่าไรนัก เน้นแบตอึดๆทั้งวัน สองวันได้แบบไม่ชาร์จ และ จอใหญ่สะใจไว้ก่อน กล้องหน้าหลังพอใช้งานถ่ายรูป หรือ วิดีโอคอลได้ กับ ชาร์จไว 18W เข้ามาตอบโจทย์ด้วยขนาดแบตที่ใหญ่ ถือว่าเป็นแบรนด์น้องใหม่ที่ลุยตลาดเริ่มต้นได้น่าสนใจทีเดียวครับ ภาพรวม นั้นไม่มีอะไรที่น่าบ่นหนักๆ ยกเว้นแค่ยังคงใช้งาน Micro-USB เท่านั้นที่อาจจะหาสายยากแล้วนะ ถ้าจะไปยืมใครใช้งานในปี 2022 แบบนี้ แต่ถ้าให้พ่อ แม่ ใช้งาน ป้าๆ น้าๆ คงไม่ได้เป็นปัญหาในเรื่องนี้เท่าไรก็ถือว่า ภาพรวมมีกลุ่มตลาดเขาอยู่แหละ

ข้อดี

  • หน้าจอใหญ่ สวย เน้นใช้งานทั่วไปได้สบาย มองได้ชัดเจน
  • แบตอึดมาก ในการใช้งานจริง ไม่กินพลังงานเลย
  • รองรับชาร์จไว 18W
  • UI ถือว่าใช้งานง่าย ไม่รก และ เรียบๆลื่นพอสมควร
  • กล้องหลังทำได้ดีกว่าที่คิดไว้
  • ดีไซน์สวยหวือหวา และ น้ำหนักเบา
  • เสียงลำโพงดังชัดเจน

ข้อสังเกต 

  • หน้าจอไม่ใช่ 90Hz แบบรุ่น Plus
  • ใช้งาน Micro-USB

สำหรับรีวิวนี้ผมก็ต้องขอตัวลาไปก่อนสำหรับรุ่นอื่นๆก็ติดตามกันได้เลย ถูกใจฝากกดไลค์กดแชร์ด้วยนะครับ  มีข้อผิดพลาดประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ  เพื่อนๆสนใจอยากให้พวกผมรีวิวรุ่นไหนสามารถ Inbox มาบอกเราได้เลยนะ
ฝากไลค์เพจ FACEBOOK เราด้วยนะครับ >>>>>>>>>  TECHHANGOUT

เข้าร่วมกลุ่ม TECHHANGOUT พูดคุยแลกเปลี่ยน ข้อมูล คุยกันเองชิลๆได้เลยที่ — Facebook  Techhangout พูดคุย Smartphone gadget 

Comments กันได้เลย !

Comments

0 Shares