Ultrabook เริ่มจะทำได้บางลงเรื่อยๆและเบาลงเรื่อยครับในสมัยนี้และด้วยเทคโนโลยีสมัยนี้ทำให้ความบางและความแรงนั้นอยู่ด้วยกันได้แบบสบายมากในครั้งนี้แอดมินได้มีโอกาศใช้งาน Ultrabook ตัวใหม่ล่าสุดจากทาง Asus ที่ไม่ได้มีแค่ความบางเบาเท่านั้น แต่ยังพกพาความแรงแบบสุดๆมาด้วยการ์ดจอแยก Nvidia GTX 1050 MAX-Q อ่านกันไม่ผิดครับมันมาพร้อมการ์ดจอ 1050 เลยแหละแต่มันบางแค่ 1.79 เซนติเมตรถือว่าเป็นอะไรที่ว้าวมากๆครับในรอบนี้ Asus ทำให้เราประหลาดใจกับความบางได้อีกแล้วค่ายนี้ชอบอะไรบางๆแรงๆจริงครับแล้วมันจะโหดแค่ไหนยังไงไปลองดูกันได้เลยในการใช้งานจริงๆ จะไหวไหมกับความบางที่ต้องใส่อะไรแรงๆแบบนี้เข้ามาจะร้อนมากไหม

Asus Zenbook ตระกูลใหม่มาด้วยกันหลากหลายขนาดหน้าจอครับ 13 / 14 / 15 ครับผมโดยรุ่นท็อปของมันนั้นคือตัวที่รีวิวตัวนี้เลยมาพร้อมหน้าจอ 15 นิ้ว FULLHD SRGB 100% และ i7-8565U Nvidia GTX 1050 MAX-Q RAM 16GB SSD 512GB ครับถือว่าสเปคจัดหนักจัดเต็มเลยแหละ และยังมาพร้อมนวัตกรรมหน้าจอไร้ขอบ ‘NanoEdge’ และ ขอบจอบางที่สุดทั้ง 4 ด้าน แสดงผลกว่า 92% ของขนาดจอ และที่คุ้นเคยและแอดมินชอบมากสุดคือนวัตกรรม ErgoLift ที่จะยกตัวเครื่องให้สูงขึ้นและช่วยในการพิมพ์รวมถึงการระบายความร้อนอีกด้วย และยังผ่านการทดสอบโหดๆระดับทหาร MIL-810G STD อีกด้วยครับ  และ ลำโพง Harman /Kardon 

สำหรับในราคาขายทั้ง 2 รุ่นของทาง ASUS  นั้น เปิดราคามาที่ 26,990 บาท และจอ 15 นิ้ว เริ่มต้น 29,990 บาทครับ   แต่ในตัวรีวิวนั้น ราคา 45,990 บาทครับ ตัวเทพสเทพสุดเลย มีสีน้ำเงินและ เงินนะครับ ไม่มีสีมีสีแดงนะในตัวเทพ

UNBOX

สำหรับตัวกล่องนั้นหน้าตาการออกแบบกล่องภาพนอกก็มีความสวยงามครับกล่องขนาดเล็กพอสมควรเหมือนกันส่วนทางด้านอุปกรณ์ภายในกล่องนั้นจะมีมาให้ครบครันมากๆครับเพียงพอต่อการใช้งานและพกพาด้วยทั้งซองและผ้าเช็ด

  • Asus Zenbook15
  • ซองผ้าใส่ตัวเครื่อง
  • ผ้าเช็คตัวเครื่อง MicroFibre
  • สายแปลง USB 3.0 – LAN
  • สายชาร์จ Adaptor
  • คู่มือการใช้งาน

สำหรับตัวซองนั้นเป็นซองแบบผ้าครับวัสดุข้างในจะนุ่มๆหน่อย ขนาดพอดีกับเครื่องเป๊ะๆ ส่วนตัวล็อคเป็นตีนตุ๊กแกวงกลมครับ โดยรวมทำได้ดีและสวยงามแม้จะไม่ได้เป็นหนังแต่ก็เป็นผ้าที่สัมผัสดีอยู่เหมือนกันครับในตัวซองที่แถมมา

สำหรับอีก 1 จุดที่ค่อนข้างชอบคือตัวชาร์จไฟ Adaptor มันค่อนข้างเล็กและพกพาง่ายครับทำให้เวลาใช้งานข้างนอกนั้นสามารถพกแค่ในภาพก็ใช้งานหรือไปต่างประเทศไปไหนได้สบายเลย ทั้งวันแบตก็ได้ประมาณ 12-14 ชั่วโมงครับแต่ถ้าพกตัวชาร์จไปก็จะใช้งานได้ทั้งวันสบายๆค่อนข้างเล็กเลยแหละ แต่อันนี้จะไม่ใช่แบบหัวเสียบตรงๆแบบรุ่นเล็กนะครับ

DESIGN

ในด้านของการออกแบบในรุ่นนี้จริงๆรุ่นนี้แอดมินได้ลองก่อนใครตั้งแต่ไปไต้หวันแล้วนะตอนนี้เลยอาจจะไม่ได้รู้สึกว้าวมากแต่เล่าตอนเจอครั้งแรกเลยละกันว่าการออกแบบมันค่อนข้างสวยและหรูมากๆครับจะน่าตกใจคือการใส่ 1050 เข้ามาในความบางและเบาขนาดนี้ทำให้ตัวแอดมินนั้นค่อนข้างว้าวจริงๆและตัวขอบหน้าจอที่ทำได้บางมากและยังมีกล้องอยู่ด้านบนนั้นถือว่าเป็นแนวคิดการพัฒนาที่ดีและยังใส่การแสกนหน้าแบบ 3 มิติมาแทนสแกนนิ้วทำให้มันล้ำกว่าเดิม ตัวเครื่องออกแบบใช้โทนน้ำเงินเข้ม + สีทองอ่อนๆยังคงเป็นคู่สีที่ตัดดันได้ดีและวัสดุเงาสวยงามเช่นเคยครับ

การออกแบบทั้งภายในและภายนอกตัวเครื่องใช้วัสดุเป็นชิ้นเดียวกันสีเดียวกันทั้งหมดผิวสัมผัสในการใช้งานทำออกมาดีครับ เป็นอลูมิเนียมทั้งหมดและยังรองรับมาตรฐานการทดสอบระดับเกรดทหาร ตก ทนร้อน เย็นได้สบายครับเป็นรุ่นที่จัดเต็มจริงๆเหมือนทาง Asus จะเน้นจุดนี้เข้ามาในหลายๆรุ่นครับตัวนี้เด่นๆคือความบางเบา และ พรีเมี่ยมของตัวเครื่องจะเห็นว่าหน้าจอนั้นบางมากๆและโทนสีการออกแบบสวยลงตัวครับแป้นคียบอร์ดดำ อักษรทองอ่อนๆ

ฝาหลังยังคงใช้ลาย Zen สวยงามตามแบบฉบับ Zenbook ครับและใช้โลโก้เป็นโครมเมี่ยมทีสีทองตัดกับโทนสีน้ำเงินของฝาหลังได้อย่างลงตัวฝาหลังแบบนี้สวยแต่ถ้ามือมีความมันก็อาจจะติดคราบง่ายนิดหน่อยครับต้องเช็ดกันบ่อยเลยแต่ก็ยิงดีกว่าฝาหลังแบบเงาๆนั้นอาจจะรักษายากกว่านี้ครับ ส่วนในเรื่องของฐานข้างล่างก็ยังใช้วัสดุเช่นเดียวกับตัวบอดี้มีน็อตยึกรอบๆครับ และ เป็นที่อยู่ของลำโพงคู่ Harman/Kardon และ มีช่องระบายด้านหลัง 1 แถบครับส่วนฐานรองทั้ง 4 มุมเป็นยางรูปทรงกลมทั้งหมด แต่ก็จะมีส่วนยกขึ้นตรงขอบจอมียางรองเพิ่มเข้ามาครับ

ด้านหลังเวลาพับจะเห็นเป็นโลโก้ Zenbook เช่นเดิมครับแต่ในรุ่นนี้ไม่มีการตัดขอบด้วยสีของอะไร จะเป็นสีน้ำเงินทั้งหมดครับซึ่งส่วนสีทองจะมีเล่นกับตรงบริเวณขอบจอข้างในมากกว่า ไม่มีการเล่นขอบเงาๆรอบๆครับจริงๆถ้ามีจะสวยลงตัวเลยนะแบบรุ่นอื่นๆ ส่วนขอบหน้าจอความหนานั้นจริงๆแอบหนานิดนึง จะเห็นว่ามี 2 ชิ้นวัสดุส่วนสีดำและสีน้ำเงินครับน่าจะด้วยความแข็งแรง และตัวจอต่างๆจึงน่าจะบางที่สุดแล้วที่จะทำได้ครับ แต่ก็ใช้ 2 สีแบบนี้หลอกตาได้พอสมควรครับว่ามันไม่หนาเท่าไร ถ้าเป็นสีเดียวกันทั้งหมดอาจจะทำให้ดูหนากว่าปกติได้นั้นครับ

Ergo Lift ยังคงมีมาในรุ่นนี้และชอบมากๆเลย ทั้งช่วยในการพิมพ์องศาดีขึ้นไม่เมื่อยมือ และยังระบายความร้อนได้ดีกว่าเดิม รวมถึงทำให้ดูสวยและแปลกไปอีกแบบนึงด้วยครับ  จะเห็นความบางว่าบางเอาเรื่องเลยแหละ แต่ยังมีพอร์ตมาให้ค่อนข้างครบจัดเต็มครับ โทนสีทองคลุมมาถึงด้านข้างด้วยครับ และด้านในกันบ้างจุดนี้เป็นการเล่นโทนสีตัดกันได้อย่างลงตัวเป็นแถบสีทองอ่อนๆยาวตลอดตัวเครื่องพร้อมกับเล่นลวดลายผิวสัมผัสที่ค่อนข้างดี พร้อมกับโลโก้ตรงกลางส่วนฐานครับ ไม่ได้ไปแย่งพื้นที่ขอบจอเลย และจะเห็นว่ามีช่องระบายความร้อนตรงฐานหลังแป้นพิมพ์มาด้วยช่องระบายยาวตลอดแนวเครื่องเพื่อรองรับความร้อนในการใช้งานจากตัวแรงๆแบบ GTX 1050 MAX-Q นั้นเอง

ขนาดใหญ่กว่า แฟ้ม A4 นิดเดียวในรุ่นจอ 15 นิ้วและรุ่นจอ 13 นิ้วนั้นเล็กกว่า A4 ซะอีกครับ ! ถือว่าเป็นการออกแบบที่เล็กบางลงเรื่อยๆพกพาง่ายมากๆครับในรุ่นนี้ และยังยัด GTX 1050-MAXQ มาได้

SPEC ZENBOOK 15 

  • Windows 10 Home
  • Display 15.6-inch FHD, 15.6-inch
  • CPU Intel Core i7-8565U 1.8 Ghz
  • Graphics Nvidia GTX 1050 Max-Q, 2GB GDDR5 VRAM,
  • Integrated Intel UHD Graphics 620
  • Memory 16GB 2400MHz DDR4
  • Storage 512GB PCIe 3.0
  • Wireless Connectivity Dual-band 802.11ac gigabit-class Wi-Fi, Bluetooth 5.0
  • Ports USB 3.1 Gen 2 Type-C (display support), USB Type-A (up to 10Gbps), USB Type-A (up to 5Gbps)  HDMI, SD card reader, 3.5mm headphone jack
  • Battery 73Wh 4-cell lithium-polymer,  Up to 116 hours battery life
  • Dimensions 354 x 220 x 17.9mm
  • Weight 1.59kg

PERFORMANCE

ประสิทธิภาพตัวนี้มาพร้อมด้วย CPU i7 Gen8 Core 8565U 1.8 Ghz และ Integrated Intel UHD Graphics 620  และจัดมาด้วยการ์ดจอแยก GTX 1050 MAX-Q 2GB และใส่ Ram จัดมาให้ 16 GB DDR4 2400MHz และ รวมถึง SSD 512GB PCle 3.0 เรียกได้ว่าจัดเต็มมาให้เลยครับส่วนเรื่องการรันต่างๆสบายมาพร้อม Windows 10 แท้มาให้เลยไม่ต้องไปหาเองครับ เพียงพอต่อการใช้งานทั่งด้าน 2มิติ 3มิติ รวมถึงรองรับการทำงานห Multitask ได้สบามด้วย RAM 16GBไม่ต้องเสริมแต่งอะไรเลยครับพร้อมใช้งานได้สบายๆ

ในรุ่นนี้มีกราฟิกการ์ดออนบอร์ด Intel UHD Graphics 620 นั้นต้องบอกว่าตัวนี้รองรับการทำงาน 2 มิติสบายครับและ 3มิตินิดหน่อยมีติดเครื่องไว้ใช้ทำงานได้ แต่แน่นอนว่ายังคงมี กราฟฟิกการ์ดแยกมาด้วยคือตัว Nvidia GTC 1050 MAXQ 2GB เป็นการ์ดจอแยกที่แรงเอาเรื่องในตัวนี้รองรับการทำงานโหดๆ 3 มิติ รวมถึงการเล่นเกมได้อย่างไหลลื่นและไม่ต้องกังวลเรื่องของความแรงและประสิทธิภาพครับถือว่าค่อนข้างเพียงพอและจัดเต็มให้ใช้งานเลย

สำหรับตัวนี้ให้ SSD 512GB มาเลยครับในการใช้งานทั้งการเปิดโปรแกรม และทำงานทั่วๆ ไปได้เร็วมาก ก็ได้ความเร็วในระดับพอใช้ได้เลยแหละ ทำการอ่านได้ 1715 MB/s และเขียน 1451.8 MB/s นะครับในค่าของการต่อเนื่องชุดละ 128 KB ทำงานพร้อมกันหลายหน่วยประมวลผล และ การวัดคะแนนของ CPU CINEBENCH R15 นั้นที่เน้นในเรื่องของพลังประมวลผลซีพียู ทำไปได้ 105 FPS และ 755 cb ซึ่งอยู่ในระดับที่น่าพอใจและทำคะแนนได้ค่อนข้างสูงสมกับ CPU Gen 8 i7 ตัวนี้ครับ ถือว่าเป็นคะแนนมาตรฐานเลยทีเดียว

PCMARK 10 ที่จำลองการใช้งานคอมพิวเตอร์ทั่วไป ก็ได้มา 4400 คะแนน ถือว่าใช้งานทั่วไปได้ชิวๆ แน่นอนไม่ต่างกับตัวที่มีการ์ดจอแยกมากเท่าไรในตัวนี้ถือว่าเป็นคะแนนที่ใช้งานได้ทั่วไปและเพียงพอต่อการใช้งานทุกรูปแบบส่วนในเรื่องของความร้อนสะสมในการใช้งานหลังจากที่ทดสอบ PCMark นั้นอยู่ที่ GPU 76 และ CPU 85 ครับ

3D Mark เป็นการทดสอบในการประมวลผลแบบ 3 มิติหนักๆนั้นก็ทำได้น่าพอใจเพราะด้วยการ์ดจอแยกนั้นจะเข้ามามีส่วนช่วยในจุดนี้ครับทำให้คะแนนนั้นค่อนข้างสูงเลยแหละ ในหลายๆการทดสอบนั้นทำได้ตามที่คาดไว้ครับผมทำให้สบายใจได้เลยในการใช้งานทั้งด้าน 3มิติ เล่นเกม ทำงานเรนเดอร์ภาพ โมเดลต่างๆนั้นไม่ต้องกังวล ส่วนในความร้อนนั้นเมื่อทดสอบ 3 แบบตามภาพข้างบนเสร็จแล้วได้อุณหภูมิสูงสุดที่ CPU 91 องศา และ GPU 80 องศาครับผม ซึ่งเอาตรงๆเลยคือมันถือว่าสูงครับเพราะมันมีพัดลมตัวเดียวและไม่ได้ทำออกมาสำหรับเล่นเกมหรือทำงานหนักมากเท่าไร ใครใช้หนักๆแนะนำเล่นในห้องแอร์หรือมีการระบายที่ดีจะช่วยยืดอายุของมันได้ดีครับ ที่แอดมินลองถือสภาพอากาศปกติไม่ได้เปิดแอร์นะครับ 

FACEUNLOCK 3D

ในรุ่นนี้ในการรักษาระบบความปลอดภัยนั้นไม่มีสแกนลายนิ้วมือมาให้แล้วแต่เปลี่ยนมาเป็นสแกนใบหน้าแทนครับซึ่งเป็นการสแกนแบบ 3 มิติจับมิติของใบหน้าแน่นอนว่าระบบนี้ค่อนข้างไว้ใจได้และหลอกด้วยรูปถ่ายไม่ได้ครับการใช้งานนั้นเมื่อเราเปิดออกมามันก็จะหาหน้าเราได้เลยโดยไม่ต้องกดให้มันทำงานอะไรครับ การจับใบหน้าเอาจริงๆทำได้ดีเลยทั้งที่สว่างและแสงน้อยเมื่อเปิดเข้ามามันก็จะทำงานและเข้าหน้าใช้งานได้เลยครับถือว่าไวเหมือนการใช้งานบนมือถือหลายๆรุ่นเลยครับเป็นอีกระบบที่ค่อนข้างดีและใช้งานได้จริงครับอาจจะดีกว่าสแกนนิ้วในบางจังหวะด้วยครับแต่มันอาจจะไม่ได้ฉลาดมากนักถ้าเราใส่แว่นหรือใส่หมวกอะไรนั้นมันก็จะไม่ยอมปลดล็อคให้ เอาจริงๆระบบของ Windows อาจจะมีอัพเดทกันต่อไปครับสำหรับตัวการจดจำใบหน้า Windows Hello ในอนาคตถ้ามีหลากหลายรุ่นเอามาใช้กัน

SCREEN

สำหรับทางหน้าจอในรุ่นนี้หน้าจอนั้นมาพร้อมกับหน้าจอขนาด 15.6” LED-backlit FHD (1920 x 1080) 16:9 โดยรองรับมาตรฐาน 100% sRGB และ รองรับมุมมองกว้าง 178 องศา อัตราส่วนหน้าจอต่อพื้นที่มากถึง 92% ขอบหน้าจอหนา 3 มม. หน้าจอนั้นเป็นกระจก ครับทำให้ค่อนข้างสวยและคมชัดกว่าหน้าจอแบบด้านครับแน่นอนว่าหลายๆคนนั้นอาจจะชอบแบบนี้มากกว่าในเรื่องความสวยครับแต่ถ้าใช้งานข้างนอกนั้นอาจจะมีรบกวนสายตานิดหน่อย ในเรื่องของคุณภาพในการใช้งานนั้นถือว่าทำได้ค่อนข้างดีเลยแหละในมุมมองและใช้งานในและนอกสถานที่ครับ

ในเรื่องของมุมมองของจอภาพตัวนี้รองรับมุมมองกว้าง 178 องศาเมื่อจากลองใช้งานจริงๆถือว่าตัวมุมมองของการใช้งานมันรองรับได้ดีพอสมควรครับด้วยจอ IPS จึงทำได้ดีในเรื่องของการใช้งานทั้งทำงานด้านของ กราฟฟิคหรือแม้แต่ตัดต่อ แต่งภาพนั้นตัวนี้ทำได้ดีไม่มีปัญหาครับสีค่อนข้างตรงและสื่อออกมาได้ใกล้เคียงต้นฉบับมากพอสมควรครับ มุมมองแม้จะมองจากด้านข้างอาจจะมีดรอปลงมาเล็กน้อยแต่ไม่ได้มีผลกันมากในเรื่องของสีและความแม่นยำ เรื่องจอในรุ่นนี้ถือว่าทำได้ดีและไม่มีปัญหาครับทั้งในการใช้งานและเล่นเกม รวมถึงหน้าจอนั้นสู้แสงได้ดีเมื่อใช้งานข้างนอก

KEYBOARD

ตัวแป้นพิมพ์ในรุ่นนี้เป็นขนาดหน้าจอ 15 นิ้วที่มี Numpad มาให้ด้วยและเป็นแบบพิเศษที่มีขนาดเล็กพิเศษที่สามารถยัดลงมาในบอดี้นี้ได้ครับสำหรับทาง  Asus ซึ่งในรุ่นอื่นๆจอ 13-14 นั้นจะเป็นแบบสัมผัสตรง Touchpad ครับ ในรุ่น 15 นิ้วนี้เลยมีพื้นที่พอจะย้ายมาอยู่ในตำแหน่งปกติแต่จะเป็นการย่อให้แคบลงเล็กน้อยครับ ตัวคียบอร์ดนั้นยังคงมีไฟมาให้ครับโทนไฟเป็นสีขาวแต่เมื่อออกมาที่ปุ่มนั้นจะเป็นโทนสีทองจะค่อนข้างพรีเมี่ยมสวยงามเลยแหละ การเว้นช่องครับระยะห่างในแต่ละปุ่มนั้นยังคงทำได้ดีเหมือนรุ่นก่อนๆครับในการพิมพ์งาน หรือเล่นเกมนั้นก็สบายเลยตัวตำแหน่งปุ่มต่างๆทั้งปุ่มเปิดปิด ก็ไม่ได้แตกต่างกับรุ่นอื่นๆเท่าไรนัก ตัวปุ่ม Fn ก็มีมาให้ข้างบนเหมือนเดิมครับ จุดที่ชอบคือการยกแป้นพิมพ์ทำมุมองศาที่เอียงขึ้นตามแนวคิด Ergo Lift ทำให้รองรับมือเราเวลาพิมพ์ไม่เมื่อยเลยครับ

ระยะในการกดปุ่มของตัวคียบอร์ดระยะการกดที่ 1.4 มม. ถือว่ากำลังดีครับเมื่อเทียบกับความบางและขนาดโดยรวมของตัว Keyboard ทำให้เวลาการใช้งานพิมพ์ค่อนข้างสะใจและต่อเนื่องได้ดีครับ ไม่เหมือนบางรุ่นที่ระยะมันตื้นและอาจจะรู้สึกแปลกๆเวลาใช้งานครับ ตัวปุ่มเป็นพลาสติกสีดำ อักษรสีทองอ่อนๆคล้ายๆในตัว Zenbook อื่นๆครับ

TOUCHPAD

สำหรับตัวTouchpadตัวนี้มีขนาดกำลังดีและไม่เล็กเกินไปสำหรับขนาด 15 นิ้ว แต่จริงๆแอบอยากได้ใหญ่ๆไปเลยจัดเต็มคล้ายๆของ Macbook พวกนั้นเพราะจะค่อนข้างมีผลเวลาใช้งานข้างนอกครับ แต่ในขนาดของตัว  Zenbook ตัวนี้ก็ไม่ได้เล็กจนใช้งานลำบากอะไร ตัวแป้นทัชนั้นเป็นแบบเรียบๆ ไม่มีปุ่มแบ่งแยกการกดทั้ง 2 ข้างเป็นแบบเรียบทั้งชิ้นครับ ระยะการกดของตัวปุ่มทั้ง 2 ข้างระยะลึกกำลังดีครับ ส่วนทางด้านของการสัมผัสตัวทัชนั้นค่อนข้างลื่นในการเลื่อนไปๆมาๆครับไม่เจออาการหน่วงหรือเอ๋ออะไรครับในด้านการใช้งานสัมผัสนิ้วกับความไวของทัชครับ

ตัวขนาดทัชพื้นที่มีขนากที่การรองรับนิ้วหลายๆนิ้วได้ 3-4 นิ้วต่อการใช้งานครับซึ่งรองรับการใช้งาน Multitouch พื้นที่ถือว่ามีมาใช้งานแบบพอดีๆเลื่อนหมุนอะไรได้ครับแต่อย่างที่บอกถ้าเต็มๆพื้นที่น่าจะดีกว่านี้พอสมควรเลยครับ แต่ถ้ามาดูเรื่องของการจับนิ้วเวลาวาง 3 นิ้วอะไรก็ตอบสนองได้ดีครับสามารถเลื่อนเพื่อเปิดหน้าต่างๆหรือสลับแอพได้ติดได้เลยไม่เจออาการที่แบบสลับแอพแล้วไม่ติดหรือไม่ยอมทำงานครับเพราะถ้าบางรุ่นอาจจะเจอไม่ทำงานกันบ้างครับ

SPEAKER

Harman/Kardon ยังคงมีอยู่ใน Asus หลายๆรุ่นและมันก็เป็นลำโพงที่ไว้ใจได้ จากที่ลองๆมาถ้าหากใครชอบเสียงลำโพงจากทางค่ายนี้น่าจะพอรู้คุณภาพเสียงของมันพอสมควรเสียงของลำโพง Asus ที่ร่วมกับทางแบรนด์ ลำโพง Harman/Kardon นั้นเสียงยังคงให้คุณภาพเสียงที่ใสรายละเอียดมาดีดังและชัดเจนมากครับ เสียงฟังเพลงอะไรค่อนข้างดี และมิติเสียงนั้นกว้างพอสมควร พวกเสียงร้องอะไรชัดเจนครับ แต่เรื่องของเสียงเบส เสียงต่ำนั้นอาจจะไม่ได้เด่นมากนัก เพราะไม่มีซับในตัวครับเสียงพวกนั้นเลยอาจจะไม่ได้สะใจแน่นอะไรมาก แต่จะมีผลเวลาเล่นเกมเวลายิงปืนหรือทำอะไรที่มีเสียงเบสพวกนี้จึงไม่ได้สะใจมากนัก แต้ได้ความดังที่ดังสะใจแม้จะอยู่ข้างนอกมาช่วยแทนครับ

CONNECTOR

ทางด้านช่องเชื่อมต่อใน Asus Zenbook 15 ตัวนี้ถือว่าเป็นรุ่นที่ให้มาครบต่อการใช้งานอย่างมากครับแม้ตัวเครื่องจะบางแต่ก็ยังคงมีพอร์ตการเชื่อมต่อมาให้ค่อนข้างครบทั้งช่องใส่ SD-Card และ พอร์ท Type-C ครับแต่แม้ตัวนี้จะตัด LAN ออกไปแต่ก็ยังดีที่ให้ตัวแปลงจาก USB Type-A เป็น LAN มาให้ครับแบบในภาพข้างบนนั้นเองถ้าใครต้องการใช้ครับน่าจะเพราะด้วยความต้องการความบางที่มากกว่าเดิมเลยอาจจะทำให้พอร์ตบางอย่างต้องถูกตัดไปครับ

ในด้านซ้ายของตัวเครื่องมาพร้อมกับช่องระบายอากาศ ทั้งหมด 3 ช่องหลักๆ และ มีพอร์ทเชื่อมต่อแบบ USB-A 3.0 มาให้ 1 ช่องในข้างซ้าย และ รูไมค์ พร้อมหูฟังรวมกันใน 1 ช่องแบบ 3.5 มม.ครับผม 

ในทางด้านขวาตัวเครื่องรุ่นนี้จะมีพัดลมระบายแค่ฝั่งเดียวนะครับออกไปทางข้างซ้าย ในส่วนด้านขวา มีไฟสถานะ และเป็นพอร์ตเชื่อมต่อทั้งหมดนั้นเองมีทั้ง SD-Card / Type-C / USB-A 3.1 / HDMI /DC-IN

BATTERY

ในด้านการใช้งานแบต ตัวนี้อายุการใช้งานแบตทั้งหมดที่ใช้งานได้ประมาณ 13 ชั่วโมงในการใช้งานจริงๆแบบประหยัดแบต เต็มที่ในการใช้งานสุดๆ 13 – 14 ชั่วโมง แต่หน้าจอโชว์ประมาณ10 ชั่วโมงแล้วแต่การใช้งานครับ ส่วนถ้าเราใช้งานหนักๆเปิดแบบไฟเต็มที่ทำงานหน่อยจะได้ประมาณ 7-8 ชั่วโมงครับแต่ถ้าเล่นเกมแน่นอนว่าหมดไวตามปกติที่จะใช้ทรัพยากรค่อนข้างเยอะครับ แต่ถ้าทำงานทั่วไป พิมพ์งานอะไรเข้าเว็บพวกนี้ทั้งวันได้สบายๆครับไม่ต้องห่วงและถ้าเราลดแสงหน้าจอ นั้นอาจจะดึงไปถึง 15 ชั่วโมงได้ตามที่บอกก็เป็นได้ครับ แต่ในภาพรวมแบตตัวนี้ถือว่าอึดอยู่ในระดับที่ดีและใช้งานได้สบายๆครับ เป็นรุ่นที่แรง และบางแต่แบตที่ใช้งานได้อึดเอาเรื่องครับทำงานสบายๆ

GAMING

ในด้านการใช้งานเล่นเกมนั้นตัวนี้รองรับเกมที่กินสเปคภาพสวยๆได้หลากหลายเกมครับ  GTX-1050MAXQ นั้นก็ประมวลผลออกมาได้อย่างน่าพอใจครับตัวเกมที่เล่นนั้นทำได้ลื่นและภาพสวยสมราคาตัว FPS ดันได้ค่อนข้างสูงและไม่ตกเท่าไรนักแม้จะเล่นไปนานๆครับส่วนเรื่องความร้อนใวนการเล่นเกมต้องบอกก่อนว่ามันไม่ใช่คอมสำหรับสายเกมไม่ได้จัดเต็มอะไรมากขนาดนั้น ความร้อนจึงอาจจะสูงพอสมควรครับจากที่แอดมินเล่นในหลายๆเกมติดต่อกันนั้น อุณหภูมิของ CPU จะไปแถว 75-80  ส่วน อุณหภูมิของ GPU นั้นจะอยู่ที่  70-75 ครับ แต่บางช่วงที่เล่นนานๆนั้นเจอพุ่งไปสูงประมาณ 80-85 เลยสำหรับตัว CPU หรือแตะ 90 ได้เลยครับในการใช้งานแบบเต็มที่ปรับภาพสุด

WORKING

ในด้านการทำงานตัวนี้ด้วยการที่ใช้ CPU I7 Gen8 แน่นอนว่าการทำงานคงไม่ต้องห่วงอะไรมากครับรองรับการทำงานหลากหลายทั้ง เรนเดอร์ แต่งภาพ ตัดต่อต่างๆนั้นทำงานได้อย่างดีด้วยจอภาพของมันที่ค่อนข้างตรงทำให้ สายทำงานออกแบบต่างๆนั้นไม่มีปัญหาเลย แต่ที่หลายๆคนนั้นน่าจะอยากรู้เรื่องของความร้อนซะมากกว่าครับตัวความร้อนรุ่นนี้แน่นอนว่ามันบาง เบา และใส่ GTX 1050 MAXQ เข้ามาหลายๆคนคงสงสัยกันครับแอดมินเลยทดสอบในการทำงานในตระกูล ADOBE ทั้งหมดและใช้งานหลายๆโปรแกรมพร้อมกัน อาการกระตุกหน่วงอะไรไม่เจอครับทำงานได้ดีเลยแหละ สลับแอพไปมาและอ่านเขียนได้ไวเนื่องจาก SSD ก็มีส่วน แต่ในเรื่องความร้อนตรงที่วางมือไม่ร้อนครับแต่จะมีความร้อน บริเวณส่วนด้านหลังที่เป็นส่วรระบายความร้อนตรงโซนสีทองอ่อนๆนั้นเองครับ จากที่วัดในโปรแกรมนั้นไม่ได้เปิดแอร์ ไม่ได้เปิดพัดลมอะไรจ่อนั้น อุณหภูมิอยู่ที่ 60-68  ถือว่าไม่ได้ร้อนแบบที่คิดครับ จัดการความร้อนอะไรต่างใช้ได้เลยแหละ ในด้านการทำงานครับไม่ร้อนเท่าตอนเล่นเกมหรือใช้ GPU หนักๆเท่าไรนัก

ASUS ZENBOOK 15

” เมื่อความบางเบา เจอกับความแรง ระดับ GTX 1050 MaxQ  “

เป็นรุ่นที่ค่อนข้างชอบนะอย่างแรกเลยคือความบางเบาของมันและความแรงมันไปด้วยกันได้และทำได้ดีขึ้นเรื่อยๆครับการใช้งานมันตอบโจทย์ผู้ใช้งานทั่วไปได้อย่างดีและไม่มีปัญหาอะไรเลยอีกทั้งการออกแบบ วัสดุความแข็งแรงก็ไว้ใจได้ เป็น Ultrabook ที่น่าเล่นมากๆในชั่วโมงนี้ถ้าชอบจอใหญ่ บางเบา และทำงานเล่นเกมได้ตัวนี้แนะนำมากๆครับ ส่วนความร้อนเอาตรงๆถ้าจะบอกว่าร้อนก็ไม่แปลกครับเนื่องจากที่มันเน้นความบางเบาอย่างมากเลยทำให้มีข้อจำกัดในเรื่องนี้แต่ถ้าไมไ่ด้เอามาเล่นเกมทั้งวันต้องบอกว่าไม่มีปัญหาครับ ถ้าเอามาทำงานตระกูล Adobeทั้งหลาย ยังคงไม่เจอความร้อนหนักอะไรมากนัก ยิ่งถ้าคนทำงานทั่วไปเข้าเว็บพวกนี้ใช้ได้สบาย แบตมันอึดด้วย และจอก็สวยครับ อีกจุดที่ชอบคือ มันให้ช่อง SD-Card มาให้ทำให้การใช้งานแต่งภาพโยนไฟล์ภาพนั้นสะดวกกว่ารุ่นเล็กมากๆเลย

ข้อดี

  • งานประกอบ วัสดุของตัวเครื่องทำได้ดีตามมาตรฐานของ Zenbook
  • หน้าจอทำขอบได้บางมากๆแม้จะมีกล้องอยู่ด้านบน
  • ความแรงทั้ง CPU GPU ทำได้ดีในบอดี้ที่บางขนาดนี้
  • แบตเตอร์รี่ใช้งานได้อึดทั้งวันสบาย
  • มาพร้อม Wins 10 Home
  • ผ่านมาตรฐาน MIL-810G STD
  • ลำโพงคู่ Harman-Kardon เสียงดัง และ มีมิติ
  • พอร์ตเชื่อมต่อมีให้เพียงพอต่อการใช้งาน

ข้อสังเกต

  • ตัวเครื่องมีความร้อนสูงถ้าใช้งานเต็มที่ ทั้งทำงานและเล่นเกม
  • สแกนหน้าไม่ติดเวลาใส่แว่นหรือสภาพแสงที่ยาก
  • ตัวเครื่องติดคราบมันจากมือได้ง่ายพอสมควรและเช็ดยากไปนิด
  • ไม่มีช่อง Thunderbolt 3

สำหรับรีวิวนี้ผมก็ต้องขอตัวลาไปก่อนสำหรับรุ่นอื่นๆก็ติดตามกันได้เลย ถูกใจฝากกดไลค์กดแชร์ด้วยนะครับ  มีข้อผิดพลาดประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ  เพื่อนๆสนใจอยากให้พวกผมรีวิวรุ่นไหนสามารถ Inbox มาบอกเราได้เลยนะ
ฝากไลค์เพจ FACEBOOK เราด้วยนะครับ >>>>>>>>>  TECHHANGOUT

เข้าร่วมกลุ่ม TECHHANGOUT พูดคุยแลกเปลี่ยน ข้อมูล คุยกันเองชิลๆได้เลยที่ — Facebook  Techhangout พูดคุย Smartphone gadget 

Preview By Nineztr

Comments กันได้เลย !

Comments

0 Shares