สวัสดีครับเพื่อนๆชาว Techhangout ทุกท่าน กลับมาพบกันอีกครั้งเเล้วนะครับกับบทความรีวิวสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ที่เราจะมาฝากกัน สำหรับบทความนี้เราจะมารีวิวสมาร์ทโฟนจากแบรนด์ Realme ซึ่งตอนนี้หลังจากที่ได้ทำตลาดสมาร์ทโฟนในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ก็ได้นำสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่เข้ามาจำหน่ายอีกครั้ง ก่อนหน้านี้เราได้มีโอกาสรีวิวสมาร์ทโฟนรุ่นก่อนหน้านี้ไปอย่าง Realme 2 Pro สำหรับบทความนี้เราจะมารีวิว สมาร์ทโฟนน้องเล็กรุ่นใหม่ของค่ายที่เรียกได้ว่ามาพร้อมกับสเปคที่จัดเต็มไม่เเพ้รุ่นพี่อย่างในรุ่น Realme C1 เอาเป็นว่าเดี่ยวเรามาชมกันดีกว่าครับว่าสมาร์ทโฟนรุ่นนี้ในราคาจำหน่าย 3,990 บาท จะคุ้มค่าเเค่ไหน ?

RealMe C1 เปิดตัวมาพร้อมกับชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 450 Octa Core ความเร็ว 1.8 GHz พร้อม RAM 2GB + ROM 16 GB แบตเตอรี่ความจุ 4320 mAh มาพร้อมหน้าจอขนาด 6.2 นิ้ว ความละเอียด HD + พร้อมกล้องหลังคู่รองรับการถ่ายโบเก้ ในราคาจำหน่ายเพียง 3,990 บาท มีขายที่ร้าน 7 -11 Eleven ทุกสาขาทั่วประเทศ

UNBOX

  • ตัวเครื่อง Realme C1
  • สายชาร์จ Micro-USB 2.0
  • คู่มือ ที่จิ้มซิม
  • หัวชาร์จไฟเข้า  5V 1A
  • เคสใส
  • ฟิล์มกันรอย

ในกล่องเวลาที่เราซื้อก็จะมีเคสใสเเถมมาให้

ส่วนหน้าจอก็มีการติดฟิล์มมาให้เรียบร้อยเเล้ว

DESIGN

Realme C1 ถึงจะมีราคาจำหน่ายไม่เเพงมากเเต่ในเรื่องของดีไซน์ก็ถือว่ามีดีไซน์ที่สวยงาม มีตัวเครื่องที่ออกเเบบมาลองรับการใช้งานมือเดียวได้เป็นอย่างดี ตัวเครื่องมีขนาด 156.2 × 75.6 × 8.2 มิลลิเมตร น้ำหนัก 168 กรัม

ด้านหน้าตัวเครื่องมาพร้อมกับหน้าจอ IPS LCD ขนาด 6.2 นิ้ว อัตราส่วน 19 : 9 มาพร้อมกับรอยบากรูปยกน้ำ ความละเอียด HD +  ( 720 x 1520 พิกเซล ) Multi-Touch รองรับได้ 10 จุด ครอบทับด้วยกระจก 2.5D

เหนือหน้าจอตรงรอยบากมีกล้องหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซล เทคโนโลยี AI Beauty 2.0 มีลำโพงสำหรับสนทนา ในส่วนของรอยบากสามารถปิดได้

ด้านล่างในจอแสดงผลจะมีปุ่มใช้งาน Recent Apps , ปุ่มโฮม และ ปุ่มย้อนกลับ สามารถสลับเปลี่ยน หรือซ่อนเพื่อใช้งานเเบบเต็มจอได้

สำหรับตัวเครื่องด้านช้าย : มีช่องใส่ซิมแบบขนาด Nano Sim 2 ช่อง ติดกันมีช่องใส่ Micro-SD ที่สามารถรองรับได้สูงสุด 256GB รองรับการใช้งาน 4G ทั้ง 2 ซิม  และ มีปุ่มเพิ่ม/ ลดเสียง

สำหรับตัวเครื่องด้านขวา : มีปุ่มเปิด/ปิดเครื่อง

สำหรับตัวเครื่องด้านบน : ไม่มีรายละเอียดอะไร

สำหรับตัวเครื่องด้านล่าง : ด้านซ้ายเป็นลำโพงหลัก ถัดมามีพอร์ทเชื่อมต่อเเละชาร์จแบตเตอรี่แบบ Micro USB  ด้านขวามีช่องไมโครโฟน เเละ รูเสียบหูฟังแบบ 3.5 มม

สำหรับตัวเครื่องด้านหลัง :  มีการออกเเบบฝาหลังให้คล้ายกับกระจกเงา มาพร้อมกล้องหลังคู่ความละเอียด 13 + 2 ล้านพิกเซล รองรับการถ่ายภาพโบเก้ ( หน้าชัดหลังเบลอ )

ถัดไปด้านขวาเป็นไฟแฟลช และด้านล่าง มีโลโก้ RealMe

รายละเอียด RealMe C1

  • ขนาดตัวเครื่อง 156.2×75.6×8.2 มิลลิเมตร
  • น้ำหนัก 168 กรัม
  • หน้าจอแสดงผลขนาด 6.2 นิ้ว ความละเอียด HD+ ( 1520 x 720 พิกเซล ) อัตราส่วน 19:9
  • CPU Snapdragon 450 Octa-core 1.8GHz
  • RAM 2GB
  • ROM 16GB
  • ระบบปฏิบัติการ Android 8.1 Oreo ครอบทับด้วย ColorOS 5.1
  • มาพร้อมกล้องหลังคู่ความละเอียด 13 + 2 ล้านพิกเซบ
  • กล้องหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซล เทคโนโลยี AI Beauty 2.0
  • รองรับ 2 ซิมการ์ด แบบ Nano-SIM แยกช่อง MicroSD
  • มีระบบปลดล็อคด้วยใบหน้า
  • แบตเตอรี่ความจุ 4230 mAh
  • มีราคาจำหน่าย 3,990 บาท

PERFORMANCE

สำหรับประสิทธิภาพในการทำงาน ตัวนี้มาพร้อม 16GB หน่วยความจำชนิด EMMC5.1 คะแนนก็ตามเรทของ CPU 450 และ Antutu ทำคะแนน  73,888 กว่าคะแนน

ในส่วน Sensor ที่ใส่มาหลักๆที่เราจะต้องใช้งานก็มีใส่มาให้เราครบรองรับ Multi-Touch รองรับได้ 10 จุด

SOFTWARE UI 

ตัวระบบหน้าตาคุ้นเคยกันแน่นอน Colour OS 5.1 ในรุ่นนี้รันบนระบบปฏิบัติการ Android 8.1 Oreo มาเองเลยแหละใช้งานไม่ยากแน่นอนครับระบบที่คุ้นเคยกันดีหน้าตาดูสะอาดๆและลื่นไหล แต่บางทีแอบไม่ทันใจเท่าไรในช่วงที่แอดมินใช้งานไม่ได้ลื่นติดนิ้วมากนัก หน้าแอพต่างๆมีเลขแจ้งเตือนปกติ ไม่มี App drawer ครับ ส่วนการเด้งแจ้งเตือนทำได้ดีไม่มีปัญหาครับในเรื่องนี้

หน้าตาทั้งตัว Quicksetting มาในโทนสีขาวเขียวทั้งหมด ปรับได้ค่อนข้างเยอะและอิสระในการปรับแต่งได้พอสมควรเลย การแบ่งหน้าจอนั้นทำได้หลากหลายวิธีครับ ทั้งลาก 3 นิ้วขึ้นไปบนแอพที่เราใช้งานอยู่ หรือจะกด เคลียแอพค้างไว้ ไอคอน สี่เหลี่ยม หรือจะ กดเคลียแอพ และลากหน้าต่างแอพลงมาและเลือกแบ่งหน้าจอก็ทำได้ครับผม

ตัวแป้นพิมพ์มาจากทาง Google เองเลยแอดมินใช้งานสะดวกที่สุดแล้วในตัวนี้ชอบมากที่สุดเลย หน่วยความจุเครื่องมาพร้อม EMMC 5.1 16GB ใช้งานได้จริงๆประมาณ 9GB

สำหรับฟีเจอร์ต่างๆทั้งเกี่ยวกับเกมหรือมีมาให้เกือบครบเหมือนกับในรุ่นพี่ Realme 2 Pro สามารถทำได้เช่นกัน พวกฟีเจอร์ช่วยเวลาขับรถต่ออะไรอัตโนมัติก็มีประโยชน์มากๆเลยนะ เราไม่ต้องไปต่ออะไรเองครับเดินขึ้นรถมันจะเชื่อมให้เองเลยสะดวกดีเหมือนกัน เปิดลำโพงให้เองถ้าเรารับสายแบบไม่มี Bluetooth อะไรพวกนี้ ตัดสายเองถ้าเราเปิดห้ามรบกวนอะไรแบบนี้ถือว่ามีประโยชน์ต่อการใช้งาน เเต่ในรุ่นนี้มีการตัดฟีเจอร์การโคลนแอพออกไปนะครับไม่สามารถโคลนแอพได้

ปุ่มควบคุม 3 ปุ่มด้านล่างนั้นสามารถเปลี่ยนตำแหน่งได้ หรือใช้งานแบบปัดๆไม่มีปุ่มเพื่อให้มันเต็มจอได้เช่นเดียวกัน ส่วนแถบด้านข้างอันนี้มีประโยชน์นะ มันจะเอาแอพที่เราใช้งานบ่อยๆ ชอตคัตง่ายๆมาใส่ไว้คือดีงาม และ ฟีเจอร์ในการรับสายแบบไม่ต้องกด คว่ำเพื่อเงียบ หรือ ยกขึ้นมาเพื่อปิดเสียงลำโพงพวกนี้ก็ทำได้เช่นเดียวกันครับ

Gesture ต่างๆทั้งเคาะเปิดหน้าจอ วาดตัวอักษรก็ยกมาครบครับ ถ่ายหน้าจอแบบ 3 นิ้วก็มาจัดเต็มเลยและสามารถสแกนใบหน้าได้ด้วย

SCREEN

เรื่องของหน้าจอแสดงผลในรุ่นนี้มาพร้อมกับหน้าจอชนิด IPS LCD พร้อมความละเอียด HD+ สีสันของหน้าจอถือว่าทำออกมาได้ดีตามราคา ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของความสว่างโทนสีที่เป็นธรรมชาติ เเต่ต้องเเจ้งก่อนว่าในส่วนของรอยบากไม่สามารถปิดได้นะครับ เวลาที่เราดู Youtube จะดูได้แบบเต็มจอ

GAMING

เรื่องของการเล่นเกมส์สำหรับใครที่มีงบน้อยรุ่นนี้ค่อนข้างแนะนำเลยชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 450  เรียกได้ว่าหลังจากทดสอบสามารถเล่นเกมส์ต่างๆได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังมาพร้อมกับ Game Space ฟังก์ชั่นเพื่อคนเล่นเกมโดยเฉพาะ รีดประสิทธิภาพเครื่องและปิดกั้นการแจ้งเตือนไม่ให้รบกวนขณะเล่นเกม หากว่าเวลาที่เราเล่นเกมปรับภาพกราฟฟิกเกมส์ให้เหมาะกับสเปคเครื่อง ไม่ว่าจะเป็น FreeFire , ROV , Pubg ก็สามารถเล่นได้อย่างลื่นไหล เอาเป็นว่าใครที่อยากรู้ว่าเล่นได้ลื่นขนาดไหน เเนะนำลองดูในคลิปด้านบนได้เลย

GPS

เรื่องของการจับ GPS อันนี้อาจจะเป็นเรื่องหลักสำหรับใครหลายๆคน หลังจากที่ทดสอบนำทางรุ่นนี้ถือว่าจับสัญญาณได้ค่อนข้างตรง อาจจะไม่เเม่นยำแบบ 100% เเต่ถ้าได้มาพูดในเรื่องของราคาในระดับ 3,990 บาท ถือว่าในเรื่องของการจับสัญญาณ GPS ทำออกมาได้ดีเลยทีเดียวในส่วนนี้ไม่ต้องกังวลครับ

BATTERY

เรื่องเเบตเตอรี่อันนี้ต้องยอมรับเลยว่าเป็นจุดเด่นของเจ้ารุ่นนี้ ในรุ่นนี้มาพร้อมกับเเบตเตอรี่ความจุ 4000 mAh พอทำงานคู่กับ Snapdragon 450 ที่เด่นในเรื่องของการจัดการพลังงานถือว่ามีเเบตเตอรี่ที่อึดเอาเรื่องเลย หลังจากที่ลองใช้ออกจากบ้านประมาณ 12.00 น แบตจาก 100 % กลับถึงบ้านประมาณ 3 ทุ่ม เเบตเหลือใช้ประมาณ 50 กว่า % สำหรับการใช้งานทั้งหมดทั้งเล่นเกมส์ ตอบเเชทต่าง ๆ รวมไปถึงดูคลิปวีดีโอบน Youtube เเต่เรื่องของการชาร์จเเบตอาจจะช้าหน่อยนะครับรุ่นนี้ เวลาที่ลองชาร์จ 0 – 100% ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วๆนิดๆครับ

CAMERA

RealMe C1 มาพร้อมกล้องหลังคู่ความละเอียด 13 + 2 ล้านพิกเซล พร้อมกับรูรับแสง f/2.2 + f/ 2.4  รองรับการถ่ายภาพแบบ Portrait หรือโหมดถ่ายภาพบุคคล หน้าชัดหลังเบลอ กล้องหลังเรายังสามารถเลือกใช้งานในส่วนของสติ้กเกอร์ได้ อีกทั้งยังสามารถปรับความเนียนของใบหน้าได้ถึง 6 ระดับ โดยที่เราไม่ต้องไปพึ่งแอพเสริมช่วยปรับเเต่งเลย

VIDEO

สำหรับการถ่ายวีดีโอในรุ่นนี้สามารถอัดวีดีโอได้ความละเอียดสูงสุด 1080P 30 FPS หลังจากที่ลองก็ถือว่าอยู่ในเกณที่รับได้เมื่อเทียบกับราคา เอาเป็นว่าลองชมดูเองดีกว่าครับว่าเป็นอย่างไร

ตัวอย่างภาพ

SELFIES

ในรุ่นนี้ยังมาพร้อมกล้องหน้า 5 ล้านพิกเซล มาพร้อมกับระบบ AI Beauty สามารถปรับความสวยของใบหน้าได้ถึง 6 ระดับ ซึ่งสามารถจัดการความสวยของผู้ถ่ายได้แบบแยกเพศ แยกสิผิว แยกอายุได้ เเละมี สติ๊กเกอร์สวยๆให้เราสามารถเลือกถ่ายภาพได้เลย เเละสามารถเซลฟี่แบบหน้าชัดหลังเบลอได้

ตัวอย่างภาพ

Realme C1 ครบจริงครบจังในราคาเพียง 3,990 บาท 

Realme C1 สรุปหลังจากใช้งานประมาณ 2 อาทิตย์หลังจากเปิดตัวอย่างเป็นทางการ ถือว่ามีสเปคที่คุ้มค่ามากในราคา 3,990 บาท ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสเปคที่เรียกได้ว่ามาพร้อมชิปเซ็ต Snapdragon 450 ที่เกือบเทียบเท่า Snapdragon 625 ในเรื่องของการใช้งาน สามารถรองรับการใช้งาน 2 ซิม พร้อม เพิ่ม Micro SD ได้ หน้าจอแสดงผลขนาดใหญ่ เเละเเบตเตอรี่ความจุ 4,000 mAh ถือสามารถใช้งานได้ยาวนานตลอดทั้งวัน เเละยังสามารถเล่นเกมส์ต่างๆได้ลื่นไหล ถือว่าเป็นสมาร์ทโฟนในราคาจำหน่าย 3,990 บาท ถือว่าว่าสมราคาสุดเเล้วในช่วงปลายปี 2018

ข้อดี

  • บอดี้สวยงามตามสมัย
  • สเปคดีเล่นเกมลื่น
  • กล้องหน้าเเละหลังดีสมราคา
  • รองรับการใช้งาน 4G 2 ซิม
  • แบตเตอรรี่อึด

ข้อสังเกต

  • กล้องยังโฟกัสช้าบางช่วง
  • ชาร์จเเบตเตอรี่ใช้เวลานานพอสมควร

Review : By Maxmoreji

Comments กันได้เลย !

Comments

0 Shares