Asus ได้ทำการเปิดตัว Notebook ที่มาพร้อมเทคโนโลยี intel Optane เป็นเทคโนโลยีที่น่าสนใจอย่างมากเลยครับมันทำให้ HDD นั้นทำงานได้ไวไปเทียบเท่า SSD ได้เลยเป็นอีกจุดเด่นนึงที่น่าสนใจเลยมีประโยชน์ในการใช้งานอย่างมาก โดยในรุ่นนี้ก็มีเทคโลยีนั้นมาด้วย และสเปคและราคาทำออกมาได้ไม่เลวเลยแหละ ตัวนี้คือ Asus  X407 ในรุ่นท็อป ที่มาพร้อมกับ i5 และ การ์ดจอแยก MX130 ครับผม รวมถึงมีความเบาและดีไซน์ที่สวนยงามขอบจอก็บางใช้ได้เลยแหละ เราจะมาดูกันว่าในเรทราคาแค่ 19000 มีทอนนั้นกับเทคโนโลยีตัวนี้จะน่าเล่นขนาดไหนกัน

Asus X407 เปิดตัวมาด้วยความโดดเด่นในการใช้งานทั่วไปอย่างมากครับด้วย ที่มี น้ำหนักเบาเพียง 1.55 กิโลกรัม และมา พร้อมซีพียู Intel® Core™ i5  และยังมีการ์ดจอ แยกจากทาง NVIDIA GeForce MX130 และมาพร้อมกับ RAM 4GB DDR4 และอีก 1 จุดขายจุดเด่นมันเลยคือ Intel® Optane™ 16G M.2, SATA และทำงานร่วมกับ 1TB HDD ทำให้ความเร็วของ HDD นั้นพุ่งไปเลยทีเดียว และราคาน่าคบหาอย่างมาก

ASUS X407 เครื่องแรกของเอซุสที่มาพร้อม หน่วยความจำ Intel® Optane™ สามารถหาซื้อได้ที่ร้านไอทีชั้นนำทั่วประเทศในราคาเริ่มต้นที่ 15,990 บาท สำหรับ Intel® Core™ i3-7020U และ 18,990 บาท สำหรับ Intel® Core™ i5–8250U ตัวที่รีวิว*   โดยจะวางจำหน่ายในสี Star Grey นอกจากนี้เอซุสยังวางจำหน่าย ASUS X407 ในรุ่นปกติ ราคาเริ่มต้นที่ 14,990 บาท สำหรับ Intel® Core™ i3-7020U Processor และ 17,990 บาท สำหรับ Intel® Core™ i5-8250U Processor

UNBOX

ตัวอุปกรณ์ในกล่อง และกล่องโดยรวมนั้นเน้นเรียบๆและไม่มีกล่องย่อยอะไรครับผม ส่วนของอุปกรณ์นั้นมีมาให้ค่อนข้างครบพอต่อใช้งาน มี Adaptor ที่หน้าตาคุ้นเคยกันดี และ คู่มือ และสุดท้ายเป็นตัวเครื่องAsus X407นั้นเองครับ

DESIGN 

หน้าตาการออกแบบของรุ่นนี้มีการเล่นสีสวยงามทั้งวัสดุสีเงินครับ แต่เมื่อเราลองสัมผัสและใช้งานของจริงนั้นจะแอบรู้สึกถึงความเบาบาง และ วัสดุเป็นพลาสติกทั้งหมดครับค่อนข้างดูบอบบางนะคือสัมผัสโดยรวมมันอาจจะไม่ได้ดีมากนักด้วยเรทราคาประมาณนี้ นั้นเองแต่ที่ใช้งานดูก็ยังไม่เจออาการหรืออะไรที่ผิดปกติครับพวกวัสดุรอยต่ออะไรพวกนี้ จริงๆการออกแบบเมื่อดูภายนอกนั้นมันดูดีและสวยเลยแหละทั้งการเล่นสีวัสดุ ตัวขอบจอที่บางพอสมควร และวัสดุสีดำทำให้ขอบหน้าจอนั้นค่อนข้างกลมกลืนและดูดี พกพาง่ายครับเวลาไปไหนมาไหนเพราะมันเบานั้นเอง

ฝาหลังนั้นเป็นการเล่นกับการออกแบบวัสดุดูดีมากจริงๆเหมือนกับอลูมิเนียมปัดลายเลยแต่จริงๆนั้นเป็นพลาสติกที่ขึ้นลายสวยงามและฝาหลังมันให้ความรู้สึกดีเหมือนกันครับทนทานต่อรอยได้ดีเลย และเล่นกับแสงได้สวยงาม มีโลโก้ Asus ตรงกลางเป็นวัสดุเงาฝังลงไปครับ ดูสวยไม่ใช่แค่การสกรีนลงไปแต่เป็นวัสดุอีกแบบพร้อมกับลายวงๆเช่นเคย

เมื่อเปิดฝาขึ้นมานั้นก็ยังเป็นหน้าตาที่คุ้นเคยกัน วัสดุคล้ายๆกับส่วนของฝาหลังครับขึ้นลายที่แตกต่างกันในส่วนของคียบอร์ดและส่วนของฐานรองมือครับ ก็ถือว่าทำได้สวยดี ลายคมชัด แต่วัสดุมันก็ยังเป็นพลาสติกซะส่วนใหญ่ครับแป้นพิมพ์นั้นมาแบบเต็มรูปแบบในขนาดเครื่อง 14 นิ้วไม่มี Numpad นะครับ แถมยังมีสแกนนิ้วมาให้ด้วยในราคานี้ !!

ตัวหน้าจอรุ่นนี้มาพร้อมจอความละเอียดแบบ HD เท่านั้นในขนาด 14 นิ้วแต่ตัวเครื่องสามารถยัดลงไปได้ในขนาดประมาณ 13 นิ้วเท่านั้นเองถือว่าเป็นอีกข้อดีของขอบจอแบบบางครับหน้าจอนั้นใช้งานทั่วไปไม่ได้รู้สึกไม่คมชัดอะไรแต่จะมีเรื่องของมุมมองของหน้าจอครับที่ถ้าเอียงมองหรือมองจากมุมอื่นๆนั้นทำให้มันดรอปลงแบบชัดเจนเลยส่วนกล้องหน้านั้นยังมีมาให้เหมือนเดิมพร้อมกับอยู่ด้านบนครับ ขาพับทั้ง 2 ข้างแข็งแรงพอสมควรไม่โยกเยกอะไรเลย

ตัวฐานของขอบจอนั้นเป็นการออกแบบข้างหลังให้มันมีเหมือนตัวบั้งขึ้นมารับกับขอบหน้าจออีกชั้นเป็นการดีไซน์ที่ก็ดูเข้าไปกับรูปทรงโดยรวมครับ ขาพับนั้นมีขนาดใหญ่ดูแข็งแรงและใช้งานจริงก็ไม่เจออาการโยกเยกอะไรกางได้ค่อนข้างเยอะด้วยครับ ดีไซน์โดยรวมจะยังคงมีความโค้งมลซะส่วนใหญ่และเน้นวัสดุพื้นผิวให้ดูมีอะไรมากกว่าวัสดุเรียบๆ

ในส่วนของฐานด้านล่างนั้นก็มีรูระบายความร้อนมาให้พอสมควรเลยแหละ และยางรองทั้ง 4 มุมครับเป็นวัสดุพลาสติกทั้งหมดเช่นกันแต่ในส่วนของฐานด้านล่างนั้นไม่มีการเล่นพื้นผิวอะไรครับเรียบๆเลยและมีช่องลำโพง ทั้ง 2 ข้าง และจะเห็นว่ามีช่องที่สามารถเปิดออกมาได้นั้นเป็นช่องที่เราสามารถใช่ไขควงเปิดออกมาเพื่ออัพเกรดคอมพิวเจอร์ของเรา

ตัวช่องนี้ทำให้เรานั้นสามารถเปิดออกมาได้ง่ายๆและทำให้เราอัพเกรด RAM ได้ค่อนข้างสะดวกเลยแหละ เพิ่มได้อีก 1 นะครับจากของเดิม หรือใครจะอัพเกรดทั้งคู่เลยก็ได้เช่นเดียวกันครับ เป็นแบบ 4 GB DDR4 1 แถวครับผม

SPEC

  • Intel® Core™ i5 8250U Processor, 1.6 GHz (up to 3.4 GHz)
  • Windows 10 Home – ASUS recommends Windows 10 Pro.
    การพรีโหลด OS แตกต่างกันไปในแต่ละรุ่น กรุณาตรวจสอบจากตัวแทนจำหน่าย ก่อนการสั่งซื้อผลิตภัณฑ์
  • 4 GB DDR4 2400MHz SDRAM, 1 x SO-DIMM socket , up to 16 GB SDRAM
    up to 16 GB Intel® Optane™ memory
  • 14.0″ (16:9) LED-backlit HD (1366×768) 60Hz Anti-Glare Panel with 45% NTSC
    With ASUS Splendid
  • Integrated Intel HD Graphics 620
    NVIDIA® GeForce® MX130 , with 2GB GDDR5 VRAM
  • Hard drive: 1TB 5400 rpm SATA HDD
  • Multi-format card reader
  • WebCam VGAWebcam
  • Wi-Fi
    Integrated 802.11b/g/n
    Bluetooth
    Bluetooth® 4.0 (On selected models)
    1 x COMBO audio jack
    1 x Type-A USB 3.0 (USB 3.1 Gen 1)
    1 x USB 2.0 port(s)
    1 x HDMI
    1 x micro SD card
  • Built-in 2 W Stereo Speakers with Microphone
    ASUS SonicMaster Technology
  • แบตเตอรี่  3 -Cell 33 Wh Battery
  • พาวเวอร์ อะแด๊ปเตอร์
    Plug type :ø4 (mm)
    Output :
    19 V DC, 2.37 A, 45 W
    Input :
    100 -240 V AC, 50/60 Hz universal
  • ขนาด  328 x 246 x 21.9 ~22.9 mm (WxDxH)
  • น้ำหนัก  1.5 kg with battery

PERFORMANCE

Asus X407UF เครื่องรุ่นนี้ที่มาพร้อม INTEL Optane นั้นเป็นสเปคสูงสุดของตระกูลนี้มาพร้อมกับ  Intel Core i5-8250U เน้นประหยัดไฟ และความเร็ว 1.6 GHz เร่ง สูงสุดถึง 3.4 GHz 4 Core/ 8 Thread และมี  Ram  4 GB Bus 2400 และ มาพร้อมการ์ดจอ MX130 ที่เน้นใช้งานทั่วไปได้สบายมาก และ สายเกมได้นิดหน่อยครับ

การ์ดจอรุ่นนี้ยังดีที่ให้การ์ดจอแยกมาด้วยครับ และมีออนบอร์ดมาด้วย คือตัว UHD Graphic 620  เน้นใช้งานทั่วไป และ การ์ดจอแยกเป็นรุ่น NVIDIA GeForce MX130 2GB DDR5 แน่นอนว่าใช้งานหนักขึ้นหน่อย แต่งรูปทำงาน เรนเดอร์ได้พอสมควร และยังเล่นเกมที่ประมวลผลระดับกลางได้ดีเหมือนกันครับ มีไว้ดีกว่าไม่มีและแรงพอสมควร

ในด้าน CINEBENCH R15 นั้นทำได้แรงเลยแหละ 70 Fps / 621Cb เอาเรื่องเลยครับ คะแนนดีกว่า i7 รุ่นเก่าๆเลยและอีก 1 จุดเด่นนั้นก็คือ Optane ที่ต้องบอกว่าคะแนนมันโคตรแรง ! คือมันเป็น HDD 1TB ที่แค่ 5400 รอบแต่มันได้ตัวช่วยดันคือ  Intel Optane Memory  16 GB  ทำงานร่วมกันทำให้ความเร็วทั้งหมดมันพุ่งไป 931 MB/s  และเขียนได้ 158MB/s เป็น HDD ที่แรงเกือบ  SSD m.2 NVMe บอกเลยเอาเรื่องชอบมาเทคโนโลยีนี้ทำให้มันแรงโโยที่งบไม่พุ่งมากและราคาโดยรวมนั้นก็ไม่ได้แพงด้วยครับ

มาต่อกันที่ PCMark 10 ทำคะแนนเอาเรื่องเลยที่ 3,174 คะแนน คะแนนแบบนี้ทำงานทั่วไปได้สบายครับ เขียนข่าว อัพรูป แต่งรูป ตัดต่อ เรนเดอร์ชิวๆได้สบาย หรือใครจะเอามาแค่เข้าเว็บก็ไม่ต้องกลัวครับและจากที่ใช้งานนั้นก็ลื่นไหลไม่ติดปัญหาอะไรเลย ถ้าคนจริงจังหน่อยก็ลองอัพแรมให้มากกว่าเดิมก็ชิวๆแล้วครับสำหรับตัวนี้พกพาง่ายด้วย

สำหรับคะแนนในด้านการประมวลผลแบบ 3D ผ่านทาง 3D Mark ต้องบอกว่าที่คะแนนมันใช้ได้แบบนี้เพราะมีการ์ดจอแยกมาช่วยและมีผลมากๆครับ การทดสอบทั้ง 2 แบบนั้นทำคะแนนได้น่าพอใจและใช้งานได้ดี ในด้านเล่นเกมนั้นจะเห็นเลยว่ารองรับได้ระดับกลาง+ เลยแหละ ทั้งความลื่นไหลและความเร็วในการประมวลผลของรุ่นนี้สบายๆครับ

SCREEN

สำหรับหน้าจอในรุ่นนี้เป็นหน้าจอขนาด 14 นิ้วมาพร้อมกับความละเอียดแบบ HD 1366 x 768 และอัตราส่วน 16:9 ครับ โดยเป็นจอแบบ TN เพียงพอต่อการใช้งานทั่วไปแต่ใครที่เน้นเรื่องจออาจจะต้องเข้าใจจุดนี้ไว้ครับ จอนั้นเป็นจอแบบด้านทำให้ใช้งาน สภาพแสงภายนอกได้ค่อนข้างดีครับ ตัวความคมชัดหรือคุณภาพเอาพูดกันตรงๆเลยคืออาจจะไม่ได้โดดเด่นมากและเมื่อเทียบกับราคาเราก็พอเข้าใจได้ครับว่าในเรทแบบนี้ได้จอประมาณนี้มันก็ไม่ได้เลวร้าย

จอ TN นั้นมีผลยังไงในเรื่องของความสะดวกสบายในการใช้งานจริงๆคือมีผลในแง่ที่คนทำงานเน้นความเที่ยงตรงของภาพ และมุมมองที่รองรับได้กว้างกว่านั้นเองซึ่งในภาพจะเห็นว่าเมื่อเราเอียงไปด้านข้างนิดหน่อยนั้นจะทำให้ภาพที่ได้ค่อนข้างเพี้ยนและดรอปลงครับ หรือตัวคุณภาพโดยรวมนั้นลดลงอย่างมากเลยใครที่เอาไปทำงานหรือตัดต่อแต่งภาพนั้น อาจจะต้องลองดูจุดนี้กันอีกทีครับ แต่ถ้าดูหนัง เล่นเกม ไม่ได้ทำงานที่ต้องเน้นสีมากๆ นั้นก็ไม่มีปัญหาครับ

TOUCHPAD

มาในเรื่องของทัชแพดกันบ้างครับในรุ่นนี้มีขนาดใหญ่มากพอสมควรเมื่อเทียบกับขนาดครับ ตัวปุ่มคลิกซ้ายขวา นั้นเป็นแบบกดได้เลยซ่อนเนียนๆครับ งานประกอบในส่วนนี้ทำได้ดีเลยนะ และการสัมผัสนั้นลื่นแต่แอบมีหนืดๆบ้างบางจังหวะไม่ได้ลื่นแบบรุ่น Zenbook พวกนั้นนครับ แต่ใช้งานจริงๆก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรเลยนะ และมาพร้อม FingerPrint ด้วยครับในเรทราคา นี้ถือว่าทำได้ค่อนข้างดีเลยแหละ และทำงานร่วมกับ Windows Hello ได้ครับ

ขนาดต่อการรับของนิ้วในการใช้งานหลายๆนิ้วนั้นทำได้ดีครับทั้งการ Multitouch และใช้งานทั่วไปเลื่อนไปมาและรวมถึงกดกดตำแหน่งในการวางมือนั้นทำมาได้โอเคเลยแหละ งานประกอบวัสดุโดยรวมนั้นต้องบอกว่าทำได้สมราคา

KEYBOARD

ในเรื่องของคียบอร์ดนั้นรุ่นนี้มาพร้อมคียบอร์ดแบบเต็มๆเลยแหละใช้วัสดุสีดำมาพร้อมกับเป็นวัสดุพลาสติกครับ เป็นขนาดคียบอร์ดที่ใช้งานได้ดีแต่ไม่มีไฟมาให้ และ ไม่มีในส่วนของ Numpad มาให้นะครับ การสัมผัสในการใช้งานระยะห่างนั้นทำออกมาได้ดี ในการวางตำแหน่งปุ่มต่างๆครับ Layout ค่อนข้างเคยชินจากทางหลายๆรุ่นจากทาง Asus Zenbook ครับ ปุ่มเปิดปิดนั้นไปอยู่มุมขวาบนแบบในรุ่นอื่นๆใกล้ปุ่ม Del ครับส่วนขนาดเท่าๆกันทั้งหมด

ในเรื่องของความรู้สึกเวลากดจริงๆนั้น ระยะทาง หรือความนุ่ม เด้งนั้นแอบกลางๆใช้งานได้แต่ไม่ได้ดีมากนักเวลาพิมพ์งาน และ เขียนรีวิว เล่นเกมนั้นอาจจะไม่สะใจหรือไม่มันมือเท่าไรครับ แต่ที่รู้สึกเลยคือ ปุ่มมันติดไวมากๆแอบลั่นง่ายพอสมควรครับ ตัวปุ่มนั้นเวลากดไม่ค่อยแน่นเท่าไรนักแอบมีโยกเยกซ้ายขวาได้นิดหน่อย แต่ถ้าไม่ได้พิมพ์งานเยอะๆหรือเขียนอะไรบ่อยๆนั้นก็อาจจะไม่มีปัญหาอะไรมากครับแต่สำหรับบางคนอาจจะไม่ชินหรือปรับตัวกันนิดหน่อย

SPEAKER 

มาลำโพงกันบ้างครับลำโพงในรุ่นนี้นั้น มาพร้อมกับลำโพงคู่อยู่ด้านล่างมุมซ้ายขวา และลำโพงยังคงใช้เทคโนโลยีเดียวกับรุ่นก่อนๆ Sonic Master เช่นเคยเรื่องของคุณภาพเสียงนั้นทำได้ดี ในเรื่องเสียงแหลม เสียงพูด แต่เบสนั้นยังไม่ค่อยมี แต่ได้เรื่องความชัดเวลาใช้งานฟังเพลง เล่นเกมมาแทนครับ และลำโพงนั้นเสียงดังเอาเรื่องเลยแหละ แยกซ้าย ขวา ได้ค่อนข้างชัดเจน และยิงลงพื้นสะท้อนเสียงออกมานั้นเอง ลำโพงถือว่าไม่แย่ครับและสมราคาแหละ 

CONNECTOR

สำหรับในพอร์ตเชื่อมต่อนั้นตัวนี้ให้มาพอดีต่อการใช้งานครับ ด้านขวานั้นเป็นพอร์ตเชื่อมต่อ USB-A 2.0 และไฟแจ้งเตือนสถานะ ทั้ง 2 จุดครับ และ ตัวด้านขวาสุดนั้นเป็นช่องสำหรับไว้ล็อคตัวเครื่องครับแต่ไม่มีช่องใส่ SD Card นะ

สำหรับพอร์ตในด้านซ้ายตัวเครื่องนั้น จะเป็นช่องชาร์จ รูระบายอากาศ และ ช่องใส่ Micro-Sd Card มีมาให้ด้วย และยังมีพอร์ต HDMI ช่อง USB-A 3.0 และ รูไมค์+ หูฟัง มาให้ครับ และไม่มี TYPE-C มาให้นะครับในรุ่นนี้

 

BATTERY 

สำหรับแบตของตัว X407UF นั้นเป็นแบตที่ฝังมาในเครื่องไม่สามารถถอดออกได้นะครับส่วนตัวแบตอายุการใช้งานจากที่ได้ลองจริงๆนั้น แบตได้ประมาณ 2 ชั่วโมงที่โชว์ในขณะแบตประมาณ 30% แต่เอาใช้งานจริงๆนั้นก็ถือว่าทั้งวันแบบไม่ได้ใช้งานต่อเนื่องได้อยู่ครับ น่าจะได้ถึง 6-7 ชั่วโมงเลยทีเดียว ถือว่าทำได้อึดเลยแหละในการใช้งาน ส่วนการพกพาตัว Adaptor นั้นพกพาได้ค่อนข้างง่าย และพกไปไหนมาไหนได้สบายขนาดเกือบเท่า Adaptor มือถือเลย ทำให้เวลาไปข้างนอกนั้นทำให้การพกพาไม่ค่อยลำบากเท่าไรไม่ต่างกับการพกพามือถือหรือที่ชาร์จมือถือนั้นเอง

WORKING

การใช้งานในการทดสอบทำงานจริงๆจังทั้งในส่วนของ Photoshop – Premire Pro หรือทำงานในตระกูล Microsoft ได้ทั้งหมดไม่มีปัญหาแม้จะเป็นการทำงานหลายๆแอพพร้อมกันก็ยังสามารถจัดการได้ดีเไม่เจออาการหน่วงหรือค้างอะไรแต่อย่างใด และการสลับแอพ โหลดข้อมูล เซฟงานนั้นทำได้ไวมากเพราะด้วยเทคโนโลยี Optanr ของตัวเครื่องทำให้ทำงานได้ไวขึ้นแบบชัดเจนเป็นอีกจดเด่นนึงในการใช้เทคโนโลยีนี้ครับและทำให้การทำงานทั้งหมดนั้นไม่เจออาการติดขัด หรือทำให้หัวร้อนแต่อย่างใดเลยทำงานไร้ปัญหาแน่นอนใครเอาไปทำงานตอบโจทย์อย่างมาก แต่มันแอบเจอความร้อนที่ระบายได้ช้าในการทำงานพวกเรนเดอร์หนักๆครับเพราะมัพัดลมตัวเดียว

GAMING 

สายเกมนั้นในรุ่นนี้มีการ์ดจอแยกแน่นอนว่าต้องรองรับในการเล่นเกมได้ดีในระดับนึงครับจากที่แอดมินทดสอบนั้นตัวเกมรองรับเกมออนไลน์ได้ดีพอสมควรครับเล่นได้ลื่นไม่มีปัญหา FPS ทำได้ลื่นจากที่ลองทั้งในส่วนของเกม FPS Overwatch นั้นอยู่ที่ 70FPS โดยประมาณสูงสุด และเฉลี่ยประมาณ 60-65 ครับ แต่มีเรื่องของอุณหภูมิ ที่แตะ 80-90 กันถือว่าร้อนแรงพอสมควรเพราะด้วยจากพัดลมตัวเดียว ระบายออกด้านข้างทำให้เรื่องความร้อนอาจจะมีปัญหาพอสมควรถ้าเล่นต่อเนื่องนานๆครับ และอีกเกมที่ทดสอบนั้นคือ CSGO ก็ทำ FPS เฉลี่ย 60-65 และพึ่งสูงสุดไปที่ 120 ได้เลยแต่จอนั้นก็รองรับได้แค่ 60 ครับผมสูงสุด ถือว่าเล่นได้ลื่นและไม่ต้องห่วงเลยแหละ ส่วนอุณหภูมินั้นจะประมาณ 88-90 เช่นเดิมครับเรื่องความร้อนนั้นอาจจะเป็นจุดที่อาจจะต้องดูกันอยู่สำหรับใครที่เล็งๆ

ASUS X407  intel Optane 

” ความคุ้มค่าที่ได้ความแรงแบบ SSD ในเรทราคาที่ต่ำกว่า 2 หมื่น ! “

เป็นคอมพิวเตอร์ที่ดูรวมๆมันลงตัว ใช้งานได้ทุกวัน เล่นเกมได้ ทำงานได้ และมีความเบาในการพกพา รวมถึงได้เทคโนโลยี Optane และ ยังมีสแกนนิ้วมาอีกด้วยในงบ 2 หมื่นมีทอนถือว่าเป็นรุ่นที่น่าเล่นอย่างมาก ด้วยสเปคที่แรงกับในเรทราคา แบบนี้นั้นเรื่องของวัสดุที่เราเจอหรือใช้งานอาจจะต้องยอมแลกกับการที่วัสดุที่สัมผัสนั้นเป็นพลาสติกทั้งเครื่องและการสัมผัสตัวคียบอร์ดที่พิมพ์ค่อนข้างยากไปหน่อยกับความมั่นคงของตัวปุ่ม และ ตัวพอร์ตที่พอดีต่อการใช้งานมากๆ และอีกเรื่องคือความร้อนเวลาใช้งานหนักๆครับ เป็นเรื่องที่ต้องลองดูก่อนที่จะตัดสินใจจัดรุ่นนี้มาใช้งาน

ข้อดี

  • ตัวเครื่องการออกแบบ ใช้พิ้นผิวได้ดูดี ดูมีราคา
  • ตัวเครื่องน้ำหนักค่อนข้างเบาพกพาได้ง่าย
  • สเปคใช้งานได้สบายทั้ง i5+MX130
  • เพิ่ม RAM ได้ง่ายและสะดวก
  • มีแสกนลายนิ้วมือ
  • intel Optane ทำให้ใช้งานได้ดีไวมากกว่าเดิม
  • มาพร้อม Windows 10
  • ราคาในเรทที่คุ้มค่า คุ้มราคามาก
  • แบตใช้งานได้ค่อนข้างอึดและทั้งวันได้สบาย

ข้อสังเกต

  • ตัวเครื่องมีความร้อนสะสมสูง ในการใช้งานหนักๆ
  • ปุ่มคียบอร์ดพิมพ์งานความรู้สึกแปลกๆไปหน่อย
  • ไม่มี พอร์ต SD CARD -TYPE-C
  • หน้าจอเป็นแค่ TN ความละเอียด  HD

สำหรับรีวิวนี้ผมก็ต้องขอตัวลาไปก่อนสำหรับรีวิวรุ่นต่อไปนั้นจะเป็นรุ่นอะไรอย่าลืมติดตามกันนะครับ ถูกใจฝากกดไลค์กดแชร์ด้วยนะครับ  มีข้อผิดพลาดประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ
ฝากไลค์เพจ FACEBOOK เราด้วยนะครับ >>>>>>>>>  TECHHANGOUT

เข้าร่วมกลุ่ม TECHHANGOUT พูดคุยแลกเปลี่ยน ข้อมูล คุยกันเองชิลๆได้เลยที่ — Facebook  Techhangout พูดคุย Smartphone gadget 

By Nineztr

Comments กันได้เลย !

Comments

0 Shares