INTEL  ได้ทำการเปิดตัว CPU เทคโนโลยี 10nm รุ่นใหม่ล่าสุดในชื่อ Tiger Lake ที่มีการเปลี่ยนแปลงเยอะมากๆรุ่นนึงของทางค่ายนี้มาพร้อมกับการออกแบบสถาปัตยกรรมใหม่ แน่นอนว่าเป็นการออกแบบโลโก้ใหม่ทั้งหมด รวมถึงเปลี่ยนอะไรหลากหลายอย่างเช่นกัน รวมถึง ประสิทธิภาพของ CPU รุ่นใหม่ที่ทำให้การใช้งานนั้นเร็วแรงมากขึ้น ประหยัดไฟมากขึ้นและการ์ดจอ Iris Xe นั้นทำได้ดีเทียบกับ MX ได้สบายแต่กินไฟน้อยลง ทำให้เป็นรุ่นที่ค่อนข้างน่าจับตามองรุ่นนึงในตอนนี้ และทางด้าน ASUS เองนั้นก็ได้เปลี่ยนมาใช้งาน i5 Gen 11 ในรุ่น Zenbook 14 ของตัวเองรุ่นล่าสุดและยังคงโดดเด่นในเรื่องของงานออกแบบ และความแข็งแรง บางเบาได้ดีสมกับตระกูล Zenbook รุ่นนี้  แน่นอนว่าประสิทธิภาพนั้นยังคงตอบโจทย์ลงตัวเช่นเดิมเลย

ทางด้าน ASUS Zenbook 14 รุ่นนี้มาพร้อมกับการใช้งาน Intel Core i5-1135G7 และมาพร้อมกับ Intel Iris Xe Graphics ตัวใหม่ล่าสุด อีกทั้งในเรื่องของ RAM ให้มาที่ 8GB LPDDR4X on board และ 512GB M.2 NVMe PCIe 3.0 SSD ส่วนการอัพเกรดนั้น เนื่องจาก RAM เป็นแบบ On Board ทำให้ไม่รองรับการอัพเกรด ส่วนทางหน้าจอให้มาที่  14” Full HD (1920 x 1080), 16:9 เป็นหน้าจอแบบด้านพร้อมกับรองรับ 300nits และใช้งานหน้าจอแบบ NanoEdge design  ขอบบางเพียง 2.5mm เป็นหน้าจอแบบ IPS เช่นกัน และยังคงให้กล้องหน้าแบบ IR รองรับการสแกนใบหน้าแบบ 3 มิติได้ด้วย ส่วนทางด้านพอร์ตให้มาครบทั้ง Thunderbolt 4 และ HDMI แต่ก็ได้ตัดรู 3.5 มม. ออกไปแล้วนั้นเอง และรองรับ Wifi6 รวมถึงMIL STD810G การกันกระแทกได้ด้วย และแน่นอนว่าประกัน 3 ปี On Site จัดเต็มเลยทีเดียวครับสำหรับ Zenbook14 รุ่นนี้ พร้อมกับ NumberPad 2.0 ที่ทาง ASUS ตั้งใจพัฒนามาเรื่อยๆ แต่มาในขนาดตัวเครื่องที่กระทัดรัดเช่นเดิมในรุ่นนี้ครับ  ASUS ZENBOOK 14 ในรุ่น i5 ที่รีวิวนั้นจะอยู่ที่ 27,900 บาท  มีขายที่ BaNANA ใครที่สนใจรุ่นอื่นเพิ่มเติมดูได้ที่ลิ้งค์นี้  >>> https://bit.ly/33AjfrI

UNBOX

  • ตัวเครื่อง ASUS Zenbook 14
  • Adaptor ชาร์จไฟ 65W USB-C PD
  • คู่มือ ใบรับประกัน
  • ซองสำหรับใส่เครื่อง
  • Adaptor แปลง USB-C ไป 3.5 มม.

DESIGN

งานออกแบบ Zenbook ยังคงมีความโดดเด่นของตัวเองการที่สานต่อจากรุ่นเดิมๆทั้งเอกลักษณ์ลวดลาย Zen สวยงามพร้อมกับงานประกอบที่แข็งแรงและได้มาตรฐานที่ดี MIL STD810G ทำให้มีความมั่นใจในการใช้งานได้ดีขึ้น ส่วนความเบา บางนั้นยังคงเป็นจุดเด่นของรุ่นนี้ที่บางมากและยังพกพาได้ง่ายเบาถือว่าเหมาะสำหรับสายทำงานพกพา และยิ่งได้ใช้งานหน้าจอที่มีความแม่นยำและ intel i5 Gen11 รุ่นล่าสุดทำให้สายทำงานพกพารองรับได้ดี ด้วยน้ำหนักแค่1.17KG เท่านั้น ซึ่งในรุ่นที่รีวิวนั้นจะเป็นสีเทาๆนิดๆครับและเล่นลวดลายปัดเงาสวยงามตามขอบ

ดีไซน์ตัวเครื่องมาในขนาดหน้าจอ 14 นิ้วแต่มาในบอดี้ขนาด 13.3 นิ้วเท่านั้นจะเห็นได้เลยว่าขอบบางสะใจพร้อมกับกล้องหน้าพร้อมสแกนใบหน้า 3 มิติยังคงใส่เข้ามาให้ไม่ได้ตัดออกไปไหน ส่วนคีย์บอร์ดเต็มสัดส่วนตัวเครื่องพร้อมกับการออกแบบ Numberpad 2.0 ที่รองรับการสัมผัสและเปิดปิดได้ครับ ส่วนงานประกอบสวยงามเช่นเดิม

ฝาหลังนั้นยังคงโดดเด่นในการเล่นลวดลายพร้อมกับสะท้อนแสงสวยงาม มีการย้ายโลโก้มามุมขวาเข้ามาแทนพร้อมกับเล่นตัวอักษรปัดเงาโครเมี่ยม ส่วนในด้านหลังนั้นจะเป็นแบบด้านพร้อมกับเส้นสายแบบคมๆ พร้อมกับช่องระบายความร้อนตรงกลางนิดหน่อย จะไม่มีช่องส่วนอื่นๆเพิ่มเติมครับแน่นอนว่ารุ่นพวกนี้ไม่ได้มีพลังงานเยอะ ความร้อนสะสมไม่ได้มากเท่าสาย Gaming และ Gen11 intel ก็กินไฟน้อยลง ประหยัดไฟมากขึ้น เย็นขึ้นด้วยครับ

ข้อพับต่างๆนั้นดูแข็งแรง พร้อมกับการออกแบบ Ergo Lift ยังคงใส่เข้ามาให้และเอียงองศาได้เยอะพอสมควร ส่วนงานประกอบการเก็บขอบอะไรนั้นสวยงามเช่นเดิม มีเหลี่ยมมุมชัดเจนแต่รุ่นนี้จะไม่ได้มีการเล่นสีทองตัดขอบอะไรส่วนทางด้านแป้นพิมพ์นั้นจะเห็นเลยว่าสุดขอบเครื่องพร้อมกับปุ่ม Arrow ที่ค่อนข้างเล็กพอสมควรเลยแต่ก็ใช้งานได้

ทางด้านช่องระบายความร้อนของบอดี้ยิงออกด้านหลังตรงส่วนล่างของหน้าจอเช่นเดิม ระบายได้ค่อนข้างดีเป็นตำแหน่งที่หลายๆเครื่องใช้งานกันและทางด้าน ASUS มี ERGO Lift ก็ช่วยให้ยกตัวเครื่องขึ้นมาอีกด้วยนั้นเอง และขอบหน้าจอที่ออกแบบมาใหม่ก็ทำให้บางมากขึ้น Nano Edge และขอบบนหน้าจอยังคงมีกล้องหน้า และ IR สแกนใบหน้าใส่เข้ามาและออกแบบบได้บางมากขึ้นพอสมควรครับและไมค์ให้มา 2 ตัวพร้อมใช้งานในการคุย วีดีโอคอล

SPEC 

  • Finish / Color Pine Grey
  • Operating System Windows 10 Home
  • Pre-installed Microsoft Office Home and Student 2019
  • Processor Intel® Core™ i5-1135G7 processor 2.40 GHz quad-core with Turbo Boost (up to 4.20GHz) and 8MB cache
  • Graphics Intel® Iris® Xe Graphics (Intel® Core™ i5 models)
  • Display 14” Full HD (1920 x 1080), 16:9 aspect, anti-glare screen, 300nits brightness display Four-sided frameless NanoEdge design with 90% screen-to-body ratio 2.5mm-thin side bezel and 10.9mm bottom bezel1 IPS-level wide-view technology
  • Memory 8GB LPDDR4X (Intel® Core™ i5 models)
  • Storage 512GB PCIe® NVMe™ 3.0 M.2 SSD
  • Interfaces 2 x Thunderbolt™ 4 USB-C® (up to 40Gbps) 1 x USB 3.2 Gen 1 Type-A (up to 5Gbps)1 x Standard HDMI 1 x MicroSD card reader
  •  Edge-to-edge design, full-size backlit, with 1.4mm key travel Touchpad / NumberPad2
  • Glass-covered; intelligent palm-rejection
  • Precision Touchpad (PTP) technology supports up to four-finger smart gestures
  •  ASUS SonicMaster stereo audio system with surround-sound; smart amplifier for maximum audio performance Array microphone with Cortana and Alexa voice-recognition support Certified by Harman Kardon
  • Camera 3D IR HD camera with Windows Hello support
  • Wireless Connectivity WiFi Intel WiFi 6 with Gig+ performance (802.11ax) Bluetooth® Bluetooth 5.0
  • Battery and Power Up to 15 hours battery life4 (all other models) 67Wh 4-cell lithium-polymer battery 65W power adaptor
  • Weight and Dimensions Height: 1.39cm (0.54 inches)
  • Width: 31.9cm (12.5 inches)
  • Depth: 20.8cm (8.18 inches)

PERFORMANCE  I5 Gen 11 

ทางด้านประสิทธิภาพรุ่นนี้อัพเกรดมาใช้งาน ตัว CPU Intel® Core™ i5 1135G7 Processor, ตัวล่าสุด ความเร็ว 0.80 GHz  ถึง 4.70 GHz  แบบ 4 คอร์ 8 เทรด ที่ TigerLake 10nm ส่วนทางด้านการ์ดจอ นั้นมาพร้อมกับการ์ดจอในตัวคือ Intel Iris Xe ที่ก็ใช้งานได้ระดับนึงเลย และให้ RAM 8GB Bus 3200 mHz ไม่สามารถอัพเกรดได้ และในเรื่องของความจุนั้นมาพร้อมกับ SSD 512GB ครบๆเลยแหละ ครับสำหรับรุ่นนี้แน่นอนว่าในส่วนของคะแนนก็พอใช้งานได้พอสมควร เป็นรุ่นแรกที่มาพร้อม Pre-installed Microsoft office Home & Student พร้อมใช้งานเลย ไม่ต้องซื้อเพิ่มแต่อย่างไร ถือว่าให้มาครบพร้อมใช้งานกัน

PCMARK คะแนนทำได้  4192 ถือว่าตามระดับของ CPU i5 ระดับกลาง เป็นการเรนเดอร์ในหลายๆอย่างที่เสมือนกับทำงานจริงๆในแง่ของการใช้งานทั้งหมดเวลาใช้งานคอมพิวเตอร์คะแนนเอาจริงๆถือว่าไม่แย่เลยนะถ้าเรามองในราคาแค่นี้ และทำคะแนนออกมาได้ประมาณนี้แน่นอนว่าดีกว่า CPU รุ่นก่อนเยอะ ทำให้ตัวนี้ถือว่าน่าพอใจครับทำงานทั่วไปสบายๆไม่ต้องกังวลอะไร และทำคะแนนรวมๆนั้นถือว่ารองรับการทำงานทั้งหมดได้หลากหลายและเต็มประสิทธิภาพกว่าแบบชัดเจนครับ ทางด้านความร้อนนั้น CPU 74 และ GPU 74 ครับสำหรับการทดสอบนี้

3D MARK เราทดสอบแบบพื้นฐานกันในส่วนของ Sky driver / Wild Life /Night Raid ถือว่าทำคะแนนได้ดีเอาเรื่องเลยคะแนนในส่วนของ Night Raid ตัวนี้ทำได้ 8837 คะแนน การประมวลผลของรุ่นนี้ในแบบ 3 มิติ ทำได้ดีมากๆแม้จะไม่มีการ์ดจอแยกเข้ามาช่วยด้วยแต่ทำคะแนนได้สูสีเท่ากับพวก MX เลย  ใช้งานได้ในแง่ของการเรนเดอร์พวก 3 มิติทั้งหลาย ถือว่าสบายๆไม่ต้องกังวลทำให้การทำงานต่างเรนเดอร์เริ่มต้นอะไรสบาย ส่วนเรื่องคะแนน Sky Driver นั้นแตะ 8362 เลย และ Wild Life นั้น 9689 ได้เลยครับ ความร้อนที่ทดสอบนั้น CPU  77 กับ GPU 78 สำหรับตัวนี้ ทดสอบในสภาพอากาศปกติครับ ถือว่าเป็นการ์ดจอติด CPU ที่ทำได้ดี

CINEBENCH R20 -15 ตัวนี้คะแนนวัดที่ CPU ล้วนๆเลยแหละทำไปได้  415 ทำได้ดีมาก อย่างที่บอกว่ารุ่นนี้คือมาแรงมากและพัฒนาดีขึ้น ในคะแนนของตัว R20 ที่โหดกว่าเดิมนั้นทำไปได้ 1200  ถือว่าคะแนนดีเลย ในแง่การประมวลผลของ CPU แอบดีกว่าตอนรุ่นที่แล้ว i5 แบบชัดเจนเลย ส่วนตัวนี้มาพร้อมกับ SSD ทำคะแนนการอ่านไปได้  1844 ส่วนเขียนที่ 974 จากทดสอบหลายๆครั้ง การอ่านเขียนนั้นถือว่าธรรมดากลางๆ ครับ ส่วนแรมให้มา 512GB  ถือว่าเพียงพอและความเร็วความจุนั้นสบายๆในการใช้งานทั่วไป รวมถึงทำงาน

SCREEN

รุ่นนี้มาพร้อมกับหน้าจอขนาด 14 นิ้ว LED-backlit Full HD (1920 x 1080) อัตราส่วนหน้าจอที่ 16:9  การออกแบบขอบบางแบบ NanoEdge display รองรับมุมมองกว้าง  178° ทำให้มุมมองของภาพนั้นไม่แพ้กับพวกหน้าจอ IPS เลย ตัวคุณภาพหน้าจอตัวนี้ถือว่าทำได้ดีกว่ารุ่นก่อนๆ หน้าจอสามารถสู้แสงได้ดีกว่าเดิม คุณภาพหน้าจอที่ดีขึ้นรวมถึงพวกสีสันและมิติของตัวภาพ ใช้งานหน้าจอแบบด้านด้วยสะดวกพอสมควร หน้าจอเมื่อมองจากด้านข้างเนื่องจากมันเป็นจอที่รองรับมุมมองภาพได้กว้างมากๆ เพราะไม่เจออาการดรอปของสีหน้าจอและแน่นอนว่าจอในตระกูล Zenbook ถือว่ามีความสวยและสีค่อนข้างตรงใช้งานได้ดี แตะ 90% sRGB ได้เลยและทำให้มันเป็นจุดที่ค่อนข้างแตกต่างกับ Vivobook ของตัวเองและใครเน้นทำงานรุ่นนี้น่าจะทำได้ดีเลย แน่นอนว่ายังคงเป็นหน้าจอแบบด้านอันนี้ถือว่าตอบโจทย์ สามารถเอาไปแต่งภาพ ตัดต่อ รุ่นนี้ต้องบอกว่าสีตรงและมีคุณภาพ

เมื่อใช้งานกลางแจ้ง นั้นถือว่าทำได้ดีครับดีกว่ารุ่นก่อนหน้า ในเรื่องของมุมมอง การสู้แสงที่รู้สึกว่าดีขึ้นการเป็นหน้าจอแบบด้าน ทำให้ไม่เจอแสงสะท้อนรบกวนเท่าไร หน้าจอทำขอบหน้าจอต่างได้ค่อนข้างบางเหมือนกับรุ่นอื่นๆก่อนหน้านี้และยังไม่ตัดกล้องหน้าทิ้งไปไหนด้วย หน้าจอในรุ่นนี้ทำได้ดีกว่าที่คิดในเรื่องของสีสันต่างๆซึ่งถือว่าเอามาทำงานได้สบายครับแม่นยำระดับนึงและดีกว่าพวกสายเกม และ รุ่นที่ต่ำกว่านี้แบบชัดเจน ซึ่งในงบประมาณนี้จอตัวนีถือว่าทำได้ดีครับทั่วไปโอเคเลยแหละ ความสว่างแม้จะเป็น 300Nits แต่การใช้งานภายในอาคารต่างๆนั้นสบาย

KEYBOARD 

ทางด้านคีย์บอร์ดนั้นใช้งาน Layout ที่เราคุ้นเคยกันดีเลยแหละ รวมถึงความรู้สึกปุ่มสัมผัสอะไรต่างๆเป็นแบบเดียวกับพวกรุ่น 14 นิ้วก่อนหน้าทั้งหมด ระยะห่างอะไรนั้นทำได้ดีเช่นเคย รวมถึงการกดต่างๆ ตัวแป้นพิมพ์นั้นใช้งานดีกว่าตัวอื่นๆ ด้วยการยกตัวข้างหลังขึ้นมานั้นทำให้มันพิมพ์ได้ง่าย และระยะองศาไม่เมื่อยมือคือจุดเด่นของมัน ส่วนปุ่มต่างๆใช้โทนสีเดียวกับตัวเครื่องและมีไฟ Blacklit สีขาว ปุ่มนั้นจะออกเทาๆ และไฟสีขาวมองเห็นชัดเจนและใช้งานได้ดี ดีกว่าปุ่มสีอ่อนเยอะมาก และการจัดวางนั้นชิดขอบซ้ายขวาทั้งหมดทำให้ตัวเครื่องมีขนาดเล็กลงกว่าเดิม

การยกตัวเครื่องในรุ่นนี้อาจจะไม่ได้ยกสูงแบบบางรุ่น แต่ก็ยกขึ้นมานิดหน่อยพอสะดวกและถนัดขึ้น โดยรวมนั้นในความรู้สึกของตัวปุ่มรวมๆนั้นกดได้ง่าย และความรู้สึกดีกว่ารุ่นเดิมนิดหน่อย เพราะการออกแบบมีการปรับเปลี่ยนให้ดีขึ้นแต่ระยะนั้นไม่ได้แตกต่างกับของเดิมเท่าไร แต่ทรงปุ่ม ระยะเว้นต่างๆนั้นทำได้ดีขึ้น ตรงแป้นพิมพ์นั้นจะเป็นตัวอักษรสีน้ำตาลตัดกับสีปุ่มชัดเจนดี ส่วนระยะในการกดปุ่มของตัวคีย์บอร์ดระยะการกดที่ 1.4 มม.ใครที่ใช้ค่ายนี้มาบ่อยๆคงไม่ต้องปรับตัวอะไรมากครับเพราะ Zenbook จะใกล้ๆกันทั้งหมด และให้ NumberPad 2.0 มาให้ครบ

TOUCHPAD 

ตัว Numpad จริงๆนั้นถือว่าเป็นจุดที่ค่อนข้างชอบมากๆเพราะว่าค่ายนี้ยังคงเดินหน้าพัฒนา ทั้งการใช้งาน Numberpad ที่รวมกันกับ Touchpad ทำให้สามารถแตะใช้งาน Number Pad และ กดเลขอะไรได้ทันที และเมื่อเปิดแล้วก็ยังสามารถใช้งาน Cursor ได้ปกติครับ ส่วนทางด้านไฟนั้นสามารถปรับระดับแสงสีได้ 3 ระดับจะแยกกับคีย์บอร์ดทั้งหมดนะครับ ส่วนการสัมผัสใช้งานนั้นไม่มีปัญหาเลย เพราะค่ายนี้ยังคงพัฒนาอะไรมาได้ต่อเนื่องจริงๆ ส่วนทางด้านขนาดตัว Touchpad นั้นต้องบอกว่ามีขนาดกำลังดีเมื่อเทียบกับขนาดตัวเครื่องครับ รองรับการใช้งานหรือว่าวางนิ้วได้ดีเอาจริงๆ ถือว่ามีความยาวมากๆเพราะว่าสามารถวางทั้ง 5 นิ้วลงไปได้เลยเมื่อเทียบกับขนาด 13.3 นิ้วรองรับได้สบายมากๆ แม้ตัวเครื่องจะเล็กก็ตาม ส่วนทางด้านระบบตอบสนองอะไรนั้นถือว่าไม่มีปัญหาอะไรเลยครับ

SPEAKER

Harman/Kardon เช่นกันจะเหมือนกับพวก Zenbook ตัวอื่น เลยนั้นเองเสียงที่ได้ต้องผ่านมาตรฐานของแบรนด์ว่าสมควรที่จะแปะชื่อลงไปด้วยนั้นเอง เสียงตัวนี้มาพร้อมกับลำโพงหลักๆ 2 ตัวซ้ายขวายิงลงพื้นที่มุมเครื่องทั้ง 2 เสียงที่ได้นั้นดังพอประมาณ อาจจะไม่ได้ดังสะใจมาก แต่เสียงที่ได้รู้สึกแตกต่างกันเลย คือมิติเสียง เบสพวกนี้นุ่มและมาดีกว่าเดิมเนื่องจากรุ่นก่อนๆนั้นเสียงจะค่อนข้างแห้งๆแบนๆ แต่รุ่นนี้คุณภาพเสียงมาดีขึ้นเยอะ แต่ความดังไม่ได้หนีจากเดิมมากเท่าไร เสียงแยกซ้ายขวาได้ดี เสียงเพลงฟังสบาย รวมถึงการดูหนังต่างๆนั้นเสียง Effect  ก็รู้สึกถึงความแน่นขึ้นกว่ารุ่นก่อนหน้าอื่นๆแบบรู้สึกได้เลยแหละ ก็ถือว่าเข้าถึงทุกระดับแล้วสำหรับแบรนด์เครื่องเสียงนี้

CONNECTOR 

พอร์ตเชื่อมต่อนั้นต้องบอกว่าให้มาครบมากๆ ให้ HDMI มาให้แต่ตัดรู 3.5 มม. ออกไป และในฝั่งซ้ายนั้นให้มาทั้ง USB-C Thunderbolt 4 ทั้ง 2 ช่องครับ รองรับการชาร์จไฟเข้า หรือว่าจะเป็นการโอนถ่ายข้อมูลอะไรทั้งหมด หรือจะเป็นการต่อจอภายนอกด้วยเช่นกัน มีไฟสถานะตัวแบตใส่เข้ามาให้ มีการเว้าลำโพงไว้ให้ในด้านหน้า และตัวเครื่องนั้นบางเบามากๆ 1.17 KG เท่านั้น  มาพร้อมตัวแปลง USB-C 3.5 มาให้ครับแต่ไม่มี RJ45 นะ

ส่วนทางด้านขวานั้น ไม่มีรู 3.5 มม. แต่ยังคงมีช่องเสียบ Micro-SD มาให้ในตัวเครื่องและ USB-A 3.2 GEN 1 ยังคงใส่มาให้ใช้งาน 1 พอร์ต สำหรับใครที่ยังคงใช้งานพอร์ตแบบนี้อยู่ ถือว่าเกือบครบทั้งหมดแล้วและเพียงพอมากๆ ในการใช้งาน ส่วนการเชื่อมต่อไร้สายนั้น Wifi 6 พร้อมใช้งานและ Bluetooth 5.0 ก็ใส่เข้ามาให้ด้วยครับ

WORKING i5 Gen 11 TigerLake  เรนเดอร์เด่น !

INTEL ในการพัฒนาขึ้น นั้นแน่นอนว่ารองรับการทำงานทั่วไปเช่น Microsoft ทั้งหมด อันนี้รองรับได้สบาย Excel Word สบายครับพวกนี้ไม่มีปัญหา และ RAM 8 GB ก็เพียงพอ ส่วนของ ADOBE รองรับได้สบายอยู่ครับในส่วนของ Photoshop แบบเบาๆ ไม่ได้หลายเลเยอร์เยอะหรือไฟล์ไม่หนัก จริงๆ CPU มันไหวสบายๆ ทำงานหลายๆอย่างพร้อมกันอาจะต้องไม่เยอะมาก เพราะ RAM 8GB เท่านั้น ไม่สามารถเพิ่มได้ แต่ถ้ามองในมุมทำงานได้ค่อนข้างดีเลยแหละเพราะ ทำงานรวมๆทำได้ดีกว่าตัวเดิมนะ รองรับการทำงาน 3 มิติระดับเริ่มต้น การตัดต่อไฟล์วิดีโอ หรือ เรนเดอร์ได้แบบไฟล์ไม่หนักมาก ส่วนการดูหนังฟังเพลงทั่วไปสบาย โปรแกรมดูหนัง อื่นๆที่รองรับได้สบายไม่มีปัญหา หลักๆจะเน้นทำงานเบาๆจะดีกว่าครับในรุ่นนี้ หรือต่อภาพออกพรีเซนต์งานอะไรก็ทำได้สบาย มีพอร์ตเชื่อมต่อต่างๆ และ USB มาให้ค่อนข้างครบเลยแหละ แต่งานหนักๆแนะนำว่าเน้นทำงานแบบด่วน หรือ ฉุกเฉินจะเหมาะกว่า

จากที่ได้ทดสอบจริงๆครับในการทำงานพวก ADOBE ทั้งแต่งภาพ ตัดต่อ หรือ เรนเดอร์ เท่าที่ทดลองการทำงานถ้าใช้งานแค่โปรแกรมเดียวมันสามารถตัดต่อวิดีโอ 4K ได้ด้วยในความยาวไม่เยอะมากนักอันนี้ถือว่าดี เลยขอเรนเดอร์เทียบกันทั้งหมดในการเรนเดอร์ไฟล์เดียวกันทั้งหมด ตั้งค่าเหมือนกันทั้งหมดครับจะเห็นว่า i7 จะเรนเดอร์ได้ไวกว่าประมาณ 10+ นาทีครับ แตกต่างกันนิดหน่อยในแง่ของการทำงานจริงถ้าเน้นการเรนเดอร์วีดีโอจะเล่นตัว i7 จะทำเวลาได้ดีกว่า ส่วนตัว Photoshop – Illustrator  พวกนี้รองรับได้สบายๆ เท่าที่ลองไม่เจอหน่วงเลย ถือว่าตัว CPU ประสิทธิภาพมันรองรับพวกนี้ได้ แต่ RAM แอบน้อยไปหน่อย แต่ก็อย่างว่ามันไม่ได้เน้นทำงานหนักมาก

GAMING Intel Iris Xe เอาอยู่สบาย !

intel i5 i7 Gen 11 10nm Tiger Lake นั้นถือว่าพัฒนาขึ้นพร้อมกับ IRIS Xe Graphic  Onboard ครับใน การทดสอบเล่นเกม Overwatch ได้ค่อนข้างลื่นและ FPS 65+ สบายๆ ความร้อนนั้นประมาณ 70+องศา และ CPU แตะไป  80 องศา ครับถือว่าปกติของพวก Ultrabook เล่นในสภาพอากาศไม่มีแอร์ ไม่มีพัดลมครับ  และจากที่ทดสอบนั้นเลยของลองตัว PUBG นั้นได้ FPS 35+  ส่วนความร้อนนั้นไม่ได้แตกต่างกันมากครับในการเล่นเกม และ COD MW ก็พอไหวด้วยครับถือว่าน่าสนใจเลยในตัว การ์ดจอในตัวแบบนี้ ความร้อนระบายได้กลางๆเพราะมันเป็น Ultrabook ไม่ได้สายเกม รับได้ในการเล่นเกมทั่วไปพื้นฐานปรับลื่นได้สบายครับผม เมื่อเทียบกันทั้ง 2 รุ่นนี้

ASUS ZENBOOK 14 With i5 Gen 11

” Zenbook14 เร็วแรงด้วย I5 Gen11 พัฒนาขึ้นชัดเจน รองรับการทำงานหลากหลาย “

INTEL ถือว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่สำหรับฝั่ง Laptop Mobile ทั้งหมด แน่นอนว่าทั้งการเปลี่ยนแปลงเพื่อสู้กันในตลาดมากขึ้น ทำประสิทธิภาพดีขึ้น ประหยัดไฟมากขึ้น และตอบโจทย์การทำงานทั้งการเรนเดอร์หรือจะเป็นการเล่นเกมได้ดีขึ้นจนน่าตกใจแม้จะเป็นรุ่น i5 ก็ตาม การพัฒนา Gen11 ครั้งนี้ถือว่าเป็นก้าวสำคัญอีกครั้งของค่ายนี้มาพร้อมกับการเปลี่ยนแปลง Iris Xe ที่พัฒนาเทียบกับ MX ได้สบายแต่ได้ประหยัดแบตแบบมหาศาล เข้ามาแทนทำให้การพกพาใช้งานข้างนอก หรือจะเป็นการทำงานระดับกลางไปสูงก็ยังรองรับได้สบายในแง่ของ CPU ตัวนี้ และทางด้าน ASUS เองยังคงเด่นมากๆในเรื่องการพัฒนาความบาง เบา กับ Zenbook พร้อมกับความแข็งแรงและการออกแบบ Ergo Lift ที่ช่วยอะไรได้เยอะมากขึ้นในการใช้งาน และหน้าจอที่มีความแม่นยำสูงมากๆ คุณภาพดีอันดับต้นๆในเรทราคานี้ ฟีเจอร์การช่วยสแกนใบหน้า ลำโพงอะไรนั้นยังคงไว้ใจได้ จึงไม่แปลกใจว่าทำให้รุ่นนี้ถึงน่าใช้งานและ ทาง BaNANA ก็มีโปร ราคาและของแถมน่าสนใจหลากหลายมากมาย หาซื้อไปลองจับกันได้เลยนะครับ หรือใครที่สนใจรุ่นอื่นเพิ่มเติมดูได้ที่ลิ้งค์นี้  >>> https://bit.ly/33AjfrI

ข้อดี

  • intel Gen 11 จัดการเรื่องประสิทธิภาพ ความร้อนได้ดี
  • Iris Xe ทำได้ดีในแง่ของการประมวลผล 3D
  • การจัดการแบตถือว่าทำได้ดี
  • งานออกแบบตัวเครื่อง ถือว่ามีความพรีเมี่ยมและสวยงาม
  • ตัวเครื่องทำได้บางเบา พกพาสะดวก
  • พอร์ตเชื่อมต่อให้มาเพียงพอ Thunderbolt 4 ทั้ง 2 ช่อง
  • มี Windows 10 แท้มาให้พร้อมใช้งาน
  • ASUS NumberPad 2.0  ทำงานได้ดี
  • รองรับการสแกนใบหน้า IR
  • หน้าจอสวย ขอบจอบางสวยเทคโนโลยี Nano Edge
  • หน้าจอมีคุณภาพที่ดี สีสันแม่นยำ และ มิติภาพสวย
  • ได้มาตรฐาน MIL-STD-810G
  • ประกัน 3 ปี On-site Service พร้อมประกันอุบัติเหตุ 1 ปีแรก

ข้อสังเกต

  • RAMไม่สามารถอัพเกรดได้
  • ไม่มีรู 3.5มม.
  • SSD ติดเครื่องไม่ได้เร็วมากนัก อยู่ในระดับกลาง

สำหรับรีวิวนี้ผมก็ต้องขอตัวลาไปก่อนสำหรับรุ่นอื่นๆก็ติดตามกันได้เลย ถูกใจฝากกดไลค์กดแชร์ด้วยนะครับ  มีข้อผิดพลาดประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ  เพื่อนๆสนใจอยากให้พวกผมรีวิวรุ่นไหนสามารถ Inbox มาบอกเราได้เลยนะ
ฝากไลค์เพจ FACEBOOK เราด้วยนะครับ >>>>>>>>>  TECHHANGOUT

เข้าร่วมกลุ่ม TECHHANGOUT พูดคุยแลกเปลี่ยน ข้อมูล คุยกันเองชิลๆได้เลยที่ — Facebook  Techhangout พูดคุย Smartphone gadget 

Review By Nineztr

 

Comments กันได้เลย !

Comments

0 Shares