BMW X1 ถือว่าเป็นรถยนต์ที่ได้รับความนิยมมากๆรุ่นนึงของค่าย BMW อาจจะด้วยขนาด และ รูปทรงที่เน้นใช้งานแบบอิสระไม่ว่าจะเป็นการเดินทาง เที่ยว ขนของต่างๆและได้รูปทรง CROSSOVER ที่มีการยกสูงทำให้ในเมืองไทยเองได้รับความนิยมมากในการลุยน้ำซึ่งจะได้เปรียบมากกว่ารถเก๋งนั้นเอง อีกทั้งด้วยราคาเริ่มต้น 2 ล้านทำให้เข้าถึงได้ง่ายและมีโปรส่วนลดต่างๆในช่วงปลายอายุแบบนี้ เพราะว่าถ้าหากมองตัวถังนี้อยู่ในรหัส F ค่อนข้างเก่ากว่ารุ่นอื่นๆในค่ายชัดเจน แต่ก็ยังมีความสวย และ น่าสนใจอยู่อีกทั้งเรื่องโปร BSI 10 ปีก็ทำให้หลายๆคนหันมามองด้วยเช่นกัน แต่รุ่นนี้จะมีอะไรน่าสนใจกันอื่นๆอีกบ้างนั้น และ ในปีปลายโมเดลแบบนี้การขับขี่ ใช้งานยังคงน่าสนใจไหม

BMW X1 sDrive20d M Sport ถือว่าเป็นรุ่นสูงสุดใน X1 มาพร้อมกับการตกแต่งแบบ M Sport และในรหัส 20d จะใช้งาน เครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ TwinPower Turbo ขนาด 2.0 ลิตร  190 แรงม้าแรงบิดสูงสุด 400 นิวตันเมตร จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ Steptronic Sport ขับเคลื่อนล้อหน้า FWD และ ช่วงล่างอิสระ ทำให้เรื่องของช่วงล่าง การขับขี่ถือว่าไม่ธรรมดาเลยแหละ และ ยังคงเป็นรหัสตัวถึง F48 เช่นเดิม ส่วนทางด้านออฟชั่นต่างๆอาจจะไม่ได้เยอะหวือหวามากนัก แต่ก็มีการปรับเปลี่ยนอะไรหลายๆอย่างใน Facelift ตัวนี้ ได้กันชนหน้าหลังใหม่ ไฟหน้า ไฟท้ายแบบใหม่ทั้งหมด เปลี่ยนเป็น 20d และล้อใหญ่กว่าเดิม รวมถึง หน้าจอกลางใหญ่ขึ้นรองรับ Apple Carplay แบบไร้สายด้วยเช่นกัน แต่น่าเสียดายบรรดาออฟชั่นความปลอดภัย ระบบช่วยเหลือนั้นน้อยมากๆ ทำให้ไม่มีทั้ง Cruise Control หรือ แม้แต่ Blind Spot มาให้เลยในรุ่นนี้ จะมีแค่ระบบพื้นฐาน เซนเซอร์รอบคัน และ    กล้องถอยหลังเท่านั้น ส่วนภายในการออกแบบก็อาจจะดูย้อนยุคไปพอสมควรเมื่อเทียบกับคู่แข่ง แต่การใช้งาน พื้นที่ใช้สอยต่างๆนั้นไม่มีปัญหา ยังคงโปร่งโล่งใช้งานได้ดี และดีไซน์ภายนอกเองก็ถือว่าสวยและทันสมัยมากพอสมควร

  • BMW X1 sDrive20d M Sport ราคา 2,559,000 บาท พร้อม BSI 10 ปี 100,000 กม.

EXTERIOR

งานออกแบบภายนอกจริงๆเป็นส่วนที่น่าสนใจและสวยมากจุดนึงในบรรดาคู่แข่งที่ต้องชม เพราะว่าแม้จะเป็นรุ่นที่ใช้งานตัวถังที่ออกมานานมากแล้ว หรือ ปลายอายุตลาดแล้วก็ตามแต่ดีไซน์รุ่นนี้เองยังถือว่าทันสมัยทั้งในด้านหน้า และด้านหลัง อีกทั้งชุดแต่งต่างๆสวย แม้ว่าจะเป็นรูปทรงเดิมก็ตาม ขนาดการใช้งานในเมือง พื้นที่ใช้สอยต่างๆยังคงโดดเด่นอยู่เช่นกันและการเปลี่ยนโมเดล Facelift ใหม่ก็ทำให้หลายๆอย่างลงตัวสวยมากกว่าเดิม ไฟหน้าไฟท้ายใหม่ทั้งหมดเปลี่ยนรายละเอียดให้เข้ากับยุคสมัยใหม่มากกว่าเดิม และ เป็น Crossover ที่สวยและลงตัวคันนึงในตลาด

ขนาดตัวรถเองนั้น ยาว 4.4 เมตร และ ฐานล้อ 2.67 เมตร ถือว่าขนาดกำลังดีในการขับขี่ในเมืองเราจะเห็นรูปทรง SAV SUV ยุคใหม่ๆจะพยายามทำให้หลังคาเตี้ยพื้นที่หน้าต่างน้อยลงกันเรื่อยๆ แต่ข้อดีของ X1 คือมันเป็นรถที่โปร่งโล่ง และ นั่งสบายๆมากๆเราจะเห็นความโปร่งของกระจกได้เลยทันทีไม่อึดอัด รวมถึงเส้นสายตัวรถแม้จะนานแล้วแต่ก็ปรับเปลี่ยนได้ลงตัวทั้งหมดกระจังหน้าขนาดใหญ่กำลังดีไม่เวอร์เกินไป เข้ากับไฟหน้าที่ปรับปรุงใหม่ดูทันสมัยมากกว่าเดิมรวมถึงในด้านท้ายใน M Sport ก็จะได้ความดุดันมากกว่าเดิมเช่นกัน และชุดตกแต่งสีดำทั้งหมดเช่นตามขอบกระจก หรือ ราวหลังคา ซึ่งถ้ารุ่น X Line ก็จะเป็นสีเงินโครเมียม ถ้าอยากได้ความ Sport ตัวนี้ทำได้ดี

ด้านท้ายเราจะได้ท่อไอเสียคู่ซึ่งเป็นท่อจริงๆไม่กี่คันในตลาดที่ใส่แบบนี้เข้ามา เพราะว่ายุคใหม่ๆเรามักจะเห็นแต่ท่อหลอกบ้าง ปลายหลอกบ้าง แต่คันนี้ท่อจริง ทรงกลมคลาสสิก ออกท่อคู่กันเลยทีเดียว ส่วนกันชนล่างก็จะเป็นแบบ M Sport ตกแต่งดุดันขึ้นพร้อมกับเล่นสีเทาเข้มเข้ามา และ รุ่นนี้เราจะได้ล้อ 19 นิ้วเลยทีเดียวลวดลายใหม่ขนาดใหญ่ออกแบบ Double-Spoke แบบสลับสี พร้อมกับ เซนเซอร์รอบคัน ส่วนในด้านหน้าไฟหน้าใหม่เท่ขึ้นทันที รับกับกระจังหน้าสีดำ ตัดโครเมียมได้สวย และ กันชนล่างแบบ M Sport ลงตัวเล่นกับสีดำได้ดีครับ และ ไฟตัดหมอกคู่หน้า LED ใช้งานได้ดี รวมถึง ถ้าตัวรถสีอื่นเราจะเห็นชุดกันชนเล่นสีดำสวยเลยแหละแต่คันนี้สีดำอาจจะกลืนไปหน่อย

ไฟท้ายรูปทรงเดิมแต่มีการเปลี่ยนภายในโคมทั้งหมดทำให้ทันสมัยมากกว่าเดิมเราจะเห็นรูปทรงตัว L เข้ามาที่มักจะเห็นในรุ่นใหม่ๆของค่ายนี้และใช้งาน FULL LED ทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นไฟเลี้ยว ไฟถอย หรือ ไฟเบรก ซึ่งมาพร้อมกับตัดหมอกหลัง LED ทั้ง 2 ข้างเช่นกันแค่เปลี่ยนไฟท้ายก็ถือว่าทำให้ตัวรถดูดีขึ้นได้ เช่นกันกับไฟหน้าที่เปลี่ยนภายในโคมทั้งหมด FULL LED ที่เปิด/ปิดอัตโนมัติ แม้โคมด้านในจะเป็นโคมหลอกแต่ก็มี DRL ให้เต็มทั้ง 2 ฝั่ง และ แบบเต็มรูปทรงไม่ใช่แบบแค่ส่วนล่าง รวมถึงตัดหมอก LED ก็ยังคงมีมาให้ ส่วนกระจกมองข้างให้มา LED ไฟเลี้ยว พร้อมกับไฟส่องพื้น LOGO X1 ในข้างขวาเท่านั้น และ ตามมือจับก็ใสไฟตรงมือจับมาให้ทั้ง 4 บานเช่นกัน แต่กล้องรอบคันนั้นไม่มีมาให้ รวมถึงบรรดาระบบช่วยเหลือ Blind Spot ก็ยังไม่มีใส่มาให้ในรุ่นนี้เช่นกัน ถือว่าน่าเสียดาย

INTERIOR

งานออกแบบภายในถือว่าเป็นจุดที่อาจจะย้อนยุคพอสมควรเพราะว่าถ้ามองกันรุ่นนี้จะเป็นตัวถัง F48 ที่มีอายุนานกว่าตัวอื่นๆในบรรดาคู่แข่งหรือแม้แต่มองเทียบในค่ายก็ตาม ทำให้เราจะได้เส้นสายที่อาจจะไม่ได้หวือหวา พวงมาลัยทรงเก่าต่างๆเข้ามา แต่ก็ยังดีที่ได้หน้าจอ 10.25 นิ้วเปลี่ยนใหม่เข้ามารองรับการใช้งานได้ดีขึ้น พร้อมกับบรรดา Ambient Light ในตัวรถรอบๆคันหน้าหลัง ส่วนการใช้งาน แอร์แยกซ้ายขวา และ Apple Carplay ยังคงรอบรับแบบไร้สายอันนี้ถือว่าดี ส่วนทางด้านการวางตำแหน่งใช้งานไม่มีปัญหาเลยในคันนี้ ปุ่มต่างๆใช้งานได้ดี แต่ถ้ามองเรื่องงานออกแบบอาจจะไม่เด่นเท่าไรนัก ถ้าหากมองเทียบกับรุ่นใหม่ๆเราจะเห็นความแตกต่างในทุกๆส่วนเลยทีเดียว

หน้าจอกลาง 10.25 นิ้วรองรับการใช้งาน Apple Carplay แบบไร้สาย รองรับการสัมผัสและสั่งงาน ตั้งค่าตัวรถเป็นมาตรฐาน พร้อมกับ ส่วนล่างจะเป็นช่องแอร์ การควบคุมเครื่องเสียง ใส่ CD ต่างๆ และ แอร์ AUTO แยกโซน ซ้าย และ ขวา ซึ่งมองกันตรงๆยุคนี้เราไม่ค่อยจะเห็นช่อง CD กันแล้วแต่รุ่นนี้ยังคงใส่มาให้ ส่วน Apple Carplay น่าเสียดายว่าไม่เต็มหน้าจอ แต่ในด้านขวาก็มีการรองรับเปลี่ยนหน้าตาได้ ทั้ง นาฬิกา เข็มทิศ สถานะรถ เพลงต่างๆได้ ส่วนการสัมผัสเองนั้นถือว้ายังคงเป็นข้อดี BMW ยังทำได้ดีตอบสนองได้ไว ไม่หน่วง ติดนิ้วใช้งานได้ง่ายมากๆ

การควบคุมในตัวรถเองหน้าตา iDrive เองอาจจะเป็นรุ่นเก่า พร้อมกับ หัวเกียร์แบบก้านยาวยังไม่ได้ใช้งานไฟฟ้าแบบรุ่นอื่น พร้อมกับที่วางแก้ว และ ปุ่มปรับโหมดการขับขี่ในคอนโซลล่าง เบรกมือไฟฟ้ามาให้ แต่ไม่มี Auto Hold ส่วนทางด้านหน้าปัดเรือนไมล์เองเป็นแบบเข็ม ผสมกับหน้าจอเล็กๆมุมขวาล่างมีลูกเล่นสีส้มกับเข็มเวลากลางคืน แต่ถ้ากลางวันจะเป็นเข็มสีขาวเข้ามา และ สถานะชาร์จไฟเข้าแบตต่างๆในมุมขวาล่างเปลี่ยนตามโหมดการขับขี่ได้เล็กน้อย ทางด้านพวงมาลัยไม่มีการปาดขอบอะไรเข้ามา แต่เราจะได้ทรง M พร้อมกับปุ่มควบคุมเครื่องเสียง และ LIMIT ความเร็ว ไม่มี CRUISE CONTROL อะไรมาให้ แต่ยังใจดีให้ PADDLE SHIFT เข้ามาใช้งานในรุ่นนี้

และ เป็นรุ่นที่ให้แอร์หลังมาพร้อมกับที่ชาร์จแบบ USB-C ทั้ง 2 ตัว รวมถึงไฟส่องเท้า และพื้นที่ด้านหลังต้องบอกเลยว่าโปร่งโล่งนั่งสบาย และ เบาะปรับเอนได้เช่นกันครับถือว่าพื้นที่ใช้สอยการนั่งใช้งานรุ่นนี้ยังไงทำได้ดีไม่ผิดหวังเลย

TECHNOLOGY 

เทคโนโลยีคันนี้อาจจะไม่ได้มีอะไรให้พูดถึงเยอะมาก แต่ก็เป็นจุดที่คู่แข่งไม่มีเช่น HUD นั้นเองตัวนี้ใส่เข้ามาให้บนกระจกหน้าคนขับ สามารถแสดงผลต่างๆในการใช้งาน ความเร็ว หรือ นำทางตัวรถ และ เปลี่ยนเพลงต่างๆได้ทั้งหมดถือว่าใช้งานได้ดีและสะดวก ส่วนในระบบช่วยเหลือการขับขี่ไม่มีอะไรมาให้ใช้งานกันเท่าไร แต่ก็มีระบบช่วยจอดรถมาให้ ซึ่งเป็นระบบช่วยเลี้ยวมากกว่าเพราะว่าเรายังคงต้อง เบรกเอง และเปลี่ยนเกียร์เองด้วยตัวเองทั้งหมด และ จอดได้ในทางขนานริมถนนเท่านั้นไม่สามารถจอดใช้งานในซองได้อาจจะด้วยอายุที่มากแล้วทำให้ระบบอาจจะไม่โหดแบบรุ่นอื่นๆของค่ายนั้นเองครับ ส่วนเซนเซอร์รอบคันอะไรให้มาครบ และ มีกล้องมองหลังเข้ามาช่วยถอย

DRIVING

การขับขี่ในรุ่นนี้จะมาพร้อมกับเครื่องยนต์ดีเซล 2.0 TwinTurbo แน่นอนว่าสบายๆในเรื่องของอัตราเร่ง ออกตัวล้อฟรีได้สบายๆ แม้จะขับหน้า ก็สามารถเร่งแซง ขับทางไกล หรือ ในเมืองได้แบบไร้ปัญหา และที่สำคัญประหยัดน้ำมันมากถึง 16-17 กิโลเมตร ต่อ ลิตรได้เลย และ ขับทางไกลเจอเลข 18 ได้ในการขับขี่ทั่วไปทำให้ทั้งแรงและประหยัดกับรถยนต์แบบนี้ ส่วนเรื่องของการควบคุมพวงมาลัย ปรับน้ำหนักตามโหมดการขับขี่ได้ในเมืองขับสบาย และ ทางไกลมีน้ำหนักขึ้นมาเล็กน้อยแต่ก็ยังแอบเบาไปนิดถ้าใช้ความเร็วสูง ทำงานกับช่วงล่างได้กำลังดี ต้องบอกเลยว่าคันนี้ช่วงล่าง มาแนววัยรุ่น แข็ง กระด้าง กระเด้งพอควรถ้าขับในเมืองเจอถนนไม่เรียบคนนั่งหลังอาจจะไม่สบายเท่าไรนัก แต่ถ้าทางไกลมั่นใจได้ในความเร็วสูงๆ แน่นและเกาะถนน อาจจะไม่ได้หนึบมากนักแต่เอาอยู่ได้ มันจะไม่นุ่มหนึบแบบรุ่นพี่ แต่จะมาแนวแข็งแน่นมากกว่าในรุ่นนี้ ทำให้ใครที่ชอบความนุ่มนวล คันนี้ไม่ตอบโจทย์แน่นอนครับ เป็นรถที่เหมาะกับวัยรุ่น เน้นขับซิ่ง สนุกมากกว่าเน้นคนนั่งหลัง ส่วนจุดสังเกตหลักๆคือเรื่องเบรกที่ ระยะลึกแต่ก็ไม่ได้ไล่เนียนได้เท่าไร บางทีก็ลึกแต่ก็เหมือนจะไม่อยู่ แต่ถ้าลึกเกินไปก็จะหัวทิ่มได้เลยตัวเบรกอาจจะต้องปรับตัวเยอะมากๆในคันนี้

BMW X1 SDRIVE20D M SPORT

” น้องเล็ก BSI 10 ปี ดีไซน์ภายนอกโดดเด่น ถ้ารับกับการออกแบบภายในได้ จัดได้เลย ! “

BMW X1 น้องเล็กตัวล่างแต่ดีไซน์ภายนอกถือว่าสวยและลงตัวมากเช่นกันทุกๆอย่างทำได้ดี เป็นรถที่อัตราเร่งโหดใช้ได้ ประหยัดน้ำมันมาก แถมใช้งาน ดีเซลทำให้มันเป็นรถเริ่มต้นของใครหลายๆคนได้ดี ขับสนุก อัตราเร่งดี ขนของได้ ลุยน้ำท่วมได้ แถมการที่จะได้โปรส่วนลดหรือประกัน BSI ทำให้มันน่าเล่นอีกคัน แต่ก็ขึ้นอยู่กับคนใช้งานกันว่ารับได้ไหมกับภายในที่ย้อนยุคไปไกล และ ออฟชั่นน้อยมากถ้ามองเทียบกับคู่แข่งหลายๆคัน  ซึ่งถ้ารับกับส่วนนี้ได้คันนี้สามารถเป็นรถที่ดีแน่นอน ซึ่งการขับขี่ยังคงเอกลักษณ์ วัยรุ่น ขับสนุกได้ดีอยู่ ช่วงล่างเน้นความแข็งกระชับเป็นหลัก สายซิ่งอาจจะถูกใจแน่นอนพร้อมกับการควบคุมที่คมและแม่นยำถือว่าเป็นรถที่ขับดี และ พื้นที่ภายในโปร่งโล่งสบาย ใส่ของได้เยอะ และ หน้าตาใหม่ทำให้หลายๆอย่างลงตัวขึ้นซึ่งข้อดีของรุ่นที่ออกมานานแล้วก็จะเจอปัญหาอะไรน้อยกว่าเพราะได้แก้ไขกันไปแล้วจนหลายๆส่วนนั้นลงตัวและปรับปรุงให้ใช้งานได้ดีขึ้นก็เป็นอีกมุมมองนึงได้เลยนะ

สำหรับรีวิวนี้เป็นการทำบทความเกี่ยวกับรถยนต์ หรือ สายยานยนต์ของเรา และถ้าหาก มีข้อผิดพลาดประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ มีข้อเสนอแนะ หรือข้อนำแนะอะไร ยังไงสามารถแจ้งเราได้เสมอเพื่อการปรับปรุงที่ดีขึ้นครับ เพื่อนๆสนใจอยากให้พวกผมรีวิวรถรุ่นไหนสามารถ Inbox มาบอกเราได้เลยนะ จะพยายามจัดหามาให้อ่านกันเยอะๆ ขึ้นเรื่อยๆ ครับ … สำหรับ Techhangout Auto !

ฝากไลค์เพจ FACEBOOK เราด้วยนะครับ >>>>>>>>>  TECHHANGOUT

เข้าร่วมกลุ่ม TECHHANGOUT พูดคุยแลกเปลี่ยน ข้อมูล คุยกันเองชิลๆได้เลยที่ — Facebook  Techhangout พูดคุย Smartphone gadget 

Comments กันได้เลย !

Comments

0 Shares