Smartphone ในสมัยนี้มีความคุ้มค่าน่าเล่นมากขึ้นเรื่อยๆ แน่นอนการแข่งขันก็สูงมากๆในยุคหลังที่มีการทำสเปคแรงราคาถูกกันมาข่มกันเรื่อยๆไม่ว่าค่ายไหนเปิดตัวมา ที่สเปคแรงราคาถูก ก็จะบอกกันว่า ตายทั้งตลาด ตายทั้งจักรวาลกันบ้างแหละ แน่นอน กระแสมาแรงมากๆพวก Smartphone สเปคแรงราคาถูก ด้วยเหตุผลหลักๆคือมันคุ้มราคากับความแรงในการเล่นเกมส์ที่ได้ออกมาหลายๆคนจึงคิดว่ามันคือนักฆ่าทุกรุ่นกันไปเลยทีเดียว และแน่นอนครั้งนี้ Xiaomi ก็ได้เปิดตัวแบรนด์ย่อย Pocofone ซึ่งได้เปิดรุ่น F-1 มาด้วยราคาที่ถูกและสเปคแรง จนเกิดดราม่ามากมายตามกลุ่มมือถือ หรือ แม้กระทั่งกระแสที่มีต่อเครื่องนี้ ที่หลายคนลือกันว่า ตายทั้งตลาดจะเป็นตายจริงไหมมาชมกัน

Pocophone F1 เปิดตัวมาด้วยจุดเด่นมากมายทั้งเรื่องของ CPU ที่แรงที่สุดในตอนนี้ของทางฝั่ง Android Snap 845 AIE และแน่นอนว่ายังมาพร้อมจอภาพ 6.18 นิ้ว และ กล้องหลังคู่ 12MP+5MP  อีกทั้ง แบต 4000 mAh และยังมีตัวระบายความร้อนด้วยของเหลวด้วยครับถือว่าสเปคนั้นจัดเต็มในทุกๆด้านเลยแหละจึงทำให้มันเป็นกระแสมากขนาดนี้รวมถึงทำให้หลายๆคนรอคอยและแน่นอนราคาเป็นจุดเด่นสุุดๆที่เปิดมาแค่ 10990 เป็น Snap 845 ที่ถูกที่สุดในตลาดประเทศไทยไปแล้วเรียบร้อย

สำหรับราคาขายในไทย อยู่ที่ 10990 บาทสำหรับ Ram6GB Rom 64GB และ 12990 บาท Ram 6 GB ROM 128 GB นะครับ เข้าไทยมาก่อน สีดำ กับ น้ำเงิน ส่วนสีแดง และ ลายพิเศษ Kevlar นั้นยังไม่มาในตอนนี้นะครับ

Pocophone F1 Unbox 

  •  ตัวเครื่อง Pocophone
  • เคส TPU สีดำใส
  • หัวชาร์จ QC 3.0
  • สาย Type-C
  • ที่จิ้มซิม
  • คู่มือ

Design

เรื่องของการออกแบบเราจะมาดูถึงภาพรวมคือแรกเห็นยังไม่สัมผัสนั้นก็จะพบว่าดีไซน์ถือว่าสวยงามนะไม่วางกล้องแบบรุ่นอื่นๆของทาง Xiaomi ในมุมซ้ายแล้ว ดีไซน์โดยรวมถือว่าทำได้สวยครับ แต่ด้วยวัสดุที่หลายๆคนสนใจเพราะมันน่าจะทำเพื่อลดต้นทุนทั้งหลายแน่นอนมันเป็นพลาสติกล้วนๆทั้งเครื่องไม่มีเหล็กอลูมิเนียมเลย ความรู้สึกสัมผัสมันไม่ค่อยดีนักเหมือนมือถือในรุ่นเก่าๆ 3-4 ปี ก่อนเลยแหละ จับทาง Redmi Note 5 ยังแอบดีกว่านิดหน่อยจริงๆ

ด้านหน้าจอมาพร้อมหน้าจอแบบ มีติ่งเช่นกัน ขนาด 6.18 นิ้ว อัตราส่วน 18.7:9 LCD FullHD+ และ ทับด้วย Gorilla Glass ที่เดากันคือ รุ่น 3 ครับ มีขอบด้านล่างพอสมควรและรอบๆครับ ด้านหน้าก็เหมือนในรุ่นอื่นๆไม่ต่างกัน
ส่วนด้านหน้า ส่วนบนหน้าจอตัวนี้ในส่วนของติ่งหน้าจอนั้น ไม่ใช่แค่กล้องธรรมดา แต่มาด้วย เซนเซอร์ infrared มากมาย ทั้ง กล้อง iR แสง IR ลำโพง ตัวที่ 2 และ เซนเซอร์ รวมถึง กล้องหน้า 20 MP ครับจัดเต็มเลยแหละ  ด้านขอบล่างของหน้าจอเป็น ตัวปุ่มควบคุมบนหน้าจอครับ ขอบด้านล่างหนาพอสมควร และมีความโค้งของมุมจอภาพอย่างมาก องศาเยอะเลยทีเดียวครับสำหรับรุ่นนี้  ขอบท้ายของตัวเครื่องแน่นอน รุ่นนี้ใช้ Type-C และ ช่องซ้ายเป็น ไมค์ ช่องขวาเป็นลำโพงนะครับ ย้ำว่าลำโพงออกแค่ข้างเดียวแต่ออกแบบให้มันสมมาตรครับ คำถามว่าทำไมออกข้างเดียวเจอมาตั้งแต่ยุค iPhone 4 อันนี้ต้องย้ำกันหน่อย สำหรับด้านขวาตัวเครื่องจะเป็นปุ่ม มาตรฐาน คือ Power เพิ่มเสียง ลดเสียง แน่นอนเป็นพลาสติกหมดนะครับ  ด้านซ้ายตัวเครื่องเป็นที่อยู่ของตัวช่องใส่ซิม ตัวนี้เป็นช่องแบบ HYBRID นะครับ 2 ซิม และ 1 ซิม 1 เม็ม  ด้านขอบบนตัวเครื่องเป็นที่อยู่ของรูหูฟังแน่นอนว่ามันกลับมาแล้วดีใจกับหลายๆท่านที่ตามหากัน และ รูไมค์ครับไม่มีตัว ควบคุมรีโมท IR นะครับในรุ่นนี้ รวมถึง ขอบรอบเครื่องจะมีแถบโครมเมี่ยมตกแต่งแบบเล็กมากๆครับผม  ด้านหลังเครือ่ง ตัวนี้มาพร้อมกับกล้องหลังคู่ ตัวหลัก 12 MP + 5MP และ สแกนลายนิ้วมือข้างหลัง พร้อมแฟลช 2 ดวงครับ ตำแหน่งใช้งานง่ายอยู่พอสมควร แต่เรื่องของวัสดุสำดำเงาเป็นรอยง่ายมากกกก แอดมิดใช้ 3-5 วันก็รอยมาเยือนพอสมควรเลยแหละ ถ้าไม่ใส่เคสนะครับ ตัวกล้องมีเล่นวงรอบสีแดงนิดหน่อยคล้ายๆของ MI 8EE ครับผม
ด้านหลังเรียบๆไม่มีลวดลายอะไรครับ มีเขียนชื่อ POCOPHONE สีเงาๆสวยๆ และ By Xiaomi เล็กๆ เป็นชิ้นเดียวกันหมดนะครับฝาหลัง พลาสติกด้านๆความรู้สึกสัมผัสธรรมดาๆ แบบมือถือสมัยก่อน แต่ถ้าใครไม่ซีเรียสหาฟิลม์หลังสวยๆมาแปะหรือใส่เคสก็ตัดปัญหาไปได้สบาย ฝาหลังสติกเกอร์คาร์บอนมาแปะก็สวย

Spec POCOPHONE F1 

  • Poco Launcher ดัดแปลงจาก MIUI 10 เร็วกว่าเดิม
  • Android 8.1 พร้อมอัพเดท Android P ช่วงสิ้นปี
  • หน้าจอ FullScreen IPS LCD 6.18 นิ้ว Full HD+ 18.7:9 กระจกโค้ง 2.5D
  • Snapdragon 845 AIE + Adreno 630
  • Storage  64-128 GB UFS 2.1 UPTO 256 GB
  • Ram 6 GB DDR4X
  • ระบบระบายความร้อนด้วยของเหลว Liquid Cooling System
  •  แบตเตอร์รี่ 4000 mAh พร้อมด้วย QC 3.0
  • กล้องหลัง คู่ 12 + 5 MP IMX 363 f/1.75 มาพร้อม Ai แยกซีนได้ และขนาด เซนเซอร์ 1.4 และ Dualpixel Autofocus
  • กล้องหน้ามาพร้อมความละเอียด 20MP
  •  ยังคงมี รูหูฟัง 3.5 มม.
  •  มาพร้อมกับ ลำโพงคู่
  •  IR Faceunlock พร้อมกับ ระบบ สแกนลายนิ้วมือ

Performance

สำหรับเรื่องของประสิทธิภาพตัวเครื่องแน่นอนไม่ต้องกังวล Snap 845 AIE + RAM 6GB UFS 2.1 สบายใจได้เลยเรื่องความเร็ว จากคะแนนทดสอบ Antutu ทำได้ 26xxxx ในหลายๆรอบครับแบบใช้งานปกติความร้อนปกติไม่ได้เปิดแอร์ครับ ส่วนหน่วยความจำ UFS2.1 เร็วสบายๆทั้งอ่านเขียน และในเรื่องของคะแนน 3DMARK ทำได้ระดับสูงเลยทีเดียวตามเรทของ 845 และรวมถึงคะแนน Geekbench ครับก็ทำไปได้ 2434 คะแนน ไวหายห่วงในจุดนี้

Software UI

หน้าตาการใช้งานตัวนี้ไม่ใช่ MIUI แต่เป็น Poco launcher  ที่ดัดแปลงจาก MIUI อีกทีครับแน่นอนว่าบางจุดหรือหลายๆจุดมันก็เอาจาก MIUI มาเลยนั้นเองเช่นกล้อง แต่การใช้งานหน้าตาหลักๆเปลี่ยนไปพอสมควรจะไปคล้ายพวก Pureandroid ครับที่รู้สึกคือ ลื่่น และ ไว พอสมควรเลยแหละ หน้าตาล็อคปกติ หน้าตาหลักใช้ปัดขึ้นเพื่อเข้า Appdrawer และตัว App drawer นั้นหน้าตาแปลกใหม่พอสมควรมีปีดไปซ้ายขวาแยกตามหมวดหมู่ได้ แต่ไม่มีเลขมุมแอพ กับ ไอคอนด้านบนซ็ายนะครับเวลามีแอพแจ้งเตือน

หน้าตาตัว Quicksetting เวลาเลื่อนลงมาก็โทนสีขาวและปรับแสงหน้าจอได้ ลากลงมาอีกครั้งตั้งค่าได้เยอะกว่าเดิมมาแนวไอคอนกลมๆ และแบ่งหน้าจอได้ปกติครับสำหรับการใช้งาน 2 หน้าจอ

ภาษาไทยมีมาให้ครบทั้งพิมพ์ไทยจาก Google และ เมนูไทย รวมถึงหน่วยความจุ ทั้งหมด 128 GB เหลือ 118 นะครับ และ หน่วยความจำ  ทั้งหมด 6GB  เหลือ  4.1 ครับใช้ไปไม่ถึงครึ่งเลย

ฟีเจอร์อื่นๆก็ยังมีมาครับเช่นแตะหน้าจอ 2 ครั้งเพื่อเปิดหน้าจอกดเปิดกล้องไวๆ สแกนลายนิ้วมือ ใบหน้าต่างๆ ปุ่มนำทาง หรือ เปลี่ยนเป็นแบบปัดไปมาได้ครับ ซ๋อนติ่งหน้าจอได้ และ สลับตำแหน่งปุ่มได้เช่นกัน

ฟีเจอร์พวก Gesture ก็มีมาให้ครบครับตามภาพเลยรวมถึถ่ายหน้าจอแบบลากนิ้วก็ใช้ได้ โคลนแอพก็สามารถใช้งานได้หลากหลายแอพ และ ระบบเสียงก็ยังปรับได้เช่นกันครับจะเป็นการเอาจาก MIUI มาทั้งหมดเลยในส่วนฟีเจอร์ทั้งหลาย

Theme

เรื่องของธีมหน้าตาตัวนี้ยังมีมาให้ไม้ได้ตัดทิ้งไปแบบพวก Android One ครับมีให้เลือกพอสมควรและเยอะเลยแหละ หน้าตาธีมจะคล้ายๆของพวก MIUI ในบางตัวครับ แล้วเวลาเราเปลี่ยนมันปรับให้เยอะมากๆทั้งหน้าตาแอพ พื้นหลัง หน้าตาตอนโทร แป้นพิมพ์ หน้าตอนล็อค หรือแม้จะเป็นหน้าตอตอยเคลียแอพครับ เป็นแบรนด์ที่ทำได้ดีเช่นเคย

Face Unlock 

สแกนใบหน้าแบบ ใช้งาน IR แน่นอนว่าการใช้ตัว Infrared เข้ามาทำให้จับหน้าได้ไวและแม่นรวมถึงมีประโยชน์เยอะมากกว่าแบบใช้กล้อง 2 มิติปกตินะครับ จากการใช้งานนั้นส่วนใหญ่คือทำได้ไวมากพอสมควรเลยแหละ ทั้งที่แสงน้อยที่มืด สว่างย้อนแสงทำได้สบายและไวมากคือยกขึ้นมาแบบไม่ทันตั้งตัวบางทีก็สงสัยว่าได้ล็อคไปหรือยังเพราะกดแล้วมาทันทีไม่เห็นหน้าจอล็อคเลยทีเดียวครับ ไม่ค่อยพลาดเลยในจุดนี้อันนี้ทำได้ไวพอสมควรใช้งานได้ดี

Screen

หน้าจอตัวนี้หลายๆคนน่าจะอยากรู้พอสมควรเพราะว่ามีกระแสทั้งบอกว่าหน้าจอไม่สวยบ้างไม่ดีบ้างเพราะมันเป็น LCD นั้นเองสำหรับสเปคหน้าจอตัวนี้มาพร้อมกับหน้าจอ IPS LCD ขนาด 6.18 นิ้ว ความละเอียด 1080 x 2246 พิกเซล อัตราส่วนหน้าจออยู่ที่ 18.7:9  ครอบทับด้วยกระจก 2.5D Gorillaglass น่าจะเป็นรุ่น 3 แน่นอนว่าจอตัวนี้มาพร้อมกับ LCD เรื่องของสีอาจจะไม่ได้สดเท่า OLED แต่ก็ไม่ได้แย่ครับเทียบกับรุ่นอื่นๆก็ถือว่าไม่น่าเกลียดและจ้อสู้แสงได้ดีกว่าที่คิดไว้เลยแหละครับ จอภาพตัวนี้ไม่ธรรมดาแต่มันมีบางจุดที่รู้สึกได้คือ จอความคม มิติเฉดสียังสู้รุ่นอื่นๆไม่ได้รวมถึงสู้ MI A2 ไม่ได้ และ เรื่องของการสัมผัสความลื่นของตัวเคลือบหน้าจอไม่ลื่นเท่าไรนักออกจะหนืดๆ และพวก กันรอยพวกนี้รอยมาง่ายพอสมควรครับแน่นอนว่าบางจุดพวกนี้ อาจจะไม่ได้จัดเต็มมากเพื่อควบคุมต้นทุน

Gaming

การทดสอบเกมส์ไม่พูดมากไปรับชมคลิปกันได้เลยครับสำหรับตัวนี้แอดมินลองทุกเกมส์และนอกเหนือจากในคลิปด้วยนะต้องบอกว่าลื่นไหลทุกเกมส์และเป็นจุดเด่นของมันครับทั้ง PUBG ROV ROS และ พวก Ark Injustice 2 พวกนี้ครับแน่นอนว่าเล่นได้สบายและจุดที่แอดมินชอบคือมันไม่ร้อนแบบ 845 ตัวอื่นๆที่แอดมินลองมาครับเล่นเกมส์ไว้ใจได้สบาย แต่ !! มีบางจุดที่แอดมินเจอคือการทัช หรือ สัมผัสไวๆมันไม่ติดนิ้ว ไม่ลื่นเท่าตัวอื่นๆครับบางทีก็ไม่ติดเวลาเล่นบางเกมส์จุดนี้หลายๆคนเจอพอสมควรและน่าจะเป็นที่ Hardware และหน้าจอครับจุดนี้ต้องดูกันนิดนึงนะบางคนอาจจะไม่ถนดหรือ ไม่สนุกเลยทัชไม่ค่อยไป ส่วนตัวแอดมินเล่น PUBG ก็มีบ้างทีแบบมันไม่ติดมือครับแต่ก็พอเล่นได้

Sound 

เสียงเพลงตัวนี้มาพร้อมรูหูฟัง 3.5 มม. อยู่หลังจากทางแบรนด์หลักได้ตัดไปนานแล้วในหลายๆรุ่นแต่รุ่นนี้ยังมีมาอยู่เอาใจสายเกมส์ที่ เล่นไปฟังไป และชอบชาร์จแบตไปครับ แน่นอนว่าเสียงตัวนี้เรื่องของการฟังเพลงอาจจะไม่ได้เด่นมากเท่าไรนัก หูฟังที่แถมไม่มีมาให้แอดมินจึงใช้หูประจำในการทดสอบ Ibasso it01 ครับมาใช้งานและแน่นอนว่าตัว Pocophone เสียงออกมาธรรมดาเลยแหละ เป็นปกติของ Mi พวกนี้เสียงพอๆกับเลยคือไม่ค่อยมีแรงขับมากนักและเสียงจะออกแบนๆ ไปทางแหลมนิดหน่อยครับ แน่นอนว่าเรื่องเสียงไม่ใช่จุดเด่นเท่าไรเน้นฟังเสียงเกมส์มากกว่า ส่วนเรื่องของการปรับแต่งเสียงก็ยกมาจาก MIUI ทั้งหมดครับ แน่นอนว่าปิดไว้เสียงเป็นธรรมชาติและดีสุดเหมือนเดิม

Speaker

เรื่องของลำโพงรุ่นนี้มาพร้อมลำโพงคู่นะ บนล่าง แบบเดียวกับพวก MI 8 แน่นอนมิติของเสียงเวลาเล่นเกมส์อาจจะดีกว่าแบบลำโพงเดี่ยวแต่เมื่อมาลองดูกับ MI A2 นั้นจะพบว่าทาง A2 ทำเสียงได้ดังกว่าและชัดเจนกว่าครับเรื่องของมิติเสียงจากที่ได้ลองฟังเองจริงๆแอดมินชอบ A2 มากกว่าชัดเจนนะ แม้จะมีลำโพงเดียวแต่ทั้งดังและเคลียใส ชัดกว่าพอสมควรเลยแหละ แต่ทาง POCO เองก็ไม่ได้แย่ครับ ดีเรื่องของการแยกเสียงซ้ายขวา แต่ความดัง มิติอาจจะไม่มาก

GPS

การจับสัญญาณถือว่าทำได้ดีเลยแหละทั้งความไวในการใช้งานและการตามตัวเราครับรวมถึงระยะเวลาในการอัพเดทหรือการจับหลังจากเปิดตัวแอพขึ้นมาก็พบว่าทำได้ดีเลยแหละ ส่วนเรื่องของการนำทางนั้นก็อัพเดทไวครับเมื่อเทียบกับ MI 8 ถือว่าทำได้ดีกว่า MI 8 เลยนะ ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมแต่สำหรับ Pocophone แอดมินพอใจในจุดนี้ครับจับได้ทั้งหมด 16 จาก 17 และใช้เวลาไวกว่า MI A2 MI 8 เมื่อเทียบด้วยกันหลังจากเปิดแอพนะครับ

Battery

เรื่องของอายุการใช้งานแบตตัวนี้มาพร้อมแบตมากถึง 4000 mAh และแน่นอนมาพร้อมการชาร์จเข้าแบบ QC3.0 ถือว่าทำได้ดีครับทั้งเรื่องของการชาร์จเข้าและ อายุการใช้งานทั่วไปทั้งวันได้สบายเลยแหละ และการเล่นเกมส์ก็ไม่ได้ลดไวเหมือนพวก Snap 845 บางยี่ห้อครับถือว่าแบตอึดได้ 1 วันสบายครับในเรื่องนี้นะ จากที่แอดมินทดสอบ จอเปิดทั้งหมด 8 ชม ใช้ได้ไปทั้งหมด 13 ชม. เหลือ 11 % ครับ

Camera

กล้องหลังมาพร้อมกับกล้องหลังคู่ ที่ใช้เซนเซอร์ตัวเทพเลยแหละ กล้องหลัก ตัวแรก 12 MP รูรับแสง f/1.9, ขนาดเซนเซอร์ 1/2.55″, 1.4µm, เทคโนโลยี dual pixel PDAF IMX363 และยังมาพร้อมกับ กล้องตัวที่ 2 ความละเอียด 5 MP รูรับแสง f/2.0, เซนเซอร์ 1.12µm ใช้ในการวัดระยะเท่านั้น และ ยังมี AI เข้ามาช่วยด้วยในเรื่องของการตกแต่งปรับคุณภาพของตัวกล้องครับ แน่นอนระบบกันสั่นไม่มีในภาพนิ่งนะครับ จากที่ทดลองภาพจะยังคงติดเหลือง เขียวบางสภาพแสง และการกดชัตเตอร์ในแสงน้อยสั่นง่ายมาก เมื่อเทียบกับรุ่นอื่นที่ไม่มี OIS เช่น A2 นั้นจะพกเลยว่า A2 สั่นยากกว่าแม้จะไม่มี OIS และ ภาพคมกว่าครับ แต่ที่แสงมากกลางวันถือว่าทำได้ดีมากๆสำหรับ Pocophone ตัวนี้ การชดเชยแสง โทนสีต่างๆรายละเอียดจัดเต็มและมุมมองของภาพค่อนข้างกว้างเลยแหละครับ

หน้าจอการใช้งานนั้นแน่นอนมันเอามาจาก MIUI มาเลยคุ้นเคยกันดีครับ ปรับโหมดต่างๆมาครบฟีเจอร์ละลายหลังต่างๆ โหมดโปรอะไรก็มีมาให้ปรับได้เยอะพอสมควรครับในจุดนี้ กล้องไม่ได้ลดฟีเจอร์อะไรลงไปเลยในจุดนี้

PORTRAIT

PROMODE 

Selfies

กล้องหน้ารุ่นนี้จัดเต็มมาให้มากถึง 20 MP แน่นอนครับว่ามาพร้อมกับ f/2.0 และ ขนาดเซนเซอร์ 0.9µm ไม่มี AF นะครับมุมกว้างพอสมควรเรื่องของตัวภาพก็ถือว่าใช้งานได้ดี พอๆกับรุ่นอื่นในเรทนี้ หน้าสวยหน้าเนียนมีมาให้ครับแต่เรื่องของสี อาจจะอมเหลืองนิดหน่อยในบางสภาพแสงครับ และมีโหมดละลายหลังมาให้ด้วย ตัวอย่างภาพถ่ายนั้นไปรับชมกันได้เลยครับ

Video

เรื่องของตัววีดีโอจากที่ดูถือว่าทำได้ดีเลยทีเดียวครับทั้งเรื่องของสีโทนภาพการชดเชยแสงให้ในส่วนมืดและคุณภาพโดยรวมแต่ที่อาจจะยังไม่เด่นนั้นก็คงเป็นเรื่องของ การอัดเสียงตัดเสียงและความนิ่งครับ รวมถึง WB บางครั้งจะออกมาเหลืองแม้จะอัพเดทล่าสุดแล้วก็ตาม อย่างไรก็ตามเราไปรับชมกันด้วยตัวเองเลยดีกว่าว่ารับได้ไหมกับวีดีโอครับ

Pocophone F1  สเปคคุ้มค่า ในราคาไม่แรง แต่ก็ลดทอนส่วนอื่นไปนิดหน่อย 

สำหรับรุ่นนี้ต้องบอกครับว่าทำออกมาโดยรวมคุ้มราคาถ้าสำหรับคนที่เน้นเกมส์ เน้นความแรงซึ่งแน่นอนว่าตัวนี้จุดเด่นของมันก็คือส่วนนั้นสำหรับส่วนอื่นๆก็อาจจะโดนลดกันไปบ้างเพื่อที่จะต้องควบคุมราคาให้มันอยู่ในเรทนี้และบางส่วนที่ไม่ได้จำเป็นสำหรับการใช้งานก็ต้องโดนตัดออกหรือลดเสปคไปตามระดับครับอยู่ที่ว่าเรารับได้ไหมเช่น ตัวงาประกอบ วัสดุตัวเครื่องความสวยงามรวมๆ หน้าจอสีสัน การสัมผัสและความลื่นไหลในการใช้งานและระบบเสียงต่างๆครับ แต่ก็ถ้าใครไม่สนใจเอาเครื่องมาเป็นเครื่องสำรองเล่นเกมส์ล้วนๆก็ถือว่าเป็นตัวเลือกที่ดีนอกเหนือจากเครื่องหลักนั้นเอง จริงๆมันก็ไม่ใช่เรือธง แค่เรือกลางใส่ชิปเรือธงครับ ยังไม่ได้ตายทั้งตลาดอะไรขนาดนั้นแต่ด้วยราคานี้ก็เทียบมันกับเรทใกล้ๆกันก็ถือว่าดีมากแล้วครับด้วยราคาและความแรงของมันแต่ ยังเทียบเรือธงจริงๆยากในหลายๆจุดนั้นเอง

ข้อดี

  • หน้าจอสามารถสู้แสงได้ดีกว่าที่คิดแม้จะเป็น LCD
  • ระบบสแกนใบหน้าไวและแม่นมี IR ช่วยด้วย
  • ลำโพงมาพร้อมลำโพงคู่แยกซ้ายขวาได้ดี
  • CPU Snapdragon 845 AIE ตัวแรงสุดแต่มาอยู่ในเรทราคานี้
  • ระบบหน้าตา UI ทำได้ลื่นและไว
  • กล้องหลังไม่ได้แย่เท่าไรนักถือว่าสวยงามในแสงกลางวัน
  • แบตใช้งานทั่วไปถือว่าอึดกว่าที่คิด พร้อม QC3.0
  • ยังมีรู 3.5 มม สะดวกต่อสายเกมส์ชาร์จไปฟังไปได้
  • ระบบระบายความร้อนด้วยของเหลวทำงานดีและเย็น

ข้อสังเกต

  • หน้าจอสีไม่ได้โดดเด่นเท่าไรนัก
  • การสัมผัสหน้าจอไม่ได้ลื่นมากนัก ทั้งตัวเคลือบหน้าจอ และ การใช้งานทั่วไป
  • วัสดุเป็นพลาสติกทั้งหมดให้ความรู้สึกไม่พรีเมี่ยมเท่าไร เป็นรอยง่ายมากในส่วนกล้อง
  • กล้องหลังในแสงกลางคืนเบลอง่ายและไม่คม โฟกัสช้า
  • ไม่มี NFC
  • ภาพยังคงอมเหลืองในบางสภาพแสงแม้จะอัพเดทแล้ว
  • ดู Netflix HD ไม่ได้นะ

สำหรับรีวิวนี้ผมก็ต้องขอตัวลาไปก่อนสำหรับรีวิวรุ่นต่อไปนั้นจะเป็นรุ่นอะไรอย่าลืมติดตามกันนะครับ ถูกใจฝากกดไลค์กดแชร์ด้วยนะครับ  มีข้อผิดพลาดประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ  เพื่อนๆสนใจอยากให้พวกผมรีวิวรุ่นไหนสามารถ Inbox มาบอกเราได้เลยนะงับ
ฝากไลค์เพจ FACEBOOK เราด้วยนะครับ >>>>>>>>>  TECHHANGOUT

Review By Nineztr

Comments กันได้เลย !

Comments

0 Shares