HUAWEI ปีนี้ในตลาดมือถือต้องบอกว่าแอบเงียบไปซักเล็กน้อย อาจจะด้วยหลายๆอย่างนั้นทำให้ทาง HUAWEI เองเน้นไปทางบรรดา ECOSYSTEM ของตัวเองแบบเน้น จัดหนัก จัดเต็ม ไม่ว่าจะเป็น จอคอมพิวเตอร์ นาฬิกา หูฟัง คอมพิวเตอร์ รวมถึง Tablet และอีกมากมาย จนหลายๆคนสงสัยว่าแล้วตลาดมือถือจะเอายังไงกันต่อ จะยังทำตลาดกันอยู่ไหม แน่นอนว่าการเปิดตัว HUAWEI NOVA 8i นั้นคงจะพอตอบได้เลยว่า ยังคงไม่ทิ้งตลาดมือถือ และ จะกลับมาลุยกันอีกครั้งด้วยเช่นกัน และ รวมถึงเรือธง P50 ก็น่าจะเปิดตัวในเร็วๆนี้ก็เป็นไปได้นะ แน่นอนว่า HUAWEI รุ่นนี้เป็นการกลับมาใช้งาน Snapdragon อีกครั้งในบรรดามือถือ และ มีการออกแบบดีไซน์แบบรุ่นพี่ Mate40Pro เลยทีเดียว และมาพร้อมกับชาร์จไวมากๆถึง 66W และขอบหน้าจอที่บางมากๆเมื่อเทียบกับคู่แข่งด้วยกัน ภาพรวมถือว่าสวยและลงตัว และเป็นการลุยตลาด หลังจากที่เงียบไปนาน แต่น่าเสียดายยังไม่รองรับ 5G ในตัวนี้

Huawei nova 8i มาพร้อมหน้าจอ LCD ขนาด 6.67 นิ้ว Full HD+ และมีขอบหน้าจอบางแบบที่ทาง Huawei เรียกว่า “Edgeless Display” ที่มีขอบด้านซ้าย-ขวาหนา 1.3มม. และขอบด้านบนหนา 1.35มม. อีกทั้งกล้องหน้าแบบเจาะรูความละเอียด 16MP ด้านหลังของตัวเครื่อง nova 8i มีความคล้ายคลึงกับ Huawei Mate 30 Pro เพราะมีกล้องหลังจำนวน 4 ตัวจัดเรียงตัวอยู่ในโมดูลรูปวงกลม โดยกล้องทั้ง 4 ตัวประกอบด้วย กล้องตัวหลัก 64MP (f/1.9) ที่มีขนาดเซนเซอร์ 1/1.7 นิ้ว + กล้อง ultra-wide กว้าง 120 องศา 8MP (f/2.4) + กล้องมาโคร 2MP (f/2.4) + กล้องจับความลึก 2MP (f/2.4) นอกจากนี้ตัวเครื่องด้านหลังของ nova 8i ยังมีขอบโค้งแบบ 4D เพื่อการสัมผัสที่ลื่นไหล ภายในตัวเครื่องใช้ชิปประมวลผล Snapdragon 662 ที่มี RAM 6GB/8GB และความจุ 128GB ระบบปฏิบัติการใช้ Android 10 ที่ครอบด้วย EMUI 11 ตัวเครื่อง nova 8i มีเซนเซอร์สแกนนิ้วด้านข้างตัวเครื่อง และมีแบตเตอรี่ 4,300mAh ที่สามารถชาร์จแบตจาก 0-60% ได้ในเวลา 17 นาที และชาร์จแบตจาก 0-100% ได้ในเวลา 38 นาที ด้วยหัวชาร์จ 66W ที่แถมมาให้ในกล่อง พร้อมใช้งานไม่ต้องซื้อเพิ่ม

HUAWEI NOVA 8i นั้นมาพร้อมกับ สีน้ำเงิน (Interstellar Blue) และสีดำ (Starry Black) ส่วนทางด้านราคา นั้นเปิด มาพร้อมกับ Snapdragon 662 RAM 8GB STORAGE 128 GB ที่  9,990 บาทไทย

UNBOX

สำหรับตัวกล่องต้องบอกว่า มันยังไม่ใช่ตัวขายจริงและเป็นเครื่องที่ส่งมาก่อนจะเปิดตัวซะอีกครับเรียกได้ว่าเป็นเครื่องแรกๆของโลกเลยก็ว่าได้ ทำให้ตอนส่งต้องปิดชื่อรุ่นไว้ทั้งหมด และ ยังไม่มีกล่องของจริงมานั้นเอง แต่อุปกรณ์ในกล่องนั้น ยังพอเอามาอ้างอิงอะไรได้ครับ มาพร้อมกับ เคส หูฟัง ที่ชาร์จครบๆเลยไม่ต้องไปหาซื้ออะไรเพิ่ม

  • ตัวเครื่อง HUAWEI NOVA 8i
  • ตัวเคส TPU ใส HUAWEI NOVA 8i
  • ที่ชาร์จ HUAWEI Super Charge 66W
  • สายชาร์จ USB-A ไป USB-C รองรับ 66W
  • หูฟัง Earbuds แบบ 3.5 มม.
  • คู่มือ การใช้งาน ที่จิ้มซิม

ตัวเคสนั้นเป็นเคสใสเรียบๆทั่วไป มีการออกแบบเน้นในเรื่องของการปกป้องนิดหน่อยทั้งขอบหน้าจอ 4 มุมนั้นมีขึ้นมาทั้งหมดทำให้วางคว่ำอะไรได้มั่นใจมากขึ้น รวมถึงด้านหลังเลนส์กล้องครับ ส่วนความหนา วัสดุ แข็งแรงก็ทั่วไปตามแบบเคสแถม และไม่ได้หนาอะไรมากนักเน้นใช้งานระหว่างรอเคสที่ซื้อกันอีกที แต่ที่ชอบคือทำให้เครื่องไม่หนามากไป

DESIGN

งานออกแบบ Nova 8i ตัวนี้แน่นอนว่าเมื่อเห็นด้านหลังเราจะรู้เลยว่าได้รับการออกแบบมาจากรุ่นพี่ตระกูล Mate ชัดเจน และ เปลี่ยนจากรุ่น 7 เยอะอย่างมากจากที่รุ่นก่อนๆนั้นจะไปคล้ายกับเพื่อนบ้าน แต่ครั้งนี้พัฒนามาใหม่ ดึงงานออกแบบตระกูล Mate บ้างนั้นเองซึ่งเมื่อเห็นตัวจริงบอกเลยว่าสวย ดูแข็งแรงประกอบแน่นกว่าที่คิด มีน้ำหนักประมาณนึงคล้ายกับ พวกเรือธงเลยทีเดียวในความรู้สึกเวลาจับสัมผัสต่างๆ และฝาหลังโค้งรับมือมาพร้อมกับสีดำ มีน้ำหนักรวม 190 กรัม และ หนา 8.6 มม. ถือว่ากำลังดี แต่ที่เด่นๆรุ่นนี้จะเป็นรุ่นที่ขอบจอบางที่สุดในคู่แข่งทั้งหมด

มาพร้อมหน้าจอ IPS LCD ขนาด 6.67 นิ้ว Full HD+60Hz  มีขอบหน้าจอบางแบบ “Edgeless Display” ที่มีขอบด้านซ้าย-ขวาหนา 1.3มม. และขอบด้านบนหนา 1.35มม ถือว่าทำขอบได้บางเฉียบเลยจริงๆ สวยลงตัว

ขอบด้านบนหน้าจอนั้นเราจะเห็นว่ามันมีความบางกว่าทุกรุ่นเท่าที่เคยสัมผัสมาเลยทีเดียว แต่ก็ยังแทรกลำโพงไว้ในขอบด้านบนได้เนียนๆ แต่พวกเซนเซอร์นั้นจะไว้ตรงข้างกล้องหน้านะครับ ที่เราเห็นกล้องหน้าจะมีแค่ตัวเดียว 16MP

ขอบด้านล่างเองนั้นก็พยายามทำให้บางที่สุด แต่อาจจะไม่เท่ากับขอบข้างๆซ้ายขวาที่มองไปแทบจะไร้ขอบแล้วนั้นเอง แต่ด้านล่างถ้ามองเทียบกันถือว่าบางกว่าเรือธงของค่ายซะอีก อีกทั้งการควบคุมก็ปรับได้ว่าจะเป็นแบบไหน

ขอบเครื่องนั้นจะเป็นพลาสติก แต่งานประกอบวัสดุเก็บงานได้ดีผิวสัมผัสทำได้ดีครับ พร้อมกับ รูไมค์ตัดเสียง และ ขอบลำโพงที่แทรกเข้ามาแน่นอนว่าด้วยขอบหน้าจอที่บางทำให้ลำโพงต้องกินมาส่วนขอบเครื่องเล็กน้อย พร้อมกับรู 3.5 มม. นั้นเอง ถือว่ายังคงใส่เข้ามาให้ และขอบเครื่องก็เก็บงานได้สวยและมีเล่นเส้นสายเว้านิดหน่อยทำให้ไม่หนา

ขอบเครื่องทางด้านขวาเองนั้นเราจะเห็นว่ามีปุ่ม Power ที่รองรับการสแกนนิ้ว รวมถึง เพิ่ม ลด เสียงเข้ามาแน่นอนว่าตัวนี้ไม่ได้ใช้งาน AMOLED ทำให้ไม่รองรับสแกนนิ้วบนหน้าจอนั้นเอง แต่ใช้ขอบเครื่องหลายๆคนก็ชอบแบบนี้มากกว่า ส่วนฝาหลังนั้นเราจะเห็นเลยว่าโค้งเข้ามาเยอะมากๆทำให้จับถนัดมือ และขอบเครื่องดูบางกว่าปกติเช่นกัน

ขอบเครื่องในส่วนล่าง เป็นที่อยู่ของถาดซิมแบบ Dual-Sim รองรับ nm Card และมาพร้อมกับ รูไมค์ และ รู USB-C กับส่วนของลำโพงหลักตัวเครื่องใส่เข้ามาในด้านล่าง ตัวนี้จะเป็นลำโพงเดี่ยวนะครับ ออกแค่ข้างล่าง

ขอบเครื่องทางด้านซ้ายเองนั้นเรียบๆไม่ได้มีปุ่ม หรือว่าถาดซิมอะไรใส่เข้ามา รวมถึงด้วยการใช้งานเฟรมบอดี้แบบพลาสติกทำให้ไม่ต้องมีจุดเว้นเสาสัญญาณต่างๆอะไรครับ ก็ทำให้สวยเนียนแต่งานประกอบแน่นกว่าที่คิดอยู่นะ

ด้านหลังนั้นเป็นการออกแบบที่เราจะเห็นว่ามันคือ HUAWEI MATE 30 PRO – MATE 40 PRO เลยทีเดียวทั้งการวางกล้อง และการเล่นกรอบรอบกล้องพร้อมกับฝาหลังโค้งลงเยอะมากๆทำให้มันแอบสวยกว่า MATE 30 PRO ของแอดอีกนะ สีดำ Starry Black  เรียบๆพร้อมกับการสะท้อนแสงสวยงามแบบฟุ้งเวลาเจอแสงก็สวยเลยทีเดียว ตัวเครื่องมีความเรียบหรูเหมือนเรือธงเลยแม้จะใช้งานวัสดุแบบพลาสติกก็ตามครับ แต่งานออกแบบไม่ธรรมดา

กล้องหลัง 4 ตัว วางเรียงกัน 4 มุมสวยงามขนาดกำลังดี แต่ละเลนส์นูนขึ้นมาตามสมัยนิยมครับ และล้อมรอบด้วยการเล่นวงแหวนสีดำอีกรอบทำให้การสะท้อนแสงนั้นแตกต่างกับฝาหลัง เราจะเจองานออกแบบนี้ในตระกูล Mate เลยนั้นเอง ส่วนตัวนี้จะมาพร้อมกับกล้อง AI กล้องหลังตัวหลัก  64MP (f/1.9) ที่มีขนาดเซนเซอร์ 1/1.7 นิ้ว + กล้อง ultra-wide กว้าง 120 องศา 8MP (f/2.4) + กล้องมาโคร 2MP (f/2.4) + กล้องจับความลึก 2MP (f/2.4) ถือว่าให้มาครบพร้อมใช้งาน ส่วน Software รุ่นนี้ยังคงให้มาเยอะและถ่ายได้สวยง่ายๆแบบ Huawei

SPEC 

  • หน้าจอ IPS LCD ขนาด 6.67 นิ้ว (1080 x 2376 พิกเซล)
  • ชิปประมวลผล Snapdragon 662 (11 nm) ที่ใช้การ์ดจอ Adreno 610
  • RAM 8GB + Storage 128GB
  • Android 10 ที่ครอบด้วย EMUI 11 (ไม่มี GMS)
  • กล้องหลัง กล้องตัวหลักมุมกว้าง 64MP (f/1.9) 26mm, PDAF + กล้อง ultra-wide 120 องศา 8MP (f/2.4) 17mm  + กล้องมาโคร 2MP (f/2.4) + กล้องจับความลึก 2MP (f/2.4) แฟลช LED flash
  • กล้องหน้ามุมกว้าง 16MP (f/2.0), HDR
  • ขนาดตัวเครื่อง: 161.9 x 74.7 x 8.6 มม.; น้ำหนัก: 190 กรัม
  • ช่องเสียบหูฟัง
  • รองรับเครือข่าย Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac, dual-band, Bluetooth 5.0, A-GPS, GLONASS, GALILEO, BDS
  • USB Type-C
  • แบตเตอรี่ 4,300mAh ที่รองรับการชาร์จเร็ว Huawei Supercharge 66W
  • สีน้ำเงิน (Interstellar Blue) และสีดำ (Starry Black)

PERFORMANCE

การทำงาน ประสิทธิภาพในรุ่นนี้ใช้งาน Snapdragon 662 พร้อมกับ RAM 8 GB และ 128GB Storage แน่นอนว่าสเปกอาจจะไม่ได้หวือหวาอะไรมากนัก แต่จะเน้นใช้งานทั่วไป แบตอึด และ ใช้งานพื้นฐาน ถ่ายรูปต่างๆได้ไม่มีปัญหา แต่ถ้าสายเกมอาจจะไม่ได้เน้นในเรื่องของคะแนนเลยทำได้ไป 194K คะแนน น้อยลงกว่าเดิมถ้าเทียบกับ 7i ครับ เพราะว่าตัวนั้นยังคงใช้งาน Kirin 810 ส่วนทางด้าน RAM 8GB ก็พอๆไม่มีปัญหา ทางด้าน Geekbench นั้นทำไปได้ คะแนนน และ Androbench USF ที่ 128GB รองรับการใช้งานพื้นฐานแบบเดิมเลยครับสามารถทำความเร็วไปได้ 510 MB/s และสามารถเขียนไปได้ 242 MB/S รันบน Android 10 และ EMUI 11 นะครับ

SYSTEM UI 

ทางด้านระบบหน้าตาตัวนี้ยังคงอยู่บนพื้นฐาน Android 10 + EMUI 11 นะครัยยังไม่ได้ย้ายไปไหนหรือว่าใช้ HARMONY OS แบบรุ่นอื่นๆ ทำให้ยังคงมีการใช้งานที่ไม่ได้แตกต่างกับรุ่นอื่นๆเท่าไรปรับตัวไม่ยากครับและยังสามารถลงแอปอะไรได้อยู่ ตัวนี้หน้าตาเรียบๆเช่นเดิมพร้อมกับแอปพื้นฐาน และไม่มี Google Playstore แล้วนะส่วนการแจ้งเตือนอะไรก็ไม่ไค่อยเด้งตามสไตล์ Huawei ปกติครับ แต่ระบบลื่นไหลและปรับแต่งได้เยอะเช่นเดิมเลย

หน้าตาการตั้งค่า Quick Setting นั้นก็จะเป็นเหมือนเดิม สามารถปรับความสว่างหน้าจอได้รวมถึงตั้งค่าลัดบางส่วน และถ้าลากลงมานั้นเราจะเห็นว่ารองรับการตั้งค่าแบบเต็มๆ ซึ่งยังคงเป็นแบบเดิมกับ Android 10 กับ EMUI11 หน้าจอการแบ่งหน้าจอนั้นรองรับเช่นเดิมแบบครึ่งๆ หรือ ว่าแบบหน้าต่างลอยนั้นเองถือว่ารองรับได้อิสระเลยทีเดียว

หน้าตาคีย์บอร์ดนั้นใช้งาน Swiftkey รองรับภาษาไทย และ เป็นคีย์บอร์ดที่ค่ายนี้ใช้กันหลากหลายตัว ส่วนทางด้านหน่วยเก็บข้อมูลนั้นมาให้ 128GB จะเหลือใช้งานประมาณ  110GB และทางด้าน RAM 8GB ใช้งานไปครึ่งๆ 4GB เหลือประมาณ 4GB นั้นเอง ก็ถือว่าสเปกกลางๆรองรับการใช้งานทั่วไป หรือ เล่นเกมได้ระดับนึงนั้นเองครับ

การควบคุมระบบนั้นให้ใช้แบบเต็มหน้าจอ หรือว่าแบบปุ่ม 3 ปุ่ม และ ท่าทางการสัมผัสนั้นรองรับได้มาตรฐานทั้งการถ่ายหน้าจอ , ปลุกหน้าจอสามารถยกหน้าจอขึ้นมาและติดได้ รวมถึงการปิดเสียงเรียกเข้าโดยการคว่ำโทรศัพท์ ต่างๆ อีกทั้ง ในเรื่องของหน้าตาการใช้งาน ทั้งบนแอป ไอคอนต่างๆ พื้นหลังก็สามารถปรับเปลี่ยนได้อิสระเลยครับ

SCREEN

หน้าจอในรุ่นนี้ส่วนตัวตั้งแต่เห็นครั้งแรกแอบคิดว่ารุ่นนี้ทำขอบหน้าจอได้บางมากๆบางกว่ารุ่นอื่นๆที่เราเคยเห็นกันมาเยอะมากด้วยเช่นกันยิ่งอยู่ในตระกูล NOVA แบบนี้ ด้วยการออกแบบ Edgeless Display” ที่มีขอบด้านซ้าย-ขวาหนา 1.3มม. และขอบด้านบนหนา 1.35มม. และมาพร้อมกับการเจาะรูกล้องหน้าแบบ คู่ แต่กล้องหน้าจะมีตัวเดียวนะครับอีกตัวจะเป็นเซนเซอร์ต่างๆ ทำให้ขอบด้านบนนั้นเล็กบางกว่าตัวอื่นๆ ส่วนหน้าจอนั้นมาพร้อมกับ หน้าจอ IPS LCD ขนาด 6.67 นิ้ว FHD + 2376 x 1080 และ อัตราส่วนขนาดหน้าจอต่อตัวเครื่องสูงถึง 94.7% ซึ่งน่าเสียดายว่าในเรื่องของ รีเฟรชเรทเองนั้นมาพร้อมกับ 60Hz แต่ส่วนของการสัมผัสนั้นจะเป็น 180Hz มาตรฐานครับ

ในการใช้งานจริงถือว่าเป็นหน้าจอ IPS LCD ที่คุณภาพดีมากๆตัวนึงครับ ในตระกูลนี้และเทียบกับระดับเรทราคานี้ อาจจะด้วยหลายๆค่ายพยายามไป Hz สูงๆ แต่ตัวนี้เหมือนจะเน้นในเรื่องของคุณภาพมากกว่า เพราะเวลาเอียงหน้าจอ สีดำต่างๆนั้นเรียกได้ว่าทำได้สวย เนียนตามากๆและอาการดรอปของภาพนั้นถือว่าน้อย และที่ชอบมากๆคือความสวยสดของมัน และ การสู้แสงทำได้น่าสนใจเป็นหน้าจอที่คุณภาพดี และ สู้แสงได้ดี รวมถึงการสัมผัสก็ไม่ได้มีปัญหา แต่ด้วยยุคนี้หลายๆคนพยายามไป 90Hz – 120Hz กันทั้งหมดอาจจะทำให้กลับมาใช้งานรุ่นนี้อาจจะดูไม่ลื่นไหลเท่าไรนัก ถ้าคนเคยใช้งานตัว 90Hz มาก่อนนานๆแล้วกลับมาตัวนี้อาจจะแปลกๆนิดหน่อย แต่ถ้าไม่ได้ซีเรียสเรื่องนี้ ก็ถือว่าสบายๆ แน่นอนว่ามันดีกว่า 9OHz IPS LCD หลายๆตัวในเรื่องของสีสัน คุณภาพ และการสู้แสง อันนี้สำคัญ

SOUND

ระบบเสียงตัวนี้อาจจะไม่ได้เน้นมากนักแต่ยังดีที่ไม่ตัดรู 3.5 มม. ออกไปครับทำให้ใช้งานได้ง่ายและยังคงมีหูฟังแถมเข้ามาให้ใช้งาน รูปทรงหูฟังนั้นธรรมดาเป็นหูฟังทรง Earbuds มาตรฐานเน้นใช้งานคุยโทรศัพท์มากกว่าอาจจะไม่ได้เน้นฟังเพลงอะไรมากนัก มีไมค์ในตัวพร้อมใช้งาน ส่วนเรื่องเสียงที่ขับออกมานั้นทดสอบกับหูฟังประจำของแอดเองก็ถือว่าขับได้ดีตามระดับของตระกูล NOVA อาจจะไม่ได้มีแรงขับโหดอะไรมากนักแต่จะเน้นไปที่การปรับแต่ง EQ ได้หลากหลาย และ ปรับระดับเบสต่างๆได้ ก็พอช่วยให้ฟังเพลงนั้นสนุกมากกว่าเดิมได้ด้วยเช่นกันครับในตัว Huawei Histen ที่ติดมาให้เสียงถ้าเทียบนั้นจะไปใกล้ๆกับตัว Nova 7i ก่อนหน้านี้ที่ไม่ได้หนีกันมากเท่าไรครับ

GPS

การใช้งาน GPS เมื่อปรับมาใช้งาน Snapdragon ต้องบอกว่าก็ยังคงทำได้ดี มั่นใจได้เลยทีเดียวครับ เท่าที่ทดสอบในการใช้งานนำทางจริงๆด้วยเช่นกัน  ทำได้ดีขึ้นทางด่วนลงอุโมงค์ไม่เด้งไปไหนครับ ทดสอบตอนรถวิ่ง ก็จับได้ 36 ถือว่าอยู่ในระดับที่ใช้งานได้ดีเลย และกลางแจ้งจับได้ 32 เลยทีเดียวครับ และในที่ร่มนั้นได้ 17 ครับ ระยะเวลาในการจับหลังจากเปิด แอปนั้นใช้เวลาไวมากครับ อันนี้ ไม่หน่วงหรือ รอเลยหลังจากเปิดแอป ไม่มีปัญหาใดๆ แม้จะใช้งานในตัว Maps เองก็ตามครับเพราะว่าตัวนี้ไม่มี GMS แต่ก็รองรับใช้งานได้อยู่นะ ไวและแม่น แต่แค่จะ Log In เข้าสถานที่ไม่ได้ครับ แค่นำทาง และ ค้นหาเท่านั้น ส่วนแอปในตัว Petal Maps ก็รองรับได้ปกติเช่นกัน

HUAWEI SUPERCHARGE 66W

HUAWEI SuperCharge 66W ถือว่าเป็นจุดที่ว้าวมากๆในตัวนี้ครับ และน่าจะโดดเด่นกระโดดหนีคู่แข่งไปทั้งหมดเลย ทำให้ชาร์จได้ไว และไม่ร้อนด้วยการใช้งานเทคโนโลยีการชาร์จแบบเดียวกับเรือธง พร้อมกับเวลา ชาร์จแบตเตอรี่ได้สูงสุดถึง 60% ภายใน 17 นาที และชาร์จเต็มภายใน 38 นาที โดยแบตเตอรี่ความจุ 4,300 mAh ถือว่าจัดเต็มมากๆ และ หัวเป็นแบบ USB-C รองรับการใช้งานได้สบาย และ หัวชาร์จเองนั้นก็มาให้ในกล่องเช่นกัน

BATTERY 

แบตนั้นถือว่าให้มาค่อนข้างดีในความจุ 4,300 mAh ส่วนการชาร์จไวนั้นโหดมากๆ 66W เท่ารุ่นเรือธงของค่ายเลย และ ให้มาในกล่อง ถือว่าเกินหน้าตาค่ายอื่นๆชัดเจนครับ และในการทดสอบนั้นอยู่ได้ 12 ชั่วโมง แบตเหลือ 41% ครับ จอเปิด 5 ชั่วโมง ใช้งาน เฟส กล้อง วีดีโอ ฟังเพลง GPS ครับผม ถือว่าทำได้ดีเลยนะ ทดสอบนั้นเปิด 4G ไว้ตลอด  ทั้งเรื่องของความอึดและการใช้งานหน้าจอ แม้ว่าจะปรับมาใช้งาน Snapdragon แต่ก็ประหยัดแบตได้ดีเท่ากับตอนใช้งาน Kirin เลยทีเดียว แต่ถ้ามองเรื่องของความแรงอาจจะไม่แรงมากนักทำให้แบตสบายๆครับ

GAMING

เท่าที่ได้ทดสอบรุ่นนี้เรื่องของการเล่นเกม เเน่นอนด้วยชิปเซตที่ให้มาอาจจะไม่ได้เเรงมากเท่าไรนัก เเต่เท่าที่ลองโดยรวมถือว่าทำออกมาได้ดีเลยทีเดียว เเต่ในรุ่นนี้เหมือนเดิม อาจจะไม่รองรับเกมส์ที่จะต้องใช้ GMS ในการเข้าเกมส์ หรือการ ล็อกอินเกมผ่าน Gmail ส่วนการเล่นเกมเท่าที่ได้ลองความลื่นไหลจะอยู่ในระดับกลางๆ อัดหน้าจอไปด้วย ก็ยังสามารถเล่นได้เเบบสบายๆ ส่วนการทัชเท่าที่ได้ลองติดนิ้วมากๆ เเบต 1 ชั่วโมง ลดประมาณ 15% ส่วนความร้อนสูงสุดเท่าที่ได้ทดสอบต่อเนื่องอยู่ราวๆ 45 องศา

CAMERA

กล้องหลังตัวนี้ในเรื่องของการจัดวางกล้องนั้นถือว่าสวยและลงตัวเป็นส่วนงานออกแบบที่คล้ายกับรุ่นพี่ MATE 40 PRO เลยทีเดียว และค่ายนี้เองนั้นถ่ายได้ง่าย ถ่ายสวยจบ และทางด้าน Software ปรับแต่งได้เยอะ ฉลาดมากๆทำให้หลายๆคนถ่ายได้ง่าย และสวย รวมถึง โหมดกลางคืน โหมดละลายหลังอะไรก็ไม่ธรรมดา ส่วนทางด้านสเปกนั้นไม่ธรรมดา กล้องหลักใช้งาน 64MP F1.9 เลยทีเดียว ถือว่ารูรับแสงกำลังดีในการถ่ายภาพทั่วไป กล้องตัวหลักมุมกว้าง 64MP (f/1.9) 26mm, PDAF + กล้อง ultra-wide 120 องศา 8MP (f/2.4) 17mm  + กล้องมาโคร 2MP (f/2.4) + กล้องจับความลึก 2MP (f/2.4) แฟลช LED flash และ หน้าตา Software เองนั้นก็เหมือนกับรุ่นอื่นๆของค่ายไม่ต้องปรับตัวอะไรเยอะ สามารถซูมได้ 8X และมี AI ต่างๆเข้ามาช่วย และปรับแสงสีได้ด้วยเช่นกัน

SELFIE

กล้องหน้าในรุ่นนี้มาพร้อมกับความละเอียดในการใช้งานถือว่ารองรับการใช้งานทั่วไปได้ มาพร้อมกับการละลายหลัง รวมถึงการใช้งานหน้าเนียนต่างๆเช่นเดิม รูรับแสงกลางๆในการใช้งานกลางคืนมีโหมดถ่ายกลางคืนในกล้องหน้าได้ด้วยนะ กล้องหน้ามุมกว้าง 16MP (f/2.0), HDR มุมมองภาพนั้นถือว่ากลางๆไม่ได้กว้างหรือแคบเกินไป โทนสีเท่าที่ลองแอบติดแดงนิดหน่อยไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะตัวก่อนขายจริงหรือไม่เพราะว่า Software เองนั้นยังไม่ได้เป็นตัวขายจริงครับรวมถึงการเก็บขอบละลายหลังอะไรต่างๆด้วยเช่นกัน ทำให้เท่าที่ลองกล้องหน้าเองนั้นไม่ได้เด่นอะไรมาก

HUAWEI NOVA 8i

” งานออกแบบสวยพรีเมี่ยม แบบรุ่นพี่ Mate จับถือง่าย ชาร์จไวโหดเท่าเรือธง 66W  ” ถือว่าฝั่งมือถือเองนั้นยังคงเดินหน้าลุยตลาดมือถือแบบต่อเนื่อง พร้อมกับการใช้งานกล้อง ชาร์จไว และงานออกแบบที่ถือว่าโดดเด่น อีกทั้งงานประกอบคุณภาพถือว่าน่าประทับใจอย่างมาก แต่ก็มีเรื่องที่หลายๆคนต้องปรับตัวเช่น HMS ที่ยังมีหลายกๆคนอาจจะปรับมาใช้งานลำบากก็ต้องดูกันว่าใช้งานกันถนัดไหม รวมถึงตัวนี้ยังไม่ได้ใช้งาน HARMONY OS นะครับเป็น Android 10 + EMUI11 เท่านั้น แต่ถ้ามองข้ามเรื่องนั้นไปก็ถือว่า รุ่นนี้ สวยงานออกแบบพรีเมี่ยม การชาร์จที่ชาร์จไวอย่างมากรองรับมากถึง 66W และ ชาร์จเต็มแค่ 38 นาที อีกทั้งให้ที่ชาร์จมาให้ในกล่อง และ หน้าจอที่งานออกแบบขอบบางเฉียบกว่าตัวอื่นๆ และ งานออกแบบฝาหลัง การวางกล้องสวยงามเลยทีเดียว พร้อมกับการใช้งาน Snapdragon แต่ ซีรีส์แอบเล็กไปหน่อยอาจจะไม่ได้เน้นแรงหวือหวาอะไรมากนักครับ ในตระกูล Nova แต่ถ้าใช้งานทั่วไป เน้นแบตอึด ชาร์จไว กล้องถ่ายง่าย จอใหญ่ตัวนี้ตอบโจทย์เหลือๆแล้ว

ข้อดี

  • งานออกแบบ สวย พรีเมี่ยม และ คุณภาพเวลาจับถือทำได้ดี
  • หน้าจอ ขอบบางมากๆ ทั้งด้านบน และ ขอบข้าง สวยลงตัว
  • หน้าจอสู้แสงได้ดี สวย สีทำได้ดีกว่า IPS LCD ทั่วไป
  • รองรับการใช้งาน Huawei Super Charge 66W เร็ว และ แรงเทียบเรือธง
  • กล้องหลัง 4 ตัว ใช้งาน 64MP ฟีเจอร์การถ่ายโดดเด่น
  • หน้าตาระบบใช้งานเรียบๆตามสไตล์ EMUI

ข้อสังเกต

  • Snapdragon 662 กลางๆในการใช้งานทั่วไป
  • ใช้งาน EMUI + HMS ไม่ใช่ HARMONY OS
  • หน้าจอยังคงเป็น 60Hz IPS LCD

สำหรับรีวิวนี้ผมก็ต้องขอตัวลาไปก่อนสำหรับรุ่นอื่นๆก็ติดตามกันได้เลย ถูกใจฝากกดไลค์กดแชร์ด้วยนะครับ  มีข้อผิดพลาดประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ  เพื่อนๆสนใจอยากให้พวกผมรีวิวรุ่นไหนสามารถ Inbox มาบอกเราได้เลยนะ
ฝากไลค์เพจ FACEBOOK เราด้วยนะครับ >>>>>>>>>  TECHHANGOUT

เข้าร่วมกลุ่ม TECHHANGOUT พูดคุยแลกเปลี่ยน ข้อมูล คุยกันเองชิลๆได้เลยที่ — Facebook  Techhangout พูดคุย Smartphone gadget 

Review by Nineztr 

Comments กันได้เลย !

Comments

0 Shares