Honda Accord นั้นเป็นชื่อที่เราคุ้นหูกันมานานมากๆตั้งแต่ยุคก่อนเป็นรถยนต์นั่งของทางค่ายที่เราหลายๆคนน่าจะคุ้นกันครับเนื่องจากชื่อนี้ทำตลาดมาอย่างยาวนานมากๆในประเทศไทยและในตลาดโลก มีการพัฒนามาหลากหลายรุ่นจนถึงตอนนี้มาถึงเจนที่ 10 แล้วสำหรับชื่อนี้ครับสานต่อความสำเร็จจาก เจน 9 ที่ยอดขายทำได้ค่อนข้างดีในประเทศไทยทั้ง ความสวยงาม และ พื้นที่ใช้สอยและอะไรหลายๆอย่างทำให้มันเป็นตัวเลือกที่ใครหลายๆคนเลือกเมื่อหารถนั่งขนาดใหญ่นั่งสบายพื้นที่กว้างขวาง ส่วนในครั้งนี้มาถึงรุ่น 10 ที่มีการเปลี่ยนแปลงงานออกแบบชัดเจนครับและมีอะไรใหม่ๆเข้ามาทั้งเรื่องของ เครื่องยนต์ เทคโนโลยีต่างๆ VTEC TURBO และ ยังมีตัวเลือก Hybrid ด้วยเช่นเดิมครับ ในครั้งนี้เรามาอยู่กับเรือธงรุ่นท็อปของรุ่น คือ Honda Accord Hybird Tech เป็นเครื่อง 2.0 แน่นอนว่าไม่ใช่ Turbo ครับเพราะอีกรุ่นย่อยนั้นจะเป็น 1.5 Turbo ที่เป็นเครื่องและเทคโนโลยีอีกตัวที่เปิดตัวครั้งแรกในค่ายนี้ในชื่อ Accord ครับ แน่นอนว่าเรามาอยู่กับเจ้า Hybrid ที่ตลาดเริ่มยอมรับและยอดขายดีมากขึ้นเรื่อยๆ คนกล้าใช้งานขึ้นเยอะจากเมื่อหลายๆปีก่อนและเทคโนโลยีก็พัฒนาขึ้นและทำได้ดีขึ้นจริงๆครับในรอบนี้

Honda Accord Hybrid Tech รุ่นนี้เป็นรุ่นที่จัดฟีเจอร์ ออพชั่นมาครบที่สุดครับ มาพร้อมกับงานออกแบบที่เปลี่ยนไปเยอะมาก ใหญ่ กว้าง ขึ้นจากเดิมและเมื่อเทียบคู่แข่งมันทำได้กว้าง สูง ใหญ่กว่า Camry ด้วยแต่งานออกแบบหลังคาอะไรทำให้มันดูเตี้ยแบนครับถือว่าเป็นงานออกแบบที่ฉลาดและทำให้รถดูบางแบนแต่จริงๆภายในกว้างขวางมาก หลังคาแนวลาดลงแบบนี้ช่วยได้เยอะมากครับ งานออกแบบรุ่นท็อปตัวนี้จะใช้งานล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้วลายใบพัด 5 ก้าน ไฟตัดหมอกหน้า LED รวมถึงกันชนกับกระจังหน้าที่มีการเว้าช่องสำหรับติดตั้งกล้องส่องหน้ารถใช้งานมาพร้อมกับ เรดาร์สำหรับระบบ Honda Sensing และแน่นอนว่ามีซันรูฟกระจก และด้านหลังจะมีสปอยเลอร์หลังอันเล็กๆติดมาให้ครับ ส่วนงานออกแบบส่วนอื่นๆก็ไม่ได้แตกต่างกันมากนักกับรุ่นรอง งานออกแบบภาพรวมนั้นสวยลงตัวนะ แต่ขัดใจเรื่องไฟท้ายจริงๆครับที่มันมีติ่งด้านหลังเลยแอบแปลกๆ ส่วนฟีเจอร์พวก  Remote Engine Start  อะไรพวกนี้นั้นมีมาให้เช่นเดิม และยังมีกล้องรอบคัน Head Up Display และ หน้าจอสัมผัส Honda Smart Parking Assist System รวมถึง Lanewatch ก็ยังมีมาให้  และพวกระบบช่วยเหลือทั้งหมดของ Honda Sensing ครับ ส่วนเครื่องยนต์นั้นใช้  2.0 Hybrid i-MMD และเครื่องยนต์ ขนาด 2.0 ลิตร  145 แรงม้า + มอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว AC Synchronous Permanent Magnet Electric Motor พละกำลัง 184 แรงม้า รวมเป็น 215 แรงม้า E-CVT และ ชุดแบต Lithium-ion ย้ายมาใต้เบาะแล้ว รองรับน้ำมันสูงสุด E20 ความจุถังน้ำมัน 48.5 ลิตร ทำให้มีพื้นที่เก็บของข้างหลังเยอะขึ้นและสามารถเปิดท้ายทะลุไปห้องโดยสารได้
ทางด้านราคานั้น Honda Accord 2.0 Hybrid TECH เปิดมาที่ ราคา  1,799,000 บาท

EXTERIOR

งานออกแบบในภาพรวมครั้งนี้ Honda เปิดมาด้วยธีมงานออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์ที่หลายรุ่นนำไปใช้กัน จนแอบคล้ายกับรุ่นน้องมากเกินไปก็เป็นไปได้ครับแต่แน่นอนว่างานออกแบบกระจังหน้าพวกนี้ก็มีส่วนต่างกับรุ่นน้องเยอะมากครับและแน่นอนว่าทั้งความชัน รูปทรงในภาพรวมก็ยังมีความแตกต่างกันเยอะ แต่ถ้าขับผ่านเร็วๆ ทรงกระจก รูปทรงของรถมันก็ทำให้หลายๆคนมองคิดว่าเป็น CIVIC ได้เยอะมาก รวมถึงคนที่ไม่รู้เรื่องรถก็จะมาทักว่า CIVIC ใหม่ใหญ่มากเลยนะเนี่ย ซึ่งอันนี้เจอมาเองเลยครับ ก็ต้องบอกว่ามันเป็น เอกลักษณ์ของ เจนนั้นๆในแต่ละปีของค่ายแน่นอนว่าแต่ละค่ายก็มีเอกลักษณ์งานออกแบบประจำเจนๆไปครับ แต่ครั้งนี้อาจจะดูคล้ายกันไปหน่อย ซึ่งจริงๆมีหลายค่ายนี้ที่งานออกแบบ เหมือนรถ 3 ขนาดยืดหดมากกว่า Honda เยอะหลายค่ายครับหลายๆคนคงรู้จักกันดี

ส่วนตัวนั้นต้องบอกว่าตอนแรกที่เห็นภาพไม่ค่อยชอบดีไซน์รวมๆเท่าไรนัก แต่พอคันจริง รูปทรงของมัน ความเตี้ยแบนของมันทำให้รถดูดีและมีความสปอร์ตสูงมากๆครับ ด้านหน้าต้องบอกว่าลงตัวมากๆในบรรดารถระดับนี้และถือว่าเป็นรุ่นที่สวยมากๆรุ่นนึงออกแบบลงตัวทั้งด้านหน้า ด้านข้างและทรงของรถจะเห็นว่าหลังคาลาดเอียงทำให้รถดูมีความเป็น Sport back ได้เยอะมากและดูเตี้ยมาก แม้ความจริงจะสูงกว่าคู่แข่งด้วยซ้ำไป แต่ที่ขัดใจจะเป็นไฟท้ายที่มันน่าจะออกแบบได้ลงตัวกว่านี้ จนคิดไปว่าทำไมรุ่นเก่าท้ายสวยมากๆ แต่รุ่นนี้เหมือนแปลกๆครับ แค่ตัดติ่งไฟท้ายออกไปนั้นก็ช่วยได้เยอะหรือออกแบบให้เป็นเส้นๆยาวก็จะเข้ากับรถได้มากขึ้นอันนี้แอบเสียดายมากเลย จะเห็นว่าเส้นสายของรถทั้งด้านข้างด้านหลังมีความคมชัดเป็นสันชัดเจนมากๆครับ รวมถึงตัวชายล่างของรถก็มีเส้นสายสวยงาม

ด้านหน้านั้นจะเป็นไฟหน้าแบบ FULL LED ทั้งหมดและในรุ่นนี้จะมีไฟจัดหมอก LED เสริมเข้ามาให้ครับ ไฟ DRL ก็เป็นแถบไฟหรี่ข้างๆลากยาวมาตรงกลางแต่ขอบ่นหน่อยว่าไฟ DRL นั้นไม่เต็มเส้นเลยและไม่ค่อยสวยครับเมื่อเทียบกับไฟเส้นแบบ City Turbo – HRV พวกนั้นจะสวยกว่ามาก ซึ่งของ Accord มันเลยสว่างแค่มุมและแบบเดียวกับ CIVIC  CRV เลยครับไม่ได้เต็มเส้นเท่าไร ส่วนไฟเลี้ยวไฟหน้าทำได้สวยและสว่างครับเป็นแบบเกล็ดปลาเช่นเดิม ส่วนกันชนหน้าจะเป็นช่องลมเข้าตรงกลางพร้อมมีเว้าตำแหน่งเซนเซอร์อะไรมาให้ มองหน้าตรงเอาจริงๆมันดูสวยมาก อย่างที่บอกไปว่าลงตัวทั้งคันจริงๆ ยกเว้นไฟท้ายนิดเดียว ส่วนด้านหลังนั้นจะเป็นเสาอากาศ ครีบฉลาม ตรงกลาง พร้อมกับ ด้านท้ายจะเป็นสปอยเลอร์แบบเล็กๆเสริมเข้ามาในรุ่นนี้ และ ไม่มีท่อไอเสียโชว์ข้างหลังจะเป็นโครเมี่ยมเงินๆแทรกเข้ามาแทน ส่วนตัวไฟทับทิมเป็นเส้นๆเล็กๆตรงกันชน และไฟท้ายเป็นทรงที่มีติ่งไฟตรงกระโปรงที่แอบจัดใจใครหลายๆคนนั้นเอง แต่ไฟสีแดงทั้งหมดจะเป็น LED นะครับส่วนที่เหลือ ไฟถอย ไฟเลี้ยวนั้นจะเป็นหลอดไส้

ล้ออัลลอยในรุ่นนี้ถือว่าจัดเต็มมาก และดีไซน์สวยและค่อนข้างชอบครับส่วนตัวคือขนาดมันสวยและเข้ากับแนวของรถอีกทั้งยังค่อนข้างเต็มซุ้มล้อและลายโครเมี่ยมแอบปัดเงานิดหน่อยทำให้ดูพรีเมี่ยมมากขึ้นไปอีก ล้ออัลลอย ขนาด 18 นิ้ว 18 x 8J พร้อมยาง 235/45 R18 ล้อของ Hybrid จะเป็นลายเดียวกันขนาดเดียวกันทั้ง 2 รุ่นย่อยนะครับ แต่จุดต่างคือ สปอยเลอร์หลัง และ ซันรูปแค่นั้นระหว่าง 2 ตัวนี้ถ้าดูภายนอก ส่วนตัว Honda Lanewatch ครั้งนี้ซ่อนได้เนียนตามากขึ้นฝังไปกับกระจก แต่ก็ต้องยอมเสียพื้นที่กระจกไปครับทำให้ 2 ข้างกระจกไม่เหมือนกัน แต่เวลาใช้งานจริงมันไม่ได้ไปบังกับมุมมองของเราครับ เป็นส่วนที่ไม่ได้มีรถในสายตาเวลาเราเปลี่ยนเลนอยู่แล้วนั้นเองครับ

ไฟหน้าไปท้ายนั้นเป็นแบบ LED เกือบทั้งหมดในส่วนของไฟหน้าแน่นอนว่ารูปทรง อะไรนั้นสวยงามลงตัวและยังเป็นไฟหน้าแบบเกล็ดปลาแบบที่รุ่นใหม่ๆชอบใช้งานกันเรียงวางกันสวยงาม ไฟเลี้ยวขอบบน ไฟ DRL ขอบล่าง และไฟหน้า ไฟสูงจะเป็นเกล็ดปลาตรงกลางนั้นเองครับ ส่วนไฟตัดหมอกรุ่นนี้จะเป็นLED สีขาวทั้งหมด เส้นสายแสงคมไฟสว่างใช้ได้เลยครับมองอะไรเห็นชัดเจน รวมถึงไฟตัดหมอกจะเน้นส่องล่างๆและกินพื้นที่ข้างๆได้เยอะมาก มีระบบไฟสูงอะไรให้อัตโนมัติเรียบร้อย ส่วนตัวไฟท้ายนั้นเสียดายทั้งเรื่องรูปทรง และ ตัวไฟเพราะมันเป็น LED แค่ไฟเบรคไฟหรี่เท่านั้นครับ และไม่มีตัดหมอกหลังมาให้เลย รวมถึงไฟ เลี้ยว ไฟถอยยังเป็นหลอดไส้ครับแอบเสียดายมากๆ แต่ยังดีว่าเวลากลางคืนเปิดไฟแล้วไฟท้ายมันสวยกว่ากลางวันเยอะมากครับหลายๆคนก็บอกแบบเดียวกันเลย ส่วนตัวข้างหลังจะเห็นว่า สปอยเลอร์ท้ายนั้นจะโผล่ขึ้นมานิดเดียวจริงๆครับ เป็นจุดแตกต่างกันเลยระหว่าง 2 รุ่น Hybrid

ยามค่ำคืนนั้นสวยเอาเรื่องครับสำหรับ Honda Accord ตัวนี้ไฟหน้าเป็นแสงขาวทั้งหมด และไฟเลี้ยว LED ส้มส่วนไฟแบบนี้แน่นอนว่าแสงมันจะไม่ได้คมเป๊ะแบบพวกโคม Projector ครับแต่มันจะได้แสงที่นุ่มและส่วนที่เหนือ Cutoff จะยังเห็นแบบลางๆไม่ได้มืดสนิทแบบพวกนั้นก็แล้วแต่คนชอบครับในส่วนนี้แน่นอนว่าในเรื่องของความสว่างนั้นไม่ได้ด้อยกว่ากันเท่าไรนัก แต่จะเป็นเรื่องของรูปทรงโคมและลำแสงนิดหน่อย ส่วนในการใช้งานจริงนั้นไม่ได้เจอปัญหาอะไรสู้แสงไฟถนนได้ สู้ฝนได้สบายๆครับโคมแบบนี้รวมถึงตัดหมอกก็กินระยะข้างๆได้ดีพอสมควรเลยครับ แต่ไฟ ACL ในรุ่นนี้เหมือนจะไม่มีแล้วอาจจะด้วยการออกแบบโคมมันสามารถกินระยะไปด้านข้างได้นั้นเองครับ ส่วนด้านท้ายนั้นไฟเมื่อยามค่ำคืนสามารถช่วยให้ด้านหลังนั้นสวยขึ้นเยอะครับ ทรงไฟท้ายอาจจะแปลกๆแต่ถ้าเปิดไฟแล้วนั้นค่อนข้างสวยและมีเส้นสายสวยพอสมควร และเบรคก็ทำให้ไฟท้ายมันเต็มขึ้นและสว่างชัดเจนครับ ส่วนตัดหมอกหลังไม่มีมาให้นะครับในรุ่นนี้ และไฟเบรคดวงที่ 3 นั้นจะอยู่ขอบล่างของกระจกเป็นปกติ ขนาดกลางๆไม่ได้ยาวมากครับ

ในส่วนตัวรถเมื่อเราทำการเดินเข้าไปใกล้ๆและกดปลดล็อคนั้นมันจะมีไฟส่องสว่างให้ครับถ้าเราเปิดอัตโนมัติไว้และเปิดตัดหมอกมันก็จะติดตามภาพเลยตัวไฟส่องสว่างตรงที่จับนั้นมีให้ครบทุก 4 ตำแหน่งแต่จะไม่ได้มีไฟส่องพื้นตรงกระจกมองข้างนะครับ ส่วนไฟหน้าไฟท้ายนั้นก็จะติดปกติเลยเวลาปลดล็อค จริงๆก็ถือว่าเป็นฟีเจอร์พื้นฐานของหลายๆรุ่น ช่วยได้เยอะเวลารถจอดในที่มืดมากๆครับช่วยส่องไฟหน้าหลัง และที่จับว่ามีอะไรน่ากลัวที่เราไม่เห็นไหมส่วนการเข้ารถคันนี้ก็สามารถกดแตะตรงที่จับ หรือ เงื้อมมือเข้าไปโดยไม่ต้องกดก่อนก็ได้ครับ สามารถเปิดได้เลย

INTERIOR 

กุญแจของรุ่นนี้นั้นยังคงเป็นแบบ Smart Key รูปทรงอะไรแบบเดียวกับรุ่นก่อนครับ งานออกแบบอีกด้านนั้นเป็นสีน้ำเงินสำหรับ Hybrid และแน่นอนว่า มีรูกุญแจซึ่งคุณสามารถถอดกุญแจโลหะออกมาไขได้ และตัวปุ่มในอีกฝั่งจะเป็นปุ่มสำหรับ ล็อค ปลดล็อค และเปิดฝาท้าย ส่วนรูปที่คล้ายๆ รีเฟรชนั้นจะเป็นปุ่มที่กดแล้วมันจะสามารถสตาร์ทเครื่องได้ก่อนที่เราจะเดินไปถึงรถยนต์ เป็นฟีเจอร์ที่คู่แข่งตัวอื่นๆไม่มีเลยครับ หลักการทำงานนั้น กดล็อครถก่อน 1 ที และกดปุ่มที่คล้ายๆรีเฟรชไว้ 3 วินาที รถก็จะสตาร์ทเครื่องเปิดแอร์ไล่ความร้อน  และเมื่อเราจะเข้ามาในรถก็ต้องปลดล็อค และ สตาร์ทใหม่อีกรอบนะครับ ส่วนการปลดล็อคก็จะปลดทั้งหมด 4 บานนะครับไม่สามารถเซ็ทได้ว่าเอาบานเดียวอันนี้แอบเสียดายนิดหน่อยในตัวนี้ ส่วนการสตาร์ทก็สามารถเหยียบเบรคและกดปุ่มสตาร์ทได้เลยครับ

ทางด้านภายในในการขับขี่จริงๆนั้นไม่เจอปัญหาในเรื่องของการขับขี่ทั้งในส่วนของพื้นที่ Headroom หรือส่วนบริเวณเข่า แน่นอนว่าในหลายๆรุ่นบางทีเราจะชอบเจอเข่าชนกับคอนโซลกลางหรือมันเบียดเกินไปแต่ในรุ่นนี้ถือว่าขับสบายครับและด้วยการที่มันออกแบบพื้นที่ภายในมันกว้างขึ้นและรองรับกับการใช้งานได้ดีพอสมควรเลยทีเดียวนั่งสบายไม่อึดอัดครับถือว่าตำแหน่งการขับขี่รุ่นนี้ทำได้ดีและชอบพอสมควรเลย การวางปุ่มอะไรใช้งานง่ายและเรียบง่ายแม้งานออกแบบอาจจะดูธรรมดาไปหน่อยแต่ถ้ามองในเรื่องของการใข้งานปุ่มพวกนี้ใช้ง่ายเวลาขับรถได้สบายๆไม่ต้องไปมองอะไรให้เยอะครับ ส่วนตัวเกียร์รุ่นนี้จะเป็นเกียร์แบบทั่วไปอยู่ไม่ใช่ปุ่มกดแบบตัวที่ขายเมืองนอกนะครับ

ภายในในตัวนี้จะเป็นโทนสีดำทั้งหมดครับ และตัดด้วยลายไม้สีเข้มและสีเงินด้านตามขอบต่างๆ และจริงๆมันมีจะมีสีเบาะหนังน้ำตาลด้วยในตัวถังสีดำก็สวยหรูเช่นกันครับ เมื่อเปิดเข้ามานั้นตัวเบาะจะถอยหลังให้เราเข้าง่ายที่สุดครับ แน่นอนว่าเบาะมันจะปรับถอยเวลาดับเครื่องทุกครั้งทำให้เราสามารถลุกได้ง่ายแม้จะรถเตี้ยก็ตาม และเมื่อสตาร์ทนั้นเบาะมันจะเข้าไปตามที่เราเซ็ทไว้ครับ ตัวปุ่มสตาร์ทอะไรจะอยู่ฝั่งขวาสีแดงๆและรวมถึงการปรับตั้งค่าต่างๆ ตัวประตูสามารถกดเซ็ตเบาะได้ 2 ความจำครับและตัวเบาะปรับได้ 8 ทิศทางด้วยระบบไฟฟ้า ตัวเบาะนั้นรูปทรงใหม่ค่อนข้างกระชับและนั่งสบายรองรับส่วนรองขาและตัวปีกเบาะกระชับกำลังดีครับทรงสปอร์ตนิดๆ และตัวพนักพิงหัวก็ไม่ได้ดันเกินไป ค่อนข้างชอบตัวเบาะตัวนี้แม้จะขับขี่ทางไกลได้ดีมากๆเบาะหนังนุ่ม เป็นทรงกำลังดีและฟองน้ำให้ตัวดีมากๆ

มากันที่ข้างหลังกันบ้างครับในข้างหลังรุ่นนี้จะเห็นว่าด้านข้างนั้นจะเป็นม่านบังแดด แบบใช้มือดึงครับไม่ได้ใช้งานระบบไฟฟ้า มีมาให้ทั้ง 2 ข้างแต่ขอบ่นหนักๆเลยคือเรื่องของม่านดังแดดหลังไม่มีมาให้ครับ และถ้ามองในแง่ของความพรีเมี่ยมในส่วนของเบาะหลังนั้น มันไม่สามารถปรับเอนนอนได้ หรือ ไม่มีปุ่มควบคุมอะไรตรงที่พักแขนเลยครับเลยอาจจะสู้อีกค่ายไม่ได้ในส่วนนี้ ส่วนข้างหลังนั้นจะเป็นที่วางแขน พร้อมที่วางแก้วและ ช่องเปิดไปด้านหลังครับ ส่วนพนักพิงหัวนั้นสามารถปรับได้ 2 ตำแหน่งและตรงกลางปรับไม่ได้นะครับ และ มีที่ชาร์จไฟ 2 จุดพร้อมแอร์หลัง ตรงกลาง ตัวเบาะนั้นนั่งสบาย มีพื้นที่ Headroom – Legroom เหลือเยอะมากครับดีกว่าคู่แข่งชัดเจนในเรื่องนี้เบาะนั่งสบาย ผู้ใหญ่นั่งสบายและโอ่งโถงเอาเรื่องเป็นพื้นที่ข้างหลังที่นั่งสบายและเอนกำลังดีครับในส่วนเบาะของรุ่นนี้

คอนโซลกลางนั้นออกแบบ แบบสมมาตรกันครับปุ่มค่อนข้างน้อยมากๆมีแค่ควบคุมพัดลม และ อุณหภูมิแค่นั้นเลย แยกโซน ซ้ายขวา ได้ครับ ส่วนตรงกลางข้างล่างนั้นรองรับที่ชาร์จไร้สายสำหรับมือถือ และ ช่อง USB สำหรับต่อ CARPLAY ด้วยเช่นกันถือว่ารองรับเทคโนโลยีใหม่ๆพอสมควรครับในรุ่นนี้ ส่วนจอกลางนั้นเป็นสัมผัสและมีปุ่มด้วย ตรงนี้แอบขัดใจตรงปุ่มนิดหน่อยน่าจะทำแบบสัมผัสทั้งหมดไปเลยน่าจะเนียนสวยกว่าด้วยครับ ทางด้านหน้าจอเครื่องเสียงระบบสัมผัส Touchscreen ขนาด 8 นิ้ว แบบ Advanced Touch รองรับ Android Auto และ Apple Carplay รวมถึงรองรับคำสั่งเสียง SIRI และ ระบบเชื่อมต่อ Honda CONNECT รวมถึง ระบบเครื่องเสียงแบบ Premium Sound System พร้อม Sub-Woofer ในตัวด้วยครับ  ทางด้านพวงมาลัยนั้นเป็นหุ้มหนังทั้งหมด รูปทรงสวยงามและมีปุ่มควบคุมการใช้งานแน่นๆครับ พร้อมกับการตั้งค่าพวก Adaptive Cruise ต่างๆและ มี Paddle Shift มาให้กดเล่นกันด้วยตรงพวงมาลัยครับ ตัวพวงมาลัยดีไซน์และปุ่มใช้งานสวยและง่ายพอสมควร

ทางด้านคอนโซลกลางด้านล่างจะเป็นที่วางแก้วน้ำ 2 แก้ว รวมถึงการปรับโหมดการขับขี่ด้วย จะเห็นหุ่มข้างล่างเกียร์คือมีโหมด Sport – EV – ECO ครับการขับขี่ก็แตกต่างกันแน่นอนทั้งเรื่องอัตราเร่งและความประหยัด  และล่างลงมานั้นจะเป็น เบรคมือไฟฟ้า และ Auto Brake Hold ครับ ส่วนตัวเกียร์นั้นจะเป็นเกียร์แบบปกติครับไม่ได้เป็นแบบปุ่มกดอะไร และตัวเกียร์ไม่ได้มีขั้นบันไดอะไรครับเป็นลากตรงๆเลย รูปทรงอะไรก็ถือว่าสวยเรียบๆครับ ส่วนทางด้านบนนั้นกระจกตัดแสงแบบออโต้ และมีไฟ LED สีขาวเป็นไฟห้องโดยสารและมีที่ใส่แว่นและตัวควบคุม ซันรูฟครับ

สภาพภายในห้องโดยสารจริงๆถือว่ามันเรียบๆครับค่อนข้างไปทางแนวหรูนิดหน่อยแต่ในอีกหลายๆมุมมองก็แอบดูธรรมดามากไปครับ ทั้งเรื่องของการวางอะไรต่างๆรวมถึงตัวตำแหน่งจออะไรพวกนี้ที่ไม่ได้เยอะแบบรุ่นเดิมแล้วก็ถือว่าเรียบง่ายมากขึ้นครับและในภาพบนจะเป็นว่าเราสามารถควบคุมเบาะคนนั่งข้างได้ผ่านข้างเบาะทำให้คนขับหรือคนนั่งปรับแทนได้ครับ และการที่รุ่นนี้มีซันรูฟนั้นทำให้บรรยากาศในรถดูโปร่งขึ้นเยอะแม้จะไม่ได้เป็น พาโนรามิค ก็ตาม ส่วนโทนในห้องโดยสารนั้นจะเป็นสีดำและโทนไม้เข้มตัดขอบเงินนิดหน่อย ส่วนที่จับข้างบนมีมาให้ 4 ตำแหน่งครับ และตรงแอร์ข้างหลังนั้นเป็นช่องตรงกลางแต่จะไม่สามารถปรับ อุณหภูมิ พัดลมได้ แต่มีช่อง USB ให้

ช่องเก็บของสัมภาระท้ายนั้นจะเห็นว่ามีพื้นที่เยอะมากขึ้นครับเพราะไม่มีตัวแบตมาวางไว้แล้วเพราะโยกย้ายไปที่ใต้เบาะแทนครับ ทำให้ช่องเก็บสัมภาระนั้นเยอะมากและมีพื้นที่เหลือๆสำหรับใช้งานเลยทีเดียว และเมื่อเปิดขึ้นมาจะเป็นที่เก็บพวกที่ปะยางฉุกเฉินอะไรพวกนี้ แน่นอนว่ารุ่นนี้ไม่มียางอะไหล่มาให้แล้วครับ และเราสามารถพับเบาะเพื่อเพิ่มพื้นที่ของการเก็บสัมภาระได้ทะลุไปข้างหน้าได้สบายๆครับถือว่ามีพื้นที่เยอะสำหรับใช้งานขนของสบายๆครับตัวนี้

บรรยากาศในห้องโดยสารของรุ่นนี้นั้นน่าเสียดายว่าไม่ได้มีไฟ Ambient Light อะไรให้ครับเลยทำให้มีไฟสีขาวที่ส่องห้องโดยสารเท่านั้นในทั้งหน้าและหลัง แต่ตรงประตูนั้นจะเป็นไฟส่องพื้นเวลาเปิดครับ จะยังคงเป็นหลอดไฟสีส้ม เหมือนเดิมไม่ได้ใช้งาน LED ครับส่วนไฟตามปุ่มอะไรนั้นเป็นสีขาวทั้งหมด และคุมโทนสีเป็นขาวไว้ทุกๆจุดในตัวภายในครับ ก็ถือว่าเรียบๆขึ้นแต่ไฟส่องตรงเท้าหรือตรงอื่นๆในห้องโดยสารยังน้อยไปนิดหน่อยถ้ามีเพิ่มน่าจะสวยขึ้น

ทางด้านหน้าจอนั้นรองรับการใช้งานค่อนข้างอิสระและหลากหลายครับ แน่นอนว่าหลายๆคนน่าจะใช้งานแบบที่ทางแอดเชื่อมต่อกันเป็นหลักจนแทบไม่ได้ใช้งานหน้าจอเดิมๆของมันคือตัว Android Auto – Apple Carplay นั้นเองครับแน่นอนว่าแค่เสียบเข้าไปก็สามารถใช้งานเริ่มแอปและใช้งานคำสั่งเสียงได้เลย และยังรองรับใช้งานนำทาง เปิดเพลงอะไรพวกนี้แบบไร้ปัญหาเลยถือว่าเป็นข้อดีของพวกจอที่รองรับ ส่วนหน้าจอตัวนี้เดิมๆก็สามารถใช้งานนำทางทั่วไปที่มากับรถรวมถึง ปรับเปลี่ยนหน้าตา วิทยุ และ ดูข้อมูลปรับแต่งตั้งค่าตัวรถได้ทั้งหมดเลยครับ รวมถึงดูสถานะการขับต่างๆและการกินน้ำมันได้ด้วย ส่วนการสัมผัสอะไรติดนิ้วได้ดีและไม่เจออาการหน่วงอะไรเท่าไรครับรุ่นนี้ และรองรับเป็นหน้าจอในการสั่งงาน เวลาถอยจอดอัตโนมัติรวมถึงแสดงกล้องรอบคัน และ Lane watchด้วยเช่นกันครับ

ENGINE 

ทางด้านเครื่องยนต์แน่นอนว่าในรุ่นนี้นั้นจะเป็นระบบ Hybrid ครับ โดยจะชื่อว่า “SPORT HYBRID i-MMD” [intelligent Multi-Mode Drive] และเครื่องยนต์นั้นจะเป็นตัว  “LFB1” แบบ 4 สูบ Atkinson Cycle ขนาด 2.0 ลิตร 1,993 ซีซี. กระบอกสูบ x ระยะช่วงชัก : 81.0 x 96.7 มิลลิเมตร อัตราส่วนกำลังอัด 13.5 : 1 กำลังสูงสุด 145 แรงม้า ที่ 6,200 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 175 นิวตันเมตร ที่ 3,500 รอบ/นาทีและในส่วนมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว AC Synchronous Permanent Magnet Electric Motor มีพละกำลัง 184 แรงม้า ที่ 5,000 – 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 315 นิวตันเมตร ที่ 0 – 2,000 รอบ/นาที พละกำลังรวม 215 แรงม้า ที่ 6,200 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ E-CVT แน่นอนว่าสเปคก็ถือว่าดูดีพัฒนาขึ้นนิดหน่อยจากรุ่นเดิมครับ และแน่นอนว่าการประหยัดก็ดีขึ้นด้วย ในส่วนของระบบค่ายนี้จะเน้นไปที่มอเตอร์เป็นหลักเครื่องยนต์เป็นรอง จะแตกต่างกับอีกค่ายที่จะทำงานแบบ เครื่องยนต์หลัก มอเตอร์เป็นรองไว้ใช้ตอนเร่งจะทำงานเต็มที่ร่วมกัน แนวคิดการพัฒนาแตกต่างกันแบบชัดเจนครับ และแน่นอนว่าด้วยความที่มันเป็น E-CVT ทำให้มันไม่มีเกียร์จริงๆ เลยเป็นการหน่วง มากกว่าในการกด Paddle Shift นะครับ แน่นอนว่าจะช่วยเวลาหน่วงขึ้นลงเขาได้ด้วยแต่จะไม่มีผลต่อการเร่งแซง แบบที่เข้าใจกันแบบนั้น ส่วนการขับขี่จริงๆ Accord จะพุ่งตีนต้นได้ดีมากถ้าไฟเต็มและพุ่งล้อฟรีทันใจแบบรถไฟฟ้า แต่ถ้าระยะทางไกลๆหรือไหลปลายนั้นอาจจะไม่สู้เท่าอีกค่ายครับ ยกเว้นกดแซงแบบไฟเต็มจะพุ่งหลังติดเบาะมากๆเลยตัวนี้

ในเรื่องของการขับขี่นั้นต้องบอกกันตรงๆว่ารุ่นนี้ขับสนุก ในเมืองสบายอัตราเร่งตีนต้นมาเต็มเร่งแซงสะใจและในเรื่องของเวลาขับในเมือง มุดไปมาได้สนุกจริงๆและถ้ามอเตอร์เต็มๆเวลาออกตัวกดเต็มที่ล้อฟรีได้และพุ่งเต็มๆแบบพวกรถไฟฟ้าล้วนเลยครับ แต่ต้องเข้าใจว่าจังหวะนั้นมันจะมาได้แค่รอบสองรอบถ้าแบตหมดเมื่อไรก็จะกลายเป็นธรรมดาๆไปครับไม่ได้พุ่งเวอร์แต่ก็ไม่ได้อืดอะไรครับ ก็ถือว่าเป็นระบบที่แตกต่างกับอีกค่ายมีดีเด่นแตกต่างกันไปส่วนตัวก็ชอบแบบนี้มากกว่าถ้าขับในเมือง แต่ถ้าทางไกลก็เรื่อยๆได้ครับเร่งแซงบางจังหวะสนุกอยู่บ้างแต่ถ้าอัดยาวๆก็ตามกำลังเครื่องแบตของมันไม่ได้หวือหวา แต่ถ้าแบตมากกว่า ครึ่งนึงนั้นบอกเลยว่า อัตราเร่ง แรงแซงดีกว่าตัวอื่นชัดเจนครับ

และในรุ่นนี้ในเรื่องของช่วงล่างนั้นทำได้ดีขึ้นครับ การขับขี่สนุกมั่นใจกว่ารุ่นเดิมและน่าจะเป็นรุ่นที่ขับขี่ดีสุดเท่าที่เคยลองเจ้า Accord มาในหลายๆรุ่นที่เคยลองตั้งแต่ตัว G6 ครับมันลงตัวทั้งเรื่องของเครื่องยนต์ ช่วงล่างอาจจะเป็นการใส่แบตไว้ต่ำตรงใต้เบาะทำให้จุดศูนย์ถ่วงมันต่ำมาก และทำให้บาลานซ์ของรถมันดีขึ้นชัดเจนไม่หน่วงท้ายแล้ว และทำให้ขับขี่เข้าโค้งได้สบายขึ้น แน่นหนึบกว่าชัดเจนครับ ส่วนพวงมาลัยเซ็ตมาติดเบาไปนิดหน่อยในช่วงทางไกลยาวๆ ไม่นิ่งมากนักแต่ก็ไม่ได้เบาหวิวจนน่ากลัว เหมือนจะเน้นขับในเมืองและแซงอะไรพวกนี้จะค่อนข้างคมและนิ่ง แต่ถ้าทางตรงอะไรพวกนี้ก็มีแตกต่างกันอยู่บ้าง ส่วนทางด้านเบรคอะไรเซ็ตมาดีมากๆจนน่าตกใจอันนี้ถือว่าทำได้ดีครับ และเรื่องเก็บเสียงที่เป็นจุดบ่นของหลายๆตัวจากค่ายนี้ แต่ครั้งนี้บอกเลยว่าทำได้ดีเหนือคู่แข่งไปแล้วครับเท่าที่ลองขับ เสียงจากลม ถนน นั้นเงียบพอสมควรเลยทีเดียว จุดนี้เลยถือว่าทำได้ดีในการใส่ใจแก้ใขจุดเดิมๆที่หลายๆคนบ่น

COMSUMPTION

ทางด้านของการขับขี่การใช้น้ำมันนั้น ทั้งการคำนวณเอง และ เช็คจากหน้าจอจะแตกต่างกันอยู่นิดหน่อยครับโดยทางเราได้ทดสอบทั้งการขับขี่ทางไกลและในเมืองรถติด โดยเหยียบเน้นๆมาตลอดไม่ได้ขับให้ประหยัดแต่อย่างใด แซงได้แซงไปเลยอัดเน้นๆครับและทำได้ค่อนข้างประทับใจครับทั้งความแรงและประหยัดที่เป็นจุดเด่นของระบบนี้ ทางไกลเราสามารถทำได้ประมาณ 18 กิโลต่อลิตรได้ โดยเปิดโหมดปกติครับขับทางไกลรถไม่ติด ใช้ Cruis และเร่งแซงเป็นจังหวะ ไม่ได้เปิด ECO ส่วนในเมืองหรือทั่วไปนั้นจะได้ประมาณ 16 กิโลลิตรครับ ถือว่าค่อนข้างประหยัดเมื่อเทียบกับการขับขี่ที่ได้ลองและความแรงของตัวมอเตอร์ที่มาช่วยในการขับขี้ด้วยเช่นกันครับ แต่ถ้าใครที่ขับในเมืองรถติดช้าๆ และเคลื่อนไปเรื่อยๆเราจะได้ใช้งาน EV Mode เยอะและจะยิ่งประหยัดกว่าที่เราทดสอบไปอีกแบบชัดเจน

HONDA ACCORD HYBIRD TECH

เป็นครั้งแรกที่ลอง Accord แล้วรู้สึกว่าทำได้ลงตัวจริงๆเพราะในก่อนหน้านั้นรุ่นนี้มันจะอาจจะมีอะไรหลายๆอย่างขาดไปเช่นเจนไหนที่ขับๆได้สนุกแต่ก็อาจจะซดน้ำมัน หรือนั่งไม่สบาย บางเจนที่นั่งสบายๆก็อาจจะไม่ได้ขับสนุกช่วงล่างแน่นๆอะไรมากแต่ครั้งนี้เหมือนเอาข้อดีของเจนก่อนๆมาปรับปรุงให้ลงตัวและเข้ากันมากขึ้นในครั้งนี้เราเลยได้ Accord ที่ลงตัวขับสนุกและยังประหยัดอีกทั้งพื้นที่ภายในห้องโดยสารพวกนี้โปร่งและกว้างขวางมากๆนั่งสบาย แน่นอนว่าหลายๆคนอาจจะโดนรูปทรงเส้นสายหลอกตาแน่นอนครับ เพราะรุ่นนี้ออกแบบมาหลังคาต่ำมากๆ แต่พื้นที่ข้างในยังนั่งสบายและกว้างอีกทั้งสัดส่วนความสูงก็ไม่ต่างจากเดิมเลยแต่รูปทรงทำออกมาดูเตี้ยแบนมาก ส่วนการขับขี่ช่วงล่างมั่นใจได้มากขึ้นในการเข้าโค้ง ขับขี่ความเร็วสูงอันนี้ทำได้ดี เครื่องยนต์อัตราเร่งตีนต้นดีมากๆพุ่งเอาเรื่อง และ ฟีเจอร์ความปลอดภัย ทุกอย่างจัดเต็มสุดครับในรุ่นท็อปของค่ายและแน่นอนว่ามันเป็นรถที่เอาไปแต่งต่อได้หล่อที่สุดในบรรดาคู่แข่งเลยก็ว่าได้ แต่มันจะมีจุดที่หลายๆคนขัดใจพวก อุปกรณ์บางอย่างที่ไม่มีให้เช่นม่านบังแดดหลัง หรือจะเป็นการเตือนมุมอับในข้างขวาที่ไม่ใช่กล้องอะไรพวกนี้ครับก็น่าเสียดายเหมือนกัน อีกทั้งดีไซน์ที่มันเป็นแนวทางการออกแบบ แบบเดียวกับรุ่นน้อง Civic จนแอบใกล้เคียงกันมากเกินไปจนทำให้หลายๆคนทักผิดได้จริงๆ

สำหรับรีวิวนี้เป็นการทำบทความเกี่ยวกับรถยนต์ หรือ สายยานยนต์ของเรา และถ้าหาก มีข้อผิดพลาดประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ มีข้อเสนอแนะ หรือข้อนำแนะอะไร ยังไงสามารถแจ้งเราได้เสมอเพื่อการปรับปรุงที่ดีขึ้นครับ เพื่อนๆสนใจอยากให้พวกผมรีวิวรถรุ่นไหนสามารถ Inbox มาบอกเราได้เลยนะ จะพยายามจัดหามาให้อ่านกันเยอะๆ ขึ้นเรื่อยๆ ครับ … สำหรับ Techhangout Auto !

ฝากไลค์เพจ FACEBOOK เราด้วยนะครับ >>>>>>>>>  TECHHANGOUT

เข้าร่วมกลุ่ม TECHHANGOUT พูดคุยแลกเปลี่ยน ข้อมูล คุยกันเองชิลๆได้เลยที่ — Facebook  Techhangout พูดคุย Smartphone gadget 

Comments กันได้เลย !

Comments

0 Shares