ASUS เดินหน้าเปิดตัวกันอย่างต่อเนื่องและแน่นอนว่า Gaming Notebook นั้นในตระกูล TUF ถือว่าเป็นตระกูลที่ทำออกมาคุ้มค่า คุ้มราคาโดยเสมอและในครั้งนี้เป็น TUF ที่จัดเต็มที่สุดอีกตัว ที่เปลี่ยนแปลงใหม่ทั้งหมดทั้งเรื่องของประสิทธิภาพ งานออกแบบ ครั้งนี้ TUF ทำออกมาได้ดี ทั้งวัสดุงานประกอบ สเปก ความแข็งแรงทั้งหมดเลยก็ว่าได้ครับ ในรุ่นนี้มาพร้อมกับชื่อ TUF DASH F15 ขับเคลื่อนด้วย หน่วยประมวลผล Intel Core i7-12650H Processor พร้อมกับ RAM 8GB และ การ์ดจอ RTX 3050Ti รองรับการใช้งานได้แบบจุกๆ อีกทั้งในเรื่องของสเปกแน่นอนว่ารองรับการใช้งานได้เป็นอย่างดีไม่ว่าจะเป็นการตัดต่อภาพ หรือแม้จะทำงานทั่วไป หรือการดูคอนเทนต์อะไรต่างๆนั้นทำได้ดีมากๆ จัดเป็นเกมมิ่งโน้ตบุ๊กซีรีส์คุ้มค่า และยังคงโดดเด่นเรื่องของการทำราคาได้ดีมากขึ้นเรื่อยๆ

ASUS TUF Dash F15 นั้นจริงๆจะมีมาด้วยกันหลากหลายรุ่น ซึ่งแน่นอนว่ามีหลากหลายเรทราคาเหมาะสำหรับคนงบน้อยไปถึงสูงได้ครอบคลุมมาก ซึ่งมาพร้อมกับ Intel Core i7-12650H ความเร็ว 2.3 GHz (24M Cache, up to 4.7 GHz, 10 cores: 6 P-cores and 4 E-cores) ประสิทธิภาพดีทำงานลื่นไหล เล่นเกมสบาย และมาด้วยการ์ดจอ NVIDIA GeForce RTX 3050Ti Laptop GPU 4GB DDR6 (MAX TGP 75W with Dynamic Boost) มีประสิทธิภาพดี พร้อม RAM 8GB DDR5-4800 Up to 32GB หน่วยความจำ 512GB PCIe NVMe M.2 SSD  ถือว่าสเปกการใช้งานเน้นๆคุ้มๆ และหน้าจอในรุ่นนี้นั้น ให้มาที่ขนาด 15.6 นิ้ว (16:9) IPS-level panel (1920×1080) Refresh Rate 144 Hz หน้าจอไม่รองรับ Touch Screen นะ ที่สำคัญ ตัวนี้ยังมี Battery 76WHrs พร้อมระบบปฏิบัติการ Windows 11 Home ยังคงจัดเต็มในเรื่องสเปก วัสดุ และถ้ามองในส่วนสเปก i7 นั้นจะได้หน้าจอ RAM – SSD – การ์ดจอที่ดีขึ้นนั้นเอง ก็เรียกได้ว่าราคามีความแตกต่างกัน และ คุณภาพก็จะสูงขึ้นด้วย

DESIGN

งานออกแบบดีไซน์รูปร่างหน้าตาก็ยังคงเอกลักษณ์ของ ASUS TUF ไว้อยู่ ซึ่งตัวนี้ก็ได้ทำออกมาตอบโจทย์ได้ดีเลย ฝาหลังสวยงามพร้อมโลโก้ด้วย และตัวเครื่องก็ใช้ฝาหลังแบบเรียบสีด้าน ถือว่าสวยเลยนะ เน้นความเรียบง่ายแต่แฝงความแข็งแรงเอาไว้เหมาะกับเป็นสายเกมจริงๆ

เปิดเข้ามาข้างในนั้นเราจะยังคงเห็นการออกแบบที่คล้ายๆตัวเดิมอยู่บ้างในส่วนของที่วางมือ และลวดลายตรงส่วนนั้น จริงๆทำเรียบไปก็ดูดีอีกแบบเหมือนกันแต่ก็อาจจะเป็นการออกแบบที่คงเอกลัษณ์ของตระกูลนี้อีกทางนึงค่ะ ขอบจออะไรบางขึ้น การออกแบบอะไรขนาดเครื่องกระชับมากขึ้น แป้นพิมพ์สุดขอบมากกว่าเดิมด้วยเช่นกัน ส่วนวัสดุอะไรพวกนี้รู้สึกดีกว่าเดิม แข็งแรงมากขึ้นในระดับของมัน และฝาหลังสวยขึ้นเยอะมากๆเรียบสวยลงตัวดีมาก

งานออกแบบฝาตัวเครื่องนั้นเป็นการใช้งานวัสดุโลหะสีเทาด้านทั้งหมดจะเห็นว่ามีความเรียบไม่มีส่วนนูนหรือโลโก้แบบรุ่นก่อนๆแล้ว แต่จะเป็นการยิงเลเซอร์โลโก้ในมุมขวาบนที่ออกแบบใหม่ทั้งหมด มีความเหลี่ยมสันมากขึ้นจากเดิมถือว่างานดีไซน์ทั้งหมดดูดีขึ้นและจะเห็นว่าจะมีความคล้ายตระกูล ROG แต่จะแตกต่างกันในเรื่องของเส้นสายและโลโก้เท่านั้นเรียกได้ว่า TUF ทำได้ดีมาตลอด

ทางด้านช่องระบายอากาศเองนั้นรุ่นนี้ประสิทธิภาพเยอะ จัดเต็มอย่างมากทำให้เรื่องระบายอากาศดีจริงๆ นอกเหนือจากช่องระบายที่ดูดจากข้างบนที่ยกขึ้นมาแล้ว ตัวนี้สามารถยิงออกด้านหลังทั้งหมด รวมถึงด้านข้าง ซ้าย  ขวา และจะดูดอากาศจากด้านบนที่ยกขึ้นรวมถึง ข้างล่างฐานเครื่องด้วยเช่นกัน

ในส่วนของขาพับอะไรต่างๆนั้นดูแข็งแรงขึ้น และวัสดุอะไรนั้นแอบคล้ายๆเดิม มีการเล่นลวดลายของตัวเครื่องที่แตกต่างกันเหมือนเดิมไม่ใช่วัสดุแบบเรียบๆสีดำ ก็ทำให้ดูมีอะไรมากขึ้นส่วนวัสดุความรู้สึกยังคงเป็นพลาสติกเยอะหน่อยในรุ่นนี้ ส่วนการระบายตรงกลางนั้นยังมีมาให้เหมือนกัน สำหรับดูดอากาศเข้าเครื่อง และมีบอกไฟสถานะรวมถึงเขียนชื่อรุ่นมาให้ และตรงหน้าจอก็เว้าสำหรับการระบายอากาศได้เหมือนรุ่นอื่นๆของค่ายนี้เลย

ส่วนของการระบายอากาศนั้น จะเห็นว่าตัวช่องระบายอากาศเปลี่ยนงานออกแบบใหม่ทั้งหมดเล่นลวดลายอะไรสวยงามขึ้นดูดีขึ้นเยอะมาก แต่แอบชอบการออกแบบตรงนี้มากๆเลยดูดีกว่าเดิมเยอะ ส่วนตรงกลางก็ดูดีสวยงาม ถือว่าทีมออกแบบครั้งนี้ทำมาได้ดีมากๆเลย

เมื่อพับปิดหน้าจอจะเห็นทั้งแถบไฟแสดงสถานะ 4 ดวง ปกติเราจะเห็นการออกแบบแค่วางเรียงกันปกติ แต่รอบนี้เขาวางจัดคล้ายสี่เหลี่ยมที่ดูดีไปอีก ซึ่งไฟแสดงสถานะ ประกอบไปด้วย ไฟแสดงสถานะการเปิดเครื่องรูปหลอดไฟ, ไฟแสดงสถานะการชาร์จแบตเตอรี่รูปถ่ายมีสายฟ้าฟาดตรงกลาง, ไฟแสดงสถานะว่าฮาร์ดดิสก์ทำงานที่เป็นรูปถังและไฟแสดง Airplane Mode

SPEC

  • 12th Gen Intel Core i7-12650H Processor 2.3 GHz (24M Cache, up to 4.7 GHz, 10 cores: 6 P-cores and 4 E-cores)
  • Memory 8GB (8GB*1) DDR5-4800 Up to 32GB
  • หน่วยประมวลผลกราฟิก NVIDIA GeForce RTX 3050Ti Laptop GPU 4GB DDR6 (MAX TGP 75W with Dynamic Boost)
  • ความจุ 512GB M.2 PCIe 3.0 x4 SSD (With 1 M.2 SSD Free Slot Support M.2 PCle 4.0)
  • หน้าจอ 15.6 นิ้ว FHD (1920 x 1080), 16:9, IPS-level panel, 144Hz, anti-glare display, Adaptive-Sync
  • Wi-Fi 6(802.11ax)+ Bluetooth 5.2 (Dual band) 
  • Speakers: 2-speaker system
  • Audio Tech: Dolby Atmos Hi-Red certification
  • Webcam: 720P HD camera
  • ระบบปฏิบัติการ Windows 11 Home
  • Battery 76WHrs
  • ลำโพง Dolby Atmos
  • รองรับการชาร์จ 180W AC Adapter, Output: 20V DC, 9A, 240W, Input: 100~240C AC 50/60Hz universal
  • น้ำหนัก 2.0 kg.
  • 720P HD camera

PERFORMANCE

ในรุ่นนี้ใช้งาน Intel Core i7-12650H Processor ที่มาพร้อมกับสถาปัตยกรรมใหม่แบบไฮบริด ผสมผสานระหว่าง PerformanceCores (PCore) และ EfficientCores (ECore) ให้ทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพสูดสุด ด้วยระบบอัจฉริยะที่ติดตั้งมาให้เลยในตัวฮาร์ดแวร์อย่าง Intel Thread Director เพื่อมาจัดสรรทรัพยากรของเครื่องให้ทำงานร่วมกันกับแอปพลิเคชันต่างๆให้เหมาะสมกับการใช้งาน โดย Pcore คือแกนหลักเน้นการประมวลผลกับงานหนักๆ ส่วน ECore คือแกนรองเน้นการประมวลผลกับงานทั่วไป ส่วนการ์ดจอ นั้นใช้งานของ NVIDIA GeForce RTX 3050Ti Max TGP 75W ที่รองรับฟีเจอร์ Ray tracing และ DLSS เล่นเกมได้สบายๆเลยจริงๆ เพราะตัว MUX Switch จะทำให้ผู้ใช้งานสามารถเลือกใช้งานการ์ดจอแยกได้อย่างอิสระ โดยไม่ต้องผ่านการ์ดจอออนบอร์ด จึงทำให้ประสิทธิภาพการทำงานของการ์ดจอแยกให้อัตราเฟรมเรทดีขึ้นโดยเฉลี่ยสูงขึ้นถึง 15% และ 43% ในบางเกมเลยทีเดียว และมาพร้อม SSD ความจุ 512GB + RAM DDR5 8GB ซึ่งเป็นอีกขั้นของความแรงด้วยการเปลี่ยนจาก RAM DDR4 มาเป็น DDR5 ทำให้การโอนถ่ายข้อมูลเร็วขึ้น ถึง 50% เลย ระบบปฏิบัติการ Windows 11 Home เรียบร้อยพร้อมใช้งาน ในรุ่นนี้ถือว่าสเปกนั้นทำได้ดีพร้อมใช้งานเลย และการ์ดจอก็แรงสะใจเอาเรื่องเป็น TUF ที่จัดเต็มมากๆรุ่นนึงในตอนนี้เลย

PC MARK

คะแนนไปได้ค่อนข้างสูงมากๆแน่นอนว่าตัวก่อนหน้า ก็ถือว่าแรงพอสมควรแล้วนะ แต่ตัวนี้ทำไปได้ 7617 คะแนน มากกว่าคู่แข่งและรุ่นก่อนหน้าแบบชัดเจน จริงๆพวกระดับราคานี้สามารถใช้งานทั่วไปแทบจะทุกรูปแบบ ไม่ต้องห่วงเลยแหละ ตั้งแต่ Word จนไปยังตัดต่อ เรนเดอร์ 3 มิติ งานเขียนงานวาดแปลนบ้านทุกอย่าง รองรับสบาย ด้วยความแรงทั้งหมดถือว่าชิลๆ ส่วนการทดสอบนั้นเป็นอุณหภูมิปกติ เช่นเดิมไม่ได้เปิดแอร์ แต่ถ้าเปิดแอร์นั้นจะได้คะแนนประมาณ 7,900 คะแนนเลย ต้องยกความดีให้ทั้ง RAM SSD CPU GPU ทำงานร่วมกันได้ดีมากเช่นกัน ทำให้จำลองการทำงานหลายๆอย่างได้อย่างมีประสิทธิภาพ

3D MARK

ทำคะแนนเรียกได้ว่าสูงในการทดสอบทั้ง 3 แบบนะ ตัว TIMESPY EXTREAM ที่เน้นไปเจาะกลุ่มคอมพิวเตอร์ระดับท็อป เกมมิ่ง ทำคะแนนได้ 2895 คะแนน ถือว่าดี และ ต้องบอกว่าผ่านการทดสอบใช้งานระดับสูงๆของ 3DMark สบายๆ และในตัว FIRE STRIKE EXTREAM ทำไปได้ 6860 คะแนน และ FIRE STRIKE ULTRA ทำไปได้ 3559 คะแนน ถือว่าแรงสมกับ RTX 3050TI จัดเต็มมากๆแรงสุดๆ เมื่อเทียบกับราคาและประสิทธิภาพบอกเลยว่าเหลือๆในการทำงานเรนเดอร์แน่นอน รวมถึงทางด้าน TIMESPY เองนั้นทำไปได้ 6377 คะแนน ถือว่าสบายๆอยู่ในระดับสูงมาก และความร้อนนั้นจัดการได้ดีเสียงลมแรงดังและระบายได้โหด

CINEBENCH R15 – R20 / DISK MARK 

CINEBENCH นั้นเป็นการทดสอบประสิทธิภาพ CPU R15 ที่เน้นในเรื่องของพลังชิปประมวลผล คะแนนก็อยู่ในระดับสูง เลยแหละ R15 นั้นทำได้ 2149 cb/ 237 FPS ประมวลผลหนักๆได้สบาย และทำได้ใกล้ๆกับ RYZEN 7 4800HS ตัวนั้นจะประมาณ 120 ในการเรนเดอร์ R20 ที่เน้นในเรื่องของพลังชิปประมวลผลตัวโหดกว่า R15 คะแนนก็อยู่ในระดับสูงเช่นกัน ดีกว่ารุ่นก่อนเยอะมาก และทำได้ดีกว่าตัว i5 Gen10 ด้วยนะ ในตัว R20 นั้นที่ประมวลผลหนักหน่วงกว่าเดิม ทำคะแนน 5462 เช่นเดิม ทดสอบในสภาพอากาศปกติไม่มีแอร์ ส่วนตัว SSD M.2 นั้นทำการอ่านเขียนไป 3043 MB/s  และ 1638 MB/s  ถือว่าแรงมากๆในทั้งเรื่องของการอ่านและการเขียนถือว่าให้ประสิทธิภาพที่ดีเพียงพอในการใช้งานแล้ว

SCREEN

หน้าจอในตระกูล TUF รุ่นก่อนๆอาจจะไม่ได้จัดเต็มเท่าไรนัก แต่ในรุ่น TUF DASH F15 นั้นมีการยกระดับขึ้นมาในการใช้งานหน้าจอที่ดีขึ้น คุณภาพสีสันดีขึ้นเช่นกัน มาพร้อมกับหน้าจอ 15.6 นิ้ว IPS-level panel FHD ค่า refresh rate 144Hz มี Adaptive-Sync เพื่อความลื่นไหลในการเล่นเกมแบบไม่มีสะดุด แบบ anti-glare display แต่ยังน่าเสียดาย ที่ไม่รองรับ 240Hz เหมือนรุ่นก่อน การใช้งานเรื่องของสีสันต่างๆนั้นสบายๆ จอแบบ IPS นั้นความแม่นยำของตัวสีและมุมมองนั้นทำได้ดีและจากที่ลองมันก็ เล่นเกมได้ ดีคือลื่นไหลเนียนตามากๆ และในส่วนของตัดต่อแต่งภาพได้ดีพอสมควร ไม่มีปัญหาเลย ทำมาเพื่อรองรับสายทำงานแต่งภาพตัดต่อ กราฟิกได้มากขึ้นเพราะมีหลายคนนั้นเอาไปใช้งานด้านนี้กัน และทางค่ายก็เอาใจด้านนี้มากขึ้น ด้วยความที่มันเน้นพกพามากขึ้นก็ทำให้หลายๆคนเลือกเอาไปใช้งานงานกันหลากหลายมากขึ้นนั้นเอง ตัวเดียวเป็น TUF  ที่พัฒนาขึ้นและเอาไปใช้งาน และ เล่นเกมได้ครบๆเลย 

KEYBOARD

คีย์บอร์ดของครื่องนี้จะเป็นแบบ Full-size มีแป้น Numpad ติดตั้งมาให้ใช้กดตัวเลขได้สะดวกขึ้น ยังคงเป็นไฟแบบ RGB FULLZONE แล้วสามารถปรับสีได้หลากหลายสีและ Effect ได้ การดีไซน์มาแบบเต็ม แต่จะเห็นว่าการจัดวางตัวปุ่ม ลูกศร รวมถึง Numberpad นั้นวางอะไรได้โล่งขึ้น มีพื้นที่ดีขึ้นด้วยพร้อม NumPad ด้านขวา รวมถึงการเล่นกับปุ่ม W/A/S/D ที่เป็นแบบโปร่งแสงสวยงาม โดยรวมการวางตำแหน่งไม่ได้มีอะไรติดขัดทำได้ปกติของรุ่นนี้

ตัวปุ่ม W,A,S,D นั้นจะเป็นปุ่มแบบใสสวยงามทำให้แสงนั้นสว่างขึ้นกว่าปุ่มอื่นๆและดูดีด้วย ตัวระยะห่างแต่ละปุ่ม รวมถึงความลึกในการกดนั้นทำได้ดีในการเล่นเกม หรือ พิมพ์งาน เสียงไม่ได้ดังมากนัก ไฟแสดงได้สวยในหลายๆสีและค่อนข้างคมเข้มตัวอักษรมองเห็นชัด เวลาเปิดไฟก็ทำได้ดี เพราะครั้งนี้ตัวอักษรเป็นสีขาวมองเห็นชัดกว่าสีแดงเยอะมากในรุ่นเล็ก และถือว่าทำได้ค่อนข้างดีในด้านการใช้งานหลายๆสภาพแสงแบบเดียวกับรุ่นเดิม แต่น่าเสียดายว่ายังไม่สามารถปรับแยกโซนสีได้ ยังคงเป็นสีเดียวทั้งแผ่นเลยในคีย์บอร์ดรุ่นนี้ ยังคงไม่ได้ปรับได้อิสระอะไรมากนัก

TOUCHPAD

ทัชแพดยังคงตามการออกแบบคล้ายกับ TUF รุ่นอื่นๆ ขนาดนั้นพอดีกับตัวเครื่องไม่ได้ใหญ่สะใจ และ ไม่ได้เล็กเกินไป เรียบสวยมากขึ้น ในด้านการใช้งานตัวทัชแพดนั้นตัวนี้แตกต่างกับรุ่นอื่นๆคือจะไม่มีตัวคลิก ซ้ายขวา แยกกันนะ ผิวด้านแบบลื่นๆใช้งานได้ลื่นแต่ติดคราบมันได้ง่ายมากๆ และ ความรู้สึกในการกดลงไปนั้นแอบรู้สึก ความแน่นหนาในการใช้งานจริงได้ดีอยู่ดีกว่าในรุ่นก่อนๆ รู้สึกถึงความแข็งแรงขึ้นในฟีลลิ่งการทัช การกดปุ่มต่างๆจุดนี้ถือว่าโอเคขึ้นเลย ในด้านการใช้งานจริงๆก็มีผลในการทำงานนอกสถานที่ต่างๆได้สะดวกมากขึ้นถนัดมากขึ้น

SPEAKER 

ลำโพงยังคงเป็น 2 ตัวเช่นเดิม ระบบเสียง Dolby Atmos เพื่อคุณภาพเสียงแบบรอบทิศทางที่มีความสมจริง และแน่นอนว่าค่ายนี้เป็นไม่กี่ค่ายที่เน้นเรื่องลำโพงเสียงมาเรื่องๆ แน่นอนว่าเรื่องของรายละเอียดมาดีมากจริงๆ  เสียงเบสก็จะเด่นกว่าเดิมมากๆเสียงยังคงเทพไม่ต่างจากเดิมเลย และเทียบกับรุ่น TUF ก่อนหน้าเสียงแน่นขึ้นชัดเจน เสียงมีมิติมากขึ้น ดังสะใจมากขึ้น เสียงรอบทิศทางได้ดีและตอนสนองในการเล่นเกมได้ดีมากๆในเรื่องของมิติเสียง

CONNECTOR

ในด้านซ้ายด้านนี้จะมาพร้อมกับ ช่องระบายความร้อนซึ่งครั้งนี้ให้มาทั้ง 2 ข้างซ้าย/ขวา และมาอยู่ฝั่งนี้กันหมดทั้งช่องไฟเข้า LAN-HDMI 2.0 – USB 3.2 Gen 1 Type-A – รูหูฟัง 3.5มม.ที่เป็นไมค์ในตัว – USB 3.2 Gen 2 Type-C support DisplayPort / power delivery / G-SYNC – ส่วนการเชื่อมต่อไร้สาย รองรับ Wi-Fi 6(802.11ax)+Bluetooth 5.2 (Dual band) 2*2 ; ปกติ ถือว่าพอร์ตใกล้เคียงกับตัวเดิมแต่การเชื่อมต่อไร้สายดีขึ้น

ส่วนจุดต่างๆนั้นรุ่นนี้ทางด้านขวาจะเป็นเป็นส่วนตัวล็อก Kensington และจากที่บ่นไปในรุ่นก่อนว่าไม่มีช่อง USB มา ในครั้งนี้เลยใส่ USB-A 3.2 สำหรับใช้งานมาบ้างแล้ว เพราะใช้งานเสียบเมาส์ฝั่งนี้ใช้งานบ่อยๆมาก อันนี้ขอชมที่ปรับปรุงจุดนี้มาให้ รวมถึงช่องระบายความร้อนก็มีมาให้ฝั่งนี้ด้วยเช่นกัน

AMOURY CATRE

เราสามารถปรับแต่งได้ทั้งหมดเลยไม่ว่าจะเป็นการปรับ พัดลม ดูข้อมูลการใช้งานตั้งพวก Profile ก็มีให้ปรับได้ค่อนข้างเยอะ หรือจะเป็นการตั้งค่าแอปเกม ที่จะปรับตามแอปที่เราเลือกเปิดไว้ก็ได้เช่นเดียวกัน ซึ่งหน้าตาจะแตกต่างกับ ROG เล็กน้อยในเรื่องของสีสันและการปรับแต่งบางอย่างอันนี้จะเป็นธีม ดำทองนั้นเองค่ะ ฟีเจอร์ทั้งหลายนั้นรองรับการทำงานหลากหลาย ทั้งเรื่องของการปรับแต่งการใช้งาน เปลี่ยนไฟคีย์บอร์ดรวมถึงปรับ Effect ว่าจะให้แสดงผลยังไง รวมถึงในส่วนของ Hardware ดูสถานะ อุณหภูมิ พัดลมต่างๆสถานะการใช้งาน CPU -GPU  รวมถึงสามารถโหลดแอปอื่นๆเพิ่มเติมได้ค่อนข้างเยอะมาก และมีโปรแกรมของ AMD / DTS X ต่างๆที่รองรับและแอปอื่นๆเราสามารถโหลดได้ทั้งบอกทิศทางเสียงต่างๆ ปรับแต่งไฟ Effect ทั้งหมด ปรับตั้งค่าตามเกมที่เราเลือกได้ว่าจะตั้งค่าอะไรบ้างเป็นต้น ปรับโปรไฟล์สีหน้าจอ รวมไปตัวซอฟต์แวร์เพิ่มได้

WORKING

การเล่นเกมและในการทำงานนั้นแน่นอนว่าตัวนี้ก็ถือว่าพัฒนามาดีขึ้นมากค่ะ แน่นอนว่าใช้งาน  Intel Core i7-12650H Processor เร็ว 2.3 GHz ถือว่ารองรับการทำงานได้ดีมากขึ้น จำนวนเยอะขึ้นกว่ายุคก่อนๆชัดเจน บอกเลยว่าทำงานร่วมกับ RAM 8GB ให้มาเพียงพอต่อการใช้งานทำงานหลากหลายโปรแกรม หลายเลเยอร์ได้สบาย แต่ถ้าทำงานหนักมากๆอาจจะต้องเพิ่มเป็น 16GB จะลงตัว และการอ่านเขียนของ SSD ก็ถือว่าช่วยงานทำงานได้ไวขึ้นระดับนึงรวมถึงในการเรนเดอร์การทำงานจริงนั้น แอดทดสอบกันในหลายๆโปรแกรมสายทำงาน และทดสอบแบบจัดเต็มเช่มเดิมทั้งโปรแกรมตัดต่อแบบ Premire Pro หรือจะขึ้นโมเดลแบบ Sketch up ซึ่ง INTEL ก็ถือว่าทำงานได้ดีอยู่แล้ว แต่ถ้าหลายๆโปรแกรมก็ยังคงโดดเด่นกว่าเดิมเช่นกัน

ASUS TUF DASH F15

ASUS TUF DASH F15 รุ่น FX517ZE-HN007W โน้ตบุ๊กพรีเมียม ราคา สเปกยังคงคุ้มค่าตามสไตล์ TUF ! ” 

ASUS TUF DASH F15 ในปัจจุบันได้ยกระดับคุณภาพขึ้นมาเรื่อยๆเพราะว่าทางแบรนด์เองก็พยายามลบข้อเสียจากรุ่นก่อนๆที่เจอกัน จนมันลงตัวและน่าใช้งานมากขึ้นแน่นอนว่าทั้งเรื่องของสเปก การใช้งาน กับสิ่งที่ได้มันเหมาะกับคนที่กำลังหาคอมพิวเตอร์ใหม่ ตัวเดียวใช้งานได้ทั้งเล่นเกม ทำงานเรนเดอร์งานและสายทำงานแบบนี้ก็หันมาใช้งานคอมพิวเตอร์สายนี้กันมากขึ้นเรื่อยๆ เน้นความคุ้มค่าระดับเริ่มต้นไปเรื่อยๆ รวมถึงงานออกแบบที่มีความเรียบร้อย หรูหรา และงานประกอบอยากให้มาลองสัมผัสจริงๆมันดีขึ้นแบบชัดเจน และดีไซน์เรียบร้อยมากขึ้นดูดีขึ้น ทำให้มันเป็น TUF ที่ดูดีที่สุดที่เคยออกมาและคุณภาพเทียบกับราคานั้นคุ้มค่ามากขึ้นและใช้งานได้ดีเช่นเดิมเลย

ข้อดี

  • หน้าจอมีความลื่นไหลในการเล่นเกมดีกว่าเดิม
  • การระบายความร้อนทำได้ดี
  • Intel Core i7 ตอบโจทย์การทำงานได้เป็นอย่างดี
  • RTX 3050Ti รองรับการเล่นเกม ลื่นไหล ขับได้สบาย
  • งานออกแบบสวย เรียบหรู

ข้อสังเกต

  • RAM 8GB อาจจะไม่เพียงพอถ้าทำงานหนัก หรือ เล่นเกมโหดๆ
  • คีย์บอร์ดยังเป็นโซนแบบสีเดียวทั้งหมด
  • ลำโพงดีขึ้นแต่ เบสเสียงยังไม่ได้เด่นเท่าไร

สำหรับรีวิวนี้ก็ต้องขอตัวลาไปก่อนสำหรับรุ่นอื่นๆก็ติดตามกันได้เลย ถูกใจฝากกดไลค์กดแชร์ด้วยนะ มีข้อผิดพลาดประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ  เพื่อนๆสนใจอยากให้พวกเรารีวิวรุ่นไหนสามารถ Inbox มาบอกเราได้เลยนะ

ฝากไลค์เพจ FACEBOOK เราด้วยนะคะ >>>>>>>>>  TECHHANGOUT

เข้าร่วมกลุ่ม TECHHANGOUT พูดคุยแลกเปลี่ยน ข้อมูล คุยกันเองชิลๆได้เลยที่ — Facebook  Techhangout พูดคุย Smartphone gadget 

Review by Aum

Comments กันได้เลย !

Comments

0 Shares