Audi นั้นถือว่าเป็นแบรนด์ที่ในไทยบอกว่าลุยตลาดหนักหน่วงอย่างมากครับ เราจะเห็นในเรื่องของโปรโมชั่นต่างๆที่ลดราคามาเน้นๆมากขึ้นทั้งเรื่องโปร รถยนต์มือ 1 หรือว่าจะเป็นการนำรถมาจัดโปรลดราคาก็ถือว่าน่าสนใจมากๆ และเราจะเห็นค่ายนี้บนท้องถนนมากขึ้นเรื่อยๆเลย มากกว่าในยุคหลังๆเยอะขึ้นมาก ซื่งแน่นอนว่าเป็นการทำตลาดที่รุกหนักมากขึ้น และ ให้คนได้สัมผัสมากขึ้นกว่าแต่ก่อนเยอะ มีรุ่นให้เลือกเยอะหลากหลายเรทราคาชัดเจนตั้งแต่ A1 ไปจนถึง Q8 ทำให้ผู้ใช้งานได้สัมผัสรถยนต์ค่ายนี้ได้ง่ายขึ้น เป็นรถยนต์นำเข้าทั้งคันจากเยอรมัน ทำให้ราคาอาจจะดูสูงกว่าคู่แข่ง แต่แลกกับการนำเข้าทั้งคันจากเยอรมันก็เป็นอีกหลายๆเหตุผลที่หลายๆคนนั้นเลือกมาใช้งานกันด้วย สำหรับ Audi TT นั้นในไทยก็เปิดตัวรุ่นที่ 3 แล้วและเป็นรุ่น Minor change ด้วยปรับออฟชั่นหน้าตา โฉบเฉี่ยวขึ้นมาก และเสริมทัพมาเต็มๆทั้ง Audi TT – Audi TTs – Audi TT Roadster – Audi TT RS ครบทุกรุ่นย่อยจัดเต็มครับ และ ทางด้านราคาก็ทำได้ดีด้วยเช่นกัน ครั้งนี้เรามาอยู่กับตัวเปิดประทุน Audi TT Roadster กันครับในรีวิวนี้

AUDI TT ROADSTER นั้นเป็นรถเปิดประทุนที่ต้องบอกว่าเป็นไม่กี่ค่ายในตลาดไทยที่มาพร้อมกับขับเคลื่อน 4 ล้อครับ และ ราคาต้องบอกว่าทำได้ดีเกินหน้าเกินตามากๆ ในรุ่นที่เอามาขายในไทยนั้นพร้อมกับชุด S-Line และเป็นการนำเข้าทั้งคันทำให้ต้องยอมหั่นออฟชั่นบางส่วนออกไปครับทำให้สู้ราคาได้ โดยจะเน้นไปที่เครื่องยนต์ ระบบขับ 4 มากกว่าพวกออฟชั่นนั้นเองครับ และ ดีไซน์อะไรนั้นยังคงเป็นเอกลักษณ์ของ AUDI ทำได้ดีเลยทีเดียวในรุ่นนี้ ทางด้านเครื่องยนต์ยังใช้เครื่องเบนซิน 4 สูบ ขนาด 2.0 ลิตร 1,984 ซีซี. Direct Injection Turbo กำลังสูงสุด 230 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 370 นิวตันเมตร จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ S-Tronic ขับเคลื่อน 4 ล้อ quattro ก็ถือว่าเป็นค่ายที่ยังโดดเด่นในเรื่องของการขับเคลื่อน และ เป็นค่ายเดียวในตลาดที่ใส่เข้ามาในเรทราคานี้ด้วยครับ ทางด้านออฟชั่นนั้นก็ถือว่าจัดเต็มระดับนึง มาครบทั้งหน้าปัดแบบ Virtual Cockpit ที่เป็นหน้าจอเต็มๆขนาด 12.3 นิ้ว และ ภายในก็ยกมาจากรุ่น Coupe ทั้งหมดเลยทั้งฟีเจอร์การออกบบต่างๆ ห้องโดยสารโทนสีดำตัดสีเงิน หุ้มด้วยหนัง สลับ Alcantara แต่น่าเสียดายว่ามันไม่รองรับ Android Auto – Apple Carplay มาให้จากโรงงานแต่หลายๆคนก็เอาไปเปิดเองได้ไม่ยากครับในฟีเจอร์นี้ ส่วนทางด้านภายนอกให้ล้อลายขัดใจวัยรุ่นนิดหน่อยมาให้ 17 นิ้วแต่เป็นลายธรรมดา 5 ก้านพร้อมกับ ขนาด 17 นิ้ว พร้อมยาง 225/50 R17 และ ดีไซน์ภายนอกทั้งหมดตกแต่งด้วยชุดแต่ง S-Line และ ไฟหน้าไฟท้าย LED ทั้งหมดครับสวยงาม มาพร้อม DRL รูปทรงสวยงามเลยทีเดียว ภายในเรื่องไฟก็มีไฟ Ambient Light มาให้ด้วยเช่นกันแต่ไม่สามารถเปลี่ยนสีอะไรได้เป็นสีขาวเท่านั้นครับจุดนี้ และแน่นอนว่า ระบบความปลอดภัยมีมาให้พื้นฐานทั่วไปครับแต่ไม่มีพวกระบบ Active Safety อะไรใส่เข้ามาเท่าไร
ทางด้านราคานั้นในรุ่นนี้เปิดราคามาที่  TT Roadster 45 TFSI quattro S-Line  3,599,000 บาท

EXTERIOR

งานออกแบบภายนอกนั้นต้องบอกเลยว่า TT ยังคงเอกลักษณ์ได้ดีตั้งแต่เจนแรกๆที่ทำออกมาด้วยเส้นสายเรียบๆ ทรงขนาดไม่ใหญ่โตมากนักแต่ยังมีความโค้งมนเข้ามาเสริมรูปทรงเตี้ยแบน กระจังหน้ายังคงโดดเด่นในแง่ของตัวแบรนด์ที่รักษากันมายาวนานครับ แต่มีการปรับปรุงให้ทันสมัยขึ้นเรื่อยๆ และ มองบางมุมจะคล้ายรุ่นพี่ R8 ได้เลยทีเดียวรูปทรงในภาพรวมตัวรถต้องบอกว่าเส้นสายเรียบง่ายสวยลงตัว แต่เสียดายตัวล้อในไทยเท่านั้นที่ไม่ค่อยไปด้วยกันครับแต่ก็สามารถเปลี่ยนได้ไม่ยากในจุดนี้ ชุดแต่ง S-Line นั้นเข้ามาเสริมทำให้ตัวรถนั้นดูดีขึ้นได้มากจริงๆ เพราะถ้าตัวรถไม่ได้มีชุด S-line เข้ามาอาจจะดูเรียบเกินไปเมื่อจับคู่กับล้อลายนี้ครับถือว่าทาง Audi ตัดสินใจได้ดีมากๆเลย

จะเห็นว่าดีไซน์การออกแบบนั้นถ้าดูผ่านๆมันมีกลิ่นอายของรุ่น 2 แบบชัดเจนเลยแหละ ถ้าคนที่ไม่รู้เรื่องรถยนต์นั้นต้องบอกว่าอาจจะมองผ่านๆแยกไม่ออกเท่าไรครับ แต่ถ้าดูเจาะไปในแต่ละจุดนั้นต้องบอกว่ามีความคมชัด ดุดันขึ้นมากๆโดยเฉพาะตัวไฟหน้า และ เส้นสายกระจังหน้า เส้นสายชุดแต่ง S-Line นั้นจะมาเสริมหลายๆจุดจะเห็นส่วนที่เป็นสีเทาในด้านหน้า และ ด้านหลังรวมถึงข้างๆด้วยเช่นกัน ส่วนที่เด่นๆนั้นจะเป็นฝาถังน้ำมันดีไซน์เด่นๆสวยงาม และทรงไฟท้ายก็มีความคมชัดมากขึ้น ไฟเบรกหลังแนวยาวสวยงาม อีกทั้งรุ่นนี้ยังมี สปอยเลอร์หลังแบบ Active ที่จะยกขึ้นเมื่อความเร็วสูง หรือจะสามารถกดเปิดปิดได้ด้วยเช่นกันครับ และความสูงตัวรถนั้นถือว่าระยะกำลังขับง่ายไม่เตี้ยเกินไปและไม่ได้ดูสูงเกินไปเข้าออกกำลังดีระดับนึง เมื่อเทียบกับปกติของรถยนต์แนวนี้ แต่ เมื่อดูนั้นต้องบอกว่าชอบที่ความกระทัดรัดของตัวรถยนต์ดูไม่ใหญ่มากจนเกินไป แถมยังมีความเตี้ยป้อมนิดหน่อยตามทรงของ TT อยู่เหมือนเดิมครับ แต่บอกเลยว่าแม้รูปทรงจะดูน่ารักไปทางทรงกลมๆ แต่การขับขี่นั้นพร้อมจะเดือดได้ทุกเมื่อ และ ขับได้ดีมาก

รายละเอียดในหลายๆส่วนของตัวรถยนต์นั้นจะเห็นว่าเนื่องจากเป็นจุดแต่ง S-Line ทำให้จะมีสัญลักษณ์ในด้านข้างของตัวรถเข้ามาด้วย รวมถึงในส่วนของกระจังหน้าเราจะเห็น QUATTRO เอกลักษณ์ประจำค่ายนี้เมื่อใช้งานขับเคลื่อน 4 ล้อครับ และจะเห็นเส้นคาดสีเงินที่จะเสริมให้ตัวรถยนต์ดูดุดันมากขึ้น และยาวไปถึงช่องซ้ายขวาครับ ทางด้านฝาถังน้ำมันนั้นทำจากอะลูมิเนียมสีเงิน คล้ายฝาถังของรถแข่งโดดเด่นสวยงามด้วยเช่นกันครับก็เป็นเอกลักษณ์ที่ทาง AUDI ใส่เข้ามาในหลายๆจุดของการออกแบบทำให้ตัวรถยนต์นั้นมีความสวย เป็นแนวรถแข่งอยู่บ้าง ทางด้านล้อคันนี้ต้องเป็นจุดเดียวที่ขอบ่นเลย ว่าถึงให้ล้อมาขนาด 17 นิ้ว แต่ลายล้อมันดูไม่ค่อยเข้ากับตัวรถเท่าไรเป็นลาย 5 ก้านพร้อมกับล้อขนาด17นิ้วพร้อมยาง 225/50 R17  แต่เป็นจุดที่เราเปลี่ยนเองได้ไม่ยากครับส่วนนี้ และ เบรกนั้นจะเป็นดิสเบรกทั้งหมด รองรับการใช้งานในความเร็วสูงได้สบายมากๆ แรงเบรกดีเข่นกัน

ค่าย AUDI ถือว่าเป็นค่ายรถยนต์ที่ใส่ใจเรื่องไฟหน้าไฟท้าย และ งานออกแบบส่วนไฟได้ดีมาก ลงทุนมากในรุ่นใหม่ๆหันไปใช้ OLED กันด้วยส่วนทางด้านรุ่น TT นั้นแน่นอนว่าสวยงามไม่แพ้กันครับ ไฟหน้า LED พร้อมกับ DRL และไฟส่องข้างเวลาเลี้ยวหรือกดเปิดได้ด้วยเช่นกันซึ่งเป็น LED ทั้งหมดรวมถึงไฟเลี้ยวด้วยครับ งานออกแบบสวยงามเช่นเดิมเลยและไฟเลี้ยวจะอยู่ที่เดียวกับ DRL แต่เปลี่ยนสีได้ และด้วยกำลังไฟสมัยนี้ต้องบอกว่า เราจะไม่เห็นไฟตัดหมอกกันเท่าไรแล้ว เพราะมันส่องสว่างคลุมทั้งหมดได้สบายไม่ต้องมีตัดหมอกเพิ่มเลยแม้แต่น้อย ส่วนรุ่นนี้เป็นรุ่นที่นำเข้าทำให้ต้องมีส่วนล้างไฟหน้ามาให้เวลาหิมะตก หรือ เลอะนั้นเอง ทางด้านไฟท้ายนั้นรูปทรงสวยงามมาพร้อมกับไฟ LED ทั้งหมดเช่นกันครับไฟเบรกนั้นใส่มาเน้นๆสว่าง และ ไฟเลี้ยวจะอยู่ขอบไฟล่างแบบไฟ Dynamic หรือไฟเลี้ยววิ่งนั้นเองครับ และไฟตัดหมอกด้านหลังใส่มาให้ตรงขอบบน รวมถึงไฟถอยไว้ด้านบนเป็น LED สีขาวด้วยเช่นกันครับ ไฟเลี้ยวตรงกระจกมองข้างยังใส่เข้ามาเป็นเส้นยาวๆครับ พร้อมช่องทะลุมาข้างหลังแบบรุ่นอื่นๆ และไฟเบรกดวงที่ 3 นั้นเป็นเส้นยาวสุดไฟท้ายซ้ายขวาเลย สวยงามและสว่างมากๆชอบงานออกแบบตรงนี้พอสมควรเลย

สีดำนั้นต้องบอกว่าเป็นสีที่เข้ากับตัวรถหลังคาเปิดประทุนได้ดีอีกสี เพราะว่าหลังคามันจะสีดำเป็นผ้าใบทำให้สีอื่นๆนั้นอาจจะเห็นหลังคาตัดกันชัดเจน แต่ถ้าสีดำนั้นจะเนียนมากๆพอสมควรเลยแหละ เมื่อเรามองหน้าตรงนั้นจะเห็นว่ามันมีกลิ่นอายของ R8 มาบ้างพอสมควรครับมีความดุดันในขนาดที่เล็กกระทัดรัดมากขึ้น กระจังหน้าตัดขอบโครเมียมสวยงามเด่นและเส้นสาย S-Line สีดำด้านตัดขอบชายล่างสวยงามเลยทีเดียวพร้อมกับช่องดักลมซ้ายขวา แนวตั้งทำให้ด้านหน้านั้นไม่เรียบมากจนเกินไป ส่วนทางด้านท้ายนั้นเราจะเห็นว่ามันพยายามต่อเส้นสายมาด้านหลังคล้ายกับด้านหน้าพร้อมด้วยชุดแต่งชายล่างแบบ S-Line สีเท่าพร้อมกับท่อไอเสียคู่และครีบรีดอากาศด้านหลังก็ใส่เข้ามาและถ้าเราเปิดหลังคานั้นจะเห็นคานอลูมิเนียมชัดเจนและเด่นขึ้นมาจากตัวรถเลยทีเดียวอันนี้ออกแบบมาสวยจริงๆ และด้านท้ายนั้นจะเป็น สปอยเลอร์หลังแบบยกได้ตามความเร็วหรือกดเปิดได้ครับแต่ถ้าไม่ใช้ก็จะเรียบเนียนไปแบบภาพกลางนั้นเองครับจะช่วยแรงกดด้านหลังเวลาขับความเร็วสูงได้ดีมากรวมถึงเวลาเข้าโค้งด้วยเช่นกันครับตรงนี้

แน่นอนว่าการใช้งานหลังคาผ้าแบบนี้ช่วยเรื่องของพื้นที่เวลาเก็บได้ดีมากๆครับไม่กินพื้นที่ข้างหลังเลยแต่แน่นอนว่าเรื่องของเสียงรบกวนภายในเวลาขับรถแล้วปิดหลังคามันดังชัดเจนกว่าเยอะมากๆเสียงจากข้างน้อกเข้ามาชัดและดังพอสมควรเวลารถติดไฟแดงหรือเสียงลมครับ ส่วนตัวหลังคาผ้าใบความหนา 2 ชั้นนั้นก็ถือว่ามีคุณภาพดีมากๆใช้งานได้ไวใช้เวลาเปิดปิดแค่ 10 วิเท่านั้นไม่เกินนี้และสามารถกดเปิดปิดเวลาขับได้ในความเร็วไม่เกิน 40 km/h ครับและเสียงเวลาเปิดปิดใช้งานนั้นค่อนข้างเงียบเลยแหละและไม่กินพื้นที่ด้วยครับ แต่ต้องกดค้างไว้จนกว่ามันจะเรียบร้อยนะครับไม่สามารถกดแล้วปล่อยได้ ในภาพรวมเป็นหลังคาที่ใช้เวลาไม่นานและพับเก็บอะไรได้ง่ายมากๆ

เวลาค่ำคืนนั้นต้องบอกว่าไฟท้ายนั้นสวยมากๆเวลาเหยียบเบรคจะเห็นเป็นไฟเส้นยาวต่อเนื่องไปสุดขอบแต่แอบเสียดายว่าเส้นไฟเบรกนั้นไม่ได้ต่อเนื่องไปจนสุดไฟ หรือว่าออกแบบมาให้ยาวต่อไปถึงชุดไฟทั้ง2ข้างเท่าไรครับถ้ามันต่อเนื่องได้น่าจะลงตัวกว่านี้พอสมควรเลยแหละ ส่วนไฟท้ายทั้ง 2 ชุดนั้นออกแบบข้างในโคมค่อนข้างสวยและลงตัวส่วนไฟส่องป้ายทะเบียนนั้นจะเป็น LED ทั้งหมดครับสีขาวและส่วนขอบชายล่างกันชนนั้นไม่ได้มีไฟอะไรใส่มาให้ ทางด้านหน้านั้นจะเป็นโคมไฟหลักล้วนๆไม่มีส่วนตัดหมอกด้านล่าง แต่จะเป็นไฟหลักที่สว่างมากๆแทนพร้อมกับไฟส่องข้างตามภาพนั้นคือเปิดทั้งหมด จะเห็นว่ายิงมาข้างๆชัดเจนครับในส่วนชิดกับกระจังหน้า และไฟเลี้ยวขอบล่างโคม

ไฟเลี้ยวตรงกระจกมองข้างนั้นมีมาให้ด้วยครับเป็นเส้นยาวๆตามแนวกระจกเลยและเช่นเดิมเลยคือมีไฟบอกตำแหน่งให้เราเห็นตรงข้างในด้วย ส่วนตัวไฟท้ายนั้นจะเห็นว่ามีไฟถอยข้างบนเป็น LED สีขาว และไฟตัดหมอกหลังนั้นจะอยู่ในโคมด้วยเช่นกันครับตัวไฟท้ายนั้นจะมีงานออกแบบแบบเดียวกับ รุ่นอื่นๆแต่ถ้าเป็น TT RS นั้นจะเปลี่ยนงานออกแบบภายในทั้งหมดเลย ส่วนไฟเลี้ยวนั้นจะอยู่ขอบล่างเป็นแบบไฟเลี้ยววิ่งด้วยเช่นกัน ส่วนตัวไฟหรี่นั้นจะเป็นงานออกแบบแบบเดียวกับไฟหน้าด้วยเช่นกันครับจะเห็นเป็นเส้นตั้งตรง 2 เส้นครับ ในด้านหน้าไฟเลี้ยวไว้ขอบล่างพร้อมกับ LED ด้วยเช่นกันในโคมหลักและไฟสูงนั้นจะอยู่โคมข้างใน ไฟส่องข้างนั้นจะเห็นที่แสงส่องออกมาครับ

จะเห็นว่างานออกแบบไฟต่างๆ นั้นค่ายนี้ยังคงไว้ใจได้เลยทั้งในเรื่องของความสว่างและความสวยงามเวลามองเพราะเป็นค่ายที่พัฒนาเรื่องไฟมานานมากๆ และนำเทคโนโลยีมาใส่เยอะขึ้นกว่าค่ายอื่นชัดเจนครับ แม้ตัวนี้จะออกมานานแล้วแต่ก็ยังคงสวยงามอยู่เหมือนเดิมแม้จะเสียดายที่ยังไม่มีพวก Matrix LED อะไรใส่เข้ามาครับในไฟหน้า ส่วนไฟท้ายนั้นโดดเด่นสวยงาม ไฟเบรกยาวสะใจมากๆครับ มีไฟเลี้ยวแบบ Dynamic มาให้ด้วยเมื่อมองในภาพรวมกลางคืนต้องบอกว่าสวยงามพอสมควรเลย ทั้งด้านหน้าและด้านท้ายของ TT Roadster คันนี้

INTERIOR

งานออกแบบภายในรุ่นนี้ถือว่าดึงเอกลักษณ์รุ่นก่อนๆมา และรวมเข้าไปกับความสปอร์ตทั้งในทรงช่องแอร์รวมถึงการออกแบบที่เน้นไปทางด้านคนขับ จะเห็นว่าช่องแอร์ตรงกลาง 3 ตัวนั้นยังคงยกมาจากรุ่นก่อนแต่มีการแทรกความทันสมัยเข้าไปทั้งการใส่หน้าจอไปตรงกลางและหมุนปรับรอบๆได้เลยไม่ต้องมีส่วนควบคุมแอร์อะไรแยกครับ ถือว่าเป็นการออกแบบที่ฉลาดมากๆครับและเป็นภายในที่ลงตัวจริงๆไม่ต้องมีหน้าจออะไรเยอะแต่ใช้งานได้ดีอย่างมาก และในพื้นที่การใช้งานการจัดวางเวลาขับขี่จริงๆนั้นถือว่าลงตัวและใช้งานไม่ต้องไปมองอะไรเยอะและได้หน้าปัด Virtual Cockpit เข้ามาช่วยทำให้ภายในนั้นใช้งานได้จริงและอิสระมากขึ้นเป็นจอหลักในการใช้งานทั้งหมดเลย

เนื่องจากเป็นรุ่นที่สามารถเปิดหลังคาได้แน่นอนว่าภายในต้องมี Rollover สำหรับการป้องกันเวลารถเกิดอุบัติเหตุหรือพลิกคว่ำนั้นเองครับ ทำให้ป้องกันส่วนศรีษะได้ทันทีก็จะมีความแข็งแรงและสูงกว่าตัวเบาะพอสมควรเลยนั้นเองครับ และห้องโดยสายแบบนี้จะให้ความรู้สึกโปร่งโล่งได้ดีอย่างมากในการขับขี่จริงๆและระบบของตัวรถเมื่อเราเปิดหลังคานั้นจะทำการเพิ่มแอร์ให้เองสูงสุดพร้อมกับพัดลมสูงสุดให้เราเองเลยด้วยครับ ถือว่าเป็นระบบที่ดีอย่างมากเลยห้องโดยสารนั้นออกแบบมากับการขับขี่จริงๆทั้งเรื่องของมุมมอง ตำแหน่งการใช้งานอยู่ในระยะที่ใช้งานได้แบบไม่ต้องละสายตาครับ และพื้นที่ภายในห้องโดนสารนั้นมีที่วางขา และ ตำแหน่งการขับที่กว้างขวางพอสมควรในรุ่นนี้ครับ

ห้องโดยสารในบรรดารถ สปอร์ตหรือรถเตี้ยแบบนี้ต้องบอกว่าการขึ้นลงในการใช้งานจริงๆ นั้นอาจจะยากพอสมควรแม้จะไม่ได้เตี้ยหรือเป็นหลุมแบบ Supercar แต่ถ้าใช้งานในชีวิตประจำวันนั้นอาจจะต้องทำความเคยชินกันครับด้วยการที่ตัวรถ และ เบานั้นเตี้ยทำให้เวลาขึ้นลงนั้นเหมือนจะมีสันขอบประตูสูงขึ้นมา และ ต้องก้าวยกตัวหลบนิดหน่อยครับทำให้การขึ้นลงบ่อยๆนั้นอาจจะลำบากอยู่บ้างส่วนพื้นที่ การออกแบบใช้งานภายในนั้นไม่มีปัญหาเลยระยะกางวางขาตัวเบาะนั้นทำได้ดีครับเบาะหนังสลับกับ Alcantara ทำได้ดีโอบกระชับได้ชัดเจนตัวเบาะนั้นมีทรงสปอร์ตมากๆครับปรับด้วยไฟฟ้าทั้งหมด 2 ข้าง และบานประตูนั้นแม้จะใหญ่ก็จริงแต่ก็มีน้ำหนักกำลังดีเปิดได้กว้างและขึ้นลงได้สบายครับไม่มีปัญหาเลยในการเข้าออก ยกเว้นแค่ความเตี้ยของตัวรถที่เตี้ยกว่าทั่วไปในการเข้าออกลุกนั่งนั้นเอง

เมื่อทำการปิดหลังคานั้นต้องบอกว่ามีความทึบเยอะพอสมควร ถ้าเราชินกับพื้นที่โล่งๆตรงเสากลางรถครับเพราะหลังคาผ้าใบนั้นจะคลุมรอบทั้งหมดเลยในด้านข้างและด้านหลังนั้นจะเป็นกระจกปกติครับส่วนนี้พื้นที่เหนือศรีษะเวลาปิดหลังคาแล้วก็มีความสูงกว้างพอสมควร ไม่ได้อึดอัดเท่าไรนักในการใช้งานจริง ในส่วนนี้แต่ถ้าหากเทียบกับหลังคาปกติที่เป็นหลังคาแข็งนั้น แน่นอนว่าตัวนั้นอาจจะทำพื้นที่ในการใช้งานห้องโดยสารได้ดีกว่านั้นเอง รวมถึงมีเบาะเล็กๆในข้างหลังด้วย ส่วนตำแหน่งการขับขี่ พื้นที่รวมๆนั้นไม่ได้แตกต่างกันแบบชัดเจนมากนักครับจุดนี้ออกแบบได้ดี

เมื่อมาดูรายละเอียดดีเทลในแต่ละจุดเราจะเห็นว่ามีการใส่ใจในการออกแบบมากๆครับตัวป้ายขับสี่ QUATTRO ยังคงใส่มาทุกรุ่นที่เป็นขับสี่ของทางค่ายนี้ วัสดุสีเงินสวยงามและวัสดุคอนโซลนั้นเป็นแบบบุนุ่มแต่ต้องออกแบบให้ทนทานนิดหน่อย เพราะเป็นรถเปิดประทุนครับอาจจะไม่ได้ใช้งานหนังนุ่มๆแบบตัวอื่นๆนั้นเองแต่ก็ไม่ใช่วัสดุแข็งซะทีเดียวหน้าปัดเรือนไมค์นั้นมีการออกแบบทำให้คล้ายกับพวกเครื่องบินเป็นหน้าจอล้วนๆ 12.3 นิ้วพร้อมกับการรองรับใช้งานทั้งดูแผนที่ต่างๆ การตั้งค่าตัวรถ การดูข้อมูลเพลงทุกอย่างจะรวมไว้ในจอนี้ทั้งหมดครับและ Android AUTO รวมถึง Apple Carplay ด้วยเช่นกันแต่ฟีเจอร์นี้ต้องไปปลดล็อกกันทีหลังนะครับ ทางด้านคอนโซลกลางนั้นจะเป็นวัสดุสีเงินครับจะเห็นว่าค่อนข้างเรียบๆแต่มีคันเกียร์ทรงสปอร์ตใส่เข้ามาครับ และ รวมถึงการควบคุมเครื่องเสียงและหน้าจอหลักด้วยสำหรับการสัมผัสหมุนต่างๆแต่ที่วางแก้วน้ำรุ่นนี้จะมีมาให้ 1 ตำแหน่งครับและถ้าจะวางอีกแก้วนั้นจะต้องเปิดที่วางแขนและวางไปครับต้องเปิดทิ้งไว้ ต้องบอกว่าที่เก็บของคันนี้น้อยมากๆในการใช้งานจริง และปุ่มสตาร์ทและที่วางมือถือนั้นจะอยู่ตรงเหนือคันเกียร์เลยครับ ทางด้านพวงมาลัยมีปุ่มอะไรให้ครบเลยพร้อมใช้งานครับ การควบคุมหน้าจอ รวมถึงรุ่นนี้จะมี Paddle Shift ใส่เข้ามาสำหรับการเล่น +/- ด้วยเช่นกันเวลาขับทางไกล

ตัวปุ่มในการใช้งานคันนี้จึงให้มาค่อนข้างน้อยมากๆครับจะมีแค่ปุ่มตรงกลางสำหรับการควบคุมฟีเจอร์ในรถยนต์รวมถึงตรงแอร์ที่ซ่อนเนียนๆอยู่ตรงกลางช่องแอร์ แค่นั้นครับทำให้มันเป็นการออกแบบที่ดีที่สุดในบรรดารถยนต์ยุคนี้ก็ว่าได้เพราะสมัยนี้การออกแบบจะเน้นไปใช้งานจอแปะแบบไม่ได้สวยงามเท่าไร แต่คันนี้ถือว่าใส่ใจงานออกแบบจริงๆครับปุ่มควบคุมชุดล่างนั้นจะมีแค่การเปิดปิดฟีเจอร์ Startstop เวลาจอดรถการเปลี่ยนโหมดการขับขี่ รวมถึงไฟฉุกเฉิน และ สปอยเลอร์หลัง และการเปิดเซนเซอร์ต่างๆเวลาจอดรถครับแค่นั้นเลยจริงๆ ส่วนการควบคุม MEDIA นั้นจะเป็นตรงข้างล่างฐานเกียร์ครับเป็นแบบ Touchpad และ หมุนใช้งานได้ด้วยครับแต่อาจจะใช้งานยากกว่าแบบหน้าจอสัมผัสนิดหน่อยก็ต้องปรับตัวกันในจุดนี้ครับ ซึ่งหน้าจอหลักที่ใช้งานคือเรือนไมล์ของตัวรถนั้นเองครับ

อย่างที่แจ้งไปนั้นบอกเลยว่าการเปลี่ยนการควบคุม อุณหภูมิหรือแอร์นั้นสามารถใช้งานได้เนียนๆครับเราสามารถกดเพื่อเปิดปิดแอร์ได้เลยตรงวงกลมตรงกลาง 3 ช่องนั้นรวมถึงการเปลี่ยนอุณหภูมิ หรือ พัดลมสามารถหมุนวงแหวนตรงกลางรถได้เลยครับเนียนและเป็นการออกแบบที่ฉลาดมากๆส่วนการหมุนทิศทางลมตัวช่องแอร์จะหมุนไม่ได้แต่เป็นการหมุนใบพัดข้างในแทนว่าจะหมุนไปทิศทางไหนยังไงครับ หมุนวงแหวนรอบนอกเอาได้เลย 360องศาเจ๋งมากๆ

หน้าจอได้เรือนไมล์แบบ VIRTUAL COCKPIT ที่เป็นจุดเด่นของทาง AUDI ครับถือว่าสวยงามและใช้งานได้จริงมากๆเปลี่ยนได้หลากหลายแบบและใช้งานแบบเต็มหน้าจอหรือจะเน้นเรือนไมล์ เข็มวัดรอบก็ได้ครับแล้วแต่ชอบ และสามารถดูข้อมูลรถยนต์ การขับขี่ เพลง โทรเข้าออกได้สบายๆ รวมถึงไปเปิดฟีเจอร์ CARPLAY -ANDROID AUTO ได้ด้วยครับ ก็เป็นหน้าจอเรือนไมล์ที่สวยงามมากๆตัวนึงในบรรดารถยนต์สมัยนี้ มีการออกแบบทรงโค้งสวยงาม และไม่ใช่เป็นแค่แผ่นเหลี่ยมๆมาแปะครับ ถือว่าในงานออกแบบต้องชื่นชมค่ายนี้ในหลายๆจุดเลยทีเดียว

ภายในเวลากลางคืนทาง AUDI TT ตัวนี้อาจจะยังไม่ได้โดดเด่นหรือหวือหวาเท่ากับรุ่นพี่ในค่ายเมื่อเทียบกับงานออกแบบยุคใหม่ที่จะเน้นความเส้นสายคม สีดำเงาแต่ต้องบอกว่าดีไซน์ภายใน TT มีความโดดเด่นด้วยแนวทางของตัวเองอยู่เช่นกันครับ ทั้งเรื่องของการปรับแอร์การใช้งานต่างๆ และ หน้าจอที่ไปอยู่ตรงเรือนไมล์ทำให้ คอนโซลภาพรวมนั้นอาจจะไม่ได้มีหน้าจอเยอะหรือแสงสีอะไรเท่าไรนัก โทนสีดำพร้อมกับไฟ Ambient สีขาวตรงกลางคอนโซล ตรงประตู และ ส่องเท้านั้นจะมีให้เห็นพอสวยงามชัดเจนแต่เปลี่ยนสีไม่ได้ และถ้าเปิดหลังคาอาจจะโดนกลืนไปง่าย

ส่วนไฟในห้องโดยสารนั้นจะใช้งานไฟสีขาวทั้งหมด LED ทั้งหมดเลยส่องสว่างพอสมควรครับโทนสีขาวกำลังดีไม่ได้ขาวอมฟ้าทำให้เห็นอะไรชัดเจนอยู่พอสมควรครับ และ รวมถึงเป็นโทนสีเดียวกับไฟส่องเท้าไฟจุดอื่นๆด้วยเช่นกัน ตัดกับวัสดุสีดำดด้านและไฟต่างๆเป็นสีแดงได้ดีเลยแหละ และหน้าจอเรือนไมล์ 12.3 นิ้วเด่นสะใจครับสำหรับดูข้อมูล

เนื่องจากเป็นคอนโซลกลางที่ไม่มีหน้าจอ หรือ ส่วนควบคุมอะไรเยอะทำให้เวลากลางคืนขับแล้วสบายตาและไม่มีแสงรบกวนเท่าไรนักครับทำให้เราจดจ่อกับถนนพอสมควรเลยแหละ และ เรือนไมล์ดิจิทัล Virtual Cockpit ก็เป็นจอหลักที่เราจะใช้งานถือว่าเป็นการออกแบบที่แปลก น่าสนใจว่าตัวอื่นๆพอสมควรเลย และการปรับแอร์ อะไรต่างๆนั้นก็ออกแบบได้เด่นและใช้งานได้จริงรวม ถึงไม่ได้ทำให้ห้องโดยสารเกะกะเลยแม้แต่น้อยครับ ในจุดนี้ถือว่าทำได้ดีเลย

บรรยากาศในห้องโดยสารเวลาขับนั้นต้องบอกว่าทำได้ประทับใจแม้งานออกแบบนั้นจะไม่ได้หวือหวาอะไรมากไม่ได้มีแสงสีจอเยอะแต่ถ้าคนที่ชอบการขับขี่นั้นต้องบอกว่าประทับใจ ทำให้เราจดจ่อกับถนน และ การขับขี่จริงๆทั้งการออกแบบที่เอียงเข้าหาคนขับ และ การใช้งานจริงตอบโจทย์มากๆ เรื่องของการใช้งานไม่มีปัญหาเลยแม้แต่น้อยรวมถึงคนนั่งข้างก็ไม่ได้มีปัญหาเลยแต่แอร์นั้นอาจจะอิงไปทางคนขับมากกว่านิดหน่อย ทางด้านระยะมุมมองของการขับขี่นั้นแน่นอนว่ารถพวกนี้ค่อนข้างเตี้ยครับ ทำให้มุมมองเวลาขับในเมืองอาจจะลำบากนิดหน่อยเมื่อเจอรถสูงๆพวกนี้นั้นเองส่วนปุ่มควบคุมอะไรนั้นวางตำแหน่งให้คนขับใช้งานได้ง่ายทุกส่วน และในห้องโดยสารหลังคาผ้าใบอาจจะเสียงดังได้ง่ายอยู่ครับเวลาขับเร็วเสียงลม หรือแม้แต่ขับในเมืองนั้นเองก็ถือว่าเป็นจุดอ่อนของหลังคาผ้าแบบนี้ด้วยพอสมควร

ENGINE

เครื่องยนต์นั้นยังคงใช้งานเครื่องยนต์เบนซินขนาด 2.0 ลิตร ให้กำลัง 230 แรงม้าที่ 4,500-6,200 รอบต่อนาที ระบบจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงยิงตรง TFSi ไดเรคอินเจคชั่น พร้อมระบบวาล์วแปรผัน AVS (AUDI Valve lift System) ให้แรงบิดสูงสุด 370 นิวตันเมตร ที่ 1,600-4,300 รอบต่อนาทีพร้อมกับระบบขับเคลื่อนส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ S-Tronic 6 สปีด พร้อมกลไกคลัทช์คู่ ระบบเกียร์แบบคลัทช์คู่ และแน่นอนว่า สามารถปรับโหมดแบบเกียร์ธรรมดาได้ พร้อมกับ Paddle shift  +/-  ได้เลยครับขับขี่ได้สนุกมากๆ และสามารถทำอัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงใน 5.7 วินาที โดยประมาณ และมีความเร็วสูงสุด 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ครับแน่นอนว่าด้วยเครื่องยนต์เมื่อเทียบกับขนาดตัวรถทำให้มันมีอัตราเร่งที่สะใจมากๆ กดมาเรื่อยๆ และ สามารถทำความเร็วทั้งตีนต้นและตีนปลายได้ดีมากๆในการขับขี่ทางไกลรวมถึง อัตราเร่งช่วง 100-160 นั้นทำได้สบาย และ การเปลี่ยนเกียร์ทำได้ดีต่อเนื่องมากๆครับ และมั่นใจมากขึ้นด้วยการขับเคลื่อน 4 ล้อทั้งหมดทำให้เวลาขับนั้นรู้สึกแน่นกว่าคันอื่นๆที่ขับหลังอย่างเดียวชัดเจนเลย และ ทำให้เวลาเจอฝนตกหรือถนนต่างจังหวัดเราสามารถขับแบบมั่นใจได้ดีอย่างมากครับ

สำหรับ AUDI TT คันนี้ช่วงล่างนั้นเป็นแบบมาตรฐานไม่ได้มีการปรับอะไรเพิ่มเติมได้ แต่ก็สามารถควบคุมและขับสนุกได้ตั้งค่ามาแข็งนิดหน่อย และ แน่นอนว่ารถแนวนี้นั้นช่วงล่างนั้นจะไม่ได้นุ่มอะไรมากเป็นทุนเดิมครับ ทำให้ในการขับขี่นั้นมีความแข็งกระด้างนิดหน่อย แต่ด้วยความที่เป็นล้อ 17 นิ้วก็ถือว่ามีแก้มยางที่หนาอยู่ทำให้ยังพอไหวในสภาพถนนเมืองไทยเก็บซับแรงได้ดีแต่ถ้าเปลี่ยนเป็นล้อ 19 ขึ้นไปในช่วงล่างเดิมนั้นน่าจะรู้สึดถึงท้องถนนได้ชัดเจนกว่านี้ ช่วงล่างแบบนี้แน่นอนว่าขับทางไกลเอาอยู่สบายด้วยความที่ตัวรถนั้นเตี้ยเล็กแบนทำให้เกาะถนนและมีจุดศูนย์ถ่วงต่ำอย่างมากขับขี่ไว้ใจได้มากจริงๆ สำหรับค่ายนี้และยังคงเข้าโค้งเปลี่ยนเลนได้โดยไม่มีอาการดื้อเลยแม้แต่น้อย ด้วยการขับเคลื่อนของ QUATTRO นั้นบอกเลยว่าจะไม่มีอาการท้ายปัดให้เห็นในคันนี้เลยแม้แต่น้อยครับถือว่าเป้นข้อดี และ เป็นจุดเด่นที่สุดของคันนี้และค่ายนี้เรื่องของการขับสี่นั้นไว้ใจได้เป็นตำนานเลย ทางด้านพวงมาลัยนั้นมีความคมและแม่นยำตอนสนองทั้งการขับขี่ในเมือง และ นอกเมืองได้ดีการแซงเข้าโค้งอะไรทำได้ดีและไว้ใจได้เสมอ

CONSUMPTION

อัตราการกินน้ำมันแน่นอนว่าใช้งานเบนซินครับ แม้ตัวรถจะแรงสะใจมากแค่ไหนแต่เรื่องของการอกินน้ำมันก็ไม่ได้แย่เลยแหละ ในการใช้งานจริงเท่าที่ทางทีมทดสอบนั้นถือว่าประทับใจในอัตราสิ้นเปลืองของคันนี้ โดยทดสอบแบบขับแบบโหดสุด ใช้โหมด Dynamic + S สำหรับการเปลี่ยนเกียร์แบบสปอร์ตที่จะลากรอบนานขึ้นและมี Fireback ให้ได้ยินกันแบบสะใจพร้อมกับเสียงเครื่องยนต์ที่แน่นสะใจมากขับสนุกแบบนี้สามารถทำอัตราสิ้นเปลืองไปได้ที่ 11 KM/L ครับถือว่าใช้งานได้ดีเลยทีเดียวแม้จะขับแรง และ กระแทกแซงไปหลายๆรอบแต่อัตราสิ้นเปลืองนั้นอยู่ในระดับที่โอเคมากๆ แต่ถ้าขับแบบผู้ดีนิดหน่อยใช้โหมดทั่วไปไม่ได้สายโหดมากนักทำให้เราเห็นตัวเลข 14 ได้เลยในการใช้งานจริงก็ถือว่าต้องชมเครื่องยนต์ของเจ้า TT ROADSTER ที่ขับพลังออกมาได้สะใจแต่ก็ยังประหยัดน้ำมันได้เป็นที่น่าพอใจมากๆครับในหลายๆโหมดการขับขี่ของคันนี้ และ ทำให้มันสามารถใช้งานทั่วไปได้แบบไม่เปลืองเลยในคันนี้

AUDI TT ROADSTER 

” ขับสนุก รูปทรงเท่ และ กระทัดรัดในการขับเคลื่อน 4 ล้อ QUATTRO ที่ไม่มีใครเหมือน “

หารถที่ขับเคลื่อน 4 ล้อพร้อมกับพละกำลังที่ขับสนุกแถมยังไม่เปลืองน้ำมันมากนัก มาพร้อมกับช่วงล่างที่แน่นหนึบเน้นขับสนุกค่าย AUDI ไม่เคยทำให้ผิดหวังเลยแม้แต่น้อย ยิ่งระบบขับเคลื่อน 4 ล้อของค่ายนี้คือจุดเด่นที่หลายค่ายนั้นยังห่างไกลทำให้มันเป็นตัวเลือกเดียวสำหรับระบบขับเคลื่อน 4 ล้อในรถยนต์ประเภทนี้ครับนอกจากที่ช่วงล่าง อัตราเร่งนั้นสนุกตอบสนองทันใจมากๆในการเร่งแซง และ ทำความเร็วสูงแม้จะเป็นถนนที่ไม่ได้เรียบหรือทางปกติก็ทำได้ดีช่วงล่างเอาอยู่ในหลายๆสถานการณ์ครับเป็นรถที่ตั้งมาดีอย่างมาก เครื่องยนต์สามารถเร่งแซงได้ตามใจจริงๆ ช่วง 0-120 มาได้ไวมากๆจนไม่ทันตั้งตัวและสามารถเล่น +/- ได้สะใจ มีเสียงเครื่องเสียงท่อที่สะใจพอสมควรครับ ในภาพรวมนั้นการขับขี่ไม่มีข้อติเลยแม้แต่น้อย ทั้งเครื่องยนต์ ช่วงล่าง พวงมาลัยต่างๆ แต่จะเป็นแค่ตัวล้องานออกแบบ รวมถึงฟีเจอร์บางส่วนนิดหน่อยที่ไม่เต็มมากนัก แต่เนื่องจากรุ่นนี้นั้นนำเข้ามาทั้งคันก็ต้องยอมในหลายๆส่วนไปครับ ถ้ามองหารถที่เน้นการขับขี่มากๆ ขับสนุกพร้อมกับคุณภาพการขับขี่ที่สูงตัวนี้เป็นตัวเลือกได้ดีอันดับแรก แต่ถ้าเน้นเรื่องของฟีเจอร์ความหวือหวาก็อาจจะต้องดูกันว่าจะรับได้ไหมครับ ก็เน้นแตกต่างกันไปในแต่ละค่ายรถยนต์นั้นเอง แต่สำหรับใครที่ชอบขับรถยนต์ ชอบการขับขี่ค่าย AUDI ไม่เคยทำให้ผิดหวังเลยในแต่ละรุ่นที่ทดสอบมาครับ

สำหรับรีวิวนี้เป็นการทำบทความเกี่ยวกับรถยนต์ หรือ สายยานยนต์ของเรา และถ้าหาก มีข้อผิดพลาดประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ มีข้อเสนอแนะ หรือข้อนำแนะอะไร ยังไงสามารถแจ้งเราได้เสมอเพื่อการปรับปรุงที่ดีขึ้นครับ เพื่อนๆสนใจอยากให้รีวิวรถรุ่นไหนสามารถ Inbox มาบอกเราได้เลยนะ จะพยายามจัดหามาให้อ่านกันเยอะๆ ขึ้นเรื่อยๆ ครับ … สำหรับ Techhangout Auto !

ฝากไลค์เพจ FACEBOOK เราด้วยนะครับ >>>>>>>>>  TECHHANGOUT

เข้าร่วมกลุ่ม TECHHANGOUT พูดคุยแลกเปลี่ยน ข้อมูล คุยกันเองชิลๆได้เลยที่ — Facebook  Techhangout พูดคุย Smartphone gadget 

Comments กันได้เลย !

Comments

0 Shares